สตรีผู้นำกับการพัฒนาความงาม โดย นพลักษณ์ หัตถมาศ เคเบิ้ล
ก็เพราะคนไทยพูดกันว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง กระมังจึงทำให้สตรีไทยรักสวยรักงามเอามากๆทีเดียว เพื่อนรุ่นพี่คริสเตียนซึ่งเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเคยพูดให้ดิฉันฟังว่า ผู้ชายไทยเนี่ย (คงหมายถึงที่ไม่เป็นคริสเตียน) ส่วนใหญ่มีนิสัยเจ้าชู้ ทำให้ผู้หญิงทั้งหลายที่แต่งงานแล้วกลัวสามีจะมีภรรยาน้อย เธอจึงคอยดูแลตัวเองให้สวยอยู่เสมอ คอยรักษาหุ่นไม่ให้อ้วน มีลูกก็ให้กินนมขวดเพื่อรักษาตัวเองไม่ให้เสียทรง ฯลฯ เหตุผลเดียวก็คือเพื่อจะได้ผูกมัดใจสามี ให้รักเดียวใจเดียวไม่ไปเสาะเจ๊าะแจ๊ะกับผู้หญิงคนอื่น
ปัจจุบันนี้ สังคมสตรีเราจะเน้นเรื่องรูปร่างและความสวยงามมาก สถานเสริมสวยมีให้เลือกทุกหัวถนน ส่วนเรื่องของแฟชั่นนี่ สตรีไทยเราจะตามติดเลยค่ะ เขาฮิตกระโปรงสุ่ม กระโปรงสั้น กระโปรงคับ กระโปรงแคบ กางเกงยีนส์ กางเกงยืด เป็นอันว่าเธอจะมีใส่หมด และสังเกตซิคะว่าสาวสมัยใหม่เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะวัยไหน รุ่นไหน จะหน้าตาดีจมูกโด่งเป็นสันกันทั้งนั้น เสื้อผ้าจะใส่สไตล์หรือแนวเดียวกันหมด แฟชั่นความงามเหล่านี้ได้ลามมาถึงวงการสตรีคริสเตียนของเรานานพอสมควรแล้วค่ะ นานพอที่คนผอมน้อยอย่างดิฉันเริ่มที่จะอึดอัดตามแฟชั่นไม่ไหวหรอกค่ะ เป็นสไตล์ของตัวเองสนุกกว่าตั้งเยอะ
สตรีที่รักค่ะ ความสวยงามเป็นแค่ของนอกกายหรือสิ่งภายนอก และเป็นสิ่งที่จะลดน้อยถอยลงไปตามกาลเวลา เราจะสวยจะงามยังไง ดิฉันไม่ต่อต้านอยู่แล้วเพราะก็ชอบของสวยๆงามๆ สวยนะดีแน่ค่ะแต่ยังมีอีกสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ความงามภายใน เป็นสิ่งที่ไม่เสื่อมสลายไป แต่จะสามารถพัฒนาได้ทุกวัน นี่แหละค่ะคือจุดประสงค์ที่ดิฉันอยากจะหนุนใจสตรีคริสเตียนทุกคน ให้เรามาช่วยกันพัฒนาความงามภายในกันดีกว่า จิตใจที่บริสุทธิ์ จริงใจคือ จิตใจที่มีสันติสุขในพระเยซูคริสต์ ถ้าจิตใจเรามีสันติสุขแล้ว หน้าตาเราก็จะดูดี อิ่มเอิบ เปล่งปลั่ง ดวงตาเราก็จะดูสดใส ไม่หมองคล้ำ ผมเผ้าเราก็จะไม่แห้งดูดี และเราก็จะมีรอยยิ้มที่น่าประทับใจ ไม่เสแสร้ง ไม่ต้องเสียเงินเข้าร้านเสริมสวยเป็นประจำก็สวยได้ค่ะ
สุภาษิต31:30 บอกว่า เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็เปล่าประโยชน์ แต่สตรียำเกรงพระเจ้า สมควรได้รับคำสรรเสริญ ใครก็ชอบดูคนสวยงาม แต่ทุกคนจะชื่นชมสตรีที่มีความงามภายในคือ สตรีที่ยำเกรงพระเจ้าและไว้วางใจในพระองค์ ใครๆก็รู้จักคำโบราณของไทยที่พูดถึงสตรีบางประเภทว่า สวยแต่รูปจูบไม่หอม เดี๋ยวนี้คำพูดสมัยใหม่ว่า สวยแต่ไม่มีมันสมอง ซึ่งทำให้เราทราบว่าสตรีเรานี่สวยงามอย่างเดียวไม่พอเสียแล้ว แต่ต้องมีคุณสมบัติภายในที่ดีด้วย สตรีที่มีมันสมองนี้ก็จำเป็นจะต้องหมายถึงสตรีที่มีการศึกษาระดับสูง ไม่ใช่สตรีที่มีตำแหน่งหน้าที่สูง ไม่ใช่สตรีที่มีฐานันดรหรือฐานะสูง แต่ในฐานะคริสเตียน สตรีที่งามคือ สตรีที่ยำเกรงพระเจ้า เพราะความยำเกรงพระเจ้า เป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา (สุภาษิต1:7) และปัญญานี้ก็คือมันสมองนั่นเอง สตรีที่มีปัญญาจะรู้จักวิธีปฏิบัติตนและการปฏิบัติต่อผู้อื่น เธอจะเป็นคนที่เชื่อฟังบัญญัติของพระคริสต์ที่ว่า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง (มัทธิว12:39) เคล็ดลับความงาม การอธิษฐาน และการอ่านพระวจนะของพระเจ้า เป็นเคล็ดลับความงามภายใน ที่พระเจ้าได้ทรงให้ไว้กับเราทุกคน ดิฉันอยากจะแบ่งปันยาขนานดีจากพระคัมภีร์บางตอนเพื่อจะช่วยหนุนใจสตรีทุกคนในยามที่ท่านอารมณ์ไม่ดี มีปัญหา หรือ ต้องการพลังประจำวัน ท่านอาจจะใช้ข้อพระคัมภีร์แต่ละตอนในการเฝ้าเดี่ยวก็ได้
ถ้าท่านรู้สึก กระวนกระวาย
มัทธิว6:25-34, ฟิลิปปี4:4-6, เปโตร5:7, 10-11, 1เปโตร1:6-7
กลัว
โรม8:31, อิสยาห์41:10, 13
รู้สึกตัวเองไร้ค่า
มัทธิว10:29-31, โรม8:14-16
รู้สึกไร้จุดหมาย
กิจการ17:26, 27 เอเฟซัส2:10
โศกเศร้า
สดุดี34:17-19 ฮาบากุก3:17-19
ท้อแท้
อิสยาห์43:2, 3, 2โครินธ์1:3-5
เหงา
โรม8:35-39 สดุดี91:1, 2
อยู่ในอารมณ์ทะเลาะเบาะแว้ง
สุภาษิต19:13, 21:9, 19, 27:15
อ่อนแอ
ฮีบรู13:5, 6 อิสยาห์40:28-31
เคล็ดลับความงามภายนอก
1. ลองให้เวลากับตัวเองโดยการหางานอดิเรกทำสิคะ นี่ก็เป็นวิธีคลายเครียดที่ดีวิธีหนึ่งด้วย และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
ดิฉันคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากและอยากหนุนใจให้สตรีทุกคนหางานอดิเรกทำ ใช้และให้เวลากับตัวเองบ้าง อย่าบอกว่าไม่มีเวลาทำงานอดิเรกนะคะ เพราะงานอดิเรกไม่ต้องเป็นอะไรที่ใหญ่โตเกินเวลามาก อาจจะเป็นการอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ วาดภาพ เย็บปักถักร้อย ทำขนม ออกกำลังกาย ตกแต่งบ้าน ช้อปปิ้ง ฯลฯ คุณแม่ดิฉันชอบปลูกต้นไม้ดอกไม้มากด้วยความที่มีวิญญาณชาวสวน เนื่องจากเป็นคนเมืองจันท์ แค่รถน้ำต้นไม้ทุกวันท่านก็ได้ออกกำลังกายและหายเครียดแล้วล่ะคะ ดิฉันเองเป็นคนช่างอ่าน และก็ชอบปักครอสติสเป็นงานอดิเรก แต่ทำมากๆก็ต้องพักสายตา ไปทำอย่างอื่นค่ะ เช่น ไปตลาด ซ่อมแซมเสื้อผ้าให้ลูกและสามี ติดกระดุมที่หลุด เย็บชายเสื้อที่ยุ่ย หาอะไรได้ตั้งเยอะตั้งแยะ
พระเจ้าทรงรักเรา และทรงอนุญาตให้เราหาเวลาพักผ่อน พระองค์เองยังทรงพักผ่อนเลย คริสเตียนแม้กระทั่งระดับผู้นำไม่จำเป็นต้องทำแต่งานใช่ไหมค่ะ ร่างกายเราเป็นวิหารของพระเจ้า ดังนั้น จึงหมั่นดูแลให้ดีๆ ไม่ต้องรอให้ล้มป่วยก่อนละคะถึงจะพัก 2. ปิดโทรทัศน์เสียบ้างสิคะ แล้วจะรู้สึกทันทีว่าสุขภาพจิตดีขึ้นกระทันหัน เวลาก็จะมีมากขึ้น ค่าไฟก็ลดลงด้วย
ดิฉันภูมิใจมากเลยค่ะที่จะบอกว่าที่บ้านดิฉันไม่มีโทรทัศน์ดู เพราะไม่ซื้อไว้ใช้เนื่องจากไม่เห็นความจำเป็น ครอบครัวดิฉันไม่เคยรู้สึกเสียเปรียบคน 50 ล้านคนที่มีโทรทัศน์ แต่กลับรู้สึกว่าเราได้เปรียบต่างหาก ดิฉันปฏิเสธที่จะนั่งแช่อยู่หน้าจอโทรทัศน์ติดละครน้ำเน่า สังเกตนะคะว่าพล็อตเรื่องก็ซ้ำๆซากๆ แค่โฆษณาก็ขายแต่ร่างกายนางแบบนายแบบ ทอล์คโชว์ เกมส์โชว์ ดูไปก็แค่นั้น เสียเวลา เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ได้ประโยชน์จะดีกว่า ถ้าท่านมีครอบครัวแล้วก็สามารถใช้เวลา(อันมีค่า)กับสามีและลูก(ถ้ามีลูก) ส่วนคนโสดยิ่งได้เปรียบด้วยซ้ำ หากเวลาให้ตัวเองจะดีกว่าเยอะค่ะ ท่านทราบไหมคะว่าคริสเตียนจำนวนมากทั้งระดับผู้นำและผู้ตามต่างติดโทรทัศน์กันมาก(เคยอ่านบทความของอาจารย์ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ไหมคะเกี่ยวกับเรื่องโทรทัศน์ ถ้าไม่เคยก็ขอแนะนำให้หาอ่าน)
3. ลองตื่นเช้าและใช้เวลาอยู่เงียบๆอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครมาขัด เข้าเฝ้าหาพระเจ้า ภาวนาพระคำของพระองค์ และใช้เวลาที่เหลือทำอย่างอื่น
4. ลองเขียนรายชื่อสิ่งต่างๆที่ท่านอยากทำแต่ยังไม่มีโอกาสทำให้สำเร็จสักที แต่พยายามเลือกทำทีละอย่างนะคะ เช่น เยี่ยมเยียนคนที่เรายังไม่เคยไปเยี่ยม นัดทานข้าวกับคนที่เราไปเป็นพยานด้วย(ใช้วิจารณญาณนะคะ) ลงเรียนวิชาที่เราสนใจ เข้าอบรมสัมมนาบางอย่าง ลองงานอดิเรกชิ้นใหม่ เป็นต้น การทำอะไรให้บรรลุเป้าหมายจะทำให้เราเกิดความพึงพอใจ และพระเจ้าก็ได้รับเกียรติ การทำสิ่งใหม่ๆที่เสริมสร้างและสร้างสรรค์จะเพิ่มความสดใสให้กับชีวิต แถมยังทำให้เราเป็นคนที่น่าสนใจมากขึ้นเลยค่ะ
5. จงอวยพรแก่คนที่แช่งด่าท่าน จงอธิษฐานเพื่อคนที่เคี่ยวเข็ญท่าน (ลูกา6:28) แทนที่จะต่อสู้และวิพากษ์วิจารณ์คนที่ทำให้เรา เจ็บ จงอธิษฐานอวยพรคนคนนั้นสิคะ คำอธิษฐานของเราสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่าง ถ้าคำอธิษฐานนั้นเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า พระเจ้าทรงเคลื่อนไหว (กระทำการบางอย่าง) เมื่อคนของพระองค์อธิษฐาน 6. ขอให้เพื่อนสนิทหรือสามีของท่านอธิษฐานกับท่านเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เขาจะซาบซึ้งในความพยายามของเราที่จะปรับปรุงตัวเอง คำอธิษฐานระหว่างสามีและภรรยา จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน ศิษยาภิบาลคนหนึ่งกล่าวว่า สามีภรรยาที่คุกเข่าอธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยกันเป็นประจำ มักจะไม่มาขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาในชีวิตสมรส
7. แทนที่จะสงสารตัวเองหรือขอความเห็นอกเห็นใจจากสามี ลูก ญาติพี่น้องหรือเพื่อน ลองเรียนรู้ที่จะบอกพระเจ้าเกี่ยวกับปัญหาของท่านสิคะ
2พงศาวดาร16:9 บอกว่า เพราะว่าพระเนตรของพระเจ้าไปมาอยู่เหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้นเพื่อสำแดงฤทธานุภาพของพระองค์ โดยเห็นแก่ผู้เหล่านั้นที่มีใจจริงต่อพระองค์
สรุป
สตรีที่รักคะ วันนี้ท่านคงไม่ต้องไปดูกระจกเงานะคะแล้วถามว่า กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี เพราะความงามภายนอกอยู่ได้ไม่นาน เราเอาแค่ ดูดี บุคลิกดี ก็ใช้ได้แล้ว เรามาช่วยกันพัฒนาความงามภายในกันดีกว่า เพื่อจะได้เป็นสตรีผู้นำที่ยำเกรงพระเจ้า รู้พระคำของพระองค์และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นสตรีที่มีชีวิตที่เกิดผล เป็นพระพรแก่ผู้อื่นและมีชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า
Create Date : 20 พฤษภาคม 2553 | | |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 21:37:00 น. |
Counter : 678 Pageviews. |
| |
|
|
|