All Blog
แพ้เครื่องสำอาง...อาการแพ้แบบไม่คาดฝัน ใครๆ ก็อาจเป็นได้ ขอเตือนให้โปรดระวัง
เรื่องเก่าเล่าใหม่ ขอนำมาบันทึกไว้เพื่อเตือนความจำตัวเองค่ะ 
วันนี้มาบอกเล่าเก้าสิบว่าด้วยเรื่องผิวแพ้ง่าย และผิวบอบบางแบบสุดๆ 
ประสบการณ์ตรงพร้อมวิธีรักษาและคำแนะนำจากคุณหมอผิวหนัง รวมถึงการดูแลตัวเองค่ะ
(เล่าใน blog ดีกว่า เพราะเล่าในกระทู้ เดี๋ยวจะโดนเข้าใจผิดว่ามาขายของไปซะ ช่วงนี้คนยิ่งคึกคักจับม้ากันสุดๆ ถึงไม่ใช่ม้า แต่เค้าก็กลัววววว Smiley ....)

เรื่องของเรื่องคือปัญหานี้ เราเผชิญกับตัวเองมาแล้ว แบบไม่คาดฝัน และไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นด้วยสาเหตุนี้ด้วย

ด้วยความที่ว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน เช้าวันหนึ่งระหว่างขับรถไปทำงานรู้สึกว่าทำไมหน้าถึงคันๆ ยิบๆ เอ๊ะ! เหมือนจะแดงๆด้วย  ไม่ได้การละ เลยแวะเข้าโรงพยาบาลหาหมอผิวหนังโดยด่วน

พอหมอตรวจๆ เสร็จแล้วก็บอกเลยว่า แพ้เครื่องสำอางจ้าาาาาา ...

เอ๊ะ! อาการสงสัยออกมาทันทีเพราะครีมทุกตัวที่ใช้อยู่ก็ใช้มาตั้งนานแล้วนี่มา มันก็ไม่มีอาการนิเลยถามคุณหมดว่าเป็นเพราะอะไร คุณหมอเลยซักว่าตอนนี้ใช้อะไรอยู่บ้าง

คุณหมอ: ตอนนี้ใช้ตัวไหนอยู่บ้างครับขอแบบละเอียด

เรา: ล้างหน้าของ Philosophy ค่ะ(แอบตอบในใจว่าหลายตัว แต่ไม่กล้าไล่ให้ครบ แฮะๆ)day cream ตัว Multi-Active ของ Clarins , Hope in a jar ของ Philo, Sisley ตัว restorative (จำชื่อเต็มไม่ได้)ประมาณนี้อ่ะค่ะ (ยังละพวก eye creamและอีกหลายสิ่งอันไว้)

คุณหมอ: (อึ้งไปนิด แล้วตอบว่า) เยอะนะเนี่ยมันเกิดจากการแพ้สะสม เนื่องจากการใช้เครื่องสำอางค์ที่ไม่ถูกกับสภาพผิวอาการแบบนี้มันไม่แสดงออกมาในทันที อาจจะใช้ระยะเวลาสะสมนานถึง 3-5 ปีกว่าจะแสดงอาการออกมาแบบที่เราเป็นอยู่

โอ้วววววววว....... แม่เจ้าาาาาา.....จริงหรือเนี่ย

หมอจ่ายยามา 1 ตัว Physiogel 1หลอด พร้อมครีมล้างหน้า (Eucerin ขวดขาว)แล้วให้งดใช้ครีมทุกสิ่งอันที่มีอยู่ รวมถึงงดแต่งหน้าด้วยให้ใช้แต่ครีมหมอเท่านั้นแแล้วอีก 1 อาทิตย์มาพบกันใหม่

--------------------  1 อาทิตย์ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ------------------

ไปพบคุณหมอตามนัด

คุณหมอ: อืมมม ผิวหน้าดีขึ้นแล้วนี่เดี๋ยวหมอจะเปลี่ยนยาให้นะ ครีมที่ให้ไป (เป็นตลับเล็กๆ จำชื่อไม่ได้)หยุดใช้ได้เลยนะ แล้วใช้หลอดใหม่ที่จะสั่งให้แทน (แต่แม่เจ้า.... หลอดเล็กนิดเดียวราคาเป็นพันเลย ขนาดเราซื้อครีมทีหมดไปทีหลายตังยังแอบเสียดายเลย มาทราบตอนกลังว่ามันคือ elidel ซึ่งขายข้างนอกหลอดละ 6xx เอง Smiley)

เรา: (ด้วยความที่เสียดายของที่มีอยู่เลยพยายามสุดฤทธิ์ว่ายังคงใช้ตัวไหนได้บ้าง) แล้วของที่มีอยู่ล่ะคะ จะใช้ได้ไหม

คุณหมอ: มีอะไรบ้างนะครับ

เรา: ใช้ philosophy ตัว purity กับ microdelivery wash ล้างหน้าค่ะ

คุณหมอ: อืมมม... purity ตัวนี้ติด top 5 เรื่องทำความสะอาดอยู่แล้ว ใช้ได้แต่ช่วงนี้งดไปก่อนแล้วกันนะ แล้วอะไรอีก

เรา: ครีมของ clarins กับ toner ของ givenchy ค่ะ

คุณหมอ: อืมม... Clarins นี่น้ำหอมทั้งนั้นเลย(พร้อมกับส่ายหัว) แล้วมีอีกไหม

เราก็เลยไล่ไปอีกหลายๆตัว 

คุณหมอ: (จดๆ ใส่กระดาษ แล้วยื่นให้เรา) เอาอย่างนี้ ถ้าไม่มีส่วนผสมประมาณนี้ ให้ใช้ได้(อารมณ์คงประมาณเอ็งอดใช้ทุกตัวแน่ๆ)

สรุปแล้วสิ่งที่คุณหมอบอกให้เราหลีกเลี่ยงคือ

1. Paraben

2. Sodium Laureth/ Lauryl ประมาณนั้นเรียกไม่ถูกจริงๆ ตัวนี้

3. Lanolin และ

4. Perfume

เราเลยรับมาดูแล้วรีบโทร.ปรึกษาเพื่อนที่เรียนเรื่องเคมีในทันทีหลังจากพบหมอเสร็จ เพื่อนบอกว่าถ้าแกแพ้ตัวนี้แล้วหายากมากกับครีมที่จะไม่มีสารตั้งต้นตัวนี้   -"-

ช่วงนั้นเป็นช่วงขวนขวายสุดชีวิตค่ะกับการต้องไปหาครีมที่จะต้องให้ตัวเองใช้ได้ จากที่เคยแต่ซื้อเพราะสี เพราะกลิ่นต้องมานั่งไล่ดูข้างขวด ข้างกล่องกันทุกตัวว่ามีตัวต้องห้ามไหม ยอมรับเลยว่าเหนื่อยมาก จิตตกอีกต่างหาก

แต่สุดท้ายโชคก็เข้าข้างเมื่อเราหาตัวนี้เจอเองโดยบังเอิญ เนื่องจากเป็นคนชอบช้อปปิ้ง onlineอย่างที่บอกไว้ ก็เลยลองหาพวกครีม organics ครีมเด็ก ครีมผิวบอบบางไปเรื่อยๆ จนมาเจอตัวนี้ที่สรรพคุณเค้าเขียนไว้ดีมาก ส่วนผสมก็ไม่มีตัวต้องห้าม แถมหลอดใหญ่ใช้ได้ทั้งตัวด้ว น่าลองเอามาใช้ รอบแรกเลยสั่งมาลองหลอดนึงก่อนพอใกล้จะหมดหลอดเลยติดใจ สั่งมาตุนอีกหลายหลอดเลยทีนี้(เพราะกว่าของจะส่งมาจากอเมริกามันเดินทางนานอ่ะ ^^" ) เค้าบรรยายว่าอย่างนี้

For prescription compounding and dry, irritated or sensitive skin.

 

A non-greasy, long-lasting moisturizing crean, Vanicream™Skin Cream is easy to spread, quickly absorbed, non-comedogenic (does not causeblackheads), and is free of dyes, fragrance, masking fragrance, lanolin,parabens, and formaldehyde.

to be continued ... 




Create Date : 04 กันยายน 2557
Last Update : 4 กันยายน 2557 18:49:26 น.
Counter : 1463 Pageviews.

0 comment
เรื่องสิวๆ ที่ไม่สิว ... ลองมาแล้ว เลยมาเล่าสู่กันฟัง >> Philosophy << ..และ.. >> Paula's Choice <<
หลังจากที่เราหลับหูหลับตาสั่งของไปเมื่อช่วงก่อน ก็ได้ตัวสิวมาอยู่ในมือ 2 เซ็ท คือ 
1. Philosophy: clear days ahead จริงๆ เซ็ทนี้ตั้งใจซื้อให้น้อง แต่น้องไม่เอา พี่มันเลยต้องใช้เอง (อีกแล้ว) และ 
2. Paula's Choice: CLEAR Two-Week Trial Kit, Extra Strength ตัวนี้ได้แถมมา 
จากการซื้ออย่างไร้สติที่ทู้นี้ >> //pantip.com/topic/30559892

ด้วยความงก ก็ยังนึกๆ อยู่ว่าแล้วใครจะใช้ละเนี่ย เลยแกะ Philosophy มาใช้เองเลยละกัน 

โดยพื้นฐานผิวเราเป็นผิวมัน แต่แพ้ง่ายมากกกก ไม่ค่อยมีสิวค่ะ 
นอกจากจะไปแพ้อะไรมาจริงๆ ก็จะขึ้นเป็นสิวผดเล็กๆ กับสิวเม็ดเล็กจิ๋วๆ ที่ชอบขึ้นช่วงมีประจำเดือน
(ปกติสิวจะไม่ขึ้นค่ะ ถ้าไม่หาเรื่องไปใช้อะไรแปลกๆ นู่น นี่ นั่น ... แต่มันก็อดใจให้ลองของใหม่ๆ ไม่ได้อ่ะ เน๊อะ!) 

และมันก็มีสาเหตุที่ต้องได้แกะ Paula's Choice มาใช้จนได้ เพราะไป ตจว. แล้วแพ้น้ำ สิวเม็ดขาวๆ บุกขึ้นเป็นสิบจุดบนใบหน้า 
(เพราะชะล่าใจ ลืมพก Dermalogica Multi-Active Toner คู่บุญไปด้วย เป็นเรื่องเลย)
กรี๊ดดดดด... 


วันนี้เลยเอามาเล่าสู่กันฟังว่า 2 ชุดนี้ จากการใช้จริงของเรา มีความรู้สึกเป็นอย่างไรอ่ะจ้า 




ปล. ส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้ตัวสิวช่วงเย็นนะคะ  กลางวันยังใช้ Hope in a Jar เหมือนเดิมจ้า
ยกเว้นช่วงที่เห่อจริงๆ ใช้ทั้ง am/pm เลย  แล้วมาดูผลว่าเป็นอย่างไรกันจ้า 

*********************************************

เริ่มจาก Philosophy ก่อนละกัน เพราะแกะมาใช้ก่อน 

ชุดนี้ประกอบไปด้วย 4 ตัว คือ 
1. oil-free salicylic acid acne treatment cleanser 3 oz.
2. oil-free salicylic acid acne treatment & moisturizer 0.5 oz.
3. overnight repair salicylic acid acne treatment pads 30 ct. และ 
4. fast-acting salicylic acid acne spot treatment 0.25 oz. 

อย่าถามว่าแต่ละตัวใช้แบบไหน เพราะอ่านฉลากแล้ว ด้านหลังเขียนเหมือนกันหมดเลย  
เลยต้องประยุกต์ใช้เอาตามความเข้าใจ  5555!

เริ่มจากตัวนี้ (1) oil-free salicylic acid acne treatment cleanser

เป็นเนื้อเจล สีฟ้าใส เราใช้ล้างหน้าตอนเช้า 
(เพราะตอนเย็นต้องล้างเครื่องสำอางด้วย เราใช้ Purity ล้างหน้า และ Just release me ล้างรอบดวงตาอ่ะค่ะ)
ผลลัพธ์ที่ได้: ตัวเจลล้างออกง่าย ไม่ลื่น ใช้แล้วรู้สึกหน้านุ่มดีค่ะ ไม่แห้งตึง
เราว่าสำหรับตัวเราแล้ว สามารถประยุกต์ใช้เป็นตัวล้างหน้าตอนเช้าได้เลย เพราะสิวไม่ขึ้น เราให้ผ่าน!

ตัวถัดมา (2) oil-free salicylic acid acne treatment & moisturizer 

ตัวนี้เป็นตัวบำรุงหลังล้างหน้า 
ผลลัพธ์ที่ได้: สำหรับเรา มันก็พอไหวนะคะ แต่เราไม่กล้าใช้เยอะ 
เพราะอย่างที่บอกไว้ว่าตอนที่ใช้ ไม่ได้มีสิวเห่ออะไรมากมาย
ก็แค่ใช้เป็นตัวบำรุงไม่ให้หน้าแห้งจนเกินไปอ่ะค่ะ 
อีกอย่างโดนขู่มาว่า ใช้พวกตัวรักษาสิว มันจะทำให้หน้าแห้งนะ เลยไม่กล้าลงเยอะเลย ^^"

ต่อมา (3) overnight repair salicylic acid acne treatment pads มี 30 แผ่น

เราใช้แทน toner เลย (แอบหวังว่ามันจะช่วยเรื่องสิวเสี้ยนให้หลุดออกไป อิอิ)
ผลลัพธ์ที่ได้: ก็เฉยๆ เพราะเหมือนกับเช็ด toner อ่ะค่ะ ต่างกันแค่เพียงอันนี้เค้าชุบน้ำยามาให้แล้ว
เวลาจะใช้ก็แค่แกะออกมาใช้ครั้งละแผ่น ลูบหน้าเบาๆ ให้ทั่ว ปล่อยไว้ให้แห้งแล้วลงบำรุงต่อ

ตัวสุดท้าย (4) fast-acting salicylic acid acne spot treatment 

เข้าใจว่าเอาไว้แต้มหัวสิว หรือลดพวกรอยสิวนะ  เราใช้ก่อนลงตัวที่ (2)
ผลลัพธ์ที่ได้: เหมือนตัวอื่นๆ เพราะใช้ตอนไม่มีสิวเห่อจัดๆ เลยวัดไม่ได้ว่าช่วยได้ทันทีไหม

ผลลัพธ์ในการรักษาสิว: 
ตอบไม่ได้ว่า 100% หรือไม่ เพราะช่วงที่ใช้ Philosophy เซทนี้ สิวไม่ค่อยขึ้นอ่ะค่ะ 
แต่จากการใช้ ตอบได้ว่าเซทนี้ไม่ทำให้หน้าแห้งเป็นขุย และสิวไม่เห่อ ไม่แพ้ อ่ะค่ะ 
(อย่างที่บอกว่าผิวเราแพ้ง่าย ลองอะไรแปลกๆ มักขึ้นกระจายอ่ะค่ะ)

(เคยลองเซทของ Murad แล้วสิวกระเจิง ทั้งสิวเม็ดและสิวผด 
และจากผิวมันๆ กลายเป็นคนหน้าแห้งผากไปร่วมปีเลยอ่ะค่ะ  
ของเค้าแรงจริง อะไรจริง )

*********************************************

ต่อกันที่เซทถัดไป  จริงๆ แล้วตัวนี้เป็นของแถมอ่ะค่ะ 
ได้มาจากการซื้อตัวใหญ่ของกลุ่ม Skin Balancing 
(เราว่าผิวเราเหมาะกับตัวนี้มากกว่านะ!) 
จริงๆ ที่ถอย  Paula's Choice นี่ก็เพราะว่า งก อยากได้ของแถมนี่แหละค่ะ 
สั่งแบบไม่คิดอีกแล้ว -"-
ตอนได้เซทแถมนี่มาแรกๆ ก็ยังคิดขำๆ อยู่เลย ว่าแล้วใครจะใช้หว่า?!?

และแล้วมันก็มีเหตุให้ต้องได้เปิดใช้เซทนี้จริงๆ เพราะอย่างที่เกริ่นบอกไปในตอนแรก
เราไป ตจว. แล้วแพ้น้ำอ่ะค่ะ แถมลืมพก toner คู่บุญไปด้วย ยิ่งเห่อกันใหญ่เลย Smiley

วันกลับยังไม่เท่าไหร่ ก็เห็นแว้บๆ ว่าน้องสิวมาเยือนประมาณ 2-3 เม็ดได้ 
แต่ที่ไหนได้ วันรุ่งขึ้น ส่องกระจกดู 
โอ้วววว.... แม่จ้าววววว มันขึ้นแถวๆ ข้างจมูก และแก้ม ทั้งเม็ดใหญ่ เม็ดเล็ก เม็ดน้อย 
นับรวมกันได้กว่า 20 เม็ดแน่ะ! 

รีบรื้อๆ ค้นๆ กรุ skincare ที่ช้อปมาอย่างด่วน จนมาเจอเซทนี้  
Paula's Choice CLEAR Two-Week Trial Kit, Extra Strength, Complimentary Gift with Purchase  
เอาล่ะ สงสัยฟ้าสั่งมาให้ชั้นต้องได้มาทดสอบประสิทธิภาพของป้าพรอย่างจริงจังซะแล้ว 
เมื่อคิดได้ดังนั้น เลยรีบจัดตั้งแต่คืนนั้นเลยอ่ะค่ะ

ผิวขณะทดลองใช้: มีสิวเม็ดเล็ก เม็ดน้อยขึ้นกระจายอยู่ทั่วใบหน้า 
(แต่ไม่ถึงขั้นเม็ดใหญ่ และอักเสบนะคะ)
จริงๆ มีอีกเหตุผลหลักๆ ที่ตัดสินใจใช้ตัวนี้คือ เค้าเขียนไว้ว่า reduce red marks นี่แหละ
กลัวเกิดรอยแดงๆ อ่ะ เลยรีบเอามาเปิดใช้เลย  เหอะๆๆ

เซทที่ได้มานี้ประกอบไปด้วย 
- CLEAR Pore Normalizing Cleanser 30 ml
- CLEAR Extra Strength Anti-Redness Exfoliating Solution with 2% Salicylic Acid 30 ml
- CLEAR Extra Strength Daily Skin Clearing Treatment 15 ml

ช่วงนั้นจิตตก เลยอัดใช้ไปเลยเช้า-เย็น และเลิกใช้ครีมตัวอื่นๆ ด้วย ประโคมแต่เซทนี้ล้วนๆ เพราะอยากหายไวๆ
หน้าก็ไม่แต่ง ใช้แต่แป้งเด็กอย่างเดียว 
(แต่กันแดดยังใช้ตามปกตินะจ๊ะ ไม่ใช้ไม่ได้ แดดบ้านเรามันแร๊งงงงงงง.....) 

เริ่มจากตัวแรก CLEAR Pore Normalizing Cleanser

ตัวล้างหน้า เราใช้ตอนเช้า และในบางวันใช้ตอนเย็นด้วย เพราะช่วงสิวเห่อ เราไม่อยากแต่งหน้าอ่ะค่ะ 
ไม่อยากทำร้ายผิวหน้าไปมากกว่านี้  ^^
ตัวนี้เป็นเจลใส ใช้ล้างหน้าค่ะ ปริมาณในการใช้ต่อครั้งก็ประมาณเหรียญบาทอ่ะค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้: ล้างออกง่าย ไม่ลื่น ล้างหน้าได้สะอาด ผิวหน้าไม่แห้งตึงเช่นกัน 
แต่ถ้าเทียบกับ Philosophy ด้านบนแล้ว ทั้งสองตัวล้างหน้าได้สะอาดพอๆ กัน 
แต่หากใครชอบแบบที่ว่าล้างแล้วหน้าต้องไม่มัน ตัวล้างหน้าของ Paula's Choice จะตอบโจทย์ได้ดีกว่าค่ะ

เสร็จแล้วก็ต่อกันด้วย CLEAR Extra Strength Anti-Redness Exfoliating Solution with 2% Salicylic Acid

ถ้าจะเรียกกันแบบเข้าใจง่ายๆ มันก็คือ toner ที่ใช้หลังจากล้างหน้าเสร็จนี่แหละค่ะ 
ผลลัพธ์ที่ได้: รู้สึกว่าเช็ดแล้วหน้าสะอาดยังไงก็ไม่รู้ เพราะสำลีที่ใช้มันเช็ดสิ่งสกปรกออกเพิ่มให้อีกด้วยอ่ะ ^^"
แต่หลังจากเช็ดตัวนี้แล้ว ควรตามด้วย moisturizer ทันทีนะคะ 
เพราะถ้าเช็ดแล้วปล่อยทิ้งไว้ มันจะรู้สึกตึงๆ เหมือนหน้าแห้งๆ อ่ะค่ะ

แล้วก็ตามด้วย step ต่อไป CLEAR Extra Strength Daily Skin Clearing Treatment 

ตัวครีม สำหรับเราเอง เรารู้สึกว่าเค้าจะมีส่วนผสมอะไรบางอย่างด้วย เพราะเนื้อครีมมันไม่เรียบ ลื่น 
แต่จะรู้สึกเหมือนจะมีเม็ดๆ อะไรอยู่ด้วยซักอย่าง 
(แต่ไม่เยอะมากนะคะ แค่พอให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ เวลาวอร์มครีมอ่ะค่ะ)
*** อันนี้เราคิดเองนะคะ ว่าอาจจะเป็นส่วนผสมอะไรซักอย่างหรือปล่าว 
เพราะอย่างเมื่อก่อนเวลาใช้ toner Clarins ตัวสำหรับผิวมันมาก - เลิกทำขายไปแล้ว 555! 
มันจะมีเม็ดแป้ง(หรืออะไรบางอย่าง) ผสมอยู่ด้วยอ่ะค่ะ ***
ผลลัพธ์ที่ได้: รู้สึกหน้าตึงๆ เหมือนโดนอะไรเคลือบอยู่ 
พอลูบหน้าดูจะรู้สึกลื่นๆ เหมือนมีแป้งเคลือบผิวหน้าไว้อ่ะค่ะ 
แต่ก็ไม่รู้สึกว่าแห้งมากมายเท่าไรนัก และไม่แสบหน้าด้วยค่ะ

ช่วงนั้นใช้แบบ เช้า-เย็น เลย ทนหน้าตึงๆ ไปได้ประมาณ 3-4 วัน 
(ไม่ได้ตึงจนแสบเหมือนหน้าลอกนะคะ 
เพราะหลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงหน้าก็เข้าสู่สภาวะปกติ) 
ก็ยังคิด(เอง) ว่ามัน work เหมือนกันนะ หน้าไม่ลอกด้วย 
แถมสิวก็เริ่มยุบ บางเม็ดที่แตกก็ไม่ได้เป็นรอยแดงมากนักด้วย  แอบปลื้มมมมม

และแล้ววันที่ 5 ความจริงก็เริ่มปรากฎ 
(บนรถด้วย เพราะอย่างที่เคยบอก ว่าเราชอบแต่งหน้าบนรถอ่ะ) 
ระหว่างที่ลงกันแดดแล้ว และทาแป้งเด็กนั้นเอง ...
เจี๊ยกกกกก.... ข้างแก้มเป็นขุยเลยค่าาาา ทั้ง 2 ข้างเลย แทบกรี๊ดอ่ะ 
รีบเอาทิชชู่ชุบน้ำ เช็ดคราบแป้งออกอย่างรวดเร็ว และค้นๆ จนเจอตัวช่วยที่แบ่งใส่กระปุกเล็กๆ ติดรถไว้ 
(โชคดีที่ไม่ได้เอาลงจากรถ แต่ยังไงเราก็มีติดโต๊ะทำงานไว้อีกกระปุกอยู่ดี อิอิ)
- คือไอ้ที่มันลอกเนี่ย มันมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นอ่ะค่ะ 
มันต้องโดนแป้งซะก่อน ทีนี้ละ ขุยๆ ขาวๆ เต็มข้างแก้มเลย

หลังจากนั้นเลยเพลาๆ การใช้ป้าพรลง เหลือแค่ใช้ full step ก่อนนอนครั้งเดียวพอ 
และหลังจากทาตัว CLEAR Extra Strength Daily Skin Clearing Treatment แล้ว 
เราก็จะตามด้วย moisturizer คู่บุญเราอีกที เพื่อไม่ให้ผิวหน้าแห้งจนเกินไปอ่ะค่ะ 
ดังนั้น step กลางคืนเราเลยมีตัวนี้เพิ่มเข้ามาอีก 1 ตัว กันหน้าแห้งจนลอกอ่ะค่ะ 


ส่วนตอนเช้า เราก็จะใช้แค่ตัวที่ (1) ล้างหน้า และ (2) เช็ดผิวหลังล้างหน้าเท่านั้น 
แล้วตามด้วย Hope in a jar แทน 
(ไม่อยากใช้ Hope in a jar ต่อจากตัว Daily Skin Clearing Treatment อ่ะ 
กลัวส่วนผสมบางอย่างตีกัน - โหมดมโนเอาเอง แฮะๆๆ)
ซึ่งเราใช้อยู่แบบนี้ประมาณ 2 อาทิตย์อ่ะค่ะ  
สิวที่เคยขึ้นมาก็ยุบหายไปแล้วก็ไม่มีรอยแดงนะ 
สำหรับเรา ถือว่าพอใจในระดับนึงค่ะ 

ผลลัพธ์ในการรักษาสิว:
เราว่าจริงๆ แล้วตัวนี้น่าจะช่วยเรื่องสิวได้จริงจังกว่า Philosophy ด้านบนอ่ะค่ะ 
เพราะตัวนี้ค่อนข้างจะเห็นผลลัพธ์ที่พึงพอใจได้เร็ว และส่วนผสมก็แรงกว่าเยอะเลย 
(ก็เล่นเอาเราหน้าลอกเป็นขุยเลยอ่ะ)
ส่วน Philosophy เน้นการบำรุงระยะยาวซะมากกว่า เพราะเราใช้แล้วหน้าไม่แห้ง 
และช่วงที่ใช้สิวก็ไม่มาเยือนด้วยอ่ะค่ะ

เพราะฉะนั้น สรุปง่ายๆ ตามความเข้าใจเราเองนะคะ คือ 
Paula's Choice --> สำหรับสิวอักเสบ เห่อ ต้องการเห็นผลไว เพราะตัวยาเค้าแรงใช้ได้เลย
Philosophy --> เน้นการบำรุง ไม่ให้เกิดสิวในระยะยาว ไม่ให้สิวกลับมาเห่อมากกว่า 
หากเป็นสิวและต้องการผลลัพธ์ในการรักษาที่รวดเร็ว ไม่แนะนำ Philosophy นะจ๊ะ




Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2557 1:05:14 น.
Counter : 834 Pageviews.

1 comment
หัวข้อนี้ Philosophy only ค่าาาา ... ตอนนี้ใช้อยู่แค่นี้เอง ^^"
วันหยุด มานั่งสำรวจตัวเอง ทำสถิติเล่นๆ กันไหมคะ ว่าตอนนี้เราใช้สินค้ายี่ห้อไหนเยอะที่สุดอ่ะค่ะ 

ส่วนของเรานั้น ไม่ต้องเสียเวลาเยอะ แค่มองปร๊าดดดด เดียว ก็ตอบได้เลยว่า Philosophy ค่ะ 
ไม่ได้เยอะแยะมากมายเท่าไหร่ แต่ก็เรียกได้ว่ามีพอประมาณทีเดียว แหะๆๆ

ที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็มีประมาณนี้อ่ะค่ะ  
(อย่างที่บอก ตอนนี้เป็นเรื่องของยี่ห้อที่มีเยอะที่สุด เลยเป็น Philosophy อย่างเดียวนะคะ 
ยี่ห้ออื่นๆ ที่ใช้อยู่ก็มีหลายตัวเช่นกัน แต่ไม่ได้เอามาปนกันค่ะ)

จริงๆ เคยรีวิวบางตัวไปบ้างแล้ว แต่จะกระจายๆ ตามหัวข้อไป 
วันนี้เลยถือโอกาสรวบรวมมาไว้เป็นหัวข้อเดียวก็แล้วกัน 
เผื่อใครที่สนใจ และกำลังอยากได้ second opinion อยู่ จะได้ไม่ต้องแยกหาตามหัวข้อต่างๆ อ่ะค่ะ 

อันดับแรกสุด เราก็ต้องเริ่มจากการทำความสะอาดผิวใช่ไหมคะ  
ตอนนี้ที่เราใช้อยู่ก็ตามนี้เลยค่ะ 


แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ 
1. ล้างหน้าตามปกติ (เช้า) สลับกันใช้ ตามอารมณ์ และ 

2. ใช้ล้างเครื่องสำอาง (เย็น) + eye makeup remover


จากนั้นก็มีบำรุงบำเรอผิวเป็นพิเศษกันอีกซักเล็กน้อย กับ treatment เหล่านี้


แล้วก็มาลงบำรุงกันต่อ (ตุนไว้เยอะ จนไม่ต้องซื้อไปได้อีกหลายเดือน)
ตอนเช้า

ตอนค่ำ


แต่ก่อน-หลังลงบำรุง มีตัวช่วยอีกเล็กน้อยคือ retinol day/night 
ตัว day มีพิเศษอีกเล็กน้อย คือ มี spf 30 ด้วย  ช่วงนี้เลยใช้ตัวนี้เป็นกันแดดไปในตัวซะเลย อิอิ


อ๊ะ! ลืม eye cream 
ตอนนี้ไม่มีตัวไซส์ปกติค่ะ เพราะใช้ของแถมอยู่ แบบว่าได้มาเยอะ 
จนไม่ต้องซื้อไปได้อีกหลายเดือน อิอิ 
แบบหลอด เป็นขนาด 7.5 ml เราได้มา 2 หลอด ก็เท่ากับ 15 ml ไซส์ขายพอดี ^_^


ส่วนอันนี้ของแถมชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกเช่นกัน ที่ได้ใช้ประโยชน์จริงๆ ค่ะ 
ทั้งเอาไว้พกพาเวลาเดินทาง หรือตัวไหนใช้แล้วติดใจ ก็จะได้สอยมาใช้ในลำดับต่อไป เหอะๆๆ


อันนี้เฉพาะ "หน้า" นะคะ  ยังไม่รวมตัวค่ะ 
ถ้าเป็นเรื่องเฉพาะ "ตัว" ของ Philosophy เราก็เยอะอยู่เช่นกัน แหะๆ 
และยังไม่รวมที่ตุนไว้ด้วย บางตัวตุนไซส์ใหญ่สุด 1 ลิตรกันไว้เลยทีเดียว เรียกว่าหมดปุ๊บ เปิดตู้หยิบมาใช้ต่อได้เลย ไม่มีขาดช่วงอ่ะค่ะ  

แล้วของเพื่อนๆ ล่ะคะ  มียี่ห้อไหนในคลังเยอะที่สุดเอ่ย? Smiley





Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2557 14:57:34 น.
Counter : 777 Pageviews.

3 comment
Item เครื่องสำอางที่ติดรถ และติดกระเป๋าเป็นประจำ (3)
ต่อมาเป็นพวกบำรุงเล็กๆ น้อยๆ ที่เอาไว้พกพา ติดรถบ้าง ติดกระเป๋าบ้างอ่ะค่ะ 

ชุดแรกเป็น Toner และสเปรย์น้ำแร่
1. Dermalogica Multi-Active Toner ขนาดพกพา เอาไว้พกเวลาไป ตจว. ค่ะ เจอฝุ่นหนักๆ น้ำแปลกๆ ฉีดเจ้านี่เลย ช่วยลดอาการแพ้และระคายเคืองได้เยอะค่ะ  ให้ 10/10 เลย เป็น item ประจำตัวเราค่ะ ขวดใหญ่เอาไว้ที่บ้าน ขวดเล็กเอาไว้พก อิอิอิ
2. Evian สเปรย์น้ำแร่ อันนี้ฉีดได้บ่อยๆ เพื่อความสดชื่นค่ะ ขวดเล็กนี้พกติดรถเช่นกัน ให้ 9/10

************************************************
อันนี้เป็นพวก Hand Cream จริงๆ มีหลายหลอดยิ่งกว่านี้อีกค่ะ เพราะเราเป็นพวกขี้ลืม เลยต้องทิ้งไว้ตามกระเป๋าใบอื่นๆ บ้าง ที่ทำงานบ้าง แม้กระทั่งที่บ้านยังต้องวางไว้ตามห้องต่างๆ เลยค่ะ เพราะเน้นความสะดวกเวลาต้องการใช้เข้าว่าอ่ะค่ะ 


อันนี้เป็นที่อยู่ในรถและในกระเป๋าใบที่ใช้ประจำค่ะ 
1. Crabtree and Evelyn: Lavender Age Defying Hand Remedy กลิ่นหอมอ่อนๆ ทำแล้วซึมเร็ว ไม่เหนอะมือค่ะ ให้ 8.5/10 เพราะยังไม่ใช่กลิ่นที่ชอบที่สุด (ส่วนตัวชอบกลิ่น Nantucket Briar มากกว่าค่ะ กลิ่นนั้นอยู่ที่ office แฮะๆ)
2. L'OCCITANE: Rose 4 Reines Velvet Hand Cream ตัวนี้เฉยๆ พอใช้ได้ ให้ 8/10
3. Philosophy: Time on your Hands เป็น exfoliation hand cream ด้วย ถือว่าใช้ดีในระดับนึงเลยค่ะ - ตัวนี้ออกมาพักนึงละ ไม่รู้ยังมีขายอยู่หรือปล่าว ให้ 9/10

************************************************


2 ตัวนี้เป็นครีมสารพัดประโยชน์ค่ะ ส่วนใหญ่จะใช้ทาเฉพาะจุด ไม่ได้ใช้ทาทั้งตัวอ่ะค่ะ
1. Neutrogena Norwegian Formula Hand Cream ไม่ใช่เพียงแค่ hand cream เท่านั้น แต่จุดที่แห้งกร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อศอก ผิวตัว หรือแม้กระทั่งริมฝีปากก็ใช้ได้ค่ะ แล้วข้อดีของครีมตัวนี้คือพอทาแล้วไม่ทิ้งคราบให้เหนอะหนะค่ะ ทาๆ ไปตัวครีมก็จะซึมเข้าไปกับผิว ทำให้ผิวลื่นๆ อ่ะค่ะ ให้ 10/10 ตอนนี้สั่งมาตุนเพิ่มแล้ว 555!

2. Philosophy: 27 Wishes Multi-purpose Skin Nurturing Balm Moisturizes คุณสมบัติคล้ายๆ ตัวข้างบนค่ะ แต่จะช่วยได้มากกว่าเพราะช่วยในเรื่องพวก sun burn ได้ด้วย ให้ 9/10 เพราะแอบแพง แฮะๆๆ

ส่วนตัวนี้ติดรถไว้ค่ะ เวลาเจออากาศเย็นๆ ตัวแห้งๆ หยิบขึ้นมาทาเลย ตัวจะได้นุ่มๆ อิอิ 
Philosophy: Wildflower Blossom ขนาดเดินทางค่ะ ให้ 9/10 เพราะหาซื้อยากละ ต้องสั่งจากอเมริกาตลอดๆ ถึงจะได้ขวดจิ๋วๆ แบบนี้เป็นของแถม

************************************************

หมดกรุเล็กๆ ที่อยู่ในรถแล้วค่ะ  เดี๋ยวจะมาต่อด้วยอะไรนั้น อย่าลืมติดตามกันนะคะ 



Create Date : 23 มิถุนายน 2556
Last Update : 23 มิถุนายน 2556 16:01:15 น.
Counter : 1273 Pageviews.

2 comment
Item เครื่องสำอางที่ติดรถ และติดกระเป๋าเป็นประจำ (2)
มาต่อแล้วจ้า หลังจากหายไปนาน 

บลัชออน ตอนนี้มีหนึ่งเดียวในดวงใจคือ 
Givenchy: Le prisme blush bucolique 2012 Spring-Summer collection สี Bucolic Poppy ค่ะ 

My Review:
ตัวนี้เป็น Limited collection ค่ะ สี Bucolic Poppy 
คือสีดอกป๊อปปี้ เฉดสีแดงส้มใสๆ น่ารักมากมายค่ะ 
น่าจะใช้ได้อีกเป็นปี เพราะใช้มาตั้งนานแล้ว ใช้ทุกวันด้วย ก็ยังไม่พร่องเลย 

** เืนื่องจากเราเป็นคนไม่แต่งหน้าเข้ม หรือสีจัด เพราะฉะนั้นสีของเครื่องสำอางแต่ละอย่างของเราอาจจะไ่ม่จี๊ดจ๊าดโดนใจสาวๆ เท่าไหร่นะคะ **

************************************************

ต่อมาเป็นสารพัดลิปที่มีติดกระเป๋าค่ะ 
เนื่องจากเราเป็นคนชอบเปลี่ยนกระเป๋าอยู่บ่ิอยๆ เลยมีลิปติตอยู่ตามกระเป๋านู้น กระเป๋านี้ตลอดเวลา 
ทั้งหมดนี้คือที่สลับใช้อยู่เป็นประจำอ่ะค่ะ (ในรูปขาดไปแท่งนึง เผอิญถ่ายรูปหมู่เสร็จแล้วเพิ่งเจอค้างอยู่ในกระเป๋าอีกใบ แฮะๆ)


My Review:

1. Burt's Bees Tinted Lip Balm สี Hibiscus แท่งออกจะดูสีแรงไปนิด 
แต่พอทากับปากจริงๆ แล้วให้สีปากแบบสุขภาพดีแดงอมส้มเลยค่ะ 
แถมให้ความชุ่มชื่นและไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งให้เป็นคราบด้วยค่ะ ให้ 9/10 ค่ะ

2. Clarins: Joli rougr brillant #03 guava ตัวนี้ออกมานานแล้วค่ะ 
แต่สีถูกใจเรามาก ไม่โดด ค่อนข้างให้สีเป็นธรรมชาติ 
ล็อตใหม่ๆ ที่ออกมาก็ไม่มีสีแบบนี้อ่ะ เสียดายจัง เป็นลิปสติกค่ะ แต่เนื้อไม่แมทนะคะ 
ตัวนี้ไม่ทำให้ปากแห้งและเป็นร่องค่ะ ใช้มานานแล้วก็ยังไม่หมดซักที ให้ 9/10 ค่ะ

3. Givenchy Le Rose Revelateur de Liv สีชมพูใสๆ เบาๆ ถูกใจเป็นที่สุด 
เนื่องจากเราเป็นคนชอบทาลิปแนวกลอสมากกว่าพวกเนื้อแมทอ่ะค่ะ 
เจอตัวนี้เลยถูกใจ ใช่เลย ให้ 9.5/10 
(หักไป 0.5 คะแนน เนื่องจาก package แอบเก็บยากตรงส่วนล่างที่มี tag ห้อยมาอ่ะ เลยต้องตั้งกลับหัวทุกที)

4. MAC: Viva Glam Nicki เห็นเค้าเห่อกันตอนออกมาแรกๆ เลยซื้อตามบ้าง 
สีชมพูสดใสดีจริงๆ ค่ะ แต่ต้องแต่งหน้าถึงจะใช้ได้ เพราะถ้าใช้โดดๆ เป็นอันจบกัน แฮะๆๆ 
ให้ 8/10 ค่ะ เพราะสีออกแรงไปนิด ไม่ค่อยชินอ่ะ แฮะๆ

ตัวอย่างสีค่ะ ลำดับที่ 1-4 เรียงจากซ้ายไปขวาเลยค่ะ


อีกล็อตค่ะ เป็นลิปกลอสออกสีและลิปกลอสแบบบำรุง
ข้อดีของ gloss Clarins คือไม่ทำให้ปากเป็นคราบค่ะ

1. Clarins - Summer Fever Sun Lip Balm SPF 6 #02 Orange Delight 
ซื้อมาเพราะสีเค้าเลย แรงได้ใจ แต่ใจกล้าแค่ทาบางๆ ไม่ก็ผสมกับสีอื่นๆ อ่ะค่ะ ให้ 8/10
2. Clarins - Gloss Appeal # 10 Iced Pink เอาไว้ผสมกับสีอื่นๆ เพื่อให้สีจางลงค่ะ ให้ 8.5/10
3. Neutrogena Norwegian Formula - Lip Moisturizer SPF 15 ลิปมันไร้สี ไร้กลิ่น 
มี SPF 15 ให้การบำรุงเป็นเยี่ยมและที่สำคัญไม่มันวาว เหนอะปากค่ะ ให้ 9/10 เพราะ package แอบเปิดยากอ่ะ 

ตัวอย่างสีของลำดับที่ 1-2 อ่ะค่ะ



**อย่าเพิ่งสงสัย ว่าทำไมทู้เราถึงมีแต่คะแนนเป็นด้านบวกค่อนข้างสูง 
เพราะทั้งหมดคือตัวที่เราใช้แล้วถูกใจอ่ะค่ะ ถึงได้เอามารีวิวให้เพื่อนๆ ชม 
ตัวไหนไม่ถูกใจก็ไม่ได้เอามารวม เพราะงั้นเลยมีแต่คะแนนสูงๆ อ่ะจ้า 

************************************************

เดี๋ยวมาต่อด้วยบำรุงผิวเล็กๆ น้อยๆ ติดรถ ติดกระเป๋าในกระทู้ถัดไปนะคะ ^^



Create Date : 23 มิถุนายน 2556
Last Update : 23 มิถุนายน 2556 20:27:55 น.
Counter : 932 Pageviews.

1 comment
1  2  3  

ซามูไรเก๋า...
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นผู้หญิงธรรมดาที่ชอบอ่านหนังสือ ชอบเที่ยว ชอบกิน ชอบเลี้ยงสัตว์ และโดยเฉพาะชอบการช้อปปิ้ง(เป็นพิเศษ) ชอบซื้อของ ชอบลอง จนตอนนี้ชักอยากขยับมาขายของเองมั่งละ ^^"

อยากลองทำรีวิวกับเค้าดูมั่ง ยังไงก็ช่วยติชม และให้อภัยมือใหม่ด้วยนะจ๊ะ