ไปเที่ยวเชียงใหม่กันเถอะ..วันที่ 1 สวนราชพฤกษ์
ไม่ได้อัพบล็อกเกี่ยวกับ เรื่อง เที่ยวๆ นานมากกก ค่ะ ... ที่ไปเชียงใหม่ก็นานแล้วตั้งแต่ปีใหม่ค่ะ แต่เพิ่งได้มีโอกาสมาลงบล็อก เพราะช่วงนี้ วันหยุดยาว ช่วงสงกรานต์พอดี...กลับบ้านไปหาคุณแม่ค่ะ..ได้ไปเที่ยวหลายๆที่เลย บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูกเนอะ ไปดูรูปกันดีกว่า... เห็นแล้วจะรู้สึกอยากไปแอ่วเชียงใหม่กันมากขึ้นไม๊ นะ... ถ้าไม่อยากดูนางแบบ ก็มองผ่านเลยไปก็ได้นะคะ ..ดูแต่วิว ก็งามคะ..ดูแผนที่ เพื่อจะไปงานรากพฤกษ์กัน.. อยู่ไม่ไกลจากบ้าน ญ <สารภี>เท่าไหร่ ระหว่างทางขับรถไป ก็เจอร้านอาหารร้านนี้ ...... สวย ม๊ากกกกก.. อดไม่ได้ที่จะแวะ ลงไปถ่ายรูป ค่ะ ภายหลังได้รู้จากเพื่อน ที่ อยู่เชียงใหม่ว่า ชื่อร้าน ไม่ดิ เรียก สวนอาหาร บ้านกังหัน เชียงใหม่ แนะนำๆ ไปกันนะคะ วิว ดีมากๆๆเสียดายไม่ได้ถ่ายด้านในมาถ่ายแต่ด้านนอก ... แต่มันก็ยังดีเนอะ ...จากนั้นก็เดินทางต่อไปอีกนิดค่ะ ก็ถึง สวนราชพฤกษ์ แล้ว บรรยากาศ ทางเข้าค่ะ คนเยอะเหมือนกันนะ นี่ป้ายเห็นเด็กตัวเล็กๆ ปีนขึ้นไปนั่ง ไอ้เราก็ลืมไปเนอะ ว่าไม่ใช่เด็กๆ แล้วอยากจะนั่งกับเค้ามั่ง... ดีนะไม่หัก..555อีกรูป 2 รูปค่ะ กับป้าย สวยดี ขำๆ นะก็ยังไม่ได้เข้าไป ด้านในอยู่ดี เดินไปอีกหน่อย เป็นสวนสวยๆ แวะถ่ายรูปอีกละ เล่น แบบหนังอินเดีย เลย หลบอยู่หลังพุ่มไม้ ..ค๊ะ ~และแล้วก็ได้เข้าไปด้านในซักที เก็บรูปดอกไม้สวยๆ มาฝากค่ะ .. ติดนางแบบนิดนึง ไม่ขัดตากันนะ^^ ต้องขออภัยคะนี่เลือกไม่ถูกเลย จะเข้าชมสวน ประเทศไหนก่อนดี...แกล้ง ยีราฟ หุหุขี้เกียจเดินไปดูถึงตรงโน้น เลยถ่ายแค่ตรงนี้ ก็พอ ได้ วิว เยอะดี ^^รูปนางแบบ ขี้เหร่ เยอะ แล้ว เลยทิ้งท้ายกันด้วย รูปดอกไม้สวยๆ ค่ะ เก็บมาฝากและแล้ว ก็ได้ถึงเวลากลับบ้านไปพักผ่อนแล้วค่ะ จะบอกว่าวันนั้นแดดดีมากๆ ใครไปเที่ยว แนะนำทากันแดด นิดนึงนะคะ จะได้ไม่ดำเนอะ เพราะ ญ ดำกลับกทม.ทีเดียวเชียว....... มีต่อ ทริปวันที่ 2 ค่ะ เราจะไปขึ้นดอยอินทนนท์กัน.. ไว้ติดตามนะคะ
ทริปสวนผึ้ง @ซีนเนอรี่ , บ้านหอมเทียน ภาค 3 (จบ)
เล่าเรื่องน้องแกะไปแล้วทีนี้ ถ่ายรูปวิว รอบๆ มาให้ดูกันบ้าง (ส่วนใหญ่จะเน้นนางแบบนะคร๊าาา) เก้าอี้แดงตัดกับรั้วขาวๆ สนามหญ้าเขียวๆ เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยทีเดียวบ้านนกละเมอใครจะขึ้น เฮลิคอปเตอร์เสีย 1500 ต่อหัวนะคร๊าาเราไม่ขึ้น ไม่ได้กลัวความสูงน๊าา กลัวความแพงง 55มียิงธนูด้วยน๊ะนั่งพักถ่ายบรรยากาศโดยรอบมาแบ่งกันดูอีกรูป ไม่มีพรอพอะไร กำแพงง่ายๆ ดิฉันก้อยังไปถ่าย เป็นงานสถาปัตยกรรม(พูดเว่อไปมั้ย55) แบบ ปูนเปียก ศิลป์ดี ชอบ ตบท้าย ซีนเนอรี่กันด้วยของฝากจากร้านขายของที่ระลึกน้องแกะหัวโยกโปสการ์ด ใบละ 15 บาท ไม่รวมแสตมป์น๊าา สามารถ ซื้อ แล้วเขียนส่งได้เลย มีตู้แดง ให้หยอดขากลับ ผ่านบ้านหอมเทียน จริงๆ ขามาก็ผ่านแต่เราและคุณแฟนตั้งใจแวะตอนขากลับ ร้านนี้ขายเทียนหอมค่ะ ร้านน่ารัก คนผ่านไปมาต้องแวะ มีให้ทำเทียนเอง เป็นของที่ระลึกด้วยนะ ราคาไม่แพงมากแล้วแต่เลือกป้ายหน้าร้าน (จะเรียกว่าป้ายรึอะไรดีอ่ะ) เดินเข้าไป อืมม กว้างกว่าที่คิดแฮะ จัดว่าเป็นสถานที่ฮิพๆ ได้เลยนะเนี่ยเจอไอ้นี่ห้อยๆ อยู่ เลยถ่ายไว้ สวยดีและป้ายแนวๆ บอกทางแบบนี้ทำเทียนเองก็ได้นะรูปนี้ ยืนถ่าย ค้ำหัวชาวบ้านค่ะ สวยดี ...อยากรู้ว่าถ้าเราซื้อไปสักอันสองอันมันจะล้ม มั้ยได้ภาพนี้ตอนจ่ายเงิน ที่เค้าท์เตอร์ได้เทียนกลับบ้าน เยอะอยู่นะและ เกือบสุดท้ายทิ้งท้ายกันด้วยหน้าเหนื่อย ๆของเราเอง สุดท้ายจริงๆ ก็นี่เลย คุณแฟน คนนำทางตลอดทริปนี้เจ้าค่ะ ขอบคุณที่พาเราไปเที่ยวน๊าาาสิ้นสุดการเดินทางค่ะ เจอกันใหม่ทริปหน้า นะคะ
ทริปสวนผึ้ง @ซีนเนอรี่ ภาค 2
ต่อเนื่องจาก ภาค 1 ค่ะ เนื่องจาก เมื่อคืนเรานอนดึกง่ะ T__T อัพบล็อกแล้วมันง่วงๆ ไงไม่รู้ เลยแอบไปงีบมา ^^ ต่อๆ กันเลยดีกว่าค่ะ ถึงไหนแล้วน๊าาาา//ออ เดินทางสู่ ซีนเนอรี่ รีสอร์ท ปลายทาง ที่เราต้องการจะไป นั่นเองงไปถึง ไม่น่าเชื่อ คนเยอะ พอตัวแฮะ.. ตรงหน้าทางเข้าก็มีที่จอดรถฟรี เราโชคดีได้ที่จอดรถใต้ร่มไม้ (คงเพราะไปเช้า เลือกได้ เช้าของเรานี่หมายถึง 10.30 น.นะคร้าบ) ที่นี่เค้าเปิดให้เข้าไปเลี้ยงแกะได้ 10.00น.-18.00น.นะจ๊ะ แปลกพอไปถึง ที่ซีนเนอรี่ แดดดีมาก ไม่มีฝนเลย ที่นี่ จะแยกส่วนเลย กับคนที่มาเลี้ยงแกะ ชิว ชิว กับคนที่ เข้าพัก ..เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพัก จ้าา ด้านหน้าตรงทางเข้าไป ก้อจะมี วิวสวยๆ ให้ นักท่องเที่ยวไว้ แชะๆ กันเราก็ไม่น้อยหน้า..ขอสัก 2-3 รูปสิ ^^ อันนี้ป้ายบอกทางไป รีสอร์ท นากายา เป็นอีกรีสอร์ทนึงที่เค้าว่าเจ้าของเป็นญาติกับที่นี่ ญาติ รึว่าเพื่อนไม่แน่ใจ มันไปทางไหนไม่รู้เหมือนกัน แต่ป้ายเค้าบอก ไปทางนี้และ อีกภาพ ของทางเข้าด้านหน้า..จัดไว้น่ารักดีแล้วเด็กเลี้ยงแกะแบบเรา( อืมม รึว่าไม่เด็กแล้วดี ) ก็ได้เข้าไปแค่ส่วนตรงสนามหญ้าด้านหน้ารีสอร์ทที่เค้า จัดไว้ให้ สนนราคาค่าเข้าไปเล่น เลี้ยงแกะ อย่างเดียวก็ 40 บาท ..อืมม กลัวเพื่อนๆ ไม่เข้าใจ เลยถ่ายรูปมาไว้ให้ชมกันและตรงนี้เป็นร้านอาหารของเค้าค่ะ ไม่ได้ขึ้นไป คนเยอะน่ะหน้าตาตั๋วเป็นแบบนี้ ซื้อ 40 บาทได้หญ้า 1 กำ เรา สองใบ เลยได้หญ้า 2 กำ ของ คุณแฟนกำนึง เค้าบอกให้เราถือไว้ อย่า รีบให้น้องแกะหมดนะ เราก็ อืมๆๆ ได้เจ้าค่ะ ๆ แต่แล้ว ยังไม่ทันไร ก้อเป็นแบบนี้แบบนี้..และก้อแบบนี้...หมดคร๊าาา ยังไม่ทันถึง 2 นาทีเลยมั้งง น้องแกะ มันรู้อ่าา เห็นเราถือ เข้ามาก็วิ่งมาต้อนรับกันยกใหญ่ ทีแรกก็กลัวมันจะกระโดดไง เลยให้ๆๆทีนี้เป็นไงล่ะ ... คุณแฟนก็บ่น ดิชั้นก็ถูกน้องแกะทำเย็นชาใส่แบบเน๊...วิ่งไล่ตามแกะสักพัก .. เจอน้องแกะตัวนี้ เหมือนเรายังไงไม่รู้ >>> แกะดำ 555 โดนทิ้งไงล่ะเลยขอแชะคู่ กันสักนิดก็ยังดี เก็บหญ้าตามพื้นให้น้องแกะดำกินจะได้ อยู่ถ่ายรูปด้วย.. แกะที่นี่เห็นแก่กินแฮะ 555เล่นสักพัก ทนไม่ได้ที่น้องแกะไม่สนใจ ไปซื้อมาเพิ่มค่ะ ทีนี้ให้คุณแฟนถือบ้างง อยู่ได้นานกว่าเราอีกแฮะ555 วุ่นวายกับน้องแกะมาพอสมควร ถ่ายรูปกับวิว โดยรอบ ดีกว่าเนอะ^^ ขอต่อภาค 3 น๊าา
ทริปสวนผึ้ง @ซีนเนอรี่ ,สวิสวาเล่ ภาค 1
ทริปวันแม่ 12 สิงหาคม 2553 วันแม่ไม่ได้ไปหาแม่อ่า .. แม่อยู่ไกลเกินไป ราชการเค้าได้หยุดงานติดกัน 4 วันแต่ เรา ได้ หยุดวันแม่วันเดียว เลยโทรไปหาแทน แล้วอวดแม่ว่า"แม่ๆๆๆ ขาา นี่หนูกำลังจะไปเที่ยวคร๊าา แล้ว เดี๋ยวคุณลูกจะเที่ยวเผื่อนะคร๊าาา" โทรหาแม่เสร็จกลัวพ่อน้อยใจ โทรไปหาพ่อบ้างอะไรบ้าง...แต่ยังไงก็รักทั้งสองคนน่ะแหละ..วันหยุดทั้งทีเลยได้ไปเที่ยว ทริปใกล้ๆ นั่นคือ ที่ราชบุรีบ้านเกิดของเรานี่เอง ไปแบบ เช้า เย็นกลับนะคะ ไม่ได้ค้างคืนที่นั่นเนื่องจากว่า ไม่มีเวลา และไม่ได้จองที่ซีนเนอรี่ไว้ มันเลยเต็มๆๆๆ เจ้าค่ะแต่การเดินทางก็ไม่ใกล้ซะทีเดียวอะ ไปถึงสวนผึ้งกันเลยทีเดียวเดินทาง 2-3 ชั่วโมง ระหว่างทางไป ก็ใจแป้วนะ ฝนตก ตกๆ หยุดๆ เป็นแบบนี้ตลอดทางแต่ที่แป้วหนักกว่าเก่า คือ พอ เหยียบย่างเข้า เขตอำเภอสวนผึ้งปั๊บ !!! ฝนเจ้าค่ะ มาจากไหนไม่รู้มาแบบ เออ สาดเสียเทเสียเลย ... ทำใจแป้วสักพัก ก็กลับมาใจชื้นขึ้นอีกหน่อย ฝนตกปรอยๆ แล้ว เย้ๆ แชะภาพ ตลอดแนว 2 ข้างทางสักกะหน่อย เขียวๆๆ เขียวขจี เขียวกว่านี้ได้อีกไหมถ่ายวิว แล้ว ก็มาถ่ายคนกันนิดนึง .. ระหว่างทางเดินทางผ่านป้ายโรงพยาบาลสวนผึ้ง เป็นหลักกิโลแฮะ แนวดี ขอแวะถ่ายสักแชะสองแชะถ่ายคู่ คนกับหลักกิโล บ้าง (เอ๊ะ รึจะเรียกว่าป้ายโรงพยาบาลดีล่ะ)สักพักก็คิดว่า อุ๊ย ซุ้มทางเข้า คงถึงแล้วม้างง ...มันเป็นซุ้มที่ทำจากไม้ไผ่แน่ๆ อ่ะ เอามาทาสีขาว เดาเอานะแป่ว.. คนละรีสอร์ทกันแฮะ แต่สวยเหมือนกัน ระหว่างทางมีคนแวะมาถ่ายรูปกันเยอะแยะ วิวเต็มๆ รีสอร์ทนี้ ชื่อ สวิส วาเล่ (ชื่อไทยอ่านว่าแบบนี้มั้งนะ) เลี้ยงแกะเหมือนกับซีนเนอรี่เลยแฮะ แต่เค้าว่ากันว่า แกะที่นี่ ยังไม่ค่อยคุ้นกับคนเท่าไหร่อีกสักสองสามรูป เน้นนางแบบน๊ะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันล่ะ ^^ ตรงด้านทางเข้า จะมีร้านอาหารสีแดงๆ สไตล์อิตาลีด้วยนะ ร้านน่ารักทีเดียวแต่ไม่ได้เดินไปถ่ายอะค่ะ คนเยอะ ถ่ายรูป ไปกางร่มไป ไม่ใช่กลัวแดดมากมายนะ แต่ฝนมันตกปรอยๆ อ่ะ กันไว้ก่อน เดี๋ยวจะไม่่สบายเอาต่อจากนี้ก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่ จุดหมายปลายทางของเราคือ ที่ ซีนเนอรี่ นั่นเองต่อ ภาค 2 นะ
เที่ยวเกาะล้าน พัทยากะเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทำงาน
เอารถตู้บริษัทไปกัน พร้อมขนเสบียงอีกเพียบ หารู้ไม่ว่าหนทางข้างหน้าลำบากแน่ แน่นอนค่ะ ... ไม่ลำบากยังไงไหว เราค้างกันบนเกาะ ฉะนั้นเราต้องเอาข้าวของทั้งหมดขึ้นเรือระหว่างเดินไปท่าเรือก็ไกลมากพอ ถึงเกาะ ท่าเรือ เดินไปขึ้นรถ ก็ไกลมากๆ เช่นเดียวกัน สรุปคือแบกเจ้าค่ะ แบกไปเหอะสมาชิก 11 ชิวิตที่ไปด้วยกันและ เจอ อีก 1 ชีวิตที่ไม่ได้ไปด้วยกัน แต่ไปเจอกันที่โน่นอย่างพรหมลิขิต สังเกตุ ดีๆ ภาพด้านบน ก็มี เค้าด้วยน๊ะขนของเหนื่อยไม่พอ พอไปถึง ไฟดันดับทั้งเกาะอีกแม่เจ้า ... ร้อนโค ตระ ระ..เลย เปลี่ยนเสื้อผ้า ไปเล่นน้ำ ทั้ง ๆที่แดดจ้ากันเลยดีฝ่าาาและรวมๆ อีกหลากหลายและเช้าวันที่ 2 ตื่นเช้ามากมายทั้ง ๆ ที่เพิ่งได้นอนตอนตี 3เลยหน้าเมื่อยๆ กันแบบนี้ ทิ้งท้ายด้วยรูปนี้ค่ะ ขากลับ เหนื่อยมากมายย สลบไสล ไปตามๆ กัน ไม่กล้าเอาตอนตัวเองเงยหน้า เลย เอารูปตอนเพื่อน หลับชัดๆ มาให้ดูกัน ส่วน นู๋ ญ หลับคอพับคออ่อน อยู่ข้างๆ 555สรุปทริปนี้สนุกมากมายค่ะ แต่ของบนเกาะค่อนข้างแพงนะ ถ้าเอาไปเองได้จะดีมากๆ ไม่ก็ซื้อในเซเว่นก็ได้ค่ะ ราคาคงไม่ต่างกันมากเป็นเซเว่นที่วิวดีมากๆ มองออกไปเห็นทะเลเลย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาแฮะ