การ present งาน ฮัปเปียว 発表 คือภาษาญี่ปุ่นแปลว่าการ present งานค่ะ การ present งานที่จะพูดถึงนี้คือการ present ความก้าวหน้าของทิสิสเรานั่นแหละ จะมีไปตั้งแต่ การพรีเซนต์เล็กๆ ไปจนถึงใหญ่ คุยกับอาจารย์ >present ในแลป>> พรีเซนต์ในภาค>>>conference>>>> international conferenceการคุยกับอาจารย์ก็สามารถเมล์ไปนัดอาจารย์ได้ตามความสะดวกของทั้งสองผ่าย หรือ บางคนอาจจะมีตารางต้องคุยกับอาจารย์เป็นประจำอยู่แล้วก็ได้สวนการ present ในแลป มีหลากหลายแล้วแต่ระบบของแต่ละแลป อย่างเช่นแลปของฉัน จะมี Meeting สัปดาห์ละสองครั้งครั้งแรกจะเป็น เทเลไค (定例会=regularmeeting) จะเป็นการพบประพูดคุยทางวิชาการของสมาชิกทุกคนในแลป เช่น มีคอนเฟอร์เรนซ์ที่ไหนบ้าง , ใครไปมา เป็นไงบ้าง, ห้องสมุดของแลปมีหนังสืออะไรใหม่ๆ บ้าง หรือใครอยากจะนำเสนองานอะไรในเชิงวิชาการก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่นำเสนอทิสิสของตนเอง เพราะนั่นทุกคนจะต้อง present อยู่แล้วในเคงคิวไคเคงคิวไค (研究会= research meeting) เป็นการนำเสนอความก้าวหน้าของทิสิสตนเองต่ออาจารย์และเพื่อนๆ ตามระบบแลปของฉัน นักเรียนทุกคนจะต้อง present ทิสิสของตัวเองเดือนละครั้ง นอกจากนี้ในภาคของฉันนักศึกษาทุกคนจะต้อง present ต่อหน้าอาจารย์ทุกคนในภาคเทอมละครั้ง ภาคของฉันจะเรียกการพรีเซนต์ครั้งนี้ว่า Jury โดยที่ Jury เทอมสุดท้ายของนักศึกษาคือ Thesis defend แต่หากเป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกแล้ว จะมีพรีเซนต์ใหญ่อีกอันนึงแทรกเข้ามา เรียกว่า ชูคังฮัปเปียวชูคัง 中間= middleฮัปเปียว 発表= announcementหรือ midterm presentation นั่นเองเพราะว่าภาคของฉัน (และภาคอื่นๆ เช่น civil engineering) ไม่มีการสอบ proposal ดังนั้นการสอบครั้งนี้ก็จะคล้ายๆ กัน แต่ต่างกันที่ มาสอบเอาเมื่อเรียนมาได้ครึ่งทาง ดังนั้น หากผลการสอบของใคร ร่อแร่ ก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่า ชีวิตการเรียนที่เหลืออีกครั้งทางนั้นค่อนข้างจะสาหัสพอดู นอกจากนี้มีหลายมหาวิทยาลัยที่กำหนดให้นักศึกษาต้องส่งเปเปอร์เพื่อตีพิมพ์ใน Journal คนละอย่างน้อย หนึ่งหรือสองฉบับก็ว่ากันไป ไม่งั้นไม่มีสิทธิจบ (แม้จะลงทะเบียนครบ ผลงานวิจัยออกแล้วก็ตาม) มีรุ่นพี่ของดิฉันเรียนปีสุดท้าย ด้วยเนื้อหาของงานแล้วสามารถจบได้สบายๆ แต่ติดที่ต้องส่งเปเปอร์นี่แหละ ทำให้ต้องเรียนอีกหนึ่งปีเพื่อส่งเปเปอร์ลงตีพิมพ์ให้ได้ และแย่หน่อยตรงที่อาจารย์มาบอกเอาปีสุดท้าย (ใครจะไปส่งทันฟะ )แต่สุดท้ายอาจารย์ก็ต้องรับผิดชอบหาทุนให้รุ่นพี่คนนั้นเรียนต่ออีกหนึ่งปี ฉันคิดว่าการที่แต่ละมหาวิทยาลัยต้องการให้นักศึกษาส่งเปเปอร์ อย่างหนึ่งก็เป็นผลประโยชน์แก่ตัวนักศึกษาเอง จะได้เป็นประวัติที่ดีทางการศึกษา แต่อีกประการหนึ่งคือ การจัดอันดับมหาวิทยาลัยนั้น ส่วนหนึ่งดูจากจำนวนเปเปอร์ที่ได้ตีพิมพ์ด้วย ดังนั้นเพื่อที่ให้ได้เป็นมหาวิทยาลัยในอันดับต้นๆ แต่ละมหาวิทยาลัยจึงต้องผลิตเปเปอร์ออกตีพิมพ์ให้ได้มากๆ นั่นเอง