วิธีการจัดเป้สำหรับเดินป่าและยามฉุกเฉิน
วิธีการจัดเป้เรื่องโดย หญิงเหล็ก , ตุลาคม ก่อนอื่น เราควรจะคิดถึงสิ่งที่ควรจะเอาใส่เป้ไปด้วยเวลาไปเดินป่า ว่าควรจะมีอะไรไปบ้าง ซึ่งของใช้จำเป็นในการเดินป่าทุกครั้ง พอจะแบ่งออกได้ตามประเภทต่างๆ ดังนี้- ถุงนอน- เต็นท์หรือเปล- เสื้อผ้า (ปกติเวลาเดินอยู่ในป่าเรามักจะต้องการแค่ชุดที่ใส่ตอนนอนอีกเพียงชุดเดียว ส่วนตอนกลางวันที่เดินป่าก็มักจะใส่ชุดเดิม แต่สำหรับบางคนที่ทนกลิ่นตัวเองไม่ไหว อาจจะเอาเสื้อผ้าสำรองเข้าไปเปลี่ยนในแต่ละวันด้วยก็ได้ – นอกจากนี้ ควรจะเตรียมชุดต่างหากอีกชุดเอาไว้ใส่ในวันกลับ)- อาหาร อุปกรณ์ทำครัว และเชื้อเพลิง- ของใช้ส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว ผ้าถุง ผ้าขาวม้า และยาแก้แพ้ต่างๆ- ของใช้อื่นๆ เช่น ไฟฉาย เสื้อกันฝน น้ำดื่ม ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น เข็มทิศ ถุงพลาสติกหรือถุงดำใบใหญ่ๆ นกหวีด (มีประโยชน์มากในกรณีที่หลงทาง) และของขบเคี้ยวระหว่างทาง(ซึ่งส่วนใหญ่มักจะนิยมช็อกโกแล็ตหรือขนมที่ช่วยให้พลังงาน)- อาหารสำรอง ซึ่งอาจจะเป็นขนมปังหรืออะไรเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ให้รับประทานในขณะที่ยังอยู่ในป่า ควรจะเก็บเอาไว้จนถึงวันสุดท้ายของการเดินทาง ที่เราแน่ใจว่าจะกลับออกมาข้างนอกได้แล้ว เผื่อเอาไว้หากมีกรณีฉุกเฉินที่ทำให้ไม่สามารถออกจากป่าได้ตามที่กำหนดไว้ และอาหารที่เตรียมไปอาจจะหมดก่อนที่จะสามารถออกจากป่าได้ เช่น หลงป่า หรือมีน้ำป่าทำให้ต้องอยู่ในป่าเกินเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อรู้ว่าควรจะนำอะไรติดตัวเข้าไปในป่าแล้ว เราก็มาดูวิธีการจัดเป้กันว่าควรจะวางอะไรไว้ตรงไหนบ้าง หลักการง่ายๆ อย่างแรกก็คือ วางของที่คิดว่าจะใช้ทีหลังสุดไว้ล่างสุด สำหรับนักเดินป่ามือใหม่ก็คงจะสงสัยว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะใช้อะไรตอนไหน ลองจินตนาการดูง่าย ๆโดยไล่ไปตั้งแต่เช้าจรดเย็น สิ่งที่เราจะใช้เป็นสิ่งสุดท้ายก็ควรจะเป็นถุงนอน เพราะกว่าจะนอนได้ก็ต้องเดินไปถึงจุดหมายที่ตั้งแค้มป์แล้ว ถุงนอนจึงเป็นสิ่งที่มักจะวางไว้ส่วนล่างสุดของเป้ และเป้โครงในรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็มักจะมีช่องแยกต่างหากไว้ให้เก็บถุงนอนไว้ด้านล่างด้วยเช่นกัน ข้อควรจำอีกอย่างสำหรับการเดินป่าในเมืองไทยคือ ทุกครั้งที่จัดของลงเป้ เพื่อความปลอดภัยเราควรจะใส่ของทุกอย่างในถุงพลาสติกอีกชั้นก่อนที่จะใส่ลงในเป้ เพราะสมัยนี้ เมืองไทยฝนตกแทบทั้งปี ไม่ว่าจะเดินป่าฤดูไหน หรือถึงแม้จะไม่มีฝนตก บางครั้งการเดินป่าก็จำเป็นจะต้องมีการเดินข้ามน้ำ หรือปีนป่ายตามน้ำตกบ้าง หรือแม้กระทั่งน้ำค้างในตอนเช้า การห่อหุ้มของใช้ต่างๆ ในถุงพลาสติกอีกชั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็น และไม่ได้ทำให้น้ำหนักของกระเป๋าหนักขึ้นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามหากไม่ได้ใส่ของต่างๆ ในถุงพลาสติกแล้ว เกิดกระเป๋าของเรามีอันเป็นไป แอบหนีไปนอนเล่นในน้ำหรือมีฝนตกระหว่างเดิน ทั้งเป้ทั้งของในเป้ก็คงเปียกหมด ทีนี้ล่ะ คงจะได้น้ำหนักส่วนเกินเพิ่มขึ้นมาอย่างหลีกไม่ได้แน่นอน (Embedded image moved to file: pic00153.gif)ตัวอย่างการจัดของในเป้ตัวอย่างการจัดของในเป้ อุปกรณ์ต่อมาก็คือ เต็นท์หรือเปลและฟรายชีท ซึ่งส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นถุงยาวๆ โดยปรกติเราจะนำเปลและฟรายชีทใส่รวมกันและนำมาวางไว้ในเป้ต่อจากเสื้อผ้า ส่วนเต๊นท์บางครั้งเราอาจจะแยกพวกโครงของเต๊นท์ออกมาและมัดเอาไว้ด้านนอกกระเป๋า ซึ่งควรจะมัดให้สมดุลและแน่น ไม่โคลงเคลงไปมาทำให้เป็นอุปสรรคในการเดินได้ จากนั้นก็ควรจะเก็บอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ เอาไว้ในบริเวณกลางเป้ และเป็นตำแหน่งที่ใกล้กับส่วนหลังของเรา โดยอาจจะหุ้มไว้ด้วยเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์เบาๆ อื่นๆ เพื่อป้องกันการกระแทกอีกด้วย เพราะการจัดเป้ที่ดีนั้น ควรจะวางของที่มีน้ำหนักมากไว้บริเวณที่ใกล้กับกลางหลังของเราหรือค่อนไปทางด้านบนของเป้ ซึ่งจะเป็นจุดที่รับน้ำหนักได้ดี และไม่ทำให้เสียการทรงตัวหรือกระเป๋าส่ายไปมาในระหว่างเดิน ต่อมา ก็คือการเก็บอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวต่างๆ เช่น พวกเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ และแชมพูเป็นต้น ส่วนของใช้อื่นๆ นั้น อาจจะจำเป็นต้องหยิบขึ้นมาใช้ระหว่างการเดินทาง เช่น ไฟฉาย เสื้อกันฝน หรือชุดปฐมพยาบาล ควรจะเก็บไว้ด้านบนที่สามารถหยิบออกมาได้ง่าย เป้ส่วนใหญ่จะมีช่องเก็บของบริเวณฝากระเป๋าด้านบน จึงสามารถจะใส่ของจุกจิกพวกนี้ไว้ได้ สำหรับน้ำดื่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นตลอดการเดินทาง ก็ควรจะแยกเก็บไว้ที่กระเป๋าด้านนอกหรือบริเวณที่สามารถหยิบออกมาได้ง่ายเช่นกัน สำหรับขั้นตอนในการสะพายเป้ให้กระชับและคล่องตัวที่สุดนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ โดยแรกสุดก่อนที่จะสะพายเป้ ก็ควรจะผ่อนสายรัดต่างๆ ออกให้หลวมเสียก่อน จากนั้นเมื่อสะพายเป้ขึ้นบ่าแล้วจึงเริ่มจากการปรับสายรัดสะโพกให้กระชับพอดี ไม่หลวมหรือคับจนเกินไป แล้วจึงปรับสายของที่สะพายบ่า โดยดึงปลายสายลงพร้อมกันทั้งสองข้าง ให้รู้สึกว่ากระชับพอดี ไม่อึดอัด แล้วจึงดึงสายปรับระดับตัวเป้ที่เชื่อมระหว่างที่สะพายบ่ากับตัวเป้ทั้งสองข้างพร้อมกัน ให้กระชับเพื่อความคล่องตัวในเวลาเดินเพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถเดินป่าได้อย่างมีความสุข ไม่ใช่การทรมานร่างกายเหมือนที่บางคนเคยประสบมา
บำรุงผิว-เมคอัพ-ต้องดูที่ คนสุดท้าย . . .(So cool)
1.อั้ม พัชราภาบำรุงไนท์ครีมลาแมร์โลชั่นสีส้ม กันแดดสีขาวจีวองชี่เซรั่ม ลาไพรีเมคอัพ กลอส ออกัสซั่ม ดินสอเขียนขอบปาก ปัดแก้ม ของนาร์ ลิปสติกสีนู๊ดและรองพื้นฟลูอิสจีวองชี่ ลิปติกสีออกชมพูดิออร์มาสคาร่าชาแนล2.ออฟ ปองศักดิ์บำรุงไนท์ครีม ลาไพรี ซึ่งไม่เหมาะกับวัยเขาเลยเพราะครีมมันมากๆคลีนซิ่งออย สีเหลือง ชูเอมูระ สำหรับผิวแพ้ง่าย ผสม คาโมมายครีมทาตัว พิโลโทฟี้อายครีม ลาไพรีเอสเซ็น เอสเคทู3.แพท ณ ประภา ที่โฆษณาแบรนด์รังนกกันแดด ชาแนลบำรุงไนท์ครีม ลาไพรีบำรุง ชุบีมาส ชาแนลเมคอัพ เอสเต้4.ก๊อต จักรพรรดิ์ลาไพรี ยกเซ็ท ค่ะ กับศัลยกรรมมีดหมอ5.ปามมี่บำรุง จีวองชี่ ยกเซ็ทค่ะ ตัวสีส้มเมคอัพ จีวองชี่ กับดิออร์เพราะป ามมี่เลเซอร์บ่อย ผิวแพ้ง่าย ใช้อะไรแรงๆไม่ได้6.มยุรา ธนบุตรเมคอัพ ของเมคอัพ ฟอร์เอฟเวอร์คลีนซิ่งออยล์ ชู เอมูระสครับ บอดี้ช๊อปไนท์ครีม ลาแมร์7.เจี๊ยบ เป็นพรีเซ็นเตอร์เอสเคทูเลยโดนสัญญาว่าต้องใช้เอสเคทูหมดค่ะ 555+ แต่ได้ฟรีทุกเดือนไม่ต้องซื้อ ดีจัง8.ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตน์ผิวท่านใสมากๆ ยังกับเด็ก 15-16บำรุงทุกชิ้น เกอแลงเมคอัพ ดิออร์ จีวองชี่9.พระองค์ศรีรัตน์ผิวองค์ท่านสวยอยู่แล้ว ใช้ ลาไพรีค่ะ10.องค์โสมสวลีท่านชอบมากๆ กับเมคอัพของ ROVLON ลิปสติกกี่สีเหมาหมดค่ะ ทุกเบอร์ทุกสี กับเมคอัพของ เมคอัพ ฟอ เอฟเวอร์11.องค์ภาบำรุงผิวองค์ท่านใช้ ล็อกซทานกลิ่นชาเขียว และอาบน้ำแป้งชาแนล ลิปสติกจีวองชี่ เบอร์10 12.ท่านหญิงองค์เล็กของเจ้าฟ้าชายเมคอัพ เกอแลง เมคอัพ จีวองชี่13.พระเทพบำรุงผิวกันแดด ล็อกซิทานแป้งเด็กแคร์ค่ะ