กลับมาแว้ว ห่างหายจากการเขียนบล็อกพันทิพย์ไปนาน กลับมาจากการเป็นออแพร์แล้วค่ะ หลังจากหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์กับบ้าน Gamberoni แล้วมีเวลาจะมาโม้ต่อนะค่ะ จะพยายามหาเวลามาอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับออแพร์ที่เพื่อนอยากรู้ ต่อไป   Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2551     3 comment Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2551 21:12:50 น.     Counter : 586 Pageviews.   Share Tweet

มารู้จักAu Pair Agencies ในอเมริกากันเถอะ ทำไมจึงจำเป็นต้องมีเอเจนซี่ หลายประเทศ(ที่ไม่ใช่อเมริกา : อเมริกาต้องผ่านเอเจนซี่เท่านั้น)ไม่ได้ต้องการที่จะใช้ออแพร์เอเจนซี่ เพราะฉะนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นครอบครัวหรือ ออแพร์ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกเอเจนซี่หรือจะติดต่อกันโดยตรง ถ้าคุณต้องการที่จะใช้ออแพร์เอเจนซี่ คุณสามารถใช้เว็บไซต์ต่างๆในการค้นหาออแพร์และครอบครัวของโฮสต์ แต่เมื่อคุณเลือกที่จะใช้เอเจนซี่นั้นก็หมายถึงจะมีคุณดูแลคุณในเรื่องเอกสาร การติดต่อ และอื่นที่คุณต้องจัดการ **ในอเมริกานั้นกำหนดให้ครอบครัวและออแพร์จะต้องใช้เอเจนซี่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลอเมริกา ซึ่งมีดังต่อไปนี้ US agencies  Agent Aupair  American Institute for Foreign Study (AIFS)  AupairCare  Aupair Foundation  Cultural Care Aupair  Cultural Homestay International  Educational Foundation for Foreign Study(ไม่สามารถหาข้อมูลได้)  EurAupair  Go Au Pair  InterExchange Au pair  US Aupair Agent Aupair สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ในเวบไซต์ //agentaupair.com/ ที่นี่ทำเรื่องออแพร์อย่างเดียว เอเจนซี่นี้ยังไม่มีเอเจนซี่ที่รับในไทยเลย ที่สำคัญเอเจนซี่นี้ยังไม่เปิดรับออแพร์ไทย ถ้าเพื่อนคนไหนสนใจ อยากให้เอเจนซี่นี้รับเด็กไทยก็ลองอีเมล์ไปเรียกร้องดูก็ได้ (อิๆแต่ไม่รับประกันนะ) เอเจนซี่นี้มีส่วนที่พิเศษที่เราเองชอบใจก็คือ ตรงที่การปฐมนิเทศและฝึกอบรมที่เรียกว่า“Au Pair Academy” เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ที่ San Francisco, California คุณลักษณะของออแพร์และข้อกำหนดโดยทั่วๆไปแล้วแต่ละเอเจนซี่จะเหมือนกัน Agent Au Pair1450 Sutter Street, #526 San Francisco, CA 94109 T: 415-462-1906 F: 415-462-0369 Or send us an e-mail at: info@agentaupair.com American Institute for Foreign Study (AIFS) จัดทำด้านอื่นนอกจากออแพร์ ข้อมูลดูได้ที่เวบไซต์ //www.aifs.com/ โดยในไทยมีเอเจนซี่ไทย-อเมริกัน เป็น ตัวแทนในประเทศไทยโดยชื่อบริษัท คือ THE AMERICAN INSTITUTE FOR FOREIGN STUDY, INC. (AIFS) มีบริษัทในเครือที่ทำเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมทั่วโลก นอกจากนั้นที่นี่ทำเรื่องการประกันด้วยค่ะ ที่นี่เปิดมานานและทำเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนมาเยอะจริงๆ เรียกว่ามืออาชีพด้านนี้ทีเดียวนะค่ะที่นี่ เพื่อนที่อยากติดต่อศูนย์ใหญ่ที่อังกฤษโดยตรงที่ London Office Au Pair in America 37 Queen’s Gate London SW7 5HR England Tel: +44 (0)20 7581 7322 Fax: +44 (0)20 7581 7345/55 E-mail: info@aupairamerica.co.uk AupairCare ที่นี่เป็นเอเจนซี่แรกที่ได้รับแต่งตั้งจาก United States Department of State ในปี 1989 มีออแพร์มากับเอเจนซี่นี้มากกว่า 25,000 คน มีออแพร์จาก 40 ประเทศจากตัวแทนในต่างประเทศ AuPairCare เป็นบริษัทย่อยของ Intrax Cultural Exchange ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอยู่แล้ว โดย AupairCare มีตัวแทนในประเทศไทย คือ American-learning และเรียนนอก เพื่อนที่สนใจสามารถติดต่อที่ตัวแทนประเทศไทย 2 ที่นี่ได้เลยค่ะ ถ้าต้องการติดต่อสำนักงานใหญ่ AuPairCare Corporate Headquarters AuPairCare 600 California Street, FL 10 San Francisco, CA 94108 phone 415.434.8788 fax 415.434.5415 Aupair Foundation เวบไซต์ที่สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ //www.aupairfoundation.org/ โดยเอเจนซี่ที่เป็นตัวแทนในประเทศไทยคือ Thaiinterexchange และ TEXTeducation โดย aupairfoundation เป็นบริษัทลูกของ Face The World (FTW) ซึ่งทำเกี่ยวกับเรื่องการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอยู่แล้ว โดยที่ aupairfoundation จะมีการแบ่งประเภทเป็น infant, Standard และ educare aupair ที่นี่มีรายละเอียดด้านการประกันสุขภาพและด้านอื่นๆที่น่าสนใจอยู่มากและที่สำคัญที่นี่มีการปฐมนิเทศที่จะได้รับใบรับรองจาก The American Red Cross in Infand and Child CPR and First Aid Au Pair Foundation US Office Staff: Headquarters Office e-mail: apfoundationla@sbcglobal.net 1010 B Street, Suite 200 San Rafael, California, 94901 USA Toll-Free Telephone: 1-866-428-7247 or 1-866-4-AuPair Fax: 415-257-2207 Cultural Care Aupair เวบไซต์ที่สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้คือ //www.culturalcare.com/ โดยเอเจนซี่ที่เป็นตัวแทนในประเทศไทยคือ Thaiinterexchange ที่นี่มีโครงการคิดส์เฟริส คู่มือทำอาหารสำหรับออแพร์และมีการปฐมนิเทศ 32 ชั่วโมงด้วยนะ แต่ว่าที่นี่เชื่อมโยงกับ EF ที่เป็นที่สอนภาษาและทำเรื่องการเรียนต่อในต่างประเทศ ซึ่งมีสาขาในไทยแล้ว ที่นี่เป็นเอเจนที่ใหญ่พอสมควรทีเดียวนะค่ะ U.S. Headquarters:Cultural Care Au Pair,One Education Street,Cambridge, MA 02141 Toll-free: 1-800-448-5753 Fax: 617-619-1101 Email: aupair@culturalcare.com สำหรับคำถามทั่วไป และ aupair.operations@culturalcare.com สำหรับเรื่องไฟล์บิน การประกันและวีซ่า Cultural Homestay International CHI Au Pair USA ย่อมาจาก Cultural Homestay International Au Pair USA CHI Au Pair USA มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Norther Californai Community of San Anselmo ซึ่งอยู่ทาง เหนือของเมือง San Francisco รัฐ California เข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CHI (Cultural Homestay International) ได้ที่ //www.chinet.org โดย ที่นี่มีตัวแทนที่ไทยชื่อว่า thaichiaupair ที่มีสาขาที่เชียงใหม่เพียงที่เดียว ติดต่อโดยตรงที่ CHI Au Pair USA 104 Butterfield Road San Anselmo, California 94960-1560 Phone: 415-459-5397 FAX: 415-459-2182 Email: chiaupair@chinet.org EurAupair ที่นี่มีตัวแทนที่เมืองไทยคือ YES เวบไซต์ที่สามารถดูได้ คือ //www.euraupairaupair.com รับออแพร์จากประเทศSweden, Denmark, Finland, England, France, Germany, Italy, Spain, Switzerland, Holland, Portugal, Czech Republic, Slovakia, Poland, Yugoslavia, Australia, New Zealand, Estonia, Japan, Latvia, Lithuania, Turkey, Thailand, Taiwan, Brazil, Argentina, South Africa, Mexico, Guadeloupe and French-speaking Canada มีการปฐมนิเทศ รายละเอียดสามารถดูได้จาก YES มีออฟฟิตหลายที่ เช่น Eastern Office 407 North Washington Street, #1 Alexandria, VA 22314 Telephone: (703) 518-5024 Toll Free: (800) 901-2002 Fax: (703) 518-5033 e-mail: euraupaireast@euraupair.com Southern Office 3091-A East Shadowlawn Ave. Atlanta, GA 30305 Telephone: (404) 261-0535 Toll Free: (800) 618-2002 Fax: (404) 814-0996 e-mail: euraupairsouth@euraupair.com Midwestern Office 326 Broadway Ave. South Wayzata, MN 55391 Telephone: (952) 476-4236 Toll Free: (800) 960-9100 Fax: (952) 476-7612 e-mail: euraupairmidwest@euraupair.com Western Office 238 North Coast Highway Laguna Beach, CA 92651 Telephone: (949) 494-7355 Toll Free: (800) 713-2002 Fax: (949) 497-8704 e-mail: euraupairwest@euraupair.com Go Au Pair สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก //www.goaupair.com โดยที่นี่จะมีตัวแทนที่ประเทศไทย ชื่อเดียวกันเลย คือ โกออแพร์ ที่นี่มีออแพร์หลายๆแบบทีเดียวแต่ที่โกเมืองไทยนั้นจะมีไม่ครบ มีการชิงรางวัลไปเที่ยวด้วย รายละเอียดสามารถถามได้ที่ แต่ที่นี่เน้นให้ตัวแทนท้องถิ่นเป็นผู้ปฐมนิเทศ ตัวแทนที่ประเทศไทย หรือสอบถามโดยตรงไปที่สำนักงานใหญ่ก็ได้ค่ะ Via mail: goAUPAIR(r) 151 East 6100 South Suite 200 Murray, UT 84107 Via telephone: Toll Free: 1.888.AUPAIR1 (1.888.287.2471) 1.801.255.7722 Via fax: Toll Free:1.888.287.2470 1.801.255.7782 Via e-mail: For general information requests: inforequest@goaupair.com For specific information on becoming a Host Family: 2bhostfamily@goaupair.com For specific information on becoming an Au Pair: 2baupair@goaupair.com   Create Date : 02 พฤษภาคม 2549     3 comment Last Update : 2 พฤษภาคม 2549 15:24:37 น.     Counter : 2671 Pageviews.   Share Tweet

ทำไมต้องมีเอเจนซี่ มีหลายคนจะถามว่าเมื่อเป็นโครงการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเอง เราขอวีซ่าไปเองได้ไหม ไม่ต้องผ่านเอเจนซี่ หรือจะขอเป็น work permit มาแทนได้ไหม คำตอบก็คือ โครงการออแพร์ของอเมริกา ต้องทำผ่านเอเจนซี่เท่านั้น ถึงจะได้วีซ่าเจวัน อยู่อย่างถูกตามกฏหมาย และทำออแพร์ได้อย่างถูกต้อง และออแพร์ ที่สำคัญนะค่ะ การที่เรามาเองนี่ก็จะไม่ครอบคลุมถึง ประกันสุขภาพ และการดูแลอื่นๆ จะเห็นได้ว่า จะมีคนอเมริกันมาลงเพื่อหาออแพร์มากมายในเวบต่างๆ โดยให้เรามาโดยใช้วีซ่านักเรียน บอกได้เลยค่ะว่าวีซ่านักเรียนขอ ยากกว่า ต้องใช้หนังสือรับรองรายได้ของผู้สนับสนุนมากกว่าออแพร์และออแพร์ที่อเมริกา ไม่สามารถร้องขอ work permit เพื่อมาเป็นออแพร์ได้ค่ะ   Create Date : 02 พฤษภาคม 2549     1 comment Last Update : 2 พฤษภาคม 2549 15:08:16 น.     Counter : 509 Pageviews.   Share Tweet

ตกลงใจมาเป็นออแพร์ ก่อนอื่นเลยคุณต้องยอมรับความจริงที่ว่าทุกคนไม่ได้มองออแพร์ว่าสวยหรู เพราะจริงๆแล้วเราก็ไม่ได้สวยหรูมีทั้งด้านดีและด้านร้าย หลายคนทีเดียวที่ไม่สามารถอยู่ต่อให้ครบโครงการออแพร์และอีกหลายคนที่มีความสุขกับการเป็นออแพร์อย่างเต็มเปี่ยม หลายครั้งที่เราต้องทนให้คนอื่นถากถางทั้งที่ยังอยู่ในประเทศไทย ประมาณว่าไปเป็นขี้ข้าฝรั่งเหรอ ไปเป็นคนใช้ใช่ไหม จนถึงบางคำที่แรงกว่านั้น เมื่อคุณตัดสินใจบอกคนรอบข้างว่าคุณจะไปเป็นออแพร์เตรียมใจน่าจะเป็นประการแรกของการเป็นออแพร์เหมาะสำหรับใครบ้าง ออแพร์คืออะไรเป็นคำถามยอดฮิตที่คนรอบข้างคุณต้องถามคุณก่อนแน่นอน เพราะทั้งพ่อแม่หลายๆครอบครัวไม่รู้ถึงโครงการนี้ รากศัพท์ Au Pair เป็นภาษาละติน มาจากคำว่า On Par หรือ Equal มีความหมายว่า เสมอภาค ซึ่งหมายถึงความเท่าเทียมกัน ของทั้งผู้เข้าร่วมโครงการ และครอบครัวชาวอเมริกัน ที่รับเป็นผู้อุปถัมภ์ในระหว่างที่อยู่ในอเมริกา โครงการออแพร์ คือ โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ภายใต้กฎหมายสหรัฐอเมริกา วีซ่าประเภท J-1 ( Cultural Exchange Visitor) ที่เปิดโอกาสให้ เยาวชน(ส่วนมากผู้หญิง) ที่มีอายุระหว่าง 18-27 ปี จากนานาประเทศ ที่สนใจเรียนรู้ วัฒนธรรมเพื่อหาประสบการณ์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา และมีความรักเด็ก ได้ทำงาน เรียน และท่องเที่ยว ที่อเมริกา โดยจะพักอาศัยอยู่กับ ครอบครัวอเมริกัน ในฐานะพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทน เป็นรายสัปดาห์ โครงการออแพร์ มีจุดประสงค์ เปิดโอกาสให้เยาวชนต่างชาติ ได้เดินทางเข้าประเทศอเมริกา เพื่อ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เรียนรู้ สังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิตและแนวคิดต่างๆ ของครอบครัวชาวอเมริกัน อย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 1 ปี อีกทั้งยังได้รับเงินทุนการศึกษา ในการพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษ หรือศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย / วิทยาลัย ในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ทั้งนี้ ออแพร์จะได้วันลาพักร้อนประจำปี 10 วัน และ เมื่อจบโครงการ ยังสามารถ เดินทางท่องเที่ยว ต่อในประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้อีก 1 เดือน คุณสมบัติออแพร์ คุณสมบัติโดยทั่วไปมีดังนี้นะจ๊ะ  เยาวชนหญิง(บางเอเจนซี่รับผู้ชายด้วย แต่ต้องทำใจสำหรับผู้ชายเพราะส่วนใหญ่แล้วโอสต์แฟมมิลี่มักจะต้องการผู้หญิงไปเลี้ยงลูก) ที่มีอายุระหว่าง 18 - 26 ปี ( โดยจะต้อง เดินทางไปอเมริกา ก่อนอายุ 27 ปี)  จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่หลาย ๆเอเจนซี่จะรับบุคคลที่จบปริญญาตรีขึ้นไป หรือ กำลังเรียนอยู่ในปีสุดท้าย  ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์พอใช้ สื่อสารได้ และมีบุคลิกภาพดี  สามารถขับรถยนต์ได้และมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ในประเทศไทยเสียก่อน แล้วค่อยไปทำใบขับขี่สากลได้สากล  ต้องมีหนังสือรับรองการเลี้ยงเด็กอายุต่ำกว่า สองขวบ ไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละเอเจนซี่ ต้องการประสบการณ์มากกว่า 200 ชั่วโมงทั้งนั้นค่ะ สูงถึงสี่ร้อยชั่วโมงด้วยซ้ำ (ผู้สมัครสามารถซื้อใบสมัครก่อน แล้วค่อยไปหาเก็บประสบการณ์เลี้ยงเด็กในภายหลังได้ค่ะ หรือเก็บชั่วโมงก่อนค่อยสมัครก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ)  ผ่านการตรวจร่างกาย (ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง)  ผ่านการทดสอบด้านจิตวิทยา (มีการทดสอบที่แตกต่างกันไปในแต่ละที่ค่ะ)  ผ่านการทดสอบข้อเขียน(ไม่ทุกเอเจนซี่ค่ะ) และสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ โดยเอเจนซี่  ผ่านการตรวจสอบ ประวัติอาชญากรรม และได้รับหนังสือยืนยัน จากหน่วยงานตำรวจ (ทำภายหลังได้ ควรเริ่มทำหลังเตรียมตัวส่งเอกสารใบสมัคร)  แน่นอนค่ะมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคุณควรจะมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ มีความเป็นผู้ใหญ่ เชื่อมั่นในตัวเอง พร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ อีกทั้งมีความน่าเชื่อถือ และคุณต้องอยู่กับเด็กทั้งวันหรือบางทีอาจจะไม่ทั้งวันคุณควรต้องรักเด็ก  ไม่เคยเข้าร่วมโครงการ Au Pair ในอเมริกามาก่อน ค่าใช้จ่ายของโครงการออแพร์ ค่าใช้จ่ายของแต่ละเอเจนซี่มี ราคา แตกต่างกันนะค่ะ -รายละเอียดทั้งหมดควรติดต่อเอเจนซี่ ณ เวลานั้น เพราะค่าใช้จ่ายมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ค่าใช้จ่ายค่าหลัก ๆ โดยทั่วไป ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการต้องจ่าย 1. ค่าทดสอบก่อนซื้อใบสมัคร( เป็นเรื่องของการทดสอบภาษาอังกฤษ และ จิตวิทยา บางเอเจนซี่ไม่เสีย แต่บางเอเจนซี่เสีย ส่วนใหญ่ไม่แพง ราวๆ 200 บาท ในส่วนนี้ขึ้นอยู่ในช่วงโปรโมชั่นของแต่ละเอเจนซี่นั้นด้วย) 2. ค่าใบสมัคร( แต่ละเอเจนซี่ขายใบสมัครไม่เท่ากัน 3,500 -7,000 บาท ) 3. ค่าเข้าร่วมโครงการออแพร์ จ่ายเมื่อผู้สมัครตกลงทำงานกับครอบครัว (แต่ละเอเจนซี่ ค่าแม็ทช์ ตัวนี้ไม่เท่ากัน ทั้งถูก ทั้งแพง มีหมด พิจารณากันเอาเองนะค่ะ) 4. ค่าธรรมเนียมขอวีซ่า อันนี้ออกเองไม่เกียวกับเอเจนซี่ จ่ายตอนยื่นคำร้องขอจองวันสัมภาษณ์ 400 บาทและค่าขอวีซ่า จำนวน 4,000 บาท ค่ะ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะจ่ายมากจ่ายน้อยแล้วแต่บุคคล แล้วแต่เหตุปัจจัยด้วยค่ะ มีดังต่อไปนี้ 1. ค่าเดินทางเข้าเอเจนซี่หรือเพื่อทำธุระต่างๆ อย่างน้อยก็ต้องมากกว่า 3 ครั้งแน่นอนค่ะ 2. ค่าดำเนินการเอกสารต่างๆ เช่นใบขับขี่รถยนต์ ใบขับขี่รถยนต์สากล ใบรับรองจบ หนังสือเดินทาง(passport) ใบทรานสคริปต์ ค่าแปลเอกสาร (ในกรณีไปจ้างเขา) รูปภาพ 3.ค่าใช้จ่ายระหว่างฝึก เลี้ยงเด็ก หรือฝึกฝนทักษะด้านอื่นที่จะช่วยเสริมการเป็นออแพร์ หลักฐานที่ใช้ในการสมัคร หลักฐานที่ใช้ในการสมัคร แต่ละเอเจนซี่ มีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้าง แต่ก็ไม่พ้นสิ่งดังต่อไปนี้ 1.รูปถ่ายสี หน้ายิ้ม (ฉากหลังสีอ่อน) 2 นิ้ว แต่ละเอเจนซี่จะแตกต่างกันออกไปนะค่ะ 2.บัตรประชาชน (ตัวจริงและสำเนา) 3.ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา) 4.ใบรับรองผลการเรียน (Transcript) ฉบับภาษาอังกฤษ (ตัวจริงและสำเนา) หลังจากที่ยื่นเอกสารสมบูรณ์ และ เอเจนซี่ที่เมืองไทย ส่งเอกสารของผู้สมัครไปอเมริกาแล้ว ระยะการติดต่อที่ผู้สมัครจะได้รับ จะเร็วช้าแค่ไหน อันนี้ขึ้นอยู่แต่ละเอเจนซี่ด้วย เพราะว่านี้เป็นหนึ่งในปัญหาที่ผู้สมัครต้องพิจารณา แต่โดยส่วนใหญ ่ไม่เกินหนึ่งเดือน หลังจากยื่นใบสมัครต้องได้รับการติดต่อ จากครอบครัวอเมริกันเข้ามาแล้ว ถ้าเดือนหนึ่งยังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ เลย ไม่ว่าจะทาง อีเมลล์ โทรศัพท์ ควรติดต่อเอเจนซี่ เพราะอาจมีความผิดพลาดได้ ที่พบมาก็มีทั้งความผิดจากเอเจนซี่ เช่นการทำไฟล์เราหาย เป็นต้น ออแพร์มีสิทธ์เลือก ครอบครัวที่เหมาะสมเอง และครอบครัวเองก็มีสิทธิเลือกออแพร์เช่นกัน การเลือกขึ้นอยู่แต่ละคนว่าจะใช้เกณฑ์อะไรเลือก บางคนอาจจะ ใช้วัยเด็กที่จะดูแล รัฐที่จะอยู่ หรือ สวัสดิการที่แต่ละบ้านให้พิเศษ กับออแพร ์ทั้งหมดนี้ ออแพร์สามารถใช้เวลาให้นานกันเลยนะค่ะ ในการเลือกครอบครัวที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดกับเรา เพราะว่า เมื่อไปที่อเมริกาแล้ว หากคุณต้องการเปลี่ยนครอบครัว จะมีเวลาแค่สองอาทิตย์เท่านั้น และถ้าหากคุณมากับเอเจนซี่ที่ไม่ค่อยจะมีครอบครัวให้ตอนเปลียนครอบครัวแล้วละก็ ยิ่งต้องทำใจว่า ต้องได้กลับเมืองไทยแน่นอน (ความสำคัญของเอเจนซีที่สุดคือช่วยเราหาครอบครัวที่เมกานี้ละค่ะ เอเจนซี่ดีแค่ไหน เราต้องดูที่ตรงนี้ เพราะคงไม่มีใครที่อยากกลับเมืองไทย ก่อนกลับหนด เพียงเพราะไม่มีโฮสให้ตอนเปลี่ยนครอบครัว และหากเป็นกรณีที่เราไม่ได้เป็นผู้ผิด) ดังนั้น การเลือกครอบครัวด้วยความระมัดระวัง พร้อมทั้งสอบถามทุกสิ่งทุกอย่างให้หมดจนแน่ใจ ไม่เหลืออะไรค้างคาใจเลย แล้วค่อยตอบตกลงทำงานด้วย แต่ต่อให้คุณเลือกโฮสต์ที่ดีมากๆแล้ว บางครั้งมันก็จบด้วยการรีแมทช์หรือการกลับ การตั้งความหวังไว้เป็นเรื่องที่ดีนะแต่การตั้งความหวังไว้สูงเกินไปอาจจะทำให้คุณหล่นลงมาอย่างเจ็บปวด บางครั้งเราต้องยอมแขวนใบปริญญาตรี ปริญญาโท ที่จบกันมาไว้บ้าง ปัญหาที่หลายๆคนอาจจะพบก็มีหลายรูปแบบบางครั้งอาจจะไม่ซ้ำกันเลย แต่จำไว้เสมอหน้าที่เรามาดูแลเด็ก และต้องทำใจไว้ว่ามีหลายคนที่มองว่าเราด้อยกว่า เพราะว่าเราเป็นแค่พี่เลี้ยงเด็ก คุณค่าของเรามีอยู่ในตัวเราแน่นอนค่ะ เลือกทางนี้พิจารณาตัวคุณเองแล้วว่าเหมาะกับออแพร์ไหม คุณไม่แค่มาเที่ยว มาเรียน แต่ประเด็นหลักก็คือ คุณมาทำงานด้วยและมากถึง 45 ชม. ต่อสัปดาห์และในบางครอบครัวอาจจะต้องมีการทำงานนอกเวลาที่กำหนดให้อีกด้วย   Create Date : 02 พฤษภาคม 2549     5 comment Last Update : 2 พฤษภาคม 2549 15:06:16 น.     Counter : 603 Pageviews.   Share Tweet