Jack-A-Little-Monster

ทำงาน+เที่ยว #20 อุทยานเวียงโกศัย แพะเมืองผี พระธาตุช่อแฮ

วันนี้ต้องทำงานที่อ.เมือง จ.แพร่ ออกตัวจากลำปางตอนเช้า ใช้ถนนสาย 11 มุ่งหน้าไปแพร่



โดยจุดหมายแรกคือ อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย อ.วังชิ้น ถึงสี่แยกแล้วเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางจะเจอทางเข้าอุทยานอยู่ทางขวามือ

โชคดีที่มาวันนี้ เพราะตั้งแต่พรุ่งนี้ถึงตุลาคมเข้าจะปิดอุทยานเพื่อพักฟื้น

จ่ายค่าธรรมเนียม ขับรถมาจอดก็พร้อมจะลุยน้ำตกแม่เกิ๋งหลวงกันแล้ว

น้ำตกแม่เกิ๋งหลวงมีทั้งหมด 7 ชั้น



ชั้นที่ 1 ต้องเดินลงไปด้านล่าง ทางเดินจัดไว้ให้เรียบร้อย เดินสะดวกสบาย

จากนั้นก็เริ่มเดินขึ้นไปตามขั้น



วันนี้ฝนไม่ตก ทางเดินเลยไม่แฉะมากนัก เดินไปเพลินจนมาถึงชั้น 7 ชั้นสุดท้ายไม่รู้ตัว น้ำตกลงมาเป็นสายสูง 4 เมตร



เดินย้อนกลับมาจนถึงรถก็ยังไม่เจอใครเลย

...

ขับรถมุ่งหน้าสู่ถ้ำเอราวัณ จุดหมายต่อไป

วิ่งไปทางอ.เด่นชัย ก่อนจะถึงมีป้ายบอก เลี้ยวซ้ายเข้าไปโลด



ถ้ำเอราวัณ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผากลอง ซื้อค่าไฟฉาย 10 บาท มีจนท.นำทางให้



คนนำทางเราวันนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ตัวจิ๋วอายุแค่ 10 ขวบ ช่วงปิดเทอมก็มาหารายได้พิเศษเป็นคนนำเที่ยวถ้ำ

จากที่ทำการต้องเดินขึ้นไปยังด้านบน เพื่อดูถ้ำ น้องแกจ้ำอ้าวๆ เร็วเกินกว่าที่คนแก่อย่างเราจะตามทัน จนต้องบอกแกให้รอๆ หน่อย

พักหอบอยู่ทีนึง เดินสักพักก็ถึงปากถ้ำ ภายในมืดสนิท ทางเดินลงลื่นสุดๆ ด้านในมีน้ำหยดอยู่ตลอดเวลา ต้องค่อยๆ เดิน ขณะที่หนูน้อยแกเดินเร็วราวกับมีตาอินฟราเรดมองทะลุความมืดได้



ตัวถ้ำมีขนาดใหญ่มาก มีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกๆ ตามแต่จะจินตนาการ ดูจนเพลิน จนถึงหินงอกรูปช้างสามเศียร ดูแล้วก็มีรูปร่างคล้ายช้างจริงๆ นะ

ขากลับสอบถามทางจากเจ้าหน้าที่ ได้ความว่า เขาหินปะการัง อยู่ค่อนข้างไกลจากถ้ำ เลยตัดสินใจไปวันรุ่งขึ้นแทน



...

จุดหมายต่อไปคือ แพะเมืองผี



อยู่ที่อำเภอเมืองนี่เอง ขับออกจากถ้ำเอราวัณ ผ่านอ.เด่นชัย อ.สูงเม่น ก็จะเข้าสู่อ.เมือง จากตัวเมืองวิ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีป้ายบอกอยู่ตามทาง

เลี้ยวเข้าไปถึง มีร้านรวงต่างๆ ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่เปิดเลย แถมจุดบริการนักท่องเที่ยวก็ไม่มีคนเลย

ไม่เป็นไรเดินเองได้อยู่แล้ว คิดเช่นนั้นแล้วก็รีบคว้ากล้อง เดินดุ่มๆ เข้าไป



เจอกลุ่มป้าๆ สี่ห้าคนเดินสวนมา ทักทายพอประมาณ แกบอกว่าระวังผีหลอกนะ -*- มีงี้ด้วย

ด้วยความตื่นเต้น เดินฉับๆ ดูปรากฎการณ์ธรรมชาติอย่างตื่นตาตื่นใจ สวยกว่าคิดไว้! แท่งดินตั้งตระหง่านท้าแดดท้าฝนอยู่ต่อหน้าเรา เดินวนอยู่รอบนึง แล้วก็ขอขึ้นไปดูมุมสูงมั่ง



มุมสูง ได้บรรยากาศแกรนด์แคนยอนเมืองไทย สวยอ่ะ ดินสีน้ำตาล ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ได้อารมณ์ดีมาก



ก่อนเข้ามาดู เห็นมีป้ายบอกว่ามีต้นดิกเดียมด้วย เลยสนใจอยากดูด้วยตาว่ามันเป็นจั๊งซี่เลยเดินหาดู แต่ยังหาไม่เจอ

เดินจนถึงสุดทางเดิน ก็ไม่เจอต้นดิกเดียม เลยคิดว่าน่าจะเป็นทางศึกษาธรรมชาติ เลยทะลึ่งเดินเข้าไปข้างใน

ยิ่งเดินยิ่งลึก ก็ยังไม่เห็นวี่แวว เห็นป้ายลูกศรสีแดง เขียว น้ำเงิน อะไรสักอย่าง ชี้ไปเรื่อยๆ ก็ทึกทักเอาว่า อาจจะเป็นทางไปดูต้นดิกเดียม

เดินไปยิ่งไกลๆ ลังเลว่าจะย้อนกลับดีป่าววะ เดี๋ยวหลง แต่พอเห็นป้ายลูกศรอันใหม่ก็ขอเดินต่อละกัน เผื่อจะได้เจอต้นดิกเดียมที่เราเพียรตามหา

เรื่องทิศทางไม่รู้แล้ว ว่าไหนทิศเหนือ ทิศใต้ เพราะต้นไม้บังหมด แถมดวงอาทิตย์ก็คงคล้อยไปแล้วมั้ง เกือบจะห้าโมงแล้วนิ ท้องฟ้าครึ้มไม่มีแสงแดดลอดมาให้เห็น

ก็จำใจเดินต่อไป คิดว่าพื้นที่มันคงไม่ใหญ่นัก

เดินๆๆ

มาโล่งอกเอาก็ตอนเห็นหลังคาอะไรสักอย่าง.. ย้อนกลับมาทางเดิมนั่นเอง!

เดินออกมาด้วยความโล่งอก เดินย้อนกลับไปที่จอดรถ เห็นมีป้ายอยู่ลิบๆ ใกล้ๆ จุดบริการนักท่องเที่ยว อ้าว ต้นดิกเดียมไปทางนี้นี่หว่า -.-"



จ้ำๆ ไปดู เห็นต้นดิกเดียมเล็กๆ สองต้นมีคอกล้อมอยู่ พยายามจะลูบๆๆๆ ให้มันจั๊กกะจี๊ แต่ก็ไม่กระดิกแฮะ

พยายามใหม่ แต่เจ้ายุงมาเป็นสิบเลย เกาะแขนเกาะขา ยิ่งจะทำให้นิ่งๆ จะได้ดูใบไม้กระดิก ก็ทำได้ไม่นาน เพราะพวกนี้อยากดูดเลือดเราเหลือเกิน

จนหมดความพยายาม เอาเป็นว่ามาถึงแล้ว แต่คงไม่มีปัญญาดูมันกระดุ๊กกระดิ๊กตามที่ตั้งใจไว้

ขากลับเจอป้ารถเครื่องดับ ช่วยแกสตาร์ทอยู่นานกว่าจะได้ ยังห่วงอยู่ว่ารถแกจะไปดับกลางทางอีกรึเปล่า แล้วถ้างั้นจะเจอคนช่วยป่าวเนี่ย

....

ก่อนฟ้าจะมืด ขับแวะไปสักการะพระธาตุช่อแฮก่อน อลังการมาแต่ไกลเลย ตื่นตาตื่นใจมาก



ขับรถเข้าไป เดินดุ่มๆ ขึ้นไป ไหว้พระธาตุประจำปีขาลด้วยความสบายใจ ทำอารมณ์สงบหลังจากเที่ยววุ่นมาทั้งวันแล้ว ก่อนจะกลับเข้าเมืองหาโรงแรมเตรียมพร้อมสำหรับงานค่ำคืนนี้




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 0:20:27 น.
Counter : 4261 Pageviews.  

ทำงาน+เที่ยว #19.2 วัดปงสนุก

วันจันทร์บินกลับมาเชียงใหม่ ของเพียบ เต็มไปด้วย เต็นท์ ถุงนอน ถุงผ้าใบกันน้ำ ฯลฯ เช็คอินไม่มีปัญหาแต่โดนพนักงานแซวว่าจะไปนอนป่าที่ไหน
บินถึงสนามบิน โชคดีรถยังอยู่ดีไม่มีปัญหา ของยัดใส่รถแล้วออกตัวมุ่งหน้าสู่ลำปาง คืนนี้ทำงานที่อ.เกาะคาเช่นเคย



จุดหมายวันนี้คือ วัดปงสนุก ตั้งอยู่ในอ.เมือง นี่เอง วัดนี้ได้รับรางวัลจากยูเนสโกด้วย



ที่วัดมีการซ่อมแซมปรับปรุงค่อนข้างมาก ดูแตกต่างเมื่อเทียบกับภาพถ่ายสมัยก่อน



ภายในวัดสวยงาม



วันนี้นอนที่ในเมือง ห่างจากที่ทำงานสิบกว่าโล ตอนเย็นสั่งอาหารชั้นล่างมากิน หมูเหนียวสุดๆ กินแล้วก็บึ่งเข้าเกาะคาเพื่อทำงานวันสุดท้ายในลำปาง




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 1:31:21 น.
Counter : 898 Pageviews.  

ทำงาน+เที่ยว #19.1 พักยก บินกลับกทม.

รีบตื่นแต่เช้าเพราะมีไฟลท์บินตอนสิบโมงเช้าที่สนามบินเชียงใหม่ ออกตัวจากลำปางตอนเจ็ดโมงกว่า

ขับมาระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตร จอดรถทิ้งไว้ที่สนามบินแล้วนั่งเครื่องกลับมากทม.




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 1:18:42 น.
Counter : 671 Pageviews.  

ทำงาน+เที่ยว #19 อุทยานแจ้ซ้อน วัดอักโขชัยคีรี เขื่อนกิ่วลม

อุทยานอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดถ้ามาลำปางก็คือ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ที่อยู่ในอำเภอเมืองปาน



เติมพลังยามเช้าด้วยข้าวซอยไก่ 2 ชามในอ. เกาะคา แล้วก็เริ่มออกตัว

ใช้เส้น 1035 วิ่งขึ้นเหนือยาวเลย จากอ.เมือง ไปอ. เมืองปาน ระยะทางประมาณ 69 กม.

ถึงอุทยานเห็นมีรถจอดอยู่สองสามคัน ขอแผ่นพับเสร็จก็เดินลุยน้ำตกทันที

รถจอดที่ลานจอดรถหน้าร้านขายของที่ระลึก แล้วเดินต่อผ่านจุดตรวจ มีเจ้าหน้าที่ขายอาหารปลาอยู่



ทางเดินขึ้นน้ำตกง่ายสุดๆ เพราะเค้าทำทางไว้ให้เดินแล้ว

เพียงแค่ชั้นแรกก็ทึ่งในความสวยงามของน้ำตกนี้แล้ว เดินจนเพลินเผลอแป๊บเดียวก็ถึงชั้นสุดท้ายซึ่งเป็นชั้น 6



เดินต่อไปอีกสักพัก ก็ถึงโรงปั่นไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งถ้าไปต่อจะเจอน้ำตกวังไฮ เราไม่ได้เดินไปเพราะใช้เวลามากแถมทางรกสุดๆ ก็เลยเดินกลับ



แวะอาบน้ำพุร้อนซะหน่อย มาถึงที่แล้ว



ที่นี่มีบริการนวดตัวด้วย แต่ขอลองอาบน้ำก่อน

คล้ายๆ กับที่เคยไปอาบในเชียงราย มีห้องส่วนตัว จ่ายตังเสร็จ ได้ผ้าขาวม้ามาผืนก็ได้เวลาผ่อนคลาย..



....

อาบน้ำเสร็จก็เริ่มหิว เลยไม่ได้แวะนวดตัว ออกตัวจากแจ้ซ้อน แต่ยังไม่ทันได้กินอะไรก็ไปถึงวัดอักโขชัยคีรี อ.แจ้ห่มแล้ว



เห็นทางขึ้น 200 ขั้นแล้วก็เหนื่อยใจ แต่บ่นยังไงก็ต้องขึ้น ก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นบันไดพญานาคไปเรื่อยๆ หอบแฮ่กๆ กว่าจะถึงเล่นเอาเสื้อเปียกอีกแล้ว




หันหลังกลับมาก็เจอวิวสวยที่ต้องแลกด้วยเหงื่อ ยังไงก็คุ้มค่าอยู่แล้ว

วัดนี้เป็นอีกวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเงาพระธาตุ!



ไหว้พระเสร็จ ก็เดินอ้อมมาทางด้านหลังเจอพระธาตุสีทองอร่าม และวิหารที่ใช้ดูเงา

ไม่มีใครอยู่เลย! นอกจากช่างด้านหลังที่กำลังง่วนกับการทำงาน

ถามเค้าก็บอกให้หาพระ หรือคนที่ทำเป็นเพราะเค้าทำไม่เป็น เหลียวหน้าเหลียวหลังก็ไม่เจอใคร

เอาวะ ลองเองดูหน่อย

ที่ผนังมีบอกวิธีดูอยู่ ปิดประตูทุกบาน เปิดแง้มบานนึงไว้นิดหน่อย จะเห็นเงาสะท้อน

งมอยู่นาน เพิ่งสังเกตเห็นฉากที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ

ลองใหม่จนในที่สุดก็เจอเงาสะท้อนปรากฎอยู่ อาจดูไม่ชัดเท่าสองวัดก่อน แต่ก็ยังพอจะเห็นเป็นเงาพระธาตุ



====

มุ่งหน้ากลับเข้าเมือง โดยใช้เส้นทาง 1335 เพื่อแวะเขื่อนกิ่วลม

เส้นนี้ถนนค่อนข้างคดเคี้ยว มีขึ้นเขาลงเขา

เจอรถวิ่งผ่านน้อยมาก อารมณ์เหมือนถนนร้างเลย

ขับใช้เวลาอยู่เป็นชั่วโมงก็ถึงเขื่อนกิ่วลม ขับตรงเข้าไปยังสันเขื่อน



บรรยากาศเงียบสงบ มีเจ้าหน้าที่ประจำป้อมอยู่ เดินเข้าไปบริเวณสันเขื่อนถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วก็ขับออกมา



กลับเข้ามาในเมืองจนได้ หิวสุดๆ จนต้องแวะร้านอาหารตามสั่งในเมือง

อิ่มท้องแล้วกลับห้องนอนเอาแรง ก่อนปฎิบัติภารกิจในคืนนี้ที่ อ.เกาะคา




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 18:24:42 น.
Counter : 4788 Pageviews.  

ทำงาน+เที่ยว #18 วัดพระธาตุจอมปิง วัดพระธาตุลำปางหลวง อุทยานดอยขุนตาน

เมื่อคืนนอนค้างที่อ. เมือง จ. ตาก เพราะหมดแรงไปต่อไม่ไหว

งานวันนี้อยู่ที่อ.เมือง จ.ลำปาง



ตื่นแต่เช้า จุดหมายปลายทางแรก คือเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา ซึ่งเป็นทางผ่านอยู่แล้ว



ถึงเขื่อนภูมิพลใช้เวลาไม่นาน ก็แวะกินข้าวที่โรงอาหาร ราคาถูกมาก



จากนั้นก็ขับไปบนสันเขื่อน ถ่ายรูปจนหายอยากแล้วก็ขึ้นไปบนยอดเขามีพระพุทธรูปคล้ายๆ ที่เขื่อนสิริกิติ์



ขับรถต่อมุ่งหน้าไปจ.ลำปาง จุดหมายต่อไปคือ วัดพระธาตุจอมปิง อ.เกาะคา ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเงาพระธาตุกลับหัว



ดันใช้เนวิเกเตอร์ของโทรศัพท์พาเราไปจนหลง ใช้ถนนเส้นเล็กเส้นน้อย วนไปวนมา กว่าจะหาเจอก็เสียเวลาไปมาก

เคยแต่ได้ยินชื่อเสียง ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง

พอมาถึง โชคดีมีพี่เค้าสาธิตวิธีการดูให้ พร้อมกับนักท่องเที่ยวอีกสองคน

ปิดประตูจนมืดมิด เอาฉากมารับ



ว้าว! สวยสุดๆ เงาปรากฎบนฉากเป็นรูปพระธาตุเหมือนที่เราเห็นข้างนอก แถมเป็นสีสันเหมือนกันเด๊ะ

เป็นเหตุการณ์ที่พบเจอโดยบังเอิญ

ขับต่อมา..มุ่งหน้าสู่วัดพระธาตลำปางหลวง

ขับไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะรู้ตัวว่าถึง ก็มองเห็นอะไรทางขวาเป็นวัดขนาดใหญ่ มีรั้วสูงเป็นแนวยาว ทางขวามีที่จอดรถเป็นตับ ร้านรวงอีกเพียบ

อ้าว! ถึงแล้วนี่หว่า



จอดรถแล้วรีบเดินสำรวจ ต้องบอกว่าด้านในสวยงามสมคำร่ำลือมาก แม้พระธาตุจะมีบันไดเหล็กรายล้อมรอการซ่อมแซมอยู่ก็ตาม





ไหว้พระธาตุเสร็จเดินอ้อมไปด้านหลังก็ถึงจุดที่จะดูเงาพระธาตุ มีป้ายผู้หญิงห้ามขึ้นด้วย



ก้าวยาวๆ ขึ้นไปด้านบน ปิดประตูจนมิด แสงจากภายนอกลอดรูเข้ามากระทบกับฉากผ้าขาวที่ขึงรอไว้แล้ว

ว้าว! เงาพระธาตุกลับหัวปรากฎในบัดดล
======

แวะเติมพลังด้วยก๋วยเตี๋ยวมะนาวใกล้ๆ วัดพระธาตุลำปางหลวง จากนั้นก็ได้แผนใหม่คือไป อุทยานฯ ดอยขุนตาล โดยไปทาง อ.ห้างฉัตร

ระยะทางดูแล้วไม่ไกลนัก น้ำมันพอเหลือครึ่งถัง ก็ขับรถมุ่งหน้าไปทันที

อุทยานนี้ตั้งอยู่ระหว่างสองจังหวัด คือ ลำพูนกับลำปาง



ทางเข้าอยู่บนถนนสาย 11 ซึ่งเข้าเขตจังหวัดลำพูนแล้ว

มาถึงตัวอุทยาน ทางเข้าค่อนข้างเล็กและชัน บางช่วงดูเหมือนรถจะสวนกันไม่ได้ ต้องบีบแตรส่งสัญญาณกัน

ที่นี่มีน้ำตกให้เที่ยวเหมือนกันชื่อน้ำตกตาดเหมย ต้องเดินไปเป็นระยะทางพอสมควร (จาก ย.2 ไปประมาณ 1.5 กม.) เลยไม่ได้ไป



ขึ้นไปจนสุดที่เอารถไปได้ ก็จะต้องเริ่มเดินไปตาม ย. ที่ย่อมาจากจุดยุทธศาสตร์



จากด่านตรวจ มีบ้านพักอยู่สามสี่หลัง เดินไป ย. 1 นิดเดียวก็ถึง

ย.1 เป็นบ้านพักการรถไฟ ดูข้างในไม่มีคนอยู่ ภายนอกทาสีสันสดใส ที่ระเบียงมองเห็นได้ระยะไกลถ้าฟ้าเปิด

ย.2 ต้องเดินไปอีกประมาณ 800 เมตร เลยไม่ได้เดินไปเพราะดูเวลาแล้ว อาทิตย์เริ่มคล้อยลง เลยต้องหยุดแค่ที่ ย.1

ขากลับเป็นกังวลเรื่องน้ำมันพอควร เพราะจากที่มิเตอร์บอกว่าเหลือน้ำมันได้อีกร้อยกว่าโล ตอนนี้มันลดลงมากกว่าที่คิดไว้

เป็นเพราะการขับขี่ สัมภาระ ฯลฯ ทำให้มันลดลงกว่าที่ควรจะเป็น ขากลับเลยวิ่งอีกเส้นหนึ่งหลังจากที่ชาวบ้านระแวกนั้นบอกว่าจะเจอปั๊มใกล้ๆ

กว่าจะเจอปั๊มก็เล่นเอาเหนื่อยใจเพราะลุ้นแล้วลุ้นอีก

เติมน้ำมันแล้ว เหมือนเติมพลังใจไปด้วย กลับมาคึกอีกครั้ง คราวนี้กลับเข้าอ. เกาะคาเพื่อหาที่ทำงาน ใช้เวลาอยู่พอสมควร

เซฟตำแหน่งเสร็จ ก็หาโรงแรม ซึ่งวนอยู่หลายรอบก็ไม่เจอ แว่บไปเห็นอพาร์ทเมนท์อยู่ในหลืบๆ เอาวะ นอนนี่แหละ ถูกดี 250 บาท



ก็นอนเอาแรงเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจค่ำคืนนี้!




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2552 15:51:51 น.
Counter : 4486 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

เม่าดอยตุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




นับๆ ดูแล้วยังเหลืออีกหลายอุทยานเลยที่ยังไม่ได้ไป ว่าแล้วก็กางแผนที่ ออกเดินทางพิชิตอุทยานกันต่อไป..
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เม่าดอยตุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.