เมื่อผมกลายเป็นแมลงสาบ

หลังเลิกเรียนมา ผมพบว่าตัวเองไม่มีอะไรจะทำ
และด้วยนิสัยอันไม่ค่อยเอาการเอางานของผมบอกว่า การบ้านก็งั้นๆ ไม่ด่วนเท่าไร
เอาไว้ตอนใกล้จะส่งค่อยทำดีกว่า ผมก็เลยคว้าเอาเบียร์ที่ดองไว้ในตู้เย็นออกมา
ลิ้มรส

อืม...เย็น ขม กลมกล่อม เอิ้ก...

ตอนแรกว่าจะกินแค่กระป๋องเดียว ไปๆ มาๆ จำนวนกระป๋องก็เพิ่มขึ้นมารายรอบตัว
อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เมาสุดๆ

ด้วยความเมาทำให้ผมไม่สามารถครองสติสัมปะชัญญะได้ไหว ผมเลยฟุบหลับไป
เวลาผ่านไปนานเท่าไร ผมไม่อาจรู้ได้ รู้แต่ว่าพอตื่นขึ้นมาก็มีบางอย่างผิดปกติ

ทำไมของรายรอบตัวผมถึงได้ดูผิดสังเกต

หมอนที่หนุนนอนกลายเป็นเนินเขาย่อมๆ ตุ๊กตาหมีตัวที่นอนกอดนอนประจำกลาย
เป็นหมียักษ์ หันไปมองรอบตัวทุกสิ่งทุกอย่างใหญ่มหึมาไปหมด

"เฮ่ย ! เฮ้ย ! เฮ้ยยยย ! มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย !"
หัวสมองเตลิดเปิดเปิง สติสตังไม่อยู่กับตัว ผมวิ่งพล่านวนไปวนมาบนเตียง แต่พอ
วิ่งมาถึงขอบเตียงกลับต้องหยุดกึก ขอบเตียงกลายเป็นหน้าผาที่สูงชันไปซะแล้ว

ผมหยุดนิ่ง ไร้ความคิด

ผมชะโงกหน้าลงไปมองที่ก้นหน้าผา ประมาณความลึกโห... มันลึกเอาเรื่องเลยล่ะ
แล้วอย่างนี้จะลงจากเตียงยังไงเนี่ย มีหวังติดแหง็กอดตายอยู่ที่นี่แน่ ผมเริ่มคิดวิตก
กังวลและฟุ้งซ่าน ยืนอ้าปากค้าง สายตาของผมทอดมองไปยังก้อนหินก้อนเบ้อเริ่ม
ที่อยู่ตรงพื้นข้างล่าง รูปทรงและสีสันมันช่างเหมือนขี้จิ้งจกซะจริงๆ

ยืนไร้สมองที่ขอบเตียงอยู่พักใหญ่ จู่ๆ ผมเห็นบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวไปมาอยู่
บ้างบนหัวของผม มันเป็นเส้นยาวๆสองเส้นที่ส่ายขึ้น ลง พอผมเงยหน้าขึ้นไปดู
มันก็เคลื่อนที่ขึ้นหนี หันไปซ้าย มันก็ไปซ้ายตาม หันไปขวา มันก็ยังไปขวาตาม
ผมสงสัยอย่างเป็นที่สุดเลยเอื้อมไปคว้ามาดู แต่พอเห็นมือตัวเอง ผมก็ชะงัก

มือผมมันเปลี๊ยนไป๋

มันเรียวเล็กเป็นปล้องสีน้ำตาลแถมมีเงี่ยงด้วย ผมตกใจ รีบยกมืออีกข้างขึ้นมาดู
มันก็เป็นเหมือนกัน พอสำรวจตัวเองพบว่ามีขาเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ข้าง เนื้อตัว แขน
ขา สีเดียวกันไปหมด ลักษณะอย่างนี้ชัดเลย

เมาค้างนี่เอง นอนต่อดีกว่า
.
.
.

โครก !

เสียงท้องร้องปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทันทีที่ตื่น ผมรีบสำรวจร่างกายตัวเองก่อน
เป็นอันดับแรก โดยไม่สนใจอาการโวยวายของกระเพาะ มันยังเหมือนเดิม แขน ขา
เป็นปล้องสีน้ำตาลที่ดูคุ้นๆ เหมือนจะเห็นอยู่เรื่อยๆ

ว้ากกกก ! ตูกลายเป็นแมลงสาบไปซะแล้ว !!!

ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ นี่ต้องเป็นฝัน ใช่ ฝันแน่ๆ ผมพยายามบอกตัวเองว่านี่คือฝัน
ก่อนจะเอามือมาตบหน้าตัวเอง แต่มือผมมันไม่มีฝ่ามือซะแล้ว ผมเลยตบหน้า
ตัวเองไม่ได้ ต้องใช้การเคาะหน้าแทน แต่ผลที่ได้คือมันเจ็บ ไม่ว่าจะเคาะกี่ทีก็เจ็บ
อ้าวเวรไม่ใช่ฝันซะแล้ว แล้วมันอะไรล่ะ ผมนิ่งงันพยายามๆหาเหตุผลมาตอบตัวเอง

อ้อ ! แมททริกซ์ไง ตอนนี้ผมอยู่ในแมททริกซ์แมลงสาบ
... บ้าแล้ว ! มันใช่ซะที่ไหน มันเรื่องจริงแน่นอน ผมกลายเป็นแมลงสาบไปแล้ว !

"ทำไมล่ะ ทำไม ทำไม ทามม๊าย !!!"
ผมเงยหน้าขึ้น แหกปากกู่ตะโกนกึกก้อง มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย มันเป็นได้ยังไง
ผมหันรีหันขวางไปมา พอมองเห็นกำแพง (เตียงนอนของผมชิดกำแพง) ผมเลยวิ่ง
เข้าใส่ กะจะเอาหัวโขกกำแพงให้ตื่นจากความฝันหรือไม่ก็ทำลายระบบแมททริกซ์
เผื่อว่าเอ็นทรี่ปลั๊กจะหลุด แต่ด้วยว่าวิ่งมาเร็วเกินไป ผมก็เลยหยุดไม่อยู่ พอไปถึง
กำแพง ตัวของผมก็ยังพุ่งต่อไปอีก ผมใช้ทั้งแขนและขาสี่ข้างยันผนังไว้ก็ยั้งไม่อยู่
จนในที่สุดร่างของผมก็ถลำขึ้นไปวิ่งต่อบนผนัง

เฮ้ย ! ผมไต่ผนังได้เว้ยเฮ้ย !

ใช่แล้ว ! ผมกลายเป็นแมลงสาบไปแล้วนี่ ดังนั้นผมก็น่าจะสามารถทำอะไรได้เหมือน
แมลงสาบสิ ผมเลยลองไต่ผนังสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ดู มันไต่ได้แฮะ แต่พอหันกลับลง
มาข้างล่าง มันสูงซะจนพาลใจหวิว แข้งขาสั่น ผมเลยไต่ลงกลับมาที่เตียงคืน ผม
ลองไต่ไปมาทั้งบนผนัง หัวเตียงและลองไต่ลงจากเตียง โอ้ว ! ผมทำได้แฮะ ตอนนี้
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสไปเดอร์แมนกลายๆเลยแฮะ

เป็นแมลงสาบเนี่ย มันก็ดีไปอีกแบบ

โครก !

ท้องผมส่งเสียงเตือนอีกคนั้งเพื่อดับความฟุ้งซ่าน ผมต้องออกหาอะไรใส่ท้องซะ
ก่อนที่มันจะโวยวายมากกว่านี้ ผมก็เลยไต่ขึ้นโต๊ะญี่ปุ่น ยำปลากระป๋องที่ทำไว้แกล้ม
กับเบียร์เมื่อคืนยังเหลืออยู่ ผมกินเศษชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งก็อิ่มเสียแล้ว เป็นแมลงสาบ
นี่ช่างประหยัดอาหารดีเสียจริงๆ

พออิ่ม สมองก็เริ่มทำงาน ผมเริ่มกลับมาคิดหาสาเหตุที่ทำให้ตัวเองกลายเป็น
แมลงสาบ แม้ว่าจะย้อนไล่ทบทวนยังไงก็ไม่เห็นจะมีสิ่งใดที่สมเหตุสมผลที่จะมา
อธิบายถึงการที่ผมแปลงร่างแบบนี้เลย

ผมมืดแปดด้าน

ช่างหัวมันดีกว่า มันเกิดขึ้นมาแบบไม่รู้ที่มาแล้วผมจะรู้วิธีกลับคืนร่างเดิมได้ยังไง
คิดมากไปก็ไม่มีอะไรงอกเงย สู้ออกสำรวจดูรอบๆ ดีกว่า เผื่อจะเจอเบาะแสอะไร
บ้างก็ได้ ผมเลยออกเดินสำรวจไปทั่วห้อง ห้องกลายเป็นพื้นที่มหึมา ของที่เคยใช้
อยู่ทุกวันก็ใหญ่โตมโหฬาร สร้างความตื่นตาตื่นใจและอาการเหงื่อตกให้แก่ผมไป
พร้อมๆ กัน

กินเวลาและแรงกายอยู่นาน ในที่สุดผมก็สำรวจจนทั่วห้อง ได้ผลสรุปว่ามันก็เป็นห้อง
ของผมเหมือนเดิม ไม่มีวงกลมปริศนา เครื่องมือวิทยาศาสตร์ล้ำยุค ขวดยาพิลึก ๆ
หรือสิ่งอื่นใดที่น่าสงสัยว่าจะทำให้ผมกลายเป็นแมลงสาบแต่อย่างใด แม้ว่าผมลอง
กินเบียร์ที่เหลือค้างตามขอบกระป๋็องดูแล้ว แม้ว่าจะเมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมกลับคืน
ร่างคน ไอ้ครั้นจะลงไปอาบในกระป๋องเลย ก็กลัวว่าตัวเองจะกลับขึ้นมาไม่ได้ กลาย
เป็นแมลงสาบกระป๋องไป ผมก็เลยหยุดทำทุกอย่าง ทอดอาลัยอย่างหมดหวัง

แต่ทันใดนั้น แสงสว่างก็ทอมาที่ผม

ผมมองไปที่แหล่งกำเนิด มันเป็นช่องว่างระหว่างประตูกับพื้น พอผมเห็นเข้า ผมก็
เลยตัดสินใจออกไปสำรวจข้างนอก

พอออกมาก็พบว่าระเบียงทางเดินยาวสุดลูกหูลูกตา ผมรู้สึกท้อแท้และห่อเหี่ยวขึ้น
มาทันที แล้วแบบนี้ตูจะไปไหนรอดฟ่ะเนี่ย แต่พอมองดูที่วางรองเท้าหน้าห้อง ผมก็
ขนลุกซู่ขึ้นมา

รองเท้าผมหายไป !

นี่หมายความว่า ร่างของผมออกไปข้างนอกสิท่า รึว่าผมสลับร่างกับแมลงสาบ !
ไม่น่าใช่ เพราะถ้าแมลงสาบอยู่ในร่างผม มันก็ไม่น่าจะรู้จักการใส่รองเท้าก่อนออก
ไปเดินข้างนอก นี่แสดงว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับตัวของผมแน่นอน

ฮื่อออ ผมถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งใจขึ้นมา ที่เหลือก็รอแค่ให้ร่างของผมกลับ
เข้าห้องมาอีกทีแค่นั้นแหล่ะ ถ้ามันกลับมาเมื่อไรก็ค่อยหาทางกลับเข้าร่างอีกที
อาจจะเอาหัวโขกกัน หรือไม่ก็กัดมัน หรือไม่ก็บางทีอาจคุยกันสื่อสารกันรู้เรื่องก็ได้
มั้ง

ระหว่างที่ผมหมุนตัวกลับเข้าห้องอีกครั้ง สายตาก็ดันไปเห็นรองเท้าผู้หญิงขนาด
มหึมา จอดอยู่หน้าห้องที่ถัดจากห้องของผมไปสองห้อง ดูท่าเจ้าของห้องน่าจะอยู่
ในห้อง ผมเองก็เคยเห็นเธออยู่บ่อยๆ น้องเขาเป็นนักศึกษาหน้าตาน่ารักซะด้วยสิ

ความจังไรก็ผุดขึ้นมาในหัว

ตอนนี้ตูเป็นแมลงสาบซึ่งเป็นแมลงที่น่ารังเกียจอยู่แล้ว ถึงทำทุเรศขนาดไหน ก็ไม่
น่ารังเกียจมากไปมากกว่าเดิมได้หรอก คิดได้ดังนั้น ผมก็หัวเราะฮี่ ๆๆ ออกมาอย่าง
ชั่วร้าย

แอบไปดูน้องเขาดีกว่า

ผมวิ่งตุปัดตุเป๋เนื่องไม่ชินกับการที่มีขาถึงหกขา มุดลอดช่องใต้ประตูเข้าไปในห้อง
เป้าหมาย พอเข้าไปได้ก็เห็นเจ้าของแต่งชุดนักศึกษาตามแบบสมัยนิยม นั่งห้อยขา
ลงมาจากเตียง เจ้าตัวกำลังโทรศัพท์ส่งเสียงคิกคัก ๆ อย่างสนุกสนานโดยไม่ได้
สนใจสิ่งแปลกปลอมที่ลักลอบเข้าไปในห้องของเธอแต่อย่างใด

ผมมองที่ข้อเท้าขึ้นไล่สายตาโลมไล้เนื้อขาวนวลเนียนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ผิวสาวนี่ดีจัง
เมื่อได้มองทีไรก็ทำให้เกิดอารมณ์สุนทรีทุกที อา... น่าเคลิบเคลิ้มเสียจริง

วี้ดดดดดดด !

จู่ๆ เสียงร้องอย่างตื่นตระหนกดังขึ้น ร่างของผมลอยละลิ่วกระแทกเข้ากับตัวตู้เย็น
ก่อนจะร่วงลงเข้าไปใต้มัน ผมหงายท้องชักแหงก ๆ เนื่องจากจุกอย่างแรง

ตะเกียกตะกายอยู่พักใหญ่ ผมจึงสามารถคว่ำตัวกลับมาเป็นปกติได้ เมื่อตั้งหลักได้
ผมก็สบถให้ตัวเอง นี่เป็นเพราะว่ามัวแต่เคลิ้มอยู่แท้ๆ เลยไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้เดินเข้า
ไปใกล้จนเผลอไต่ขึ้นขาน้องเขา พอเขารู้สึกตัวก็เลยสะบัดขาหนีอย่างแรง จนต้อง
มาเจ็บตัวแบบนี้

สถานการณ์เริ่มไม่ดีซะแล้ว ผมต้องรีบหาทางออกไปโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจจะโดน
อะไรร้ายแรงจนถึงตายก็ได้ เมื่อคิดได้ผมก็รีบซอยขาทั้งหกวิ่งออกจากใต้ตูเย็นทันที
แต่ก่อนที่จะออกมาได้ อยู่ๆ ผมก็เห็นมือน้องเขาถือชอล์กสีขาวกำลังลากเส้นบนพื้น
ขวางหน้าผมไว้ ผมหันหน้าหนีกะจะวิ่งไปทางอื่น น้องเขาก็ยังตามขีดเส้นขวางหน้า
ไว้ จนในที่สุดตู้เย็นก็ถูกล้อมด้วยเส้นสีขาวนั้น

ทำอะไรของเธอ ? ผมรู้สึกสงสัยว่าเธอขีดเส้นนั้นขึ้นมาทำไม ก็เลยเดินเข้าไปหามัน
แต่แค่เข้าใกล้แค่นั้นผมก็ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงเหมือนยาฆ่าแมลงไม่มีผิด รู้สึกถึง
อันตรายจากเส้นนั้นทันที มันคืออะไรเนี่ย สมองผมปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ชอล์กสีขาว ขีดรอบตู้เย็น กลิ่นเหมือนยาฆ่าแมลง ...

มันชอล์กอีหล่านี่นา !

เวรแล้ว น้องเขาคิดจะขังผมให้อดตายใต้ตู้เย็นนี้หรือไง ไม่ใช่ น้องเขาต้องไม่ได้คิด
แค่จะขังอมไว้ใต้ตู้เย็นอย่างเดียวแน่ๆ หัวสมองผมเริ่มคิดถึงสิ่งที่ผมเคยทำกับ
แมลงสาบเอาไว้ เช่น ใช้เท้าเตะ ใช้ไม้กวาดทุบแล้วค่อยกวาดทิ้ง ใช้ยาฆ่าแมลงพ่น
ใส่ตัวมันแล้วนับว่าจะตายเมื่อไร

สิ่งเลวร้ายที่เคยทำกับแมลงสาบจะย้อนกลับมาหาผมงั้นเรอะ

ไม่ได้การแล้ว ผมต้องรีบหาทางออกจากนี่ แต่จะทำยังไงดี ผมไม่สามารถผ่านเส้น
ชอล์กไปได้ สัญชาตญาณของแมลงสาบมันยังรุนแรงอยู่ มันไม่ยอมให้ผมวิ่งผ่าเส้น
นั้นเลย และก็ดูท่าผมไม่สามารถกระโดดข้ามมันได้ เพราะระยะปลอดภัยที่ผมสามารถ
ยืนห่างเส้นนั้นได้ก็อยู่ไกลเกิน ผมต้องหาสะพานข้ามหรือไม่ก็ตรงที่เส้นขาดตอน
แต่พอสำรวจรอบตัว มันไม่มีช่องโหว่เลย เส้นต่อเนื่องไม่ขาดตอน ผมโดนซีซ่าร์
ทำกำแพงล้อมซะแล้ว เหลือทางฝ่าออกไปได้ทางเดียวเท่านั้นนั่นคือต้องเหาะข้าม
แต่ผมเหาะไม่ได้นี่ ตอนนี้ผมเป็นแมลงสาบไม่ใช่ซุปเปอร์แมน ทำได้อย่างเก่งก็แค่
บินเท่านั้น .....บิน ?

ใช่แล้ว ! บินไง ! ตอนนี้ตูเป็นแมลงสาบ ตูก็ต้องบินได้สิ

ผมรู้สึกลิงโลด รีบวิ่งไปข้างหน้าราวกับเครื่องบินกำลังทะยานอยู่บนรันเวย์ ก่อนจะ
กางปีกกระพือพร้อมกับกระโจนออกบินจากใต้ตู้เย็นข้ามเส้นชอล์กสีขาวไป

วี้ดดดดดดด !

เนื่องจากไม่ชินกับสภาพความเป็นแมลงสาบ ผมก็เลยไม่สามารถควบคุมการบินได้
ผมเลยพาร่างบินเข้าไปใส่หน้าน้องเขา ทำให้เธอตกใจ ส่งเสียงร้องหวีดออกมา
พร้อมกับลนลานหนี แถมไม่หนีปล่าว คุณเธอใช้ชอล์กอีหล่าที่อยู่ในมือวาดเป็นรูป
ไม้กางเขนขึ้นมากลางอากาศ เพื่อกันไม่ให้ผมเข้าใกล้

พี่เป็นแมลงสาบนะหนู ไม่ใช่ผีฝรั่ง

ผมพยายามบินหนีออกจากน้องเขา แต่ควบคุมการบินได้ยากมาก แทนที่จะหนีออก
ห่าง กลับกลายเป็นบินฉวัดเฉวียนรอบตัวแทน พอมันอย่างนั้น น้องเขาก็ยิ่งหวีดร้อง
ลนลาน ทุรนทุรายอย่างน่าสงสาร แต่แล้วจู่คุณเธอก็คว้าหมอนได้ แล้วก็เอามาหวด
เข้าใส่ผมเต็มแรง ร่างผมถูกฟาดจนลงมากระแทกที่พื้น ความเจ็บปวดจากทุกส่วน
ของร่างกายระดมโจมตีผม แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสำออย ทันทีที่ได้สติ ผมรีบกระเสือก
กระสนออกจากห้องโดยทันที โดยที่น้องเขายังคงหลับตาหวดหมอนไปมาอยู่

โอ้ก... ทั้งจุกทั้งเจ็บ

ผมหอบหายใจ เกือบเอาชีวิตไปทิ้งห้องนั้นเสียแล้ว โอย เจ็บไปทั่วทั้งตัวเลย แข้ง
ขาหักหรือเปล่าเนี่ย ผมสำรวจร่างกายยังดีที่ข้างนอกไม่มีส่วนไหนบุบสลาย แต่
ข้างในนี่สิ คงจะช้ำเอาเรื่องเลยล่ะ

ผมพักจนพอมีแรงสักหน่อย จึงค่อยตะกายกลับเข้าห้อง คิดในใจ สงสัยเวรกรรมติด
จรวด ถึงได้ตามมาเร็วถึงขนาดนี้ โอย เข็ดจนวันตาย จะไม่คิดจังไรแบบนี้อีกแล้ว
ผมลากตัวเพื่อกลับ แต่ก่อนจะถึงห้อง จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับไขกุญแจ
เปิดประตูหายเข้าไปในห้องของผม

นั่นมันตัวผมนี่ !

ผมรีบวิ่งกลับเข้าห้อง พอลอดประตูเข้าไปได้ ผมก็เห็นร่างของผมยืนตะหง่านอยู่ใน
ห้อง ผมดีใจมากรีบวิ่งไปหาทันที



ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใครจ้องมอง พอหันไปข้างหลังก็เห็นแมลงสาบตัวหนึ่งวิ่ง
เข้ามาใส่ผม ผมก็เลยเตะมันเต็มแรง ร่างของมันพุ่งผ่านลอดใต้ช่องประตูออกไป
นอกห้องอย่างรวดเร็ว

มาจากไหนฟ่ะ ไอ้แมลงสาบ

ผมคิดในใจ ปกติห้องผมไม่มีกระจั๊วมาเพ่นพ่าน แต่พอผมมองไปที่โต๊ะญี่ปุ่น ก็เห็น
กับแกล้มและกระป๋องเบียร์ที่ดื่มเมื่อคืนเกลื่อนกลาด สงสัยมันคงได้กลิ่นอาหารก็เลย
เข้ามาหากิน ผมจึงจัดเก็บกวาดโต๊ะ เอาขยะทิ้งใส่ถัง แช่จานชามเตรียมจะล้าง
แต่อยู่ๆ ห้องก็ถูกคนเคาะ

"พี่คะ ช่วยหนูหน่อยคะ แมลงสาบเข้าห้องหนู พี่ช่วยฆ่ามันให้หน่อยสิคะ"
น้องนักศึกษาที่พักอยู่ถัดไปสองห้องมาขอช่วยเหลือผม

"ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปดูให้"
ผมรับคำ ก่อนจะออกจากห้องของตัวเองเพื่อไปล่าแมลงสาบที่ห้องของน้องเขา
โดยลืมแมลงสาบที่ตัวเองเตะออกมาเสียสนิท



Create Date : 17 ธันวาคม 2551
Last Update : 17 ธันวาคม 2551 3:03:21 น. 1 comments
Counter : 534 Pageviews.

 

อืมม แล้วตอนตีสามกว่าๆนี่ คุณเป็นคนหรือแมลงสาบอยู่ฮะ ?


คำเตือน ... โปรดระวังคราวหน้าหากมันเกิดขึ้นอีก มีความเป็นไปได้ว่า ระหว่างที่คุณกำลังเป็นแมลงสาบอยู่ เจ้าแมลงสาบในร่างคนของคุณอาจจะกำลังเดินไปซื้อไบก้อนอยู่ก็ได้


โดย: ภูติ IP: 161.200.255.162 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:9:23:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

garnet19th
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add garnet19th's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.