เพลาเพลิน บูติค รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ แคมป์ อยู่ที่ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ห่างจากอำเภอเมือง 32 กิโลเมตรเท่านั้นเอง เพลาเพลินเป็นที่เทียวแบบศูนย์การเรียนรู้ ภายในมีทั้งอุทยานดอกไม้สวยงาม,ต้นไม้หลายหลายสายพันธุ์ สถานที่จัดสัมมนา, แหล่งทัศนศึกษาสำหรับเยาวชน กิจกรรม Adventure, ขับรถ ATV,ฟาร์มเลี้ยงแกะและยังมีรีสอร์ทน่ารักๆอีกด้วยค่ะ
แผนที่การเดินทาง
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ราคา 150 และเด็กราคา 80 บาท รวมค่าเข้าอุทยานดอกไม้แล้วค่ะ
เริ่มจากโซนต้อนรับก่อนเลย ชั้นล่างเป็นห้องโถงรับรอง พักผ่อน และมุมกาแฟ ชั้นบนจัดเป็นห้องสัมมนา
มุมต้อนรับอยู่ด้านหน้า มีของสะสม มุมเก๋ๆให้ได้เก็บภาพกันหลายจุดเลยค่ะ
เพ ลา เพลิน มีพื้นที่มากกว่า 300 ไร่
จัดพื้นที่เป็น 3 ส่วนคือ
ส่วนที่ 1 บูติครีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ แคมป์
ส่วนที่ 2 อุทยานไม้ดอก (FLORA)
ส่วนที่ 3 ศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตร และปศุสัตว์ฟาร์ม
เริ่มพาไปชมตั้งแต่โซนแรกเลยนะคะ จุดนี้เป็นภาพวาดสามมิติ จัดเป็นมุมเล็กๆให้ได้ถ่ายภาพกัน
ถัดมาด้านซ้ายมือ มีสตูดิโอถ่ายภาพ มีชุดต่างๆให้เลือกใส่เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
โซนกาลครั้งหนึ่ง แกลเลอรี่ (Once Upon A Time Gallery) จุดนี้จะเป็นจุดแสดงของสะสมโบราณต่างๆ ทั้งเครื่องดนตรีสากลสมัยโบราณและส่วนของศิลปวัฒนธรรม
KIDS ZONE มีกิจกรรม ของเล่น ให้เด็กเล่นตามจินตนาการ
ถัดมาเป็นจุดเลี้ยงแกะ " บ้านกังหันลม " มีแกะวิ่งเล่นหลายตัว สามารถให้อาหารได้
ส่วนต่อไปเป็นโซนงานวัด มีกิจกรรมตักไข่ให้ได้เล่นกัน โซนนี้ตกแต่งได้น่ารักดี
โซนกิจกรรมผจญภัย โซนนี้จะจำลองสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์และสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงของโลกเอาไว้เป็นฐานฝึกกิจกรรมต่างๆ
กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China) สิ่งมหัศจรรย์ของโลก จุดนี้จะเป็นกิจกรรมปีนกำแพงหน้าผา ซึ่งติดปุ่มหินเทียมสำหรับจับการปีน ปีนตาข่ายเชือกใยแมงมุมเดินข้ามสะพานตาข่ายเชื่อมระหว่าง กำแพงเมืองจีนไปยังหอไอเฟล
หอเอนปิซา (Pisa Leaning Tower) เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก จุดนี้เป็นกิจกรรมโรยตัวทางดิ่งด้วยอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัย
Stonehenge
อุทยานไม้ดอก ณ เพ ลา เพลิน
ภายในพื้นที่แสดงดอกไม้ แบ่งโซนจัดการแสดงไม้ดอกออกเป็น 6 โรงเรือน ดังนี้
โรงเรือนที่ 1 จัดแสดงพรรณไม้ตามฤดูกาล
โรงเรือนที่ 2 จัดแสดงพันธุ์เฟินภายใต้คอนเซ็ปต์ ป่าดึกดำบรรพ์
โรงเรือนที่ 3 จัดแสดงสับปะรดสีและพืชกินแมลง ภายใต้คอนเซ็ปต์ สีสรรแห่งธรรมชาติ
โรงเรือนที่ 4 จัดแสดงกล้วยไม้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ กินรี
โรงเรือนที่ 5 จัดแสดงพืชทะเลทราย ภายใต้คอนเซ็ปต์ มหาพีระมิด
โรงเรือนที่ 6 จัดแสดงดอกหน้าวัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ ศิลปะอีสานใต้
เริ่มจากโรงเรือนที่ 1 จัดแสดงพันธุ์ไม้ตามฤดูกาล ซึ่งจะจัดแสดงพันธุ์ไม้ตามฤดูกาลต่างๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
เริ่มด้วยไม้เมืองหนาว คือ ดอกทิวลิปฮอลแลนด์ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 31 มกราคม
เดือนกุมภาพันธ์ เมษายน จัดแสดงดอกลิลลี่
เดือนพฤษภาคม กรกฏาคม จัดแสดงดอกกระเจียว (ปทุมมา)
เดือนกันยายน พฤศจิกายน จัดแสดงดอกไฮเดรนเยีย
ช่วงที่เรามาชมเป็นช่วงของการแสดงดอกกระเจียวค่ะ ซึ่งดอกกระเจียวของที่นี่จะมีหลากหลายสายพันธุ์มาก ภายในโรงเรือนตกแต่งสวยงามสไตล์ฮอลแลนด์
โรงเรือนที่ 2 จัดแสดงพันธุ์เฟิร์นภายใต้คอนเซ็ปต์ ป่าดึกดำบรรพ์ โซนนี้น่าจะถูกใจเด็กๆ ท่ามกลางดงเฟิร์นนานาชนิดเหล่านี้จะมีไดโนเสาร์ ทั้งชนิดกินพืชและกินเนื้อแทรกตัวอยู่
เฟิร์นนาคราช
โรงเรือนที่ 3 สีสันแห่งธรรมชาติ จัดแสดงสับปะรดสีและพืชกินแมลง
โรงเรือนที่ 4 อาคารกินรี โดยจัดในบรรยากาศวรรณคดีเรื่องพระสุธน มโนราห์ มีเหล่ากินรีลงเล่นน้ำ พรานบุญจับกินรีอยู่ท่ามกลางดงป่ากล้วยไม้หายากนานาพันธุ์
โรงเรือนที่ 5 มหาพีระมิด อาคารทะเลทราย จัดแสดงตะบองเพชร (แคคตัส) สีสวยและไม้อิ่มน้ำ พืชประจำถิ่นแถบทะเลทรายพร้อมจำลองพีระมิดและสุสานฟาโรห์
โรงเรือนที่ 6 ศิลปะอีสานใต้ จัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบอีสานใต้ มีผ้าไหม หม่อน บ้านเรือนจำลอง เพื่อให้เห็นธรรมชาติของชาวอีสานใต้ที่งดงาม นอกจากนั้นยังจัดแสดง หน้าวัวใบ และ หน้าวัวดอก ที่นิยมใช้เป็นไม้ประดับ
และช่วงที่เราไปก็มีการจัดกิจกรรมวันแม่ด้วยค่ะ มีการจุดเทียนชัยถวายพระพรและมินิคอนเสิร์ตของ ว่าน ธนกฤต รวมถึงมีกิจกรรมแจกรางวัลด้วย
ส่วนด้านนอกก็จะมี ร้านขายของที่ระลึกและกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้จัดสวนถาดด้วยตัวเองด้วย
นอกจากโรงเรือนเพาะทั้ง 6 นี้แล้ว ยังมีอีกส่วนซึ่งจัดให้ชมการเพาะเลี้ยงพันธุ์พืช มีแปลงผลิค, โรงเรือนอนุบาลพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ เพื่อให้เรียนรู้และเข้าใจวิถีของอาชีพเกษตรกรรม แบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
โซนนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถนั่งรถรางไฟฟ้าเข้าไปชมได้โดยรอบ จะปั่นจักรยานหรือจะเลือกขับ ATV ก็มีให้บริการด้วยค่ะ
บริเวณนี้เตรียมทำการปลูกสตรอเบอรี่ในฤดูหนาวด้วยค่ะทำพื้นที่ไว้น่ารักเชียว นอกจากนี้ยังมีทุ่งคอสมอสด้วย ถ้ามาหน้าหนาว น่าจะสวยทีเดียว
จุดนี้จะเป็นโรงเรือนควบคุมอุณหภูมิ ทำการปลูกพืชเมืองหนาว เพื่อเตรียมใช้ในการจัดแสดงพืชพันธุ์ในฤดูหนาว
ถัดมาจะเป็นจุดแสดงพันธู์ต้นไม้ต่างๆ ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากจุดนี้ด้วยค่ะ
แปลงนี้จะปลูกเสาวรสค่ะ ลูกดกเชียว นอกจากภาพที่นำมาฝากแล้วด้านในก็ยังมีแปลงอื่นๆอีกหลายพันธุ์เลย แต่เนื่องจากฝนตกและลมค่อนข้างเลยเก็บภาพมาไม่ครบนะคะ
กลับมาที่โซนที่พักเพลาเพลินกันบ้าง
อาคารที่พักมี 2 ชั้นๆ ละ 10 ห้อง เน้นการตกแต่งห้องพักเป็น ASIA ZONE และ EUROPE ZONE
ตกแต่งตามเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละประเทศ
วันนี้ห้องที่เราพักคือ ห้องฝรั่งเศสค่ะ บรรยากาศภายในห้องกว้างพอสมควร ข้าวของต่างๆก็เน้นเป็นแนวฝรั่งเศสทั้งนั้น เตียงนอนนุ่มสบายๆดี
ในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ
ห้องน้ำจะแยกห้องอาบน้ำและห้องสุขาออกจากกัน พื้นที่ห้องน้ำกว้างพอสมควร มีเครื่องใช้ในห้องน้ำให้อย่างครบครัน
อาหารเช้าของรีสอร์ท มีทั้ง ABF,เมนูข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยวต่างๆให้เลือกและยังมีไลน์ Buffet ที่มีให้เลือกหลากหลายพอสมควร
ทริปนี้เรายังได้มีโอกาสไปชม สนาม i-Mobile Stadium หรือ Thunder Castle Stadium ซึ่งอยู่ห่างจากเพลาเพลินไม่ไกลมากนักi-Mobile Stadium เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งอยู่ที่ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแห่งนี้มีความจุ 24,000 ที่นั่ง โครงสร้างประกอบด้วยเหล็กและไฟเบอร์ ซึ่งสร้างด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท
โดยเป็นเงินสนับสนุนของ i-Mobile และบางส่วนของนายเนวิน ชิดชอบ จัดเป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยและยังได้บันทึกลงกินเนสบุ๊คว่าเป็นสนามฟุตบอลในระดับฟีฟ่าแห่งเดียวในโลกที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน
สนามกีฬาแห่งนี้ถือว่าเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมไม่ขาดสายเลย การเข้าชมในสนามนั้น ไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่ลงทะเบียนแล้วเข้าชมตามรอบที่จัดไว้ค่ะ
สินค้าที่ระลึกที่น่าสนใจคงไม่พ้นเสื้อกีฬา ที่หลายคนหอบหิ้วกันไปเป็นของฝาก
ไม่ไกลจากสนามกีฬาไอโมบาย ก็มีอีกแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจน เป็นที่ประดิษฐานรองพระพุทธบาทจำลอง และมีพระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์ อยู่บนยอดเขา จากจุดด้านบนสามารถมองเห็นวิวเมืองบุรีรัมย์ได้อย่างสวยงามเลยค่ะ
มุมนี้มองลองไปเห็นอ่างเก็บน้ำเขากระโดงและเมืองบุรีรัมย์
ปิดท้ายด้วย Funny Park สวนน้ำขนาดย่อมๆ ที่มีเครื่องเล่นให้เลือกพอสมควร น้ำในสระมีการทำความสะอาดอยู่เสมอ น้ำใสน่าเล่นดีค่ะ
บัตรราคา 120 บาทสำหรับเด็ก, 180 บาทสำหรับผู้ใหญ่
ส่วนนี้จะเป็นสระของผู้ใหญ่
ส่วนด้านในจะเป็นโซนของเด็ก จะมีทั้งหมด 6 สระ เราไปชมเช้าไปนิด สระน้ำเลยยังทำความสะอาดไม่เรียบร้อย เลยเก็บภาพมาให้ชมแค่ 2 สระนะคะ
สไลเดอร์นี้ สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ
สำหรับ เพ ลา เพลิน บูติครีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ แคมป์ นี้ถือว่าเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ถือว่าครบครันมาก ทั้งความสวยงามของอุทยานดอกไม้,มุมสวยๆสำหรับการถ่ายภาพ, กิจกรรม Adventure,ที่พักที่สะอาดสวยงามน่าพัก นอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆแล้ว
ยังเป็นอีกสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกวัยทุกครอบครัวอีกด้วยนอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมในเทศกาลต่างๆจัดขึ้นอย่างสม่ำเสมอเดือนนี้ก็จะมีกิจกรรม Jurassic World กิจกรรมตะลุยโลกล้านปี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 21-30 สิงหาคมนี้
ส่วนในช่วงปลายปี วันที่ 26 ธันวาคม 2558 จะจัดงานครั้งใหญ่ที่สุด "งาน Flora Carnival 2015@Play la Ploen" ชมขบวนพาเหรดโดยนักแสดงชื่อดัง ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม พร้อม แสง สี เสียง เต็มรูปแบบ พร้อมการแสดงอีกมากมาย
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมต่างๆได้จาก Fanpage ของ Play La Ploen ได้เลยค่ะ
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่ เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ แคมป์
//www.ktc.co.th/ktcworld/Hotel/Room/Promotion/Play_La_Ploen/index.htm
ปัจจุบันนี้ บุรีรัมย์ถือว่าเป็นอีกจังหวัดที่น่าท่องเที่ยวค่ะ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติและสถานที่ที่สร้างขึ้นมาใหม่อย่างสวยงามอลังการ การเดินทางก็สะดวกมีให้เลือกถึง 2 สายการบิน ถ้ามีโอกาสลองแวะไปเที่ยวกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ