สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของเสียงจากบ้านนา ขอบคุณคนน่ารักทุกคนที่เม้นท์ให้นะคะ ก้มลงกราบงามๆพร้อมโปรยยิ้มหวาน^_^

Group Blog
 
All blogs
 

ประมวลภาพและคลิ้ปวีดีโอของเดวิด เบ็คแฮมในพิธีปิดโอลิมปิก


 4 ปีจะมีสักครั้ง เลยเก็บภาพพี่เบ็คจากพิธีปิดโอลิมปิที่กรุงปักกิ่ง + คลิ้ปวีดีโอมาไว้ในบล็อคเลยดีกว่า Smiley


ก่อนเริ่มประมวลภาพขอยกคำวิจารณืเกี่ยวกับพิธีปิดของจีนที่โกเก้ตอบในกระทู้มาลงไว้ก่อน




1. การขึ้นไปเต้นหยุบหยับบนเสาสูงของนักแสดง 300 คนนั่น เรารู้สึกเหมือนมันคือรังจอมปลวก รังมด มีดีอีตรงที่ยกชายผ้าขึ้นไปด้านบนน่ะสวยมาก

2. การแสดงร้องเพลงของนัก ร้องนักแสดง(ที่มีเรนน่ะ) เสียงดนตรีมันไม่เร้าใจ คาดว่าผู้จัดงานอยากให้นักกีฬาเต้นอย่างสนุก แต่ผลคือ นักกีฬายืนมองเฉยไม่ได้สนุกด้วยเลย เพราะอะไรรู้มั้ย ก็เพราะเพลงมันไม่ไม่เร้าใจ มันงั้นๆ

3. สาวชุดราตรีสวยงามยืนร้องเพลงงิ้ว ถามว่าเพราะมั้ยมันก็เพราะนะคะ แต่ มันน่าเบื่อชะมัดเลย (แถมลิปซิ้งอีกรู้เลยอ้าปากไม่ตรงเพลง)

4. มาถึงอีกอันที่มีนักร้องมายืนรวมกันร้องเพลงอีกแระ เอ่อ... กล้องมันก็โค้ดแต่หน้าผู้หญิงกับผู้ชาย 2 คนตรงกลางน่ะ นักร้องมันร้องกันเป็นกลุ่มไม่ใช่เหรอ

5. Smileyแจ่มที่สุด ลุงกับป้าที่ยืนร้องเพลงคู่ มันเพราะมาก ฟังแล้วขนลุก นี่สิมันคือความน่าประทับใจ สาวชุดขาวทั้งกลุ่มนั่นก็สวยมาก

4. อีกตอนที่เป็นการแสดงมีนักกีฬา 3 คนสะพายกระเป๋าขึ้นบันไดครื่องบิน (สูงมาก) ก็ดีค่ะ สื่อความหมายได้น่าประทับใจดี

แถมมุมกล้องนี่อีก ทำไมมันชอบถ่ายภาพนอกสนามจัง ไอ้เราก็อยากดูในสนาม มันก็นะ ขัดใจคุณแม่ยังพูด ลูก คนเขารอดูเบ็คแฮมกันทั้งโลก กล้องมันแทนที่จะจับภาพเค้าจนรถลับหายไป มันดันแพลนออกมาให้ดูวิวปักกิ่ง แม่รู้สึกขัดใจ (อ่ะใช่ค่ะคุณแม่  ในฐานะคนที่ชอบเบ็คสุดอย่างลูกเนี้ย สุดๆจะขัดใจเลย)


โกเก้ลุกหนีจากจอก่อนพิธีจะจบอีก ขอบอกว่าช่วงร้องเพลงนอกจากคู่ลุงป้าแล้วมันน่าเบื่อมาก ไม่โดน



Smiley

กลับมาที่ประมวลภาพเฉพาะเบ็คในพิธีปิด






สวัสดีคร๊าบ!



สุดหล่อออร่าจับมาก (สาวน้อยน่าจะลุกขึ้นยืนเนอะ)






เจอกันที่ลอนดอนเกม


ต่อจากนี้จะเป็นการรวบรวมคลิ้ปวีดีโอเท่าที่หาได้ค่ะ แปลกใจยูทู้ปไม่ให้โหลดพิธีปิดเลยนะ เข้าคลิ้ปไหนก็ไม่ได้สักอัน -*-

คลิ้ปการแสดงของอังกฤษ ช่วงเดวิดเบ็คแฮ่มปรากฏตัว





อีกอันน่าจะเป็นการสัมภาษณ์หลังจบการแสดงของอังกฤษค่ะ










บันทึกไว้ในความทรงจำ





 

Create Date : 25 สิงหาคม 2551    
Last Update : 25 สิงหาคม 2551 12:53:54 น.
Counter : 1126 Pageviews.  

คือ David Beckham ที่เสียงจากบ้านนารู้จัก (ตอนที่ 2)


นัดสุดท้ายกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


เกมนั้นจำได้ว่า
เบ็คใส่เสื้อแขนสั้นลงสนาม ก็นึกแปลกใจเหมือนกัน
แต่ก็ยังมองโลกในแง่ดีว่าบางทีเบ็คอาจจะร้อน อยากเปลี่ยนแนวการใส่เสื้อของตัวเอง



ไม่ได้เอะใจสักนิดว่านั้นจะเป็นนัดสุดท้ายของเขาในฐานะนักเตะของแมนเชสเตอร์
ยูไนเต็ด



เกมจบไปด้วยสกอร์เท่าไหร่จำไม่ได้
แต่รู้ว่าแพ้ นัดนั้นเบ็คยิงไปถึง 2 ประตู
แต่ท่าทางของเขามันเฉยๆไม่ได้ยินดียินร้ายกับผลการแข่งเท่าไหร่
อาจเพราะว่าทีมแพ้ด้วย จบเกมเบ็คหันไปส่งยิ้มและปรบมือให้แฟนๆทั่วทั้งสนามเหมือนเคย




หลังจากฟุตบอลพรีเมียร์ลีกปิดฤดูกาลไป
เบ็คก็ไปรับหน้าที่กับตันทีมชาติอังกฤษเตะกระชับมิตรกับทีม
South Africa


เวลานั้นสื่อต่างตีข่าวว่า
มันเป็นเกมที่ไม่น่าจะมีขึ้นสักนิด
เพราะทีมชาติอังกฤษต้องเดินทางเป็นระยะทางที่ไกลมาก
และการนั่งเครื่องที่ยาวนานนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายของนักเตะ
แต่เท่าที่พอจำได้เกมนี้มีผลประโยชน์อะไรบางอย่างกับอังกฤษอยู่
สื่อคัดค้านไปก็ไม่มีประโยชน์




อังกฤษเตะกระชับมิตรโดยเป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ที่สวยงามอยู่
เกมจบลงได้ดีสำหรับทีมชาติอังกฤษแต่ทีมต้องสังเวยชัยชนะด้วยการบาดเจ็บรุนแรงของเบ็คที่อาการถึงขั้นข้อมือหักจากการเสียบสกัดของนักเตะคนหนึ่งในทีมคู่แข่ง




รุ่งขึ้นหลังเกมสื่อทุกแขนงตีข่าวการบาดเจ็บของเบ็ค
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ที่เน้นการเมือง
เศรษฐกิจก็กลับมีข่าวของเบ็คพาดหัวตัวโตว่า
เบ็คเจ็บหนักสังเวยชัย
ทีมชาติอังกฤษคุ้มมั้ยกับการทัวร์แอฟริกา
ฯลฯ ที่จำได้เพราะโกเก้จะซื้อหนังสือพิมพ์ทุกยี่ห้อทุกครั้งที่ทีมชาติอังกฤษลงแข่ง
และนั่นเป็นครั้งแรกที่ต้องจ่ายค่าหนังสือพิมพ์ถึง 100
กว่าบาทเพราะมันมีข่าวทุกฉบับ
!




มีเรื่องขำๆที่หนังสือพิมพ์หนึ่งเขียนถึงกรณีบาดเจ็บของเบ็คว่า
การบาดเจ็บของเบ็คทำให้คนทั้งโลกได้รู้จัก กระดูกสคาฟอย
(สะกดแบบนี้รึเปล่าจำไม่ได้) กระดูกสคาฟอย
คือกระดูกชิ้นเล็กที่เชื่อมต่อระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับกระดูกข้อมือ
ถ้ามันแตกจะสร้างความเจ็บปวดได้ทั้งแขน (โอ้ขนาดโกเก้ยังรู้ขนาดนี้เลยเห็นมั้ย
555+)




หนังสือพิมพ์บางเล่มว่ากันว่า
เบ็คถูกมนต์ดำพ่อมดหมอผี เนื่องจากการทีมจะลงเตะมีการระบำหมอผีก่อนเกม


นักเตะที่ทำเบ็คเจ็บออกมาขอโทษขอโพยเบ็คและเสนอว่าจะใช้มนต์วิเศษรักษาอาการบาดเจ็บของเค้าให้
ว่าไปกันต่างๆนานา



ข่าวช่วงข่าวเบ็คมีแต่เรื่องที่ประหลาดๆ ไม่มีใครรู้แม้แต่สื่อเองก็ไม่คาดว่าเมื่อตลาดนักเตะเปิด


เบ็คจะถูกขายให้กับรีลมาดริด


ไม่มีใครคาดคิดหรอก
เพราะหลังเบ็คกลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บกับเกมที่เล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ
สื่อยังลงข่าวว่า เฟอร์กี้คงไม่พอใจกับเรื่องนี้แน่ๆเพราะทำให้นักเตะในทีมเขาเจ็บ
เบ็คคงต้องกลับไปให้แพทย์สโมสรดูแล ฯลฯ




ตลาดซื้อขายนักเตะเปิด



จู่ๆสื่อก็ขึ้นพาดหัวว่า ตอนนี้แมนยูฯกำลังเจรจากับทีมในสเปน
เพื่อทำการขายเบ็ค




โกเก้อึ้ง
แต่ยังเชื่อว่าข่าวนี้ต้องเป็นข่าวลือแน่ๆ ไม่มีวันเป็นไปได้หรอก ใจคิดอย่างงี้แต่ก็แอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อย
มันเป็นไปไม่ได้หรอก
ใช่มั้ย?



วันต่อมาเบ็คให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า
เขายังภักดีต่อสโมสร เขายังรักและยังอยากเล่นให้กับแมนยูฯ
แม้ว่าจะหลุดไปเป็นตัวสำรองก็ตาม แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป




วันเวลาผ่านไปด้วยใจห่อเหี่ยว
ยังติดตามข่าวเบ็คอย่างต่อไปเงียบๆ เพราะเชื่อใจแมนยูฯว่าไม่มีวันเป็นสโมสรที่ขายนักเตะที่ภักดีต่อทีมขนาดนี้ออกไปจากทีมแน่ๆ




เวลานั้นโกเก้กำลังเดินทางไปเยี่ยมญาติที่อยู่ในจังหวัดสกลนคร
จำได้ว่ามันติดตามข่าวเกี่ยวกับเบ็คยากมาก เพราะทีวีก็หาดูยาก
อีกทั้งหนังสือพิมพ์ก็ไม่มีที่ไหนให้ซื้ออ่าน
เพราะหมู่บ้านญาติที่ไปมันจะเรียกว่ากันดารก็กันดาร ไม่มีอะไรเลยจริงๆ




แต่ด้วยความพยายามอย่างมากก็ตะเกียดตะกายไปดูข่าวที่บ้านญาติคนหนึ่งที่มีทีวีจนได้




และเมื่อนั้นข่าวร้ายก็ปรากฏต่อสายตา...




แมนยูฯขายเบ็คออกไปด้วยค่าตัวที่แสนถูกให้กับรีลมาดริดแล้ว...




ตอนนั้นเหมือนท้องฟ้ามืดลง เวลาหยุดนิ่ง
ความเชื่อใจต่อแมนยูถูกทำลายลงย่อยยับ


ทั้งอึ้งและช็อกกับเรื่องนี้จนทำอะไรไม่ถูก




แล้วเบ็คแฮมจะเป็นอย่างไร
เขาอยู่ที่ไหนตอนนี้




ภาพข่าวปรากฏออกมาในวันหนึ่ง
เบ็คและครอบครัวอยู่ที่อเมริกา เขากำลังอุ้มลูกน้อยและแขนขวายังใส่เฝือก พาลูกท่องเที่ยวในดิสนีย์แลนด์


สีหน้านิ่งเฉย ไม่มีคำสัมภาษณ์ใดๆหลุดออกมาจากปากเขา




ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
และจิตใจเป็นอย่างไร




ช่วงเวลาพักฟื้นของเบ็คผ่านไปประมาณ 3
เดือน เขายังเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยกับวิกตอเรียภรรยาที่รัก




หลังจากนั้นประมาณเดือนกรกฎาคม เบ็คเดินทางไปที่สโมสรรีล มาดริด
เพื่อตรวจร่างกาย และเซ็นสัญญากับสโมสรรีล มาดริด


ถ่ายภาพกับยูนิฟอร์มใหม่
สีชาวสะอาดตา เลขหลังเสื้อเปลี่ยนไปเป็นเบอร์ 23 โดยเขาให้เหตุผลว่า เขาชอบไมเคิล
จอร์แดน นักบาสเก็ตบอลในตำนาน




ตอนแรกนั้นสื่อตีข่าวว่า
เขาจะไปยึดเบอร์ 7 มาจากราอูล กัปตันทีมรีล มาดริดรึเปล่า จะมีปัญหากันมั้ย




แต่ไม่ เบ็คไม่ใช่คนที่ทำอะไรแบบนั้น
เขาไม่ได้ยึดติดกับหมายเลข 7 อย่างที่สื่อพากันคาดเดา


งานเปิดตัวของเข้ามีขึ้นที่สนามใหญ่ของรีลมาดริด แฟนๆมากมายเข้ามารอต้อนรับเบ็คถึงสนาม


มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งฝ่าการป้องกันของรปภ.เข้าไปเผื่อหาเบ็ค ภาพนั้นออกสื่อทีวีทุกช่องเลยโกเก้จำได้


รวมถึงข่าวในหนังสือพิมพ์ต่างๆที่บรรยายถึงนิสัยที่ดีในตัวเบ็คจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เขารับมือกับเด็กหนุ่มด้วยการให้สวมกอดอย่างไม่ถือตัว รวมถึงขอเสื้อจากสต๊าฟของรีล มาดริดนำมาใ่ส่ให้กับเด็กคนนั้น เพราะเห็นเด็กไม่ได้ใส่เสื้อมา


คนทั่วโลกต่างเฝ้ามองว่า เบ็คจะสามารถเข้ากับเพื่อนในทีมและแฟนบอลได้ไหม เพราะเขาเองมีทั้งความดังและเด่นมากมาตั้งแต่อยู่แมนยูไนเต็ด เขาจะมีอีโก้ตรงนี้หรือเปล่า


แต่กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่ง ช่วงเวลาไม่นาน เรามักจะได้เห็นการออกมาให้สัมภาษณ์ของเพื่อนร่วมทีมรีล มาดริดเวลานักข่าวยิงคำถามเกี่ยวกับเบ็ค นักเตะในทีมมักกล่าวว่า เบ็คเป็นคนที่ไม่มีความถือตัว ออกจะถ่อมตัวและขี้อายผิดนิสัยซุปเปอร์สตาร์



ภาพต่างๆเวลาซ้อมอยู่ในทีม เราจะเห็นอารมณ์น่ารักของนักเตะดังระดับโลก อย่าง ซีดาน ฟิโก้ ราอูล คาซิยาส เบ็คที่เล่นกัน มันเป็นภาพที่หายากมาก




 

Create Date : 28 มิถุนายน 2551    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2551 18:07:14 น.
Counter : 1763 Pageviews.  

คือ David Beckham ที่เสียงจากบ้านนารู้จัก (ตอนที่ 1)




บทนำ


"David Beckham"


จำได้ว่าครั้งแรกที่รู้จักนักฟุตบอลคนนี้คือตอนอยู่ม.ต้น หรือประถมปลายไม่แน่ใจ



ช่วงนั้นช่อง 11 สมัยก่อนจะชอบเอาเทปบันทึกการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก มารีรันบ่อยๆ



และคุณพ่อจะชอบดูมาก วันหนึ่งโกเก้อดไม่ได้ก็ไปนั่งดูด้วย เทปบันทึกนัดนั้นคือ เกม Man Utd vs Wimbledon



โกเก้ได้พบกับนักฟุตบอลที่น่าประทับใจคนหนึ่งในจอทีวีเป็นครั้งแรก ลูกยิงกึ่งกลางสนามลูกนั้นยังประทับไว้ในหัวใจไม่มีวันลืม



ผู้ชายคนนั้นเลี้ยงบอลมาด้วยท่าทางที่มั่นใจและจัดการตั้งบอลก่อนตวัดเท้าหวดลูกบอลลอยโด่งข้ามหัวผู้รักษาประตูและบอลก็โค้งเข้ากรอบอย่างสวยงาม



ตอนนั้น โกเก้ถามคุณพ่อว่า ปกตินักฟุตบอลเขายิงประตูแบบนี้ได้ด้วยเหรอ คุณพ่อบอก ไม่ลูก มีเค้าคนเดียว และสิ่งที่ลูกเห็นมันคือสิ่งมหัศจรรย์ในเกมฟุตบอล



นับแต่วันนั้นโกเก้จึงเริ่มดูฟุตบอล และทีมแรกที่เชียร์คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเบอร์ 7 ในใจคือ เดวิด เบ็คแฮม เท่านั้น!


ลูกยิงกึ่งกลางสนามมหัศจรรย์ของเบ็คแฮม



โกเก้เชื่อว่า คนที่ชอบเดวิด เบ็คแฮม และคนที่รู้จักเดวิดเบ็คแฮม คงจะเคยอ่านเรื่องราวของเค้าในหนังสือหรือในอินเตอร์เน็ตมามากแล้ว อาทิเช่น เบ็คแฮมเกิดที่ไหน พ่อแม่ชื่ออะไร มีพี่น้องกี่คน เข้าสู่สโมสรแมนยูเมื่ออายุเท่าไหร่ เป็นแฟนกับใคร ปัจจุบันทำอะไรประมาณนี้ ดังนั้นวันนี้โกเก้จึงจะไม่นำเรื่องเหล่านั้นกลับมามาลงให้อ่านซ้ำซากจำ เจ


ใครอยากรู้รายละเอียดต่างๆของเบ็คแฮม โกเก้แนะนำให้ไปตรงนี้ค่ะ Beckham Bio


โกเก้จะมาเล่าเรื่องในมุมของตัวเอง ประสบการณ์และความรู้สึกที่ได้ติดตามผลงานและชีวิตของเดวิดเบ็คแฮมมานาน มาก...ก (ลากเสียง)
(คนดังที่โกเก้ชอบอย่างยาวนานพอกันข้อมูลค่อนข้างแน่นมี 1 กลุ่มกับ 1 คน คือแบ็คสตรีทบอย และเดวิด เบ็คแฮม)



จากการติดตามผลงานอย่างยาวนานมันทำให้รู้จักผู้ชายคนนี้ ได้เห็นมาตลอดว่าเขาผ่านร้อน ผ่านหนาว และมีหัวใจของนักสู้ที่แท้จริง



หลายคนคงจำได้ถึงเมื่อครั้งที่เบ็คแฮมมีชื่อเสียงใหม่ๆ ตอนแรกก็ดังอยู่แค่ในวงการฟุตบอล หลังๆมาชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะพรีเซ็นเตอร์สินค้า
ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเดวิด เบ็คแฮม



ชื่อเสียงมาพร้อมกับความกดดันที่โถมเข้ามาหาตัวเขา คนทั่วโลกกำลังจับตามองคนๆนี้



ในฐานะของนักฟุตบอล ที่ถูกจับตามองว่าเขาเป็นพวกหน้าหล่อแล้วฝีเท้าจะเยี่ยมเท่าหน้าตาอย่างที่สื่อชื่นชมจริงรึเปล่า



ตอนฟุตบอลโลกปี 1998 เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น เรียกได้ว่านี่สมรภูมิรบครั้งใหญ่ สงครามครั้งแรกของเดวิดเบ็คแฮมเลยก็ว่าได้
ช่วงนั้นไม่มีวันไหนที่โกเก้จะไม่ได้เห็นข่าวเดวิด เบ็คแฮม



- สกุ๊ปพิเศษเดวิด เบ็คแฮม



- สัมภาษณ์สดเดวิด เบ็คแฮม



ม้วนวีดีโอม้วนแล้วม้วนเล่าหมดไปกับการบันทึกรายการต่างๆที่เบ็คแฮมมาออกในช่วงนี้





ใบแดงใบนั้นกับฝันร้าย


ทุกอย่างกำลังไปได้สวย เส้นทางเหมือนปูลาดด้วยกลีบกุหลาบตลอดทาง


ถ้าวันนั้นซิโมอาเน่ ไม่เล่นละครตบตากรรมการแกล้งล้มลงสำออยหลังจากถูกเดวิด เบ็คแฮมสะกิดขา


กรรมการไม่รอช้าและไม่เสียเวลาไตร่ตรองแม้แต่นิดเดียว ชูใบแดงไล่เบ็คแฮมออกจากสนามทันที


ท่ามกลางความตกตะลึงไปทั้งสนาม ทั้งประเทศอังกฤษ และต่อหน้าต่อตาคนทั้งโลกที่กำลังชมเกมนี้อยู่


ทุกอย่างอาจไม่เลวร้ายจนถึงที่สุด ถ้าเกมนี้อังกฤษไม่แพ้อาเจนติน่า






แต่ก็เหมือนโชคชะตาที่กำหนดไว้ว่า เบ็คแฮมต้องเผชิญกับเส้นทางขวากหนามด่านแรกของชีวิตเขา



เช้าวันต่อมาสื่อทุกแขนง ลงข่าวใบแดงของเดวิด เบ็คแฮม บ้างก็ว่าค่าโง่ บ้างก็ด่าสาดเสียเทเสีย มีภาพประกอบการ์ตูนล้อ



ทุกคนด่าเบ็คแฮมว่าทำอะไรโง่ๆ



แต่ในฐานะคนที่นั่งดูบอลในคืนนั้น โกเก้เห็นนะว่าตอนจังหวะที่ซิโมอาเน่ เสียบเบ็คแฮมล้มกระแทกพื้นอย่างแรงมันทำให้เขาเจ็บแน่ๆ


และหมอนั่นไอ้ตัวการมันก็ยืนเฉย เตรียมจะแก้ตัวกับกรรมการ วินาทีนั้นเท้าของพี่เบ็คยกขึ้นมาในลักษณะที่กำลังจะเตรียมลุกขึ้น แต่ปลายเท้าไปโดนขาของซิโมอาเน่เข้า



ด้วยสัญชาตญานของคนเลวมันก็รู้ว่าถ้ามันทำสิ่งนี้ (คือการล้มลงไปสำออย ทำเหมือนว่าเบ็คเตะมันคืน) จะทำให้รอดพ้นจากใบเหลือง และใบแดงโดยบันดาล
และมันก็ใช้ได้ เหมือนกรรมการก็รออยู่แล้ว คงคิดว่าถ้าแจกใบแดงเบ็คแฮมได้ตัวเองคงได้เกิดสินะ



ใช่พวกเขาในวันนั้นได้เกิดหมด เป็นที่รู้จัก ในฐานะที่ทำลายชีวิตเบ็คแฮมได้



จาก เหตุการณ์วันนั้นโกเก้แค้นนะ แค้นมาก เพราะก็เห็นอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร และยังยึดมั่นไม่ไหลไปตามกระแสเสียงด่าที่ประโคมใส่เบ็คแฮมทุกวัน
ที่ทำได้คือส่งกำลังใจ และอธิฐานให้ทุกอย่างมันผ่านไป ให้ขวัญใจกลับมายืนหยัดมั่นคงเหมือนเดิมให้ได้



วันเวลาผ่านไป เห็นภาพข่าวและสื่ออังกฤษรวมถึงสื่อทั่วโลกทำร้ายกาจกับเบ็คแฮมมาตลอด ใจก็ยังนึกว่าเบ็คแฮมจะทำยังไง แต่โกเก้ยังเชื่อมั่นว่าเบ็คแฮมจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้งแน่ๆ เพราะเขาเป็นนักฟุตบอลที่ดี



การกลับมา
วันหนึ่ง เป็นวันที่พรีเมียร์ ลีกเปิดฤดูกาล เบ็คแฮมปรากฏกายในเกมแรกกับแมนยูฯอีกครั้ง เสียงโห่ร้องสาปแช่งเขายังดังอยู่รอบสนาม



โกเก้ไม่อาจจะแยกแยะได้ว่า เสียงด่านั่นมาจากฝ่ายไหนในสนามกันแน่เพราะมันอื้ออึงไปหมด



กล้องโค้ดไปที่สีหน้าของเบ็คแฮมที่นิ่งสงบ และแพลนไปที่เฟอร์กี้ที่ยืนเคี้ยวหมากฝรั่งมองดูเกมอยู่ข้างสนาม



วินาทีนั้นโกเก้เกิดความเชื่ออย่างประหลาดว่า ทุกอย่างกำลังจะกลับมาเหมือนเดิมแล้ว และเบ็คแฮมกำลังจะกลับมาอีกครั้ง



แล้วมันก็ใช่จริงๆด้วย



โกเก้จำไม่ได้หรอกว่าเกมแรกในฤดูกาลรึเปล่าที่เดวิด เบ็คแฮมกลับมาอย่างมั่นใจ และได้รับเสียงโฮ่ร้องด้วยความชื่นชมอีกครั้ง



แต่ ทุกๆวันที่เบ็คแฮมก้าวลงไปในสนาม ทุกอย่างมันดีขึ้น สื่อเริ่มหันกลับมามองเขาจากที่เคยสบประมาทว่าโง่ พาดหัวข่าวเริ่มเปลี่ยนไปเป็นคำชื่นชมในเกมที่เขาเล่นได้อย่างสวยงาม




1999 แมนยูฯทริ้ปเปิลแชมป์ ช่วงเวลาแห่งความยิ่งใหญ่



เกมกับบาร์เยิร์น มิวนิคเป็นเกมที่น่าจดจำในชีวิตของเบ็คแฮมแน่ๆ


เพราะมันคือเกมส์มหัศจรรย์ที่สุดเกมหนึ่งของแมนยูฯและที่สำคัญโก้เก้กล้าพูดเลยว่ามันคือเกมที่เยี่ยมสุดๆตั้งแต่เคยดูบอลมาเลย



แมนยูเล่นได้ดี รูปเกมก็ไม่ได้เป็นรองบาร์เยิร์นนัก



แต่บาร์เยิร์นได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกฟรีคิก



และมันก็เป็น 1 - 0 แบบนี้จนจะหมดเวลาครึ่งหลัง



กล้องเริ่มแพลนไปทั่วทั้งสนาม สีหน้าของกองเชียร์แมนยูแสดงความผิดหวังออกมาเห็นได้ชัด บางคนเริ่มลุกออกไปจากสนาม ด้านกองเชียร์ของบาร์เยิร์นเริ่มโห่ร้องแสดงความดีใจ
“ มันเป็นธรรมดาของเกมฟุตบอลยัยโกเก้ “ ประโยคนี้ดังอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าโกเก้นั่งคิดปลอบใจตัวเองเพราะมองเวลา มันจะหมดครึ่งหลังแล้ว แมนยูฯกำลังพลาดแชมป์ยูฟ่าจริงๆเหรอเนี้ย โอ้ไม่นะๆ ตอนนั้นน้ำตาเริ่มคลอ แบบว่าทำใจไม่ได้ถ้าเขาแพ้ แต่... ยังเชื่อมั่นว่าแมนยูยังมีหวัง ไม่ได้ลุกไปจากหน้าจอ ตายังจ้องและยังระทึกทุกครั้งที่บอลมาอยู่ที่เท้านักเตะทีมแมนยู

มองไปริมสนามกรรมการยกป้ายทดเวลาเจ็บ 3 นาทีขึ้นมา โกเก้เกิดความเชื่อมั่นเกิดขึ้นมาแบบประหลาดอีกครั้ง ตอนนั้นมันก็แปลกรู้สึกเชื่อว่านักเตะทีมแมนยูฯทุกคนจะพยายามยิงประตูให้ได้แน่ๆ

กรรมการเป่าฟาล์ว แมนยูได้ลูกเตะมุม เดวิด เบ็คแฮมวิ่งที่มุมและตั้งบอลกับพื้นอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นสำหรับโกเก้รู้สึกว่าทุกอย่างมันเงียบหมดเลย ตาจ้องไปที่เบ็คแฮม เข้าส่งบอลออกจากเท้าทันที บอลลอยไปหน้าประตู ไม่ตรงเท้าใครเลย ทั้งกองหลัง กองหน้าต่างช่วยกันส่งบอล จนมาถึงใครคนหนึ่งซึ่งเรารู้สึกว่าคนนี้คือฮีโร่ยืนอยู่ตรงริมเส้นกรอบเขตโทษจำไม่ได้ใครก็ไม่รู้ เขาไหลบอลให้เท็ดดี้ เชอริ่งแฮมส่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

GOAL….L! เสียงเฮดังออกมาจากทีวี ขนโกเก้ลุกซู่

ตอนนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา แมนยูฯทำได้แล้ว เย้!!! แหกปากอยู่คนเดียวหน้าทีวี

ไม่ทันได้หายใจหายคอ แมนยูก็ได้ลูกเตะมุมอีกลูก ในจังหวะที่ซโรชาเลี้ยงบอลหลบและส่งให้เพื่อนหน้าประตู
คราวนี้เบ็คแฮมรีบวิ่งไปตั้งบอลด้วยท่าทางที่มั่นใจมากขึ้น และส่งบอลอย่างแม่นยำไปเข้าหัวเท็ดดี้ เชอริ่งแฮมลูกกระดอนไปลงที่เท้าซโรชาส่งเข้าประตูไปอีกครั้ง

วินาทีสุดท้ายสุดมหัศจรรย์ จู่ๆแมนยูฯก็ขึ้นนำบาร์เยิร์น 2-1



ขนลุกสุดๆเลย โกเก้จำทุกๆวินาทีได้ไม่มีวันลืม รวมถึงสีหน้านักเตะผู้พ่ายแพ้ของบาร์เยิร์นวันนั้น ความเศร้าของแฟนบอลบาร์เยิร์น

ความดีใจสุดๆของนักเตะแมนยูฯ แฟนบอลแมนยูฯ เฟอร์กี้กระโดดดีใจ ปีเตอร์ ชไมเคอร์ตีลังกาตอนแมนยูฯได้ลูกตีเสมอ

สุดๆแล้วแมนยูฯ สุดๆแล้วเบ็คแฮม...


แมนยูฯ-บาร์เยิร์น ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก นัดชิงถ้วยสุดระทึก




ตอนนั้นจำได้ด้วยว่านักเตะแมนยูฯ ชุดทริปเปิ้ลแชมป์ร่วมกันร้องเพลง Lift It High ตอนนั้นคุณพ่อ คุณแม่ฉลองแชมป์เปี้ยนแมนยูกับโกเก้ด้วยการซื้อแผ่นซีดีเพลงฉลองแชมป์ของแมนยูฯ 1999 มาให้

อัลบัมนี้มีเพลง 2 เพลง คือเพลง Lift It High เวอร์ชั่นนักเตะร่วมกันร้องเพลง และเวอร์ชั่นเพลงบรรเลงให้ร้องเอง มีดนตรีเพลงร็อคมันส์ๆอยู่ 1 เพลงค่ะ


Manchester Utd song "Lift It High"






-----------------------------------------------------------




จำใจลาจากแมนยูฯ ก้าวเดินต่อไปในยูนิฟอร์มชุดขาว เรอัล มาดริด



โปรดติดตามตอนต่อไป เร็วๆนี้




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2551    
Last Update : 26 กันยายน 2551 16:07:39 น.
Counter : 5061 Pageviews.  


เสียงจากบ้านนา
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]





Free Cursors

Friends' blogs
[Add เสียงจากบ้านนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.