|
|
|
ขอประนามรัฐบาลและตำรวจเดรัจฉาน
ขอประนามรัฐบาลและตำรวจระยำ เดรัจฉาน มีรัฐบาลกับตำรวจอย่างพวกมึง กูเอาตัวเหี้ยมา เป็นยังดีกว่า พี่น้องไทยของเรา คนดีๆไม่มีอาวุธ สามัญชนธรรมดาที่มีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ยอมออกมาสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างสันติ ต้องตายอย่างน่าเวทนา ต้องมาโดนพวกมึงฆ่าอย่างเลือดเย็นเหมือนผักปลา พวกเขาตา่ยอย่างน่ายกย่อง มีคุณค่าต่อชาติยิ่ง แต่พวกมึงทั้งๆที่มีชีวิตอยู่แต่ไม่มีคุณค่าอะไรต่อแผ่นดินไทยผืนนี้เลยแม้ สักอณูเดียว
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกคนครับ ผมไม่รู้ว่าทุกคนรู้สึกอะไร แค่ไหนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้บ้าง แต่ผมน้ำตานองหน้า ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เพราะผู้ที่ตายไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุหรือโดนฆาตกรรมเพราะเรื่องส่วนตัว แต่พวกเขาคือพี่น้องเรา ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยกับพวกเขาหรือไม่ แต่พวกเขาก็ออกมาด้วยหัวใจบริสุทธิ์ที่เชื่อว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้อง ที่เขาต้องทำเพื่อชาติ และคนไทยทุกคน นี่คือประเด็นที่น่าเศร้าที่สุด ขอไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการกระทำของรัฐบาลและตำรวจระยำ ทุกท่าน
| Create Date : 09 ตุลาคม 2551 | | |
| Last Update : 9 ตุลาคม 2551 19:21:03 น. |
| Counter : 338 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
เป็นตำรวจไทยอย่างพวกมึง กูเอาหมาที่ไหนมาเป็นก็ได้
พวกมึงมาฆ่าพี่น้องเราทำไม พี่น้องทุกคนที่มา มาด้วยความรักชาติ เค้ายอมเสียสละตัวเอง โดยไม่นึกถึงชีวิตตัวเอง พวกมึงได้รับคำสั่งมา สลายการปิดล้อมสภา แค่เพียงเพื่อให้นายกได้ประกาศนโยบาย แล้วพวกมึงไม่ได้แค่สลาย พวกมึงจงใจฆ่าพวกเรา ฆ่าพี่น้องเรา แก๊สน้ำตาบ้านพ่อมึงทำคนขาขาด แขนขาด ข้อมือขาด หัวแบะไปซีกนึงได้เหรอ ที่เกิดเหตุเจอทั้งปลอกกระสุน ทั้งระเบิดลูกเกลี้ยง จิตใจพวกมึงทำด้วยอะไร
พวกมึงมันเดรัจฉาน แล้วเสือกยังตอแหลออกโทรทัศน์ว่ามีแค่แก๊สน้ำตา หลักฐานชัดขนาดนี้ ใครเชื่อพวกมึง ก็โง่ที่สุด ไม่มีความคิด ถ้าพวกพี่น้องเราทำระเบิดโดนใส่ตัวเองกันถึงเกือบสิบคน ป่านนี้พวกมึงโดนระเบิดกันเป็นร้อยแล้ว ไอ้พวกเหี้ย
แล้วอย่ามาบอกว่ามึงไม่ได้เห็นด้วย แต่ผู้บังคับบัญชาสั่ง เพราะเท่ากับมึงไม่ได้รักชาติอย่างแท้จริง พวกมึงมันไม่สมควรเป็นตำรวจ มึงไม่กล้าขัดคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม เพียงเพราะว่ากลัวเป็นความผิด แล้วพวกพี่น้องที่มึงฆ่าล่ะ พวกเค้าไม่ได้แค่ไม่กลัวความผิดที่ไม่เป็นธรรม ไม่ได้แค่ไม่กลัวว่าจะไม่มีงานทำ แต่พวกเค้ายอมเสียสละได้แม้ชีวิต เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประเทศที่พวกมึงซุกหัวนอน
พวกมึงจึงไม่สมควรที่จะเป็นตำรวจ ไม่มีค่าพอที่จะเป็นคนด้วยซ้ำ ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ถุย!ไอ้เหี้ย!พี่น้องเราชุมนุมกันอย่างสงบ แต่พวกมึงทำลายความสงบ
พระราชินีต้องยื่นมือเข้ามาดูแลประชาชนของพระองค์ ที่บาดเจ็บ ล้มตาย ก็เพราะฝือมือของพวกมึง
เราสันติอหิงสามานาน แต่เราไม่รับประกันว่าถ้าคราวหน้า ถ้าพวกมึงยังเข่นฆ่าประชาชนที่มีมือเปล่าอีก พวกกูจะอหิงสากันอีกได้มั้ย!
ถึงทุกคนที่ได้อ่าน ผมอยากบอกว่า ถ้าคุณยังเฉยอยู่ ไม่รู้ไม่ชี้ โดยมองเป็นเรื่องของสองฝ่าย ที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง พวกคุณเข้าใจผิดอย่างที่สุด นี่คือเรื่องระหว่างชาติ กษัตริย์ ประชาชนของพระองค์ กับพวกสารเลวโกงกินชาติ ต้องการล้มล้างระบบกษัตริย์ มันจึงไม่ใช่เรื่องของการคิดต่าง มันคือข้อเท็จจริง มันคือความจริง ถ้าพวกคุณอย่างเฉยทำไม่รู้ไม่ชี้ สนใจแต่เรื่องของตัวเองไปวันๆละก็ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่รู้จักผม เป็นเพื่อนผม หรือแค่ผ่านมาแล้วได้อ่าน จำคำผมไว้ พวกคุณไม่มีค่าพอจะเป็นคนไทย!
สำหรับคนที่สนใจเรื่องนี้ แต่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมผมจึงบอกพวกคุณแบบนี้ โทรมาครับ ผมเจอคนมากมายที่ไม่เข้าใจ แต่ไม่สนใจที่จะเข้าใจ ผมผิดหวังกับคนเหล่านี้ เพราะเค้าไม่ได้มีความเป็นห่วงบ้านเมืองเลย ไม่แม้แต่จะสนใจว่าอะไรเกิดขึ้น ใครผิดใครถูก ผมจะดีใจถ้าคุณอยากเข้าใจ ผมยินดีอธิบายให้ฟัง 086-3022605 กะหล่ำ
ถ้าจะคอมเม้นอะไรที่ไม่เห็นด้วย อย่าเลยนะครับ มันไม่มีประโยชน์ คุณโทรมาคุยกับผมเลยดีกว่า จะได้อธิบายให้ฟังได้ ถ้าเราคุยกันด้วยเหตุผล ผมรับประกันว่าคุณจะเข้าใจ
| Create Date : 08 ตุลาคม 2551 | | |
| Last Update : 8 ตุลาคม 2551 20:26:08 น. |
| Counter : 357 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
ดูมันทำ! ยืนยันความเลวด้วยการเอาตีนลูบหน้าศาล
ไปเจอบทความนี้มาครับ ดู รัฐบาล มันทำ
ศาล รัฐธรรมนูญ ตัดสินให้ “สมัคร สุนทรเวช” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะขาดคุณสมบัติ เพราะดันไปเป็นลูกจ้างรายการชิมไปบ่นไป ขณะดำรงตำแหน่ง
แม้ว่า ออหมักจะปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นลูกจ้าง แค่รับจ้าง แถมเงินก็คนรถรับไป ไม่ได้ใส่ใจก็เหอะ…
แต่ ศาลวินิจฉัยแล้วบอกว่า ไม่ ได้พิจารณาเฉพาะการเป็นลูกจ้างเท่านั้น แต่พิจารณาถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 ด้วย เกี่ยวกับผลประโยชน์ประกอบด้วย เพื่อไม่ให้นักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์สาธารณะ
ดังนั้น การนิยามความหมายของคำว่า “ลูกจ้าง” จึงไม่ใช่เพียงแค่ ได้รับค่าจ้างหรือไม่ เท่านั้น … ตามที่ลุงหมักแจกแจงไว้เมื่อวาน
การ รับพิธีกร 2 รายการของนายกรัฐมนตรีนั้น ถือว่ามีความผูกพันทางด้านผลประโยชน์กับบริษัทที่ว่าจ้าง เพราะสมัครเองก็ได้รับค่าตอบแทนตามฐานะ (แม้จะอ้างว่า ให้คนขับรถก็ตามเถอะ)
แต่… ศาลยังพบว่า ข้อโต้แย้งที่สมัครบอกว่า รับรายได้เพียงค่าน้ำมันรถนั้น พบพิรุธว่า น่าจะมีการทำหลักฐานย้อน หลังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงค่าตอบแทน เป็นค่าน้ำมันรถและค่ากับข้าว หรือการปลอมแปลงเอกสารนั่นเอง…
ดัง นั้น…ตุลาการศาล รธน. จึงมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง เห็นว่า ผู้ต้องร้องกระทำต้องห้ามขัดต่อ รธน.267 จึงสิ้นสุดความเป็น รมต.เฉพาะตัว และเมื่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง คณะรัฐมนตรีจึงสิ้นสุดลงด้วย แต่ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการณ์จนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่…
เจ้า หนู ดูทีวี เห็นศาลเริ่มอ่านคำพิพากษา ก็คาดว่า พี่หมักได้ไปแล้วแน่ๆ ออกอาการปิติยินดี พร้อมเพื่อนๆ ร่วมงาน ที่ทนอับอายไม่ไหว กับการมีคนแบบนี้มาเป็นผู้นำประเทศ ทั้งหน้าตา ราศี พฤติกรรม ยิ่งดูยิ่งอนาถใจ
ทว่า สิ้นเสียงอ่านคำพิพากษาจากศาลได้ไม่เกิน 5 นาที หลังช่อง TPBS ตัดกลับสถานี สรุปคำพิพากษา และเชือมสัญญาณไปยังผู้สื่อข่าว ที่ประจำอยู่ ณ ที่ทำการพรรคพลังประชาชน….
ให้ตายเหอะ…ที่ประชุมพรรคมีมติ หนุนสมัครให้เป็นนายกฯ ต่อ …
ไอ้ที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส หยอกล้อกับเพื่อนรอบๆ ตัว เริ่มเซ็งขึ้นมาจับจิต
แม้ จะคิดไว้แล้วด้วยว่า…ถ้าแม้ศาลตัดสินมาแบบนี้ คงมีการโหวตหมักกลับมาใหม่ หรือหาคนอื่นที่เป็นหุ่นเชิดพอๆ กันมาแทน ไม่ว่าทางใดๆ ก็ดูแย่อยู่แล้ว
แต่นี่…รู้สึกแย่หนัก…เพราะเหมือนโดนหยามกันชัดๆ
ศาล ตัดสินยังไม่ถึงชั่วโมง “ไอ้พวกนั้น” มันก็จัดการพากลับมาให้ใหม่ ชนิดขอให้ไวที่สุด แบบไม่ต้องใช้สมองตรองอะไรกันเลยหรือ ไม่สนใจเลยหรือไงว่า เนื้อหาสาระที่ศาลตัดสิน คืออะไร
แน่นอนว่า ในแง่กฎหมาย และ ระบบย่อมทำได้… แต่จริยธรรมน่ะ ไม่มีแม้แต่จะสะกดกันเป็นเลยสักคนหรือไง
หน้าด้าน…นนนน …กันมาก และ ยิ่งถ้าพวกพรรคร่วมรัฐบาล ช่วยกันโหวต ยกกันกลับมาอีก
ขอบ อก ว่า...รู้สึกอายมาก ถ้าข่าวนี้เผยแพร่ไปทั่วโลก -_-" (ข่าวมันไปแล้วแน่นอน --) ประเทศอะไรวะเนี่ย มีศาลตัดสินให้พ้นตำแหน่ง แต่มีฝ่ายเสียงข้างมากโหวตกลับมาให้อยูต่อไป ... โอว...วววว
สรุป… ที่ดิฉันเลือกพวกท่านๆ เข้าไป (จริงๆ ก็ไม่ได้กาให้พวกมันหรอก) เพื่อให้ท่านๆ ทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องคิดคำนึงถึงอะไรเลยใช่ไหม !!
ที่สำคัญ…เคยคิดจะเกรงใจประชาชนตาดำๆ กันบ้างไหม
นี่น่ะหรือ คือประชาธิปไตย แบบที่บอกว่า จะรักษาไว้
ไอ้พวกนักการเมือง เห็นแก่ตัว !!
------------------------------------
ใครที่กำลังจะย้อนด่าพันธมิตร เรื่องที่ไม่เลิกชุมนุม หรือ ข้อหากบฎ ตามศาลมีหมาย
อย่าได้เอามาอ้างครับ เพราะเรื่องพวกนี้ ทางพันธมิตรเค้าไม่ได้ว่าอะไรศาล และกำลังอยู่ในการต่อสู้ทางกฏหมาย แต่เรื่องการตัดสินของศาล กรณีนาย สมัคร พ้นตำแหน่งนายก เป็นการสิ้นสุดกระบวนการศาลแล้ว
ที่สุดแล้ว การถูกผิดที่วิเคราะห์ พิจารณา ด้วยจริยธรรม มโนธรรมสำนึกทางจิตใจ สำคัญที่สุด อย่าเอาเรื่องที่กฏหมายไม่ได้มีข้อห้ามการโหวตกลับมาเป็นนายกอีกครั้ง มาอ้าง ในใจพวกคุณทุกคนรู้ดีว่านี่คือการ ยกย้อนคำตัดสินของศาล ด้วยวิธีการแบบศรีธนนชัย กฏหมายต้องมาควบคู่กับจริยธรรม หากมีเพียงกฏหมาย สุดท้ายคนเลวก็จะหาช่องเอาหัวลอดรั้วของกฏหมายออกมาทำความชั่วอยู่ดี
| Create Date : 10 กันยายน 2551 | | |
| Last Update : 10 กันยายน 2551 12:47:19 น. |
| Counter : 392 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
อยากทำถูกต้อง ไม่ใช่การอยู่ตรงกลาง แต่จงอยู่ข้างความดีงาม
สืบเนื่องมาจากเรื่องราวระหว่าง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับ รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช
มีประชาชนมากมายที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลความเป็นไปของประเทศที่แท้จริง ผมหมายถึงการไม่ได้ตั้งใจติดตามเปิดรับข้อมูลข่าวสารความเป็นไปของประเทศจากสื่อให้ได้มาก หลายคนใช้เวลาทั้งวันอยู่กับการทำมาหากิน เรียน หรือใช้ชีวิตส่วนตัว จะได้รับข้อมูลบ้างจากการฟังผ่านไปผ่านมา จะได้ยินคำพวกนี้บ่อยคือ "เขาบอกว่า" "เขาว่ากันว่า" ไอ้ครั้นมีเวลาบ้างได้ฟังข้อมูลจากสื่อก็ดันได้ฟังข้อมูลที่บิดเบือนอยู่ด้านเดียว จึงทำให้เข้าใจผิดหลงเชื่อข้อมูลนั้นและเลือกที่จะอยู่ข้างนั้น
และมีบางกลุ่มได้ฟังทั้ง 2 ด้าน ก็เลยไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปอยู่ข้างไหน ระหว่างข้อมูล 2 ด้าน กลัวว่าถ้าตัวเองเลือกข้างผิดก็จะรับไม่ได้ที่ตัวเองถูกหลอก จึงได้แต่อยู่ตรงกลางไปไหนไม่ได้ หลายคนไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของตัวเองแต่คิดว่าเป็นเรื่องของ 2 ฝ่าย เมื่อได้รับข้อมูลทั้ง 2 ด้าน ก็เลยไม่รู้สึกว่าต้องเลือกข้าง "ฉันขออยู่เป็นกลาง ดูดี ดูเป็นคนดี ไม่เอียงข้างใดข้างหนึ่ง" แต่บอกได้เลยว่าการคิดแบบนี้เป็นการเข้าใจผิดอย่างแรง และเป็นการ "อกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"
คนที่ไม่รู้ว่าข้างไหนดีแน่ เพราะไม่ได้สนใจศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง แล้วก็เลยอยู่เฉยๆ มันจะไม่ต่างกับการ เห็นผู้ชายกำลังตีผู้หญิง พอจะเข้าไปช่วย ดันได้ยินผู้ชายตะโกนมาว่า อย่ายุ่งเรื่องของผัวเมียทะเลาะกัน ในขณะที่ผู้หญิงร้องให้ช่วย เลยไม่รู้จะทำยังไงดี เดี๋ยวหาว่ายุ่งเรื่องชาวบ้านเลยอยู่เฉยดีกว่า ไม่ใช่เรื่องของเรา สุดท้ายถ้าหากหลังจากนั้น ผู้หญิงถึงแม้จะเป็นเมียจริงๆ แต่โดนทำร้ายจนสาหัสเข้าโรงพยาบาล ถึงจะมาเสียใจว่ารู้อย่างนี้เข้าไปช่วยดีกว่า
และสำหรับคนที่คิดว่าไม่ชอบรัฐบาลแต่ไม่ชอบให้พันธมิตรเข้ายึดทำเนียบ หรือรวมตัวกันแบบนี้ เพราะจะมีผลกระทบเสียหายกับประเทศ ผมขอเปรียบเทียบประเทศไทยเป็นบ้านของเรา
เรื่องนี้เหมือนกับมีโจร กำลังจะขโมยของในบ้านไปจนหมด แล้วล็อกประตูไว้ คุณก็ไม่กล้าพังประตู และไม่กล้าเข้าไปต่อสู้กับโจรในบ้านเพราะกลัวข้าวของข้างในจะเสียหาย สุดท้ายคุณก็ไม่เหลือทรัพย์สินซักชิ้นในบ้าน เพราะมันแอบขนหนีไปตอนคุณเผลอ หรือคุณจะรอตำรวจ (ผมกำลังเปรียบเทียบที่บางคนว่าควรอยู่ในกติกาของประชาธิปไตย) เราจะทำยังเมื่อโจรมันรู้กันกับตำรวจ มีตำรวจบางคนไม่ได้อยู่ข้างโจร (ศาล) แต่กว่าจะมาถึงที่บ้านใช้เวลานานมาก โจรมันขนของไปหมดแล้ว เพราะยิ่งรู้ว่าตำรวจกำลังมา มันก็ยิ่งรีบขนอย่างรวดเร็ว เราจะทำยังไง ถ้าไม่สู้กับโจรเอง (และอย่าลืมว่ากฏหมายมันก็มีช่องโหว่ ทำให้คนดีเสียเปรียบคนชั่วก็มีให้เห็นถมไป)
และ หากคุณกลัวคนที่ช่วยคุณจับโจรในบ้านจะเป็นโจรเหมือนกัน (แกนนำพันธมิตร) ก็จงรอดูหากเอาชนะโจรในบ้านไปได้ และคนที่ช่วยเรากลับเผยตัวว่าเป็นโจรเราก็จะอัดมันให้เละ
เพราะหากมัวแต่ระแวงคนข้างเราแล้วไม่ทำอะไรเลย บ้านคุณก็จะไม่เหลืออะไรอยู่ดี
คุณจะเห็นว่าการอยู่ตรงกลางไม่ได้เป็นเรื่องถูกต้องเสมอไป แล้วอยู่ข้างไหนล่ะถึงจะเป็นเรื่องถูกต้อง พันธมิตรงั้นเหรอ หรือรัฐบาล ผมสนับสนุนพันธมิตรครับ แต่ผมจะไม่ชี้นำว่าคุณควรอยู่ข้างไหน ข้างที่คุณควรจะอยู่คือ "ความดีงาม"
เริ่มจากคุณต้องตั้งใจศึกษาข้อมูลให้ได้มากทั้ง 2 ด้าน (ไม่สนไม่ได้เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับทุกคนในชาติ และลูกหลานเรา เพราะมันเป็นเรื่องระหว่าง รัฐบาลโกงชาติหรือไม่ ถ้าไม่ก็ดีไป แต่ถ้าโกง ประเทศจะล่มจม วันนั้นทั้งตัวคุณและลูกหลานคุณจะอยู่ในประเทศนี้อย่างยากลำบาก) เมื่อได้ข้อมูลมาไม่ใช่การฟังมาทื่อๆแล้วจบแค่นั้น ถ้าทำแบบนี้คุณก็จะเป็นอย่างที่ผมว่า ไม่รู้จะอยู่ข้างไหน ฉันขออยู่ตรงกลาง คุณก็จะไม่ได้อยู่ข้างความดีงาม แต่สิ่งที่ต้องทำต่อคือ การคิดพิจารณาด้วยปัญญาอย่างละเอียด ไม่ใช่เอาแค่ที่เห็นทั้งดุ้น เพราะโลกใบนี้ซับซ้อนนัก และคุณก็ไม่ได้เป็นเด็ก 4 ขวบ ที่เห็นพ่อแม่ใช้บัตร ATM กดเงินออกมา แล้วก็คิดว่า "ดีจังเลยถ้ามีบัตรนี้ เครื่องนี้มันก็จะให้เงินเราฟรีๆ เราจะมีเงินเยอะเลย" คุณโตแล้ว และยิ่งถ้าเป็นปัญญาชนก็ต้องรู้จักใช้ปัญญาพิจารณา แล้วคุณจะไม่โดนใครเขาหลอก ใครเขาโกหกมา ถ้าคุณพิจารณาด้วยปัญญา บางเรื่องคุณจะรู้ได้เลยว่ามันโกหก หรือเรื่องนั้นเขาทำเพื่อจุดประสงค์อะไรแอบแฝง
ผมถือว่า ณ เวลานี้ เรื่องราวข้อมูลมันชัดพอ ที่คุณจะพิจารณาด้วยปัญญาได้ง่ายกว่าเดิมเยอะครับ
การนั่งดูเฉยๆ เพราะไม่รู้จะช่วยฝ่ายไหน คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องแน่ๆ เพราะหากฝ่ายที่ชนะเป็นฝ่ายที่ไม่ดี ชาติก็จะล่มจม การอยู่เฉยของเราจะเท่ากับเราอกตัญญูต่อแผ่นดินเกิดอย่างยิ่ง ถึงหากเลือกฝ่ายไหนขึ้นมา ถ้าเลือกจะอยู่ข้างเขาแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะตามเขาหมด จงเลือกอยู่ข้างนั้นเพราะความดีงามอยู่ข้างนั้น เมื่อใดที่ข้างนั้นไม่มีความดีงาม เราก็พร้อมจะทิ้งข้างนั้นแล้วตามความดีงามไป
"เพราะเราอยู่ข้างความดีงาม"
| Create Date : 31 สิงหาคม 2551 | | |
| Last Update : 31 สิงหาคม 2551 4:47:52 น. |
| Counter : 369 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
