^O^ พักผ่อนนอนสบาย ณ ปราณบุรี ^O^

Trip สงกรานต์ ณ ปราณบุรี
๑๖-๑๘ เมษายน ๒๕๕๒

ออกลุยสู่ปราณบุรีกันเลยย
ไปด้วยกันรวม ๕ ชีวิตคะ เป็นการขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัดกันเองที่ไกลที่สุดกันเองเป็นครั้งแรกกก
ออกจากกรุงเทพฯโดยการขึ้นทางด่วนจากพระราม๔ แล้วไปทางดาวคะนอง
จากนั้นก็ตรงตลอดโลดดดดเลยย
ใช้เวลาไปทั้งหมด ๒ ชั่วโมงครึ่งได้ก็ไปถึงปราณบุรี จอดๆแวะปั๊มน้ำมันหาของกินกันไปเรื่อยย ตลอดทางง

ที่พักที่จองไว้ อยู่ที่หาดตรงเขากะโหลก
วิธีไป
จำได้คร่าวๆว่า ขับไปถึงแถบๆที่ฝั่งขวามีค่ายธนะรัชต์ พอเลยมาหน่อยฝั่งซ้ายจะมีทางเลี้ยวเข้า ปากทางจะมีห้างโลตัส พอเข้าไปก็ตรงตลอดดทาง
พอตรงไปไกลพอควร หลายกิโลอยู่ ก็จะเจอป้าย
เลี้ยวขวาไปปราณบุรี (อันจะเข้าไปตัวเมืองไปตลาดประมาณนั้นค่ะ)
เลี้ยวซ้ายจะไปปากน้ำปราณ (ทางนี้ก็จะไปทางที่มีพวกที่พักเยอะๆทั้งหลาย)

เราก็ไปเลี้ยวซ้ายไปทางปากน้ำปราณกัน
พอเลี้ยวมาก็ตรงไปเรื่อยๆจะเจอทางแยกซ้ายกะขวาอีกเช่นเคย โดยจะมีภูเขาหนึ่งลูกอยู่ด้านหน้า
เราก็เลี้ยวขวา เข้าไปทางเขากะโหลกกัน
(จะมีซุ้มอะไรซักอย่างตรงทางเข้านะคะ)
หลังจากนั้นก็ตรงตลอด ตรงไปสุดถนนเลยย มันก็จะไปเจอถนนเลียบหาด
เส้นนี้ก็จะมีที่พักอยู่ละลานตาตลอดแนวว

ที่พักที่จองไว้ชื่อ อนันดาปราณ รีสอร์ต
//www.anandapran.com/

เลี้ยวจากทางแยกมาทางซ้ายตรงมาเรื่อยๆๆ ที่พักอยู่ทางซ้ายมือ
(ไม่ได้ติดหาดดด เสียดายยยจังเลย เพราะเป็นช่วงสงกรานต์ ที่อื่นเลยเต็มหมด เลยต้องจองที่นี่)

มาถึงก็เข้าบ้านนอนอืดๆโดยทั่วกัน



ที่นั่งเล่นหน้าห้องพักค่ะ (เอาเพื่อนสาวๆมาเป็นนางแบบให้โดยเฉพาะเลย)



บ้านพักเป็นสองชั้นนน
เลยแยกนอนเป็นผู้หญิงนอนชั้นล่าง ผู้ชายนอนชั้นบน
มีทีวี มีแอร์ ตุู้เย็น Wi-fi ห้องน้ำในตัว พร้อม
คนที่นอนนชั้นบนจะแย่หน่อย เพราะหันไปทางทิศตะวันออก ตอนเช้าไม่ว่าจะปิดผ้าม่านยังไงก็ยังไม่สามารถนอนต่อได้ ด้วยความสว่างและความร้อน





ที่นี่ยังเหมือนเปิดไม่นานมาก การบริการเลยยังมีติดๆขัดๆไปบ้าง อย่างเช่นไม่มีโทรศัพท์ในห้องให้ไว้โทรไปเรียกพนักงาน ต้องเดินหาพนักงานเอา บางทีด้วยความขี้เกียจก็ใช้มือถือโทรเอาซะเลย แต่น้องคนที่คอยดูแลก็พยายามต้อนรับ ทำให้ทุกอย่าง มารยาทดีมาก



ทางเดินเข้าไปโซนห้องน้ำ



ที่นั่งเล่นหน้าบ้าน





หลังจากเก็บของกันเรียบร้อยก็ออกมาเดินสำรวจรอบๆ หาทางที่จะเดินลงทะเล (เดินไกลพอดู) เลยเดินไปที่ร้านอาหารด้านเยื้องๆหน้ารีสอร์ต
แล้วเดินลงไปเดินเล่นริมทะเล
ที่จริงเค้าไม่ให้เดินผ่านอ่ะค่ะ เพราะไม่ได้พักที่รีสอร์ตของที่ร้าน
เลยใช้วิธีเดินไปขอข้อมูลที่พักแล้วเอานามบัตรมาด้วย
เป็นรีสอร์ตที่อยู่ติดกัน



ชื่อต้นโต รีสอร์ต จำราคาไม่ค่อยได้ รู้สึกว่าคืนละสองพันได้
มีทุกอย่างครบ มีให้ปิ้งBBQได้ด้วย
หรือจะกินข้าวที่ร้านของรีสอร์ที่อยู่ติดริมทะเลก็ได้
รู้สึกว่าที่นี่โอเคอยู่ ไว้คราวหน้าจะมาลองพักกันดู
(ร้านอาหารของที่นี่เดี๋ยวจะมารูปตามมาด้านล่างๆนะคะ)





นามบัตรของต้นโตรีสอร์ต ที่พักดี อาหารอร่อยย



สัมพารกของเหล่าสาวๆ



คืนแรก นั่งปิ้ง BBQกินกัน ที่รีสอร์ตมีเตา ถ่าน กะอุปกรณ์ให้พร้อม แต่เนื้อๆผักๆทั้งหลายเราต้องเตรียมกันมาเอง

ตอนกลางคืนนั่งดูทีวี เล่นไพ่ เล่น ไพ่อูโน่กัน ใครแพ้ก็ ไปกินน้ำที่อยู่ในแก้วที่คนแพ้ก่อนหน้านี้ผสมไว้ให้ นั่งเล่นตั้งนานไม่แพ้ กลับมาแพ้ตอนแก้วที่เด็ดมากกกกก เพื่อนผสมทั้ง วอดก้า เบียร์ spy red น้ำส้มสแปรช เข้าด้วยกัน ไม่รู้ว่าทีอย่างอื่นอีกรึป่าว นึกได้แค่นี้แล้วว
พอกินเข้าไปเท่านั้นแหละ มึนตึบๆ แค่ครึ่งแก้วเท่านั้นนล่ะ หลังจากนั้นไม่ว่าเล่นอะไรก็แพ้ตลอด สี่ห้าตารวดเลยยย
นั่งเล่นกันจนเกือบเช้าแล้วค่อยเอ่เอ้กันคะ



ตอนเช้าก็มีนี่เลยยย มาเสิร์ฟให้ถึงห้อง (หรือจะเลือกเป็นข้าวต้มก็ได้)







พอตอนเที่ยงๆบ่ายๆก็ออกจากที่พักไปปากน้ำปราณกันไปหาของกิน
ก่อนออกไปก็ลองsearchในgoogleหาร้านกินกันดู ได้ใจความว่า
ร้านอุดมโภชนา น่าจะเป็นร้านดัง เลยลองไปกินกันนน



ที่สั่งกันไปก็มี ข้าวผัดปู ปูผัดผงกะหรี่(เค็มแบบโรคไตถามหาได้ทันที) ยำวุ้นเส้นทะเล(ที่มีแต่ปลาหมึก)
กุ้งกะผักชุบแป้งทอด(แป้งหนามากก) แล้วก็แกงจืดเอามาซดกัน และที่ร้านมีแถมเมนูใหม่ให้ชิม เป็นหอยหลอดผัดเผ็ดๆ
สรุปได้ใจความว่าร้านนี้ไม่ผ่าน กินกันไม่ค่อยได้เลย แต่ละคนนั่งจิตตกกันพักใหญ่ กินไปได้คนละนิดคนละหน่อย จ่ายไปพันเศษ



พอกินเสร็จก็ออกมาถ่ายรูปกันตรงร้านเลยยย
แดดจ้ามากกก











ข้าวเย็นมาฝากท้องไว้กับร้านของ ต้นโตรีสอร์ต รสชาติดี บรรยากาศสวยย
สรุปว่าที่ใกล้ๆตัวดีที่สุด

พอกินเสร็จก็ลงเดินเล่นที่ทะเลเลยยย
หาดเขากะโหลกยามเย็นน









วันรุ่งขึ้นพอสายๆก็ออกจากที่พัก มุ่งตรงไปยังสถานีรถไฟหัวหิน
ชะแว้บบไปเก็บภาพซักเล็กน้อยย



วันรุ่นสมัยสงครามโลกกกก 55+
ชอบภาพนี้







ต่อด้วยมาเที่ยว พระราชนิเวศมฤคทายวัน ที่ชะอำกัน
มาถึงก็เช่าจักรยานมาปั่นเป็นเด็กแว้น ย้อนยุคกัน













กอหญ้าเล็กๆก็สามารถเป็นฉากได้~





วิวนี้ยอดฮิต ทุกคนที่มาต้องมีได้รูปมุมี้กลับไป













ที่สุดท้ายที่ไปก่อนกลับกรุงเทพฯ ก็นี่เลยย ร้านในตำนานนน
ร้านสังเวียน ซีฟู้ด
อยู่ชายหาดชะอำ ตรงคอนโดฯของชานอิสระ (ไม่สามารถบอกที่ตั้งได้แน่นอนนะคะ ฮี่ๆ พอดีจำไม่ได้ เพราะกว่าจะไปถึงก็หลงกันพอดู)

ร้านนี้ราคาไม่แพง อาหารอร่อยยยเหาะเลยย ให้ปริมาณเยอะ ทำเร็ว ถูกใจที่ซู้ดดดเลย
ของที่ต้องสั่งเลยก็คือส้มตำ เห็นเพื่อนบอกว่าเด็ดมาก พอสั่งมาก็โหหห~ จานใหญ่สะใจกับความหิวที่รอคอย 55+ ดูเว่อไปๆ
แล้วก็สั่งปูผัดผงกะหรี่
ยำวุ้นเส้นทะเล(เนื้อๆให้เยอะ กุ้งก็ให้แยะ แถมตัวใหญ่ๆ)
แล้วก็ปลาอะไรซักอย่างทอด (ปลาทอดเนี่ยได้เร็วสุด ทั้งร้อนทั้งกรอบ ได้ใจเลย)
แล้วก็มีผัดผักยอกฟักแม้วอีกจานนึง (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ)

มื้อนี้เสียเงินให้กับความอร่อยไป1060บาท คุ้มค่าาามากกกกค่ะ

หมดแล้ววววววว
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมกันนะคะ




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2552    
Last Update : 9 มิถุนายน 2552 3:37:33 น.
Counter : 2641 Pageviews.  

เดินเล่นหาของกิน ณ สะพานปลาอ่างศิลา

สะพานปลาอ่างศิลา และ เขาสามมุข
สวัสดีค่าาาาา
ครั้งนี้เหมาะสำหรับคนรักการกินอาหารทะเลโดยเฉพาะเลยย

เนื่องเวลาทุกคนในบ้านอยากกินอาหารทะเลกัน ก็ต้องที่นี่เลยย
โดยปกติอย่างวันอาทิตย์ถ้าว่างๆกันทั้งวัน ที่บ้านก็จะเฮโลกันไปอ่างศิลา
ไปนั่งกินข้าวต้มปลาหรืออะไรกันง่ายๆ
แล้วก็จะมาเดินเล่นที่สะพานปลา ไม่รู้จะเรียกว่าเดินเล่นหรือเดินจริงจัง
เพราะพอลงจากรถปุ๊บแม่ก็จะถือกล่องโฟมเดินตั้งหน้าไปช้อปอาหารทะเลคนเดียวอย่างเมามัน ปล่อยให้เราเดินถ่ายรูปไปเรื่อยย

ส่วนใหญ่ของที่ขาดไม่ได้ก็ปูม้า เพราะทั้งพ่อแม่ป้าๆและน้อง ทุกคนเป็นตัวกินปูกันทั้งนั้นน ซื้อมาน้อยสุดก็สามกิโลเป็นอย่างต่ำ
ตามด้วยต้องมีหอยซักอย่าง ไม่หอยเชลล์ก็หอยนางลม และก็พวกปลากับปลาหมึก กินกันให้คอเลสเตอรอลสูงกันไปตามๆกัน55+

ภาพอาจจะดูหดหู่ๆไปบ้างนะคะ เพราะตอนไปถ่ายเนี่ยฝนจะตกอยู่แล้ว
บรรยากาศให้มากๆ

เชิญชมภาพเลยค่ะ




น้องซาบะ ตายกันหมดแล้วววว





ปลาหมึกสด อนาคตคือ หมึกย่างง



ปลาทู สดมากกกกกก



ปูม้าถาดนี้ กลับมาอยู่ในลังนึ่งที่บ้านเรียบร้อยย





ปูทะเลตัวนี้สู้สุดฤทธิ์เลยย







เกล็ดปลากระพง พอจิ้มว่าจะเอาตัวนี้ปุ๊บ แม่ค้าจัดการขอดเกล็ด ทำความสะอาดให้เรียบร้อย



รูปนี้ของครั้งล่าสุดที่ไป ครั้งนี้พอซื้อเสร็จก็ไปจ้างเค้านึ่งให้เลยย



สุกแล้วคร้าบบบบบบบ



Sea Doggy chill~มากกก





จบด้วยยภาพ ชิงช้าสวรรค์บนเขาสามมุข

ขอบพระคุณที่เข้ามาชมนะคะ




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2552    
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 16:00:17 น.
Counter : 3553 Pageviews.  

!!^o^!!...แอ่วเหนือ เชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน...!!^o^!! Part 1

Tripนี้ไปมาเมื่อวันที่ 18-22 ตุลาคม 2008
ไปก่อนช่วงวันหยุดยาว เลยค่อนข้างโชคดีไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่

วันแรก
ออกจากกรุงเทพฯแต่เช้า
ระหว่างทางก็แวะกินแวะเที่ยวไปเรื่อย
ไปถึงเชียงใหม่ก็3-4โมงเย็นได้
ปกติเวลาไปเชียงใหม่มักจะไปถึงช่วงประมาณบ่ายสอง
แล้วก็จะเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่
ไปแวะเยี่ยมน้องแพนด้า
แล้วค่อยไปหาที่พัก

แต่ครั้งนี้ไปเพราะหนีจากงานหนักๆที่กรุงเทพฯ
เลยไม่ค่อยอยากผจญภัยเท่าไหร่
เลยจองโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอาไว้ก่อน
พอดีมีคนรู้จักที่โรงแรมเลยจองราคาพนักงานได้
โฮ่ๆ ประหยัดได้ไปอีกหน่อยย
แต่กว่าจะหาโรงแรมเจอ
ก็เหนื่อยใช่ย่อยวนกันอยู่หลายรอบ
เข้าโรงแรมกันก็เกือบ5โมงเข้าแล้ววว
พ่อเลยสลบเหมือด นอนรออยู่ในห้อง
นู๋ส้มเลยลากแม่และน้องไปเดินถนนคนเดิน
เดินจนทั่วเลยยยย
ได้ของฝากเพื่อนๆและป้าๆมาคนละอย่าง
แล้วก็ซื้อข้าวเย็น เข้าไปกินในห้อง

ชมภาพกันเลยยยยยย



เติมพลังด้วยข้าวเช้าที่สามย่านกันก่อนนน



ต่อด้วยภาพอาหารกลางวันที่ร้านครัวเห็ดโคน
(จำไม่ได้ว่าแถวจังหวัดอะไร แต่แถวนั้นจะมีร้านเกี่ยวกับเห็ดโคนเยอะๆค่ะ)



ห้องพักที่Holiday Inn อยู่ริมแม่น้ำกก
ห้องนี้2000บาท+breakfast







วิวแม่น้ำกกและดอยสุเทพ ยามพระอาทิตย์ตก
สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก





ถนนคนเดินนนนน



โฉมหน้าของฝากของเพื่อนๆ ซื้อมาโหลนึงงงงงงง



วันที่สอง
รุ่งเช้ากินข้าวเสร็จ ก็มุ่งหน้าขึ้นดอยอ่างขาง
ขึ้นไปถึงก็ได้เวลาข้าวกลางวันพอดี
ตอนขึ้นไปดูเหมือนดอยอ่างขางดูร้างๆไม่มีคน
แต่ในร้านอาหารคนก็เยอะพอดู
พอกินเสร็จก็เดินเล่นถ่ายรูปไปทั่วๆ
โชคร้ายสุดlens18-70ได้ออกอาการมีเสียงตั้งแต่หลังกินข้าวเสร็จ
หลังจากนั้นไม่นานเกียร์เลนส์ก็ได้บ้ายบายโลกนี้ไปอย่างทรมาณ
(ก่อนเจ๊งมันเป็นเสียงแคร็กๆๆไม่หยุด แล้วก็ม้วยมรณาไป)
ตลอดทริปที่เหลือเลยเหลือแต่lens macro กะกล้องตัวจิ๋วๆ




แว๊บบถ่ายรูปก่อนขึ้นดอยอ่างขางง
ดอกบัวตองกำลังบานนนเต็มทุ่งงงง



อุณภูมิด้านบน



เจ้าบ้านเฝ้าทางเข้าร้านอาหาร



บ้านพักกกก
จองก่อนมาประมาณอาทิตย์นึง
จองที่กรมป่าไม้แล้วต้องจ่ายเงินภายในสามวัน



พวงกุญแจอันใหญ่ๆ



นอนได้สองคน น้ำอุ่น ทีวี พร้อมมม



ภายในห้องน้ำ



อีกด้านนึงของห้องง



macro zoomสุดๆ



ได้เวลาข้าวกลางวัน



ผัดผักของโปรด กะ น้ำสตรอเบอร์รี่ปั่น



ด้วยความหิว เหอเหอ
สั่งไปทั้งหมดห้าอย่างได้
ในรูป มีเต้าหู้ทรงเครื่อง แกงจืดเห็ดหอม ปลาคังทอดกระเทียม
ส่วนอีกอย่างจำไม่ได้ว่าอะไร ไก้ตุ๋นๆอะไรซักอย่าง



บ้านพักปรับปรุงใหม่หมดแล้วว



ต้นไม้ในสวนด้านหน้าทางเข้า





เหมือนขนมเลยยย





ไม่เคยเจอดอยอ่างขางแบบร้างคนแบบนี้มาก่อนน
มีเดินกันอยู่ครอบครัวเดียววว







เหมือนหัวใจเลยยยยย



ชอบภาพนี้มากเลยยยยยยยย



สวนสับปะรดสี



สวนบ๊วยยยย
ให้อารมณ์เหมือนหนังเกาหลีมั้ยคะ!



zoomเข้าไปอีกกะติ๊ดดนึง



ท้องฟ้าแจ่มใส











นกน้อยย















2วันแรกหมดแล้วววว
เดี่ยวมีต่ออีกpartนะคะ






 

Create Date : 31 มีนาคม 2552    
Last Update : 9 เมษายน 2552 0:49:08 น.
Counter : 1542 Pageviews.  

!!^o^!!...แอ่วเหนือ เชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน...!!^o^!! Part 2

วันที่สาม
มุ่งหน้าจากดอยอ่างขางสู่ อ.ปาย
ระหว่างทางแวะ
โป่งเดือด
ไปนั่งแช่เท้าเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็ต่อด้วยการนั่งเมารถกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่เบาะหลัง
อยากอ๊วก แต่ก็ไม่อ๊วก ทรมาณณณมากกกกก

ก่อนเข้าปายก็แวะร้านcoffe in loveที่เลื่องชื่อ
เสมือนว่าเป็นจุดท่องเที่ยวจุดนึง
พอเท้าลงถึงพื้นรู้สึกเหมือนโลกมันเอียงๆตลอดเวลา
พอตั้งตัวได้เลยกะจะไปหากาแฟกิน
เดินเข้าไปในร้านกำลังจะสั่ง
พี่ที่ร้านก็บอกว่า"ไฟดับค่ะ"
เหอเหอ อดกินนน
พอซักพักนึงมีพี่ที่ร้านคนนึงเดินมาบอกว่า
พอดีมีโกโก้เย็นเหลือแก้วสุดท้าย (เห็นบอกว่าทำแช่เย็นเอาไว้)
เลยได้มากินชื่นชมแก้วเล็กๆแก้วนึง
กินกันพ่อแม่ลูก4ชีวิต ได้กันคนละนิดคนละหน่อย
วนมาถึงเราอีกที่ก็เหลือแต่น้ำแข็ง


ไปถึงปายกะเต็มที่ว่าจะไปพักที่love pai home
ขับไปถึงก็จะมืดแล้ววว
ปรากฏว่าเต็ม!
(บ้านมี4หลัง)
หลังจากนั้นเลยขับหาที่พักกันแบบเคว้งคว้างอยู่ร่วมๆสองชั่วโมง
ที่จริงก็ว่างๆกันแทบทุกที่ เพราะช่วงนั้นไม่ค่อยมีคน
พ่ออยากพักริมแม่น้ำ
แม่อยากพักริมทุ่งนา
ส่วนไอเรากะน้องขอที่ไหนก็ได้ที่มีห้องน้ำ
เลยลองค้นๆกระดาษเกี่ยวกับที่ปายดู
เลยเห็นคอลัมน์เล็กๆโฆษณาของ กระท่อมริมปาย
หรือ rimpai cottage เลยลองโทรไปถามราคา
ที่นี่fixเลยว่าบ้านหลังนึงพักได้แค่4คน,2คน,หรือ6คน
พอดีไป4ชีวิต เค้าก็บอกว่าราคา3000บาท
โอ้!แม่เจ้าเป็นอะไรที่แพงพอดูเลย
แต่พอลองเข้าไปดูก็โอเคสมกับราคา
แม่เลยตัดสินใจพัก เพราะที่นี่อยู่สุดถนนคนเดิน
แถมยังติดแม่น้ำ ด้านหน้ามีภูเขา สวยงามอลังการ
เป็นการจ่ายค่าที่พักที่แพงที่สุดในชีวิตกันแล้วววว



บรรยากาศแบบในหนังsilent hill





น้ำพุร้อนโป่งเดือดดดดด



ทางเข้า



เมื่อสมัยก่อนยังมีให้ต้มไข่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ให้แล้วววว



บ้านพักที่โป่งเดือด
จำราคาไม่ได้
แต่รู้สึกว่าจะแพงงงง



ตรงน้ำพุร้อนมีแมงปอแบบพรึบๆเลยยย



นั่งพักเท้ากันแป๊บนึง



ถึงแล้ววว
สถานที่ฮิตๆ









Rimpai Cottage







ถนนคนเดินนนนน



หลังจากกลับเข้าที่พักได้แป๊บนึงฝนก็ตกหนัก
ซักครึ่งชั่วโมง ไฟก็ดับ ดับไปครึ่งชั่วโมงก็มา
มาได้ไม่กี่นาทีก็ดับไปอีก คราวนี้ดับไปสองชั่วโมงได้
จากนั้นก็ดับๆติดทั้งคืน เหอเหอ
ดีที่ตอนเช้าหยุดตก



อาหารเช้าอร่อยมากเลยยย

















พักบ้านหลังนี้ครับผม



















เติมพลังด้วยกาแฟก่อนออกเดินทางไปแม่ฮ่องสอน
กาแฟร้านนี้แรง+อร่อยดี ชอบบบ

วันที่สี่
มุ่งหน้าสู่แม่ฮ่องสอน
ไปแวะเที่ยวถ้ำลอด ถ้ำปลา
แล้วก็ตอนแรกกะไปพักที่ปางอุ๋ง
แต่เข้าใจว่าต้องจองมาก่อน ต้องไปจองที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
เลยไปกินขาหมูหมั่นโถว ดูบ้านดินแทน
แล้วจึงเข้าไปพักบังกะโลที่ตัวเมือง แม่ฮ่องสอน
ใกล้ๆทางขึ้นพระธาตุกองมู
ตอนกลางคืนก็ไปเดินเล่นถนนคนเดินของแม่ฮ่องสอน























ที่ร้านเอาผลไม้แห้งให้ชิมอื้อเลย พอชิมหมดก็เอาอย่างอื่นมาเติมให้
ชิมชาทั้งหมดก็สามแบบ โฮ่ๆ ชิมจนอิ่มเลยย



ซื้อสตรอเบอรี่กับกีวี่กลับมาอย่างละโล





หมั่นโถวนิ่มมากกกกกก ซื้อกลับมากินระหว่างทางอีกสี่ลูก
ขาหมูก็ไม่มันนนน



ไข่ยัดไส้ไก่มั้ง????



ไก้สับผัดกับใบชา และสมุนไพรร
อร่อยทุกอย่างงงเลยยยย



ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน

วันสุดท้ายย
ออกจากที่พักไปตลาดสายหยุดดด
ไปกินโจ๊กร้านโจ๊กเสวย
ที่จริงมีของดังอีกอย่างคือข้าวคลุกงา
แต่ตอนไปถึงเค้ายังไม่มาขายยยย อดเลยยย
จากนั้นก็กะจะมุ่งออกจากแม่ฮ่องสอนกลับกรุงเทพฯ
แต่ไหนๆแล้วยังไงก็กลับถึงมืดแน่ๆ เลยแวะไปเที่ยว
หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวววก่อน
แล้วก็แวะวัดต่อแพ (เห็นมีในแผ่นที่)
เข้าไปถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วจึงออกมา
หลังจากนั้นก็ไปแวะกินข้าวกลางวันที่
อุทธยานแห่งชาติออบหลวง
เป็นที่เที่ยวล่องแก่ง มีภูเขาหินชนกัน
แล้วก็ต่อด้วยที่สุดท้าย
ไปแวะที่ทะเลสาบดอยเต่า
จำได้ว่าตอนน้ำเต็มๆทะเลสาบเนี่ยสวยมากกก
แต่ตอนไปถึงน้ำแห้งไปเยอะเลย
แต่ก็ยังสวยอยู่
ตอนประมาณ3ทุ่มก็แวะกินข้าวเย็นที่นครสวรรค์
แล้วก็ซื้อขนมโมจิกิน
กลับถึงบ้านที่กรุงเทพฯก็เที่ยงคืนกว่าตีหนึ่งได้



โจ๊กเสวย ร้านดังของตลาดสายหยุด แม่ฮ่องสอนนน





พาแวะชมท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน



ที่นี่ไม่มีคนเลยยย
มีแต่แก๊งน้องหมาร่วม20ตัวได้ วิ่งไล่กันไปวิ่งไล่กันมาเต็มไปหมด





ที่จรองช้างกำลังกินใบไม้อยู่ พอยกกล้อง กลับหันก้นให้เลยย









น้องแนวมากก
ระเบิดหูใหญ้ใหญ่





เด็กชาวเขาสวีทกันน





บ้านห้วยเสือเฒ่า หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาววว



วัดต่อแพ











ทะเลสาบดอยเต่าน้อยๆ

รูปหมดแล้ววค่าาา~
ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะค้า~





 

Create Date : 31 มีนาคม 2552    
Last Update : 8 เมษายน 2552 23:59:38 น.
Counter : 1551 Pageviews.  

.......!!^o^!! ปราณบุรียามเช้า !!^o^!!......

Tripนี้ไปกะพี่ๆที่แกรมมี่มาเมื่อ เดือน6 ปีที่แล้ววว
ไปหลังจากทำconcert ดา เอนโดรฟินเสร็จเรียบร้อยยย
รุ่งขึ้นก็นัดกันเที่ยงๆเตรียมออกเดินทาง
พอจะออกกันงานก็เข้าเลยขอรับเลยมีพี่คนนึงอยู่ทำ
ตอนแรกๆก็กะจะอยู่ช่วยกัน แต่อยู่ไปก็ช่วยไรไม่ได้
เลยออกกันก่อน เพื่อไปซื้ออาหารทะเลซื้อเนื้อไปทำบาบีคิว

ออกจากกรุงเทพฯก็เกือบๆ4โมงเย็นได้
ไปถึงก็มือดตื้ดตื๋อแล้วววว
แต่ก็ถือว่าเร็วใช้ได้เพราะพี่ขับรถซิ่งมากๆ
แต่ด้วยความเหนื่อยก็ไม่รู้สึกเสียวไส้แต่อย่างใด
พี่สั่งไว้ว่าห้ามหลับ
แต่พอดีด้วยความอดหลับอดนอนมานาน
พี่เผลอไปแป๊บเดียว ไอเราก็นอนน้ำลายยืดไปแล้วว
ไปถึงนู่นก็ไปแวะตลาดโชคดีที่เหมือนว่าจะมีตลาดนัด
เลยมีขนมนมเนยให้ซื้อกันเยอะพอดู

ไปถึงก็ไปเปื่อยๆกัน รอพี่ๆที่ยังมาไม่ถึง
(กว่าพี่เค้าจะออกจากกรุงเทพฯกันมาก็ร่วมเข้าไปสองทุ่มได้)
แต่เนื่องด้วยที่มาๆกันก่อนเนี่ยก็มีแต่ผู้หญิง
ส่วนคนที่จะยกเตาย่างกะทำอาหารก็มากะรถคันหลังเนี่ยยยย
รอกันไส้กิ่วมากๆ

สรุปว่าได้กินเกือบๆเที่ยงคืน
กินไปได้ถึงตีสองตีสามก็เล่นไพ่กันต่อ
พอตีสี่ตีห้าก็ใกล้เช้าแล้ว พวกที่เมาๆก็หาที่พักพิงกันไปหมด
ส่วนพวกที่ไม่เมาก็มาขุดๆที่เตาหากินกันต่อ
กะว่าจะรอดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน

แล้วก็นึกได้ว่ามีไฟเย็นที่ซื้อมาใช้ถ่ายงานเหลืออยู่เยอะมากกก
(ไฟเย็นอันใหญ่ๆที่มีสี)
เลยเอามาประโคมเล่นกันเยอะแบบสะใจ
(เยอะขนาดเต็มกระเป๋าเดินทาง55+)

ภาพที่เอามาโชว์ จะเป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น
ตั้งแต่ตี5ครึ่งถึง7โมงกว่าๆ นะคะ


หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ละคนก็เข้ารังนอนกัน
ตื่นกันอีกทีก็ห้าโมงเย็น
แล้วก็เอาของที่เหลืออีกครึ่งมาปิ้งๆย่างๆกันนน
แล้วเหตุการณืก็loopเหมือนวันแรกอีก
เช้ารุ่งขึ้นก็กลับกรุงเทพฯ
ถึงบ้านก็สลบเหมือดดดดด

เชิญขมภาพกันเลยค่าาาา~



ภาพนี้ทดลองกันหลายรอบมากกว่าจะถ่ายกันได้
หัวใจแต่ละคนไม่เท่ากันซะที
เลยออกมาได้เช่นนี้



ccg ; corporate creative
55+ มีจุดๆ
เนื่องจากมีกิน 4คน มีอักษร3ตัว
ผลที่ออกมาเลยเป็นอย่างนี้ เพราะทุกคนอยากอยู่ในกล้องงงง





พระอาทิตย์มาแล้วววๆ

















แบกแดดดด



Silhouette



คิดถึงสมัยที่ผมยังยาววววจังเลยยย





ท้องฟ้าที่ยังแจ่มใส



เห็นฝนมาลิบๆแล้ววว



ตรงภูเขามีถ้ำด้วยยย





น้องฝึกงานทั้งงสองงงง
(เป็นรุ่นน้องที่คณะด้วยยย)

ตอนนี้ก็ประมาณ4โมงได้แต่ละคนเริ่มตื่นกันออกมา
ได้ไปเล่น banana boat กะ ขับรถ atv
banana boat ครึ่งชม.580



น้ำลงตั้งแต่ช่วงบ่ายสองแล้ววว
ในรูปนี้ตอนน้ำกำลังขึ้นน





3รูปหลังเนี่ยยถ่ายจากกล้องเล็ก สีเลยซีดดๆค่ะ
หมดแล้วววววค่าาาาา~




 

Create Date : 25 มีนาคม 2552    
Last Update : 26 มีนาคม 2552 16:25:09 น.
Counter : 760 Pageviews.  

1  2  
 
 

Funkysomune
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Funkysomune's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com