อิสรภาพแลนด์-ดินแดนลิเบอร์ตี้

Nine Million Bicycles : Global warm warning 4

title : Nine Million Bicycles
album : Piece By Piece
astist : Katie Melua
Released : 26 Sep 2005





Nine Million Bicycles

There are nine million bicycles in Beijing
That's a fact
It's a thing we can't deny
Like the fact that I will love you till I die

We are twelve billion light years from the edge
That's a guess
No-one can ever say it's true
But I know that I will always be with you

I'm warmed by the fire of your love everyday
So don't call me a liar
Just believe everything that I say

There are 6 billion people in the world
More or less
And it makes me feel quite small
But you're the one I love the most of all

We're high on a wire
With the world in our sight
And I'll never tire
Of the love that you give me every night

There are nine million bicycles in Beijing
That's a fact
It's a thing we can't deny
Like the fact that I will love you till I die

And there are nine million bicycles in Beijing
And you know that I will love you till I die




ถ้าพี่ติ๊ก ชิโร่ สามารถแต่งเพลงให้สลากกินแบ่งอยู่ในเพลงรักได้
Mike Batt (ผู้แต่งเพลงนี้ให้กับ Katie Melua ร้อง) ก็สามารถเอาเรื่องจักรยานมาแต่งเป็นเพลงรักได้เหมือนกันครับ
บางท่านอาจจะว่า จักรยานในเพลงรักก็มีหลายเพลงนะ
อย่างเพลง จักรยานสีแดง เพลงไว้ใจได้กา ก็มีจักรยานเข้ามาเกี่ยวข้อง
ผมว่าก็จริงครับ
แต่ผมชอบเพลงนี้ตรงที่ เอาคำว่า "จักรยานในปักกิ่ง 9 ล้านคัน" มาแต่งนั่นแหล่ะ
แล้วยังบอกว่าจริงด้วยนะ
.
เอาเป็นว่าผมเชื่อครับว่าตอนที่แต่งเพลงนี้ในปักกิ่งน่าจะมีจักรยานประมาณ 9 ล้านคัน
แถมยังบอกอีกว่าประชากรบนโลกนี้มี 6 พันล้านคน
ฟังเพลงนี้แล้วได้ความรู้จริงๆครับ
.
ไม่รู้ว่าถูกรึเปล่า
ข้อมูลเหล่านี้ โดยเฉพาะจำนวนประชากรโลกไม่น่าจะหาได้ยากเย็นอะไร
แต่ไอเดียเพลงนี้
ผู้แต่่งคงต้องการจะบอกว่า
ที่ฉันพูดเรื่องเหล่านี้ มันเรื่องจริงนะ
.
ฉะนั้น...เรื่องฉันบอกว่า "จะรักเธอจนวันตาย"ก็เรื่องจริงเหมือนกัน
.
.
อะ..ฮริ้ววววว ฟังแล้วมันหวานได้ใจจริงๆครับ
.
แต่อีกไอเดีย หนึ่งที่ผมชอบครับ
คือการที่คิดว่าจริงๆแล้วเรามันก็แค่คนตัวเล็กๆท่ามกลาง คน 6 พันล้าน นั่นเอง
แล้วเราจะยิ่งเล็กลงไปอีกครับ
เมื่อเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
.
ผมชอบไปเที่ยวภูเขาครับ
ทุกครั้งที่ผมอยู่ท่ามกลางขุนเขา ป่าไม้
ผมจะรู้สึกว่าตัวเราเล็กมากๆเลยครับ
ยิ่งถ้ามองลงไปจากหน้าผาลงไปยังโลกเบื้องล่าง
.
เคยไปนั่งเรือล่องแม่น้ำโขงครับ
แม่น้ำโขงนั้น ทั้งเชี่ยวกราดและกว้างใหญ่
ทั้งสองพากเป็นภูเขา สูงตระหง่าน
ผมก็คิดในใจนะครับว่า ถ้าเราร่วงลงไปในน้ำเนี่ย
อย่าว่าจะเอาตัวรอดเลย
แค่ให้คนในเรือเห็นเราก็บุญแล้ว
.
มาคิดดูมันก็แปลกนะครับ
ที่ว่ามนุษย์ตัวเล็กๆกลับสามารถทำให้ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่นี้ปั่นป่วนได้
.
แต่ว่า Action = Reaction ครับ
อันนี้ก็เป็นความจริงครับ
ถ้าเราสามารถทำให้ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่นี้สั่นสะเทือนได้
แน่นอนว่าผลที่สะท้อนกลับมานั้น ก็ต้องยิ่งใหญ่ตามสิ่งที่เราทำไปด้วยเหมือนกันครับ
.
และรู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่สะท้อนกลับมานั้น ก็จะเลวร้ายเหมือนที่เราทำลงไปกับธรรมชาติเหมือนกันครับ
.
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสิ่งที่เราทำลงไปอาจจะต้องใช้เวลากว่า 100 ปี กว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้
เริ่มเลยก็ยังดีกว่ายังไม่ได้เริ่มเลยครับ
อะไรทำได้ก็ทำครับ
.
เอ้อออออ...พูดถึงเรื่องนี้ ประกอบกับฟังเพลงนี้แล้ว
ผมก็ตั้งใจจะถอยจักรยานสักคันครับเพื่อปั่นไปทำงาน
แต่มาดูระยะทางแล้ว + กลัวว่ารถในถนนจะเสยไปเสียก่อน
ก็กล้าๆกลัวๆจะปั่นไปทำงานครับ
ตอนนี้ก็เลยต้องโหนรถเมล์เหมือนเดิม
.
ไม่แน่นะ
ถ้ากรุงเทพมีคนขี่จักรยานไปทำงาน สัก 9 ล้านคันเหมือนในปักกิ่ง
ผมอาจจะกล้าขี่ไปทำงานเหมือนกัน
แม้ระยะทางจะไกลไปหน่อยก็เถอะ




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2551   
Last Update : 11 มกราคม 2555 17:01:15 น.   
Counter : 733 Pageviews.  

Black Day : เวลาจะพาเราผ่านไป

title : Black Day
album : Precious Burden
astist : Sophie Zelmani
Released : April 3, 1998





Black Day

Was it easy, was it hard?
We will always wonder about that part
Were you crazy, were you brave?
That´s what we all wonder about today

We will live through this black day
We will pray by your young grave
We will live through this black day
We will stand by your black grave

Were you obsessed or just low?
Now we talk about how come it never showed
What did you seek but couldn´t find?
And when, did we all slip your mind?

We will live through this black day
We will pray by your young grave
We will live through this black day
We will stand by your black grave

We will live through this black day
We will pray by your young grave
We will live through this black day
We will stand by your young grave




เวลาผมเหนื่อยๆมาก ผมมักจะปล่อยจิตให้ออกทะเลครับ
แต่ไม่ได้ว่าสติแตก บ้าบอไปนะครับ
แต่เป็นการหาที่สบายใจให้จิตใจน่ะครับ
.
อย่างเช่นตอนที่เรียนมัธยมแล้วต้องสอบวิชาเคมี ซึ่งผมเกลียดมาก
แล้วต้องอ่านหนังสือไปสอบ
จังหวะที่อ่านนั้นมันจะรู้สึกเหนื่อยและเบื่อมากครับ
รู้สึกเหมือนกระดูกชิ้นโตที่ต้องกลืนลงไปให้ได้
.
เมื่อรู้สึกว่าหนทางมันช่างมืดมน
ผมมักจะคิดว่า "ไม่เป็นไรเว้ย สอบเสร็จแล้วเดี๋ยวไปซ้อมดนตรี,เตะบอลกับเพื่อน"
เรียกว่ามองข้าม shot ไปเลย
.
ตอนนี้เวลาทำงานหรือว่าเจออะไรที่ลำบากใจแล้วต้องผ่านไปให้ได้
ผมก็ใช้สูตรเดิมครับ
เช่นว่า "ส่งโปรเจ็คนี้เสร็จจะลาตอนหยุดยาวนี้ล่ะวะ ไปเที่ยวภูเขาดีกว่า"ี
.
ปัญหาบางอย่างเราไม่รู้จะแก้ไขยังไง
บางทีไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม
แต่พอเวลาผ่านไปอะไรๆมันคลี่คลายครับ
.
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เวลาของแต่ละคนต้องไม่ได้เิดินพร้อมกันหรือเหมือนกันนะครับ
เวลาของทุกคนมันจะต้องซ้อน กันตลอด เรียกง่ายๆว่าช่วงเวลาของแต่ละคนไม่ตรงกัน
เพราะถ้า timeline ของแต่ละคนเดินทางเหมือนกัน
คำกล่าวที่ว่า "เวลาจะพาไป" คงช่วยอะไรไม่ได้
เพราะถ้าผมเศร้าซึม มีปัญหา
คนทั้งโลกก็คงจะเศร้าซึมมีปัญหาด้วยครับ
ปล่อยเอาไว้นานวันไม่มีใครแก้ มันก็จะยิ่งเศร้าหนักเข้าไปอีก
.
อืม....
พูดไปพูดมาชักงง
เอาเป็นว่าถ้าเรามีปัญหา อย่าเพิ่งท้อใจนะครับ
ถ้ามันแย่นักไม่รู้จะทำอย่างไร ก็อดทนไว้ ถ้าเวลามันผ่านไปอะไรๆก็คงจะดีขึ้นเอง
.
ผมเป็นห่วงก็ตรงที่ว่า จะมีบางคนที่คนไม่ไหวกับช่วงเวลาอันเลวร้ายนั้น
จะด่วนตัดสินใจทำอะไรที่มันดูไม่ดีลงไป
.
ช่วงเวลานี้ดูเหมือนปัญหาอะไรๆมันก็ประดังเข้ามานะครับ
น้ำมันแพง ข้าวของแพง ค่าแรงเท่าเดิม
รัฐบาลหลงประเด็น แก้ไม่ตรงปัญหา มุ่งแต่จะแก้นัฐธรรมนูญ(แม้จะถอยไปแล้วก็เถอะ แต่ผมเชื่อว่าเดี๋ยวมาใหม่)
ภาวะโลกร้อน ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ฯลฯ
.
อย่างที่บอกนะครับ อดทนเข้าไว้
แล้วเดี๋ยวเวลาจะพาเราไปเอง
.
.
เพลงนี้เป็นเพลงของ sophie zelmani ครับ
เดิมทีฟังเพลงนี้ผมว่าเนื้อหามันก็น่าจะประมาณนี้นะ
ประมาณว่าเราจะผ่านวันที่เลวร้ายไปด้วยกัน(มั้งนะ)
.
ผมชอบเพลงนี้ตรงท่นอโซโล่กีตาร์ทั้งตอนกลางเพลงและตอนท้ายเพลงครับ
ศิลปินส่วนใหญ่จะเล่นกีตาร์โปร่ง ท่อนโซโล่กีตาร์โปร่งตรงกลางเพลงก็ทำได้ดีมีเสน่ห์ครับ
แต่ว่าผมชอบท่อนตรงใกล้จบมากกว่าครับ ตรงที่กีตาร์ไฟฟ้าโผล่มาโซโล่
ฟังๆดูแล้วเหมือนเขาอั้นมานานแล้ว แต่ว่าต้องหลีกให้เจ้าของเพลงก่อน
ได้โอกาสก็ใส่ใหญ่เลย



ภาพข้างบนนี้ชื่อภาพ Whitehouse night เป็นผลงานของ Vincent van Gogh ครับ
ถ้า wikipedia ไม่หลอกผม ภาพนี้จะเป็นภาพที่ศิลปินเขียนขึ้นก่อนปลิดชีพตัวเอง ประมาณ 6 อาทิตย์ครับ
//en.wikipedia.org/wiki/Vincent_van_Gogh
ถ้า van Gogh สามารถผ่านไปกับเวลาช่วงนี้ได้
ทุกวันนี้เราอาจจะรู้จักเขาอีกแบบหนึ่งก็ได้ครับ




 

Create Date : 07 มิถุนายน 2551   
Last Update : 11 มกราคม 2555 17:02:19 น.   
Counter : 1135 Pageviews.  

Govinda : ความสุขของมนุษย์มี 2 อย่าง

title : Govinda
album : K
astist : Kula Shaker
Released : October 22, 1996





Govinda

Govinda Jaya Jaya,
Gopala Jaya Jaya
Radha-ramanahari
Govinda Jaya Jaya

Govinda Jaya Jaya,
Gopala Jaya Jaya
Radha-ramanahari
Govinda Jaya Jaya

Govinda ram janakhada,
Gopala.

Govinda Jaya Jaya,
Gopala Jaya Jaya
Radha-ramanahari
Govinda Jaya Jaya

Govinda Jaya Jaya,
Gopala Jaya Jaya
Radha-ramanahari
Govinda Jaya Jaya

Nrsingadeva Jaya Nrsingadeva (Nrsingadeva)

Nrsingadeva Jaya Nrsingadeva (Nrsingadeva)
Nrsingadeva Jaya Nrsingadeva (Nrsingadeva)

Nrsingadeva

(ooh) Gaura Gaura Gaura Hari,
(ooh) aaah, Gaura Hari,
(ooh) Prabhupda, yeah,
Prabhupda, yeah, no no,
Hey ah Govindam




ก่อนอื่นเลยต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้ประสบภัยทั้งในจีนและพม่าอย่างที่สุดนะครับ
.
.
.
.
ถ้าผมจำไม่ผิด นักจิตวิทยาที่ผมเคารพท่านหนึ่ง(คนเดียวกับเรื่องที่แล้วนี่ล่ะ)
ท่านเคยบอกว่า มนุษย์ จมะมีความสุขพื้นฐานกับ เรื่อง 2 เรื่อง เป็นหลักครับ
2 เรื่องที่ว่า คือ การสร้างสรรค์กับการทำลาย
ผมฟังดูก็งงๆนิดหน่อย
แต่พอมาลองคิดตามดูแล้วหลายๆกิจกรรมของมนุษย์ก็มีพื้นฐานจากเรื่อง 2 เรื่องนี้ทั้งนั้นครับ
ไม่ต้องอะไรมาก
อย่างเกมส์คอมพิวเตอร์ที่เราเล่นๆกันนั้น
ผมว่ามีพื้นฐานการออกแบบเกมส์จากเรื่องนี้นะ
อย่างการสร้างบ้านของตัวเอง การสร้างเมือง การสร้างทีมฟุตบอล การสร้างฐานทัพ ฯลฯ
เมื่อสร้างเสร็จก็ไปรุกรานทำลายฝ่ายตรงข้าม หรือเกมส์การไล่ล่าทำลายสัตว์ประหลาด ฯลฯ
ตามต่างประเทศมีให้บริการทำลายข้าวของลดความเครียดเลยก็มี
.
และหากลองเอาสมมุติฐานนี้มาจับกับพฤติกรรมของมนุษย์จริงๆแล้ว
มันก็พอจะอธิบายได้ครับว่า ทำไมเราถึงมีสงครามกันถึงทุกวันนี้
ต่างคนก็ต่างจะสร้างความมั่งคั่งมั่นคง ให้กับฝ่ายตัวเอง
และก็ทำลายสิ่งที่ไม่ใช่พวกพ้องของตนให้พ้นทางเสีย
.
เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องในระดับสัญชาตญาณเลยก็ได้
เรียกว่าไม่ต้องมีอะไรอธิบายมากใช้ความรู้สึกล้วนๆเลย
.
พูดถึงเรื่องนี้ผมก็นึกถึงเทพแห่งการสร้างสรรค์และทำลายครับ
นั้นคือพระศิวะครับ
ถ้าตามที่อาจารย์จิตวิทยาท่านนี้บอกผม
พระศิวะน่าจะเป็นเทพเจ้าที่สอดคล้องกับความสุขพื้นฐาน 2 อย่างของมนุษย์ที่สุดครับ
การบูชาพระศิวะ ของมนุษย์อาจจะเป็นการเตือนสติตัวเองให้ระลึกถึงเรื่อง การสร้างสรรค์และทำลายอยู่ตลอดเวลาก็ได้ครับ
.
ผมเองก็ไม่ได้แตกฉานเชี่ยวชาญเรื่องของศาสนาฮินดูสักเท่าไหร่
แต่ก็สนใจเรื่องของตำนานเทพเจ้าความเป็นมาต่างๆ(แม้แต่เรื่องราวของเทพเจ้ากรีกก็สนใจนะ)
ผมสังเกต(เอง)ได้ว่าเรื่องเล่าตำนานต่างๆเหล่านี้มักจะมีข้อคิดต่างๆแฝงไว้เสมอครับ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของ คนกับเทพเจ้า เทพเจ้ากับเทพเจ้า ฯลฯ
นั่นเอง อาจจะเป็นวิธีการสอนสั่งเรื่องต่างๆแก่ผู้ฟังอีกทางหนึ่งก็ได้
.
เมื่อเรื่องราว ความเชื่อ คำสอน ประวัติศาสตร์มีคุณค่าในตัวของมันเองอยู่แล้ว
วัตถุที่แสดงตัวแทนของเรื่องราวเหล่านั้น คงจะเป็นปลายทางของกระบวนการแล้วล่ะครับ
เพราะว่าผู้สร้างวัตถุต้องการให้ระลึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นมากกว่า จึงเกิดวัตถุรูปเคารพขึ้นมา
ผู้คนและตัวผมด้วยที่เห็นวัตถุก็จะระลึกถึงเรื่องราวคำสอนสอนต่างที่เกี่ยวข้องกับวัตถุนี้
เป็นกระบวนการจากปลายทางย้อนไปสู่แนวความคิดหลักของกระบวนการ
.
อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วนะครับ
ว่าผมไม่ได้เชี่ยวชาญศาสนศาสตร์ใดๆทั้งนั้น
ที่กล่าวก็คืออ่านๆมาและคิดเอาเองทั้งสิ้นครับ
หากผู้รู้มาเห็นแล้วอยากชี้แจงก็เชิญได้เต็มที่นะครับ
.
เพลง Govinda นี้เป็นเพลงที่ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพลงที่ร้องสรรเสริญพระกฤษณะนะครับ
พระกฤษณะคือเทพแห่งความรักเสียงเพลงและการรำฟ้อน ไม่ได้เกี่ยวกับการสร้า้งสรรค์และทำลายอย่างที่เล่ามาสักเท่าไหร่ครับ
บังเอิญว่าฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงพระศิวะเท่านั้นน่ะครับ
.
หากเป็นอย่างที่ผมเข้าใจเรื่องรูปและวัตถุเคารพ
และหากเกิดการทุบทำลายรูปปั้นในโบราณสถานขึ้นนั้น
เป็นไปเพื่อการประกอบพิธีกรรมอะไรต่างๆ
.
นั่นคงแสดงให้เห็นว่าผู้ลงมือกระทำนั้น
ไม่ได้เข้าใจอะไรในหลัการของวัตถุเคารพเหล่า่นี้เลยสักกระผีกเดียวครับ
สิ่งที่ทำลงไปคงจะไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
ซ้ำยังมีแต่จะทำลายคุณค่าของประวัติศาสตร์ของวัตถุนั้นที่สั่งสมมาเป็นเวลานานเท่านั้นเองครับ
.
อาจจะได้ความสุขเล็กๆน้อยจากความสบายใจในการสร้างความมั่นคงทางจิตใจของตัวเองและพวกพ้อง
แม้ว่านั่นอาจจะเกิดจากจากการทำลายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติลงก็ตามทีครับ




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 มกราคม 2555 17:03:29 น.   
Counter : 1628 Pageviews.  

คำถาม : Global warm warning 3 !!!!!

title : คำถาม
album : Interlude 1
astist : Mad Pack It
Released : ( ประมาณ 2002)





คำถาม

รอบกายช่างดูสับสน รอบกายช่างมีผู้คน
เดินกันเวียนวนดูน่ากลัว
ก่อนนี้ฉันแข็งแรง เคยสู้แสงและดินฟ้า
ไร้โลกที่มายา ไร้มลภาวะ

* ฉันคือต้นไม้ ฉันถูกทำร้าย
ไม่มีความหมายในบัดนี้
ฉันคือต้นไม้ คำถามสุดท้าย
ฉันจะเป็นอย่างไรต่อไปนี้

** ฉันคงต้องตายและคงวายชีวา
ฉันคงต้องตายและคงวายชีวา
ฉันคงต้องตายและคงวายชีวา
ฉันคงต้องตาย (3 ครั้ง)

ย้อนเวลาด้วยความจริงใจ ก่อนนั้นฉันเคยสดใส
และเด่นกว่าใครในผืนโลกา
เดี๋ยวนี้ฉันดูอ่อนล้า ดั่งสตรีที่หลั่งน้ำตา
คงไม่คู่ควรพึ่งพา ฉันไร้ค่า

*** ฉันคือแม่น้ำ ฉันถูกคุกคาม
เหมือนเป็นคนทราม ทำสิ่งไม่ดี
ฉันคือแม่น้ำ ขอย้อนถามสักที
ที่ฉันเน่าแบบนี้ ใครกัน...ทำลาย




แม้ว่าพระพุทธองค์จะมีเมตตาต่อมนุษย์และสัตว์โลกทุกชีวิต
แต่ว่าเมื่อยามที่ต้องเจอกับมนุษย์ที่โง่เขลา สุดที่จะสอนสั่ง
ท่านก็จะมีอีกภาคหนึ่งครับ
เป็นภาคโกรธเกรี้ยว สอนสั่งและดับปีศาจร้ายทำลายกิเลสด้วยกำลัง
ประหนึ่งว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" ว่างั้นเถอะ

เห็นผมกล่าวเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเชี่ยวชาญทางธรรมแตกฉานอะไรนะครับ
แค่เคยผ่านหูผ่านตาเท่านั้น(เห็นพระพุทธรูปของทางญี่ปุ่น)
ถ้าพูดให้ถูกก็คือไม่รู้อะไรเลยมากกว่า
จะเป็นอีกภาคของพระพุทธองค์หรือจะเป็นพระอรหันต์องค์ใดผมก็ไม่ทราบล่ะครับ

แต่เห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจดีครับ
ผมว่าอารมณ์ประมาณนี้ ผมก็มีนะ
ประมาณว่าบางคนพูดจากันไม่รู้เรื่องแล้ว มันต้องอัดกันด้วยกำลังเท่านั้น
ถึงจะพูดกันรู้เรื่อง

ขนาดพระอรหันต์ซึ่งมีเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตทุกทิศทุกทาง
ยังมีความโกรธเกรี้ยวกับความไม่ได้เรื่องของมนุษย์ได้ขนาดนี้

ผมว่าการกระทำของมนุษย์ต่อธรรมชาตินั้น มันก็น่าจะโกรธเหมือนกันนะ
ถ้าต้นไม้ ใบหญ้า ป่าเขา ทะเล และสายน้ำพูดได้
พวกเขาคงจะก่นด่า เรียกร้อง ประท้วง อะไรไปมากมายแล้วครับ

ถ้านึกไม่ออก ก็ลองนึกถึงเรื่อง Lord of the Ring ก็ได้ครับ
ฉากที่พวกต้นไม้บุกไปทำลาย รังของพ่อมดซารูมานน่ะ



ความคับแค้นใจของธรรมชาติต่อการกระทำของมนุษย์ หากให้แสดงออกทางการกระทำหรือคำพูดจากพวกเขา
ผมว่าอาจจะถึงขั้น กลียุค ปฏิวัติ หรือสงครามข้ามเผ่าพันธุ์กันได้เลยทีเดียว

ทีนี้ ต้นไม้ พูดไม่ได้ครับ
ช้างพูดไม่ได้ สัตว์ป่าพูดไม่ได้ สายน้ำ ป่าเขาพูดไม่ได้
โกรธ(รึเปล่า) ก็ไม่แสดงออก
มนุษย์ก็เลยไม่รู้ถึงสิ่งที่ตนกระทำลงไปนั้นมันไม่น่าพอใจแค่ไหน

เคยมีอาจารย์จิตวิทยาท่านหนึ่งที่ผมเคารพ
ท่านกล่าวว่า

"การทำโทษที่รุนแรงที่สุดคือไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องพูด นิ่งเฉยไปนั่นแหล่ะ"


แกยังบอกอีกว่า พ่อแม่ถ้าจะลงโทษลูกด้วยการนิ่งและไม่พูดกับลูกนั้น
ถือว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงมาก
เด็กจะเก็บไปคิดเองต่างๆนานา คลุมเครือและไม่ชัดเจน
ภาวะอย่างนี้น่าอึดอัดใจมากครับ
ตีซะยังจะดีกว่า รู้ๆกันไปเลยว่าโกรธ

ถ้าอย่างนั้น การที่ ธรรมชาติ ไม่พูดอะไรกับมนุษย์
ผมว่าก็คงจะเป็นการลงโทษที่ดุที่สุดแล้วครับ
การที่ต้องให้มนุษย์ต้องค้นพบด้วยด้วยตัวเอง
ว่าสิ่งที่ตนกระทำอะไรลงไปด้วยตัวเอง
นั่นคงจะเป็นการบอกกล่าวและสั่งสอนที่ดีที่สุดกระมังครับ

ผมชอบเพลงนี้ของ MadPackIt มากครับ
ชอบเพราะให้ความรู้สึกถึงความคับแค้นใจของธรรมชาติ
ที่ระบายออกมาเป็นคำพูดได้ดีตรับ

จำได้ว่าไปซื้อ CD เพราะอยากฟังเพลงนี้แค่เพลงเดียวเท่านั้น
แต่ว่าพอลองมาฟังทั้งอัลบั้ม ก็พบว่าเพลงอื่นก้น่าสนใจมากครับ

แต่พอจะหาปกมาลง BLOG ปรากฎว่าหายจ้อยไปไหนแล้วก็ไม่รู้ครับ
เลยต้อง scan CD มาลงอย่างที่เห็นเนี่ยแหล่ะครับ
คงพอถูๆไถๆนะ (อย่าเพิ่งโกรธเกรี้ยวนะ)




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 มกราคม 2555 17:08:01 น.   
Counter : 1344 Pageviews.  

Heaven and Earth (Land Theme) : ถ้าคุณเห็นสวรรค์กับนรกมาแล้ว คุณจะมองโลกอย่างไร

title : Heaven and Earth (Land Theme)
album : Heaven & Earth Soundtrack
astist : Kitaro
Released : December 25, 1993





เมื่อเร็วๆนี้ผมได้อ่านข่าวเรื่องที่คุณทักษิณไปปาฐกถาที่งานอะไรสักอย่าง
(รายละเอียดใน Link นี้ครับ //www.thainewsland.com/?l=th&a=22297)
นอกเรื่องตามหัวข้อที่แกพูดแล้ว
ยังมีเรื่องชีวิตความเป็นอยู่หลังถูกยึดอำนาจด้วยครับ
.
แกว่าประมาณว่าเกิดมาชาตินี้ได้รู้จักนรก สวรรค์มาแล้ว,พอแล้ว,เลิกยุ่งทางการเมืองแล้ว,อยากทำประโยชน์ให้ประเทศไทย ฯลฯ
เรื่องอื่นก็ปล่อยให้แกพูดไปเถอะครับ
แต่ผมติดใจตรงคำที่แกพูดเรื่องนรก-สวรรค์นี่ล่ะ
.
ผมก็ดันไปโยงเอากับหนังที่ผมชอบมากเรื่องหนึ่งครับ
นั่นคือเรื่อง Heaven & Earth ครับ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับสาวชาวเวียดนามตอนช่วงสงครามเวียดนาม ที่ต้องประสบความทุกข์เข็ญทั้งจากทหารเวียดกงและทหารอมริกัน
โดยเนื้อหาก็ชอบอยู่แล้ว พอได้ Kitaro มาทำเพลงประกอบให้ยิ่งชอบใหญ่เลย
.
ขอเล่าคร่าวๆนิดนึงนะครับ
เรื่องนี้นางเอกจะได้เจอเหตุการณ์ต่างๆทั้งความทุกข์สุดขีด
ยันความสุขล้นจนใจมันยั้งไม่อยู่ (ยืมเนื้อเพลง ฤดูที่แตกต่างของคุณ บอย มาใช้นิดนึงครับ)
แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ได้คำตอบให้ตัวเองครับ
ว่าสวรรค์ที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ไหน
.
หลังจากที่เธอผ่านเรื่องราวของชีวิตมาพอสมควร
เธอก็มีมุมมองเกี่ยวกับโลกใบนี้ที่เปลี่ยนไปครับ
จะว่าไปหากคุณทักษิณพูดจริงอย่างที่เราได้ยินในข่าวนั้น
ทัศนคติเี่กี่ยวกับโลกนี้ของคุณทักษิณก็เกือบๆจะคล้ายกับนางเอกในเรื่องนี้แล้วล่ะ
.
คนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาโชกโชน ราวกับได้ไปเห็นนรกกับสวรรค์มาแล้ว
ผมถือว่ามีประสบการณ์ชีวิตที่มีค่านะครับ
จุดเปลี่ยนสำคัญเกี่ยวกับประสบกาารณ์ดังกล่าวนี้คงจะเป็นเรื่องมุมมองที่มีต่อโลกมั้งครับ
เพราะผมเชื่อว่าทั้งคุณทักษิณและนางเอกของเรื่องนี้ คงไม่ได้ไปลุยในนรกเฝ้าพญายมหรือไปเคาะประตูสู่สวรรค์แต่อย่างใดหรอกครับ
คงจะเป็นการเปรียบเทียบความสุขกับความทุกข์ที่ผ่านมาในชีวิตมากกว่า
.
มุมมองที่มีต่อโลกที่ว่านี้...
ผมว่าน่าสนใจนะครับ เพราะทั้งนรกและสววรค์สามารถที่จะเกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้ ยำกันไปมานั่นแหล่ะ
บางคนที่เจอแต่นรกก็เลยกลายเป็นมองโลกในแง่ร้ายไป
บางคนเจอแต่สวรรค์ก็ไม่คิดที่จะมองลงมายังโลกแห่งความจริงที่ดำเนินไปเลย
.
ผมถึงว่าคนที่ได้เคยผ่านตรงนี้มาแล้ว มุมมองที่เขามีต่อโลกจะเป็นอย่างไรครับ
เขาจะมองคนที่ยังไม่เคยผ่านประสบการณ์นี้อย่างไร
เขาจะเอาประสบการณ์นี้มาช่วยเหลือโลกหรือไม่
หรือเขาจะตัดช่องน้อย ปลีกวิเวก เข้าใจโลกแต่เพียงผู้เดียว
หรือเขาจะเรียกร้องเอาจากโลกมาขึ้น และทำร้ายโลกต่อไป
ตรงนี้ก็แล้วแต่เขาแล้วล่ะครับ
.
.


เรื่อง Heaven & Earth เ็ป็นเรื่องจริงครับ นางเอกของเรื่องนี้ชื่อ LeLy Hayslip มีตัวตนจริง
หลังจากที่เธอได้ผ่านมาทั้งนรกและสวรรค์มาแล้ว เธอตัดสินใจจะช่วยโลกใบนี้ครับ
โดยการก่อตั้งมูลนิธิ EAST MEET WEST เพื่อช่วยเหลือทางด้าน อาหาร การศึกษา ยารักษาโรคให้กับเด็กๆในเวียดนามครับ
เธอคงไม่อยากให้เด็กๆในเวียดนามต้องเจอประสบการณ์ทุกข์ระทมอย่างที่เธอเคยเจอมา
.
คุณทักษิณแกก็ว่าแกจะช่วยเหลือเด็กเหมือนกันครับ
ซึ่งถ้าหากทำได้จริงอย่างที่ว่าผมก็ชื่นชมครับ(รวมถึงคำกล่าวเรื่องไม่ยุ่งกับการเมืองด้วยก็ดี)
หวังว่าคุณทักษิณคงจะช่วยเหลือประเทศไทยได้จริงอย่างที่พูด
และคงไม่ได้ยัดเยียดประสบการณ์ ที่์เหมือนตกนรกให้คนไทย ในอนาคตด้วยนะครับ



เว็บของมูลนิธิ EAST MEET WEST ตามนี้ครับ
//www.eastmeetswest.org/index.php

ส่วนอันนี้เป็น link music video ของเพลงนี้ครับภาพสวยมากทีเดียว
https://www.youtube.com/watch?v=wGQBriGMvnc&feature=related




 

Create Date : 12 เมษายน 2551   
Last Update : 11 มกราคม 2555 17:11:59 น.   
Counter : 2872 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

อิสรภาพแลนด์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อิสรภาพแลนด์
.
.
มีอยู่จริงนะ
[Add อิสรภาพแลนด์'s blog to your web]