อิสรภาพแลนด์-ดินแดนลิเบอร์ตี้

I Need To Wake Up : Global warm warning 5

title : I Need To Wake Up
album : An Inconvenient Truth OST.
astist : Melissa Etheridge
Released : July 11, 2006





I Need To Wake Up

Have I been sleeping?
I’ve been so still
Afraid of crumbling
Have I been careless?
Dismissing all the distant rumblings
Take me where I am supposed to be
To comprehend the things that I can’t see

Cause I need to move
I need to wake up
I need to change
I need to shake up
I need to speak out
Something’s got to break up
I’ve been asleep
And I need to wake up
Now

And as a child
I danced like it was 1999
My dreams were wild
The promise of this new world
Would be mine
Now I am throwing off the carelessness of youth
To listen to an inconvenient truth

That I need to move
I need to wake up
I need to change
I need to shake up
I need to speak out
Something’s got to break up
I’ve been asleep
And I need to wake up
Now

I am not an island
I am not alone
I am my intentions
Trapped here in this flesh and bone

And I need to move
I need to wake up
I need to change
I need to shake up
I need to speak out
Something’s got to break up
I’ve been asleep
And I need to wake up
Now

I want to change
I need to shake up
I need to speak out
Oh, Something’s got to break up
I’ve been asleep
And I need to wake up
Now
































ตะกี๊บังเอิญได้ดูช่อง animal planet ครับ
ดูแบบผ่านๆ แต่ก็ได้ใจความว่าที่ญี่ปุ่น (จังหวัดไหนไม่ทราบ)
มีปัญหาเรื่อง"หมี"มาบุกรุกที่อยู่อาศัยของมนุษย์ครับ
ก็มีอาสาสมัครชาวต่างชาติพยายามจะให้แนวคิดใหม่ในการป้องกันและไล่หมีกับชาวบ้านญี่ปุ่นแถวนั้นครับ
ประมาณว่า "ถ้าจะไล่หมีก็ได้ ไม่ต้องถึงกับฆ่าแกงกันหรอก"
เข้าใจว่าคงจะมีกรณีที่หมีทำร้ายคนอยู่เหมือนกันครับ
ชาวบ้านแถวนั้นเลยใช้มาตรการรุนแรงโดยการจับตายกับหมีซะเลย

อาสาสมัครจึงใช้สุนัขในการตรวจจับหมีและไล่ไปด้วยในตัว
พอดูได้สักพักก็ถึงตอนตื่นเต้นครับ
เมื่อมีวิทยุ แจ้งมาที่อาสาสมัครว่า พบหมีออกมาในเมืองแล้ว
ภาพก็ตัดให้ดูกล้องวงจรปิดที่จับภาพหมีข้ามถนนได้ในยามวิกาล

เจ้าหมี(ดูคล้ายๆหมีควายนะ) ก็ลงมาจากภูเขาด้านที่ติดถนนครับ ประมาณว่าย่องเข้ามา
ข้ามถนนไปที่อีกฝั่งที่กล้องวงจรปิดมองไม่เห็น
ผมก็ตื่นเต้นครับ
อยากรู้ว่าเขาจะไล่ยังไง
เจ้าหมี(ควาย)หายไปจากหน้าจอของกล้องวงจรปิดไปที่อีกฟากถนนสักพักนึงครับ ซึ่งในกล้องวงจรปิดมองไม่เห็นแล้ว
สักพักอาสาสมัครก็มาถึงครับ
เสียงสุนัขที่ฝึกมา ก็เห่าไล่ระงม
ผมก็เห็นเจ้าหมีวิ่งเผ่นแนบข้ามถนนกลับไปทางเดิมที่ลงมา
จริงๆรายการนี้ผมคงจะดูแบบผ่านๆนะครับ

ถ้าไม่ได้เห็นภาพที่กล้องวงจรปิด จับภาพตอนที่หมีรีบวิ่งหนีกลับเข้าป่าน่ะครับ
เพราะในขณะที่มันกำลังตกใจลนลานจากการไล่ของอาสาสมัครและสุนัข
มันยังไม่ลืมคาบถุงขยะถุงใหญ่กลับเข้าไปในป่าด้วยครับ
ผมได้ถึงบางอ้อว่า
อีกฟากของถนนก็คือที่ทิ้งขยะของชาวบ้านแถวนั้นนั่นเอง
เจ้าหมีที่คาดว่าไม่มีอาหารก็เลยต้องเข้ามาคุ้ยหาขยะแถวนั้นเป็นอาหาร

ข่าวประมาณนี้มีให้เห็นเรื่อยๆนะครับ
เมืองไทยเราก็มีเรื่องของช้างที่มาบุกรุกไร่สวนของชาวบ้านเพราะไม่มีอาหารในป่า จนโดนรั้วไฟฟ้า หรือสายไฟฟ้าช็อตตายไปหลายตัวแล้ว (ช้างป่าเรียกเป็นตัวนะ)
ที่อเมริกาผมก็เคยเห็นข่าวหมีเข้ามาคุ้ยขยะนะ หมาป่า หมาจิ้งจอกก็มี

เรื่องนี้ผมว่าหลายๆท่านก็คงรู้นะครับว่าทำไมเหตุการณ์อย่างนี้มันถึงเกิดขึ้นได้
การจะบอกว่าชาวบ้านแถวนั้นบุกรุกที่อยู่อาศัยของสัตว์นั้นก็คงจะตอบได้ในระดับหนึ่ง
แต่ถ้ามองภาพรวมแล้ว ชาวโลกก็ควรจะช่วยรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ในระดับทั้งกระบวนการนะ

ผมเคยดูการ์ตูนสอนเด็กๆช่อง 11 ครับ
เขาเปรียบว่าหากประวัติศาสตร์การกำเนิดโลกใบนี้เป็นหนังสือเล่มใหญ่
ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ ยังเปรียบไม่ได้แม้ประโยคสุดท้ยของหนังสือด้วยซ้ำครับ
นั่นแปลว่าตั้งแต่เราเป็นลิงหรือว่าสัตว์เซลเดียว มันเป็นระยะเวลาสั้นมาก หากเทียบกับระยะเวลากำเนิดมาแล้วของโลกใบนี้

และยิ่งสั้นเข้าไปอีกนะครับ
ถ้าเรามาดูระยะเสื่อมถอยของธรรมชาติ
ผมเชื่อว่าน่าจะมาจากช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมนั่นแล

ความจริงถ้าจะโทษมนุษย์ฝ่ายเดียวคงไม่ถูก
ถ้าจะมองแบบเป็นกลางแล้วทุกอย่างต้องมีระยะรุ่งเรืองและเสื่อมถอย
มีความเป็นไปได้ว่าโลกใบนี้อาจจะเจอเหตุการณ์อย่างนี้มานับไม่ถ้วน
หรือไม่ก็แตกต่างในรูปแบบต่างๆกันไป
ฉะนั้นกระบวนการเผาไหม้โลกใบนี้ของมนุษย์ อาจจะเป็นกระบวนการหนึ่งของโลกใบนี้ก็ได้ครับ
ในการชำระล้างอะไรต่างๆ
เพื่อการกลับสู่สภาวะปรกติของโลกใบนี้อีกครั้ง

แต่เงื่อนไขนี้มีสิ่งเดียวที่จะกลับไปถึงตรงจุดนั้นได้แน่นอนครับ
นั่นคือโลกใบนี้ครับ (ถ้าโลกไม่แตกไปเสียก่อนนะ)
มนุษย์เรายังไม่ได้การรับประกันในจุดนี้นะครับ

เพลงนี้เป็นเพลงประกอบหนังสารคดีชื่อดังของนาย อัล กอร์ ครับ
แม้ว่าจะมีเสียงกระทบกระเทียบมาบ้างว่าจะทำเพื่อการหาเสียงบ้างล่ะ
หรือมีข่าวว่าที่บ้านนายอัล กอร์ก็ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าชาวบ้านแถวนั้นเป็นสิบๆ เท่าบ้างล่ะ
ยังไงก็ตาม ก็ถือว่าเขาก็ทำหนังสารคดีที่ดีมากออกมาละกันครับ
มองที่เนื้อหาดีกว่า สบายใจ

ฟังเพลงนี้ครั้งแรกรู้สึกเลยครับว่ามีพลังมากจริงๆ เหมือนคนร้องอยากจะบอกว่า " เฮ้ยๆๆพวกเราตื่นกันได้แล้ว ! "
" ความจริงอันโหดร้ายกำลังจะมาถึงแล้ว ! " นะครับ

หรือว่าอีกนัยหนึ่งที่ผม(อยาก)เข้าใจก็คือว่า
ใครก็ได้ช่วยปลุกฉันจากความจริงอันโหดร้ายนี้ที
อยากให้อะไรที่มันเลวร้ายนี้เป็นเหมือนแค่ความฝันเท่านั้นเองครับ




ขอบคุณภาพประกอบมากมายนะครับ (พักหลังๆมาเริ่มไม่มี link แหะ)




Create Date : 20 กันยายน 2552
Last Update : 4 เมษายน 2557 11:52:40 น. 1 comments
Counter : 1022 Pageviews.  

 
มนุษย์ชอบที่จะสร้างและแก้ปัญหาคะ แต่ไม่เคยป้องกันที่จะไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม


โดย: MademoiselleTancy วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:20:18:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อิสรภาพแลนด์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อิสรภาพแลนด์
.
.
มีอยู่จริงนะ
[Add อิสรภาพแลนด์'s blog to your web]