|
Face To Fate ตอน 29
จากตอนที่แล้ว ใกล้ถึงวันประลองยุทธระหว่างฝ่ายธรรมะกับอธรรม เจ้าวังเกอซูเทียนดูดวงดาวแล้วพบว่ากำลังจะเกิดปรากฎการณ์พิเศษ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนพลังยุทธ์ให้กับเค้า เจ้าวังจึงตัดสินใจเก็บตัวฝึกวิชา และมอบหมายให้ท่านหมอหล่ายเป็นผู้นำในการประลองยุทธ์
หล่ายเหยิกยี: ไหนท่านว่าผลึกลาวาเป็นของอัปมงคลสำหรับท่าน เหตุใดจึงคิดใช้มันฝึกวิชาอีก เกอซูเทียน: ผลึกลาวาจะเป็นคุณหรือโทษ อยู่ที่ใครเป็นเจ้าของ หล่ายเหยิกยี: จะให้ข้าเป็นตัวแทนท่านในการประลองก็ได้ แต่เมื่อไหร่ท่านจะสอนเคล็ดวิชาที่เหลือให้ข้าล่ะ เกอซูเทียน: หลังจากที่เจ้าชนะการประลอง และสังหารหลี่ปูยีแล้ว
ในที่สุดก็ถึงวันประลอง ผู้ชนะ 3 ใน 5 รอบ กรรมการทั้งสาม มาจากเปอร์เซีย อินเดีย และทะเลใต้
หลี่ปูยี: เกอซูเทียนล่ะ หล่ายเหยิกยี: ลำพังข้าก็จัดการพวกเจ้าได้ เพื่อเยี่ยไหลข้าต้องชนะเจ้าแน่ หลี่ปูยี: ไม่มีทาง
เยี่ยม่งเซอะสงสัยว่าบิดานางหายไปไหน แต่ท่านหมอหล่ายก็ไม่ยอมบอกนาง หัวหน้าหน่วยต่างไม่กล้าขัดคำสั่งเจ้าวัง จึงคล้อยตามท่านหมอ
หลวงจีนอยากตาย: เกอซูเทียนนี่แสบจริงๆ ให้หล่ายเหยิกยีออกหน้ามาสู้กับเจ้า เค้าทำแบบนี้เพื่อให้เจ้าลำบากใจที่จะสู้ ไป่ชิงซู: หล่ายเหยิกยีรู้จักพวกเราดี แต่เรากลับไม่รู้จักคนของฝ่ายเค้าเลย จะเอาชนะพวกเค้าได้คงไม่ใช่เรื่องง่าย
ท่านหมอหล่ายกับหลี่ปูยี แม้จะอยู่คนละฝ่าย แต่ต่างมีความคิดตรงกัน ต่างให้ความสำคัญกับการจัดลำดับการต่อสู้
หล่ายเหยิกยี: หากจัดลำดับคู่ต่อสู้ให้ดีๆ เราก็จะชนะได้อย่างง่ายดาย ข้ารู้จักหลี่ปูยีดี ในบรรดาผู้ร่วมประลองทั้ง 5 คน นักสะสมดาบเก่งกาจที่สุด เค้าจะต้องวางตัวในลำดับแรกแน่
ท่านหมอหล่ายแม่นจริงๆ จ้า ท่านหมอหล่ายวางแผนไว้แล้ว โดยให้คู่ต่อสู้ใช้กระบี่สวรรค์ที่นักสะสมดาบเคยใช้สังหารพี่ชายตนเอง นักสะสมดาบถูกความสำนึกผิดหลอกหลอนจนเกือบพ่ายแพ้
แต่หลี่ปูยีสะกิดใจให้เค้าคิดได้ เค้าจึงปิดตาตนเอง และฟันกระบี่สวรรค์หัก ที่แท้กระบี่สวรรค์นั้นเป็นของปลอม
แผนแรกพลาดยังมีแผนสอง นักสู้ของวังสวรรค์ฟันแทงไม่เข้า หลวงจีนอยากตายแนะจุดอ่อนของนักสู้ โดยให้นักสะสมดาบแทงที่ดวงตาและปาก ยกแรกฝ่ายธรรมะจึงเป็นฝ่ายชนะ
ฝ่ายธรรมต่างยินดีที่ได้ชัยในยกแรก หากยกหน้ายังชนะอีก ก็จะมั่นใจขึ้น หลี่ปูยียังไม่แน่ใจ เค้าคิดปรับกลยุทธ์ใหม่ เมื่อหล่ายเหยิกยีเตรียมแผนรับมือไว้เช่นนี้ ก็ต้องเปลี่ยนลำดับการต่อสู้ซะใหม่ โดยเปลี่ยนตัวเต้าหยินไม้ เป็นไป่ชิงซู
บรรดาหัวหน้าหน่วยต่างไม่พอใจที่ฝ่ายอธรรมแพ้การประลองยกแรก
หล่ายเหยิกยี: พ่ายแพ้เล็กน้อยก็ตื่นตระหนก โวยวายกันไปได้ มิน่าล่ะเจ้าวังถึงให้ข้าเป็นผู้นำการประลอง การประลองเพิ่งจะเริ่ม ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะหรอก จ้าวค้างคาว: เจ้ามีแผนยังไง หล่ายเหยิกยี: ข้ารู้จักหลี่ปูยีดี เค้าจะต้องเปลี่ยนลำดับการประลองแน่นอน
ท่านหมอหล่ายก็เดาถูกตามเคย เค้าเตรียมการรับมือท่าหิมะเหินหาวของไป่ชิงซูไว้แล้ว ยกนี้ฝ่ายอธรรมจึงเป็นฝ่ายชนะ
เพื่อเพิ่มพลังยุทธให้กับนักสู้เหล็กไหล ท่านหมอหล่ายโหดแม้กระทั่งพวกเดียวกันเอง อ้อ ลืมไปไม่ใช่พวกเดียวกันแฮะ นักสู้ดูดพลังยุทธจากหัวหน้าหน่วยทั้งสาม ทำให้พลังยุทธเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล
จ้าวค้างค้าวไม่พอใจที่หล่ายเหยิกยีทำเช่นนี้
จ้าวค้างคาว: เจ้าจงใจทำเช่นนี้ ประสงค์อะไรกันแน่ หล่ายเหยิกยี: ข้าใช้เข็มเงินเปลี่ยนการไหลเวียนของลมปราณ ทำให้นักสู้ปีศาจ สามารถดูดพลังผู้อื่นได้ เช่นนี้ ต่อให้ตายไปก็ยังสู้ต่อได้ ถ้าการเสียสละพวกเค้าสามคน ทำให้วังสวรรค์ชนะการประลอง ข้าว่าเจ้าวังก็ย่อมเห็นด้วย
หล่ายเหยิกยี: เยี่ยไหล เราชนะไปยกหนึ่งแล้ว เหลืออีก 2 ยกเท่านั้น เกอซูเทียนก็จะสอนเคล็ดวิชาสวรรค์ให้ข้า แล้วเจ้าก็จะฟื้น เยียนเยี่ยไหล: แต่ท่านกับข้าก็ห่างเหินกันไปเรื่อยๆ ท่านเปลี่ยนไป ท่านกลายเป็นคนแปลกหน้าที่น่าหวาดกลัว ท่านกำลังช่วยมารร้าย ทำให้อธรรมได้ครองยุทธภพ เราจึงยิ่งห่างไกลกันออกไปทุกที หล่ายเหยิกยี: แต่ข้าทำไปเพื่อเจ้า เยียนเยี่ยไหล: หากท่านต้องเป็นเช่นนี้ สู้ให้ข้าอย่าฟื้นซะยังดีกว่า หล่ายเหยิกยี: ข้าทำไปเพื่อเจ้า เพื่อเราสองคน
เยี่ยม่งเซอะ: เพื่อเยี่ยไหลเจ้าควรหยุดได้แล้ว เจ้ายังมีจิตสำนึกอยู่ กลับตัวซะเถอะนะ หล่ายเหยิกยี: ข้ากลับตัวแล้ว เยี่ยไหลจะฟื้นหรือ เยี่ยม่งเซอะ: ตราบใดยังมีความหวัง ก็ยังมีหนทาง หล่ายเหยิกยี: ไร้สาระ หากชะตากลั่นแกล้งข้า ข้าจะไม่ยอมแพ้มัน
ไป่ชิงซูได้รับบาดเจ็บไม่น้อย เจ้าสำนักหวงซานยังไม่อยากเชื่อว่าหล่ายเหยิกยีจะรู้เท่าทันพวกเค้าขนาดนี้
เยี่ยม่งเซอะรับไม่ได้ที่ท่านหมอหล่ายทำร้ายพวกเดียวกันจนต้องสูญสิ้นวรยุทธ์ นางคิดจะรายงานเรื่องนี้ให้เจ้าวังทราบ แต่จ้าวค้างคาวห้ามไว้
จ้าวค้างคาว: หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าวัง หล่ายเหยิกยีคงไม่กล้าทำการอุกอาจเช่นนี้ เยี่ยม่งเซอะ: งั้นข้ายิ่งรับไม่ได้ใหญ่ พวกท่านทำงานรับใช้วังสวรรค์อย่างซือสัตย์ ทำอย่างนี้มันเกินไปแล้ว จ้าวค้างคาว: ชีวิตของพวกเราเป็นของเจ้าวัง เราไม่มีอะไรจะตัดพ้อ หัวหน้าหน่วย: แต่พวกเราสูญสิ้นวรยุทธแล้วก็เป็นคนไร้ค่า เยี่ยม่งเซอะ: ไม่ วังสวรรค์จะต้องตอบแทนพวกท่านอย่างดี หัวหน้าหน่วย: เพียงคำพูดนี้ของคุณหนู ข้ายินดีตายเพื่อท่าน
เยี่ยม่งเซอะคิดจะไปบอกหลี่ปูยีเรื่องนักสู้ปีศาจ ท่านหมอหล่ายก็รู้ทันมาดักรอซะอีก
หล่ายเหยิกยี: หากเจ้าวังรู้ว่าเจ้าคิดทรยศ เค้าจะทำยังไงกับเจ้านะ เยี่ยม่งเซอะ: ไม่ต้องมาขู่ข้า ข้าไม่กลัว
ท่านหมอหล่ายจัดการสะกัดจุดนางไว้
หล่ายเหยิกยี: ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปหรอก หากเจ้ากล้าทำลายแผนข้า ข้าจะจัดการเจ้าแน่
รอบที่สาม ฝ่ายธรรมะส่งเต้าหยินไม้เป็นตัวแทน เต้าหยินสามารถแทงดวงตาของนักสู้ได้ นึกว่าตนเป็นฝ่ายชนะ แต่นักสู้เหล็กไหล เป็นศพเดินได้ จึงฟื้นขึ้นมาทำร้ายเต้าหยินโดยที่เค้าไม่ทันตั้งตัว หลี่ปูยีลงมือช่วยเต้าหยินไม้ จึงเป็นฝ่ายผิดกติกา
หลี่ปูยี: เจ้าทำผิดกฎ นักสู้ของเจ้าไม่ใช่มนุษย์ หล่ายเหยิกยี: ข้าหรือทำผิดกฎ นักสู้ของข้าเป็นมนุษย์แน่นอน ข้าไม่ได้ใช้ยา ไม่ได้ทำผิดกฎ ถ้าเจ้าไม่คิดสู้ต่อ ฝ่ายข้าก็เป็นผู้ชนะ
กรรมการตัดสินว่าหลี่ปูยีสอดมือเข้ายุ่งเกี่ยวการประลอง จึงปรับให้เป็นฝ่ายแพ้
จ้าวค้างคาวคิดช่วยเหลือพาเยี่ยม่งเซอะหนีไปพบเจ้าวัง เอ้า อยากพบนักใช่มั้ย ท่านหมอหล่ายพาไปเองก็ได้
ฟ้องไปก็เท่านั้น เจ้าวังกลับชื่นชมท่านหมอหล่ายซะอีก เพื่อชัยชนะ เสียสละเล็กน้อย จิ๊บๆ เอง
ฝ่ายธรรมะชักหนักใจ แพ้ไปสองในสามแล้ว อีกหนเดียวแย่แน่ พวกเค้าฝากความหวังไว้กับกระบี่รวมใจของจอมยุทธเซี่ยง สู้ สู้
ฝ่ายเสิ่นซิงหนานมาตั้งตนเป็นเจ้ายุทธภพอยู่กับพวกขอทานนี่เอง เสิ่นซิงหนานยังจำบุตรสาวไม่ได้อยู่ดี หลิวฝ่านหยีเลยต้องทำเนียน เรียกเค้าเป็นเจ้ายุทธ อะไรก็ลืมหมด แต่ยังจำได้ว่าต้องไปร่วมงานประลองชิงเจ้ายุทธภพเนี่ยสิ
ฮูหยินเซี่ยงท้องตอนไหนไม่ท้อง ดันมาท้องตอนนี้ แล้วจะไปสู้กับเค้าได้ยังไงล่ะ จอมยุทธเซี่ยงกลัวเมียได้รับบาดเจ็บไม่ยอมให้เข้าร่วมประลอง แต่กระบี่รวมใจต้องใช้สองคน คนเดียวจะชนะได้ที่ไหน
หลิวฝ่านหยีกับเสิ่นฉินหงตามเสิ่นซิงหนานมาถึงที่ประลอง เกือบปะทะกับฝ่ายธรรมะ ดีที่หลี่ปูยีห้ามปรามไว้ เห็นแก่ที่หลิวฝ่านหยีเคยช่วยสำนักคงท้ง หลี่ปูยีขอให้ให้โอกาสเค้ากลับตัวซะใหม่ และเสนอให้เค้าเข้าประลองแทนคู่จอมยุทธเซี่ยง เจ้าสำนักหลายคนไม่เห็นด้วย เจ้าสำนักหวงซานจึงเสนอให้มีประชุมลับเพื่อออกเสียง
เสิ่นฉินหงไม่อยากให้หลิวฝ่านหยีร่วมประลองเพราะเกรงเค้าจะเป็นอันตราย แต่ฝ่านหยีเต็มใจเสี่ยงเพื่อนาง ต่อไปพวกเค้าจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ อีก คู่จอมยุทธเซี่ยงดีใจยิ่งกว่าใครที่หลิวฝ่านหยีเต็มใจช่วย
มติของห้าเจ้าสำนักยอมรับหลิวฝ่านหยีเป็นตัวแทนการประลอง
กรรมการจะยินยอมให้ฝ่ายธรรมะเปลี่ยนตัวผู้เข้าร่วมประลองก็ต่อเมื่อฝ่ายอธรรมยินยอม
หล่ายเหยิกยี: ฝ่ายเราจะยอมก็ได้ ถ้าเราได้รับการยินยอมให้เปลี่ยนตัวเช่นกัน หลี่ปูยี: เจ้าจะเปลี่ยนตัวใคร หล่ายเหยิกยี: รอบสุดท้าย ข้าจะเป็นผู้เข้าประลอง หลี่ปูยี: ทำไมต้องเป็นเจ้า หล่ายเหยิกยี: เพราะข้ารู้ว่าเจ้าต้องเป็นคนสุดท้ายแน่ มีแต่ข้าที่สู้กับเจ้าได้ หลี่ปูยี: ตกลงตามนี้
เสิ่นฉินหงไม่กล้าไปดูการประลอง นางได้แต่ไหว้เจ้า เพื่อขอให้ช่วยคุ้มครองสามี ฮูหยินเซี่ยงเห็นนางมีอาการไม่สบายจึงสงสัยว่านางจะตั้งครรภ์
หลิวฝ่านหยีสูญเสีย 9 ชีวิตไปแล้ว ทำให้พลังยุทธถดถอย ต้องพลาดท่าให้กับนักสู้เหล็กไหล
แต่ก่อนที่ฝ่ายอธรรมจะได้เฮ เสิ่นฉินหงก็มาถึงลานประลอง หลิวฝ่านหยีฮึดสู้เพื่อลูกเมีย จึงเค้นพลังยุทธขึ้นมาสังหารนักสู้สำเร็จ
หลี่ปูยี: ข้าบอกเจ้าแล้วว่าธรรมะจะต้องชนะ หล่ายเหยิกยี: ระหว่างเรามีคนใดคนหนึ่งต้องตาย
คนที่เชียร์คู่นี้ ก็ดีใจได้แล้วนะคะ ทำชั่วไม่ได้ชั่วก็มีนะ ถ้าสำนึกได้ สังคมก็ให้อภัย อะไรที่ผ่านไปแล้วให้มันผ่านไป หลิวฝ่านหยีกับเสิ่นฉินหงได้กลับคืนสู่ยุทธภพซะที
หลี่ปูยีไม่สบายใจเลยที่ต้องมาต่อสู้กับท่านหมอหล่าย คนเคยลำบาก เคยร่วมต่อสู้มาด้วยกัน กลับต้องมาเข่นฆ่ากันเอง
หลวงจีนอยากตาย: คนต่างเป้าหมาย ย่อมยากจะเดินทางเดียวกัน หลี่ปูยี: หรือว่าจะไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ หลวงจีนอยากตาย: เจ้าต้องปล่อยวางบ้าง ของบางอย่างยิ่งฝืน ยิ่งไม่ได้มา เช่น ความรัก มิตรภาพ อำนาจ วรยุทธ์ แม้แต่ชีวิตของเจ้าเอง คู่ต่อสู้ของเจ้าไม่ใช่หล่ายเหยิกยี แต่เป็นฝ่ายอธรรม เช่นเดียวกัน คู่ต่อสู้ของหล่ายเหยิกยี คือจิตมารของเค้าเอง ทำให้เต็มที่ ที่เหลือให้สวรรค์เป็นผู้ตัดสินเถอะ
หล่ายเหยิกยี: พอเสร็จสิ้นการประลอง ข้าก็จะรักษาเจ้าได้แล้ว เยี่ยไหลวันนี้ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรเลย เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า เจ้าเป็นอะไรไปเยี่ยไหล
เยี่ยม่งเซอะ: นางเป็นอะไรไป หล่ายเหยิกยี: ข้าทำเต็มที่เพื่อช่วยนาง นางต้องเป็นเช่นนี้เพราะพวกที่อ้างตนว่าเป็นฝ่ายธรรมะ เยี่ยม่งเซอะ: เจ้าผิดแล้ว เจ้าแหละทำให้นางเป็นเช่นนี้ เพราะสิ่งที่เจ้าทำลงไป ทำให้นางไม่อยากฟื้น หล่ายเหยิกยี: เจ้าพูดอะไร เยี่ยม่งเซอะ: นางไม่กล้าเผชิญหน้ากับเจ้าอีก เจ้าไม่ใช่หล่ายเหยิกยีคนเดิม นางยอมตายซะยังดีกว่าอยู่กับเจ้า หล่ายเหยิกยี: เจ้าโกหก เยี่ยม่งเซอะ: ข้าเปล่า ดูนางสิ นางบอกเจ้าอย่างชัดเจน นางต้องเจ็บปวดเพราะชายที่นางรัก หากเจ้ายังคิดดื้อดึงที่จะเดินทางนี้ต่อไป ต่อให้เจ้าชนะ นางก็จะไม่อยู่กับเจ้า
หล่ายเหยิกยี: เยี่ยไหลบอกข้า ข้าควรทำอย่างไร
หลี่ปูยีฝึกซ้อมวรยุทธ์ แต่กลับลมปราณติดขัด เพราะยังไม่หายบาดเจ็บจากที่โดนเสิ่นซิงหนานทำร้าย
หล่ายเหยิกยี: ที่ทำเนี่ย คิดจะให้ข้าออมมือให้รึงัย หลี่ปูยี: เจ้าเห็นข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ หล่ายเหยิกยี: ข้าอยากรู้ชะตาชีวิตของเยี่ยไหล หลี่ปูยี: ชะตาชีวิตของนางก็เหมือนกับของเจ้า หล่ายเหยิกยี: ถ้าข้ากลับตัวตอนนี้ เจ้าจะช่วยชีวิตนางได้มั้ย หลี่ปูยี: ตอนนี้ข้าไม่อาจช่วยนางได้ แต่หากเจ้าละทิ้งวังสวรรค์ย่อมเป็นผลดีต่อพวกเจ้า หล่ายเหยิกยี: ชีวิตเยี่ยไหลแขวนอยู่บนเส้นด้าย ไม่ต้องพูดถึงอนาคต นางจะรอดถึงคืนพรุ่งนี้หรือเปล่าข้าก็ไม่รู้ หลี่ปูยี: แล้วเจ้าเคยคิดมั้ยว่า ที่นางไม่ยอมฟื้น อาจะเป็นเพราะสิ่งที่เจ้าทำ (เอ้า ตอกย้ำกันเข้าไป) เพื่อฝ่ายธรรมะ เพื่อเจ้า หรือเพื่อแม่นางเยียนก็ตาม หยุดเสียเถอะ
หล่ายเหยิกยี: ข้าทะลวงจุดชีพจรให้เจ้าแล้ว พรุ่งนี้จงลงมือให้เต็มที่อย่าได้ใจอ่อน เพราะข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้
ตอนหน้า เป็นตอนอวสานแล้ว ใครจะอยู่ใครจะตาย ก็มาลุ้นกันนะคะ
Create Date : 25 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 18:16:56 น. |
|
6 comments
|
Counter : 939 Pageviews. |
|
|
|
โดย: tan-a IP: 58.8.183.45 วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:12:00:13 น. |
|
|
|
โดย: midori IP: 124.120.200.87 วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:22:06:48 น. |
|
|
|
โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:22:13:54 น. |
|
|
|
โดย: เฉินฉูฉู่ IP: 58.9.171.232 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:11:20:02 น. |
|
|
|
โดย: เมษ์ (Kungga ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:15:13 น. |
|
|
|
โดย: arecey IP: 58.8.62.138 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:41:10 น. |
|
|
|
| |
|
|