Group Blog
 
All Blogs
 
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 20





The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 20



จากตอนที่แล้ว บ้อเช้งต้องการสืบประวัติตนเอง
จึงเดินทางไปเยี่ยมเจ้าอาวาส
ท่านเจ้าอาวาสยังปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น เรื่องผ่านไปนานแล้ว จะเก็บมาใส่ใจทำไม

เรื่องอดีตที่ไหนล่ะ คนใช้อาวุธลับนี้ ยังก่อกรรมทำเข็ญฆ่าคนตายไปไม่น้อย
คิดซะว่าทำบุญช่วยชีวิตคน เล่าความจริงมาเถอะ





ในที่สุด เจ้าอาวาสก็ยอมบอกความจริง
ถูกต้องแล้ว ตอนนั้น Shing Ting-tin อุ้มทารกที่ขาหักมาฝากไว้
ก่อนจะกลับไปล้างแค้นตระกูล Fok
ภายหลังจูกัวะซิงแซมารับทารกนั้นไป ก็คือบ้อเช้งนั่นเอง




ตอนนั้น ผ้าห่มที่ห่อตัวบ้อเช้งมาเต็มไปด้วยเลือด
เจ้าอาวาสได้ซักและเก็บไว้ให้
ที่ไม่อยากบอก เพราะอยากให้บ้อเช้งใช้ชีวิตปกติสุข
ความดี ความชั่วเป็นเพียงภาพลวงตา
ได้แต่หวังว่าบ้อเช้งจะลืมอดีตได้
อย่าทรมานตัวเองด้วยความเกลียดชังเลย





จูกัวะซิงแซได้ตั้งป้ายหลุมศพของพ่อแม่บ้อเช้งไว้ที่ข้างสะพานหิน
บ้อเช้งเห็นร่องรอยการต่อสู้แล้ว ลงตัวกับอาวุธลับตระกูล Fok
เข้าใจว่าคนลงมือน่าจะคิดทำร้าย Shing Ting-tin
แต่กลับพลาดโดนทารกที่เขาอุ้มไว้






บ้อเช้งเสียใจที่ไม่ได้มาเซ่นไหว้บิดามารดาให้เร็วกว่านี้
ซ่งจือหยินฉวยโอกาสใส่ไฟ ไม่เข้าใจว่าทำไมจูกัวะซิงแซรู้เรื่องทุกอย่าง
กลับปิดเป็นความลับไม่ยอมบอกบ้อเช้ง

บ้อเช้ง: ตั้งแต่เล็ก ข้านึกมาตลอดว่าข้าเป็นเด็กกำพร้า
ถ้าไม่เพราะเกิดเรื่องขึ้น ข้าคงไม่มีวันรู้ความจริง





บ้อเช้งตัดสินใจสืบเรื่อง Shing Ting-tin ถูกกล่าวหาว่าขายชาติ
เพื่อคืนความเป็นธรรม ล้างมลทินให้บิดา




ฉั่วเกียหาเรื่องส่งขันที Tung Koon ออกมาจากวัง โดยให้สหพันธ์คุ้มครอง
เปิดโอกาสให้คนร้ายลงมือ ขันทียังไม่รู้ตัวว่า เป็นแค่เหยื่อบูชายัญ
เซี่ยวกุกได้รับคำสั่งให้จับคนร้ายให้ได้ ความปลอดภัยของขันทีเป็นเรื่องรอง




แนฮ้วยกับตุยเมี่ยติดตามขบวนเดินทาง
แนฮ้วยมั่นใจว่ายังไงคนร้ายก็ต้องลงมือ
แค่ผู้คุ้มกันกระจอกๆ ไม่กี่คน ไม่อยู่ในสายตาหรอก




คนร้ายใช้ชบวนม้า มาทำให้ไขว้เขว
รู้สึกตัวอีกที ขันที Tung ก็ถูกสังหารเสียแล้ว





แนฮ้วยเห็นหลังคนร้ายที่ปลอมตัวเป็นคนคุ้มกันจึงรีบไล่ตามไป
ประมือกันได้ซักพัก คนร้ายก็หนีไป





โชคดีคนร้ายทิ้งม้วนไม้ไผ่ประกาศตัวเป็นตุลาการตงฉิน
อ้างว่าเป็นคนสังหารฉั่วเถา
มีคำสารภาพกับศพของขันที Tung ทิชิ่วก็ปลอดภัยแน่
ไม่รู้หรือไงว่าคดีของทิชิ่วถูกเลื่อนการประหารขึ้นมา
จากที่นี่ถึงลานประหารใช้เวลาครึ่งวัน คงไปทันเก็บศพซะมากกว่า





ยังไงก็ต้องลองดูซักตั้ง ตุยเมี่ยจะนำศพ Tung Koon กับหลักฐานไปลานประหาร
ส่วนแนฮ้วยกับกระบี่เงินก็รับหน้าที่ตามจับคนร้าย




เจ้าหน้าที่นำตัวทิชิ่วออกจากที่คุมขัง
ตุยเมี่ยก็เร่งรุดแข่งกับเวลาเพื่อจะไปให้ทันการประหาร




คนดีทำไมต้องถูกใส่ร้าย ต้องมาตายแบบนี้มันไม่คุ้มกันเลย

Lam Yeuk-fei: ท่านจะตายไม่ได้นะ ท่านรับปากพ่อข้าแล้ว
ว่าจะดูแลข้าไปชั่วชีวิต ท่านจะตายไม่ได้





เพชฌฆาตจะลงดาบอยู่แล้ว แนฮ้วยก็มาขัดขวางได้ทันเวลา
เขากับนายพล Shu นำศพขันที Tung Koon และข้อความบนไม้ไผ่มาเป็นหลักฐาน
ประจวบกับจูกัวะซิงแซค้นหลักฐานคดีเก่าๆ พบผู้อ้างเป็นตุลาการตงฉิน
ทำการสังหารขุนนางกังฉินไปไม่น้อย
ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบรมราชานุญาตให้เปิดไต่สวนคดีใหม่






สวีทกันไม่เกรงใจคนอื่นมั่งเล้ย




โดนขอบคุณเข้าหน่อย ตุยเมี่ยก็เขินซะแล้ว



Yau-tung ทำถุงมือคู่ใหม่ให้กับทิชิ่ว
สามพ่อลูกใจเดียวกัน อุปสรรคย่อมผ่านพ้นไปได้





แปลกจัง คุณหนู Lam ต้มโจ๊กเป็นด้วยหรือ

Lam Yeuk-fei: ข้าต้มโจ๊กให้จือหยินประจำแหละ
ถือว่าท่านโชคดีนะ ที่พอดีข้าอยากกินโจ๊ก
ทิชิ่ว: เมื่อบ่ายนี่ เจ้าไม่ควรฝ่าทหารเข้ามาอย่างนั้น
ดีนะที่เจ้าไม่ถูกลงโทษ
Lam Yeuk-fei: ถ้าข้ารู้ว่าท่านจูกัวะจะช่วยท่านได้
ข้าคงไม่ต้องห่วงเจ้าให้เสียเวลา
ทิชิ่ว: ข้าจำได้ เจ้าบอกข้าว่า เจ้าไม่อาจมีชีวิตได้้ถ้าไม่มีข้า
Lam Yeuk-fei: จริงอ่ะ ข้าเคยพูดอย่างนั้นเหรอ
ทิชิ่ว: เจ้ายังบอกอีกว่า
Lam Yeuk-fei: อ๊ะ อ๊ะ ข้าไม่เคยบอกให้ท่านดูแลข้าไปตลอดชีวิตซะหน่อย
ท่านคงถูกโบยมากจนเพี้ยนซะแล้ว
ทิชิ่ว: ก็แล้วไปเถอะ
Lam Yeuk-fei: เดี๋ยวสิ ถึงข้าไม่บอกให้ท่านดูแลข้า
แต่ท่านรับปากพ่อข้าแล้วนะ





ทิชิ่ว: หรือว่าเจ้าอยากให้ข้า....
ตุยเมี่ยบอกว่าผู้หญิงมักปากไม่ตรงกับใจ
เจ้าต้องการให้ข้า ดูแลเจ้าไปตลอดชีวิตหรือไม่

แหม ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ใจกันอีกหรือ




ผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ ได้มีงานมงคลกันซะทีก็ดี
จะได้ช่วยชับไล่โชคร้าย




ทางโน้นล่ะชื่นมื่น ส่วนทางนี้ก็กำลังเครียดเชียว
ปิดมาตั้งนานหลายปี ก็เพราะไม่อยากให้หมกมุ่นอยู่กับอดีต อยากให้มีความสุขกับปัจจุบัน

บ้อเช้ง: หลายปีมานี้ ข้าเฝ้าถามว่าครอบครัวข้าเป็นใคร
ข้าทำผิดอะไร ถึงต้องประสบกับเคราะห์กรรมเช่นนี้
บัดนี้ ข้ารู้แล้วว่า ข้าคือ Shing Ai-yu ทายาทคนสุดท้ายของตระกูล Shing
หากแต่ข้าไม่รู้เลยว่าคำตอบอยู่ที่เบื้องหน้าข้านี่เอง
ท่านอาที่เลี้ยงดูข้ามา กลับพยายามปิดบังมัน




ในที่สุด จูกัวะซิงแซก็ยอมเล่าอดีตของบ้อเช้งให้ฟัง
ที่ปกปิดไว้ เพราะเหล่าชาวยุทธไม่เพียงเห็นบิดาของบ้อเช้งเป็นคนขายชาติ
ยังคิดจะครอบครองสุดยอดอาวุธที่ Shing Ting-tin คิดค้นขึ้น ก่อนถูกฆ่าล้างตระกูล
ถ้ามีใครซักคนรู้ว่าบ้อเช้งยังมีชีวิตอยู่ จะต้องตามมารังควานแน่
ท่านจูกัวะจึงจำต้องปิดบังชาติกำเนิดของบ้อเช้ง

จูกัวะซิงแซ: ข้าเห็นเจ้าเหมือนลูกชายข้า หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ
ที่ข้าทำไปทุกอย่างก็เพื่อเจ้า





สับสนจริงๆ Shing Ting-tin ก็เป็นคนสัตย์ซื่อ เป็นไปไม่ได้ที่จะขายชาติ
ส่วน Fok To-yuen ก็เป็นขุนนางตงฉิน หากไม่มีหลักฐานแน่ชัด ย่อมไม่ลงมือ
ดูไปแล้ว น่าจะมีผู้ชักใย วางแผนการให้สองตระกูลเกิดการฆ่าฟัน
จูกัวะซิงแซเคยคิดสืบ แต่ Shing Ting-tin เผาตำราอาวุธไปจนหมดสิ้น
หลักฐานทุกอย่างถูกทำลาย

บ้อเช้งเสียใจที่ไม่อาจคืนความเป็นธรรมให้บิดา
ก็อยากจะปล่อยวางอยู่หรอก ถ้าอาวุธลับที่หายไปจะไม่กลับคืนสู่ยุทธภพอีก





บ้อเช้ง: ถ้าเจ้าเป็นข้า บิดาถูกใส่ร้ายว่าขายชาติ เจ้าจะทำอย่างไร
ทิชิ่ว: ข้าก็ไม่รู้ ข้ารู้เพียง ท่านอาเลี้ยงดูท่านมาหลายปี
ท่านควรสำนึกในบุญคุณท่านอาให้มาก
บ้อเช้ง: บางครั้งข้าก็อิจฉาเจ้า ถ้าทุกคนคิดอะไรง่ายๆ แบบเจ้า
โลกคงไม่วุ่นวาย (อันนี้ ชมแล้วเหรอ พี่บ้อเช้ง)
ทิชิ่ว: อย่าอิจฉาข้าเลย คนฉลาดก็แบบนี้
ชอบคิดมาก คิดซับซ้อนไปเอง
ที่ท่านอาพูดก็ถูก ข่าวลือคือข่าวลือ บิดาท่านอาจไม่ใช่คนขายชาติ





บ้อเช้ง: ใช่แล้ว เบาะแสเดียวที่ข้ามีคือฆาตกรที่ฆ่าฉั่วเถา
คนผู้นี้ต้องเกี่ยวพันกับตระกูล Fok แน่
ทิชิ่ว: เขาทำให้ข้าต้องเกือบตายแทน
ข้าต้องจับเขาให้ได้





ฝันร้ายของจูกัวะซิงแซจริงๆ สองคนเพิ่งจะเริ่มไว้วางใจกัน
หาต้องมารู้ความจริงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น




แนฮ้วยส่งข่าว พบเบาะแสคนร้าย
จูกัวะซิงแซไม่ยอมให้ทิชิ่วกับบ้อเช้งตามไปจับคนร้ายด้วย
อารัยอ่ะ ให้อยู่เฝ้าออฟฟิศได้ไง ไม่ใช่เด็กๆ ซะหน่อย





ดาบของแนฮ้วยอาบกลิ่นพิเศษเอาไว้
แนฮ้วยจึงสามารถติดตามคนร้ายมาถึงราวป่า กลิ่นก็จางหายไป
แต่ยังไงคงไปไหนได้ไม่ไกล น่าจะซ่อนตัวอยู่แถวๆ นี้

โหย ดมกลิ่นคนร้ายได้ เก่งยิ่งกว่าเจ้าตูบซะอีก
ตุยเมี่ยเอ๊ย ปากหนอปาก

ทั้งหมดแยกย้ายกันออกตามหา ไม่มีใครรู้ว่าทิชิ่วแอบติดตามมา




คนร้ายทำความสะอาดแผลซะแล้วนั่นเอง กลิ่นถึงได้จางไป
ซ่งจือหยินจึงมาเจอเขาเข้าก่อน




ต่อสู้ยังไม่ทันรู้ผล ซ่งจือหยินเห็นทิชิ่วมาถึง จึงรีบหนีไป
กลายเป็นว่าคนร้ายคืออาจารย์ของทิชิ่ว

อาจารย์ก็อาจารย์เหอะ ทำผิดกฎหมาย ทิชิ่วเป็นจับ




ศิษย์หรือจะสู้อาจารย์ได้
ไหนตอนสอนวิทยายุทธ บอกให้รักความยุติธรรมไง
ทำไมมาฆ่าคนตายซะเอง

ก็คนเหล่านั้นมันสมควรตายเองนี่
อาจารย์ได้โอกาสเผยความจริงว่าที่แท้ตนคือ Fok Shing พี่ชายของทิชิ่ว
ส่วนทิชิ่วชื่อจริงคือ Fok Yi




ยี่สิบปีก่อน Fok Shing รอดตายมาได้
หลายปีต่อมาจึงพบว่าทิชิ่วได้ช่างตีเหล็กรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม
Fok Shing ตามหาทิชิ่วจนพบ และรับเขาเป็นศิษย์
สอนวิชาหมัดเหล็กประจำตระกูลให้

ก่อนจากไปยังได้มอบตำรายุทธ์ไว้อีกต่างหาก




ที่จากมาเนี่ย เพราะตั้งใจจะเป็นพวกนอกกฎหมาย
คอยกำจัดคนชั่วให้หมดไป จึงไม่อยากให้ทิชิ่วพลอยเดือดร้อนไปด้วย

ทิชิ่วยังไม่อยากจะเชื่อว่าอาจารย์เป็นพี่ชายตน
Fok Shing ต้องโชว์จี้ห้อยคอ ที่มีคนละครึ่ง




เจอตัวจนได้ ทายาทของคนที่ฆ่าล้างตระกูล Shing
บ้อเช้งคิดลงมือ แต่ Fok Shing ไม่ยอมประมือด้วย

Fok Shing จากไป ทิ้งไว้แต่รอยร้าวระหว่างศิษย์พี่ศิษย์น้อง






จูกัวะซิงแซอุตส่าห์หวังไว้ว่า คงไม่มีวันที่ทั้งคู่จะรู้ความจริง
(แหม ไม่รู้ก็ไม่มันส์ดิท่าน)

จูกัวะซิงแซ: บางที การไม่รู้อะไรเลยอาจจะดีกว่า
บ้อเช้ง: คนที่ข้าตามหา ทีแท้อยู่ข้างกายข้ามาตลอด ไม่คิดว่าเจ้าจะหลอกลวงข้า (อู๊ยยย ตัดพ้อกันเข้าไป)
จูกัวะซิงแซ: ทิช่ิ่วไม่เคยรู้เรื่องนี้ ถ้ารู้แล้วเป็นไง เจ้าจะทำอะไร
ทิชิ่ว เจ้าจะฆ่าบ้อเช้งมั้ย หรือเจ้าจะฆ่าตัวตายเพื่อชดเชยเรื่องในอดีตกันล่ะ





บ้อเช้ง: ท่านอาคิดว่าหากพวกเรารู้ความจริง จะฆ่ากันเองหรืออย่างไร
ท่านมองพวกเราผิดไปแล้ว หรือว่าท่านเองนั่นแหละที่ไม่กล้าเผชิญความจริง
อาหญิง: เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านจูกัวะรู้สึกผิดมาตลอด
ที่ไม่สามารถหยุดยั้งโศกนาฎกรรมครั้งนั้นได้
จูกัวะซิงแซ: Piu-suit หยุดเถอะ พวกเจ้ารับมือได้ดีกว่าที่ข้าคิด
ข้ายังเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีผู้อยู่เบื้องหลัง ข้าจะกระชากหน้ากากมันออกมาให้ได้





ทิชิ่ว: ถึงท่านอาจะบอกว่ามีคนยุแหย่ให้พ่อข้าเข้าใจผิด
ข้อก็ต้องขอโทษครอบครัวแทนท่านพ่อด้วย
บ้อเช้ง: ตอนนั้น พวกเรายังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ
เราอาจเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่หากเรายังคงล้างแค้นกันไปมา
เรื่องนี้ก็คงไม่มีวันจบสิ้น
ตุยเมี่ย: งั้นก็ลืมมันซะเถอะ
แนฮ้วย: ใช่ พวกเราผ่านเรื่องราวด้วยกันมามากมาย
บ้อเช้ง: ตอนนี้ ที่สำคัญคือจับ Fok Shing
ทิชิ่ว: หรือว่าท่านจะไม่ยอมปล่อยวางอดีต
บ้อเช้ง: Fok Shing ฆ่าคนไม่น้อย
ในฐานะมือปราบ พวกเรามีหน้าที่จับกุมเขา
ทิชิ่ว: คนที่ถูกฆ่าล้วนสมควรตาย
บ้อเช้ง: โดยส่วนตัวแล้ว สิ่งที่เขาทำก็ไม่ผิดหนักหนา
แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่ หากเราละเลย เท่ากับทำผิดทั้งๆ ที่รู้










Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 19:40:36 น. 3 comments
Counter : 1318 Pageviews.

 
ตอนนี้ต้องบอกว่าไม่มีอะไรจะมาพรากบ้อเช้งจากทิชิ่วได้ แม้กระทั่งความตายของบุพการีก้อตาม ก้อเรารักกันนี่เนอะ

ว่าแต่ตอนนี้ตุยเมี่ยประพฤติตัวดีนะเนี่ย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน 18 ตอนที่ผ่านมา (ก๊ากกกกก)


โดย: cipher IP: 58.8.147.209 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:05:00 น.  

 
โรมิโอ ทำไม่ท่านต้องเป็นโรมิโอ 555

ดูแล้วอึดอัด สับสนเชียวล่ะ รักมีอุปสรรคเนี่ย


โดย: midori IP: 124.120.213.249 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:11:37 น.  

 
ความจริงเริ่มปรากฏทีละนิด
ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกันนี่
เริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว และก็เริ่ม Y ขึ้นเรื่อยๆ
แม่นางซ่งคู่แข่งเยอะนะเนี่ย


โดย: O-yohyo วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:9:12:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

magarita30
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add magarita30's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.