|
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 5
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 5
นักฆ่าแนฮ้วยต้องการภาพเขียนจาก Kuk Wan-yeung แต่เขาปฏิเสธ แนฮ้วยจึงลงมืออย่างเลือดเย็น
ตุยเมี่ยขัดขวางแนฮ้วยไว้ทัน ทั้งคู่ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย ตุยเมี่ยต้องการแก้แค้นให้เซี่ยวเถ่า ส่วนแนฮ้วยก็ทำตามคำสั่งผู้ว่าจ้าง
เกือบไปแล้วตุยเมี่ย จูกัวะซิงแซมาช่วยทันเส้นยาแดงผ่าแปด
ต่อให้เป็นจูกัวะ แนฮ้วยก็ไม่หวั่น ใครขวางทางต้องตาย แนฮ้วยถูกคมทวนของจูกัวะ แต่ยังไม่ยอมล้มง่ายๆ อึดจริงๆ สุดท้ายแนฮ้วยก็ต้องเป็นฝ่ายล่าถอยไป ส่วน Kuk Wan-yeung อาศัยช่วงชุลมุนหลบหน้าไปก่อนแล้ว
ภาพเขียนยังไม่ได้มา จะถือว่าทำงานสำเร็จได้ยังไง ถ้าไม่อยากเป็นนักโทษหลบหนีไปชั่วชีวิต ก็รีบตามหา Kuk Wan-yeung แล้วเอาภาพเขียนมาให้ซะดีๆ
เซี่ยวตอบุตรสาวของขุนพลสยองขวัญ หัวหน้าสหพันธ์ เดินทางกลับจากเจียงหนาน ถูกลอบสังหาร เพื่อล้างแค้นให้เจ้าสำนักบุปผา ผู้ติดตามนางถูกฆ่าตายหมด
นางหลบหนีไปซ่อนตัวในถ้ำ และได้พบกับแนฮ้วยโดยบังเอิญ แนฮ้วยสังหารคนร้าย ช่วยนางเอาไว้ และจากไปโดยไม่พูดจา
เซี่ยวตอเก็บหยกของแนฮ้วยได้
เซี่ยวกุกเพิ่งจะพาลูกน้องมารับน้องสาว ไม่มาซะพรุ่งนี้เลยล่ะ
ขุนพลสยองขวัญอ้างว่าเจ้าสำนักบุปผา ทำความชั่วไว้มาก ในฐานะผู้นำสหพันธ์ที่ต้องปกครอง 7 สำนัก 8 ค่าย 9 พรรค ย่อมมีคนชั่วที่ไม่พอใจคิดล้างแค้นบ้างแหละ
คล้อยหลังเซี่ยวตอ ขุนพลสยองขวัญสั่งให้เซี่ยวกุก ตามล่าผู้ลอบสังหารทั้งหมดให้ได้ เซี่ยวกุกรายงานว่านักฆ่าที่ส่งไปจับตัว Kuk Wan-yeung ทำงานพลาด เพราะถูกจูกัวะซิงแซขัดขวาง
ตุยเมี่ยตาม Kuk Wan-yeung ไปที่บ้านเก่าของเขา ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะนำภาพเขียนไปมอบให้จูกัวะ หลังจากนั้นตุยเมี่ยจะขโมยภาพเขียนทั้งสี่ภาพมา และทั้งคู่จะไปหาสมบัติด้วยกัน
เพิ่งขุดเจอภาพเขียน Kuk Wan-yeung ก็ถูกอาวุธลับเจ้าสำนักเสือบินจนเสียชีวิต
ในที่สุดภาพเขียนก็ได้มาครบทั้งสี่ภาพ ตุยเมี่ยมีข้อแม้ หากหาสมบัติเจอ ต้องแบ่งให้ด้วยนะ ว่าแล้วก็ลองเอาภาพเขียนมาเรียงต่อกัน ดูไม่เห็นรู้เรื่องเลย
จูกัวะซิงแซให้ทิชิ่วลอกภาพเขียนออกมาวางซ้อนกัน จึงเห็นภาพทั้งหมดได้ ซึ่งคนที่อ่านแผนที่ได้ก็เป็นบ้อเช้งอีกเช่นเคย คนอะไร ทำไมฉลาดอย่างนี้หนอ ในภาพเขียนมีภาพกำแพงเมือง Po Chai ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมือง Bin เป็นต้นกำเนิดแม่น้ำ Choi ริมฝั่งแม่น้ำมีเจดีย์สร้างสมัยราชวงศ์ถัง เรียกว่าเจดีย์สันติ
ตุยเมี่ยเร่งร้อนจะไปให้ถึงเจดีย์ก่อนใคร จึงหงุดหงิดที่เห็นบ้อเช้งเดินทางอย่างใจเย็น
บ้อเช้ง: วิ่งเร็วจะมีประโยชน์อะไร ถ้ามีสมองเฉื่อยช้าอย่างเจ้า ตุยเมี่ย: เจ้า ทิชิ่ว: ไม่เอาน่า อย่าทะเลาะกัน ยังไงเราก็เป็นสหาย บ้อเช้ง/ตุยเมี่ย: เขาไม่ใช่สหายข้า
ทีเงี้ยใจตรงกันขึ้นมาเชียว
เมื่อเดินทางไปถึงเจดียสันติ ซึ่งมีเจดีย์ทั้งหมดสามองค์ ตุยเมี่ยกับทิชิ่วแยกย้ายกันสำรวจเจดีย์ บ้อเช้งดูภาพเขียนแล้ว ไม่คิดว่าสมบัติจะอยู่ในเจดีย์
ทิชิ่ว: แล้วท่านรู้หรือว่าสมบัติอยู่ที่ใด บ้อเช้ง: รู้สิ ก็ข้าบอกแล้วว่าวิ่งเร็วไม่มีประโยชน์
ปริศนาซ่อนอยู่ในภาพเขียน เมื่ออ่านตัวอักษรบนป้ายหน้าเจดีย์ตามลำดับในภาพ ได้ความหมายว่า ให้ดูเงาเจดีย์ตอนบ่ายโมง
อะไรจะบังเอิญปานนั้น ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงพอดี
ขุดไปขุดมาไม่ยักเจอสมบัติ เจอแต่ง้าวเล่มหนึ่ง
ทิิชิ่ว: นี่คงเป็นปริศนาอีกชิ้นหนึ่ง บ้อเช้ง: เจ้าก็เรียนรู้แล้วนี่
สำนักฟ้ามาดักปล้นง้าวกันซึ่งหน้า
Lam Yeuk-fei: มอบง้าวมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกท่าน ตุยเมี่ย: เห็นมั้ย เจ้าน่ะอยากชักช้า พวกเขาถึงตามทัน
สองคนนี่จะเหน็บแนมกันอีกนานมั้ย
ตกลงกันดีๆ ไม่ได้ก็ต้องใช้กำลังเข้าตัดสิน ตุยเมี่ยขอเผ่นก่อนเพื่อน แต่ก็พลาดพลั้งทำง้าวหลุดมือ ตกไปอยู่ในมือ Lam Yeuk-fei
เซี่ยวกุกดักรอขมายต่อ เขาทำร้าย Lam Yeuk-fei จนเกือบตกหน้าผา ทิชิ่วช่วยนางไว้ได้ทัน
เจ้าสำนัก Lam ไม่ต้องการสมบัติใดๆ เพียงต้องการป้ายอาญาสิทธิ์บัญชาทั่วหล้าเท่านั้น ด้วยฝีมือของเจ้าสำนัก Lam บ้อเช้งเชื่อว่า ต่อให้มีป้ายอาญาสิทธิ์ ก็ใช่ว่าทุกคนจะเชื่อฟังคำสั่ง เจ้าสำนัก Lam ลงมือ แต่บ้อเช้งหลบได้เฉียดฉิว เจ้าสำนักฟ้าชืนชมในความเก่งกาจของบ้อเช้ง มีแต่ Lam Yeuk-fei ที่ไม่ยอมรับ เห็นแก่ทิช่ิวช่วยชีวิต Yeuk-fei เจ้าสำนัก Lam ยอมถอนตัวไม่แย่งชิงป้ายอาญาสิทธิ์นี้อีก
ทิชิ่วโกรธตัวเองที่ปล่อยให้เซี่ยวกุกขมายง้าวไปได้
ทิชื่ว: แม่นางหลิน ข้าไม่มีอารมณ์จะสู้กับท่าน Lam Yeuk-fei: ที่เซี่ยวกุกขโมยง้าวไปได้ เพราะท่านมัวแต่ช่วยข้า ท่านมีสิทธิ์จะโกรธข้า ท่านจะด่าข้า ตีข้าก็ได้ ข้าจะไม่โต้ตอบ ทิขิ่ว: ข้าไม่ได้อยากด่าท่าน หรือตีท่าน ข้าแค่รู้สึกไม่ดีที่ทำให้ท่านอาผิดหวัง Lam Yeuk-fei: ไม่ใช่ความผิดของท่าน เป็นความผิดของข้าเอง
Lam Yeuk-fei คุกเข่าคำนับทิชิ่ว
ทิชิ่ว: ข้าไม่ได้โกรธท่านซะหน่อย อย่าทำเช่นนี้เลย Lam Yeuk-fei: ที่ข้าคำนับท่าน เพราะอยากให้ท่านรับข้าเป็นศิษย์ ข้าไม่เคยชนะท่านเลย แถมยังต้องให้ท่านคอยช่วยอยู่เรื่อย รับข้าเป็นศิษย์ สอนวรยุทธ์ให้ข้า ซักวันข้าจะเอาชนะท่าน ทิชิ่ว: ข้าเป็นอาจารย์ท่านไม่ได้หรอก
สงสัยพี่บ้อเช้งจะโมโหหึง รีบออกมาเป็น กขค.
บ้อเช้ง: สองคนทำอะไรอยู่ เรื่องอื่นไว้พูดกันวันหลัง ข้ามีอะไรสำคัญจะบอก Lam Yeuk-fei: เรื่องอะไรสำคัญนักหนา บ้อเช้ง: ข้าไขปริศนาบนง้าวได้แล้ว
บ้อเช้งพบว่าง้าวเล่มดังกล่าวผลิตจากเหล็กบริสุทธิ์ ซึ่งแปลกมาก Lam Yeuk-fei ไม่เข้าใจว่าแปลกยังไง
ทิชิ่ว: เหล็กบริสุทธิ์ทำอาวุธไม่ได้ มันจะไม่คม และไม่แข็งแรง อาวุธต้องผลิตจากเหล็กผสม Lam Yeuk-fei: อาจารย์ ท่านเก่งจัง ทิชิ่ว: ใครเป็นอาจารย์ท่าน พ่อข้าเป็นช่างตีเหล็ก ข้าย่อมรู้
บ้อเช้งจึงเห็นว่าง้าวเล่มนี้น่าจะเป็นง้าวประดับสำหรับรูปปั้นในวัดมากกว่า
กลุ่มบ้อเช้งเดินทางไปยังวัดนายพล Li ซึ่งในรัศมีร้อยลี้ มีเพียงวัดนี้ที่สร้างสมัยราชวงศ์ถัง แถมที่ง้าวมีข้อความ รัชสมัยPo Ying ปีที่ 1 ซึ่งหมายความว่าง้าวเล่มนี้สร้างสมัยฮ่องเต้ Li Hang เมื่อทดลองใส่พลองแทนง้าว ก็เห็นว่าปลายง้าวชี้ไปที่ภาพวาดกระบวนยุทธ์ แต่กระบวนท่านั้นดูแปลกนัก
บ้อเช้งจึงให้กระบี่เงิน กระบี่ทอง ลองรำกระบี่ตามภาพ ปรากฎว่า ออกมาเป็นข้อความ เดินทางไปทางตะวันตก 100 ลี้ ขุมทรัพย์อยู่ในบ้านลับในป่า
ขนาดเซี่ยวกุกได้ง้าวไปแล้ว ยังตีความเรื่องวัดผิด จึงส่งลูกน้องไปวัดอื่น แต่ขุนพลสยองขวัญไม่กังวล เขารู้จากสายว่าบ้อเช้งไปที่วัดนายพล Li ถึงเวลาใช้แผนสองแล้ว
ในที่สุดก็ถึงจุดหมาย บ้อเช้งสังเกตเห็นว่าผนังฝั่งที่มีภาพเขียนมีห้องลับซ่อนอยู่
เพียงหมัดเดียวของทิชิ่ว ก็ทลายผนังได้
ห้องสมบัติวางกับดักเอาไว้ แค่เดินผ่านกับดักจะทำงาน แม้แต่ตุยเมี่ยที่มีวิชาตัวเบาสูงส่งก็ผ่านไปไม่ได้
บนพื้นมีตารางเหมือนกระดานหมากรุก ขอใช้สมองนิดนึงนะ บ้อเช้งนึกถึงกระดานหมากรุกบนภาพฝาผนัง หากจะผ่านเข้าไปได้ต้องเดินตามกระดานหมากรุกนั้น
ตุยเมี่ยเกี่ยงให้ทิชิ่วเข้าไปก่อน ก็ไหนอยากเข้าไปเป็นคนแรกไง บ้อเช้งส่งสายตาให้ทิชิ่วผลักตุยเมี่ยเข้าไปก่อน
ตุยเมี่ยเดินตามที่บ้อเช้งกำหนด จนผ่านไปสำเร็จ
สมบัติเยอะแยะ เกิดมาไม่เคยเห็น ตุยเมี่ยขอแฮ้บซักแท่งสองแท่งไม่ได้หรือไง
เจอแล้วป้ายทองคำที่ตามหา บ้อเช้งเตือนตุยเมี่ย อย่าเพิ่งแตะ ระวังกับดัก
ตัวอันตรายตามมาจนได้
แนฮ้วย: ส่งป้ายอาญาสิทธิ์มาให้ข้า บ้อเช้ง: ฝันไปเถอะ แนฮ้วย: อย่าบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้า ทิชิ่ว: 3 ต่อ 1 เจ้าห่วงตัวเองดีกว่า บ้อเช้ง: แค่ข้าคนเดียวก็ล้มเขาได้ แนฮ้วย: งั้นเจ้าสามคนต้องตาย
ทั้งสี่ต่อสู้กันจนห้องสมบัติถล่ม แนฮ้วยพลาดท่าให้กับบ้อเช้งและทิชิ่วจนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ยอมรามือง่ายๆ
ข้างในสู้กันอย่างดุเดือด ตุยเมี่ยเกือบซิวปัายอาญาสิทธิ์หนีไปคนเดียวแล้ว ดีที่ยังมีสำนึกกลับมาช่วย แนฮ้วยพลาดท่าโดนกับดัก หลบธนูไม่พ้น
ตุยเมี่ยยังไม่วายสะเพร่า ทำกล่องตกเห็นป้ายอาญาสิทธิ์ข้างไน มา ให้บ้อเช้งเก็บเอง ขืนให้ตุยเมี่ยเก็บมีหวังเจอฮุบแหง
พอตุยเมี่ยรู้ว่าคนที่มีป้ายนี้จะอยากจะขออะไรฮ่องเต้ต้องรับปาก ก็เกิดอยากจะได้ขึ้นมาทีเดียว ไม่รู้หรือไงว่าคนนอกที่รู้เรื่องนี้ต้องตาย ถ้าไม่อยากตายล่ะก็ มาเป็นมือปราบในสังกัดสิ โดนขู่บังคับอย่างนี้ ตุยเมี่ยก็ต้องจำใจยอมรับ
จูกัวะไม่ว่างใจ ขอเห็นศพแนฮ้วยหน่อย เอาล่ะสิ ปรากฎว่าแนฮ้วยหนีรอดไปได้
เซี่ยวตอกลับไปที่ถ้ำเพื่อคืนหยกให้แนฮ้วย จึงพบเขารับบาดเจ็บกลับมา
จูกัวะซิงแซตามรอยแนฮ้วยมาถึงถ้ำ เพื่อสังหารเขา แต่เซี่ยวตอขัดขวาง ในความคิดของนาง แนฮ้วยไม่ใช่คนไม่ดีซักหน่อย
เมื่อจูกัวะซิงแซเห็นหยกของแนฮ้วย ก็ยอมยั้งมือไว้ชีวิต
ฮ่องเต้พอพระทัยที่จูกัวะซิงแซนำป้ายอาญาสิทธิ์คืนมาได้สำเร็จ จึงอนุญาตให้ตั้งกองปราบขี้นใหม่ แม้ฉั่วเกียจะไม่พอใจก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ทิชิ่วดีใจที่ได้เป็นมือปราบสมความตั้งใจ ส่วนตุยเมี่ยกลับเซ็ง ถ้าไม่บังคับล่ะก็ ไม่เป็นให้โง่หรอก
สามมือปราบเห็นแนฮ้วยมาเหยียบถึงถิ่น คิดว่ามาล้างแค้นซะอีก
จูกัวะแนะนำมือปราบคนที่ 4 แนฮ้วย
Create Date : 10 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2551 21:55:23 น. |
|
3 comments
|
Counter : 2156 Pageviews. |
|
|
|
โดย: midori IP: 124.121.222.221 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:22:08:46 น. |
|
|
|
โดย: Cipher IP: 58.8.146.140 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:23:00:09 น. |
|
|
|
โดย: O-yohyo วันที่: 18 ตุลาคม 2551 เวลา:13:55:22 น. |
|
|
|
| |
|
|
เรื่องนี้สนุกกว่าที่คาด รึว่าเป็นเพราะเราชอบแนวนี้หว่า
ตามตอนต่อไป