Group Blog
 
All Blogs
 
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 4





The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 4



ตุยเมี่ยถูกบังคับให้ดื่มยาพิษ โชคดีที่จูกัวะซิงแซมาทันเวลา
(สงสัย O-yo แอบติดสินบนคนเขียนบท)





ที่จริงคนที่คิดวางยาตุยเมี่ย คือ ตระกูล Tsui ที่เคียดแค้นเขา
จนไม่อาจทนรอให้ถึงเวลาประหารชีวิตในช่วงฤดูใบไม้ร่วงได้
เพื่อช่วยชีวิตตุยเมี่ยชั่วคราว จูกัวะซิงแซได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่ให้ย้ายที่คุมขังเขา




จูกัวะซิงแซขอให้ตุยเมี่ยช่วยพานักโทษ Kuk Wan-yeung หลบหนีจากคุก
เมื่อหนีออกมาได้ ให้เดินทางไปทางตะวันตกสิบลี้ จะมีคนรอพบอยู่
หากทำไม่สำเร็จ ก็อย่าหวังว่าจูกัวะจะช่วยพลิกคดีให้ได้





ในคุก ผู้คุมใช้อภิสิทธิ์ให้นักโทษมาต่อสู้กัน
ผู้ชนะจะได้ดื่มกินอย่างอิ่มหนำ โดยนักโทษที่โหดสุด คือ Big Biu




ในที่สุด จูกัวะซิงแซก็รับทิชิ่วเป็นศิษย์คนที่สอง บ้อเช้งได้เป็นศิษย์พี่โดยไม่ทันรู้ตัว

บ้อเช้ง: ไหนท่านอาเคยว่าจะไม่รับศิษย์
จูกัวะซิงแซ: จริงด้วย งั้นก็ เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าสอนวรยุทธ์ให้
เจ้าก็เรียกข้าว่าท่านอาเหมือนบ้อเช้งแล้วกัน
ทิชิ่ว: ได้ครับท่านอา ศิษย์พี่ ข้าต้องเรียนรู้จากท่าน

(บ้อเช้งทำหน้าแบบโคคคคตรเต็มใจเลย กร๊าก)






จูกัวะเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี รีบเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องขุมทรัพย์

เรื่องประวัติศาสตร์ พี่บ้อเช้งถนัดค่ะ
ในอดีต หัวหน้าราชองค์รักษ์วังหลวง Chiu Hong-yan ยกทัพขึ้นเหนืออ้างว่าจะไปตีซี่ตัน
(เดาว่าคือ เจ้าควงอิ้น ที่ต่อมาขึ้นครองราชย์ พระนามฮ่องเต้ซ่งไท่จู่)
ตระกูล Chai ได้สนับสนุนเงินทองมากมายเพื่อสนับสนุนการทหาร
สุดท้ายจึงก่อตั้งราชวงศ์ซ่งสำเร็จ หลังจากนั้น ขุมทรัพย์เหล่านั้นก็ถูกนำไปเก็บซ่อนไว้
ผู้ซ่อนขุมทรัพย์ได้วาดภาพเขียนขึ้นเป็นแผนที่ขุมทรัพย์ 4 ภาพด้วยกัน
จูกัวะซิงแซพบภาพวาดดังกล่าว 2 ภาพ
ส่วนอีกภาพหนึ่งนั้น Tsui Hoi ได้ขายให้กับ Hon Bun
คงต้องให้บ้อเช้งกับทิช่ิวช่วยกันสืบหา





บ้อเช้งเสนอให้แยกย้ายกันไปหาภาพเขียนที่เหลืออีกสองภาพ
ก็คนเขาชอบทำงานคนเดียวอ่ะ
ไม่จำเป็นหรอก อีกภาพหนึ่งนั้น กำลังให้ตุยเมี่ยดำเนินการเกาะติดสถานการณ์อยู่

โห ท่านจูกัวะแผนสูงชะมัด วางแผนใส่ความตุยเมี่ยให้ติดคุกจะได้ทำงานให้

ทิชิ่ว: ผู้ร้ายในคุกนั้นดุร้ายนัก ท่านอาส่งใครไปช่วยเหลือตุยเมี่ยหรือไม่
จูกัวะซิงแซ: ข้าเชื่อในความสามารถของตุยเมี่ย
บ้อเช้ง: แปลว่าไม่ (ฮั่นแน่ พี่บ้อเช้งเริ่มห่วงใยตุยเมี่ยซะแล้ว)




ตุยเมี่ยฝันเห็นเซี่ยวเถ่าขอร้องให้เขาเลิกทำตัวเป็นสิบแปดมงกุฎ เขารับปากนาง




ตุยเมี่ยพยายามสอบถามเรื่อง Kuk Wan-yeung จากเจ้าหัวโตที่อยู่ห้องขังเดียวกัน
เจ้าหัวโตบอกว่าอยู่ที่นี่มานานสามปีแล้ว ยังไม่เคยได้ยินชื่อนี้




ผู้คุมนำนักโทษมาสู้กันอีกแล้ว
Big Biu จอมโหด โหดสมชื่อ





ระหว่างการต่อสู้ หัวหน้าผู้คุมตาไว เห็นตุยเมี่ยเตะก้อนอิฐหลบ
เพื่อไม่ให้นักโทษกระแทกก้อนอิฐได้รับบาดเจ็บ

Big Biu ลงมือหนักถึงกับฆ่าคู่ต่อสู้ หัวหน้าผู้คุมให้ทิ้งศพลงเหว





บ้อเช้งและทิชิ่วเดินทางไปเมือง Chan Kiu เพราะได้เบาะแสว่า Hon Bun อยู่ที่เมืองนี้
ทิชิ่วยังคิดประสาซื่อว่ารัฐประกาศห้ามไม่ให้ซื้อขายสมบัติชาติ
Hon Bun น่าจะคืนรูปภาพให้แต่โดยดี ขำน่ะ





บังเอิญจริงๆ เจ้าสำนัก Lam Po-tin พาบุตรสาวและลูกน้องมาแวะโรงเตี๊ยมเดียวกัน
Lam Yeuk-fei ดีใจที่ทิชิ่วมาอยู่เมืองหลวง นางจะได้มีโอกาสท้าสู้กับเขาได้





เจ้าสำนัก Lam เร่งร้อนจากไป บ้อเช้งรู้ทันว่าสำนักฟ้าเดินทางไปเมือง Chan Kiu แน่
จึงเร่งออกเดินทางทันทีจะยอมให้เจ้าสำนัก Lam ตัดหน้าไม่ได้




ทิชิ่วเห็นสาวน้อยกำลังปีนหน้าผาขึ้นไปหาสมุนไพร
เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของนาง






บ้อเช้ง: ห่วงนัก เจ้าก็คอยช่วยนางอยู่ที่นี่แล้วกัน
ข้าจะล่วงหน้าไปก่อน
ทิชิ่ว: หากท่านคิดถึงคนอื่นก่อนพูดก็คงจะดี
บ้อเช้ง: ทำไมข้าต้องถนอมน้ำใจเจ้าด้วย
ทิชิ่ว: ยังไงเราก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน
บ้อเช้ง: เรามีหน้าที่ต้องกระทำ ข้าไม่อยากเสียเวลา

(พูดจากันได้ Y มากค่ะ โธ่ บ้อเช้ง หึงก็ไม่บอกอ่ะ)




พูดไม่ทันขาดคำ สาวน้อยก็ร่วงลงมาซะแล้ว
ทิชิ่วช่วยรับนางไว้ทัน




บ้อเช้ง: จะทำอะไร ต้องรู้ขีดความสามารถของตัวเองด้วย
ไม่เช่นนั้น จะทำให้คนอื่นต้องพลอยเดือดร้อน





ทิชิ่ว: อย่าโกรธศิษย์พี่ของข้าเลยนะ แม่นาง รักษาตัวด้วย



ไปถึงเมือง Chan Kiu สำนักฟ้ากับสำนักเสือบินต่อสู้แย่งชิงตัว Hon Bun
ทิชิ่วเห็น Lam Yeuk-fei ลงมือหนักจึงเข้าขวาง





บ้อเช้งใช้อาวุธลับปัดอาวุธของสองเจ้าสำนัก



เจ้าสำนักเสือบินคิดลงมือจับตัว Hon Bun แต่แม่นางซ่งเข้าขวางไว้



ศิษย์สำนักเสือบินฉวยโอกาสที่ทุกคนเผลอลงมือ
แม่นางซ่งก็ชิงใช้เข็มสะกัดจุด หากกล้าขยับ รับรองเป็นอัมพาตชัวร์





Hon Bun อาการกำเริบ กระอักเลือดออกมากองใหญ่
แม่นางซ่งขอให้ทุกฝ่ายรอให้ Hon Bun อาการดีขึ้นก่อน

เจ้าสำนักทั้งสองยอมแยกย้าย อีกสองสามวันค่อยมาใหม่

เอ๊ คนเขาจะไปแล้ว จะจับแส้ไว้อีกนานมั้ยเนี่ย





แม่นางซ่งช่วยดูแล Hon Bun
ทิชิ่วดูจะประทับใจในตัวนาง ส่วนบ้อเช้งน่ะรึ เฮอะ ไม่อยู่ในสายตา





ทิชิ่วอยากรู้ว่า Hon Bun ป่วยเป็นโรคอะไร
แม่นางซ่งยังเป็นหมอมือใหม่ รักษามานานแล้วก็ยังไม่รู้สมุฎิฐานของโรค

บ้อเช้ง: ถ้าเจ้าไม่เก่งดังว่า เหดุใดท่าน Hon จึงยอมให้เจ้ารักษา
ฐานะอย่างท่าน Hon จะหาหมอเทวดายังได้
แม่นางซ่ง: ท่านไม่สังเกตหรือว่า ข้างกายท่าน Hon มีเพียงเด็กรับใช้
หามีครอบครัวอยู่ด้วยไม่ หลายปีมานี้ มีหมอเก่งๆ มากมายมารักษาท่าน Hon
แต่สุดท้าย พวกเขาก็ทนรับอารมณ์่ท่าน Hon ไม่ได้





เนื่องจาก แม่นางซ่งสนใจศึกษาโรคแปลกๆ
นางจึงรบเร้าขอรักษาโรคให้ท่าน Hon

บ้อเช้ง: ไหนเจ้าว่าเจ้าไม่มีความสามารถพอไงล่ะ
เจ้าเห็นท่าน Hon เป็นหนุทดลองยาหรือไง
หรือไม่เจ้าก็ซ่อนอะไรไว้
แม่นางซ่ง: ว่าแต่ข้า แล้วพวกท่านล่ะ
แม้ว่าท่านจะห้ามสองสำนักไม่ให้ต่อสู้กัน
แต่ท่านก็มีเป้าหมายเดียวกันกับพวกเขานั่นแหละ
ท่านก็มาเพื่อสมบัติเช่นกัน ข้าพูดถูกมั้ย
ทิชิ่ว: แม่นางอย่าได้เข้าใจผิด พวกเรา
แม่นางซ่ง: ช่างเถอะ ข้าไม่สนใจว่าพวกท่านจะทำอะไร
ข้าสนใจท่าน Hon คนเดียว ข้าไม่ยอมให้ใคร รวมถึงพวกท่าน
มารบกวนคนไข้ของข้า
บ้อเช้ง: ไม่ต้องห่วง ข้าไม่สนใจคนไข้ของเจ้า





ตุยเมี่ยอิจฉาที่เจ้าหัวโตได้กินอาหารดีกว่าคนอื่น
ไม่ได้รู้เลยว่า คนคุกที่ได้กินอาหารดีๆ แปลว่าถูกเลือกให้ต่อสู้กับ Big Biu
เจ้าหัวโตกลัวตาย จึงยอมรับว่าตัวเองเป็น Kuk Wan-yeung
ไม่เชื่อดูขื่อที่สักไว้ที่แขนก็ได้ คนคุกกลัวตายแล้วศพไร้ชื่อ
จึงสักชื่อตนเอาไว้ หากมีผู้ใจบุญผ่านมาพบศพ จะได้ช่วยตั้งป้ายสุสานให้





เพื่อช่วย Kuk Wan-yeung ตุยเมี่ยจึงทำร้ายร่างกายให้เขาไม่สามารถลงต่อสู้ได้
ผู้คุมจำได้ว่าตุยเมี่ยมีวรยุทธ์ จึงเลือกให้เขาลงแทน ถ้าแพ้ล่ะก็ ตายแน่




หัวหน้าผู้คุมร้ายกาจกว่า ใช้โซ่ล่ามขาตุยเมี่ยเอาไว้
เขาไม่สามารถต่อสู้ได้ถนัด จึงบอบชำ้ไม่น้อยกว่าจะเอาชนะ Big Biu ได้





Kuk Wan-yeung เห็นแก่ตุยเมี่ยช่วยชีวิต
จึงยอมเล่าความจริงว่าตระกูล Kuk มีแผนที่ขุมทรัพย์
แต่ Kuk Wan-yeung ไม่เชื่อว่าเป็นของจริง
ถ้าเป็นของจริง ป่านนี้ตระกูล Kuk ก็ร่ำรวยแย่แล้ว
เมื่อ Kuk Wan-yeung ถังแตก เขาจึงเอาแผนที่ขุมทรัพย์ไปจำนำ
หฃังจากนั้น ก็พลั้งมือฆ่าคนตายจนมาติดคุกเนี่ยแหละ

หัวหน้าผู้คุมไม่พอใจที่ตุยเมี่ยทำให้เขาเสียเงินไม่น้อย
ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ




บ้อเช้งพบแม่นางซ่งสลบอยู่ ก็นึกว่านางถูกทำร้าย
ที่ไหนได้นางลองยารักษาท่าน Hon
ยังดีที่นางพกยาขจัดไว้ในล่วมยา

แม่นางซ่ง: ข้านึกว่า หนนี้ข้าจะไม่รอดซะแล้ว
บ้อเช้ง: ถ้าเจ้ายังขืนเอาตัวเองเป็นหนูทดลองยาอยู่อย่างนี้ คงได้ตายสมใจแน่
แม่นางซ่ง: ถึงยังไง ข้าก็ขอบคุณท่านที่ช่วยข้าไว้





เจ้าสำนักฟ้า กับเจ้าสำนักเสือบิน ใจร้อน ทนรอต่อไปไม่ไหว
ยกพวกมาบุกบ้าน Hon Bun อีก

แม่นางซ่งเป็นห่วงท่าน Hon จึงเข้าขวาง
เจ้าสำนักเสือบินใช้ดาบข่มขู่นาง ทำให้บ้อเช้งต้องลงมือ





Hon Bun ไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ จึงมอบปริศนาลายแทงขุมทรัพย์ออกมา
เจ้าสำนักฟ้ากับเจ้าสำนักฟ้า แย่งชิงได้คนละครึ่ง

เกิดบนภูเขา ตายในหม้อ ซ่อนในน้ำร้อน มีชีวิตอยู่ในถ้วย

ปริศนาลายแทงขุมทรัพย์แน่เหรอเนี่ย




แม่นางซ่งช่วยฝังเข็มให้ Hon Bun เข้าเพ้อหาอาฟา
ทิชิ่วพบป๋องแป๋งที่มีชื่อฟาสลักอยู่




คนเขากำลังคิดแก้ปริศนา มาเล่นป๋องแป๋งอยู่ได้
ความจริงบ้อเช้งก็เป็นห่วงอาการท่าน Hon แต่ภาระช่วยเหลือท่านอาก็ต้องเร่งรีบเช่นกัน

ทิช่ิวสงสัยว่าที่ท่าน Hon ป่วยไม่หาย น่าจะเป็นทางด้านจิตใจ

บ้อเช้ง: ข้านึกว่าเจ้าอยากเป็นมือปราบ ไม่นึกว่าอยากจะเป็นหมอด้วย




ทิช่ิวอยากช่วยเหลือท่าน Hon ด้วยการตามหาภรรยาและบุตรสาวกลับมาพบหน้าเขาสักครั้ง

บ้อเช้ง: ข้าไม่สนใจเรื่องชาวบ้าน แต่ถ้าเจ้าอยากทำ ก็ไม่เห็นจะเสียหาย




ทิชิ่วตามหาอาฟาจนเจอ แต่นางยังไม่อภัยให้บิดา
ที่วันวัน เอาแต่เที่ยวหาความสำราญนอกบ้าน
ทำให้มารดาต้องหนีออกจากบ้าน และตรอมใจจนตาย
คนแบบนี้ ไม่สมควรเป็นสามี หรือเป็นพ่อใคร
ต่อให้ตายไปก็ไม่ไปดูใจหรอก ว่าแล้วก็เขวี้ยงป๋องแป๋งทิ้งไปซะ

Lam Yeuk-fei ไม่รู้โผล่มาจากไหน พูดเรื่องพ่อเข้าหน่อย ยอมไม่ได้เลย
เป็นพ่อลูกกัน ก็ต้องเป็นพ่อลูกไปตลอดชีวิต เปลี่ยนไม่ได้หรอก
อย่างน้อยอาฟาก็ได้อยู่กับแม่ ไม่เหมือนนางที่แม่ตายตั้งแต่คลอดนาง

เผลอเถียงกันแป๊บเดียว อาฟาหนีกลับบ้านไปแล้ว







ทิชิ่วตามอาฟามาถึงบ้าน นางก็ไม่ยอมเปิดประตูออกมา
เขาได้พบเซี่ยวกวงลูกชายอาฟา

Lam Yeuk-fei ตามเอาป๋องแป่๋งมาให้
อาฟาได้ยินเสียงป๋องแป๋ง นางจึงยอมเปิดประตูออกมา






อาฟานึกถึงบิดานางทำป๋องแป๋งให้เล่นตอนเด็ก
จึงตัดสินใจไปพบเขาในที่สุด





บ้อเช้งไม่ยอมกินอะไรถ้ายังคิดปริศนาไม่ออก
เมื่อเห็นน้ำชาในถ้วยชา ก็ขบปริศนาแตก





สมบัติน่าจะถูกซ่อนไว้ที่ไร่ชานี่แหละ

ปรากฎว่าสองเจ้าสำนักก็คิดออกไล่ๆ กัน หากันไปหากันมา
เจอแต่ปิ่นปักผมเก่าๆ เจ้าสำนักฟ้าจึงเขวี้ยงปิ่นทิ้ง
บ้อเช้งเห็นแล้วชักสงสัยว่า ปริศนานั้นจะเป็นของปลอม






บ้อเช้งอ่านออกว่าปิ่นนี้เป็นของฮูหยิน Hon Bun
ปิ่นนี้ เป็นปิ่นของหมั้นของทั้งคู่
ตอนฮูหยินจากไปทิ้งปริศนาไว้ บอกว่าถ้าเขาแก้ปริศนา หาของสำคัญเจอ
นางจะยกโทษให้กับเขา คิดไม่ถึงว่าสายไปยี่สิบปี

ทิชิ่วพาอาฟามาหาบิดา





บ้อเช้ง: เป็นไง รู้สึกดีที่ได้ทำความดีใช่มั้ยล่ะ
ทิชิ่ว: ท่านสิเก่งกว่าข้า สามารถแก้ปริศนาที่ท่าน Hon แก้ไม่ได้มายี่สิบปี
บ้อเช้ง: แก้ปริศนาได้แล้วไง อย่าลืมว่าเรายังหาลายแทงสมบัติไม่เจอ

พูดไม่ทันขาดคำ คนรับใช้ก็นำลายแทงสมบัติของแท้จากท่าน Hon มาให้

น้องมลเอ๋ย คู่นี้เขาขยันสบตากันบ่อยๆ ตุยเมี่ยแห้วแน่






ฮ่องเต้ทรงได้ยินเรื่องชาวยุทธ์ออกตามหาขุมทรัพย์ทำให้ทรงกังวลหนัก
เพราะปฐมกษัตริย์ได้มอบป้ายทองคำให้กับชาวยุทธ์
โดยรับปากว่า ใครที่มีป้ายนี้ จะสามารถขออะไรจากฮ่องเต้ก็ได้
หากตกอยู่ในมือคนร้าย ก็จะเป็นร้ายมากกว่าดี
จูกัวะซิงแซมั่นใจว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่ปัญหา ขอเพียงได้ภาพเขียนสุดท้ายมา
ก็จะต้องหาขุมทรัพย์ได้อย่างแน่นอน




ผู้คุมเป็นใจให้นักโทษเข้ามาลอบทำร้ายตุยเมี่ยกับ Kuk Wan-yeung
โชคดีที่ทั้งคู่หลบหนีจากที่ห้องขังไปก่อนหน้าแล้ว
แต่ก็ต้องมาจนมุมที่หน้าผา ตุยเมี่ยมั่นใจในวรยุทธ์ของตน จึงกล้าโดดลงไป





รอดตายจากตกหน้าผา ไม่รู้ว่าจะรอดจากแนฮ้วยหรือเปล่านะตุยเมี่ยนะ










Create Date : 07 ตุลาคม 2551
Last Update : 8 ธันวาคม 2551 21:54:52 น. 6 comments
Counter : 1844 Pageviews.

 
ขอบคุณสวรรค์ ที่ส่งแม่นางซ่งมาเกิด ต่อไปนี้บ้อเช้งจะได้ใจหวั่นไหวแล้วซี่

แล้วตุยเมี่ยจะได้ตัดใจจากบ้อเช้งซะนี่นะตุยเมี่ยนะ

แต่เอ่อ . . ที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ รู้สึกว่า ทิชิวน่ะเค้าเป็นพระเอก บ้อเช้งเป็นนางเอก ถึงได้งอนที่ทิชิวไปมองแม่นางซ่ง ส่วนแม่นางซ่งก็เป็นนางอิจฉา แอบปิ๊งทิชิวที่ช่วยตนไว้ แต่พอรู้ว่าทิชิวมีใจให้บ้อเช้ง ก็เลยเขม่นเถียงกันอยู่เรื่อย สำหรับตุยเมี่ยเนี่ยนะ เหมือนตัวตลกค่ะ เรื่องชวนให้คิดแบบนี้จริงๆ นะเนี่ย

ปล. แม่นางซ่งใส่ชุดโบราณได้สวยกว่าที่คิดค่ะ เคยเห็นน้องเคทแต่ชุดสากล คิดไม่ถึงว่าพอใส่ชุดโบราณแล้วงามแต๊ มองๆ ไปเหมือนเอ๊ะ อิศสริยา จังเลยค่ะ


โดย: O-yohyo วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:18:28:22 น.  

 
อืมแวะมาอ่านค่ะ จะส่งสายตากันไปถึงไหนพ่อคุณ อะมีอาการแอบหึง เข้าใจคิดค่ะท่านพี่



โดย: midori IP: 124.120.206.101 วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:22:56:13 น.  

 
อารัย แค่สบตากันแค่เนี้ย คิดลึกกันไปได้
ยังไงงานนี้ทิชิ่วก็ไม่ได้เป็นพระเอกหรอกค่ะ
แนฮ้วยอ่ะดิ ถึงจะเป็นพระเอกตัวจริงของพี่บ้อเช้ง


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:23:10:32 น.  

 
ทิชิวกับบ้อเช้งขยันสบตากันยังไม่พอ แต่บ้อเช้งยังแอบงอนที่ทิชิวไปช่วยแม่นางซ่งเนี่ยสิ T_T

บ้อเช้งจ๊ะ ตุยเมี่ยรอดามใจบ้อเช้งเสมอนะจ๊ะ ^.^


โดย: Cipher IP: 58.8.144.95 วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:12:22:42 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากเลย
เพิ่งเห็นว่ามีเวอร์ชั่น ฟงฟง เล่นมีพากษ์ไทยหรือเปล่าคะ เดี๋ยวกลับไปจะได้ไปหิ้วมาดู


โดย: Rabbit4JJ วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:22:39:59 น.  

 
น้องมลคะ ตุยเมี่ยคงต้องรอไปอีกนานเลยล่ะ
เพราะเท่าที่ดูถึงตอน 14 พี่บ้อเช้งเค้าเริ่มเปิดใจให้แนฮ้วยแล้วอ่ะค่ะ

ท่านRabbit เวอร์ชั่นนี้ ยังไม่มีพากษ์ไทยค่ะ
หนังยังฉายที่ฮ่องกงไม่จบเลย


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:23:23:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

magarita30
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add magarita30's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.