"ประเสริฐ" กุมขมับ หลังนายกฯ สั่งเบรกขึ้นราคาแอลพีจี-เอ็นจีวี
PTT: "ประเสริฐ" กุมขมับ หลังนายกฯ สั่งเบรกขึ้นราคาแอลพีจี-เอ็นจีวีแบบไร้กำหนด ขู่ไม่เพิ่มวงเงิน รับภาระนำเข้าแอลพีจีให้เต็มที่แค่ 1 หมื่นล้านบาท โบ้ยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รับช่วงต่อ บ่นต้นทุน ผลิตเอ็นจีวีพุ่งทำให้ปีที่แล้วขาดทุน 4,000-5,000 ล้านบาท
ข้อมูลจาก (ข่าวหุ้น)
ปรับลดประมาณการกำไรของหุ้นน้ำมันลง เนื่องจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันอย่างมากในช่วง 4Q08 และการปรับลดสมมติฐาน ราคาน้ำมันปี 2009-10 ของเราลง แต่การขาดทุนอย่างมากในช่วง 4Q08 ไม่ใช่เรื่องใหม่ และคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วง 1Q09 จะกลับมามีกำไรอีกครั้ง เราปรับลด TP ของ PTT และ PTTEP ลง แต่ยังคง TP ของกลุ่มโรงกลั่นไว้เหมือนเดิม และปรับคำแนะนำ PTTAR จาก ขาย เป็น ถือ
ขาดทุนหนักใน 4Q08 แต่จะฟื้นตัวใน 1Q09 ตลาดรับรู้ผลดำเนินงานในช่วง 4Q08 ที่คาดว่าจะขาดทุนมากกว่าคาดแล้ว ผลการดำเนินงานช่วง 4Q08 ที่คาดว่าจะออกมาขาดทุนมากกว่าที่คาด และสมมติฐาน ราคาน้ำมันของเราที่อยู่ในระดับที่ต่ำลง ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2008-09 ของเราสำหรับบริษัทในกลุ่ม PTT ลง แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ ขาดทุนในช่วง 4Q08 มีสาเหตุหลักจากการขาดทุนสต็อกน้ำมันโรงกลั่น ประกอบกับมี การปรับเปลี่ยนสมมติฐานฐานราคาน้ำมันระยะยาวไม่มากนัก จึงทำให้ราคาเป้าหมาย ของเราได้รับผลกระทบที่จำกัด บริษัทในกลุ่ม PTT ส่วนใหญ่มีความสามารถในการทำ กำไร และคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วง 1Q09 น่าจะกลับมามีกำไร เนื่องจากไม่มี การขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน เรายังคงมุมมองที่มีต่อกลุ่ม PTT ในระยะยาวเหมือนเดิม ถึงแม้ว่ากำไรจะมีแนวโน้มที่ค่อนข้างทรงตัว แต่เรายังคงแนะนำ ซื้อ สำหรับ PTT เนื่องจาก PTT ซื้อขายที่ระดับราคาน้ำมันเพียง 63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เท่านั้น ขณะที่ PTTEP เต็มมูลค่า โดยซื้อขายที่ระดับราคาน้ำมัน 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่ากลุ่มโรงกลั่นจะฟื้นตัว แต่ไม่ใช่การฟื้นตัวที่แท้จริง ถึงแม้ว่ากำไรของ TOP PTTAR และ BCP มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก แต่เป็นการ ฟื้น เนื่องจากฐานที่ต่ำในปี 2008 จากการขาดทุนสต๊อกน้ำมัน เท่านั้น และเนื่องจาก อุตสาหกรรมยังคงอยู่ในช่วงขาลงของวงจรอุตสาหกรรม การปรับตัวขึ้นจึงไม่ได้สะท้อน การฟื้นตัวที่แท้จริงของการดำเนินงาน เรายังคงแนะนำ ซื้อ TOP เนื่องจากมีมูลค่าที่ ต่ำ ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยเร่งการเติบโตระยะยาวที่จำกัดก็ตาม TOP ซื้อขายที่ระดับ replacement cost ที่ 30% และ 70% ของมูลค่าทางบัญชี ของบริษัทฯ เราปรับเพิ่ม คำแนะนำสำหรับ PTTAR จาก ขาย เป็น ถือ เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ ระดับใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายของเรา นอกจากนี้ PTTAR ยังได้กำไรเพิ่มจากโรง กลั่นใหม่ของบริษัทฯ และการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ เรายังคงแนะนำ ซื้อ BCP เนื่องจากการปรับปรุงโรงกลั่นจากแบบ Simple เป็น Complex กรปอกับได้รับกำไร จากการทำ Hedging และการการันตีราคาหุ้นที่ระดับ 13 บาท/หุ้น สำหรับการถือ BCP-DR1 จนครบกำหนดในปี 2014 อีกด้วย PTTEP ขาดปัจจัยบวกผลักดัน ส่งผลลบต่อ PTT นอกจาก PTTCH แล้ว PTTEP ยังเป็นปัจจัยลบหลักกดดันกำไรของ PTT ในปี 2009 (คาดว่าจะต่ำกว่าปี08) อีกด้วย แม้ว่าจะไม่มีการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันโรงกลั่นก็ตาม เราคาดว่ากำไรของ PTTEP ในปี 2009 จะลดลง 43% เนื่องจากราคาขายเฉลี่ย (น้ำมัน และก๊าซ) ของบริษัทฯลดลง 36% ประกอบกับปริมาณขายที่ไม่เติบโต และงบค่าใช้จ่าย ลงทุนที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้การประกาศปริมาณสำรองของแหล่ง M9 จะถูกเลื่อน ออกไปจากช่วงเดือน ก.พ.09 และปริมาณสำรองที่จะประกาศดังกล่าวน่าจะมีจำนวนที่ ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ 1.5tcf อีกด้วย เรายังคงแนะนำ ถือ PTTEP เนื่องจากราคา น้ำมันในปัจจุบันที่ 37 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็นระดับราคาที่ต่ำแล้ว
คาด PTTAR จะมีขาดทุนมหาศาลใน 4Q09 จาก inventory loss แต่ผลประกอบการจะกลับสู่ปกติในปีนี้ ธุรกิจจะดีขึ้นมากในปีนี้เนื่องจากมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ และหน่วยการผลิต AR3 เริ่มเดินเครื่องผลิต เราปรับคำแนะนำเป็น ถือ จากเดิมที่แนะนำขายเนื่องจากราคาหุ้นปรับลดลงจนใกล้ราคาเป้าหมายที่ 10.60/หุ้น
กลับสู่ภาวะปลอดภัย ขาดทุนจำนวนมากใน 4Q08 แต่จะกลับสู่ปกติใน 1Q09 PTTAR จะขาดทุนถึง 13 พันล้านบาทใน 4Q08 จาก inventory loss แม้ว่าผล ประกอบการที่แท้จริงจะมีกำไรก็ตาม ผลขาดทุนดังกล่าวเกิดจากราคาน้ำมัน ณ สิ้น 4Q08 ลดลงจาก 3Q08 ถึง 56% รวมทั้งผลขาดทุนจากธุรกิจอะโรเมติกส์โดยเฉพาะ อย่างยิ่งธรกิจเบนซินซึ่งราคาลดลงถึง 71% q-q และคิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของผลขาดทุน ในไตรมาส อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าธุรกิจของ PTTAR จะเริ่มกลับสู่ปกติปีนี้เนื่องจาก ไม่น่าจะมี inventory loss จำนวนมหาศาลจากการที่ราคาน้ำมันที่ระดับ USD37/bbl ในขณะนี้เป็นระดับที่ต่ำ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าราคาพาราไซลีน และเบนซินน่าจะฟื้น ตัวเช่นกัน เริ่มเห็นการดำเนินงานที่ดีขึ้น ในปีนี้ เราคาดว่าค่าการกลั่นที่สิงคโปร์จะขยับห่างขึ้นจาก 4Q08 เนื่องจากความ ต้องการที่เพิ่มขึ้นตามผลของฤดูกาล และไม่น่าจะมีขาดทุนจาก inventory losses ยิ่งกว่านั้น การดำเนินงานก็น่าจะฟื้นตัวในปีนี้เนื่องจาก: ประการแรก จะมีการปิดซ่อม บำรุงน้อยลงในขณะที่ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ต้องปิดซ่อมบำรุงทั้งตามแผน และนอก แผนรวมราว 2 เดือน ดังนั้น เราจึงคาดว่าจะมีการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น; ประการ ที่สอง การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตที่หน่วย AR1 (โรงกลั่นระยอง) จะเสร็จ สมบูรณ์กลาง 1Q09; ประการที่สาม หน่วยการผลิต AR3 เริ่มเดินเครื่องผลิต และจะ เริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ และประการที่สี่ การยกเลิกสัญญาการกลั่นร่วมกับ SPRC จะช่วยเพิ่มผลผลิตดีเซล แต่ลดสัดส่วนผลผลิตแก๊สโซลีนลง ซึ่งจะช่วยทำให้ค่า กากรกลั่นเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจาก diesel crack spread จะสูงกว่าของแก๊สโซลีนซึ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจชะลอตัวมากกว่า มี P/E ปีนี้เพียง 3.8 เท่า ปรับคำแนะนำเป็น ถือ เราได้แนะนำ ขาย PTTAR ตั้งแต่กลาง พ.ค. 2008 และราคาหุ้นได้ปรับลดลงจะเข้า ใกล้ราคาเป้าหมายที่เราประเมินไว้ ประกอบกับแนวโน้มธรกิจที่เริ่มดีขึ้น เราปรับ คำแนะนำเป็น ถือ โดยมีราคาเป้าหมายใหม่คือ 10.60 บาท แม้ว่าราคาหุ้นจะอ่อนตัว ลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาในทิศทางเดียวกับราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันจากข่าวผลประกอบการที่ จะขาดทุนจำนวนมากใน 4Q08 แต่เราเชื่อว่าแนวโน้มที่ดีขึ้นจะช่วยรอบรับราคาหุ้นซึ่ง ขณะนี้มี P/E ในปีนี้เพียง 3.8 เท่า แต่เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นยังอยู่ในวัฏจักรขาลง ทำ ให้ยังไม่ฟื้นตัวอย่างแท้จริง ประมาณการของเราจึงยังมีความเสี่ยงโดยขึ้นกับ spread ของธุรกิจอะโรเมติคส์ ข้อมูลจาก ธนชาติ
Create Date : 19 มกราคม 2552 | | |
Last Update : 19 มกราคม 2552 10:36:39 น. |
Counter : 358 Pageviews. |
| |
|
|
|