สวัสดีคะ ยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกท่านคะ
ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมบล็อก ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินในบล็อกนี้และหวังว่าคุณจะมีรอยยิ้มหลังออกจากบล็อกนี้นะคะ
แน่ใจรึ...ว่าลูกได้สารอาหารครบ !

แน่ใจแล้วหรือคะ ว่าเจ้าตัวน้อยของคุณได้รับสารอาหารครบถ้วนดี หากคุณยังไม่แน่ใจกับคำถามนี้ ต้องอ่านเรื่องนี้แล้วค่ะ
ถึงแม้ 2-3 ปีที่ผ่านมา ภาวะโรคขาดสารอาหารในเด็กไทยจะลดลงเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าชะล่าใจไปนะคะ เพราะใครจะรู้ว่าพฤติกรรมการกินของลูกเราที่เป็นอยู่นั้น อาจเสี่ยงต่อการเป็นเด็กขาดสารอาหารได้ ซึ่งหากเป็นโรคนี้แล้วก็ต้องใช้เวลารักษากันนานเป็น 5-10 ปีเชียวค่ะ กว่าสารอาหารที่ขาดหายไปจะกลับมามีปริมาณมากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ทำไมลูกขาดสารอาหาร
โรคขาดสารอาหารในเด็ก ส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น ลูกไม่ได้กินนมแม่อย่างเพียงพอในวัย 6 เดือนแรก เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าในนมแม่นั้นเป็นศูนย์รวมของสารอาหารนานาชนิดเลยล่ะค่ะ หรือเมื่อเข้าสู่วัยที่ลูกควรจะได้รับอาหารเสริมแล้วไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนตามที่ควรจะเป็น ก็ทำให้ขาดสารอาหารได้เช่นกันนะคะ

แบบนี้...สารอาหารไม่เพียงพอ
เบื้องต้น คุณพ่อคุณแม่สามารถจะรู้ได้ว่าลูกของเรากำลังขาดสารอาหารอยู่หรือไม่ โดยการสังเกตดูจากลักษณะต่อไปนี้ค่ะ
ร่างกาย ร่างกายลูกแคระแกรน ตัวเล็ก น้ำหนักตัวน้อย
ผิว เด็กที่ขาดสารอาหารผิวจะมีลักษณะแห้ง ไม่สดใส
ผม ผมของลูกร่วง บาง ผมเปลี่ยนสี หรือแตกปลาย
ตา ตาแห้ง ไม่ค่อยมีน้ำหล่อเลี้ยงกลิ้งกลอกไปมา
ลิ้น ปกติพื้นผิวของลิ้นเด็กจะเป็นตุ่มๆ แต่ถ้าลิ้นของลูกดูเรียบไม่มีตุ่มเลย ก็อาจจะสันนิษฐานได้ว่าลูกอาจมีภาวะขาดธาตุเหล็ก สังกะสี หรือวิตามินบีอยู่ก็ได้
แต่การที่จะทราบได้แน่ชัดว่าลูกขาดสารอาหารหรือไม่ ก็ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ โดยแพทย์จะตรวจจากประวัติการกินของลูก และดูกราฟการเจริญเติบโต หากน้ำหนักที่เทียบกับอายุขณะนั้นน้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 3 ถือว่าเป็นภาวะขาดอาหารขั้นรุนแรง (คุณหมอประจำตัวของลูกจะช่วยดูให้เมื่อพาลูกไปรับวัคซีนค่ะ) ซึ่งต้องรักษากันต่อไปค่ะ

4 เหตุทำลูกขาดอาหาร
ส่วนใหญ่เด็กเล็กๆ ใน 3 ปีแรกที่มีปัญหาน้ำหนักตัวน้อยและขาดสารอาหาร พบว่า 90% เกิดจากพฤติกรรมการกิน ซึ่งคนที่มีบทบาทต่อการกินของลูกก็คือพ่อแม่นั่นเองค่ะ
เน้นปริมาณ พ่อแม่บางคนเห็นว่าลูกตัวเล็ก กินข้าวน้อย ดังนั้นลูกอยากกินอะไรก็จะปล่อยให้กิน ไม่ว่าจะเป็นขนมทั้งหลายที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย เรียกว่าเอาปริมาณเข้าว่า เห็นลูกกินได้ก็สบายใจ ดังนั้น แม้ลูกจะน้ำหนักตัวมากแต่ก็มีโอกาสขาดสารอาหารได้เช่นกันนะคะ
กินไปเล่นไปบางคนเดินป้อนข้าวลูกกันทั่วบ้านนานเป็นชั่วโมง หรือเปิดทีวีไปด้วย 2-3 ชั่วโมงต่อมื้อ จริงๆ แล้วระยะเวลาครึ่งชั่วโมง คือช่วงที่ดีสำหรับการกินอาหารของเด็ก รวมถึงหากอาหารทิ้งไว้นานกว่าครึ่งชั่วโมงก็จะเย็นชืด ทำให้ลูกก็จะเบื่อและไม่อยากกินแล้วค่ะ
ไม่ได้เลี้ยงลูกเอง พ่อแม่บางคนไม่ได้ดูแลลูกด้วยตัวเอง อาจจะมอบหน้าที่ให้ยายเลี้ยงที่ต่างจังหวัด ยายจึงต้องให้เด็กกินนมยูเอชทีของผู้ใหญ่แทนนมแม่ ซึ่งไม่มีวิตามินและกลือแร่เหมือนนมแม่ ทำให้เด็กขาดสารอาหารได้

กินอย่างไร...ไม่ให้ขาด
ในวัยขวบปีแรก นมคืออาหารหลักของลูก ส่วนข้าวเป็นอาหารเสริม พออายุ 1 ปีขึ้นไป ข้าวจะกลายเป็นอาหารหลัก ส่วนนมจะเป็นอาหารเสริมแทนแล้วค่ะ ดังนั้นพ่อแม่ก็ต้องเลือกชนิดของอาหารให้เหมาะสมตามโภชนาการของลูกด้วย ซึ่งสารอาหารหลักๆ ที่ลูกควรจะได้รับก็ได้แก่
คาร์โบไฮเดรต นอกจากจะเป็นพลังงานของร่างกายแล้ว ยังเป็นสารอาหารของสมองอีกด้วย เพราะสมองก็ต้องใช้น้ำตาลในการเรียนรู้เช่นกันค่ะ
โปรตีน สำคัญต่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและยังมีผลต่อความสูงของเจ้าตัวเล็กด้วย
ไขมัน เป็นส่วนประกอบหลักของสมองลูก ดังนั้นลูกก็ต้องกินไขมันให้เพียงพอ แต่ไขมันที่เด็กควรจะได้รับไม่ใช่ไขมันจากเนื้อสัตว์ มันหมู ข้าวมันไก่ หรือหนังไก่อย่างที่ผู้ใหญ่เราชอบกันนะคะ แต่เป็นไขมันจากพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง หรือไขมันจากรำข้าวค่ะ
นอกจากสารอาหารหลักๆ เหล่านี้แล้ว สารอาหารย่อยๆ เช่น พวกวิตามินจากผักผลไม้ และเกลือแร่ทั้งหลายก็ขาดไม่ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งเกลือแร่สำหรับกระดูก ก็คือ แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส พบได้ในนม ตับ และเนื้อสัตว์ที่มีสีแดง (แต่ต้องแดงจากธรรมชาติด้วยนะคะ)
ที่สำคัญช่วง 0-3 ปี หลังรับนมแม่ไปแล้ว ลูกก็ควรได้รับนมอย่างต่อเนื่องเพีบงพอ เพราะในนมมีทั้งโปรตีนและแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกลูก สำหรับข้าว ลูกควรจะกินให้ได้ในปริมาณครึ่ง - หนึ่งทัพพีต่อมื้อ เนื้อสัตว์อย่างน้อย 4 ช้อนโต๊ะต่อวัน ส่วนผักผลไม้ก็ต้องประมาณ 2 ส่วนต่อวันค่ะ
มีการศึกษาจากต่างประเทศว่า การขาดสารอาหาร มีผลทำให้ไอคิวของเด็กลดลง และอาจจะทำให้เตี้ยได้ ถึงจะแก้ไขกันตอนโตเด็กก็อาจจะสูงไม่ได้เท่าพี่น้องคนอื่นๆ ค่ะ ดังนั้นพ่อแม่จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องอาหารการกินของลูกนะคะ

อ่านต่อได้ในนิตยสารรักลูกเดือน มิถุนายน 2550



Create Date : 19 มกราคม 2552
Last Update : 19 มกราคม 2552 0:09:24 น. 0 comments
Counter : 750 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

zakana7884
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพื่อนสำคัญเสมอ ฉันจะรักษามิตรภาพระหว่าง
เพื่อนให้ดีที่สุด และคุณคือเพื่อนของฉันในตอนนี้

เกี่ยวกับฉัน..ฉันชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยว
ท่องโลกอินเตอร์เน็ต แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เพื่อเปิดโลกทรรศในมุมมอง 360 องศา
เมื่อใดที่ฉันว่างเว้นสิ่งอื่นใด ก็จะเข้าสู่สภากาแฟฯ
แห่งนี้ บ้างอ่าน บ้างแสดงความคิดเห็น แล้วแต่
โอกาสจะอำนวยคะ

ขอบคุณโลกออนไลน์ที่ทำให้เราเป็นเพื่อนกันได้

lozocat
free counters
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zakana7884's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.