รางวัลชมเชย นวัตกรรมแห่งชาติด้านสังคม ปี ๒๕๕๐

นายแพทย์ไพโรจน์ เครือกาญจนา OSK103 คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติด้านสังคมปีนี้ '50


รางวัลชมเชย นวัตกรรมแห่งชาติด้านสังคม ปี ๒๕๕๐ (คู่กับนวัตกรรม "นมจากเนื้อไก่")

ผลงานนวัตกรรม : เฝือกกระดาษราชวิถี Rajavithi Paper

เลขที่สิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร : อยู่ระหว่างยื่นขอสิทธิบัตร

นวัตกร : นายแพทย์ไพโรจน์ เครือกาญจนา OSK103 Pairoj Khruekarnchana M.D.


หน่วยงาน : กลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชวิถี Department of Emergency Medicine, Rajavithi Hospital

ความเป็นนวัตกรรม : เป็นนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ระดับประเทศ โดยเป็นผลิตภัณฑ์เฝือกกระดาษเพื่อเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ดามอวัยวะแขนหรือขาที่บาดเจ็บเพื่อลดความเจ็บปวดในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สามารถใช้ได้ตั้งแต่จุดเกิดเหตุภายนอกโรงพยาบาล ตลอดจนการรักษาที่เหมาะสมขั้นสุดท้ายภายในโรงพยาบาล โดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายอุปกรณ์การดาม และช่วยลดความเสียงต่อการสัมผัสเลือดผู้ป่วยของเจ้าหน้าที่ขณะล้างทำความสะอาดอุปกรณ์การดาม รวมทั้งลดการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศและมีราคาถูก

ผลประโยชน์ทางสังคม : ลดความเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินจากกระดูกแขนขาหัก ประมาณ 500,000 คนต่อปี เนื่องจากการเปลี่ยนถ่ายอุปกรณ์ เฝือกกระดาษมีราคาถูก 29 บาทต่อชุด และเป็นอุปกรณ์การดามแขนหรือขาที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เกิดเหตุนอกโรงพยาบาลจนมาถึงโรงพยาบาล โดยให้ผู้ป่วยมีความเจ็บปวดน้อยที่สุดจากการที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายอุปกรณ์การดาม และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องล้างอุปกรณ์การดามที่มีอยู่เดิม

เฝือกกระดาษราชวิถีนวัตกรรมทางการแพทย์ฝีมือแพทย์ไทย

เฝือกกระดาษราชวิถีนวัตกรรมทางการแพทย์ นำไปใช้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ป่วยกระดูกแขนขาหัก ผลงานชิ้นเอกกลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชวิถี จับมือปูนซีเมนต์ไทยศึกษาวิจัยและพัฒนา ลดการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ

วันนี้ ( 28 มิถุนายน 2550 ) ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลราชวิถี นายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบเฝือกกระดาษราชวิถี ( Rajavithi Splint ) ว่า เฝือกกระดาษราชวิถีนับเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่พัฒนาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนและขาหัก เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีอยู่ 2 ชนิดหลัก คือ เฝือกลมและเฝือกไม้ ซึ่งมีข้อจำกัดในการใช้งาน โดยเฝือกกระดาษทำจากกระดาษลูกฟูกและมีคุณสมบัติพิเศษ ได้แก่ เป็นการใช้งานครั้งเดียวแล้วทิ้งช่วยขจัดปัญหาการทำความสะอาดและการติดเชื้อของบุคลากร มีวิธีการใช้งานที่สะดวกและรวดเร็ว สามารถปรับให้มีรูปร่างตามสรีระของผู้บาดเจ็บและลักษณะการบาดเจ็บ น้ำหนักเบาไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ ไม่มีอุปสรรคต่อการเข้าเครื่องฉายรังสี สามารถใช้ดามอวัยวะที่บาดเจ็บไม่ให้เคลื่อนเพื่อลดการบาดเจ็บซ้ำเติม นอกจากนี้ยังลดการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศและมีราคาถูกเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ดามที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ ที่มีใช้อยู่

ทั้งนี้การวิจัยและพัฒนาเฝือกกระดาษดังกล่าว เกิดจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชวิถี โดยนายแพทย์ไพโรจน์ เครือกาญจนา และคณะ กับบริษัท กลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด และมูลนิธิปูนซีเมนต์ไทย โดยได้ทำการวิจัยตั้งแต่ ปี 2549 และในวันนี้บริษัท กลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด และมูลนิธิปูนซีเมนต์ไทย ได้มอบเฝือกกระดาษราชวิถี จำนวน 1,800 ชุด ประกอบด้วยเฝือกแขนและเฝือกขา ให้แก่โรงพยาบาลราชวิถีเพื่อนำไปมอบแก่สถานพยาบาลทั่วประเทศ โดยจะได้มีการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้ประโยชน์จากเฝือกกระดาษราชวิถีเพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป





 

Create Date : 20 มิถุนายน 2553    
Last Update : 20 มิถุนายน 2553 10:10:20 น.
Counter : 5072 Pageviews.  

ผมเจอเธอแล้ว...

.. งืม ผมเองก้อไม่ได้ตกข่าวแต่อย่างใด หรืออาจจะเป็นเพราะช่วงนี้มีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายแวะเวียนเข้ามา .... วันนี้นั่งท่องเว็ปเรื่อยเปื่อยบังเอิญจำเรื่อง BGT ขึ้นมาได้เลยค้นหาดู และแล้วผมก็พบกับเธอ..Susan Boyle



เธอ... Susan Boyle เธอคือผู้เข้าแข่งขันรายการ Britain’s Got Talent 2009 ซึ่งเป็นรายการให้ผู้สมัครมาแสดงความสามารถด้านบันเทิงต่างๆ โดยนี่คือรายการที่สร้าง Paul Potts ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกมาแล้ว ซึ่งในปี 2009 นี้ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับความสนใจแบบชั่วข้ามคืนเพียงแค่รอบแรกของการประกวด ผ่านกระแสจากใน youtube รวมถึงสื่อมวลชนต่างๆคือ Susan Boyle

Susan Boyle อายุ 47 ปี เธอไม่มีงานทำ เธอฝันอยากเป็นนักร้องอาชีพ เมื่อเธอปรากฏตัวต่อหน้าผู้ชมและกรรมการ แต่ละคนมองว่าเธอคงมาทำอะไรตลกๆให้ดู แต่ในท้ายที่สุดแล้วผู้ชมก็ลุกขึ้นปรบมือให้เธอ หลังจากเธอร้องเพลง “I Dreamed a Dream” จาก Les Misérables

“ Modern society is too quick to judge people on their appearances. … There is not much you can do about it; it is the way they think; it is the way they are. But maybe this could teach them a lesson, or set an example. ”
—Susan Boyle, The Washington Post
สังคมยุคใหม่ตัดสินผู้คนแค่เพียงมองรูปกายภายนอก ซึ่งตัวคุณเองก็ไม่สามารถจะทำอะไรกับเรื่องนั้นได้ มันก็แค่เป็นวิถีทางที่พวกเขาคิด ที่พวกเขาเป็น แต่เรื่องนี้คงจะบอกอะไรเขาบ้าง หรืออาจเป็นตัวอย่างให้มองเห็นได้
—Susan Boyle, The Washington Post


อัลบั้ม แรกในชีวิตของหญิงสาวผู้มีความฝันไว้เป็นแรงใจ ซูซาน บอยล์ ทุบสถิติเว็บไซต์อะเมซอนในรอบ 14 ปีที่มียอดจองซื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ที่อัลบั้มใหม่ของ ซูซาน บอยล์ "I Dreamed A Dream" กลายเป็นอัลบั้มที่มียอดจองซื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 14 ปีของเว็บไซต์อะเมซอน เพียงแค่มีการประกาศออกอัลบั้มใหม่

เมื่อ อัลบั้มวางแผง เธอก็ครองอันดับ 1 ทั้งในอังกฤษและอเมริกาไปแบบไม่พลิกโผนัก เพียงแค่วันแรกก็ทำยอดขายไปถึง 1.5 แสนชุด และขยับมาเฉียด 4 แสนชุดเพียงไม่กี่วัน คาดว่าจะสร้างสถิติอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดภายในเวลาเร็วที่สุดในอังกฤษ

ยอดขายในอเมริกาเองก็ไม่น้อยหน้า เหยียบ 6 แสนชุดในเวลาแค่สัปดาห์เดียว กลายเป็นอัลบั้มเปิดตัวนักร้องหน้าใหม่ที่มียอดขายในสัปดาห์แรกสูงสุด

คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะเธอเองก็เคยสร้างสถิติใหม่ในเว็บไซต์ยูทูปมาแล้วกับคลิปวิดีโอบันทึก วินาทีขยับลูกคอโชว์พลังเสียงอลังการในรายการ Britain’s got talent ที่มียอดผู้เข้าชมทะลุเลขหลักร้อยล้าน แซงหน้าวิดีโอกล่าวสาบานตนของ บารัก โอบามา เสียด้วยซ้ำ..

** เมื่อคุณได้ฟังเพลงของเธอ แล้วคุณจะหลงรักเธอเหมือนที่ผมหลงรัก.. หมูตุ๋นฯ **




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2552    
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 10:14:50 น.
Counter : 608 Pageviews.  

2012 ไปดูมาแล้ว...

อภิมหา “หายนะ” วันสิ้นโลก!








จากตัวอย่างหนังที่ดูแล้วถึงกับ “ขนลุก” ในความยิ่งใหญ่ และสมจริงของฉาก “หายนะ” ที่ได้ประจักษ์แก่สายตาทุกคู่ไปเรียบร้อย เชื่อเหลือเกินว่า 2012 จะต้องเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนรอคอยอย่างแน่นอน แต่สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า “วันสิ้นโลก” จะเกิดขึ้นจริงตามคำทำนายหรือเปล่า? และถ้าเกิดขึ้นจริง โลกจะพบกับจุดจบอย่างไร? อยากรู้ไปดูกันเลย...

ที่ผ่านมามีคำทำนาย และทฤษฎีต่างๆ ที่ว่าด้วยการ ดับสลายของโลก เล่าขานสืบทอดต่อกันมามากมาย และเพื่อให้ทุกคนดู 2012 วันสิ้นโลก แบบได้อรรถรสยิ่งขึ้น ต่อไปนี้ คือ 5 ทฤษฎีว่าด้วย วันสิ้นโลก ที่เราเก็บมาฝากกัน



1.ทฤษฏีที่ได้รับการกล่าวขวัญและถูกอ้างอิงมากที่สุด (และเป็นไอเดียต้นคิดที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่อง 2012 วันสิ้นโลก ด้วย) คือ คำทำนายของชนเผ่ามายันที่ว่า โลกจะถึงคราวดับสูญใน วันที่ 21 ธันวาคม 2012 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยชุดตัวเลข 212012 โดยวันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน ซึ่งเริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (Baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดิบพอดี โดยคำทำนายได้ระบุเอาไว้ว่า ในวันนั้นโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารไล่เรียงตั้งแต่ ภัยธรรมชาติที่จะทำลายทุกสิ่ง ไปจนถึงสงครามอภิมหาโลกาวินาศ จนไม่มีมนุษย์คนไหนรอดชีวิต

2. นอกจากทฤษฎีวันสิ้นโลกของชนเผ่ามายันแล้ว ยังมีข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่ระบุไว้ว่า จะเกิดพลังงานลึกลับที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล โดยในเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวของปี 2012 นั้น ดวงอาทิตย์จะอยู่ระนาบเดียวกับใจกลางของทางข้างเผือกเป็นครั้งแรกในรอบ 2.6 หมื่นปี ซึ่งหมายความว่า พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือกจะปะทะกับพลังงานทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลกในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เวลา 23.11 น. และสมมติว่า มีมนุษย์เหลือรอดบนโลก เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ของ ดีเอ็นเอ ซึ่งบางทีอาจจะทำให้ มนุษยชาติต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง!

3. มีข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ภูเขาไฟใต้น้ำ ครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปีที่ต้องระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุด คือเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว

4. มีนักวิทยาศาสตร์บางรายบอกว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกจะเป็นภัยคุกคามที่ย้อนกลับมาทำลายล้างมนุษยชาติเองในท้ายที่สุด โดยในบทความเรื่อง “วันสิ้นโลก” ของ ไมเคิล แฮนลอน ในเว็บไซต์เดลี เมล์ ระบุว่า วันสิ้นโลก ที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากหายนะทั้งหลายตามคำทำนายใดๆ แต่มาจากภัยเงียบที่ก่อตัวมานาน ซึ่งมนุษย์ไม่เคยใส่ใจต่างหาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและเป็นจุดกำเนิดของเทคโนโลยีต่างๆ จนสามารถคิดค้นเครื่องจักรและหุ่นยนต์ที่มีศักยภาพทัดเทียมความเป็นมนุษย์เข้าไปทุกที และจุดจบของโลกจะอุบัติขึ้นใน วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2065 โดยบรรดาหุ่นยนต์อันชาญฉลาดจะเริ่มเข้าควบคุมมนุษย์โลก ผู้คนทั้งหลายต้องขาดแคลนอาหาร ไร้ที่อยู่ และท้ายที่สุดในปี 2100 มนุษย์ต้องผันตัวเองกลับไปใช้ชีวิตในถ้ำอย่างในอดีต ขณะที่เมืองต่างๆ ก็ตกเป็นของเหล่าเครื่องจักรที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นเอง (เอ๊ะ! ทำไมคล้ายกับหนังเรื่อง คนเหล็ก จังเลย...ฮา)

5. ทฤษฎีแกนโลกเอียงของ ชาร์ล ฮาปกู้ด ที่เคยเสนอไว้ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 50 ว่าในอนาคตข้างหน้า แกนโลกจะเริ่มเปลี่ยนองศา ซึ่งจะส่งผลให้พื้นผิวโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และจะทำให้เกิดภัยพิบัตินานาชนิดขึ้นทั้ง คลื่นยักษ์สึนามิ, แผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิด มีคนเคยอ้างด้วยว่า แม้แต่ อัลเบิร์ต ไอนสไตน์ ยังเห็นด้วยกับทฤษฎีที่ว่านี้

ขอบคุณข้อมูลจาก : โพสต์ทูเดย์




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 10:23:10 น.
Counter : 622 Pageviews.  

1  2  

FinZ
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ครับ...ชื่อเอ็มครับ

เรียนป.โท อยู่ที่นครศรี

ไม่โสดแล้ว ^.^


เธอเป็นมากกว่ารัก

เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต

ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา

และรอคอยเธอมาแสนนาน

และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง

ที่เติมเต็มหัวใจ

จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ...


free counters
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add FinZ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.