Group Blog
 
All blogs
 
เปิดตำนาน นางสาวไทย ยุคที่ 5-6 (2543-ปัจจุบัน) กับบทบาทหน้าที่ และผลประโยชน์ทางธุรกิจ ตอนที่ 1

หลังจากที่ หมดตำนานของนางสาวไทยทั้ง 4 ยุค บล็อกหัวข้อนี้ก็ขาดการดูแลเรื่อยมา เลยจะมาสานต่ออีกครั้ง เครดิตข้อมูลหลักจากคุณ MR HUNT เว็บT-pageant.com ครับ(ผมขอเรียบเรียง-แก้ไขเนื้อหาบางส่วนครับ)

เวทีนางสาวไทย ที่เคยมีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดนางงามจักรวาล ทำไมถึงต้องมีการเปลี่ยนบทบาทในการทำงานเป็นฑูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแทน โดยเวทีที่คัดเลือกสาวงามไปประกวดนางงามจักรวาลนั้นกลายเป็นเวที มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สแทน นางสาวไทยเป็นเวทีที่ปัจจุบันกระแส และชื่อเสียงค่อยๆเงียบลงไปเรื่อยๆ ยกเว้นจุดแข็งที่ชัดเจนคือชื่อการประกวด ที่ผู้คนโดยส่วนมากชอบเรียกการประกวดนางงามไม่ว่าเวทีไหนเหมารวมเป็นเวทีนางสาวไทยไปเสียหมด


เมื่อปี2527 คุณชาติเชื้อ กรรณสูตร ประธานกรรมการช่อง7ได้ติดต่อไปยังองค์กรมิสยูเวิร์ส เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการประกวดมิสยูเวิร์สที่ประเทศไทย และด้วยขณะนั้นคุณชาติเชื้อเป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย เจ้าของลิขสิทธิ์การประกวด"นางสาวไทย"ด้วย


ทางองค์การมิสยูนิเวิร์สจึงมอบลิขสิทธิ์การเป็นNational director หรือผู้จัดหาสาวงามของประเทศนั้นๆไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ให้กับช่อง7แทนคุณศักดิ์ จาตุรจินดา (ซึ่งคุณศักดิ์เคยเป็นNational directorมาตั้งแต่ปี 2517-2526 ซึ่งส่งตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส โดยใช้ชื่อการประกวดในประเทศไทยว่า"นางสาวไทยจักรวาล"โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางช่อง3)
เหตุผลก็เพราะการมีNational directorเป็นสถานีโทรทัศน์จะมั้นคงกว่า องค์กรเอกชนเล็กๆแบบของคุณศักดิ์ ช่อง7จึงได้เป็นNational directorมาตั้งแต่ปี2527เป็นต้นมา และด้วยการที่คุณชาติเชื้อเองก็เป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธ ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นางสาวไทย จึงรื้อฟิ้นการจัดประกวดนางสาวไทยขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อปี2527


เรียกว่า สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยเจ้าของชื่อ "นางสาวไทย" ร่วมงานกับ ช่อง7ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์National directorในการส่งสาวงามไทยเข้าประกวดนางงามจักรวาล


และก็ประสบความสำเร็จด้วยดีเมื่อปีแรกได้นางสาวไทยปี 2527 คือคุณสาวิณี ปะการะนัง เธอสามารถเข้ารอบ10คนสุดท้ายได้ (หลังจากที่สมัยที่ศักดิ์ จาตุรงคจินดา ส่งนางสาวไทยจักรวาลไปประกวดไม่เคยเข้ารอบใดๆเลย รวมทั้งรางวัลเล็กน้อยก็ไม่เคยได้)


ต่อมาก็ปี2531ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก พิชิตนางงามจักรวาลได้และยังคว้ารางวัลชุดประจำชาติมาได้อีก


ปี2532ยลลดา รองหานาม ก็ได้รางวัลชุดรองประจำชาติอันดับ2(ที่3)ต่อมาองค์กรมิสยูได้เทเลกซ์มาบอกว่าให้เธอได้รางวัลรองชุดประจำชาติอันดับ1(ที่2)แทนนางงามกัวเตมาลา ด้วยเรื่องกฏในการผลิตชุดประจำชาติเพื่อการประกวดนางงามจักรวาล

ปี2533ภัสราภรณ์ ไชยมงคล ก็คว้าตำแหน่งขวัญใจช่างภาพเป็นคนแรกของประเทศไทย


ปี2535 อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ได้รองอชุดประจำชาติอันดับ1(ที่2)ในการประกวดนางงามจักรวาลซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพครั้งแรก


ปี2537อารียา ชุมสาย ได้รับรางวัลMiss kodak smile(รางวัลยิ้มสวยจากฟิล์มสีโกดัก) รางวัลจากสปอนเซอร์ในการประกวดที่ฟิลิปปินส์

ช่อง7ร่วมงานกับวชิราวุธ ร่วมงานกันด้วยความราบรื่นมาโดยตลอด กระทั่งหลังจากที่ชาติเชื้อ กรรณสูตร ได้พ้นตำแหน่งนายกสมาคม และภายหลังล้มป่วย กลายเป็นเจ้าชายนิทราในภายหลัง

ความเกรงใจก็เริ่มหมด ในปี2536หนังสือทีวีพูลได้พาดข่าวหน้าปกว่า "สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธจะย้ายนางสาวไทยไปจัดช่อง5 เพราะมีปัญหาไม่พอใจหลายอย่างรวมไปถึงค่าลิขสิทธิ์ด้วย" แต่ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรมาก กระทั่งปี2540-2542สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธมีปัญหากับช่อง7มากขึ้น มีเรื่องระหองระแหงเรื่อยมา

จนปลายปี2542สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธได้ออกมาแถลงการณ์ ประกาศหาผู้ประมูลการจัดประกวดนางสาวไทยอย่างเป็นทางการด้วยเหตุผลดังนี้ดังนี้

1.เพราะสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธขาดรายได้ จึงอยากให้ทางช่อง7ช่วยทางสมาคมบ้าง เพราะสมาคมไม่มีรายได้เข้ามาเลย และไม่เคยได้ค่าลิขสิทธิ์ในการจัดประกวดนางสาวไทยจากช่อง7เลย ทางสมาคมได้มีการขอเก้บค่าลิขสิทธิ์การประกวดเมื่อปี2540 แต่ก็ได้มาแค่2แสน จนสมาคมนักเรียนเก่าต้องบังคับเอาจากช่อง7 เมื่อปี2541 ได้มา1ล้าน ปี2542ได้มา2ล้าน

2.การทำตัวไม่เหมาะสมของนางสาวไทยบางคน (ประมาณว่าช่อง7ดูแลนางสาวไทยไม่ดี ให้มะปราง ภาวดี วิเชียรรัตน์ ไปถ่ายภาพออกแนววับๆแวมๆ)

3.ช่อง7 คัดเลือกสาวงามแค่คนกลุ่มเดียว จึงอยากให้คัดเลือก สาวงามจากทั่วประเทศ กระจายการคัดเลือกจากทั่วทุกภูมิภาคเพื่อจะสมกับคำว่านางสาวไทยอย่างแท้จริง

ตอนนั้นสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธได้จัดการให้ยื่นซองประมูล ใครสนใจให้มายื่นได้ว่าจะให้ค่าลิขสิทธิ์เท่าไร จะจัดการประกวดอย่างไร
ผมจำได้วันที่ทำข่าวไปงานแถลงข่าวเรื่องนี้ ปรากฏว่ามีผู้สนใจจากค่ายบันเทิงต่างๆไปมากมาย ทั้งแกรมมี่ อาร์เอส เจเอสแอล มีเดียออฟมีเดีย ช่อง3และITVรวมทั้งช่อง7ด้วย ในวันนั้นนางสาวไทยที่ไปร่วมงานกับมีเพียง ฉัตรฑริกา อุบลศิริ นางสาวไทยปี2536เพียงท่านเดียว ถึงกับมีการเขียนข่าวในไทยรัฐวันต่อมาว่า "วัดใจนางสาวไทยกับวิราวุธ มีมาร่วมงานแค่คนเดียวคือฉัตรริกา" (เนื่องจากคุณฉัตรฑริกาเป็นหนึ่งในนางสาวไทยหลายๆคนที่ไม่ได้เข้าสู่วงการบันเทิง)


พอถึงวันยื่นซองประมูล ปรากฏว่ามีผู้มายื่นแค่รายเดียวคือช่องITV ค่ายบันเทิงอื่นไม่มายื่นเลย โดยทางสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธ กล่าวว่า
"ITVให้ข้อเสนอที่ดี เช่นค่าลิขสิทธิ์และการจัดเวทีแสงสีเสียงการแสดงบนเวที"

ตอนนั้น ทางสื่อมวลชนได้สังหรณ์ใจอะไรบางอย่างมาก่อนหน้าแล้วว่าช่อง7คงจะไม่มาร่วมประมูลด้วย จึงมีการสัมภาษณ์พล.อ.ชนินทร์ จันทรุเบกษา นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยว่า

สื่อมวลชน "ถ้านางสาวไทยไม่จัดที่ช่อง7 แล้วคิดว่าคุณสุรางค์ จะยอมให้ลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์สหลุดมือมาเหรอ เพราะตอนนี้คนที่เป็นเนชั่นแนลไดเร็คเตอร์ก็คือคุณสุรางค์ไม่ใช่วชิราวุธ"

พล.อ.ชนินทร์"คือว่าตอนนี้ทุกอย่างมันยังไม่แน่นอนนะ แต่ยังไงเราก็ไม่ยอมให้ลิขสิทธิ์การส่งนางงามจักรวาลหลุดไปจากเวทีนางสาวไทย เพราะองค์กรมิสยูนิเวิร์ส ก็เป็นพันธมิตรกับเวทีนางสาวไทยมานาน"
สื่อมวลชน "แล้วถ้าหากว่าคุณแดงไม่ยอม"

พล.อ.ชนินทร์ "มันขึ้นอยู่กับองค์กรมิสยูนิเวิร์สมากกว่าจะเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะถ้าเขาให้เรา แล้วทำไมเราจะส่งไม่ได้เพราะค่าลิขสิทธิ์แค่2แสนบาท เงินแค่นี้แล้วทำไมทางสมาคมจะไม่มีจ่าย "

สื่อมวลชน "ถ้าไม่ได้จัดกับช่อง7ยังไงก็มั่นใจว่านางสาวไทยจะต้องได้ไปประกวดนางงามจักรวาลแน่นอนใช่ไหมคะ"

พล.อ.ชนินทร์ "แน่นอนเพราะเวทีนางสาวไทย มีความผูกพันกับเวทีนางงามจักรวาลมานานและเราก็ได้นางงามจักรวาลมาแล้ว2คนซึ่งทั้งคุณอาภัสราและคุณภรณ์ทิพย์ก็มาจากเวทีนางสาวไทยนี้

สื่อมวลชน "อาศัยความผูกพันธ์ตรงนี้"
พล.อ.ชนินทร์ "ใช่ครับ เรามีนางงามจักรวาลมาแล้ว2คนก็เป็นของสมาคมของเราจัดการประกวดขึ้น ถ้าไม่มีนางสาวไทยก็ย่อมๆไม่นางงามจักรวาลแน่ๆ เราเป็นมิตรกับเขามานานตั้งแต่ปี2508 กี่ปีมาแล้วนี่ครับ"

จากกรณีที่สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย โดยพล.อ.ชนินทร์ จันทรุเบกษา เป็นนายกสมาคมได้เปิดในโอกาสองค์กรเอกชนต่างๆได้มายื่นซองประมูลเพื่อจัดรายการประกวดนางสาวไทย โดยให้ผู้ยื่นประมูลจะต้องมีข้อ
เสนอต่างๆที่ดีเช่น


1.วิธีการคัดเลือกสาวงาม
2.วิธีการจัดการประกวด เวที แสงสี เสียง รูปแบบการแสดงบนเวที
3.เงินค่าตอบแทนที่จะให้กับทางสมาคม
4.วิธีการดูแลนางสาวไทย หลังได้รับตำแหน่ง


ทั้งหมดก็เพื่อจะให้มีการเปลี่ยนแนวทางการประกวดหรือโลกทัศน์ใหม่ให้เวที"นางสาวไทย"ดีขึ้นโดยไม่ต้องผูกขาดที่ช่อง7เพียงช่องเดียว แต่การยื่นซองการประมูลการจัดประกวดไม่ได้จำกัดว่าจะองค์กรใด ช่อง7ก็สามารถมายื่นได้ แต่ต้องทำตามที่สมาคมต้องการ ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ทางสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยได้ให้เวลา1เดือน ในการเตรียมยื่นซองประมูล

และในระหว่างที่รอการยื่นซองประมูลนั้นเอง ทางช่อง7ก็ไม่ได้นิ่งเฉย มีการเตรียมการบางอย่าง และทางสื่อมวลชนได้สัมภาษณ์คุณหน่อง พลากร สมสุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายรายการ จึงทราบว่าช่อง7จะมีทีเด็ดใหม่ โดยจะจัดการประกวดใหม่ชื่อว่า มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ทางสื่อมวลชนก็สัมภาษณ์ว่า


"จะไม่ร่วมประมูลการประกวดนางสาวไทยหรือ"
ทางผู้ช่วยฝ่ายรายการช่อง7 ก็พูดแค่ว่า "เวลานี้ข้อมูลยังไม่แน่นอน ซึ่งจะนัดวันแถลงข่าวอีกครั้ง"

วันต่อมาหนังสือพิมพ์ก็กล้าลงข่าวแค่ว่า"ช่อง7แย้มไต๋เป็นนัยๆแล้วว่า จะมีการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวริส์" ในช่วงเดือนมกราคม 2543 ในวันแถลงข่าวของทางช่อง 7 ช่างภาพสื่อมวลชน ทั้งนิตยสาร ทีวี วิทยุต่างพากันไปทำข่าว โดยเรียกว่าเป็นวันนัดรวมพลนักข่าวบันเทิงและข่าวสตรีเลยก็ว่าได้

คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์"เราจะจัดการประกวดเพื่อส่งส่งตัวแทนไปชิงนางงามจักรวาลขึ้นใหม่ โดยใช้ชื่อการประกวดว่า มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ซึ่งติดต่อไปทางองค์กรมิสยูนิเวริส์แล้วก็อนุญาตให้ใช้ชื่อนี้ได้ โดยการประกวดจะเริ่มนับหนึ่งกันใหม่หมด ทั้งรูปแบบการประกวดที่เป็นสากลมากยิ่งขึ้น เพลงในการประกวดใหม่หมด แต่สปอนเซอร์ของเรายังเป็นชุดเก่าคือ นีเวีย จอห์นโรเบิร์ทเพาเวอร์ โรงแรมเซลทรัล เรฟลอน"

สื่อมวลชน"แล้วกับเวทีนางสาวไทย ก็ไม่ร่วมงานกันอีกเหรอ"

คุณสุรางค์"ก็แล้วแต่เขา เขามีทางเลือก เขาไม่รู้หรอกว่าการประกวดมันเหนื่อยแค่ไหน และไม่ได้เงินเยอะแบบที่เขาเข้าใจหรอก"

ซึ่งในงานแถลงข่าวได้มีเจ้าหน้าที่ของช่อง7คนหนึ่งกล่าวว่า"สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธไม่ทำอะไรเลย จะมาเอาแต่เงินค่าลิขสิทธิ์ได้ไง "

นี่คือการเริ่มต้นการประกวดครั้งแรกของ"มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิริ์ส"

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่เซนทรัล ลาดพร้าวต่อเพราะวชิราวุธจัดแถลงข่าวการเปิดซองประมลการจัดประกวดนางสาวไทยที่นั่นแต่พอถึงเวลาเปิดซองประมูลกลับมีเพียงITV เพียงเจ้าเดียว โดยตอนนั้นสื่อมวลชนก็สัมภาษณ์นายกสมาคมว่า

สื่อมวลชน "การที่นางสาวไทยจะไปร่วมงานกับไอทีวี เป็นการปฏิเสธช่อง7หรือทอดทิ้งช่อง7หรือไม่"

พล.อ.ชนินทร์ "ใครบอกว่าเราไปทิ้งเขา เราไม่ได้ทิ้ง เราก็เปิดโอกาสให้ช่อง7มาประมูลนี่นา แต่ช่อง7กลับไม่สนใจมาประมูลจัดงานเลย ใครกันแน่ที่ทอดทิ้งกันช่อง7ต่างหากไม่เอาเรา ไม่ใช่เราไม่เอาช่อง7" วันต่อมาไทยรัฐก็เขียนข่าวว่า "นางสาวไทยไปร่วมกับไอทีวี พลาดการประกวดนางงามจักรวาลแน่นอนแล้ว ช่อง7จัดการประกวดใหม่ใช้ชื่อซะเก๋ว่า มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส" "วชิราวุธก็เอาแต่ชื่อนางสาวไทยไปก็แล้วกัน แต่ไม่ได้ไปประกวดนางงามจักรวาล"

ซึ่งเมื่อทราบว่าพลาดนางงามจักรวาลเป็นที่แน่นอนแล้ว นางสาวไทยก็ต้องหันไปใช้เอกลักษณ์ใหม่นั่นคือการใช้ความเป็นกุลสตรี แทนที่จะโชว์ความเซ็กซี่ เป็นเวทีแห่งคุณค่าศักดิ์ศรีสตรีไทยแทน โดยการงดชุดว่ายนำ ซึ่งพล.อ.ชนินทร์ จันทรุเบกษา นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยให้สัมภาษณ์ว่า “การประกวดนางสาวไทยปีนี้ แม้ว่าผู้ชนะจะไม่ได้เดินทางไปร่วมประกวดนางงามจักรวาลที่ต่างประเทศ หากแต่ก็ต้องเดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในประเทศต่าง ๆ ได้มีโอกาสร่วมทำงานกับสังคม และการจัดการประกวดนางสาวไทยในปีนี้ได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดใหม่ทั้งหมด และเกณฑ์การตัดสินคัดเลือกสาวงามก็ไม่ได้คำนึงถึงเฉพาะรูปร่าง หน้าตา หากแต่สาวงามเหล่านั้นต้องแสดงความสามารถและทักษะด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และความสามารถพิเศษอื่น ๆ ซึ่งในครั้งนี้จะต่างจากการประกวดนางสาวไทยจากปีก่อน ๆ" โดยการประกวดจะมีการคัดเลือกสาวงามจากทั่งทุกภูมิภาคของประเทศไทย
สื่อทางสื่อมวลชนได้สัมภาษณ์พลเอกชนินทร์ด้วยว่า ทำไมไม่รับสาวงามจากทุกจังหวัดเลย ให้แขวนสายสะพายชื่อจังหวัดมา ซึ่งพลเอกชนินทร์ได้กล่าวว่า"สาวงามไม่ใช่วาจะสวยทุกจังหวัด บางจังหวัดอาจไม่มีคนสวย คิดว่าให้โอกาสแบบนี้จะดีกว่า"


โดยการคัดเลือกและประกาศรับสมัครก็ตรงกับวันที่ช่อง7 ประกาศรับสมัครมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สเป็นครั้งแรก(ซึ่งในตอนนั้นช่อง7 โฆษณาประกาศรับสมัครมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปีแรกจะนำภาพจากเวทีการประกวดนางงามจักรวาลมาเสนอแทน เพราะเพิ่งประกวดปีแรก ผิดกับเวทีนางสาวไทยของไอทีวีที่ประกาศรับสมัครก็จะมีภาพจากการประกวดนางสาวไทยในสมัยเก่าๆมาโชว์ด้วย)

ในช่วงนางสาวไทยคัดสาวงามทุกภูมิภาค ช่อง7ก็มีการคัดตัว และเก็บตัวมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส โดยทางนางสาวไทยก็มีดี ที่สื่อมวลชนต่างชื่นชมนักหนา เพราะว่ามีการคัดตัวตามภูมิภาคต่างๆ ทั้งเหนือ(เชียงใหม่)ใต้ (สุรษฏร์)อิสาน(ขอนแก่น)กลาง(กรุงเทพ)จึงมีการให้ค่ารถ และโรงแรมชั้นหนึ่งฟรีกับสื่อมวลชน นางสาวไทย พยายามจะโปรโมทวิธีต่างๆ พอเห็นกระแสเริ่มซากว่าเวทีช่อง7 ตอนแรกว่าจะไม่มีชุดว่ายน้ำ ต่อมากลับจะให้ผู้เข้าประกวดใส่ชุดว่ายนำโชว์ต่อหน้าคณะกรรมการแทนในห้องเฉพาะ โดยไม่ให้มีการถ่ายรูป หรือมีภาพหลุดถึงช่างภาพเด็ดขาด

นางสาวไทยจะมีการคัดตัวสาวงามจากทุกภูมิภาคให้เหลือเท่ากับจำนวนจังหวัดของแต่ละภาคนั้น เช่น ภาคเหนือมี9จังหวัดถ้ามีสาวงามที่มีภูมิลำเนาทางเหนือมาสมัคร 70คนก็จะคัดให้เหลือ 9 คนเป็นต้น แล้วก็มีการเก็บตัวทำกิจกรรมด้วยกันก่อนที่โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้มี 14 จังหวัดก็จะคัดให้เหลือ 14 คนและมีการเก็บตัวล่วงหน้าที่สุราษฎร์ ภาคอิสานมี 19 จังหวัดก็จะคัดให้เหลือ19 คนแล้วเก็บตัวล่วงหน้าก่อนที่ขอนแก่น ภาคกลางรวมตะวันตกตะวันออกมี 33จังหวัด ก็จะคัดให้เหลือ 33คน แล้วเก็บตัวที่กรุงเทพก่อน จากนั้นสาวงามทุกภาคที่มีรวมกัน76คน เท่ากับ76จังหวัด ตามจำนวนจังหวัดของประเทศไทยในปี2543 และจะมารวมกันที่กรุงเทพอีกครั้ง โดยมีการเก็บตัวที่โรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท24 ค่าใช้จ่ายในการประกวดนางสาวไทยน่าจะตกเกือบ20ล้าน แต่ก็ต้องลงทุนเพราะคงคิดว่าเสียเงินได้ แต่เสียหน้าไม่ได้ ในขณะเดียวกันนั้นเอง ทางประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ก็ยังใช้ระบบช่อง7เดิม นั่นคือการคัดตัวนางงามจากทั้งหมดให้เหลือ60คน(ก่อนจะเปลี่ยนให้เหลือ 44คนในปีหลังๆ) และก็มีการเดินโชว์ตัวชุดว่ายน้ำที่โรงแรมเซ็นทรัลเช่นเดิม การเก็บตัวที่จังหวัดกระบี่ และประกวดที่บางกอกคอนเวนชั่นเซนเตอร์เซ็นทรัลลาดพร้าวเหมือนเดิม


กระทั่งถึงการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สรอบชิงวันจริงนั้น โดยในวันนั้นผู้เปิดศักราชให้เวทีประกวดนี้คือ กุลธิดา เย็นประเสริฐ นิสิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


กลุ่มสื่อมวลชนก็วิจารณ์กันว่า"คณะกรรมการชุดนี้เป็นกรรมการใหม่คงอ่อนหัดในการตัดสินจึงไปเลือกเหน่งกุลธิดามา"บ้างก็วิจารณ์ว่า
"นางงามคนนี้ล็อคไว้แล้ว เพราะเป็นเด็กจุฬา ที่เดียวกับคุณแดงเรียนจบมา คุณแดงอยากยกระดับเวที" "มีรัฐมนตรีหญิงคนหนึ่งต่อต้านที่นักศึกษามาประกวดนางงาม ป้าแดงเลยตบหน้าโดยเอาเด็กจุฬาคว้ามงกุฏเลย"


ทางฝั่งนางสาวไทย

นางสาวไทยประกวดปลายพฤษภาคม 2543 ครับ เพราะนางสาวไทยจะไปคัดตัวสาวงามจากต่างจังหวัดหลายเดือน) ทางพลเอกชนินทร์ นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธก็ยังกล่าวว่า"จะเชิญเจ้าหน้าที่จากองค์กรมิสยูนิเวิร์สมา ให้มาดูงานของเราว่าเราทำจริง "แสดงให้เห็นว่าทางวชิราวุธยังตั้งใจจะชิงลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สมาให้ได้ เพราะการตั้งNATIONAL DIRECTOR(ผู้จัดหาสาวงามไปประกวดมิสยูเวิร์ส)เขาให้สัญญาปีต่อปี

แต่ในช่วงการเก็บตัวนางงามทั้ง 76 คนที่กรุงเทพก็มีปัญหา ข่าวที่เผยแพร่ออกไปค่อนข้างน้อย สื่อมวลชนไม่สนใจทำข่าวนัก ไม่ถูกใจกองประกวดนัก ก็เลยว่าจะมีการจะโปรโมทในชุดว่ายน้ำกันบ้าง


แล้วการเก็บตัวที่โรงแรมอิมพีเรียลควีนปารค์ก็มีสื่อมวลชนไปทำข่าวน้อย แต่ก็พอมีข่าวออกมาเป็นระยะแค่ว่ามีการแกล้งตัวเก็งโดยการเอาตะปูไปใส่ไว้ในรองเท้าส้นสูง พอถึงวันประกวดจริงก็คือที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ จัดที่เพนนารีฮฮลล์หรือฮอลล์ใหญ่กันเลยทีเดียว ถ่ายทอดสดเวลาสามทุ่มทางไอทีวี และผู้ได้รัยบตำแหน่งนางสาวไทยก็คือคุณบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี(วันนี้ก็ตรงกับวันที่มิสยูนิเวิร์สตัดสิน แต่การตัดสินเป็นไปตั้งแต่10โมงเช้าแล้ว แต่ช่อง7ไม่ถ่ายทอดสดแต่เอาเทปมาออกอากาศตอน4ทุ่มแทน ซึ่งก็เรียกว่าชนกับการประกวดนางสาวไทยเลย)



ตอนที่มิสยูนิเวิร์สที่คุณเหน่งไปประกวดนั้น คุณแดงไปเชียร์สาวไทยถึงขอบเวทีที่ไซปรัสเลย และคุณแดงยังไปเซ็นสัญญาเพื่อส่งตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสยูปีหน้าเรียบร้อยไปแล้ว เห็นว่าองค์การมิสยูขอร้องให้คุณแดงซื้อเป็นแพจเกจเลย คือค่าลิขสิทธิ์ส่งตัวแทน รวมทั้งถ่ายทอดสดด้วย ซึ่งก็ยอม

การเซ็นต์สัญญาขอเป็นเนชั่นแนลไดเร็กเตอร์ จะทำปีต่อปีเท่านั้น จะให้ใครก็ได้ ดังนั้นคุณแดงจึงไม่ประมาท ขณะนั้นเองทางวชิราวุธ ก็เมียงมองไปทางเวทีมิสเวิลด์ไม่น้อย เพราะเห็นช่อง3 งดจัดมิสไทยแลนด์เวิลด์มาแล้ว3ปี คือ 2541-2543 จากการที่เชิญผู้บริหารช่อง3มาร่วมงานนางสาวไทย จึงมีการแซวกันว่าปีหน้านางสาวไทยอาจจะไปจัดที่ช่อง3ก็ได้ และก็มีคนเชียร์ไม่น้อยมาน่าจะเอานางสาวไทยคือคุณบุ๋ม ปนัดดาไปประกวดมิสเวิลด์

ตอนนั้นก็มีกระแสข่าวเป็นระยะว่าจะให้คุณบุ๋มไปประกวดมิสเวิลด์ เพราะว่าปีนี้ช่อง3ก็ยังไม่จัดมิสไทยแลนด์เวิลด์แต่เรื่องก็เงียบไป กระทั่งถึงปี2544ต้นปี มีกระแสว่าหลายองค์กรอยากได้ลิขสิทธิ์ส่งสาวไทยไปประกวดมิสเวิลด์มาก มีการได้สัมภาษณ์คุณปู ปริศนา กล่ำพินิจ ผู้มีบทบาทสำคัญต่อกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์มาก เธอให้สัมภาษณ์ว่า
"ปีนี้(2544)จะมีการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์แน่นอน เซ็นต์สัญญากับเอวอนแล้ว3ปี" ก็เป็นอันว่านางสาวไทยก็พลาดทั้งมิสเวิลด์และมิสยูนิเวิร์ส


ติดตามต่อตอนที่ 2 ครับ



Create Date : 23 ธันวาคม 2553
Last Update : 23 ธันวาคม 2553 22:26:38 น. 2 comments
Counter : 11436 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

สุขสันต์วันมาฆบูชาค่ะ


โดย: ดวงดาวแห่งความรัก วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:04:38 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะคะ


โดย: กองประกวดนางสาวไทย56 IP: 27.55.18.232 วันที่: 18 พฤษภาคม 2557 เวลา:13:11:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

K_chang
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เฟิร์นคับ เป็นคนภูเก็ต แต่ต้องมาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ งานอดิเรกก็มีบ้าง แต่ที่ติดอยู่ตอนนี้คือการทำบล็อก
และก็คงจะไม่เลิกง่ายๆซะด้วย

ยินดีต้อนรับเข้าสู่K_chang BLOG นะคับ…
Kittipong Jarusathorn
Instagram

Google
free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add K_chang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.