Hair Update: สีผมใหม่ Pink Platinum ไม่เคยได้ยินใช่ไหม? ตั้งเองหละ 55 ทรายไปทำสีผมมาค่ะ ทำได้สัก 2 สัปดาห์แล้ว แต่ว่าเพิ่งจะได้เขียนบล็อคเพราะว่า ที่ผ่านมาชีพจรลงเท้ามาก ตุเรงๆไปต่างจังหวัดตลอด ตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่น >///< สีผมครั้งนี้เป็นสีแรกของปี 2012 เลยนะเนี่ยย แน่นอนว่าไปจัดที่Mark Thawinค่า สีผมเดิมทรายเป็นสีบลอนด์ทองแบบนี้นะ คือว่าสีที่ทำมาสระๆไปมันก็จะหลุด พอผมดำตรงโคนขึ้นเยอะมันก็จะเริ่มไม่น่าดูละ ก็เลยต้องมาทำใหม่จ้า วันนี้อาจารย์มาร์คไม่เข้าร้าน มีอาจารย์เอ๊ะ เป็นคนนำทีมดูแลผมให้ค่ะ ทรายบอกความต้องการไปว่าอยากได้บลอนด์หม่นๆ แบบหม่นหมอง 55 มีรูปภาพน้องดาโกต้าโรส ไปเป็นแบบผมให้อาจารย์ดูด้วย อาจารย์เอ๊ะบอกว่าพื้นฐานสีผมเดิม มันไม่สามารถทำให้เหมือนในแบบได้นะ ผมเราผมเอเชียจะได้สีเข้มกว่า แล้วก็ก่อนอื่นเลยต้องกัดสีช่วงโคนผมด้วย ดังนั้นวันนี้ใช้เวลานานกว่าปกตินิดนึงเพราะต้องทำสองขั้นตอนนะ กัดออกมาหัวทองเป็นเบจิต้าแบบนี้เลย เป่าแห้งแล้วดูสก๊อยเหลืองมากกกกก จากนั้นเค้าก็เริ่มลงสีกันแล้ว อ.เอ๊ะบอกว่า เนื่องจากว่าผมเดิมฐานสีเป็นเหลือง ถ้าอยากได้หม่นจะต้องใช้ม่วงช่วย เป็นทฤษฎีหักล้างสี เหมือนกับถ้าใครผมติดส้ม จะต้องผสมสีน้ำเงินลงไปเล็กน้อยเพื่อหักล้างสี อะไรทำนองนี้แหละ แล้วมันก็เริ่มออกมาเป็นสีแบบนี้ และเข้มขึ้นเรื่อยๆตามเวลา กรี๊ดดดดดดดดดด หัวม่วงมากกก เห็นแล้วหิวเล็กน้อยเหมือนมะเขือม่วง อ.เอ๊ะชี้ให้ดูสีที่ผสมให้ และตัวอย่างสีผมเมื่อเสร็จ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ทาา ด๊านนนนนน!!!! ไปล้างออกมาแล้ว เปาๆไดร์ๆกันดีกว่า ม้วนๆๆๆๆๆๆ ที่นี่มีวิธีการไดร์ม้วนปลายที่สุดยอดมากกกกก แถมอยู่ได้โครตนาน ทรายหมักผมไว้ 4 วันแน่ะ เพราะว่าสีกับลอน สวยมากกกก (ซกมกโครต) สะบัดๆ จัดๆแต่งทรง ชะริ้งงงงงง!!!!!!!! ปริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แจ่มแมวเนอะ ขอบคุณพี่..ยังไม่ทันได้ถามชื่อเลยอ่า เป็นคนคอยดูแลให้ตลอดทุกขั้นตอนการทำ ^^ ตอนที่ไปทำเย็นแล้ว พอทำเสร็จก็มืดค่ำแสงหมด ทรายก็เลยถ่ายรูปไว้ ตอนเช้าของอีกวันนะ เป็นแสงธรรมชาตินั่งริมหน้าต่างเลย ^^ ไปไหนมาไหนมีแต่คนถามว่าสีอะไร ได้แต่บอกไปตามที่สายตาเห็น เป็นสีชมพูอมม่วง ประกายเป็นเทาๆแพลตินัมอ่าค่า อ.เอ๊ะบอกว่า สระไป3-4ครั้ง ผมจะออกสีบลอนด์อมชมพูหม่นๆ ซึ่งตอนนี้ก็ผ่าน การสระมา 7-8ครั้งแล้ว สีม่วงหลุดไปเยอะ เหลือเป็นชมพูหม่นๆ ปนเทาๆ สีแปลกมาก ชอบบบบบบบ *ข้อพึงระวัง * สาวๆที่คิดจะกัดสีผมแบบที่ไม่เว้นโคนคือกัดถึงหนังศรีษะ ต้องทำใจกับ การลอกของหนังศรีษะ หลังจากกัดสีนะ จะลอกเป็นแผ่นๆคล้ายรังแค แต่ไม่ใช้รังแคคันคะเยอจ้า เดี๋ยวก็หาย และสาวใดคิดจะทำผมสีม่วง ชมพู แดง อะไรทำนองนี้ อย่าลืมหาผ้าเช็ดตัว เช็ดผม ผ้ารองปลอกหมอน สำหรับป้องกันการตกสีของสีผมด้วยนะ ตกแน่ๆจ้า Disclaimer : All Free Sponsored by Mark Thawin The Ultimate Hair Solution   Create Date : 25 มกราคม 2555     Last Update : 25 มกราคม 2555 21:02:42 น. Counter : 61341 Pageviews.   4 comment Share Tweet

How to: สอนม้วนผมทรงHot Hitsด้วยแกนไฟฟ้า 25มิลLe'sasha Jumbo Curlจ้ะ How to เกี่ยวกับผมวันนี้ทรายจะมาสอนและโชว์ให้ดูว่าแกนม้วนผมไฟฟ้า Le'sasha Jumbo curl Tourmaline ขนาด 25มิล ม้วนแล้วจะออกมาเป็นลอนลักษณะไหนกับผมทราย? ซึ่งเป็นผมยาวมากๆ ตรงมากๆ มาดูซิว่าจะขึ้นลอนจริงหรือเปล่า ทำเองที่บ้านได้ไหม? อยากรู้วิธีทำ อยากดูว่าแกนไซส์นี้กับผมยาวขนาดนี้จะสามารถไหม? ตามไปพิสูจน์กันนะคะ Disclaimer : Sponsored by Le'sasha   Create Date : 17 ตุลาคม 2554     Last Update : 17 ตุลาคม 2554 0:55:03 น. Counter : 5587 Pageviews.   8 comment Share Tweet

Review: Dove Intense Repair Line มาร์สและ2-step แก้ปัญหาผมเสียด่วนๆ วันนี้เรามาอ่านบล็อคเกี่ยวกับโปรดักส์ประเภท Hair Care กันอีกแล้วนะคะ สิ่งที่ทรายจะเขียน ต่อไปนี้คือผลิตภัณฑ์จากโดฟที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ การดูแลเส้นผมแบบเร่งด่วนกันค่ะ ผลิตภัณฑ์ที่ส่งมาให้ทรายทดลองก็มี 2 ตัว ในไลน์ของ Dove Intense Repair ซึ่งมีวิธีการใช้และ การแก้ปัญหาให้ตรงจุดแตกต่างกัน ยังไงเดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกัน ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ทรายได้รับผลิตภัณฑ์และทำการทดลองใช้มาตลอดระยะเวลา 1เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2011 เป็นต้นมาค่ะ โดยใช้คู่ไปกับแชมพู และครีมนวดของโดฟบ้าง และ ของยี่ห้ออื่นบ้างเพื่อเปรียบเทียบความรู้สึกหลังการใช้ และวิธีเขียนรีวิวผลการใช้ของทราย ไม่ใช่ การชี้แจงFactของผลิตภัณฑ์ตามส่วนผสมใดๆ แต่เป็นความรู้สึกส่วนตัวของทรายเองหลังใช้นะคะ กลับเข้าสู่ร่างปกติของเรา 555 ภาษาเครียดๆด้านบน เป็นไปเพื่อรักษาความดีงามในการใช้ภาษา แต่ตั้งแต่บรรทัดนี้เป็นต้นไป เราจะกลับไปสู่เนเจอร์ของเราเองกันนะคะ เพื่ออรรถรสในการอ่าน ตรงนี้ถ้าใครขี้เกียจอ่าน อยากจะฟังเสียงเม้ามอยแทนก็ได้ กดคลิปด้านล่างนี้ไปได้เลย ตัวแรกที่เราจะพูดถึงกัน ทรายขอพูดถึงมาร์สก่อนแล้วกันนะคะ เชื่อว่าสาวๆสมัยนี้ต้องคุ้นเคยกัน ดีอยู่แล้วสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมประเภทของมาร์ส มันก็ไม่ต่างกับมาร์สหน้านะคะ ถ้าใคร ยังไม่รู้ถึงประโยชน์ของมัน มันคือการบำรุงแบบสุดๆใน1ครั้งที่ส่วนใหญ่แล้วแนะนำให้ทุกคนที่ ผมได้รับการทำร้ายจะจากทางไหนก็ตาม ปรนเปรอน้องผมด้วยสารอาหารดีๆสัปดาห์ละครั้งค่ะ (ทำร้ายเค้าไว้เยอะ ถ้าอยากให้เค้าแข็งแรงอยู่กับเราแบบสวยงามต่อไปก็ควรสละเวลาทำนะคะ) Dove Damage Therapy Treatment Mask (สำหรับการดูแลผมเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง) ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมไว้ว่า “เป็นทรีทเม้นท์ที่ได้รับรางวัล The Most Impressive Performance from Marie Claire Beauty Awards 2011 ปรนนิบัติสุขภาพผมอาทิตย์ละ 1 ครั้ง กับโดฟ แดเมจ เธอราพี ทรีทเม้นท์ มาส์ก ที่จะช่วยฟื้นบำรุง ล้ำลึก คืนโปรตีนที่ถูกทำลายระหว่างสัปดาห์ ด้วยนวัตกรรมลิขสิทธิ์เฉพาะ “ไมโคร มอสเจอร์ เซรั่ม” และ “ไฟเบอร์ แอ็คทีฟ”ให้ผมคุณกลับมาสวยสุขภาพดี เพียงครั้งแรกที่ใช้” โดยทั่วไปแล้ว ตัวมาร์สบำรุงผม ก็จะมีลักษณะเป็นเนื้อครีมที่เข้มข้นมาก มาในรูปแบบกระปุก ซึ่งของโดฟก็คล้ายๆกันค่ะ เป็นครีมสีนวลๆ กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของDove รูปแบบกระปุกน่ารักดี วิธีใช้เบสิคเลยก็คือ ใช้หลังสระผมด้วยแชมพูและครีมนวดแล้ว ให้ชโลมมาร์คให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้3นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง สำหรับทรายแล้วได้ทดลองร่วม ทั้งกับแชมพู/ครีมนวดของโดฟเอง และกับแชมพู/ครีมนวดยี่ห้ออื่น ต้องบอกว่าถ้าใครชอบให้ผมนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมไปในทิศทางเดียวกัน ก็แนะนำให้ใช้ร่วมกับโดฟค่ะ แต่ถ้าใครที่อยากจะใช้ร่วมกับแชมพู/ครีมนวดยี่ห้ออื่น ต้องบอกว่าใช้ได้เลย ไม่มีปัญหาทางเทคนิคใดๆ เพราะกลิ่นสุดท้ายที่ได้ จะเป็นกลิ่นของมาร์สโดฟกลบกลิ่นอื่นไปหมดแน่นอน จากการทดลองใช้ แล้วไม่สระผมอีกเลย 3 วันของทราย ปรากฎว่า กลิ่นโดฟยังอยู่ ถึงแม้จะตุๆจากความซกมกไปบ้าง555 จริงๆตรงนี้ประทับใจถึงกับขึ้นเฟซบุคไวไ้ว่า ถ้ามีรางวัลผลิตภัณฑ์Hair Careที่ให้กลิ่นติดทนนานมาก ก็จะมอบให้โดฟอ่ะ ยิ่งผมยาวๆหนาๆแบบทราย กลิ่นที่ราวกับน้ำยาปรับผ้านุ่มเลยทีเดียว น้องชายเดิน ขึ้นมาในรถ มันถามว่าเจ๊ซื้อน้ำหอมปรับอากาศใหม่หรอ? กลิ่นเหมือนแชมพูบูมเลย ... ป่าว...กลิ่นมาร์สผม หัวตรูเอง...!!!!!! มาร์สตัวนี้ดียังไง? สำหรับทราย ใช้ร่วมกับแชมพู/ครีมนวดโดฟ ผมจะนุ่มนิ่มมาก หอม แล้วก็ไม่พันกัน แต่ถ้าใช้คู่กับแชมพู/ครีมนวดห้ออื่น ผมจะไม่นุ่มมาก กลิ่นหอม ไม่พันกัน ต่างกันนิดนึงตรงที่ถ้าใช้โดฟ ทั้งหมดมันจะนุ่มมากๆ ส่วนตัวทรายไม่ใช้มาร์สชโลมสูงถึงหนังศรีษะนะคะ เพราะว่าเคยได้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญมาว่า การลงHair Care ใดๆก็ตามโดยตรงถึงหนังศรีษะ หากคุณเป็นคนที่เรียกง่ายๆว่า หนังหัวอ่อนแอ รับรองไม่นานแหกหมดแน่ๆ บางคนคิดว่าตัวเองแพ้ผลิตภัณฑ์ หัวขึ้นสิว หนังหัวลอก ผมมันเยิ้ม หัวเหนียวเร็ว รังแคขึ้น หลังใช้พวกผลิตภัณฑ์สูตรแรงๆที่ไว้ดูแลเส้นผมที่บาดเจ็บหนัก ... คุณอาจ จะไม่ได้แพ้ แต่เป็นอาการที่เกิดจากการที่เราไม่เคยเรียนรู้วิธีใช้ที่ถูกต้องจากพวกผู้เชี่ยวชาญ ที่เค้ารู้เรื่องเส้นผมโดยตรง ..(ไม่มีใครบอกแล้วใครมันจะไปรู้ฟระ? = =’) จริงๆถ้าทรายไมไ่ด้มา เป็นบิวตี้บล็อคเกอร์ ณ จุดนี้ก็อาจจะยังไม่รู้อะไรเลยต่อไป แล้วก็ไม่มีโอกาสแชร์ให้ทุกคนฟังด้วย ผลิตภัณฑ์ใดๆก็ตาม ห้ามใส่ลงที่หัวโดยตรงให้บีบลงฝ่ามือ ชโลมจากปลายขึ้นไป และเว้นห่าง หนังศรีษะประมาณ 1-2 เซนติเมตร แล้วชีวิตหนังหัวคุณจะปลอดภัยค่ะ แต่ถ้าสิวขึ้นหน้า ขึ้นหลัง ขึ้นคอ ลามไปทั่วบริเวณที่ผมเลียถึง ไปหาหมอนะคะ กรณีนี้อาจจะแพ้จริงจังค่ะ บางท่านบอกว่าโดฟใช้แล้วผมมัน เยิ้ม เหนียวเร็ว บอกตรงๆว่าที่ผ่านมาลองหลายสูตรของโดฟ ทรายใช้แล้วก็เป็นเหมือนกัน เพราะโดฟขึ้นชื่อเรื่องบำรุงจริงจัง มันเลยให้ความรู้สึกหนัก หลังใช้ ผมจะนิ่มมากๆ ไม่เชื่อต้องลองเอง แทบทุกสูตรอ่ะ ตรงนี้ทรายว่าจะเลือกใช้ต้องดูปัญหาตัวเองให้ ดีก่อนว่า ตัวเองมีปัญหาไหน เหมาะกับตัวไหนกันแน่ ส่วนตัวแล้วทรายเป็นคนผมเส้นเล็ก แต่ไม่ บาง และน้ำมันในเส้นผมเยอะมาก ดังนั้นที่คุณๆเห็นทรายไปทำสีผมตลอดเวลา กัดโน่น ม้วนนี้ ทั้งเคมี ทั้งความร้อนทำไมผมยังดูดี แถมเงาวิ๊บๆ ต้องบอกว่า เป็นเพราะน้ำมันในผม แล้วก็ไม่เคย ห่างครีมนวดและมาร์สค่ะ แน่นอนสูตรที่ใช้ก็ต้องพวก Damage หรือ สำหรับผมทำสีเท่านั้นอ่านะ ถ้าไปใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน หรือสำหรับเด็กอ่อน หัวคงไม่ต้องพูดถึง พันกันยุ่งฟูบานเป็นสังกะตังแน่ คนชอบถามว่าทรายมีวิธีดูแลผมยังไง ทำไมเค้าไปทำแบบทรายแล้วผมแห้ง กรอบ เสีย ก็ต้องบอก ว่าคนเรามีเส้นผมไม่เหมือนกัน วิธีของแต่ละคนต่างกัน ของทรายโชคดีหน่อย ไม่ต้องอะไรมาก แต่ช่วงที่ผมเน่าก็มีนะ ไม่ใช่ไม่เคย แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า แค่ตัวเองไม่ขาดครีมนวด แล้วก็ไม่ขาดมาร์ส ก็สบายปรื๋อ อยากทำอะไรก็ทำได้ เวลาคนถามทรายตอบไปว่าก็ดูแลธรรมดาเอง..บางคนไม่เชื่อ ก็ไม่รู้จะว่ายังไง มันธรรมดาจริงๆ เบสิคมาก แชมพู+ครีมนวด+ มาร์ส 1-2สัปดาห์/ครั้ง จบจริงๆ Note: ทรายเคยเห็นเพื่อนๆที่ผมเสียมากๆเลย บางคนใช้มาร์สแทนครีมนวดด้วย คือใช้ประจำทุกวันต่อ จากแชมพูเลย มันก็โอเคเหมาะกับเส้นผมเค้า ดังนั้นแปลว่าถ้าคนที่เสียขั้นสุดก็อาจจะมีวิธีการ ปรับใช้แบบนี้ได้ ใช้มาร์สแทนครีมนวด ถ้าสระทุกวันก็อาจจะไม่ต้องรอถึง 3นาทีแล้วถึงล้าง อาจจะ ใช้แค่พอเท่ากับระยะเวลาครีมนวดปกติก็พอ ก็น่าจะทำได้นะคะ เพื่อนๆที่ผมแย่มากๆก็ลองเก็บเอา ไปทดลองดู เผื่อแก้ปัญหาได้ค่ะ ส่วนตัวต่อไปที่จะพูดถึงเป็นตัวที่มาเป็นSet หน้าตาน่าใช้ด ดูProfessionalเชียวค่ะ 5555 Dove Intense Repair 2-Step Treatment (สำหรับการดูแลผมแบบเร่งด่วน) ทางแบรนด์บอกว่าเป็นครั้งแรกเลยกับรูปแบบและสูตรนี้ค่ะ มาดูคำเคลมกัน “ครั้งแรกของโดฟกับทรีทเม้นท์บำรุงผมแบบครบสูตรใน 2 ขั้นตอน ที่ช่วยให้ผมแห้งเสียมาก กลับนุ่มลื่นอย่างเร่งด่วน ช่วยฟื้นบำรุงคืนความชุ่มชื้นสู่ผมมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า ให้สาวๆที่มี ผมแห้งเสียสามารถดูแลผมได้ด้วยตัวเองที่บ้าน จนผมกลับมานุ่มลื่นพลิ้วสวยอย่างที่ไม่คาดว่า จะเป็นไปได้ เริ่มด้วยทรีทเม้นท์แบบล้างออกที่มีสาร ไฟเบอร์ แอคทีฟส์ ซึมซาบล้ำลึกถึงแกนผม เพื่อช่วยเติมโปรตีนที่ขาดหาย ตามด้วยทรีทเม้นท์แบบลีฟออนที่มี รีแพร์-ล็อค ล็อคคุณค่าการฟื้น บำรุง เก็บกักความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผมกลับมาเสียอีก จากการวิจัยของโดฟกับผู้หญิงที่มี ผมแห้งเสียมาก พบว่าผู้ที่ใช้โดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ 2-สเต็ป ทรีทเม้นท์ บำรุงผมเป็นเวลาต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ จะได้ผลลัพธ์ผมที่นุ่ม ชุ่มชื้นจากภายใน มากกว่าการใช้ทรีทเม้นท์ทั่วไปถึง 2 เท่า” ตัวนี้มาเป็นกล่อง เป็นเซ็ท อย่างที่บอกไป ข้างในจะมีทั้งหมด 6หลอด แบ่งเป็น step 1 และ step 2 พร้อมกับคู่มือการใช้งานค่ะ หน้าตาจริงๆของผลิตภัณฑ์เป็นแบบนี้ วิธีใช้งานแบ่งตามขั้นตอนนะคะ หลอดใหญ่เป็นStep 1 เป็นทรีทเม้นต์แบบล้างออก ใช้หลังจากที่ ทำความสะอาดผมด้วยแชมพูและครีมนวดแล้วนะคะ เวลาใช้ให้หักจุกที่อยู่บนหัวออก แล้วบีบครีม ข้างในออกมา จะเป็นทรีทเมนต์สูตรเข้มข้น (คล้ายๆที่แถมมาเวลาเราทำสีผมกล่องๆอ่ะ) บีบใส่ฝ่ามือ ชโลมให้ทั่ว แล้วนวดเส้นผมค่ะ อย่าลืมเว้นโคนไว้1-2 เซนนะ ทิ้งไว้3นาทีจากนั้นก็ล้างออกให้สะอาด ใช้ได้ทุกวันที่รู้สึกว่า ผมเกิดอาการแห้งเสียอย่างรุนแรง แบบฉับพลัน ตัวอย่างเช่น เมื่อวานมีปาร์ตี้ เลยไปทำผมที่ร้าน ไหนๆสีผมก็ลอกหมดแล้ว ทำสีใหม่ดีกว่า พอทำสีใหม่แล้วก็ต้องมีทรงผมเก๋ๆเริศๆด้วย ให้ช่างลองจัดเซ็ททรง ทั้งไดร์จี้ผมให้แห้งตรง และโรลไฟฟ้าม้วนให้ขึ้นเกลียว ต่อด้วยสเปรย์จัดแต่งทรงทั้งหลายแหล่ แถมกลิตเตอร์ให้ผม วิบวับ ประโคมลงไปอีก กินเหล้าเมากลับบ้าน ปาร์ตี้หนุกหนานมาก ตื่นมาอาบน้ำสระผม กรี๊ดดดหัวพันกันเป็นรังนก แห้งกรอบ เละเทะ วันนี้ฉันจะต้องไปพบหน้าว่าที่แม่สามีจะทำไงดี? หันไปหยิบ Dove 2-stepมาช่วยต่อลมหายใจเฮือกสุดท้าย ... พอเค้าใจแนวคิดของผลิตภัณฑ์นี้แล้วใช่ไหมคะ? Step 1 นี้ปริมาณในการบีบควรใช้แค่ไหน ถ้าตามคู่มือ เค้าเขียนว่าถ้าเป็นคนผมยาวและหนา ก็ให้บีบใช้ให้หมดหลอด แต่ถ้าไม่ ก็บีบพอประมาณ กะให้พอดีผมแล้วที่เหลือก็เก็บไว้ใช้ได้ แต่จาก ประสบการณ์ตลอด 1เดือน ทรายทดลองไปหมดแพ็คนั่นแหละ แต่ว่าก็มั่นใจว่าตัวเองผมหนา และ ผมยาวมากๆเหมือนกันนะ ยังไม่สามารถใช้ให้หมดหลอดในทีเดียวได้ รู้สึกว่ามันเยอะไป และรู้สึก ว่าถ้าใช้หมดหลอดตามที่เขียนไว้ในครั้งเดียว หัวจะต้องเยิ้มเร็วแน่ๆเลย เพราะตัวนี้มันบำรุงฉับพลัน มากจริงๆ ตอนที่ลองทรายหนีบผมให้ปลายๆแห้ง แล้วไปลอง ปกติปลายผมไม่ต้องหนีบก็แห้งอยู่= =’ ปรากฎว่าหลังสระล้างออก ชโลมเสต็ป 2ต่อ ผมกลับมาดูมีวิญญานกว่าก่อนไปสระเลย พูดจริงๆนะ Step 2 เป็นหลอดเล็กกว่า และเป็นตัวบำรุงแบบลีฟออน คือไม่ต้องล้างออก เค้าบอกเอาไว้ล็อค ความชุ่มชื้นในเส้นผม เป็นขั้นตอนสุดท้าย ใส่หลังจากเช็ดผมหมาดๆแล้ว แนะนำคำเดิม บีบแค่ พอประมาณ หักหัวออก มันจะเป็นน้ำมัน ระวังหกนะ แล้วก็ชโลมให้ทั่ว แนะนำให้เน้นปลายผม ถ้าไม่อยากหัวมันเร็ว แต่ถ้าใครผมหยิก หัวฟู สามารถใช้จัดทรงได้นะคะ เค้าเขียนเอาไว้ ใช้ไม่หมดเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะหมดหลอด ทรายใช้ได้หลอดนึง 4 ครั้งแน่ะ สำหรับทราย น้ำมันตัวนี้ไม่เหนียวมือนะ พอลูบๆกับผมไป ผมจะเงาทันที ก็มันเป็นน้ำมัน แล้วแปปนึง มันก็จะแห้งหายไป ไม่ได้เหนอะหนะอะไร ไม่เหมือนน้ำมันเซรั่มใส่ผมหนักๆ อันนั้นรับไม่ได้เลย ผมสระเสร็จใหม่ๆ ใช้Step 1 แล้วล้างออกเรียบร้อย ก็เช็ดให้หมาดๆนิดนึง ชโลมไปให้ทั่ว ทรายเน้นแค่ปลายผม เว้นโคนไว้ 4 นิ้ว เพราะช่วงผมตรงนั้นโอเคดีอยู่แล้ว ไม่เคยม้วนผมไปถึงสักที ผมเลยอยู่สบายดีพริ้วๆ ใส่เน้นปลายผม เพราะปัญหาของทรายคือ ผมยาวมาก และปลายแห้งเสีย จากการผ่านสงครามมา ใส่แล้วเงาขึ้นจับผมเลย ถึงว่าใช้แต่งทรงระหว่างวันสำหรับผมหยิก หรือชี้ฟูได้ เป่าผมห่างๆให้แห้ง อย่าไปจี้ผมนะ การใส่ลีฟออนจะช่วยล็อคความชื้นไว้ ผมจะจัดทรงง่ายอยู่แล้ว ไม่ต้องจี้มากให้ผมได้พักผ่อนบ้าง พอแห้งแล้วก็หวีทีนึง แค่นี้ก็ชุบชีวิตแบบกระทันหันได้แล้ว ... ในระยะยาวอาจจะต้องบำรุงกันต่อไปเรื่อยๆนะคะ หากผมเสียมากๆ ตัว 2-step ช่วยแบบกระทันหันจ้า Disclaimer : Sponsored by Dove * "ปริมาณและความถี่ในการใช้ผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับความยาวและสภาพเส้นผมของแต่ละคน" ** มี2ไซส์เซ็ทเล็กกับใหญ่ ในรูปคือเซ็ทใหญ่สำหรับ1เดือนค่ะ เซ็ทเล็กจะเป็นแพ็คคู่สำหรับทดลอง ***ถ้าใช้ไม่หมดฝาที่บิดออกให้กลับหัวฝาลงจะมีจุกแหลมๆสามารถนำจุกนั้นปิดลงไปในรูได้ค่ะ   Create Date : 15 ตุลาคม 2554     Last Update : 17 ตุลาคม 2554 22:40:39 น. Counter : 7951 Pageviews.   2 comment Share Tweet

[Hair Color]: บลอนด์ บลอนด์ บลอนด์ ฉันรักผมบลอนด์*3* ทรายเพิ่งไปทำสีผมใหม่มาเมื่อวันเสาร์ค่ะ ไปที่เดิมร้านMark Thawinย่านทาวด์อินทาวด์ มีเพื่อนๆหลายคนเห็นในFbแล้วก็ถามว่าสีอะไร? เรียกว่าอะไร? เบอร์อะไร? อยากตอบนะ แต่คือไม่รู้จริงๆ T^T ตอนไปทำอ.มาร์คจะเช็คสภาพผมก่อนแล้วดูว่าอยากได้สีประมาณ ไหนยังไงบ้าง? ทรายบอกไปว่ายังชอบโทนบลอนด์อยู่ค่ะ (ทำสีบลอนด์บ่อยมากชอบอ่ะ) อ.ยังจำได้ด้วยว่าครั้งที่แล้วเคยบอกว่า ไม่ชอบให้ผมติดส้ม อยากล้างสีออก อ.มาร์คก็เลย สรุปให้ว่า งั้นวันนี้ทำบลอนด์สว่างนะ หม่นๆหน่อย ไม่ให้ออกส้ม>///< ปลื้มใจ ที่จริงอาจารย์ อยากจะจัดสีไหนมาหนูก็ทำได้หมดแหละ ใจหนูอยากได้สีบลอนด์ขาวหม่นๆด้วยซ้ำT^T สภาพผมยาวขึ้นมาสองนิ้วแล้ว เน่าในมาก = =’ ทรายมาทำผมที่นี่ 4ครั้งแล้ว ครั้งแรกสุดรู้จักที่นี่เพราะมาเวิร์คช็อป ครั้งหลังๆอาจารย์เชิญ เข้ามาทำความรู้จักกัน แล้วก็ทำซิสมีเพราะมดดี้ติดใจร้านนี้มาก ครั้งนี้อาจารย์บอกว่า ต่อไป อยากเป็นคนดูแลผมสีผมทรงผมให้หมดเลย อ๊ากกกกกกก ดีใจ (กรี๊ดร้องงงงกระโดดเป็นเจ้าเข้า) หนูปลื้มอ.ตั้งแต่ ครั้งแรกที่เจอเลยอ่ะ อ.ไม่หยิ่งเลย ต่างจากคนมีเงินหลายคนที่เคยพบเจอ กี่คนๆที่รู้จักหรือเคยเจออ.มาร์คก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ทรายยืนยันอีกเสียงด้วย (ชูป้ายไฟแฟนคลับ) อาจารย์เป็นคนมีชื่อเสียงเรื่องของการผสมสีมาก ไม่เชื่อกูเกิ้ลดูเอาเองได้นะ ดังนั้นเวลาที่ เพื่อนๆถามมาไม่ใช่ทรายไม่อยากตอบ แต่มันไม่มีชื่อและสูตรที่แน่นอน เพราะอาจารย์จะดู ที่ผมเดิมเราแล้วคำนวนออกมาตามแต่ละครั้ง ไม่ใช่สีสำเร็จรูปเหมือนในซุปเปอร์อ่าค่า ไม่รู้จะอธิบายยังไงเน้อ ประมาณนี้แหละ วันนี้อ.มาร์ค ให้อ.ไก่ เป็นคนลงมือทำสีให้โดยมีอ.มาร์คคอยดูอยู่ด้วย อ.มาร์คบอกว่าให้ ลงที่โคนก่อนเพราะโคนดำมาก แล้วค่อยลงปลาย มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ^^ เห็นในรูปไหม? ส้มๆข้างหลังนั่นสีผมใหม่อาจารย์มาร์ค เปรี้ยวมาก ทรายเห็นแล้วนึกถึง การ์ตูนเรื่อง Bleach เลยอ่ะ พระเอกชื่ออิจิโกะ เหมือนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ลงทั้งหัว ไม่แสบ ไม่คัน กลิ่นอ่อนๆ ยังประทับใจเหมือนเดิม พอล้างเสร็จอาจารย์มาร์คก็ให้ไดร์ให้แห้ง แล้วลงโคนซ้ำอีกรอบ แต่คราวนี้เป็นสีแบบนี้ค่ะ อันนี้เริ่มคันยิบๆเบาๆ ไม่คันคะเยอ จากนั้นก็เอาwrapห่อไว้พักนึงให้มันอบร้อน แต่ไม่เข้าเครื่องนะ พอไปล้างออกสีก็ออกมาประมาณนี้หละ ผมยังเปียกอยู่เลย แฮ่ะๆ ฃ อาจารย์ก็ตัดแต่งผมที่ยาวเกิดไปออกให้ ทรายเป็นคนชอบไว้ผมยาว อาจารย์ก็เลยตัดออกไป แค่ 2 นิ้ว แล้วก็เก็บทรงให้เหมาะกับเวลาม้วนผมเป็นพวง เริศอ่ะ! จากนั้นอาจารย์ก็ให้พี่แจ้ พี่คนนี้เซ็ทผมแบบไดร์ม้วนปลายพองๆสวยมากกกกกกกกกกก ติดใจตั้งแต่ครั้งมาเวิร์คช็อปครั้งแรกแล้ว ไม่เคยเจอใครไดร์แล้วผมฟูฟ่องเด้งขนาดนี้เลย ไดร์ม้วนขั้นแรกเสร็จ อาจารย์มาร์คก็มาเก็บปลายให้ อาจารย์เอากรรไกรมารูดผมออก ไม่รู้เทคนิคนี้เรียกว่าอะไรลืมไปแล้วอ่า จะทำให้เลเยอร์ผมชัดขึ้น พริ้วขึ้น ม้วนแล้วลอน จะสวย ขัดกันเป็นพวง เด้งดึ๊งๆ เป็นเทคนิคของการซอยผมอ่าค่ะ มีคนมาถามว่าไปดัดดิจิตอลมาใช่ไหม? จะบอกว่าไม่เคยดัดผมเลยตั้งแต่ดัดครั้งเดียวใน ชีวิตที่ผ่านมาตอนปี1แล้วผมตายไปเลย ต้องตัดทิ้งเหลือแค่ประบ่า เข็ดขยาดอ่ะ กลัวไปเลย สมัยนั้นคนไทยยังไม่นิยมดัดผมด้วย ทรายไปญี่ปุ่นกลับมาที่โน่นฮิตมาทนไม่ได้เลยลอง พอลองแล้ว สมน้ำหน้าตัวเอง ช่างคงไม่คุ้นมากๆ ปกติคงดัดแต่ผมป้าแก่ๆ ออกมาวัยไม่ต่าง-*- ต่อที่พี่แจ้เซ็ทผม พออ.ดูทรงเสร็จแล้ว พี่เค้าก็ให้ก้มลงไปเลย แล้วก็เอาสเปรย์ฉีดๆๆ จากนั้นก็เอาไดร์เป่า คิดว่าคงไว้ยกโคนให้พองๆ จากนั้นก็ให้สะบัดหัวขึ้นมา แล้วเป่าเก็บทรงนิดๆ เป็นอันว่าเสร็จแล้ว เทพมากกกก!!!!! พองดึ๋งๆเลยอ่ะ โฉมหน้าพี่แจ้ เก่งมากกกกกก หนูรักกกกกกกกกกกพี่ อ๊ากกกกกกกก ตามธรรมเนียมแชะรูปคู่กับอาจารย์มาร์คสุดจี๊ด อาจารย์สูงมากจนทรายเป็นคนแคระไปเลย T^T สีผมอาจารย์ คอสตูมอาจารย์ ฟิดับค่ะ ไม่ได้ไปทำคนเดียวนะ ลากกันไปทั้งฝูง SiSSME ค่ะ 55555555 ถ่ายร่วมกับอาจารย์เสริฐ อาจารย์มาร์ค และอาจารย์ไก่ มือโปรของร้าน มาดูของอีกสองสาว แซบเวอร์ !!!!!! เรียงกันสามคน คนละสไตล์กันเลย สามีพี่มดแอบถ่ายรูปหลุดไว้ ตอนทรายรวบผมขึ้นไปหน่อยพอดี ดูสิ เป็นพวงงดงาม>///< ทีนี้ขอรูปเดี่ยวตัวเองกับหมอนสีแดงปักชื่อร้าน ไม่รู้เป็นไรชอบหมอนนี่มาก มาทีไรมีรูปคู่ด้วย กลับไปทุกที = =’ วันไหนหายไปจากร้าน ไม่ต้องคิดมาก ทรายนี่แหละขโมยมา หน้าโทรมหน่อยนะคะ ไม่ได้เติมหน้า แล้วก็เหนื่อยไปตะลอนๆมาทั้งวันเลย กว่าจะได้มานั่งชิลๆ สำหรับสาวๆที่ถามว่าถ้าไปทำแบบสระ ซอย เซ็ท ธรรมดาราคาเท่าไหร่ ทรายก็ตอบไม่ได้อ่ะ เพราะที่ร้านเรทเหมือนเมืองนอก คือมีระดับของช่าง แล้วก็มีราคาต่างกันตามความยาวและ สภาพของผมแต่ละคน ทรายเห็นป้ายใหม่หน้าร้าน ปกติไม่มีป้ายไฟนี้ ก็เลยถ่ายมาฝากนะ สวยกลับบ้านแว้ว ขอบคุณ Mark Thawin ค่า ปล.อาจารย์มาร์คบอกว่า อาจารย์ยังไม่ค่อยชอบสีผมตรงโคน แต่วันนี้ลงไปสองรอบแล้ว กลัวว่าหนังศรีษะจะไม่สบาย พักแปปนึง อีกสองสามวัน หรืออาิตย์หน้าเข้ามาเลยนะ อาจารย์จะทำใหม่ มันไม่ใช่สีที่อาจารย์คิดไว้ มันยังไม่ได้ ยังไม่พอใจ ต้องมาให้ได้นะ คือคำพูดนี้ของอาจารย์ทำให้หนูอึ้งไปเลย ถ้าเป็นที่อื่นล่ะ? เค้าจะละเอียดเหมือนอ.ไหม? เค้าจะยอมทำใหม่แบบนี้หรือเปล่า? ส่วนตัวทรายเฉยๆนะ เพราะมองแล้วสีก็ไม่ได้ต่าง มากมายจนมองเห็นชัดเจนอะไร แต่อาจารย์ละเอียดมาก ไม่ยอมให้งานไม่ดีออกจากร้าน ทรายมองว่าเป็นข้อดี ที่น่าปลื้มมากๆของอาจารย์ทำให้ชอบอาจารย์มากขึ้นอีกเยอะๆเลย ก่อนกลับยังแซวให้อาจารย์สร้าง LookBook ของตัวเอง ฝรั่งต้องกรี๊ดแตกแน่ อาจารย์เป็น คนที่แต่งตัวแซบมากกกก แล้วดูดีมากก หนูเตรียมป้ายไฟรอ!!!! ตอนนี้ที่ร้านมีโปรโมชั่น อยู่หลายตัวเหมือนกัน ใครอยากรู้ก็ลองไปดูนะ อ่อมีเครื่องดัดดิจิตอล แอร์ เวฟ ตัวใหม่ล่าสุด เป็นนวัตกรรมใหม่ของโลกที่อาจารย์ภูมิใจนำเสนอมาก ดัดแล้วเป็นเวฟนะคะ ไม่ได้เป็นเกลียว อาจารย์บอกว่า จะทำให้ลอนผมดูพริ้ว เป็นธรรมชาติมากกว่าแบบเกลียวสมศรี พวกดารา ฝรั่งที่ผมหยิกแบบเวฟ แบบโบโฮ เค้าต้องไปดัดแบบนี้แน่ๆเลย อ๊ากกกก อยากบ้างๆๆๆ Disclaimer: Sponsored Treatment by Mark Thawin The Ultimate Hair Solution Facebook Link: //www.facebook.com/Markthawin   Create Date : 19 สิงหาคม 2554     Last Update : 19 สิงหาคม 2554 1:44:16 น. Counter : 43655 Pageviews.   11 comment Share Tweet

Review: L'oreal Paris Hair Expertise #EverPure สีชมพูสูตรสำหรับผมทำสี แท่น แทน แทน แท๊นนนน! วันนี้ฟิฟิม่ีแชมพูมารีวิว แต่ขอออกตัวแรงตั้งแต่ยังไม่ได้เขียนเนื้อหา ว่าชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อยากออกตัวแรงเพราะเลิฟจริงๆ งั้นขอท้าวความถึงรีวิวนี้ก่อน ว่าทรายได้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ มาจากทางลอรีอัล ตั้งแต่วันที่ตามที่อยู่ในภาพจากเฟซบุคด้านล่างนี้เลยจ้า (เดือนกว่าๆได้ละนะ) ก็เท่ากับว่า ตั้งแต่วันที่ได้มาจนถึงวันเขียนรีวิว ทรายมีเวลาได้ทดลองดูผลเป็นเดือนเลยนะคะ ก็สระผมไปประมาณ …. นับก่อน กี่ครั้งนะ? 1 2 3.. 4….5 …6….7…8..9…อืม 15 ครั้งได้เนอะ อย่าได้แปลกใจไปว่าทำไมเป็นเดือนสระไปแค่15ไม่ใช่ว่าแค่.. นะคะ ที่จริงถือว่ามากแล้ว-*- คือคนในFBเค้าจะรู้กันว่าทรายเป็นพวกชอบหมก ซกมก ขี้เกียจสระผม เพราะมันยาวมาก ชอบหมักดองเอาไว้ให้คัน ชันนะตุขึ้นหัวก่อนค่อยสลายกางมาเกา 5555555555555 ล้อเล่นนะ ก็มีบ้างช่วงวันไหนที่อยู่บ้านไม่มีธุระข้างนอก ก็จะไม่ได้สระผมค่ะ อยู่ซกมกสบายๆ ส่วนวันที่ออกไปข้างนอกพบเจอผู้คนส่วนใหญ่ก็จะสระผมตลอด ดังนั้นก็จะเฉลี่ยอยู่ที่2วันครั้งเนอะ ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า เมื่อต้นเดือนตอนที่ลอรีอัลส่งมาให้ลองใช้เพื่อเขียนรีวิวหน่อยว่า มันเป็นอย่างไรบ้าง? เค้าแจ้งว่าเป็นสินค้าที่ยังไม่มีวางขายในไทยเลย แต่กำลังเตรียมนำเข้า ทรายก็กระดี๊กระด๊ามากกกก ดีใจได้เป็นคนแรกๆที่ได้ลองใช้ คือตัวนี้มันเปิดตัวที่เมืองนอกไป ก่อนแล้ว แคมเปญใหญ่เลย มีเจ.โล มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ด้วย สวยโฮกกกกกมากๆๆๆๆๆๆๆ แต่… เนื่องจากเรื่องมากขอเวลาเค้าทดลองใช้นานๆหน่อย เพราะทรายมันพวกไม่ค่อยสระผม อย่างที่บอก ก็เลยต้องใช้เวลาทดลอง เก็บเล็กผสมน้อยความรู้สึก จะให้แบบว่าปุปปั๊ปเขียน ออกมาใช้ไม่กี่ครั้ง มันไม่ใช่แนวอ่ะ ก็เลยยืดเวลามานานจนป่านฉะนี้แล้ว ก็เลยเจอ..... *0* ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีในชีวิตที่ไปเดินวัตสันกับพี่มดแล้วเห็นพอดีว่าเค้าเอามา วางขายในวัตสันแล้ว มากันทั้งตระกูล3สูตรเลย T^T โชคดีที่สุดที่ยังไม่ได้เขียนบล็อค ปล่อยไก่ออกไปว่ายังไม่มีขายในไทย โล่งอกชะมัด คือถ้าปล่อยไก่ไปทรายจะรู้สึกเฟลมาก เพราะการให้ข้อมูลผิดพลาดเรื่องที่ไม่น่าพลาดนี่มันเป็นความผิดไม่น่าให้อภัยจริงๆ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ตอนที่เค้าจะส่งมาเค้าถามทรายว่าทรายมีลักษณะเส้นผมแบบไหน? ทรายบอกไปว่า ทำสีจัด กัดสี ไฮไลท์ แห้ง เสีย แตกปลาย อ่อนแอ แล้วก็แพ้แชมพูง่ายมากกก เค้าก็เลือกที่จะส่งสูตร EverPure มาให้ทราย เป็นไลน์ที่เกี่ยวกับเรื่องของผมทำสี ช่วยให้สีผม ที่ไปทำมายังคงดูสดใสเหมือนเพิ่งทำมาใหม่ๆ แม้จะสระไปแล้วหลายครั้ง ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ทรายได้มา ดูเหมือนเค้าจะเน้นย้ำว่า L'oreal Paris Hair Expertise นั้นเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ที่ไม่มีส่วนผสมของสารอันตรายจำพวกSulfates ที่จะยิ่ง ทำให้ผมของเราหมอง ไม่เงางาม แล้วก็แห้งกระด้างไม่ชุ่มชื้นค่ะ แล้วก็ไม่มีสารกันเสีย ทุกตัวจะมีเทคโนโลยีที่เค้าเรียกว่า Anti-Fade Complex ไม่รู้ว่าการทำงานเป็นอย่างไร เหมือนกันนะคะ แต่แปลตรงๆจากชื่อก็คือ เทคโนโลยีเพื่อการคงประกายสีผมให้ไม่หมอง เหมือนเพิ่งทำใหม่ๆเสมอ หอมกรุ่นจากเตา - -' ไม่ใช่ละ ซึ่งในไลน์ก็จะมี 3 ชิ้นผลิตภัณฑ์ ได้แก่ แชมพู(ยาสระผม) คอนดิชันเนอร์(ครีมนวด) และอีกชิ้นคือมาร์ค หรือครีมหมักผม ตามภาษาชาวบ้านๆของเราค่ะ ทีนี้ทรายให้ดูเรื่องของบรรจุภัณฑ์ก่อน ที่เด่นสุดๆเห็นจะเป็นเจ้าตัวคู่แชมพูครีมนวดนี่แหละ เพราะเมื่อทั้งสองขวดอยู่ใกล้ๆกัน ตาไม่ดีอาจจะมองมึนได้ว่าอันไหนเป็นอะไรกันแน่? ที่จริงทรายว่าแพ็คเกจเค้าสวยมากเลยนะ เป็นแบบหลอดบีบ ตั้งได้ พลาสติกอ่อนๆ แต่ดูแน่นหนาไม่น่าจะปริแตกง่ายอ่ะ สีก็สวยดูไฮโซวอินเตอร์จ๋าเลย แต่มันเหมือนกัน มากๆๆๆๆ ต่างกันตรงแค่ช่วงฝา สำหรับวัยสะรุ่นอย่างทราย ไม่มีปัญหาในการแยก แยะอะไรสักเท่าไหร่ เพราะว่าเข้าใจดีถึงเทคนิกการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มันดูน่าใช้ น่าสนใจ ซึ่งมันก็สวยจริงๆ อาศัยจำลักษณะสีฝา และอ่านชื่อเอาว่าแชมพูหรือครีมนวด สำหรับทรายไม่ยาก แต่สำหรับคุณแม่หรือป้าๆ อาจจะต้องคิดหนัก ให้เค้าทำความเข้าใจ รู้จักกับกระแสใหม่ๆกันสักพักนึง แต่เชื่อว่าเดี๋ยวจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแพ็คเกจกัน หลายๆแบรนด์แน่ๆ เพราะทรายว่าคนน่าจะชอบอ่ะ แพ็คเกจลักษณะนี้ ทรายชอบนะ ถ้าแก้ปัญหาเรื่องกันความสับสนได้จะเวิร์คMOREอ่ะ 1. EverPure Moisture Shampoo ก็จะเหมือนแชมพูทั่วๆไปคือ ทำความสะอาดในขั้นตอนแรกค่ะ 2. EverPure Moisture Conditioner ก็จะเป็นตัวครีมนวดที่เราใช้นวดผมหลังจากล้างแชมพูออกแล้ว ก็นวดๆสัก 1นาทีล้างออก ลักษณะของเนื้อครีมก็ไม่ได้แตกต่างมากจากลักษณะทั่วไปนะคะ คือแชมพูจะเหลวหน่อย แล้วก็ส่วนของครีมนวดจะข้นหน่อย เวลาใช้แชมพูจะให้ความรู้สึกประหลาดมากๆ ครั้งแรกที่ทรายใช้สระผม ทรายยังจำความรู้สึกได้ว่า .. เห้ย! นี่มันคือเนื้อครีมอะไรเนี่ย? คือทรายอ่ะไม่เคยใช้แชมพูเนื้อแบบนี้เลย นุ่มมาก ฟองที่เกิดขึ้นมันเหมือนไม่ใช่ฟองเลย เหมือนวิปครีม เหมือนเวลาเราตีครีมเค้ก อะไรทำนองนั้นเลย เรียกว่าฟองครีมก็คงได้มั้ง? ปกติแชมพูจะให้ความรู้สึกอีกแบบที่ไม่ใช่แบบนี้อ่ะ แล้วตอนล้างออก ก็ให้ความรู้สึกว่า ล้างออกง่าย สะอาด ผมไม่ได้นุ่มลื่นมาก เหมือนพวกแชมพูสำหรับผมเสียทั่วไป ที่จะให้ ความรู้สึกว่าบำรุงหนักตั้งแต่ขั้นตอนของแชมพู แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแห้งนะคะ มันคือความรู้สึก สะอาดหลังจากได้สัมผัสฟองครีมพวกนั้นอ่ะ บอกไม่ถูกแฮะ พอตอนที่ลงครีมนวด จะเป็นครีมนวดเนื้อข้นหน่อย แต่ไม่ได้หนาแน่นมากนะ คือพอดีๆ ทรายบีบน้อยที่สุดเท่าที่เคยใช้ครีมนวดมาในชีวิตอ่ะ บีบมากกว่าในรูปตัวอย่างอีกประมาณ 2ใน3ของฝั่งครีมนวดอ่ะ ซึ่งปกติแล้วทรายจะเป็ฯคนที่ต้องใช้ครีมนวดเยอะมาก พยายาม นวดปลายใส่เยอะๆเพื่อที่จะให้ผมไม่พันกัน หวีได้ ผมทรายกัดสี ทำไฮไลต์ คนไม่เคยทำ ไม่น่าจะนึกสภาพออก ส่วนคนเคยทำคงเข้าใจทราย ว่ามันเหมือนไม่ใช่ผม เหมือนด้านที่ พันๆกันยุ่งแล้วเอาไม่ออกอ่ะ = =’ แต่ครีมนวดตัวนี้ นอกจากจะใช้น้อยแล้ว เนื้อครีมที่อัดๆอยู่ในนั้น พอลูบนวดเข้ากับผมจริงๆ บอกตรงๆว่านิดเดียวก็พออ่ะ ผมทรายยาวมากนะ ใช้เท่าที่บอกโอเคแล้วทั้งหัวเลย เทพอ่ะ! ตอนที่ล้างออกก็ล่างง่าย ล้างแล้วไม่รู้สึกว่ามันตกค้าง ผมไม่ได้เนียน นุ่ม ลื่น มากกอย่างที่ เคยเป็นกับแบรนด์อื่น ทรายรู้สึกงั้นจริงๆนะ แล้วก็รู้สึกดีที่ได้ความรู้สึกนี้ มันคือความพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป แบบนี้เลยที่หามาตลอด ส่วนตัวเคยบ้าใช้แชมพูลอรีอัลอีกไลน์นึงมา สองสามปี นั่นขนาดชอบมากยังไม่เคยรู้สึกแบบเจ้าไลน์ ที่เขียนอยู่นี้มาก่อนเลยอ่ะ หลังจากสระ-นวด ล้างออกหมดในสองขั้นตอนนี้ (ปกติทรายสระแค่นี้แหละ) ก็ไม่รู้สึกว่า จำเป็นจะต้องหมักนวดผมเพิ่มอีกอ่ะ ทรายชอบความรู้สึกหลังใช้ตรงที่ ทรายไม่แพ้ ไม่มี ผื่นขึ้น ไม่มีสิวขึ้นหัว ขึ้นกรอบผม ทรายเป็นคนไวมาก ไม่ต้องลองถึงเดือนหรอก 1-2ครั้ง เท่านั้นแหละ ก็รู้แล้วว่าใช้ต่อได้หรือเปล่า? ตัวนี้ไม่แพ้ ปลื้มจุดแรกแล้ว ยังปลื้มหนักตรงที่ หมักดองไม่ยอมสระไว้สองวันแล้ว ช่วงโคนผมก็ยังไม่ได้เหนียวเหนอะ น้ำมันเยิ้มน่าเกลียด คือยังสามารถมัดผมหรือติดกิ๊บเล็กๆสยายผมออกไปข้างนอกได้ไม่น่าอายอ่ะ บางแบรนด์นะ สระตอนก่อนนอน ไดร์แห้งตื่นมาหัวเหนียว = = ก็มีอ่ะ อันนั้นปวดตับมาก 3. EverPure Moisture Deep Restorative Rinse-off Masque และตัวสุดท้ายนี้อย่างที่บอกคือ เป็นครีมหมักบำรุงผม ที่จะให้การบำรุงแบบเข้มข้น จัดเต็ม ตัวนี้ทรายลองไป2ครั้ง อย่างที่บอกว่าทรายชอบและรู้สึกว่าตัวเองพอเพียงแล้วกับการใช้แค่ แชมพูกับครีมนวด คือเป็นคนประเภทพอเท่านี้มาตลอด มีการลองมาร์คบ้าง แต่ไม่ใช้ทุกวัน บางคนชอบมาร์คมาก เค้าก็จะงดครีมนวดไปใช้มาร์คแทนเลยก็มี ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร อยู่ที่เรา ชอบแบบไหนมากกว่า ทรายใช้มาร์คเฉพาะวันที่รู้สึกว่าผมตัวเองควรได้รับการบำรุงเต็มที่ เหมือนเวลาเราโดนแดดจัดๆแล้วพอกผิวหนักๆนั่นแหละ ก็คือวันไหนทำผมที่ต้องผ่านความร้อน พวกที่โดนโดยตรงอย่างที่หนีบผม หรือที่ม้วนผมไฟฟ้า ก็จะใช้มาร์คหมักผมค่ะ ก็หมักหลังจาก ใช้แชมพู+ครีมนวดแล้ว ใช้ครบไลน์เลย 3 ชิ้น แต่ว่านะ ที่วัตสันทรายแอบเห็นว่ามันมีตัวบำรุง เล็กๆมาขายด้วย ทรายไม่รู้ว่ามันคืออะไรอ่า? เพราะในข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่เค้าส่งมามันไม่มี มาร์คตัวนี้เนื้อครีมข้นมากกกกกก หนา หนัก แน่น นุ่ม ใช้น้อยแช่นเดียวกัน ผลลัพธ์จะเหมือน เราบีบครีมนวดเยอะๆมาพอกหัวไว้ ในขณะที่ใช้มาร์คปริมาณนิดเดียวอ่ะ เค้าบอกว่าปกติให้ใช้ 1-2ครั้ง/สัปดาห์ แต่ทรายใช้เฉพาะวันที่บอกไปข้างบน หมักสัก 3นาที ก็ล้างออก ผมจะนุ่มมาก ลื่น ดูเหมือนต้นไม้เหี่ยวที่โดนรดน้ำให้ฟื้นเลยอ่ะ แต่ที่ทรายไม่ใช่บ่อยมีเหตุผลคือ ทรายไม่ชอบให้หนังศรีษะมันเร็ว พวกมาร์คเนี่ยเค้าจะบำรุงลึก เข้มข้นจริงๆ ซึ่งเอฟเฟคในทุกแบรนด์ก็คือ หนังศรีษะมันเร็ว ก็เลยเลือกนานๆใช้ค่ะ มีอยู่อีกสิ่งที่ทรายชอบมาก สำหรับสูตรสีชมพู EverPure นี้คือทั้ง3อย่างป็นกลิ่นRosemary ซึ่งเป็นกลิ่นสมุนไพรที่ทรายไม่ค่อยเคยได้กลิ่นที่ให้อารมณ์ประมาณนี้ในแบรนด์ไหนมาก่อน ตัวครีมนวดจะเป็น Rosemary + Mint ส่วนตัวแชมพูจะเป็น Rosemary+ Juniper หอมมาก! ของมาร์คทรายไม่รู้ว่ามันคือกลิ่นอะไร แต่เดาว่ามันคือการเอาทั้ง3กลิ่นมารวมกัน มันหอม แต่กลิ่นแรงหนักกว่าแชมพู/ครีมนวด แต่หอมทำนองเดียวกัน ทรายเป็นคนที่เวียนหัวง่ายเลย ไม่ค่อยชอบดมกลิ่นมาร์คเท่าไหร่ ทั้งๆที่มันก็คล้ายแชมพู/ครีมนวดนั่นแหละ ;P ไม่รู้เหมือนกันว่าสูตรอื่นสีอื่น กลิ่นเป็นยังไงนะคะ? เพราะวันที่เจอในวัตสันเค้าเก็บไว้หลัง เคาเตอร์แคชเชียร์ไม่มีให้ลองหยิบจับเลย ต้องไปขอพนักงาน ทรายขี้เกียจยุ่งงยาก สรุป : ทั้งหมดทั้งมวลคือชอบมากๆ แล้วก็ตั้งใจจะซื้อมาใช่ต่ออีกเรื่อยๆด้วย แต่คงไม่สอยมาร์ค มาเพิ่มแล้ว เพราะอันที่ได้มานี่ ท่าทางจะอีกปีนึงแหละกว่าจะได้ใช้หมด ใช้แล้วช่วยเรื่องสีผมให้ เงาแล้วก็สีคงความสดจริงไหม? ต้องบอกว่าสำหรับทราย ทรายว่าช่วยได้ระดับนึงเลย แต่อาจจะ ไม่ได้เห็นผลชัดเจนอะไรมากมาย เพราะทรายก็ไม่ได้ไปทำสีผมใหม่ก่อนที่จะทดลองใช้ คือผมสี มันหลุดไปเยอะมากแล้วนั่นแหละ ก็เหมือนมาเริ่มตอนมันสายไปแล้ว แต่ทรายว่ามันช่วยเรื่องของ ความเงางามได้เยอะเลย ทีนี้เวลาที่สีผมหลุดลอกไปเยอะแล้ว ผมคนเราจะดร๊อป หมอง ใช่ไหมคะ? ตัวนี้ช่วยชีวิตทรายเหมือนกันนะ ทรายรู้สึกว่าพอมันเงา มันก็ดูสลวย แล้วสีผมที่หมองก็ดูสว่างขึ้น สว่างคือสามารถทำให้เรามองแล้วไอ้สีด่างๆมันกลืนๆกันไปได้น่ะค่ะ ส่วนตัวก็ถือว่าโอเคทั้งหมด ราคาค่อนข้างแพงไปหน่อยนะ = =’ คือธรรมดาไม่เคยใช้แชมพูราคาRank ประมาณนี้ก็เลยรู้สึกว่า อืม.. ราคาแรงอยู่ แต่ว่าPosition ของแชมพูในเกรด+ระดับเดียวกันก็ราคาประมาณนี้ทั้งนั้น (ทราย ไปแอบถามพวกที่เค้าใช้แชมพูอีกเกรดมา) ก็เลยถือว่าสำหรับตัวทรายเองยังรับได้ค่ะ. Disclaimer : Sponsored by L’oreal Paris   Create Date : 10 สิงหาคม 2554     Last Update : 19 สิงหาคม 2554 0:31:04 น. Counter : 34733 Pageviews.   2 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com