[Event]: ทดสอบอาบโดฟ VS อาบน้ำนม ไปอาบไกลถึงประเทศกรีซกัน!!!! วีดีโอวันนี้เป็นกิจกรรมที่ทรายได้ร่วมทดสอบกับทางโดฟ ทดสอบสดๆไม่มีสแตนอิน  เห็นผลชัดๆกันคาจอ ว่าอาบโดฟแล้วผิวชุ่มชื้นกว่าอาบน้ำนมจริงไหม? ด้วยวิธีสไตล์ สาวรักการแต่งหน้าแบบเราๆ นอกจากนี้แล้วทรายยังมีกิจกรรมพิเศษจากโดฟมามอบ ให้กับทุกคนค่า ใครอยากไปเที่ยวประเทศกรีซยกมือขึ้นนนนนน *[]*// ดูวีดีโอนี้ให้จบนะจ๊ะ Disclaimer: Sponsored Content by Dove Thailand Information: //www.facebook.com/DoveThailand   Create Date : 04 มีนาคม 2557     Last Update : 4 มีนาคม 2557 15:33:02 น. Counter : 1253 Pageviews.   1 comment Share Tweet

[Event]: ทริปทดสอบการใช้งานจริงสัญญาณAIS 3G 2100รอบกรุงเทพฯ สวัสดีค่ะบล็อกวันทรายเขียนถึงกิจกรรมที่ทรายไปเข้าร่วมมาเมื่อไม่กี่วันก่อนกับทางAISค่ะ ทริปนี้เป็นการท้าเหล่าบล็อกเกอร์ที่คร่ำหวอดในแวดวงออนไลน์ เป็นผู้ใช้internetจริงในทุกที่ และทุกวันของการดำนินชีวิต ให้ลองทดสอบความเร็วของสัญญาณ AIS 3G 2100 จุดสำคัญ ทั่วกรุงเทพฯว่าเร็วจริงแรงจริงหรือไม่? ทรายเป็น 1 ในบล็อกเกอร์ที่ตอบรับเข้าร่วมทริปนี้ค่ะ ประโยชน์ของการไปทริปนี้คือ เป็นข้อมูลในกับเพื่อนๆที่อ่านบล็อกและใช้เครือข่าย AIS ที่อาศัย อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้เอาไว้อ่านเป็นข้อมูลการใช้งานนะคะ เพราะตอนนี้ทางAISเค้า ประกาศเคลมว่า 3G 2100ของเค้านั้นได้มีการพัฒนาเครือข่าย เพิ่มสถานีฐาน3Gจำนวนมากที่สุด ครอบคลุมที่สุดในกรุงเทพฯ ขณะนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในตัวอาคาร หรือนอกอาคารก็ตาม ทรายขอเล่าถึงทริปแล้วกันนะคะ เราเริ่มกันที่ร้านกาแฟที่ชิคที่สุดในกรุงเทพ ร้านอกาลิโกที่เรา จะเห็นว่าคนนิยมไปจัดงานแต่งงานมากๆ เพราะร้านเค้าสวยสไตล์โคโลเนียล สีขาวๆสะอาดตา ดูแล้วย้อนไปเหมือนยุคเทพบุตรจุฑาเทพเลยค่ะ 5555 ร้านนี้อยู่ย่านสุขุมวิท51(BTSทองหล่อ)ค่ะ ในงานนะคะก็มีการให้ข้อมูลจากทางAISก่อนโดยผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาเครือข่ายของเค้า มาให้คำอธิบายว่าตอนนี้หน่วยงานของเค้าทำงานไปถึงระดับไหนแล้ว รวมถึงมีแอพลิเคชั่นที่ผู้ใช้ เครือข่าย AISที่ใช้งานผ่านระบบแอนดรอยด์ สามารถโหลดไปเช็คความเร็วและความเสถียรของ สัญญาณ 3G 2100 ได้ด้วยค่ะ แอพนี้ชื่อว่า AIS SignalPlus ซึ่งในระบบ iOS กำลังพัฒนาอยู่นะคะ นอกจากทดสอบสัญญาณพร้อมระบุพื้นที่ได้แล้ว แอพนี้ยังมีฟีจเจอร์สำหรับผู้ใช้งานในการช่วยให้ เครือข่ายพัฒนาได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยการที่สามารถส่งคำแนะนำติดชมผ่านทางแอพ หรือแจ้ง ปัญหาการใช้งานในพื้นที่ๆท่านไม่พึงพอใจได้อีกด้วยค่ะ โดยทุกท่านที่เข้าร่วมติชมจะได้รับซิมการ์ด และสิทธิ์ในการใช้งานอินเตอร์เน็ตฟรีตามเงื่อนไขเป็นการตอบแทนอีกด้วย จากข้อมูลที่ทาง AIS ให้มานะคะ ตอนนี้ก็คือ เค้ามีการเพิ่มสถานีฐานในกทม ให้หนาแน่นเป็น 2เท่าของ3G ระบบเดิม และสถานีฐานแต่ละแห่งมีช่องสัญญาณเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าของ 3Gเดิม ไม่หนาแน่นแอดอัดเท่าของเดิม จึงทำให้ 3G 2100 นี้สามารถรองรับผู้ใช้งานและปล่อยสัญญาณ ได้ดีกว่าของเดิมมากอย่างเห็นได้ชัดค่ะ และที่สำคัญความเร็วของ3G ยังมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2Mbps ซึ่งทางAISแจ้งว่า ความเร็วเฉลี่ยระดับนี้ครอบคลุมพื้นที่ถึง70%แล้ว โดยการทดสอบในวันนี้เราใช้วิธีเดินทางฉบับคนกรุงเทพกันจริงๆ ด้วยการขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส ซื้อตั๋วกันเป็นหมู่คณะห้อยโหนจากสถานีทองหล่อ ต้นทางของเรามายังสถานีรถไฟฟ้าสยาม ซึ่งสถานีนี้ได้ชื่อว่าหนาแน่นและแออัดที่สุด ตอนเราเดินทางไปเป็นช่วงเวลาประมาณบ่าย3โมง ตรงนี้ต้องขอบอกก่อนว่า บล็อกเกอร์ทุกคนที่ร่วมทริป มีDevicesที่ใช้ซิมเครือข่ายAISในการ เข้าร่วมทดสอบทุกคนนะคะ เวลาที่เราเดินทางก็จะมีการอัพเดตโซเชี่ยลของเราไปด้วยทุกที่ค่ะ เพื่อทดสอบและอัพเดตกับคนที่ติดตามเราตลอดเวลาเหมือนไปร่วมทริปด้วยกัน จากนั้นเราเปลี่ยนเส้นทางขบวนรถไฟฟ้ามายังสายสะพานตากสินค่ะ เพื่อที่จะไปต่อเรือด่วน ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังวัดอรุณฯ จุดหมายที่เราจะไปทดสอบกันอีกที่ เพราะที่วัดนี้เป็นจุดที่ ได้รับการขนานนามว่า มีผู้คนไปถ่ายรูปมากที่สุดในกรุงเทพค่ะ ระหว่างนั่งเรือเราก็ผ่านจุดสำคัญต่างๆมากมายในกรุงเทพ สำหรับทรายแล้วก็ยังถ่ายรูปและ อัพโหลดขึ้นโซเชี่ยลได้อย่างไม่มีสะดุดทั้งบนรถบีทีเอสระหว่างวิ่ง และบนเรือระหว่างที่เดินทาง เมื่อถึงวัดอรุณฯแล้ว เราก็ไม่ได้มาเปล่าๆ ก็เข้าไปสักการะและทำทานด้วยการให้อาหารปลากัน ที่นี่ต้องยอมรับเลยค่ะว่าคนเยอะมากจริงๆ นักท่องเทียวทั้งไทยและเทศเยอะมากๆจากนั้นพวกเรา ทั้งหมดก็นั่งเรือกลับมาที่สะพานตากสินอีกครั้ง เพื่อนั่งรถยนต์ไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้าย ของวันนี้อันได้แก่ ประตูน้ำค่ะ แหล่งช็อปปิ้งที่คนแน่นตลอดปีตลอดชาติ เราจะไปตึกใบหยกสกาย ตึกที่สุดที่สุดในไทย เป้าหมายของเราคือบุฟเฟ่ต์ชั้น81 ที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวสูงเสียดฟ้า บรรยากาศดีเลิศ สามารถเห็นเมืองหลวงของเราได้ไกลสุดลูกหูลูกตาค่ะ แล้วก็สมดังคำร่ำลือนะคะ วิวดีมากจริงๆ แต่ประเด็นของเราคือการทดสอบสัญญาณ3G 2100 บนตึกที่สูงที่สุด ซึ่งผลออกมาน่าพอใจเป็นอย่างมากค่ะ เล่นได้ตลอดไม่มีสะดุดเช่นเดิม สำหรับผลการทดสอบสัญญาณนั้น ทรายมีให้ดู 3 จุดหลักๆคือ ที่ร้านกาแฟย่านทองหล่อ(รูปซ้าย) และตรงกลางคือบนสถานีรถไฟฟ้าสยามเลย ส่วนรูปขวาคือบนชั้น81ของตึกใบหยกสกายค่ะ จะเห็นว่ารับสัญญาณได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี - ดีมาก ซึ่งตลอดทริปที่เดินทางกันไป ทรายเองก็ไม่มีปัญหา อะไรกับสัญญานเลย จริงๆทรายพูดตามตรงว่าทรายใช้AISมาเป็นสิบปีแล้ว ตอนแรกๆที่ใช้ก็เพราะ ว่าแถวบ้านสัญญาณค่ายนี้ดีสุด ก็ใช้มาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน มีบ้างปัญหาในการใช้งาน บางจุดก็มี การบอดของสัญญาณ หรือได้รับสัญญาณที่ต่ำ ซึ่งตรงนี้ทาง AIS เองเค้าก็ยอมรับแต่โดยดีว่า บางที มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเพิ่มสถานีฐานสัญญาณในจุดนั้นๆได้ เช่นโครงการที่อยู่ อาศัยบางแห่งก็ไม่ยินยอมให้เข้าไปติดตั้ง หรือบางสถานที่ก็ต้องรอให้ได้รับการอนุมัติก่อน หรือ บางทีเราไปอยู่ในจุดที่คนอยู่กันเยอะมากๆ เช่นคอนเสิร์ตหรือจุดชุมนุม ก็อาจจะทำให้พบปัญหา การใช้งานได้เนื่องจากความแออัดของช่องสัญญาณ ซึ่งตอนนี้เค้าก็กำลังแก้ไขอยู่ค่ะ สิ่งที่เราๆ ลูกค้าจะช่วยทำได้คือ แจ้งเข้ามาแล้วเค้าจะรีบจัดการปัญหาให้ค่ะ สามารถแจ้งได้ตลอด อย่างทริปนี้ทรายเองก็บอกเค้าเหมือนกันว่า ที่คอนโดทรายอยู่ชั้น25 มันเล่น3Gได้สบายๆคือยูทูป ฟังเพลงได้ไม่สะดุด แต่สัญญาณโทรศัพท์มีแค่1-2ขีด บางทีคุยๆแล้วหลุด เค้าก็จะส่งเรื่องให้หน่วย งานที่ดูแลเรื่องนี้จัดการอีกที เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่า บางทีสัญญาณโทรศัพท์มีน้อย ไม่ได้แปลว่าจะ รับ3Gได้น้อยเหมือนสัญญาณนั่นเป็นคำตอบว่าทำไมทรายถึงเล่นเน็ตได้สบายแต่ดันมีปัญหาเรื่อง โทรเข้า-ออกแทน และนี่ก็คือประสบการณ์ที่ทรายได้ไปทดสอบและรับฟังมานะคะ อยากจะแบ่งปันเอาไว้ในบล็อก เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอ่านที่ใช้AISค่ะ Disclaimer: Sponsored Content by AIS Information: //www.ais.co.th   Create Date : 03 มีนาคม 2557     Last Update : 3 มีนาคม 2557 23:10:19 น. Counter : 1752 Pageviews.   3 comment Share Tweet

[Event]ทริปเชียงใหม่ครั้งแรก บุกงานแสนสิริยี่เป็ง เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว “เศรษฐสิริ สันทราย” ทรายได้รับโอกาสให้ร่วมทริปเป็น1 ในสื่อมวลชนออนไลน์ ร่วมทำข่าวงานเปิดตัวโครงการ บ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุด จากแสนสิริ ที่จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ซึ่งทริปนี้เป็นการไปทางเหนือครั้งแรก ในชีวิตของทรายเลย หลายคนไม่เชื่อแม้แต่พี่ๆร่วมทริป 555 ครั้งแรกจริงๆ เปิดซิงกับแสนสิริเลย ทริปนี้เราเข้าพักกัน2 คืนที่โรงแรมเปิดใหม่ (ใหม่จริงจังยังมีบางส่วนไม่เสร็จเรียบร้อยเลย) โรงแรมชื่อว่า W Valley Boutique Hotel อยู่ใกล้ๆกับศูนย์การประชุมเพิ่งเปิดไป ห่างจากถนน นิมมานเหมินทร์แค่2กิโลค่ะ เจ้าของโรงแรมก็เป็นพี่ๆในแวดวงออนไลน์นี่แหละค่ะ จะเปิดตัวอย่าง เป็นทางการในเดือนธันวานี้ เป็นโรงแรมเก๋ๆราคาน่ารักๆค่ะ นี่เป็นครั้งที่2แล้ว ที่ทรายได้มีโอกาสร่วมทริปสื่อ กับทางแสนสิริ ครั้งก่อนเราไปดูโครงการคอนโด ที่ชะอำกันมา เค้าก็พาไปทำความรู้จักกับร้านอาหารเด็ดๆดังๆของแถวนั้น เหมือนแบบพาไปให้ รู้ด้วยว่า ถ้ามาอยู่แถวนี้นะ อะไรอร่อย อะไรเด็ดดวง บอกเลยว่าประทับใจมาก (ที่ได้กินฟรี --อุ๊ปส์!) ทริปเชียงใหม่นี้ก็เช่นกันค่ะ ทางทีมงานพาทีมสื่อไปทำความรู้จักกับโรงแรมแบบล้านนาแท้ๆ เพื่อให้เราได้บรรยากาศแบบชาวเหนือ ที่โรงแรมดาราเทวี เราไม่ได้มาพักนะคะ มาดินเนอร์กัน แล้วทางโรงแรมเค้าก็นำชมรอบโรงแรมเค้าด้วย เค้าบอกว่าสร้างขึ้นมาตามผังเมืองล้านนาแท้ แบบโบราณ ขอบอกว่าขนลุกมาก (ไม่ใช่เรื่องผีนะ) สถาปัตยกรรมมันทำให้เรารู้สึกเหมือนเรา กำลังเดินอยู่ในเมืองโบราณของชาวล้านนา นี่ถ้าให้นั่งเสลี่ยงด้วย นี่มีจิตนาการไปไกล55555 แล้วก็มีพาไปนั่งดื่มด่ำเก็บบรรยากาศยามบ่ายสวยๆริมน้ำ ที่โรงแรมAnantara The Chedi ที่นี่ก็เก๋อีกแล้ว คนออกแบบคนเดียวกับโรงแรมHotel de La Paix ชะอำ เราจะสัมผัสได้ถึง ความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากว่าวันที่ไปทานอาฟเตอร์นูนทีกันนั้น เราได้มีการละลายพฤติกรรม ของเพื่อนร่วมทริปทุกคน ซึ่งเป็นสื่อมาจากหลากหลายแวดวงมาก ไม่ว่าจะไลฟ์สไตล์ อสังหาฯ นักข่าวฯ ช่างภาพฯ ตลก...ไม่ใช่ละ 5555 มันก็เลยเป็นการดื่มชาที่ไม่เหมือนพักผ่อนเท่าไหร่ เพราะยิงมุขกันกระจายตลอด คืออยากบอกว่าประทับใจเพื่อนร่วมทริปแค่นั้นแหละ55555 อ่อๆ ทรายได้ไปทานอาหารเหนือแต๊ๆที่เฮือนไจ๋ยองด้วยนะคะ น้ำพริกอร่อยมว๊ากกกกกกก หลังจากจิบชาเคล้าเสียงประทัดโป้งป้างในบรรยากาศวันงานประเพณียี่เป็งของเชียงใหม่ กันไปแล้วนั้น พวกเราทั้งหมดก็ยกขบวนกันไปทำงานค่ะ จุดประสงค์ของการมาเยือนเมืองเหนือ ในครั้งนี้ของเรา คือ โครงการล่าสุดที่แสนสิริภูมิใจนำเสนอ “เศรษฐสิริ สันทราย” วันนี้ทางแสนสิริถือฤกษ์งามยามดี เปิดตัวพร้อม Pre-Sale โครงการเป็นวันแรกเลย พวกเรา ก็เลยได้ถือโอกาสตื่นตาตื่นใจกับเจ้านายฝ่ายเหนือ และบรรดาไฮโซเซเล็ปของแถบนี้ค่ะ ปกติจะคลุกคลีอยู่กับทางฝั่งบางกอก รู้สึกได้ถึงการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันเลย ทางเหนือเค้าจะ แบบว่าดูชิลๆ นุ่มนวล อู้ฟู่ แอบแซ่บเล็กๆ ดูเป็นคนใช้ชีวิตแบบ Slow-Life ถ้าทางกทมเรา ส่วนใหญ่บุคลิก ก็จะเป็นแบบแซ่บเวอร์จัดเต็มอะไรงี้ Fast and Furious อะไรแบบนี้ (จริงๆนะ) ไม่ได้เก็บภาพมาฝากหรอกนะ เดี๋ยวหาว่าเม้าท์ 55555 กลับเข้าเรื่องนอกจาก Pre-Sale วันแรกพร้อมเปิดตัวโครงการแล้ว เค้ายังจัดเป็นEventงาน เทศกาลยี่เป็งแบบล้านนาเลย มีการสอนทำกระทง มีการสอนทำโคมโบราณด้วย แล้วพอพลบค่ำ ก็ให้ผู้ร่วมงานทุกท่านได้สัมผัสบรรยากาศจริง ทรายบอกตรงๆว่าประทับใจมาก สวยมากด้วย ถ้าใครเล่นIG ลองเสิร์ชHashtag #SansiriYipeng ดูนะคะ ภาพสวยๆจากผู้ร่วมงานเพียบเลย “เศรษฐสิริ สันทราย” เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บน ถนนเชียงใหม่-พร้าว สามารถมองเห็นวิวของ ดอยสุเทพอย่างชัดเจน ในรูปอาจจะมองดูเหมือนไกล ของจริงเห็นใหญ่มากและไม่มีตึกสูงใดๆ มาบดบังวิวค่ะ ด้านข้างโครงการยังมีลำแม่น้ำแม่คาวไหลผ่านอีกด้วย นอกจากจุดสวยๆของ ธรรมชาติแล้ว ยังต้องบอกว่าอยู่ห่างจาก ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ที่เพิ่งเปิดใหม่เพียง2กิโลเท่านั้น ทำเลยอดเยี่ยมไหมคะ >//////< ถ้าจะเข้าตัวเมืองก็ใช้เวลาเพียงประมาณ 5 นาทีค่ะ และที่นี่นั้น เป็นโครงการบ้านเดี่ยวแห่งแรกของแสนสิริในเชียงใหม่ด้วยนะคะ โครงการนี้สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “Unique Lanna” เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรม แบบล้านนาของพวกคุ้มเจ้าหลวงสมัยโบราณ ร่วมกับสถาปัตกรรมสมัยใหม่ ให้ความรู้สึกแบบ ร่วมสมัย หรือจะเรียกง่ายๆว่า “โมเดิร์น ล้านนา” ก็ว่าได้ บนพื้นที่ทั้งหมด53ไร่ กับบ้านเดี่ยวทั้ง 4แบบให้เลือก 160 ยูนิตทั้งโครงการ ในราคาเริ่มต้นที่ 5.59 - 15ล้านบาท ซึ่งต้องบอกว่าช่วง เย็นที่ทรายไปร่วมงานและชมบ้านตัวอย่างนั้น ได้ทราบข้อมูลจากทางแสนสิริว่า ในวันแรกนี้ มีการทำสัญญาไปแล้วถึง 40ยูนิตเลยทีเดียวค่ะ รวดเร็วจนทีมงานเองยังทึ่ง ทรายคิดว่าเป็น เพราะข้อเสนอในวันพรีเซลส์ที่มอบส่วนลดให้ถึง5แสนบาทด้วย และทาร์เก็ตเค้าก็พร้อมอยู่ เป็นเรา เราก็ตัดสินใจไม่ยากเนอะ ก็คล้ายๆซื้อเครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้าแหละ (หราาาา) อีกอย่างนึงก็น่าจะเป็นที่ตัวแบรนด์แสนสิริเอง มีความน่าเชื่อถือและมีRoyaltyสูงตัดสินใจไม่ยาก ซึ่งในบล็อกนี้ทรายจะพาชมบ้านตัวอย่างหลังใหญ่สุดที่แสนสิริพาทัวร์ “ธราสิริ” ค่ะ จุดที่น่าประทับใจสำหรับทรายที่ไม่มีความรู้เรื่องบ้านใดๆทั้งสิ้น เป็นอารมณ์ความรู้สึกของ ผู้อยู่อาศัยล้วนๆคือ พื้นที่กว้างทำให้จัดสัดส่วนในบ้านได้อย่างลงตัว และทำให้บ้านสามารถ แยกเป็นหลายโซน ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมีมุมส่วนตัว และมุมครอบครัวได้ครบเลย เรื่องของห้องหลัก4ห้องและห้องน้ำคงไม่ต้องพูดถึงมาก ต้องเด็ดอยู่แล้ว ในส่วนอำนวย ความสะดวกอื่นๆในบ้านก็มีทั้งครัวไทย ครัวฝรั่ง ห้องรับแขก ห้องเก็บของ ห้องแม่บ้าน โถงบันไดที่สามารถเปิดกระจกให้อากาศถ่ายเทเข้าบ้านได้ รวมไปถึงโซนที่ทำงานชั้น2 และระเบียงบ้านที่สามารถรับแขกได้ และใหญ่มากกกกกกกก ปาร์ตี้ได้เป็นสิบคนพูดเลย! สำหรับสาวๆอย่างทราย สิ่งที่อยากรู้อยากเห็นที่สุดก็คือ Master Bedroom ว่ามันเด็ดแค่ไหน พูดเลยว่าประทับใจ กระจกบานใหญ่ล้อมซีกนึงของห้องให้ไม่รู้สึกอึดอัด หันไปทางซ้ายพบ กับห้องน้ำ แต่ที่เด็ดสุดคือสิ่งที่เราตามหา Walk-in Closet มันคือฝันของผู้หญิงเลย นอกจากนี้ทรายก็มีโอกาสเก็บภาพบ้านหลังอื่นๆก่อนจะมืดหมดแสงอีกเล็กน้อยในจุดเด่นๆ ของการตกแต่งแต่ละหลังว่ามีอะไรบ้าง? ที่ประทับใจอีกหลังคือ มี Walk-in Closet แต่เป็น แบบปิดไม่เปิดโล่ง และมันสวยมากกกก เหมือนอยู่ในหนังเรื่อง The Great Gatsby เลย ทุกบ้านจะมีระเบียงความกว้างแตกต่างกันไป และมีที่จอดรถ จริงๆทางแสนสิริเอง เค้าก็บอก ว่าโดยทั่วไปแปลนบ้านก็จะคล้ายๆกับ โครงการเศรษฐสิริที่อื่น เพียงแต่การตกแต่งจะเอา ความเป็นล้านนามาใส่ให้แตกต่างแค่นั้นเอง ถ้าถามทรายว่าเดินหมดทั้ง4หลังแล้ว ชอบสเปซของหลังไหนมากที่สุด (ใครถาม..) ทรายต้องพูดเลยว่าถูกใจกับบ้านแบบ “นภางค์สิริ” มากที่สุดค่ะ ถึงจะไม่ได้ใหญ่สุด แต่เดินเข้าไปแล้วให้ความรู้สึกว่ามีการจัดวางที่โปร่ง โล่งสบาย กว่าหลังใหญ่สุดเสียอีก ถามว่ามีตังซื้อไหม? อันนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต (อนาคตสามี...) เราปิดท้ายค่ำคืนยี่เป็งกันด้วยดินเนอร์กันที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน ร้าน Cafe’ Mini ถนนนิมมานฯ ซอย9 ถ้าไปไม่ถูกให้เรียกรถไปมังกี้ เชื่อว่ารู้จักกันทุกคน 5555 ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆนะคะมี2ชั้น ตกแต่งร้านแบบเก๋ๆ เชฟทำอาหารอร่อยมาก คืนนั้นน้ำตาไหลเลยค่ะ ของชอบทั้งนั้น ทรายต้องขอขอบคุณแสนสิริกับประสบการณ์ดีๆที่เชียงใหม่ ให้ทรายได้เปิดหูเปิดตาจากความ สวยความงามบนเรือนร่าง ไปมองหาความสวยความงามในธรรมชาติและสถาปัตยกรรมบ้าง สำหรับเพื่อนๆที่สนใจอยากจะมีบ้านดีๆอยู่เชียงใหม่สักหลัง เดือนหน้าช่วงวันหยุดยาวประมาณ วันที่6-10ธันวาคมนี้ ทางเศรษฐสิริ สันทรายเค้าจะมีการจัดกิจกรรมขึ้นมาอีกที่ Sale Gallery ใครที่ไปแอ่วเชียงใหม่ ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมไปเดินดูโครงการได้นะคะ ช่วงนั้นเค้าจะมีโปรฯ ดีๆมาอีกเท่าที่ทราบ แต่ตอนนี้ทรายยังไม่มีรายละเอียด ต้องรบกวนไปติดตามข้อมูลกันที่เพจ ของแสนสิรินะ Disclaimer: Sponsored Content by SANSIRI Information: https://www.facebook.com/sansirifamily Information: https://www.facebook.com/wevalley Information: https://www.facebook.com/Cafeminichiangmai   Create Date : 21 พฤศจิกายน 2556     Last Update : 21 พฤศจิกายน 2556 3:37:42 น. Counter : 6414 Pageviews.   1 comment Share Tweet

[Event]: Nivea Sassy Day งานเปิดตัวโปรดักส์ใหม่กลุ่มกันแดดและบำรุงเติมน้ำให้ผิว บล็อกวันนี้จะพาเพื่อนๆไปร่วมงาน Nivea Sassy Day ค่า จริงๆก็คืองานเปิดตัวสินค้าใหม่ของนีเวีย ให้กับสื่อมวลชนได้ทราบและทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ของเค้านะคะ เราก็จะมาอัพเดตกันว่านีเวียมีอะไร ใหม่ๆออกมาให้เราได้ใช้กันบ้างเนอะ วันนี้มีการเปิดตัวโปรดักส์ใน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นสกินแคร์สำหรับผิวขาดน้ำ ช่วยเติมน้ำให้ผิวออกมา ใหม่ทั้งไลน์เลยค่ะ ชื่อว่า Aqua Sensation เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผิวหน้ามีสารสกัดหลักจาก แตงกวา และมีเทคโนโลยี “Hydrosis+” ที่จะช่วยเพิ่มช่องทางส่งผ่านความชุ่มชื้นระหว่างเซลส์ผิว ชั้นนอก และรักษาสมดุลความชุ่มชื้นไว้ ในส่วนของโปรดักส์นี้เค้าได้เชิญคุณหมอผิวหนัง จากBNH มาให้ความรู้เกี่ยวกับผิวขาดน้ำด้วยค่ะ (ทรายเองก็จัดอยู่ในผิวกลุ่มนี้) คร่าวๆก็คือ ผิวขาดน้ำนั้นเกิด ได้กับทุกสภาพผิวนะคะ ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ก็สามารถ ขาดน้ำได้ ยิ่งคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในห้องแอร์ ยิ่งเสี่ยงต่อการขาดน้ำที่เซลส์ผิวชั้นนอก บางครั้งเราอาจจะ เข้าใจไปเองว่าเราผิวมัน จริงๆว่าผิวชั้นนอกเราขาดน้ำเลยผลิตน้ำมันออกมาเยอะก็มี แล้วก็ผิวจะดู เหี่ยวกว่าปกติด้วยค่ะ เมื่อเอามือไปดันๆผิวจะเห็นรอยย่นบนผิวชัดเจน ผิวไม่ชุ่มชื้น ไม่ยืดหยุ่นเท่า ที่ควร วิธีแก้ก็คือใช้โปรดักส์ที่ช่วยคงความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว และดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียง พอในแต่ละวัน เค้าก็ออกมาแบบว่าทั้งไลน์เลย มีตั้งแค่คลีนซิ่งเจล (399บาท) เวคอัพ เอ็ฟเฟ็ค มอยซ์เจอไรเซอร์ ตัวบำรุงผิวเนื้อเจลใช้กลางวัน (499บาท) รีแพริ่ง มอยซ์เจอไรเซอร์ ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้นสำหรับ บำรุงกลางคืน (549บาท) ทรายได้เทสเนื้อตัวเจลกลางวัน เย็นชุ่มผิวดีค่ะ โปรดักส์ในกลุ่ม2ที่มีการเปิดตัววันนี้คือ กลุ่มของ Nivea Sun เป็นกันแดดสำหรับผิวหน้าและผิวกาย แบบสเปรย์ ชื่อว่า Nivea Sun Protect & Refresh Invisible Cooling Mist (499บาท) เป็นกันแดด ที่มีค่า SPF 50 กันได้ทั้ง UVA และ UVB เป็นแบบ Immediate Protection (EU Compliant) มีส่วน ผสมของเมนทอลให้ความเย็นเวลาที่ฉีดโดนผิว ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมเอาไว้ว่าไม่เป็นคราบ สบายผิว ไม่เหนอะ ไม่ทิ้งคราบขาว แล้วก็เป็น Water Resistant กันน้ำด้วย ทรายเดาว่าเหมาะมาก กับคนที่ออกแดดจัด หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง ตัวนี้สถานที่จัดงานร้าน Flow House สุขุมวิท26 เป็นใจมากค่ะ เพราะเค้าเป็นที่ๆเล่นเสิร์ฟได้กลางเมืองเลย ดังนั้นในวันงานเราจึง มีการเทสกันด้วยตัวแทนจากสื่อและแบรนด์ที่ลงไปเล่นน้ำกัน ก่อนลงเล่นน้ำก็ฉีดกันแดดตัวนี้ บรรดา สามีพี่ๆบล็อกเกอร์เค้าก็เล่นด้วย ทรายก็เลยได้ดูแบบใกล้ชิดตอนเค้าเทสกันแดด ฉีดลงบนผิว ถ้าเรา ฉีดใกล้ไปจะเห็นเป็นน้ำขาวๆค่ะ แต่ถ้าวงกว้างจะใสๆ แต่ขาวๆนั้นจะเฟดหายไปอย่างรวดเร็วนะคะ สรุปที่เห็นก็คือ ไม่ทิ้งคราบ ไม่เป็นคราบ จริงๆค่ะ แต่ผิวจะมองแล้วมันๆเลื่อมๆ เหมือนทาน้ำมันมวย(sexyอ้ะ) พี่ๆเค้าบอกว่า ฉีดง่าย พี่ผู้ชายจะชอบกันมาก เพราะว่ามันไม่ต้องมาเรื่องมากทา เค้าฉีดๆพ่นๆก็จบ ออกแดดได้เลยไม่ต้อง รอ 20นาทีด้วย ทรายไม่ได้ลงเล่นด้วยไม่ถนัดกีฬาทางน้ำ แอบเชียร์มันส์ๆ อยู่ข้างบนก็สนุกค่ะ (มีภาพกีฬามันส์ๆมาฝาก 55) โปรดักส์อีกตัวที่มาในถุงด้วยเป็นขวดฟ้าอ่อนๆชื่อว่า Nivea Sun Moisturising After Sun Lotion เป็นโลชั่นสำหรับหลังออกแดดช่วยประโลมผิวที่อ่อนแอจากการเผชิญแดด ทาได้ทั้งหน้าและตัวนะคะ ส่วนผสมหลักๆก็มีว่านหางจระเข้ อโวคาโด้ออยล์ และวิตามินE ดีสำหรับบำรุงปลอบโยนผิวให้เย็นลง ทั้งนั้นเลยค่ะ อันนี้ไม่ทราบราคาที่แน่นอนนะ ทั้งหมดนี้วางขายแล้วที่ร้านวัตสัน และซุปเปอร์มาร์เก็ต ชั้นนำทั่วไปจ้า Disclaimer: Sponsored Content by Nivea Thailand Information: https://www.facebook.com/NIVEAThailand   Create Date : 29 ตุลาคม 2556     Last Update : 29 ตุลาคม 2556 21:24:40 น. Counter : 6427 Pageviews.   2 comment Share Tweet

[ฟิโอพาเที่ยว]: ETUDE Pink Play Party Season 4 Live in Singapore!!! วันนี้ทรายจะพาไปเที่ยวสิงคโปร์กันค่ะ กรี๊ดดดดตื่นเต้น!!! คือว่า ทรายไม่เคยไปสิงคโปร์ มาก่อนเลยในชีวิต ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ขอบคุณ ETUDE HOUSE มากๆนะคะที่ให้โอกาส ได้ไปเยือน Pink Play Party Season 4 อีกครั้งหลังจากที่ทรายเคยได้ไปครั้งแรกปี 2011 ที่เกาหลีในฐานะ สื่อออนไลน์ตัวแทนจากฝั่งประเทศไทย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกด้วยที่ ETUDE  ยกขบวนปาร์ตี้จากเกาหลี มาไว้ที่สิงคโปร์ เป็นประเทศแรกในโลกที่เค้าออกมาเลยค่ะ แอบถามตั้งความหวังเผื่อเหมือนกัน ว่ามีโอกาสจะได้มาไทยไหม? เค้าบอกว่าอะไรก็ไม่แน่นะ ทริปนี้เราเดินทางกันวันที่ 27 สิงหาคม 56 ไปถึงประเทศสิงคโปร์โดยสายการบินแห่งชาติ ของประเทศเรา การบินไทยนั่นเอง เรามีเพื่อนร่วมทริปทั้งหมดรวมทรายด้วยก็ 7 คนค่ะ เป็นบล็อกเกอร์ 2 คนคือทรายเอง และทรายหมูน้อย แล้วก็พี่ๆสื่อจาก นิตยสารCLEO นิตยสารLips และนิตยสารSEVENTEEN และน้องมุ่ยPRคนสวยของ ETUDE THAILAND ไปถึงก็ประมาณเกือบเที่ยงใช้เวลาเดินทางประมาณ2ชม เท่านั้นเองค่ะ สิงคโปร์สะอาดมาก ต้นไม้ใหญ่มีตลอด 2 ฝั่งทาง แต่ก็ยังรู้สึกร้อนนะ 55 ร้อนไม่ได้ต่างอะไรกับบ้านเราเลย เราเข้าที่พักกันตอนบ่าย ทริปนี้ได้พักที่สถานที่จัดงานเลยค่ะ Marina Bay Sand Hotel อีกครั้งที่กรี๊ด เพราะเป็นโรงแรมที่ทรายเล็งเอาไว้(ในฝัน) ว่าถ้าได้มาอยากพักที่นี่แหละ แล้วก็ฝันเป็นจริงวุ้ย แถมยังได้พักเดี่ยว ชั้น29 วิวสวยสะบัดอีกด้วย ฟินน์มาก ข้างล่างของโรงแรมมันจะเป็นเหมือนแบบ มีShopping Mallใหญ่ๆ ของแบรนด์เนมเพียบเลย ตามสไตล์ของSGเค้าเนอะ แล้วก็มีคาสิโนเชื่อมอยู่ มีส่วนMuseumด้วย อยากไปดูมากแต่ว่า เวลาไม่อำนวยเลย สุดท้ายตรงส่วนที่เราจะไป Pink Play Partyกัน จะอยู่ในส่วนของ Marina Bay Sand Convention Center ซึ่งเดินจากโรงแรมไปแค่ตึกข้างๆเอง สะดวกสุดๆเลยค่ะ กิจกรรมแรกทันทีที่ไปถึงคือ เข้างานแถลงข่าวกิจกรรม Pink Play Party Season 4กันค่ะ ตรงนี้เป็นช่วงเวลาที่สื่อจะได้สัมภาษณ์ศิลปินที่เป็นทั้งพรีเซนเตอร์คนปัจจุบันและมาร่วมกิจกรรม กับเราวันนี้ด้วย ShiNee และ Sulli ค่า (กรี๊ซซซซซซซ) ShiNee เพื่อนๆหลายคนก็คงรู้จักกันอยู่แล้ว ดังระเบิดระเบ้อ น้องๆแฟนคลับไม่ต้องน้อยใจ พี่มีของมาฝากด้วย ที่ท้ายบล็อกจ้ะ อิอิ ส่วน Sulli นั้น บอกตรงๆว่านางเป็นคนหลายบุคลิก มากๆ แบบว่าเปลี่ยนเมคอัพ เปลี่ยนการแต่งตัวสไตล์ก็เปลี่ยน น่ารักมากๆ ใสๆ สูงยาวเข่าดี เป็นนักร้องสมาชิกคนหนึ่งของวง f(x) คนเกาหลียกให้เธอเป็น “Baby Beauty”ผิวดีเหมือนเด็ก คนเกาหลีบอกว่าเธอดังมากๆ ดังแบบถ้าเมืองไทยคงคล้ายๆชมพู่อารยาอะไรแบบนั้น ส่วนคน ผู้ชายอีกคนนึงในรูป คือคุณ Kevin Lao-Shi เป็นเมคอัพอาร์ททิสชื่อดังมากของไต้หวัน นอกจากปาร์ตี้แล้ว เค้ายังมีการเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ล่าสุดด้วยค่ะ จริงๆมีหลายคอลเลคชั่นเลย ตัวสื่อทุกคนที่ไป จะได้รับผลิตภัณฑ์ตัวอย่างไซส์จริงกลับบ้านด้วย ทรายก็เลยมีมาให้ดูแบบใกล้ๆ กันด้วยค่ะ ตัวที่เป็นไฮไลต์จะเป็นบีบีครีมนั่นแหละ มาในรูปแบบกักเก็บอยู่ในฟองน้ำ ออกมา2สีค่ะ Etude House Precious Mineral Any Cushion SPF50 PA+++ ผสมสารสกัดจากไข่มุก ด้วยราคา 1,295 บาท พักเรื่องโปรดักส์ไว้ก่อน เดี๋ยวมาต่อท้ายๆ จบจากการสัมภาษณ์แล้ว เราก็มีเวลาพักเบรคเล็กน้อย ก่อนจะเข้าสู่ปาร์ตี้ของเรา และมินิคอนเสิร์ตจากหนุ่มๆ ShiNeeด้วย (หายไป1คนติดภารกิจไม่ได้มา) ทรายเดินออกไปถ่ายรูปที่ด้านนอกของห้องแถลงข่าว สวยมาก มองเห็นเมอร์ไลออนด้วยค่ะ เอาหละ เราจะเข้าสู่คอนเสิร์ตกันแล้ว อยากบอกว่าบริเวณงานวันนั้น ทุกอย่างเป็นสีชมพูหมดเลย เรื่องแปลกของปาร์ตี้ที่SGนี้คือ เราจะได้เห็นแฟนETUDEหลากอายุมาก ตั้งแต่เด็กประมาณ 10ขวบ ไปจนถึงคุณป้าประมาณ 50ก็มากัน มากับหลานๆหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ดูน่ารักมากเลย ที่นี่จะมี ซุ้มกิจกรรมให้เล่นก่อนมินิคอนฯเริ่มค่ะ ก็จะมีพาสปอร์ตให้ไปเล่นตามฐาน เล่นครบก็มีรางวัลด้วย จากนั้นSulli และคุณKevin ออกมาพูดคุยเกี่ยวกับโปรดักส์ใหม่ จากนั้นก็เวลาที่คุณรอคอย ShiNee จบกิจกรรมก็ประมาณเกือบ 3 ทุ่ม คณะเราก็ไปหาอะไรทานกันชดเชยพลังที่ฮึดกันทั้งวัน จากนั้นก็แยกย้ายกันตามอัธยาศัย ใครใคร่ไปดูวิวดาษฟ้า ใครใคร่ไปคาสิโน ตามสบาย ทรานเดินช็อปปิ้งที่มอลล์พักนึง แล้วก็ถ่านหมด ขอตัวไปนอนเกลือกกลิ้ง ใช้เวลากับห้องพัก ที่แสนประทับใจให้เต็มที่ หลับไปอย่างรวดเร็วพร้อมวิวสวยๆจากระเบียงห้องนอน กลางคืน ยิ่งสวยจับใจเลยค่ะ เช้าวันใหม่เรามีโอกาสเข้าเมืองไปซื้อขนมฝากเพื่อนๆกัน จากนั้นก็ ได้เวลาเดินทางกลับเมืองไทยตอนบ่าย จบทริปสั้นๆของเราแต่เพียงเท่านี้ ทีนี้อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้น ทรายหยิบเอาโปรดักส์ใหม่ๆที่มาในกล่องของขวัญจากงานปาร์ตี้นี้ มาให้ดูกันว่ามีอะไรบ้าง และตัวไหนเข้าไทยมาแล้วบ้างนะคะ เร็วเท่าเกาหลีเลย นอกจากบีบี ที่พูดถึงไปแล้วก็มี บรัชออนสีชมพูพีชให้ อายแชโดว 2สีวิ๊งค์ๆ มีมาสคาร่าตัวดังของเค้า 2สี เหมือนกันเป็นสีดำ กับสีน้ำตาล แล้วก็มี Fresh Cherry Tint สีสดสะท้อนแสงมากก ส่วนรูปนี้ Hand Bouquet มาเป็นเซ็ทกับของที่ระลึกจากงาน เป็นครีมบำรุงผิวมือและเท้า 3สูตร ส่วน BB Precious Mineral Cotton Fit และ CC Cream ทรายได้มาจาก Etude House Thailand ค่ะ เป็นโปรดักส์ที่ออกมาพักนึงแล้ว ยังไม่ได้เอามาแนะนำให้รู้จักกัน เห็นมีคนบอกว่า 2ชิ้นนี้เนื้อดีมาก ยังไม่ได้ลองเลย เก็บลงลิสเอาไว้ลอง ส่วนเซ็ทนี้ก็มาจาก Etude House Thailand ค่ะเป็นคอลเลคชั่นล่าสุด สุดๆ ที่งานปาร์ตี้ ก็มีจัดดิสเพลย์ไว้ให้ลองด้วย Bling in The Sea Collection ทรายเสียดายมากที่ไม่สบาย เลยไม่ได้ไปร่วมงานเปิดตัวคอลเลคชั่นนี้ แต่เค้าก็ยังใจดีส่งมาให้ได้อัพเดตกัน ทรายว่าใครชอบสีแนวเขียวฟ้า น้ำทะเล ต้องเลิฟสุดๆ เพราะแต่ละไอเทมจะออกแนวที่ได้ แรงบรรดาลใจจากทะเล จากมหาสมุทรล้วนๆ ตอนนี้ทรายหัวเขียวด้วย สามารถจิ้นว่าตน เป็นนางเงือกเวลาหยิบมาใช้ได้เลย กร๊ากกกกกก ทรายหยิบเด่นๆมาแนะนำละกันนะ Color Pop เป็นลิปสติกสูตรน้ำใสๆแต่สีชัดอย่างที่เห็นเลยค่ะ แป้งอันนี้ที่จริงมันเอาไว้ทาตรงแก้ม เหมือนเป็นบรัช เป็นไฮไลต์ มันไม่ออกสี แต่วิ๊งค์ของมัน แปลกมากๆ เหลือบชมพูเหมือนไข่มุก ทรายกรี๊ดตั้งแต่ได้ลองที่SG โดนมาก ดีใจที่ได้มาด้วย ส่วนอันนี้คงไม่ต้องแนะนำมาก Tear Eye Liner เหมือนน้ำตานางเงือก เราว่าเป็นกลิตเตอร์ สำหรับเอามาปาดๆตรงตาที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ที่จริงมันมี3สี อันนี้สีเบสิค แนะนำว่า อย่าแบบจิ้มทีเดียวเยอะ จุ่มแล้วปาดที่ปากมันหน่อย ทาบางๆเบาๆ จะดูวิ๊งค์มาก จบไว้เท่านี้ก่อนแล้วกันนะมาถึงเซอร์ไพรส์!!!!! สำหรับแฟนบล็อก ทรายมีของที่ระลึกมาฝาก เป็นของที่ทรายได้มาจากปาร์ตี้ และรวบรวมของตัวเองจัดเซ็ทให้ไปในกล่องของขวัญที่พิเศษ ยิ่งกว่า!!! เพราะว่ามีลายเซ็นต์ของ1หนุ่มวงShiNee อยู่บนนั้นด้วย เซ็นต์ด้วยปากกาเองเลยนะ (ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าน่าจะของหนุ่มแทมิน) ให้ไปหมดนี้เลย แต่มีกติกานิดนึงนะ คำถาม: หากได้ไปด้วยกัน อยากชวนทรายไปสร้างวีรกรรมเด็ดๆอะไรในPartyบ้าง? ขอ1ไอเดียที่มั่นใจว่าเด็ดสุด ตอบลงที่กล่องคอมเมนต์ด้านล่างบล็อกนี้ได้เลย อย่าลืมทิ้งอีเมลล์ที่สามารถติดต่อได้ไว้ด้วยนะคะ วีรกรรมของใครโดนใจทรายที่สุด จะเป็นผู้โชคดีได้รับกล่องของขวัญ พร้อมของที่ระลึกไปหมดเลยจ้า  เล่นได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 22 กันยายน 56นี้ค่ะ ประกาศผลวันที่ 23 กันยายน 56 ที่นี่บล็อกนี้ และที่หน้าแฟนเพจ feonalita จ้า  ประกาศผล  : meememi_mi@hotmail.com  ยินดีด้วยจ้ะ  Disclaimer: Sponsored Content by Etude House   Create Date : 16 กันยายน 2556     Last Update : 23 กันยายน 2556 3:33:33 น. Counter : 7051 Pageviews.   80 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com