แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
Group Blog
 
All Blogs
 

Walt Disney's : The Little Mermaid

ไม่ได้กลับมาเขียนบล็อคเสียนาน ...


นานจนลืมไปแล้วว่า มันลงเพลงยังไงกันหว่า ... แต่ก่อนลงได้ลงดี แต่ตอนนี้ไม่มีแหล่งจะโหลดเพื่อมาลงซะแล้ว เพราะอีกไม่กี่วันจากนี้ Geocities เขาจะไม่มีให้ใช้ฟรีอีกต่อไปแล้ว



เศร้า ... ไร้คำบรรยาย


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@





เงือกน้อย เป็นผลงานอีกชิ้นนึงที่ดิสนีย์ฝากฝีมือไว้ในใจเด็กที่รอคอย เพลงประกอบเพราะ ภาพถือว่าโอเค เนื้อเรื่องแจ่ม และที่สำคัญ อู้ว์...แม่เจ้า ไม่อยากเชื่อก้อต้องเชื่อ


พระเอกเรื่องนี้มีบทบาทมากมาย จนเป็นเจ้าชายที่ฮิตติดอันดับในชาร์ตของเด็กที่รอคอยเชียวนะ แถมเป็นเจ้าชายที่ไม่ถือตัวค่อดๆ หล่อ และมีน้ำใจงาม ได้คะแนนไปบานตะไท



โฉมหน้าเจ้าชายเอริคที่ตกเป็นข่าว




เอเรียล นางเอกของเราเป็นเด็กสาวอายุ 16 ปี ธิดาองค์เล็กของจ้าวสมุทรไทแทน (ที่ถูกก้อคือน่าจะเป็นเทพเนปจูนน่ะแหละนะ) ด้วยความที่เป็นลูกคนเล็ก อีกทั้งมีโฉมงามและมีน้ำเสียงที่ไพเราะดังเสียงระฆังกังวาลใส จึงเป็นลูกรักที่สุดของจ้าวสมุทรผู้ยิ่งใหญ่


เด็กผู้หญิงเนี่ย ...เขาว่ากันว่าเมื่อตอนเล็กๆจะติดพ่อมาก จนทำให้พ่อก้อติดลูกมาก ตราบจนอายุเข้าวัยสะรุ่น มันจะเริ่มออกลายไปกับพ่อไม่ค่อยได้และ

อันนี้ไม่รู้นะพอดีบ้านเด็กที่รอคอยไม่เคยเป็นดังกล่าว เพราะว่าที่บ้านเลี้ยงมาคล้ายๆลูกชาย ไม่ก้อลูกหมาป่า ไม่ได้มาพะเน้าพะนอเหมือนพ่อแม่นางเอกละครหลังข่าว ... แต่เหมือนว่าตอนนี้พ่อก้อเริ่มๆจะดีใจที่มีลูกอยู่บ้าน คาดว่าคงเหงา แล้วไอ้ลูกก้อตัวดื่มซะด้วย พ่อจึงได้เพื่อนดื่มสมใจ ...


ตอนยังเด็กมันบอกว่าไม่ชอบให้พ่อดื่ม
พ่อก้อเกรงใจลูก ดื่มแค่พอรู้รส

พอโตขึ้นมันดวดซะหัวราน้ำ ไม่เลือกยี่ห้อ
พ่อได้แต่มองตาปริบๆ ...

ที่พ่อยังไม่รู้ก้อคือ ...ไอ้ขวดที่ตั้งใจเก็บไว้ลิ้มรสอีกเกือบสิบปีหน้าด้วยราคาหลายกะตังค์เนี่ย ไอ้ลูกแอบฟาดหมดเรียบโร้ย เร้วววว ...


ภาวนาแค่ อย่าเพิ่งรู้ตัวไวนัก จะได้ฉกมาชิมได้อีกซัก 2-3 ขวด







@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


อยู่มาวันหนึ่ง เอเรียลโดนกามเทพแผลงศรเข้าอย่างจัง เมื่อพบกับเจ้าชายเอริครูปงามที่เดินทางมาล่องทะเล ... ยังไม่ทันจะได้ชื่นชมความหล่อเหลาของเจ้าชายได้เต็มที่ พายุก้อพัดเข้ามาถาโถมเรือของเจ้าชายเสียก่อน มีผลให้เรืออับปาง เจ้าชายผู้ใจงดงามช่วยเหลือคนทั้งลำเรือรวมทั้งเจ้าหมา(เอ่อ ต้องเรียกว่าสุนัขทรงเลี้ยงมั้ยนี่?) แต่ตัวเองดันหนีไม่ทัน เลยจมน้ำเองซะงั้น


ร้อนถึงเอเรียลผู้กำลังตกอยู่ในห้วงรัก แปลงกายจากเงือกสาวหุ่นอรชรเป็นนักยกน้ำหนักเกมส์โอลิมปิค ดำน้ำลงไปช่วยดึงร่างอันหนักอึ้งของเจ้าชายผู้เพาะกายจนมีกล้ามเป็นมัดๆ แล้วลากถู่ลู่ถูกังฝ่ากระแสคลื่นในพายุไปขึ้นชายฝั่งจนได้


พลังรัก มีปาฏิหาริย์เสมอ
ขอให้จงเชื่อมั่นในรักแท้

แต่พลังตกใจ ก้อมีอำนาจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ไม่งั้นคงไม่มีคนยกโอ่งได้ตอนที่หนีไฟไหม้กันหรอก ...





@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


ความรักเป็นเรื่องยาก ถ้าหากมีความแตกต่างกัน
แต่ไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่มีจิตใจแน่วแน่ มั่นคง รู้ใจตัวเอง

เอเรียลเป็นนางเงือก มีชีวิตอยู่ใต้ท้องทะเล มีแต่ความสุขจากสรรพสิ่งรอบกาย มีทุกอย่างเพียบพร้อมแล้ว

แต่ยังตะเกียกตะกายจะขึ้นไปเหนือน้ำ ใช้ชีวิตแบบมนุษย์ อยู่กับมนุษย์ที่มีแต่ความซับซ้อนในจิตใจ มีเล่ห์เหลี่ยมมารยา

เธอทำได้กระทั่งไปหาแม่มดแห่งท้องทะเล
ยอมแลกเสียงของตนเอง เพื่อให้มีขาของมนุษย์
แม้ว่าท้ายที่สุด เธออาจจะไม่ได้หัวใจของเจ้าชาย ไม่ได้รับความรัก
และเธอต้องกลายเป็นทาสของแม่มด ไร้ตัวตนใดๆในท้องทะเล ต้องจากพ่อจากครอบครัวไปชั่วนิรันดร์

แต่เธอก้อยอมเสี่ยง ขอแค่ได้อยู่ใกล้คนที่ตัวเองรัก


เอเรียลอาจจะยังไม่ใช่ตัวอย่างของความรักที่ควรเอาอย่าง
เพราะว่ามันอิงจากเทพนิยาย ยังไงเจ้าชายเจ้าหญิงก้อต้องได้ครองรักกัน


แต่ชีวิตมนุษย์ไม่ใช่นิยาย หลายๆคนก้อเลยต้องพบกับความผิดหวังก่อน

หรืออาจจะไม่มีวันพบกับเจ้าชายหรือเจ้าหญิงของตนเองเลย

หรือไม่ ก้อเหมือนอย่างที่ห้องสวนลุมฯเขามีปัญหากันนี่แหละ ไปหาอ่านได้มากมาย มันสารพัดจะมีแต่ปัญหาร้อยแปดอย่าง หญิงชายสมัยนี้ขยันทำเรื่องพอกัน อ่านแล้วก้อปวดหัว


แต่รักแท้ ไม่ใช่สิ่งที่ไม่มีจริง
มีแต่ "คน" ที่ไม่มีความจริงใจเท่านั้น ที่บังเอิญเกลื่อนโลกนี้มากไป


เด็กที่รอคอยเชื่ออย่างนั้น ...










 

Create Date : 15 ตุลาคม 2552    
Last Update : 15 ตุลาคม 2552 3:18:21 น.
Counter : 8464 Pageviews.  

เมื่อ อ.ทาคาฮาชิ มิยูกิ ทำพิษกับ INNOCENT GAME

หลายท่านอาจจะนึกงานของ อ.ทาคาฮาชิไม่ออก แต่ถ้าถามว่า ได้เคยอ่าน คนไร้ภพ หรือ เอล กันบ้างหรือเปล่าเอ่ย?


น่าจะมีอย่างน้อย 7 ใน 10 คนตอบว่า "อ๋ออออออ..."

(... อ๋อแล้วก้อตามด้วย "เคย" นะ ไม่ใช่อ๋อแล้ว เอ๋อต่อ ว่าใครวะ.. )


เด็กที่รอคอยก้อเคยอ่าน คนไร้ภพ แบบผ่านๆตาอยู่บ้างเหมือนกันหลายปีมาแล้ว แต่ไม่ได้ติดตามเพราะช่วงนั้นไม่อยู่ในภาวะเกาะติดสถานการณ์การ์ตูนได้ พอถึงตอนนี้ซึ่งพอจะมีโอกาสเกาะ ก้อพลันนึกขึ้นได้อีกทีว่า ... ไอ้เรื่องนั้นมันไม่จบหรือว่ายังไงกันหว่า แต่ก้อยังไม่ได้ไปตามหาอ่านทวนซ้ำอีก เพราะจำได้ลางๆว่าเป็นวิบูลย์กิจแนะนำทีมคุณภาพ

(ประชดนะน่ะ... )


แต่พอเห็นว่า เอล เอามาพิมพ์ใหม่ท่าทางไฉไล และแม้จะเก็บไม่ครบแต่ก้อน่าจะอ่านได้ปริมาณที่ไม่ตกหล่น ก้อเลยตามซื้อเก็บ ขณะนี้ได้มา 7 เล่มแล้ว โดยเล่มที่ 7 เป็นของมือสอง มองเห็นความแตกต่างของสีกระดาษโดยสิ้นเชิง เดาว่ามันคงมีอายุนานหลายปีอยู่เหมือนกันกว่าที่รุ่นหลังจะพิมพ์ซ้ำให้อีกครั้ง เอาน่ะ ... แค่นี้ก้อต้องถือว่าเป็นบุญแล้วล่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะ VBK (เอ๊า! นี่ก้อประชดไม่เลิก ) และหลังจากเก็บครบ 7 เล่ม เด็กที่รอคอยก้อไม่ได้ใส่ใจอะไรกะ อ.ทาคาฮาชิ อีกเลย


ตราบจนกระทั่งเมื่อคืนวานนี้


แวะเช่าการ์ตูนมาอ่านเล่น (ทั้งๆที่การ์ตูนของตัวเองที่ซื้อมาก้อยังอ่านไม่หมด แต่อย่างว่า ปลูกบ้าน แต่งงาน ยังต้องมีฤกษ์เลยนี่นา นับประสาอะไรกะการ์ตูน ) ระหว่างที่เลือกอยู่อย่างทำเวลา ...เพราะดันโผล่หน้าไปเช่าเค้าตอนสี่ทุ่มปาเข้าไปแล้ว ก้อเลยหาตาหูเหลือก แต่โชคชะตาก้อให้ไป จ๊ะ เข้ากะเรื่องนี้แฮะ ...


INNOCENT GAME เพิ่งจะพิมพ์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2000 นี้เองด้วย ว้าว ... ยังเอี่ยมอ่องอยู่เลย ยังไม่ทันอ่านเรื่องราวโดยคร่าวๆ แต่พลิกๆดูแล้วลายเส้นเหมือน เอล เด๊ะ งานของ อ.ทาคาฮาชิด้วย คงหักเหลี่ยมกันบรรลัยเลย เอาล่ะวะ!ได้การ์ตูนคุณภาพอ่านละ ดีใจจัง






@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

กลับมาบ้าน อาบน้ำกินข้าว เปิดคอมโหลดไฟล์ (โหลดมาสามวันแล้วยังไม่เสร็จเลย แม้มิใช่ไฮสปี๊ด แต่เนตชาวบ้านก้อสู้ตายนะอ่ะ! ) นอนอาบแอร์ แล้วพลิกการ์ตูนเรื่องที่หมายมั่นมาอ่านด้วยหน้าตาเคร่งขรึม


อ่านได้ประมาณ 20 หน้า หัวเราะพรืด ... แล้วก้อรู้สึกตัวทันใด ... โห หมู่นี้เส้นตื้นเพราะดูละครไทยมากไปแหงๆ วิญญาณไม่อยู่กะเนื้อกะตัว อ่านยังไงให้หัวเราะไปกับการประชดเสียดสีเล็กๆของ อ.ทาคาฮาชิ เอาใหม่! ตั้งใจอ่านต่อ ...



ประมาณ 5 หน้า ผ่านไป ... หัวเราะ ฮ่าๆๆ ออกมาซะ!


อะไรกันวะเนี่ย??!! มันมีซัมซิงรอง กะการ์ตูนเรื่องนี้หรือไง ทำไมเราหักห้ามอารมณ์ไม่ได้เลยวะเนี่ย


ทำไมเราถึงหัวเราะล่ะ!


เอ้า! เอาใหม่ ตั้งใจอ่านอีกครั้ง


คราวนี้ค่อยยังชั่ว เริ่มกลับสู่สถานการณ์ปกติแล้ว ... แต่พอจะจบบทแรก เด็กที่รอคอยก้อขำก๊ากกกก ออกมาอีก! โอ๊ยยยยย!!! นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมเราห้ามอารมณ์ไม่ได้เลย ไม่จริ๊งงงงงง ไม่จริงงงงงง!!!





หลังจากเอ๋อรับประทานในบทแรกไปแล้ว เด็กที่รอคอยก้อนั่งทำใจพักนึงเพื่อจะรับมือกับบทต่อไป เพราะสังหรณ์ใจแปลกๆว่า มันคงจะต้องมีอะไรให้ฮาอีกแน่ๆไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอก


และก้อจริงเสียด้วย



สรุปข่าวสั้นทันโลกให้เลยก้อแล้วกัน ผลงาน INNOCENTGAME ของ อ.ทาคาฮาชิ มิยูกิ เป็นงานเขียนแนวตลกแบบหน้าตายเลยล่ะ คอนเฟิร์ม เพราะพอจบบทที่ 3 ก้อมีเขียนถึงความในใจของ อ.ทาคาฮาชิ ซึ่งขอบอกว่า


เรื่องราวของตัวแกเองนั่นแหละที่ ฮาแตก ยิ่งกว่างานเขียนของแกซะอีก!


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


อาจาร์ยเขียนเล่าไว้ว่า เรื่อง INNOCENT GAME นี้เป็นงานเขียนแนวคอมเมดี้ ที่นับว่าหาได้ยากมากจากงานเขียนสารพัดสารเพของแก ครั้งแรกที่แกวาดไว้เนี่ย เป็นผลงานเดบิวเลยล่ะ เป็นเรื่องราวสมัยก่อนนู้นนนนนน ที่แกยังเป็นพนักงานออฟฟิศที่เพียงชอบการเขียนการ์ตูนเป็นงานอดิเรกแต่ไม่เคยคิดจะยึดเป็นอาชีพ เพราะมันไม่ได้เป็นกันง่ายๆ


และแรกเริ่มเดิมที แกก้อตั้งใจอยากเขียนการ์ตูนผู้หญิง แต่ไม่ว่าจะส่งเรื่องไปให้สำนักพิมพ์ดูกี่ที ก้อไม่เคยสัมฤทธิ์ผลก้อเลยเริ่มจะซาๆความตั้งใจไป อยู่มาวันนึง แกก้อเกิดไปเหลือบเห็นการ์ตูนในร้านขายที่อยู่ในระหว่างทางไป-กลับบ้านกับบริษัท ว่า มีผู้หญิงที่วาดการ์ตูนลงในนิตยสารผู้ชายด้วย! เท่านั้นเอง อ.ทาคาฮาชิก้อตาสว่าง เพราะแกไม่รู้มาก่อน


แกคิดมาตลอดว่า ผู้หญิงวาดการ์ตูนผู้ชายไม่ได้!


พอเห็นว่าผู้หญิงมีผลงานลงในนิตยสารการ์ตูนผู้ชาย แกก้อดีใจมากมาย และทำให้ฮึดกลับไปวาดเรื่องส่งไปชิงรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ในโชเน็นแม็กกาซีนที่จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง (ดูเหมือนผลงานชิ้นนั้นจะชื่อ อิโตชิโนะคามิล่า) (แปลเป็นไทยว่าอะไรก้อไม่รู้ง่ะ ใครช่วยทีเฮ่ะ )


และเหมือนพระเจ้าจะบอกว่า อ.ทาคาฮาชิมาถูกทางแล้ว วันนึงที่บริษัทขณะที่ยังทำงานอยู่ก้อมีสายเข้ามาจากทางสำนักพิมพ์ บอกว่า อ.ทาคาฮาชิได้รางวัลนักเขียนหน้าใหม่สมใจ ได้มาทั้งรางวัลผลงานยอดเยี่ยมและเงินรางวัลร่วม 3แสนเยน


ผลงานเดบิวเรื่องนั้นได้ตีพิมพ์ในโชคันแม๊กกาซีนค่ะ





@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


หลังจากนั้นมา อ.ทาคาฮาชิก้อได้เขียนผลงานอีกชิ้นนึงซึ่งอยู่ในความดูแลของ บ.ก. สุภาพสตรีเพียงคนเดียวในตอนนั้นชื่อว่าคุณ E ซึ่งเป็นคนเข้มงวดและในขณะเดียวกันก้อสอนวิธีการเป็นมืออาชีพให้แก ช่วงนั้นแกเลยต้องวุ่นเป็นพิเศษถึงขนาดปั่นงานเขียนในช่วงพักเที่ยงที่บริษัท แต่ผลที่ตามมานั้นก้อถือว่าคุ้มค่า เพราะอ.ทาคาฮาชิได้รับการยอมรับให้เขียนเรื่องยาวลงหนังสือรายสัปดาห์

และนั่น ก้อคือจุดเริ่มต้นของการลาออกจากบริษัทที่ทำงานมาเป็นเวลา 3 ปีเพื่อที่จะมาเป็นนักเขียนการ์ตูนอาชีพ ของ อ.ทาคาฮาชิ มิยูกิ

และแน่นอน ... เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่แสนงดงามจากการ์ตูนเด็กผู้ชายแนวตลกไปเป็นการ์ตูนเด็กผู้หญิงแนวเคร่งเครียด (แล้วแกก้อแซวตัวเองว่า "ไม่เห็นจะงดงามตรงไหนเลย!" จริงๆแกแอบฮามาก ถูกใจเด็กที่รอคอยมากเชียวนะเนี่ย!)


หนทางการเป็นนักเขียนการ์ตูนเด็กผู้หญิงของ อ.ทาคาฮาชิ ค่อนข้างมีอุปสรรคเยอะเอาการ กว่าแกจะผ่านพ้นมาได้ก้อเรียกว่าเหนื่อยแทบแย่ และก้อต้องคอยระวังเรื่องลายเส้นที่วาดด้วย เพราะเผลอทีไร แกเป็นวาดเส้นหนา ช่องรูปสี่เหลี่ยมเป๊ะๆตามสไตล์การ์ตูนผู้ชายทู๊กกกก ที .... ช่วงนึงแกเคยรับเขียนงานถึง 4 เรื่องใน 1 เดือน เพราะไม่สามารถตัดใจจากอะไรได้ซักอย่าง

(เลยต้องรวบทำหมดทุกอย่าง นับเป็นความซวยของแกเจรงเจร๊งงงงง )


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


และในที่สุด อ.ทาคาฮาชิ ก้อได้ทำงานกับ "มิสเทรี่ โบนิตะ" โดยผลงานชิ้นแรกกับหนังสือเล่มนี้ก้อคือ เอล


จำได้ลางๆเหมือนกันว่า แกเคยเขียนในช่องเล็กๆซักช่องนึงในเรื่องนั้นว่า แต่แรกแกไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องยาว แต่พอเขียนไปเขียนมา ดันฮิตติดลม กลายมาเป็นเรื่องยาวให้แกตกใจเล่นซะงั้น แกอธิบายว่า "พอกลายมาเป็นเรื่องยาวก็ดีใจและวุ่นในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ผลงานที่ลงแบบไม่มีกำหนดก็ยังไม่จบ บางทีต้องวาดลงหน้าใหญ่" (คิดว่าคงเป็นเล่มหนาใหญ่ๆแบบรายเดือนของญี่ปุ่น)


และตอนนั้นเองก้อมีคนติดต่อเข้ามาให้แกช่วยวาดเรื่องจบในตอนลงใน "มิสเทรี่ โบนิตะ สเปเชี่ยล" ตัวแกเองก้อกำลังอยากเขียนงานใหม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก้อเลยตอบตกลงไปด้วยความดีใจ ผลงานเรื่องนั้นชื่อว่า คิวบังเมโนะ มุซาชิ (มุซาชิหมายเลข 9) ค่ะ






^
^
^

ได้ข่าวว่า ที่เห็นเนี่ย ... คือ นางเอกนะ อายุ 16 แถมอยู่ในวงการสายลับมาเป็นสิบปี เก่งขนาด!

และอาถรรพ์เรื่องสั้นก้อได้ตามมาหลอกหลอนแกอีก เมื่อเรื่องที่ตั้งใจจะวาดให้จบในตอนนี้ ดันกลายเป็นเรื่องยาวอีกครั้ง ไม่รู้แกไปทำบุญด้วยอะไรไว้ อานิสงส์แรงมาก ตั้งใจจะทำอะไรมักพลิกผันเสมอ เรื่องมุซาชิ นี่ก้อได้ยินว่า ยังมีผลงานอยู่นะคะ แต่เด็กที่รอคอยก้อไม่เคยเห็นนะ


แกแอบเขียนให้ฮาด้วยว่า แต่เดิมที่แกเขียนเรื่อง เอล นั้น ในห้องแกจะมีบรรยากาศ ทะเล๊ทะเลอยู่เต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น ภาพวาดชายหาด ทะเล ของประดับห้องจำพวก เปลือกหอย เฟอร์นิเจอร์ หนังสือท่องเที่ยว อะไรต่างๆนาๆ แต่พอเริ่มหันมาวาดมุซาชิซึ่งบู๊สะบั้นหั่นแหลกนั้น ห้องแกเลยเต็มไปด้วยหนังสือสปาย กองทัพทหารเครื่องบินรบอาวุธสงครามเต๊มมมม ไปหมด โปสเตอร์ที่แปะไว้ในห้องก้อเป็นรูปกองกำลังป้องกันตนเอง ของตกแต่งห้องกลายเป็นปืนโมเดล แม้แต่เสื้อผ้าแกยังเป็นอาร์มี่ลุค ซะ โอ๊ยยย!! ฮาว่ะ


ย้ำนะคะ อ.ทาคาฮาชิมุ่งมั่นจะเขียนตูนผู้หญิง และเรื่อง เอล กับ มุซาชิ ก้อการ์ตูนผู้หญิงนะ(จะบอกหั๊ยยยยย ) งานเขียนก้อยังเป็นที่นิยมกัน


และที่แกกลับมาเขียนเรื่อง INNOCENT GAME ก้อคงเป็นเพราะแกคิดถึงบรรยากาศสมัยเริ่มแรกเขียนใหม่ๆเพราะแกมั่นใจเป็นอย่างมากว่าแกเองก้อมีแคแรคเตอร์ตลกๆอยู่ในตัว พลันก้อมีเสียงจากสวรรค์(หัวหน้า บ.ก.) ว่า อยากเขียนเรื่องใหม่บ้างหรือเปล่า อ.ทาคาฮาชิเลยตกปากรับคำทันทีทันใด กลายมาเป็นเรื่องราวของ 3 พี่น้องตระกูลโทโมเอะที่ยิ่งใหญ่และแบกรับไว้ซึ่งภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงของเจ้าเมือง แม้จะมีอำนาจสั่งเป็นสั่งตายได้ แต่ก้อไม่อาจออกมายังโลกภายนอกได้ (แต่มันก้อยังอุตส่าห์แอบยกพวกหนีกันออกมาจนได้สิน่ะ!)


"เริงร่าเหมือนปลาได้น้ำ" ( <<< เนี่ย แกว่าเงี้ย )


INNOCENT GAME นี่เห็น อ.ทาคาฮาชิบอกไว้ว่า ตั้งใจจะเขียนแค่ สามบท ไปๆมาๆมันก้อยืดไปเป็น 6 บท และมีทีท่าว่าน่าจะมีโผล่ออกมาอีกถ้าแกยังมันส์ในอารมณ์อยู่ (อย่าลืมว่าแกยังมีเรื่องที่เขียนไม่จบอีกเพียบ คนไร้ภพ จบยังหว่า แต่ดูท่า ไทยเราจะไม่มีโอกาสได้อ่านจนจบแหงๆ ฟันธง
)


ถ้ามีโอกาส ก้อลองหามาอ่านดูนะคะ คงจะทำให้รู้สึกแปลกอยู่บ้างที่อ่านงานเขียนของ อ.ทาคาฮาชิ มิยูกิไปแล้วหัวเราะไป แต่เด็กที่รอคอยว่า


แปลกแบบนี้ มันก้อไม่เลวเลยล่ะ







ป.ล. อ่านบทความเกี่ยวกับ มุซาชิหมายเลข 9 ได้ที่นี่นะคะ มี นิโหน่ย แต่ภาษาอังกฤษเน้อ


//images.google.com/imgres?imgurl=//www.readaboutcomics.com/images/012005_musashi01.jpg&imgrefurl=//www.readaboutcomics.com/2005/01/20/musashi-9-vol-1/&h=220&w=150&sz=33&hl=en&start=5&um=1&tbnid=AtI22f7vurdzUM:&tbnh=107&tbnw=73&prev=/images%3Fq%3Dtakahashi%2Bmiyuki%26svnum%3D10%26um%3D1%26hl%3Den%26sa%3DG




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2550 4:25:34 น.
Counter : 2605 Pageviews.  

Walt Disney's Beauty and the Beast

ว่าจะเขียนถึงมานานแล้วแต่ไม่สบโอกาสซะที เด็กที่รอคอยชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากพอสมควร และเป็นการ์ตูนที่พัฒนามาถึงยุคที่ใช้วิวัฒนาการของระบบดิจิตอลที่ เมื่อดูแล้วยังรู้สึกถึงความคลาสสิค ไม่มีกลิ่นไอของความใหม่จนเกินไป อย่าง Atlantis หรือ มู่หลาน ...


บางทีของแบบนี้ก้ออยู่ที่ผู้กำกับด้วยอ่ะเนอะ หนังเรื่องเดียวกันให้ผู้กำกับคนละคนมาทำ ยังได้หนังคนละแบบเลย เคยเห็นมาแล้วใช่มั้ยล่ะ


อย่าง คู่กรรม นั่นประไร... ทำไปทำมา สุดท้าย มันก้อกลายเป็นคู่เวร อย่างที่คุณหญิงทมยันตีพูดจริงๆ


แหม๊...


สงสารแกจังเลย พับผ่า!







อ่ะ อ่ะ ออกทะเลไปซะแล้ว กลับมาที่ Beauty and the Beast กัน






ปี ค.ศ 1991 เรื่องราวของสาวน้อยผู้งดงามที่มีความรักกับเจ้าชายที่ถูกสาปให้เป็นอสูรร้าย ได้ถูกสร้างเป็นหนังการ์ตูนเรื่องที่ 30 ของวอล์ทดิสนีย์ และเป็นเรื่องที่มาแรงชนิดถูกส่งชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ร่วมกับภาพยนตร์ต่างๆได้อย่างไม่อายใคร รู้สึกว่าจะได้รางวัล Best Original Score and Best Song จาก Golden Globe แล้วก้อ ออสการ์นี่ล่ะมั้ง



จะว่าไปแล้ว มันเป็นความลงตัวที่ถือว่า ดีมากทีเดียว ทั้งเพลวประกอบ ทั้งฉากที่วาด บท แล้วก้อภาพที่ออกมานั้นสวยมากๆ โดยเฉพาะฉากที่ เบลล์ เต้นรำในบอลรูมในยามค่ำคืน เห็นดาวประกายวิบวับจากโดมกระจกแก้ว ... เล่นเอาเด็กที่รอคอยแทบจะกินแกลบเพราะตั้งใจขนาดว่าจะเก็บตังค์ซื้อคฤหาสน์ที่มีโดม ... เออ เอากะมันสิ






สาวน้อยแสนสวยของหมู่บ้าน ได้ยอมเสียสละตัวเองโดยยอมเป็นนักโทษคุมขังแทนพ่อของเธอที่หลงเข้าไปในคฤหาสน์ของอสูรร้าย จนได้เรียนรู้ว่าที่จริงแล้วอสูรตนนั้นไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่เข้าใจ แต่เพียงเพราะเขามีรูปร่างหน้าตาที่น่ากลัวไม่เหมือนมนุษย์ แท้จริงแล้วเขามีจิตใจดีงามยิ่งกว่าคนที่มีใบหน้าสวยเสียอีก อย่างเช่น แกสตอง... หนุ่มหล่อ ยโส โอหัง อวดดี และหยาบคายประจำหมู่บ้านผู้หวังจะได้ เบลล์ ไปเป็นภรรยา เพียงเพราะความเชื่อที่ว่า ผู้ชายที่ดูดีที่สุด ควรคู่กับผู้หญิงที่ดูดีที่สุด เท่านั้นเอง


ไม่มีความรัก

ไม่มีความเข้าใจ


และ ไม่มี แม้แต่ มนุษยธรรม ในการทำให้ความต้องการของตัวเองสมหวัง


มนุษย์ ผู้ซึ่งดูว่าน่าจะประเสริฐกว่า กลับมีจิตใจต่ำช้ายิ่งกว่าผู้ที่ถูกเรียกว่า อสูร เสียอีก







การที่การ์ตูนเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ ก้อเพราะส่วนนึงจากดาราตัวประกอบทั้งหลาย อย่าง ลูเมียร์ มิสซิสพ็อตส์ ชิพ หรือ แม้แต่คนที่ชอบขัดขาอย่าง ค๊อกส์เวิร์ธ ที่ทำให้เด็กๆตื่นตาตื่นใจและชื่นชอบอย่างไม่ยากเย็นนัก เพราะในโลกแห่งความฝัน ใครๆก้ออยากได้เพื่อนดีๆที่เป็นอะไรมากกว่า มนุษย์ ด้วยกัน มันเท่ห์ดีนะเอ้อ!






ลูเมียร์เนี่ยแหละที่เท่ห์และดูดีมีเสน่ห์ สมกับเป็นหนุ่มเจ้าสำราญชาวฝรั่งเศสที่ร่ำลือกัน แต่พึ่งพาได้ 100% เลยจ้ะ




เพราะว่าเบลล์เป็นคนรักการอ่าน ลูเมียร์จึงเป็นผู้ช่วยในเรื่องการให้คำปรึกษาปัญหาความรักของเจ้าชายอสูรว่า ควรจะให้ของขวัญที่จะทำให้ประทับใจอย่างลืมไม่ลง


ห้องสมุดของคฤหาสน์

(หรือควรจะเรียกว่า ปราสาทดีนะ
) จึงเป็นของขวัญที่เรียกคะแนนจากเบลล์ อย่างเต็มประตู




โห... ถ้าเป็นการ์ตูน บวกกะนิยายแถมด้วยหนังสือวิชาการที่อยากได้ๆอยู่ละก้อ เป็นเด็กที่รอคอย ก้อรักค่ะเจ้าชายอสูรน่ะ น่ารักซะขนาดนั้น กรี๊ดดดด!!






ท้ายที่สุดแล้ว เบลล์ก้อรักกับเจ้าชายอสูร จนสามารถกลายร่างกลับคืนมาเป็นมนุษย์ได้ก่อนที่คำสาปจะไม่สามารถแก้ได้ ความรักเท่านั้นที่ได้ช่วยให้เขากลับคืนสู่สภาพเดิมและพบกัยรักแท้ที่รู้จักการให้ การเสียสละ และการอภัย ...



แต่คำถามนึงนะ


เค้าบอกว่า คำสาป จะต้องถูกแก้ก่อนที่เจ้าชายจะอายุ 23 ...ไม่ใช่เรอะ หรือว่า 21 นี่แหละจำไม่ได้


นี่แสดงว่า...



เจ้าชาย ก้อโดนสาป ตั้งกะอายุ 11 อ่ะเด่ะ ก้อเรื่องราวมันผ่านมาร่วมสิบปีเลยนี่นา ไหนใครช่วยมาตอบทีว่า เด็กที่รอคอยเข้าใจถูกป่ะเนี่ย
















 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2549 3:16:40 น.
Counter : 1783 Pageviews.  

Nana

โดยปกติ เด็กที่รอคอยไม่ค่อยจะใส่ใจติดตามการ์ตูนเรื่องยาวที่ยังไม่อวสานเท่าไหร่นัก เพราะอยู่ห่างไกลความเจริญทางด้านการ์ตูนอย่างรุนแรง อย่างพวก HunterXHunter หรือ นารูโตะ อะไรที่เค้าว่าสนุกเนี่ย... ไม่ต้องคิดถามเลยว่าชอบมั้ย


ไม่เคยอ่านจ้ะ ...



แต่แล้ววันนึง เด็กที่รอคอยก้อได้เผลอไผลไปกับเรื่องนานะ เพราะเพื่อนคนนึงบอกว่า สนุกดี ก้อเลยไปลองซื้อมาอ่านดูหน่อยเพราะเห็นพิมพ์ออกมาได้หลายเล่มแล้วเหมือนกัน และก้อปรากฏว่า........



แฮ่ะๆๆ....

ได้กลายเป็นแฟนนานะไปแล้วโดยปริยายจ้ะ






ถ้าจะถามว่าชอบตัวละครไหนที่สุด ก้อเห็นท่าจะตอบยากอยู่สักหน่อย... เอ่อ ... เพราะว่าแต่ละคน มันช่างขยันหาเรื่องวุ่นวายเสียจริงๆเลยสิน่า ถ้าจะถามว่าในขณะนี้ใครดีที่สุด ก้อคงจะเป็น ยาสุ ที่เป็นมือกลองของวง Blackstone นี่แหละ เพราะท่าทางมีจุดยืนของตัวเองมากที่สุดแล้ว ส่วนคนอื่นๆนี่ก้อยัง... ค่อนข้างลูกผีลูกคนอยู่เลย เฮ้อ...






ยาสุ หรือ ยัตซัง... แม้จะเหม่ง แต่ก้อเจ๋งนะจ๊ะ เป็นนักเรียนกฏหมาย ปัจจุบันก้อทำงานเป็นทนายฝึกหัด พร้อมกับเป็นมือกลองของ Blackstone ไปด้วย และที่สำคัญ ยัตซังมักจะมีคำพูดดีๆเตือนสติหลายอย่างเลย






นานะทั้งสอง ตัวเอกของเรื่อง





โอซากิ นานะ นั้น "รักที่จะได้ฝัน" จากเด็กชนบทติดทะเล กลายมาเป็นนักดนตรีสมัครเล่นในเมืองหลวงเพราะความมุ่งมั่นอยากที่จะโด่งดัง และไม่อยากน้อยหน้าคนรักของตัวเองซึ่งมีทุกอย่างอยู่ในกำมือ ทั้งพรสวรรค์ด้านดนตรี ทั้งเป็นนักดนตรีอาชีพ ทั้งชื่อเสียง ถ้าหากว่าเธอ จะคิดอยากเป็นแม่บ้านธรรมดาๆที่คอยทำอาหารไว้รอรับการกลับมาจากทำงานของคนรักแล้วล่ะก้อ ชีวิตของเธอก้อคงจะไม่ต้องฝ่าฟันมากมายเช่นที่เป็น


แต่ถ้าหากไม่มีความฝัน ...


นานะ ก้อคงไม่ใช่นานะ








โคมัทสึ นานะ กลับ "ฝันที่จะได้รัก" แม้ว่าจะมีความรักที่ไม่สมหวังมากี่ครั้งก้อตามที เธอก้อไม่เคยหยุดที่จะรักและหวังว่าจะมีใครรักเธออย่างสุดหัวใจบ้าง เรียกได้ว่า ถ้าคนอย่างนานะคนนี้ไม่มีแม้กระทั่งความรักแล้วล่ะก้อ...


ทั้งชีวิต ก้อคงจะไม่มีอะไรเลย(ล่ะมั้ง )






ตอนแรกที่อ่าน ก้อรู้สึกไม่ค่อยจะถูกชะตากับโคมัทสึ นานะ หรือ ฮาจิ(ชื่อเล่นที่โอซากิ นานะ ตั้งให้ อย่างฮามากขอบอก! ) เพราะว่าเธอช่างไม่นิ่งเอาซะเลย อะไรๆก้อวิ่งตามความรักซะจนรู้สึกเหนื่อยแทนเลยนะเนี่ย แต่พออ่านจนถึงตอนที่เธอมีความรักอย่างจริงจังกับคนรักที่เป็นของเธอจริงๆคนแรก ก้อกลับรู้สึก ตีบตันและสะอึกในใจ ยังไงก้อไม่รู้...



ประโยคเด็ดประโยคเดียวที่ทำให้น้ำตาซึมออกมาก้อคือ ตอนที่นานะพยายามให้ฮาจิพูดต่อว่าคนรัก(โชจิ) เพื่อจะดึงเอาเขากลับมาจากผู้หญิงอื่น ฮาจิทำได้แค่ร้องไห้เงียบๆแล้วส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า "..ไม่เอาแล้ว.... ไม่เอาอีกแล้ว!"

เออ แต่ก้อนะ ที่รู้สึกว่า อินซะเหลือเกิน ก้อ อาจจะเพราะว่า ....

เราเคยทำเหมือนกับนานะมาแล้วล่ะมั้ง....






แสนนนนนนนน จะไม่ชอบ ทั้งแม่ซาจิโกะ และอีตาโชจิ ... แต่ก้อนะ ...ฮาจิเองก้อนึกถึงแต่ตัวเอง แม้จะพยายามหางานทำ พยายามอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ก้อตามที แต่ก้อเป็นอย่างที่เพื่อนสนิทเตือนสติให้ฟังจริงๆนั่นแหละ ถ้าหากว่านานะจะมีเวลาให้กับโชจิมากกว่านั้นอีกหน่อย เขาก้ออาจจะไม่ไปไหลไกล...

แต่ว่านะ ยังไงก้อยังน่าประนามอยู่ดี สมควรแล้วล่ะ ที่ให้นานะด่าเอาได้ว่าเป็นผู้ชายทุเรศเห็นแก่ตัว



ส่วนผู้ชายอีกคนที่ดีมิใช่น้อย ก้อเห็นจะเป็นหมอนี่ล่ะมั้ง ... เรน เองจ้ะ แฟนนานะ ที่จริงแล้วก้อนิสัยโอเคนะ ถึงจะเคยเป็นเสือผู้หญิงแต่ก้อทิ้งลายไปแล้วล่ะ รักนานะคนเดียว









สงสัยวันนี้จะโหลดนานหน่อย เพราะรูปมันเยอะเหลือเกิน ทนเอาหน่อยนะจ๊ะ เจ้าของบล๊อคก้อกำลังอัพบล๊อคไป ดูแดร๊คคิวล่าไป มันเข้ากันตรงไหนหว่า...?




ตอนนี้เรื่องนานะก้อได้ดำเนินไปมากโข ใกล้จะจบแล้วล่ะมั้ง อีกทั้งยังมีหนังออกมาฉายแล้วด้วย (อยากดูจัง ) หวังว่าคงอีกไม่นานเด็กที่รอคอยจะได้ดูกะเค้ามั่ง แต่ว่านะ ยังไม่ได้อ่านเล่ม 10 เลยน๊า... อยากอ่านจัง จริงๆแล้วก้อชอบตอนที่นานะคบกับโนบุ แต่ว่า...รู้สึกว่าเธอจะเหมาะกะชายโฉดอย่างทาคุมิมากกว่าแฮะ ... หรือใครว่าไง?












เอ... จริงๆแล้ว ฮาจิ นี่ก้อน่ารักดีนิ ปากนิดจมูกหน่อย ดูจิ้มลิ้มดี ถึงไม่อวบอัดแต่ก้อ แฮ่ะๆๆ เซ็กซี่ชะมัดเลยน๊า.... แต่งตัวเก่งด้วยล่ะ ก้อเลยเป็นอีกเหตุผลนึงที่ชอบอ่านเรื่องนี้



คือ เด็กที่รอคอยเป้นคนแต่งตัวไม่เก่งน่ะ ก้อ...ทำไงได้ คนมันอ้วน



แต่ว่านอกเหนือไปจากเรื่องนี้ ก้อคงจะเพราะรู้สึกว่า มิตรภาพระหว่างผู้หญิงด้วยกันเนี่ย ที่จริงแล้วมันวิเศษจริงๆเลยน๊า.... แต่ว่า ทำไมมันเปราะบางนักก้อไม่รู้สิ


เด็กที่รอคอยเอง ก้อเจอแบบนี้เหมือนกันในชีวิตจริง...


มาดูพรรคพวกฝ่ายนานะ วง Blackstone หรือ Blast กันมั่ง
สมาชิกวงนี้มี โนบุโอะ ชิน ยาสุ แล้วก้อนานะ แต่ละคน...ดูช่างแปลกดีเหลือเกินแต่ก้อ มีเสน่ห์ดีนะ






ส่วนทางนี้ก้อ วง แทร็ปเนสต์ มี เรน ทาคุมิ นาโอกิ และ เรร่าผู้น่าร๊ากกกกกก ...โปรดสังเกต วันนี้เปิดเพลง Layla ของ เอริค แคล็ปตัน สองเวอร์ชั่น เอาใจ Nana สุดๆ






สงสารชิน เหมือนกันที่ดันมาหลงรักเรร่าเข้าให้จริงๆซะได้ แต่ท่าทางจะไร้หวังจัง .... อืมมม...

และก้อสงสารนาโอกิ เหมือนกัน ในเรื่องนี้ใครๆก้อเด่น แม้กระทั่ง จุนโกะ ทั้งแฟนจุนโกะ ทั้งยัยซาจิโกะ ทั้ง ซาโต้ โคอิจิ พนักงานร้าน Jackson's Hole ก้อยังเด่น แต่ทำไม๊........ ใครๆก้อหลงลืมนาโอกิซะหมดก้อไม่รู้ ฮ่าๆๆ (อ้าวเอ๊ะ..? ตกลงเด็กที่รอคอยสงสารเค้าใช่มั้ยเนี่ย?!)






นาโอกิ ที่โลกพร้อมใจกันลืม (แต่บทบาทอยู่ในเล่ม9 ตอนท้ายๆจ้ะ ฮิๆๆ อ.ยาซาว่าก้อไม่ใจร้ายนักหรอกน๊า)




มีคนบอกว่า เรื่องนานะดีพอเรอะ เพราะเหมือนจะส่งเสริมให้เด็กสาวๆเตลิดไปกับการที่มีคนรักแล้วต้องมีอะไรๆกันอย่างลึกซึ้ง ... เด็กที่รอคอยว่าเรื่องแบบนี้น่ะ กันไว้ดีกว่าแก้จะเป็นการดีกว่า เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว มันมี"พลาดกันได้"



แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเอาเยี่ยงอย่างบ้านอื่นเมืองอื่น เพราะบ้านเราเติบโตกันมาอย่างค่อนข้างหัวโบราณในเรื่องนี้ และในความหมายเดียวกันก้อคือ ... มันไม่ได้จำเป็นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้เพราะอายชาวบ้านเค้าถ้าเสียมันไปให้กับใครที่ไม่เห็นค่าของเรา


ชีวิตเป็นของมีค่านะคะ เราเองควรรักษาชีวิตของเราให้ดี มากกว่าที่จะให้ใครคิดรักษามัน ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ล้วนแล้วแต่เป็นบทเรียนที่มีค่าทั้งสิ้น พยายามเรียนรู้จากความผิดพลาด และเดินหน้าต่อไปอย่างกล้าหาญที่เคยผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นมาได้ และถ้ามีโอกาสก้อน่าจะช่วยผู้อื่นไม่ให้ตกอยู่ในสภาพเราที่เคยเป็นมา แม้ว่าเราจะต้องเสียน้ำตาในวันนี้ แต่วันหน้า จะต้องมีวันที่ฟ้าสดใสแทนวันพายุโหมกระหน่ำ


ลองอยู่ต่อกันอีกสักหน่อยเป็นไรไปล่ะ ...

เนอะ?
















 

Create Date : 30 ธันวาคม 2548    
Last Update : 31 ธันวาคม 2548 1:19:25 น.
Counter : 1896 Pageviews.  

Walt Disney's Aladdin





ตอนที่เด็กที่รอคอยอายุได้ 13 การ์ตูนเรื่องอะลาดินของดิสนีย์ก้อโด่งดังอยู่มิใช่น้อย ทั้งเนื้อเรื่องที่แสนเร้าใจ ทั้ง Robin Williams ที่เป็นเจ้าพ่อคอมเมดี้มาพากษ์เป็นเสียงของจินนี่ และเพลงที่แสนไพเราะนั้น ทำให้อะลาดินเป็นขวัญใจของเด็กๆได้ไม่ยากเลยในสมัยนั้น


ผิดกับสมัยนี้.....

ต้องปล่อยให้มันอยู่กับ Ragnarok ของมันไป ...



เห็นมันรักของมันจังเลยล่ะไอ้รักนรกเนี่ย ... เช้าสายบ่ายเย็นไม่กินข้าว เล่นแต่เกมส์ยังกับว่าเล่นแล้วมันอิ่มงั้นล่ะ...



ไม่รู้ซีนะ สมัยก่อนพ่อแม่เราว่าเราติดการ์ตูนยังไง เด็กที่รอคอยว่าไม่น่าจะร้ายแรงเท่ากับที่ติดเกมส์กันในสมัยนี้หรอกมั้ง ดูแล้วมันก้อชอบกลอยู่ ไม่ได้เล่นกับเขาด้วยหรอกนะแต่ได้ยินมาเหมือนกันว่าเล่นๆเกมนี้กันเนี่ย ได้ผัวได้เมียกันให้วุ่นวายมาหลายคู่แล้ว .... อ๊ะ! แต่วันนี้เรามาพูดเรื่องการ์ตูนสินะ!!


งั้นเข้าเรื่องต่อดีก่า






เรื่องราวของหนุ่มน้อย อะลาดิน หัวขโมยตัวยงแห่งอากราบาห์ในดินแดนอาหรับนั้น เป็นหนึ่งในบรรดานิทานอันแสนสนุกของเชเฮราซาดผู้ซึ่งได้รับคำร่ำลือว่าเป็นยอดหญิงที่สร้างตำนาน 1001 อาหรับราตรี กล่าวคือ เป็นสตรีผู้ที่รอดชีวิตจากการถูกประหารโดยกษัตริย์ผู้ซึ่งมีนโยบายฆ่าเจ้าสาวหมาดๆของพระองค์เองในเช้าวันรุ่งขึ้นของทุกวัน เหตุก้อเพราะว่า พระองค์ได้ถูกมเหสีองค์ก่อนนี้สวมเขาเอา จึงเจ็บช้ำใจและไม่เชื่อในตัวสตรีใดอีกเลย

ในยามนั้นสตรีพรหมจรรย์ทั่วอาหรับต่างก้อหวาดกลัวถึงชะตากรรมของตัวเองหากต้องถูกเลือกให้เป็นเจ้าสาวของพระองค์ จนกระทั่งเชเฮราซาดซึ่งเป็นธิดาของขุนนางชั้นสูงเสนอถวายตัว และได้กลายผู้ทำลายกฏนั้นได้ด้วยไหวพริบของนางเองด้วยวิธีง่ายๆ


นั่นก้อคือ นางจะเล่านิทานให้กษัตริย์ได้ฟังแต่จะยังไม่ยอมบอกตอนจบ หากมีพระประสงค์จะฟังตอนจบ ก้อจะต้องประทานอนุญาตให้ไว้ชีวิตนางจนถึงคืนพรุ่งนี้ เมื่อกษัตริย์เห็นชอบด้วยแล้วนางก้อยอมเล่าตอนจบให้ฟังตามที่สัญญา ทว่า ไม่ลืมที่จะนำเสนอเรื่องใหม่ให้ฟังอีกในคืนนั้น และขอเล่าตอนจบในคืนวันต่อมา เป็นอย่างนี้อยู่ทุกวันจนผ่านไป 1001 ราตรีกาล


และท้ายที่สุดนั้น นางก้อตั้งครรภ์กับกษัตริย์องค์นั้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นแล้วทิฐิเก่าๆก้อได้จางลงไปเหลือเพียงความปลาบปลื้มยินดีที่จะได้มีครอบครัวพร้อมหน้าเสียที เรื่องราวของเชเฮราซาดจึงได้ถูกร่ำลือกันมาจนทุกวันนี้


อะลาดินของเชเฮราซาด กับของดิสนีย์ คงจะไม่เหมือนกันเป๊ะไปหมดเสียทุกอย่าง แต่อรรถรสในเนื้อเรื่องก้อไม่หนีกันเท่าไหร่ และเป็นนิทานอย่างที่เราๆได้ยินกันมาแต่เล็กว่า ค่าของคนนั้นไม่ได้อยู่ที่เปลือกนอก แม้จะเป็นเพียงหัวขโมยยากจน ทว่าเนื้อแท้แล้วเป็นคนดีเปรียบเสมือนเพชรในตม อะลาดินจึงเป็นผู้ที่ถูกฟ้าดินเลือกให้เป็นผู้เดียวที่จะสามารถเข้าไปค้นหาสมบัติอันสุดแสนจะล้ำค่าที่สุดในโลกภายในถ้ำแห่งสมบัติอันลึกลับได้


ข้อแม้นั้น มีเพียงอย่างเดียว


จะจับต้องสิ่งใดไม่ได้ นอกเหนือจาก ตะเกียงเท่านั้น







เรื่องราวเป็นยังไงต่อไปนั้น เราๆท่านๆก้อคงจะพอรู้กันอยู่แล้ว เด็กที่รอคอยคงไม่เล่าเรื่องย่อต่อไปให้เมื่อยตุ้ม.... เอ๊ะ มันมีตุ้มที่มือมั้ยนะ แต่เรื่องของเรื่องก้อคือว่า เพลงประกอบ animation เรื่องนี้มันเพราะดีนะคะ ชอบมากเลยล่ะ แต่เพลงที่ชอบที่สุดคงจะไม่มีใครนึกถึงหรอกเพราะเพลงรักโรแมนติคของเค้ามันหวานชื่นจนโลกทั้งโลกมีดอกไม้ผลิบานหอมจรุงไปหมดแล้ว



เด็กที่รอคอย ชอบเพลง Prince Ali ค่ะ ถ้าใครมี OST ลองเปิดดูดังๆสิ (อย่าดังมาก เด๋วข้างบ้านด่า)

(โอเคข้างบ้านอาจไม่ว่าไร แต่พ่อกะแม่ต้องด่าแน่ๆ... )



ดนตรีขึ้นต้นคือแตร ตามด้วยกลองที่เร้าใจมาก เคยมั้ยที่เปิดเพลงวอลซ์ดังๆ โดยที่เราไม่รู้จักเพลงนั้นมาก่อน ไม่รู้ว่าใครแต่ง ไม่รู้ว่าเครื่องดนตรีมีอะไรมั่ง ไม่รู้ว่าตรงไหนควรหนักตรงไหนควรเบา ไม่รู้ว่าทั้งเพลงนั้นเค้าเรียกว่าอะไร


แต่หัวใจเราสั่นสะเทือนราวกับเลือดมันสูบฉีดไปทั่วร่างกายด้วยความตื่นเต้น ระคนฮึกเหิม และร่างทั้งร่างก้อรู้สึกผ่อนคลายแต่ก้อเต็มไปด้วยพลัง


นั่นล่ะค่ะ เพลงนี้ให้ความรู้สึกอย่างนั้นสำหรับเด็กที่รอคอย มันดูทรงพลังทุกจังหวะ เนื้อเพลงก้อดีนะ(บ้าๆบอๆยังงั้นก้อเหอะ) แต่เค้าก้อบอกหมดว่าเจ้าชายนะเว้ยเฮ้ยเจ้าชายเสด็จ แล้วมาดูซิเจ้าชายมีอะไรมั่ง มีช้างมีเงินมีทองข้าทาสบริวารอูฐม้าลิงยกยูงสารพัด แถมยังใจดีต่อประชาชนอีกด้วย Robin Willams นำเสนอได้ดีมาก นักร้องประสานเสียงก้อเยี่ยมไปเลยล่ะ ฟังแล้ว "อลังการงานสร้างเจ้าชายจริงๆ!"







Arabian nights ซึ่งเป็นเพลงไตเติ้ลนี่ก้อดีเหมือนกัน ถ้าใครเข้ามาเยี่ยมบล๊อคนี้เมื่อคราวก่อนก้อคงจะได้ยินเสียงเพลงนั้นแล้ว เด็กที่รอคอยไม่มี OST เป็นซีดีน่ะค่ะมีแต่เป็นเทปคาสเซ็ท ชีวิตยุ่งยากเล็กน้อยตอนที่ต้องเอาเทปมาอัดเสียงใส่โปรแกรม .wave แล้วแปลงให้เป็น .wma แถมทำ wave ก้อได้ทีละหน่อยเท่านั้นเองต้องตัดต่อเอาเอง ได้มั่งไม่ได้มั่ง... มีใครมีโปรแกรมอัดเสียเจ๋งๆกว่านี้มาเสนอมั่งมั้ยเนี่ย




มีตัวเอกแล้วก้อต้องมีนางเอก อะลาดินจึงคู่กับสตรีสูงศักดิ์อย่างเจ้าหญิงจัสมินผู้มีจิตใจดี ติดดิน และรักคนจากเนื้อแท้ไม่ใช่แค่เปลือกนอก เป็นคู่ที่น่ารักมากทีเดียวเพราะเจ้าหญิงจัสมินนั้นฉลาดหลักแหลม ดื้อรั้น เหมือนอึ้งย้ง ชะมัด... เออ การ์ตูนแขกมาเหมือนหนังจีนได้วุ้ย ...






เพื่อนพระเอกตัวหลัก จินนี่ แห่งตะเกียงวิเศษ






และ ตัวร้ายของเรื่อง พ่อมดจาฟฟา กับนกแก้วแสนรู้(แสนร้าย) อิอาโก้








ชีวิตจริงที่ทะเลทรายไม่เฮฮาปาร์ตี้แบบในนั้นเท่าไหร่ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง หากคิดจะเที่ยวเองตามลำพังแล้วล่ะก้อขอให้คิดให้ดีสัก100ครั้ง .... คุณอาจจะปลอดภัยกว่าถ้าไปกับหมู่คณะ เพราะสายตาผู้ชายที่ดินแดนนั้นจะมองคุณที่ใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิดราวกับว่าคุณแก้ผ้าอยู่ทีเดียว .......แต่ก้อน่าแปลกที่โดยมากคนจะนึกอยากไปเหยียบดินแดนทะเลทรายอันร้อนระอุนั้นให้ได้สักครั้ง




เหมือนมันมีมนต์เสน่ห์อะไรสักอย่าง ที่แม้แต่จะเอาชีวิตไปแลกหรือทิ้งไว้ที่นั่น ก้อยอม...


















 

Create Date : 13 ธันวาคม 2548    
Last Update : 13 ธันวาคม 2548 3:16:04 น.
Counter : 5279 Pageviews.  

1  2  3  

เด็กที่รอคอย
Location :
กรุงเทพ Australia

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




จะเป็นกรวดหรือเพชร ถ้าไปนึกรักมันเข้าแล้วหายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงกับเสียคนไปก็มี


"ถ้าเราไม่อยากทุกข์มากไม่อยากเสียคน ก็อย่าไปรักอะไรให้มากนัก ถึงจะรักก็ต้องรู้กำพืดว่ามันเป็นเพชร หรือเป็นกรวด"


ถ้ารู้ราคาจริงๆของมันเสียแล้วถึงมันจะหายไป เราก็จะไม่เสียดายมากนัก

(จาก "สี่แผ่นดิน" โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช)

สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539
ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง
ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ
ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add เด็กที่รอคอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.