|
พาล์มเมอร์ เด็กชายผู้วิ่งหนีวันเกิด
ผู้เขียน เจอร์รี สปิเนลลิ ผู้แปล รุ่งอรุณ สัมปัชชลิต สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๙ ๑๗๕ หน้า ราคา ๑๓๙ บาท
-----------------------------
ในเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการจัดงานเทศกาลใหญ่โตทุกปีในเดือนสิงหาคม เขาเรียกงานนี้ว่างานครอบครัว มีร้านรวงมากมายที่จะตั้องอยู่นานถึงหนึ่งสัปดาห์ แต่ส่วนสำคัญที่สุดของงานเทศกาล คือการเแข่งยิงนกพิราบ
ผู้เข้าแข่งขันจะต้องจ่ายเงินค่าสมัคร เงินนั้นจะนำไปบำรุงสวนสาธารณะของเมือง เมืองนี้ไม่มีนกพิราบ... ดังนั้นทุกปีเขาจะต้องไปจับมันมาจากที่อื่นเพื่อใช้ในงานเทศกาล เป็นงานสนุกสนานที่ทุกคนจะร่วมเชียร์ ร่วมหัวเราะ ให้กับการตายของนกพิราบห้าพันตัวภายในวันเดียว ชาวเมืองตื่นเต้น และเด็ก ๆ ต่างเฝ้ารอที่จะได้มีส่วนร่วมในเทศกาล มีคนยิง.. และมีริงเงอร์เป็นคนเก็บซากนกที่ถูกยิงตกลงมา... ถ้าตัวใดไม่ตาย ริงเงอร์ก็จะเป็นคนบิดคอพวกมัน
เด็กผู้ชายทุกคนเมื่ออายุครบสิบปีเต็มก็จะได้รับอนุญาตให้เป็นริงเงอร์
ดังนั้นพาล์มเมอร์จึงหวาดกลัวยิ่งนักที่วันเกิดของตนใกล้เข้ามาทุกที ๆ เขาหวาดกลัวมันมาตลอดนับตั้งแต่ได้ไปเที่ยวงานเทศกาลครั้งแรก และความหวาดกลัวนั้นเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ... เขาจะเป็นริงเงอร์ได้อย่างไร ...โดยที่เขายังมีนิปเปอร์เพื่อนร่วมห้องขนปุกปุยอยู่อีกตัว
นิปเปอร์... นกพิราบสีเทา
-----------------------------
เพิ่งอ่านจบไปสด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ ชอบมาก อ่านแล้วรู้สึกขัดใจที่ตัวเองอ่านช้า ตาไปไม่ทันความคิดเลย ช่วงท้ายเล่มอ่านเร็วมาก ใจร้อน ตื่นเต้นไปกับเรื่องจนเผลอนั่งเกร็งไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้เมื่อยไปหมดเลย ฮา
Create Date : 02 ตุลาคม 2552 | | |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 12:02:30 น. |
Counter : 1010 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
นายขโมย
เขียน Cornelia Funke แปล ศิริจันทร์ พิมพ์ครั้งที่ 1 สิงหาคม 2545 ราคา 245 หนา 440 หน้า สำนักพิพม์นานมีบุ๊คส์
จขบ. กับเพื่อนบังเอิญเจอหนังสือเล่มนี้ลดราคาอยู่ค่ะ เพื่อนของ จขบ. บอกว่าพี่ของเขาตามหามาหลายปีแล้วแต่หาไม่ได้ จขบ. ก็เลยสนใจว่ามันเป็นเรื่องแบบไหนกันน้อ สนุกจนต้องหาขนาดนั้นเลยรึ พอเพื่อนซื้อก็เลยจิ๊กมาอ่านก่อนที่มันจะเอากลับบ้านนอก(อีกแล้ว)ค่ะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองเวนิสที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยรูปสลักในนิทาน คลองน้ำทั่วเมือง บ้านบนเสาไม้ นักท่องเที่ยว ...กล้องถ่ายรูป ท่ามกลางสะพานและเส้นทางสลับซับซ้อนของเมือง โรงหนังร้างแห่งหนึ่งเป็นสถานที่พักพิงของเด็กๆ 6 คน ซึ่งเด็กๆ เรียกที่นี่ว่า ที่หลบซ่อนดาว
มอสก้า เด็กชายที่พยายามซ่อมวิทยุ ตกปลา และชอบเรือ เวสเป้ เด็กหญิงที่ชอบอ่านหนังสือ และเป็นคนควบคุมการเงินของกลุ่ม ริกโช เด็กชายที่ชอบลักเล็กขโมยน้อย และชอบอ่านหนังสือการ์ตูน พรอสเพอร์ และโบ สองพี่น้องสมาชิกใหม่ของที่หลบซ่อนดาว ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในการดูแลของนายขโมย และคนสุดท้าย... นายขโมย สคิปิโอ ผู้เป็นผู้นำและเป็นคนหารายได้เลี้ยงทุกๆ คน แต่สคิปไม่ได้พักในที่หลบซ่อนดาวกับทุกๆ คน อันที่จริงต้องบอกว่าสคิปเป็นคนหาของหรือสินค้ามาให้เพื่อนเป็นคนนำไปขายให้กับพ่อค้าหน้าเลือดคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเดียวที่ยอมซื้อสินค้าโดยไม่ซักถามรายละเอียดอะไรจากเด็กๆ ซึ่งแน่นอนว่าสินค้านั้นได้มาจากการขโมย จากฝีมือการขโมยครั้งล่าสุดทำให้นายขโมยได้รับการว่าจ้างจาก ท่านขุนนาง ผู้ลึกลับผ่านเจ้าของร้านขายของ ให้นายขโมยขโมยของชิ้นหนึ่ง
หลังจากถูกเพื่อนๆ เรียกร้องว่าให้เข้าร่วมกระบวนการขโมยครั้งนี้ด้วย สคิปซึ่งปฏิบัติการตามลำพังมาโดยตลอดจึงจำต้องวางแผนและแบ่งงานให้กับเพื่อนๆ ร่วมขบวนการด้วย แต่แล้วแผนการกลับไม่เป็นไปตามนั้น เมื่อนักสืบคนหนึ่งคอยเฝ้าจับตามองพรอสเพอร์และโบตามคำสั่งป้าของสองพี่น้อง ป้าที่ต้องการแยกสองพี่น้องออกจากกัน และต้องการเลี้ยงเพียงโบ เด็กชายที่หน้าตาน่ารักราวกับเทวดาตัวน้อยๆ นักสืบตัวแสบตามมาจนเจอที่หลบซ่อนดาว แถมเรื่องยังยุ่งยากขึ้นอีกเมื่อชายหนุ่มกุมความลับสำคัญของนายขโมยเอาไว้
นี่เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่แปลกมากสำหรับ จขบ. ค่ะ เรื่องนี้ตัวเอกเป็นเด็กๆ ผู้ใหญ่เป็นตัวร้าย เหมือนวรรณกรรมเยาวชนทั่วๆ ไปแหละค่ะ มีเรื่องของวิเศษเล็กน้อย และมีผู้ใหญ่ที่เข้าใจเด็กๆ อยู่ด้วย เรื่องนี้แปลกสำหรับ จขบ. เพราะว่าตอนจบมัน Happy Ending
แบบสมจริงล่ะมั้งคะ... คือปกติเรื่องมักจะจบโดยที่เด็กและผู้ใหญ่จะเข้าใจกัน ความขัดแย้งในเรื่องจะคลี่คลาย เด็กๆ จะได้รับการปกป้องดูแล มีแนวโน้มว่าจะมีอนาคตที่ดี บาดแผลในใจจะได้รับการเยียวยา... แต่เรื่องนี้จบลงด้วยการที่จับคู่กรณีแยกออกจากัน แล้วแต่ละคนก็ดำเนินชีวิตไปตามแนวทางของตัวเอง ตามความต้องการของตนเอง ผู้ใหญ่ไม่ได้ตามไปโอบอุ้มเด็กที่ไม่ได้ต้องการ เพียงแค่ยืนอยู่ในจุดที่พร้อมจะช่วยเหลือและสนับสนุนถ้าหากว่าเด็กต้องการ ตอนอ่านจบเลยอึ้งเล็กๆ ว่าจบแล้วจริงเหรอ? ยังไม่เคลียร์ปัญหากันให้ชัดเลยนะ... แต่พอนึกดูแล้วบางทีชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ใช่ว่าสามารถเคลียร์ความขัดแย้ง ความเข้าใจผิด หรือความรู้สึกไม่ดีได้เสมอ บางครั้งโอกาสก็ไม่อำนวย สุดท้ายแล้วก็แค่แยกกันไปตามทางเดินชีวิตของตัวเอง
Create Date : 21 มีนาคม 2552 | | |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 12:08:00 น. |
Counter : 776 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ประวัติศาสตร์โลกใน 6 แก้ว
จขบ. เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยชอบวิชาประวัติศาสตร์ตั้งแต่เด็กๆ เพิ่งจะมาเริ่มชอบตอนเรียนมหาวิทยาลัย และได้ลงวิชา Sociology กับอ. ท่านหนึ่งที่เพื่อนๆ ลงความเห็นร่วมกันว่าไม่รู้อาจารย์พูดเรื่องอะไรอยู่คนเดียว แต่จขบ. สนุกมากเลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์แล้วสนุกขนาดนั้น มันไม่ใช่การท่องจำแต่พ.ศ.อีกต่อไป เพิ่งเคยเห็นถึงความสัมพันธ์ของเรื่องราวต่างๆ ในรูปแบบของเหตุผล เพิ่งพบว่ามันเชื่อมต่อกัน ไม่ได้เป็นชิ้นๆ แยกแตกกระจายอย่างที่เคยเข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ปุบปับชอบขึ้นมาหรอกค่ะ แค่เปิดใจรับได้มากขึ้น ไม่ใช่ไขหูปิดหรือเมินหนีอย่างเมื่อก่อน
ดังนั้นพอมาเห็นหนังสือเล่มนี้ก็เลยสนใจขึ้นมา เป็นยังไงหนอประวัติศาสตร์โลก มันเกี่ยวกับเครื่องดื่มยังไงกัน
นี่เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่นำเอเครื่องดื่มที่เด่นในแต่ละยุคขึ้นมาเป็นตัวชูโรง และเชื่อมโยงเครื่องดื่มเข้ากับเศรษฐกิจ ความเชื่อ การเมือง สภาพสังคมในยุคต่างๆ ได้อย่างสนุกสนาน และน่าติดตามมากค่ะ เริ่มจาก เบียร์ ไวน์ เหล้ากลั่น ชา กาแฟ และโคล่า (น่าจะมียุคเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพต่อนิ) จขบ. มีความคิดเห็นว่าเอาไปอ่านกับเด็กๆ ก็คงจะดีค่ะ อาจจะทำให้เด็กที่เบื่อประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับจขบ.รู้สึกชอบขึ้นมาบ้างก็ได้
ตอนนี้จขบ.กำลังอ่าน ประวัติศาสตร์โลกผ่านเกลือ ถ้าจบแล้วชอบจะเอามาชวนอ่านอีกค่ะ
Create Date : 16 มีนาคม 2552 | | |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 12:08:21 น. |
Counter : 775 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
The Hunted เด็กชายคนสุดท้าย
สนพ. ในเครือแจ่มใส ผู้แต่ง : Alex Shearer ผู้แปล : กรกฏ หนา 280 หน้า ราคา 179 บาท
The Hunted เป็นเรื่องราวของยุคสมัยในอนาคตที่มนุษย์ล้วนแต่มีอายุยืนยาวนานเป็นร้อยปี สองร้อยปี มียาทีจะช่วยให้เป็นแบบนั้น ช่วยชะลอความชราของร่างกาย แต่สิ่งที่ตามมาคือมนุษย์มีลูกน้อยลง เด็กๆ ลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนกิจการทั้งหมดที่เกี่ยวกับเด็กหยุดชะงัก ทั้งโรงเรียน ร้านของเล่น เสื้อผ้าสำหรับเด็ก และการ์ตูน โรงเรียนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เป็นเหมือนห้วงเวลาแสนหวานให้ระลึกถึง..
และเพราะเด็กๆ มีน้อยเหลือเกิน พวกเขาจึงเป็นสิ่งมีค่าอย่างยิ่ง เป็นที่หมายตาของเหล่าโจรลักพาตัว ไม่ใช่การลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่อาจเพื่อขายต่อให้เศรษฐีสักคน หรือเข้าตลาดประมูลราคา... ไปจนถึงการให้เช่า การให้ครอบครัวที่ใฝ่ฝันว่าอยากจะมีลูกได้เช่าเด็กไปอยู่บ้านสักชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเพื่อเติมเต็มความปรารถนา ความฝันของตนเอง
และเพราะการที่เด็กมีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมาก จึงมีหลายคนเลือก.. หรือถูกเลือกให้ร่างกายหยุดการเจริญเติบโตไปชั่วนิรันดร์... กลายเป็นเด็กไปชั่วนิรันดร์
ทาร์ริน.. เป็นเด็กชายให้เช่าคนหนึ่ง เขาอาศัยอยู่กับชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนติดต่อลูกค้าและจัดการทุกอย่างให้กับเด็กชาย ธุรกิจเป็นไปด้วยดีทีเดียว เพราะเขาเป็นเด็กซึ่งเป็นเด็กจริงๆ ไม่ใช่ของปลอมที่เกิดจากการหยุดร่างกายของตนเองไว้อย่างคนส่วนใหญ่ที่ประกอบธุรกิจเดียวกัน ทาร์รินเป็นเด็กที่ยังมีความไร้เดียงสา แต่ว่าเขาก็ไม่ได้มีความคิดอย่างเด็กไปเสียหมด เพราะถูกบีบให้ต้องทำงานเช่นผู้ใหญ่ทำกัน ต้องเสแสร้งแกล้งทำ ต้องหลอกลวง และไม่สามารถทำตามความต้องการของตนเอง ...มีเพียงความฝันว่าตนเองจะได้พบครอบครัวที่แท้จริงสักวันหนึ่ง และหวังว่าตนจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ความนั้นก็กำลังจะถูกช่วงชิงไป...
เรื่องนี้มีคนแนะนำมาว่า ลองอ่านดูสิ แต่จำไม่ได้แล้วว่าคนคนนั้นเป็นใคร เพราะถูกแนะนำในช่วงกำลังปั่นงานยุ่งๆ อยู่พอสมควร แต่แล้วเมื่อ จขบ. เริ่มย่างกรายกลับไปชมรม จขบ.ก็พบหนังสือนี้อยู่บนชั้น คงเป็นใครสักคนเพิ่งซื้อเข้าปีนี้ เพราะปีก่อนๆ จขบ. เป็นคนจัดซื้อหนังสือเข้าชมรม เห็นแล้วก็แอบดีใจนิดๆ ว่าคงมีรุ่นน้องในชมรมเป็นคอหนังสือแนวเดียวกันนะเนี่ย....
ถ้าใครยังไม่ได้อ่านลองหาอ่านดูนะคะ เป็นหนังสือที่สนุกอีกเล่มหนึ่งค่ะ^^
Create Date : 11 มีนาคม 2552 | | |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 12:08:46 น. |
Counter : 1215 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
จอมโจรยูเจนิดิส + ราชินีแห่งแอตโทเลีย + ราชันแห่งแอตโทเลีย
ผู้แต่ง: เมแกน วาเลน เทอร์เนอร์ ผู้แปล: ปัทมา อินทร สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2550
หนังสือชุดนี้อ่านได้หลายเดือนแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ว่างจะชวนใครอ่าน ตอนนี้พอเจียดเวลาได้เลยต้องรีบมาเขียน
สำหรับเล่มแรก จอมโจรยูเจนิดิส คำโปรยหลังปกพูดถึงความเก่งกาจที่เจ้าตัวโม้ไว้ว่าตนเองเก่งกาจสามารถเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าพอเปิดอ่านหน้าแรกจอมโจรหนุ่มน้อยของเราก็เปิดตัวในคุกกษัตริย์ซูนิสในสภาพสุดโทรม แถมยังถูกล่ามตรวนอีกต่างหาก ห่างไกลจากความเก่งกาจโขเลยทีเดียว แต่แล้วขุนนางใหญ่คนหนึ่งก็มาพาตัวยูเจนิดิสไปทำข้อตกลง ให้เจ็นไปขโมยของชิ้นหนึ่งเพื่อแลกกับอิสรภาพโดยไม่ได้รู้เลยว่ากำลังเดินไปตามแผนของโจรหนุ่มที่แสนจะขี้โม้ ช่างโอ้อวด ปากเสีย ใจร้อน และยังเด็ก... คงต้องเรียกว่าเด็กหนุ่ม
การเดินทางข้ามแคว้นที่แสนยาวไกลทุลักทุเลเมื่อคณะเดินทางเล็กๆ ไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก ถึงอย่างนั้นก็ยังมีมิตรภาพอยู่บ้าง เป็นช่วงเวลาที่ได้ศึกษาคนอื่น และทำความเข้าใจกับตนเองสำหรับยูเจนิดิส โจรหนุ่มต้องระวังตัวเกือบตลอดเวลา แล้วยังต้องประสาทเสียกับเรื่องราวแปลกประหลาดเหลือเชื่อที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ....เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นการจงใจของเทพเจ้า ความเชื่อในเหล่าเทพเจ้าของเจ็นกำลังถูกพิสูจน์ในรูปแบบที่เด็กหนุ่มไม่สามารถปฏิเสธได้
จำได้ว่าอ่านแล้ววางไม่ลงเลย สนุก ตื่นเต้นมาก แม้ว่าจะมีการเล่าตำนานเทพเจ้าแทรกลงไปในเนื้อเรื่องด้วย ก็ยังรู้สึกเพลิดเพลินดี ในเนื้อเรื่องไม่มีการอายุของตัวละคร แต่เท่าที่อ่านดูจากลักษณะนิสัยแล้วก็เห็นภาพว่าเจ็นเป็นเด็กวัยรุ่น กำลังคะนองเชียว เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจวิธีการเล่าเรื่อง และสำนวนแปล อ่านแล้วเพลินมาก เพิ่งมารู้เอาตอนอ่านจบไปแล้วนั่นล่ะว่าเป็นคนแปลคนเดียวกับเรื่อง ภาพที่ไร้เสียง ที่เคยอ่านแล้วติดใจเมื่อนานมาแล้ว ถ้าได้อ่านแล้วถูกใจอีกสักเรื่องคงได้กลายเป็นแฟนผลงานนักแปลแหงๆ เลยค่ะ
สำหรับราชินีแห่งแอตโทเลีย และราชาแห่งแอตโทเลีย จขบ. พยายามจะรีวิวแบบไม่ให้สปอยล์มากนัก แต่พบว่าไม่สามารถทำได้ จะพูดอะไรก็ดูจะกลายเป็นเฉลยปมไปเสียหมด แถมยังอาจจะทำลายบรรยากาศตื่นเต้น และอารมณ์สนุกของเรื่องอีกต่างหาก จึงได้แต่บอกว่า อ่านเล่มแรกจบ ก็จะโหยหาอยากอ่านเล่ม2 และ 3 เองแหละค่ะ 55 ตัวละครพัฒนาขึ้น เขาโตขึ้น มีความลึกมากขึ้นและน่ารักขึ้นด้วย จขบ.อ่านจบแล้วหลงรักเลย ตั้งใจว่าต้องมีเป็นของตัวเองหนึ่งชุดให้ได้ค่ะ ^^
(3 เล่ม.. คาดว่าน่าจะยังไม่จบ แต่อ่านเต๊อะ สนุกจริงๆ นะ)
Create Date : 10 มีนาคม 2552 | | |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 12:09:53 น. |
Counter : 805 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|