|
|
Skincare Review: It's Skin Prestige Cream D'Escargot สุดยอด snail cream ที่เขาว่ากัน
 |  | |  |
หลังจากที่ได้อ่านรีวิวของครีมหอยทากตัวดังจากแบรนด์ Its skin หรือที่เรียกย่อๆกันว่า Snail Cream ที่มีหนุ่มน้อยนิชคุณเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็เกิดอาการอยากลอง อดใจรอจน skincare ที่ใช้อยู่หมดลงก็ได้ฤกษ์ฝากเพื่อนสอยมาจากเกาหลี สรรพคุณของครีมตัวนี้ที่ทางแบรนด์เขาว่าไว้มีดังนี้ค่ะ
Firstclass luxurious cream contains mucin (snail mucus), the ingredient with superior cell restoration, moisturization, and skin trouble relieving effects, and EGF (epidermal growth factor), through the combination of which creates a synergy effect to regenerate damaged cells, the fundamental cause for skin aging
สรุปคือครอบคลุมไปหมดทั้งฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย ลดรอยแดงจากสิว ลดริ้วรอย ปรับผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใสและให้ความชุ่มชื้น สนนราคาตามหน้าเวบของเขาก็ 60,000 วอน ถือว่าราคาไม่ถูกเลยสำหรับ skincare เกาหลีที่เคยใช้ๆอยู่ ลองมาดูรายละเอียดกันค่ะ
แพคเกจอยู่ในกล่องกระดาษสีทองหรูหรา กล่องใหญ่พอสมควรเลยล่ะ
เปิดออกมาเป็นกระปุกคล้ายๆกระปุกแก้วใสๆเจียเหลี่ยมรอบๆฝาเหมือนเพชรเลย มีตัวหนังสือสีทองปริมาณครีมคือ 60 ml แต่กระปุกใหญ่และหนักมากอะนึกว่ามากกว่านี้ซะอีก สงสารคนหิ้วขึ้นมาทันที 555
เปิดกระปุกออกมามีฝาพลาสติกปิดทับไว้อีกชั้นนึง ใต้กระปุกครีมแถมพายตักสีทองให้ด้วย โอย จะหรูไปถึงไหน
มาถึงเนื้อครีมกันบ้าง เนื้อจะไม่หนักมากนะคะ คือก่อนหน้าตัวนี้เราใช้ Clinique Dermawhite Brightening Essence มาก่อนซึ่งเนื้อครีมของคลีนิกข์จะแน่นกว่า เข้มข้นกว่า แต่ความชุ่มชื้นจะน้อยกว่า เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับคนหน้ามันเพราะทาไปแป๊บเดียวจะแห้งสบายไม่เหนอะเลย ส่วนตัวนี้อาจเป็นเพราะสรรพคุณเขาเน้นเรื่อง Moisturizer ด้วยแต่พอทาครีมไปประมาณ5-10 นาทีก็ไม่เหนอะหนะแล้วนะคะ สบายผิวดี และจุดเด่นอีกอย่างนึงคือกลิ่นค่ะ กลิ่นจะหอมมาก มีส่วนผสมของน้ำหอมค่อนข้างชัดบางคนอาจจะไม่ชอบเลยก็ได้ ดังนั้นคนที่แพ้น้ำหอมต้องระวังนิดนึงแนะนำให้เทสต์โดยป้ายที่กรามก่อนจะลงทั่วหน้านะคะ สำหรับหน้าเราไม่มีปัญหาเรื่องนี้ คือชนะมาตลอด ไม่เคยแพ้อะไรเลย
ผลการใช้ : ผลที่เห็นทันทีหลังการใช้คือ ตื่นมาหน้าจะนุ่ม ผิวไม่แห้ง ความชุ่มชื้นอยู่ในระดับดีสำหรับคนที่ผิวไม่แห้งมากค่ะ และกลิ่นหอมๆของครีมทำให้หลับสบายดี ตอนทาครั้งแรกรู้สึกว่ากลิ่นมันเยอะไปหรือเปล่าแต่พอซักพักเริ่มชินก็สบายๆค่ะ
หลังใช้ 3-4 สัปดาห์ : เนื่องจากเราไม่มีรอยแดงจากสิว ไม่มีปัญหารูขุมขนกว้าง และไม่ได้เป็นคนผิวมัน ดังนั้นเราตอบไม่ได้ชัดเจนว่ามันช่วยลดปัญหาเรื่องพวกนี้หรือปล่าว แต่เท่าที่เราสังเกตได้คือผิวนุ่ม เนียน ดูสดขึ้น แต่เรื่องขาวผ่องขึ้นมั้ยเราไม่รู้สึกขนาดนั้นค่ะ ให้ผลดีในเรื่องของความชุ่มชื้นสำหรับผิวธรรมดาหรือผิวแห้งแบบไม่รุนแรงมาก
สรุปความพอใจ ก็ถือว่าพอใจนะคะ สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาผิวพรรณ เราว่าตัวนี้ช่วย maintain สภาพผิวที่ดีอยู่แล้วให้คงอยู่อย่างแข็งแรงขึ้น ตินิดนึงตรงหาซื้อยากต้องฝากซื้ออย่างเดียว หรือถ้ามีขายที่นี่ก็คาดว่าคงแพงพอควรเมื่อเทียบกับแบรนด์เกาหลีอื่นๆที่เคยใช้ อ้อ เราใช้แค่วันละ 1 ครั้งคือก่อนนอนเท่านั้นนะคะ ตอนเช้าเราลงแค่น้ำโสมของโคเซ่ตัวเดียวแล้วก็เมคอัพเลย
ในรูปเราบอกลารองพื้นไปก่อน ลงเบสแบบที่ช่วยให้ผิวสว่างใส แป้งฝุ่นแบบpress powder ธรรมดา ไม่เขียนไลเนอร์แต่ใช้อายแชโดว์สีดำแบบฝุ่นแตะๆถมๆช่องว่างระหว่างขนตาเอา ปัดมาสคาร่า บอกลาขนตาปลอม ปัดแก้มเบาๆแล้วลงลิปบาล์มแบบมีสีอ่อนๆ
ทั้งนี้ อยากบอกว่า skincare ทุกชนิดจะมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่เมื่อเราใช้ควบคู่ไปกับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอด้วยนะคะ การนอนดึกถือเป็นศัตรูและอุปสรรคของครีมบำรุงผิวทุกชนิดค่ะ
| | | | |
| Create Date : 11 มิถุนายน 2554 |
| Last Update : 11 มิถุนายน 2554 21:44:29 น. |
|
5 comments
|
| Counter : 16331 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: fashionizy  วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:22:46:15 น. |
|
|
|
| โดย: peter125 (steven1064 ) วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:2:32:09 น. |
|
|
|
| โดย: teawpretty วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:13:37:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [