เอื้องกุหลาบ เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยสกุล อะเอรีดีส หรือแอริดีส Aerides มีหลายชนิดทุกชนิดที่พบในประเทศไทย ล้วนสวยงามและมีกลิ่นหอม มีการนำมาปลูกเลี้ยงกันทั่วไป มีต้นกลมยาว ต้นแก่มักแตกกิ่งใกล้โคนต้น รากใหญ่ยาว ใบรูขอบขนาน เรียงสลับซ้ายขวา โคนใบเป็นกาบหุ้มต้นช่อดอกเกิดตามซอกใบเอนเล็กน้อยหรือห้อยลง ส่วนใหญ่ดอกในช่อค่อนข้างดกบานทนหลายวัน บางชนิดทนเป็นอาทิตย์ถึงหลายอาทิตย์ ขนาดดอก 2-3 ซม. ดอกบานช่วงฤดูร้อนไปจนถึงฤดูฝน กลีบเลี้ยงและกลีบ ดอกคล้ายกันกลีบปากมีเดือยซึ่งมักจะงอและเบนออกด้านหน้าแผ่นกลีบปากเว้าเป็น 3 หยัก หยักกลางจะเป็นแผ่นใหญ่แผ่กว้าง หรือเป็นแถมเล็ก และพับขึ้นไปจรดเส้าเกษร หยักด้านข้างทั้งสองตั้งหรือโค้งเข้าหากัน เส้าเกษรค่อนข้างสั้นและปลายจะมีจงอยแหลม กลุ่มเรณูรูปเกือบกลม มีร่องแคบและตื้น มี 2 กลุ่ม ยึดติดกับแถบแผ่นเยื่อแคบๆ ในธรรมชาติพบขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบบางชนิดพบตามป่าชายหาด และป่าชายเลน ในประเทศไทบพบ 8 ชนิด ทุกชนิดสวยงาม มีกลิ่นหอมมากน้อยแตกต่างกัน


คัดลอกจากหนังสือกล้วยไม้เมืองไทย ของ รศ.ดร.อบฉันท์ ไทยทอง หน้า 332

กุหลาบกระเป๋าปิด (Aerides odorata Lour.) เอื้องกุหลาบขาว เอื้องพวงกุหลาบ เอื้อกุหลาบเดือยไก่ เอื้อเป็ดน้อย ม้าหมุย

ต้นขึ้นตั้งตรงหรือเอน หรือห้อยลง ยาว 20-70 ซม. ใบ ขนาด 12-15 x2 ซม. ใบค่อนข้างหนาและเหนียว พับเป็นรางตามยาว เรียงตัวซ้อนถี่ ผิวใบแห้ง ช่อดอกเอนในแนวระนาบ หรือห้อยลงเล็กน้อย ยาวใกล้เคียงกับความยาวของใบ ดอกในช่อมีจำนวนค่อนข้างมาก ขนาดดอก 2-2.5 ซม. กลีบค่อนข้างอวบ กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย เช่นเดียวกับกุหลาบกระเป๋าเปิด บานทนหลายวัน ปลูกเลี้ยงให้ดอกได้ง่ายตามฤดูกาล

ฤดูออกดอก เดือน เมษายน -พฤษภาคม
แหล่งที่พบในประเทศไทย พบตามป่าดิบเกือบทุกภาค ยกเว้น ภาคตะวันออกภาคตะวันออกเฉียงใต้
เขตกระจายพันธุ์ อินเดีย เนปาล ภูฏาน พม่า อินโดจีน และภูมิภาคมาเลเซีย

คัดลอกจากหนังสือกล้วยไม้เมืองไทย ของ รศ.ดร.อบฉันท์ ไทยทอง หน้า 339

ต้น อาจขึ้นตั้งตรงหรือเอน พวกที่ห้อยหัวลงยาวได้ถึง 1เมตร ใบขนาด 15-30 ซม. x 2 ซม แผ่นใบค่อนข้างบางแต่เหนียว ปิดพริ้วเล็กน้อย . ช่อดอกเป็นพวงห้อยลง ยาวใกล้เคียงกับใบ แต่ละต้นมักจะมีหลายช่อ เมื่อขึ้นเป็นกลุ่มใหญ่จึงสวยงามมาก ขนาดดอก 2.5x1.5 ซม. กลิ่นหอมฟุ้งกระจายเหมือนกลิ่นดอกกุหลาบเอื้องกุหลาบชนิดนี้ นอกจากจะสวยงามและมีกลิ่งหอมมากแล้ว ยังปลูกเลี้ยงได้ง่าย และมีดอกให้ชมตามฤดุกาลอีกด้วย

ฤดูออกดอก เดือน เมษายน -พฤษภาคม

แหล่งที่พบในประเทศไทย พบในป่าดิบแล้งทั่วทุกภาค

เขตกระจายพันธุ์ อินเดียทางตะวันออก พม่า และอินโดนีเซีย

คัดลอกจากหนังสือกล้วยไม้เมืองไทย ของ รศ.ดร.อบฉันท์ ไทยทอง หน้า 334

Create Date : 11 ตุลาคม 2552
Last Update : 11 ตุลาคม 2552 20:15:25 น.		11 comments
Counter : 1570 Pageviews.
Share Tweet