|
เล่นบล็อกอย่างมีจุดหมายปลายทาง: คุณต้องอ่านบล็อกก่อนเขียนบล็อก ? (03) / บล็อกวิทยา 101 / 016
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร? ในบันทึกโลกที่ผ่านมา, อยู่ระหว่างบรรทัดบนบันทึกในโลกนี้, หรือว่าเป็นบันทึกที่จะมีขึ้นในโลกข้างหน้าโพ้น
คุณจะเขียนทุกเรื่องลงไปในบล็อกของคุณไม่ได้ และคุณไม่อาจเขียนคอมเมนต์ลงไว้ในทุกบล็อกที่คุณเข้าไปอ่านได้,
ในทำนองเดียวกัน คุณจะอ่านทุกบล็อกโพสต์...เพื่อรู้ทุกเรื่องราวไม่ได้ และคุณไม่อาจอ่านทุกคอมเมนต์ในบล็อกที่คุณเข้าไปเยี่ยมได้.
แล้วไง?
แน่นอน! ทางที่ดีคุณจงเลือกทำในสิ่งที่คุณหรือใครก็สามารถทำได้
. คงดีกว่าสุ่มเสี่ยงทำสิ่งที่เป็นไปได้ไม่ตลอดรอดฝั่งดังว่ามา ...ใช่หรือไม่?
ถ้าคำตอบของคุณคือ "ใช่" ...เรามาเริ่ม Blog หรือ blogging ในสิ่งที่คุณทำได้
อย่างมีเป้าหมายกันดีกว่า
วันนี้เราจะมาบอกเล่าวิธีการเล่นบล็อกอย่างมีจุดมุ่งหมาย ...ขยายสู่กันแบบกระชับฉบับกระเป๋าไว้...ดังนี้
ภาค ๑ การอ่านบล็อกอย่างมีจุดมุ่งหมาย :- อ่านเพื่อรู้จักตัวคุณเอง และ
- อ่านเพื่อเก็บเกี่ยวสิ่งที่คนอื่นรู้ในเรื่องที่คุณสนใจ
1. ค้นหาสิ่งที่คุณทำได้
หรือสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วในโลกความเป็นจริง เอาล่ะแม้ว่าบางกรณีมันจะดูเหมือนเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญอะไรเอาเสียเลย เมื่อเปรียบเทียบกับงานอาชีพที่ใช้วิชาความรู้และความชำนาญชั้นสูงก็ตามที
.แต่จงเชื่อไว้ก่อนว่ามันก็เป็นสิ่งมีคุณค่าสำหรับชีวิตคุณเหมือนกัน
แล้วคุณจะเห็นในภายหลังว่าสิ่งนั้นยังจะเป็นสิ่งมีคุณค่าสำหรับคนอ่านคนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน เช่นเรื่องราวแสนจะธรรมดา ๆ อย่าง
การดูแลบ้านเรือน/งานบ้านการเรือน การเลี้ยงลูกหลาน การทำอาหาร การทำสวนหย่อม/ปลูกต้นไม้ในบ้าน
แม้แต่การจัดการขยะสิ่งปฏิกูลในเคหะสถานบ้านอยู่อาศัย
2. อ่าน ดู ชม ฟัง ทุกเรื่องราวเกี่ยวกับ สิ่งที่คุณทำได้ในข้อ 1. เท่าที่คุณสามารถอ่าน ดู ชม ฟัง จากหนังสือ โทรทัศน์ วิทยุ หรือสื่ออื่น ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่คุณจะเก็บสะสมเป็นทุนความรู้ในคลังข้อมูลได้
3. สำรวจ เวปไซต์ / เวปบล็อก / บล็อก ที่มีคนเขียนไว้แล้วถึงเรื่องราวหรือเกี่ยวข้องกับ สิ่งที่คุณเลือกแล้วว่า คุณสนใจในสิ่งที่คุณทำได้ ดังกล่าวในข้อ 1. และข้อ 2. อย่างมีจุดมุ่งหมาย
4. เลือกอ่านมัน (เวปไซต์ / เวปบล็อก / บล็อก ตามข้อ 3.) อย่าง ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ให้มากที่สุด กว้างขวางที่สุด ตามกำลังความสามารถและโอกาสที่คุณมี
5. ประเมินผลคุณค่าที่คุณได้จาก การสำรวจอ่านเวปไซต์ / เวปบล็อก / บล็อก อย่างมีจุดมุ่งหมายดังกล่าว จากนั้นให้ เลือกบล็อกที่ควรเข้าไปอ่านเป็นประจำไว้จำนวนหนึ่ง (การพิจารณาว่าควรเข้าไปอ่านเป็นประจำ นอกจากเรื่องคุณค่าด้านเนื้อหาในไซต์หรือบล็อกนั้นแล้ว, ควรหมายถึงคุณต้องมีเวลาและกำลังที่จะเข้าไปหยิบเอาคุณค่าจากเนื้อหาบนเวปนั้น มาใช้ได้จริง ๆ อีกด้วย)
6. ทำไซต์ เวป บล็อก ที่คุณเลือกแล้ว (และจะเพิ่มเติมมาอีกได้ในอนาคต) ให้เป็นห้องสมุดหรือแหล่งค้นคว้าของคุณไว้ในรูป ลิงค์ของฉัน My link
7. เรียนรู้จักตัวคุณเองจากสิ่งที่คุณได้อ่านบล็อกดังกล่าวแล้ว อย่างต่อเนื่องสักช่วงเวลาหนึ่ง (แต่ละคนย่อมจะรู้จักตัวเองผ่านการลงมือปฏิบัติการ
ว่า
. สักช่วงเวลาหนึ่ง ของตนเองนั้น มันสั้นยาวเท่าใด)
8. ตัดสินใจเลือกเป็นตัวของคุณเองบนบล็อก ผ่าน
สิ่งที่คุณเลือกแล้วว่า
คุณสนใจมันอย่างแท้จริง (ตอนแรก ๆ หัวข้ออาจจะยาว เพราะประกอบด้วยกลุ่มของประเด็น/หัวข้อใหญ๋ - Topical หรือ เรื่องราวที่คุณสนใจหรือชอบอ่านอยู่รวมกันหลายเรื่อง เช่น หนังสือ. นิยาย, เรื่องสั้น, บทกวี, ภาพยนตร์, ดนตรี, เพลง, ความรัก, ความสมหวัง
ภาคภาษาไทย, ภาคภาษาต่างประเทศ
..เป็นต้น)
9. สำแดงตัวตนบนบล็อก, ลงมือเขียนบล็อก = blogger, blog, blogging = me-casting the act and art of telling your story to the world การเล่าเรื่องของฉัน (ตามแนว Topical ในข้อ 8. แบบเวอร์ชั่นของฉัน หรือ ความจริง ความถูกต้อง ความดี ความงาม ฉบับ/สำนวนของฉัน / My own version of the truth.) สู่ชาวโลกอย่างมีศิลปะ
ข้อ 9. ของภาค ๑ การอ่านบล็อกอย่างมีจุดมุ่งหมาย = ข้อ 1. ของ ภาค ๒ การเขียนบล็อกอย่างมีจุดมุ่งหมาย นั้นเอง
เราจะกลับมาคุยกันในชั้นเรียนคราวต่อไป.
Posted by a_somjai | June 19, 2006 Tags: blogosphere, blogology, blogger, blog, blogging, Topical.
Create Date : 19 มิถุนายน 2549 | | |
Last Update : 19 มิถุนายน 2549 13:49:31 น. |
Counter : 493 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
มือสมัครเล่นเริ่มต้นเขียนบล็อก : เขียนเกี่ยวกับอะไรดี? (02) / บล็อกวิทยา 101 / 015
คุณเขียนทุกเรื่องลงไปในบล็อกไม่ได้แน่ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร? รู้อะไร? เคยทำอะไร? เกี่ยวกับการเขียนหนังสือมามากหรือน้อยพียงใดก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
แต่เมื่อคุณก้าวเข้ามาในโลกของการเล่นบล็อก
คุณจะต้องเรียนรู้ และจะต้องยอมรับความจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับโลกของ blog, blogging
เสียก่อน
1. blogging เป็นกิจกรรมเล่าเรื่องและฟังเรื่องเล่า ควบคู่กันไปในขณะเดียวกัน (ตามอ่านเรื่องราวได้ที่กลุ่มบล็อก Blogology: ตอนที่ 001, 002, 003, 004, 005, และ 006)
2. ในการเล่าเรื่องนั้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการเล่านิทาน ตำนาน เรื่องสั้น เรื่องยาว นิยาย โขน ละคร วิดีโอ ภาพยนตร์ หรือแม้แต่งานเขียนแบบบันทึกไดอารี่ส่วนตัวและงานเขียนด้านการงานอาชีพ รวมทั้งรายงานข่าว งานเขียนคอลัมน์บนหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การเล่าเรื่องผ่านงานศิลปกรรมด้านอื่น เช่น บทเพลง ดนตรี ภาพเขียน
ก็ล้วนแล้วแต่มีข้อจำกัดเหมือนกันทั้งสิ้น กล่าวคือ ในเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง หรือในการเล่าเรื่องคราวหนึ่ง
ใครก็ไม่อาจบรรจุเนื้อหาครอบคลุมทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับท้องเรื่องเอาไว้ในเรื่องเล่านั้นได้หมดสิ้น และการเขียนบล็อกก็ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกันนี้
3. ดังนั้นจงจำไว้ว่า
คุณไม่อาจนำเสนอทุกเรื่องราว
บรรจุลงไปในการเขียนบล็อกครั้งใด ๆ ของคุณได้
4. และ คุณไม่อาจเขียนทุกเรื่องที่คุณรู้ คุณเชื่อ คุณรู้สึก และทุกเรื่องราวที่คุณสนใจ เล่า(โพสต์)ลงไปในบล็อกทั้งหมดของคุณได้
แม้จะพยายามทำมันตลอดเวลาชั่วชีวิตของคุณก็ตาม
คุณต้องเลือกและกำหนดแนวทาง หัวเรื่อง ที่จะเขียนบล็อก เอาล่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็น อยากจะเป็น หรือไม่อยากจะเป็น blogger ที่เขียนบล็อกแบบผู้รู้ระดับมืออาชีพในสาขาที่คุณเชี่ยวชาญหรือสนใจ หรือว่าเป็นพวกเล่นบล็อกยามวางไม่หวังผลประโยชน์เป็นลาภยศรายได้อะไร อย่าง amateur, หรือ Hobbyist ก็ตาม
แต่เมื่อพุ่งไปที่ประเด็นของ เนื้อหา ของเรื่องเล่า ที่จะเขียนลงในบล็อกแล้ว คุณมีทางเลือกเพียงสองทางได้แก่ (1) หากคุณไม่เขียนเนื้อหาลงบล็อกแบบผู้รู้ผู้สนใจเรื่องใด ๆ เรื่องหนึ่งอย่างจริง ๆ จัง ๆ ที่เรียกว่าทำงานอย่างมืออาชีพ - Professional แล้วละก็, (2) คุณก็ต้องเล่นเขียนบล็อกแบบงานส่วนตัว หรือ งานส่วนบุคคล - Personal
พูดแบบฟันธงลงไปเลยดีก่าาาา
โดยส่วนใหญ่แล้ว bloggers จำนวนมาก (ประมาณว่าอาจมากกว่า 90% หรือ 9 ใน 10 คน) จะเป็นเจ้าของบล็อกแบบ Personal เพราจะมีบล็อกไว้เขียนเล่าเรื่องแบบตามสบาย ๆ เป็นของส่วนบุคคล (คือไม่สนใจว่า สาธารณชน คนอื่น ๆ ในโลกออนไลน์เขาจะเข้ามาอ่านหรือว่าจะมาสนใจเรื่องราวที่เราเขียนอยู่หรือไม่) หลายคนถึงกับเขียนบล็อกไว้อ่านเอง หรือเขียน-อ่านบล็อกระหว่างกันในหมู่ญาติมิตรคนสนิทเท่านั้น ดังนั้นคนเขียนบล็อกจำนวนมากจึงนิยมเลือกเขียนบล็อกแบบบันทึกไดอารี่ - a personal diary-style เรื่องที่โพสต์ลงบล็อกแต่ละครั้งของบล็อกส่วนบุคคลจึงเป็นเรื่องส่วนตัวที่ฉันเห็น ที่ฉันคิด ที่ฉันเชื่อ ที่ฉันรู้สึก จากประสบการณ์ในชีวิตประจำวันแล้วเก็บเล็กผสมน้อยนำเอามาเล่าไว้บนบล็อกของฉัน
ลักษณะเนื้อหาบนบล็อกส่วนบุคคลในโลกเวลานี้ ส่วนใหญ่จึงมีความ หลากหลาย ไม่มีทิศทางที่แน่นอน เป็นกลุ่มก้อน เดี๋ยววันนี้เขียนเรื่องหนังสือเล่มที่ได้อ่านแล้วขอบมาก พรุ่งนี้เปลี่ยนไปเขียนเรื่องหนังยอดฮิตที่ได้ไปดูมา ทั้ง ๆ ที่เมื่อเดือนก่อนเพิ่งเขียนโพสต์แบบบ่นเบื่อเรื่องรถติด, เรื่องท้องเสียเพราะอาหารเป็นพิษ, เรื่องเลิกกับแฟนคนที่สามสิบเอ็ด...ฉันเข็ตแล้วจ้า, แล้วได้โพสต์ด่านักการเมืองเลว ๆ, แถมยังเล่าเรื่องทำสวนหย่อมหน้าบ้านตัวเองอีกด้วยแหละ
.และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นต้น
การเขียนแบบตามใจฉัน ..แบบไร้ทิศทาง
จึงดูเหมือนกับเจ้าของ personal blog "พยายามจับทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนเองรู้เห็น ยัดลงไปในบล็อกของตนนั้นเอง การทำเช่นนี้คล้าย ๆ กับว่าคนเขียนบล็อกได้มีเรื่องราวมากมายที่จะหยิบฉวยเขียนลงบล็อกได้อย่างง่ายดาย แต่ท่านหารู้ไม่ว่า..นั้นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ท่านได้ลืมความจริงของข้อจำกัดในการเล่าเรื่องไปเสียแล้ว
คุณไม่อาจนำเสนอทุกเรื่องราว
บรรจุลงไปในการเขียนบล็อกครั้งใด ๆ ของคุณได้ และ คุณไม่อาจเขียนทุกเรื่องที่คุณรู้ คุณเชื่อ คุณรู้สึก และทุกเรื่องราวที่คุณสนใจ เล่า(โพสต์)ลงไปในบล็อกทั้งหมดของคุณได้
แม้จะพยายามทำมันตลอดเวลาชั่วชีวิตของคุณก็ตาม
ปัญหาใหญ่ของ personal blog กลุ่มใหญ่นี้ ไม่ว่าคนเริ่มต้นเขียนบล็อก และ คนที่เขียนบล็อกติดต่อยาวนานไปสักระยะหนึ่ง (อาจจะหนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน ไปจนถึงหนึ่งปี) ก็ตาม จะต้องประสบ
หรือเกิดขึ้นกับตนเองก็คือ ไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาเขียนลงบล็อก
มันตีบ มันตัน มันตื้อ ไปหมด
. (เฮ้อกลุ้ม..เบื่อ
เซ็ง
หงุดหงิด
อารมณ์เสีย)
ดังนั้นการป้องกันปัญหา มันตีบ มันตัน มันตื้อ ไปหมด
ไม่รู้จะหาอะไรเขียนโพสต์ลงบล็อก ที่จะเกิดขึ้นในการเล่นบล็อกในอนาคต จึงเป็นสิ่งที่ควรเตรียมการไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่เริ่มต้นเขียนบล็อกของตนเอง (บางคนอาจจะมีเวปบล็อกหรือไซต์ ที่เขียนประจำอยู่หลาย ๆ แห่ง ๆ ก็ยิ่งต้องกำหนดทิศทางการเขียนการเล่นบล็อกในแต่ละที่แต่ละแห่งไว้เสียให้ชัดเจน)
คำแนะนำสำหรับการเริ่มต้นของบล็อกเกอร์มือสมัครเล่น ขอเสนอไว้ดังนี้....... สิ่งที่คุณจะต้องกำหนดเลือก ให้บล็อกของคุณ เป็น และ มี เมื่อเริ่มต้นเขียนบล็อกของคุณเอง ก็คือ
.
1. บล็อกของคุณจะเป็น Professional ด้านใด? หรือว่า บล็อกของคุณจะเป็น Personal แบบไหน?
2. หากคุณยืนยันที่จะมีบล็อกในแบบเป็น Personal บล็อกส่วนบุคคล แล้วละก็ สิ่งที่จะต้องคิดให้หนักและคิดให้ตกก็คือการเลือกแนวทางการเขียนเรื่องที่แตกต่างกันสองขั้ว ได้แก่ระหว่าง (1) แบบ Personal คือว่า เขียนเนื้อเรื่องตามใจฉัน เรื่องของฉัน เรื่องตามแต่โลกมันจะพาไป และ (2) แบบ Topical คือว่า มีแนวทางการเขียนที่กำหนดไว้เฉพาะด้านที่ค่อนข้างแน่นอน มีหัวเรื่องใหญ่ครอบหมายไว้ชัดเจน เปิดพื้นที่สำหรับแตกประเด็นแยกย่อยสามารถขยายกิ่งก้านสาขาออกไปได้อีกรอบด้าน ตั้งเป็นกรอบไว้แต่แรกเริ่มแล้ว" แม้ว่าจะคาดหวังผลเชิงปฏิบัติเป็นเพียงการทำงานแบบ Nonprofessional ก็ตาม
ดูเหมือนจากประสบการณ์ส่วนตัวของ a_somjai ที่เคยลองทำมาทั้งสองอย่างสองแบบ ในช่วงแปด-เก้าเดือนที่ผ่านมาในชุมชนบล็อกแก๊งแห่งนี้ พบว่า การเขียนบล็อกแบบ Topical
แบบมีทิศทาง หรือ ประเด็นที่ชัดเจน นอกจากจะแก้ปัญหา มันตีบ มันตัน มันตื้อ ไปหมด
ไม่รู้จะหาอะไรเขียนโพสต์ลงบล็อก ได้เป็นอย่างดีแล้ว
ยังทำให้เจ้าของบล็อกเกิดการตื่นตัว พัฒนาการและเพิ่มพูนความรู้ในสาขาที่เราสนใจจะเขียนโพสต์ลงบล็อกของเราอย่างสม่ำเสมอได้ดียิ่งอีกด้วย
(จนบางครั้งก็หลงตัวเองไปว่า ตนเองเป็น Professional ในเรื่องนั้นไปเสียอีกแน่ะ
อิอิ
.เก็บเอาประโยขน์ของการกำหนดเลือกทิศทางหรือประเด็นการเขียนลงบล็อกให้ชัดเจนดังว่านี้ไว้ก่อน
.จะกลับมาว่าต่อในชั้นเรียนคราวหน้าละกัน)
Posted by a_somjai | June 6, 2006
Create Date : 06 มิถุนายน 2549 | | |
Last Update : 7 มิถุนายน 2549 0:55:23 น. |
Counter : 737 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Hobbyist blogger: มือสมัครเล่นควรเริ่มต้นอย่างไร? (01) / บล็อกวิทยา 101 / 014
Posted by a_somjai Tags: professional, .amateur, Hobbyist, bloggers, Teen, diary,Technology, Tech, Savy, content, community, ชุมชน, ไดอารี่, บันทึก, บล็อก, บล็อกเกอร์, เวปไซต์, เวปบล็อก, ไทย, ภาษา, คน, ชุมชน, มือสมัครเล่น, มืออาชีพ, วัยรุ่น,กลุ่มไวเทค, เนื้อหา
16 พ.ค. 2549 / 14.44 น.
บอกกล่าว
1.) เรื่องของ บล็อกเกอร์มืออาชีพ Pro - Professional bloggers ดังที่ได้เริ่มคุยกันไว้เมื่อตอนที่แล้วนั้น เมื่อเริ่มต้นจับทาง จับเรื่อง จับราวเข้าจริง ๆ พบว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว บล็อกเกอร์ชาวไทย
อย่างพวกเราเกินไป ดังนั้นจึงตัดกรอบเอาให้
เดินลัดเข้าเรื่องเสียเลย
2.) เรื่องเกี่ยวกับบล็อกเกอร์ที่เขียนอย่างมืออาชีพ เต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาแสดงความรู้ ความสามารถ ความถนัดของเคนเขียนบล็อกนั้น ๆ ในด้านใด รูปแบบไหน และมีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจ การเมือง การศึกษา การแพทย์ เทคโนโลยี ไอที สื่อสารมวลชน
ฯลฯ จริงจังเพียงใด
ก็ต้องเอาออกไปจากเนื้อหาชั้นเรียน บล็อกวิทยา / Blogology 101 นี้เสียก่อน (ค่อยไปว่ากันใหม่ข้างหน้า หากว่ายังจะเปิดชั้นเรียนชั้นสูงขึ้นไป เช่นสมมติว่าเป็นวิชา บล็อกวิทยาเชิงธุรกิจ 202
เป็นต้น หรือเขียนแนะนำให้ไปค้นคว้าอ่านที่มีมืออาชีพเขียนไว้แล้วในเวปบล็อกอื่น ๆ ทั่วโลก)
3.) ขอสรุปเอาโดยไม่มีการอ้างข้อมูลที่ผ่านการศึกษา-สำรวจ-วิจัยอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
แต่สำหรับคนเล่นบล็อกชาวไทยแล้ว คิดว่าคงยังเป็นสิ่งน่าเชื่อถือได้อยู่ เพราะทุกคนที่เล่นบล็อกโดยใช้ภาษาไทยเขียนบล็อกสื่อสารกันอยู่เวลานี้ ย่อมมองเห็นว่า อาจจะมากกว่า 95% ของบล็อกเกอร์ในชุมชนอินเตอร์เน็ตเมืองไทย ไม่ว่าเป็นการโพสต์เขียนลงบล็อกแบบบันทึกไดอารี่หรือแบบนำเสนอผลงานเป็นความคิดเห็น ความรู้ ความรู้สึก ผ่านตัวหนังสือ ภาพ เสียง
. ล้วนแล้วเป็น บล็อกเกอร์มือสมัครเล่น หรือหากจะมีความจริงจังปรากฎในบล็อกอยู่บ้าง ก็ยังอยู่ในระดับ กึ่งมืออาชีพ ทั้งสิ้น
4.) ความรู้เบื้องต้นเรื่องจุดมุ่งหมายและวิธีการทำงานของ มือสมัครเล่น กับ มืออาชีพ ได้เขียนโพสต์ไว้คู่กันใน ที่นี้ หรือ นิทานชาวบล็อก:
(ชุดที่ว่าด้วย มือสมัครเล่น
เขียนบล็อกเอาเพลิน
ทำเป็นงานอดิเรก ขอแนะนำว่าหากสนใจใฝ่รู้จริง ๆ ก็ควรเข้าไปอ่านความก้าวหน้าของเรื่องอ้างถึงนี้ ควบคู่กันไป...คือเขียนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ)
5.) บล็อกชั้นเรียนวิชาบล็อกวิทยาเบื้องต้น ควรจะโพสต์เนื้อหาที่เป็น เนื้อหาสำคัญที่บล็อกเกอร์สมัครเล่น
ผู้เล่นบล็อกเป็นงานอดิเรก ควรรู้ไว้ หรือ ต้องการรู้เพื่อนำเอาไปประยุกต์ใช้ในการเล่นบล็อกได้จริง
6.) หลายตอนต่อไปนี้เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน (ไม่ใช่การมาสั่งสอนกัน..เพราะตัวข้าพเจ้าเองก็กำลังศึกษาโลกของบล็อกอยู่แบบวันต่อวัน...จึงรู้อะไรได้เท่าที่เขียนเล่าสู่กันอยู่นี้แหละ) ว่า มือสมัครเล่น
ควรจะเขียนบล็อกอย่างไร? เพราะคิดว่า เป็น content สำคัญอันขาดมิได ที่คนเขียนและคนอ่านบล็อกต้องการตรงกันหรือมีความปราถนาใคร่รู้แล้วก็คาดหวังจะนำไปปฏิบัติได้จริงเหมือน ๆ กัน อันถือเป็น คุณค่า
ที่ได้จากการเล่นบล็อก นั้นเอง
เข้าเรื่อง
ก้าวแรกของบล็อกเกอร์สมัครเล่น
ที่เล่นบล็อกเป็นงานอดิเรก (ดังกล่าวแล้วว่าเรื่องของ hobbyist blogger จะยกไปเล่าไว้ในหมวด นิทานชาวบล็อก) ....
ในที่นี้ ขอรวบรัดว่า แน่นอน
พวกเราคนเล่นบล็อกส่วนใหญ่เป็นมือสมัครเล่น แม้ว่าจะมีบางคนหรือบางครั้งของบางคนที่พยายามเขียนบล็อกอย่างจริงจังในระดับเดียวกับพวกมืออาชีพเขาทำกัน
แต่พวกเราก็ยังคงเป็นคนเล่นบล็อกเพื่อความเพลิดเพลิน และไม่มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อหารายได้จาการเล่นบล็อก
Hobbyist blogger
พวกเราได้ก้าวผ่านอะไรมาบ้าง และมีอะไรที่ควรจะต้องทำบ้างในก้าวย่างต่อ ๆ ไปบ้าง ขอเชิญมาพิจารณาดู
.
เราคนจะเล่นบล็อก...แรกสุดคงเคยได้ออกท่องอินเตอร์เน็ต โลกออนไลน์ เพื่อค้นหาและเลือกสรรเวปไซต์ ที่เปิดไว้ให้เราได้ใช้ "บริการสร้าง เขียน เป้นเจ้าของบล็อกส่วนตัวฟรี" มาแล้ว
ไซต์เหล่านั้นเป็นไซต์ที่มีส่วนให้บริการเวปบล็อกหรือส่วนที่เป็นชุมชนชาวเวปบล็อกประเภทให้สมาชิกเขียนบ็นทึกไดอารี่ส่วนตัวได้ หรือไม่ก็ประเภทให้โพสต์เรื่องอะไร ๆ ต่าง ๆ ตามความสนใจ/หรือตามความถนัดของแต่ละคน
แล้วเราก็ตัดสินใจเลือกชุมชนเวปบล็อกนั้น
สมัครเป็นสมาชิก
ได้เป็นสมาชิกชุมชนคนเล่นบล็อกนั้น ๆ ..แล้วก็เล่นบล็อกต่อเนื่องมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ..
ตัวอย่างเวปไซต์ที่เปิดให้บริการเล่นบล็อกในลักษณะชุมชนชาวบล็อกของเมืองไทยเราเวลานี้ (ไม่รวมไซต์ประเภทเวปบล็อกส่วนบุคคล และไซต์ที่เปิดเวปบล็อกของหน่วยงาน/องค์กร/สถาบัน) ได้แก่
www.bloggang.com, www.Exteen.com, www.storythai.com, www.diarycafe.com, www.diaryclub.com, www.blogdd.com, www.whenifallinlove.net, www.diaryhub.com, www.monrak.net, www.manager.co.th, www.updiary.com, www.glomblog.com, www.diaryis.com, www.diarylove.com, ฯ
ข้อสังเกตต่อชุมชนเวปบล็อกในบ้านเรา คือ วัตถุประสงค์ของเจ้าของไซต์ที่ให้บรืการสมาชิกเล่นบล็อกจะสัมพันธ์กับคุณสมบัติทางประชากรของกลุ่มสมาชิก ที่จัดเป็นวัยรุ่นที่รู้จักมี/รู้จักใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในยุคดิจิตอล เรียกว่า Teen bloggers ที่จัดเป็น กลุ่มไวเทค - Technology Savy Group (คุณสมบัติของคนกลุ่มนี้จากผลการศึกษาวิจัยในสหรัฐอเมริกา เมื่อ ปี 2004 และ ปี 2005 อ่าน ที่นี่, ที่นี่ และ ที่นี่ )
หากคิดเป็นสัดส่วนของบล็อกเกอร์ชาวไทย/ผู้ใช้การสื่อสารด้วยภาษาไทยเป็นหลักแล้ว คาด(เอาเอง)ว่าน่าจะมีมากกว่า 4 ใน 5 ของบล็อกเกอร์ชาวไทยทั้งหมด
และหากพิจารณาประเภทของเวปไซต์ที่เปิดให้บริการเล่นบล็อกส่วนใหญ่แล้ว จะพบว่าเป็นบริการประเภท เวปไซต์
ไดอารี่
บันทึกประจำวัน
ประสบการณ์ชีวิต คิดเป็นสัดส่วนถึง 8-9 ใน 10 จากไซต์ให้บริการเวปบล็อกทั้งหมดเลยทีเดียว
แล้วเนื้อหาที่นิยมโพสต์บล็อกกันก็เป็น ไดอารี่
บันทึกเรื่องราวส่วนตัวของวัยรุ่น..แบบว่าเรื่องเล่าหรือบทสนทนาสไตล์วัยรุ่น...เกือบทั่งหมด ก็ว่าได้ (ก็คงจะมีวัยจ๊าบจำนวนหนึ่งที่อายุเลยยี่สิบสี่ขวบบ้างละ ก็ตีว่า 25 ปี ขึ้นไปไม่เกิน 40 ปี คงได้กระมัง?)
หากประมาณว่ามีคนเล่นบล็อกในเมืองไทยสัก
หนึ่งแสนคน
แล้วละก็จะเป็นวัยรุ่น(วุฒิภาวะแบบไทย ๆ)กลุ่มอายุ 12-17 ปี กับ กลุ่มอายุ 18-24 ปี รวมกันแล้วก็คงประมาณว่าไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นคนเลยทีเดียว
.(ข้อมูลนี้
ยังใช้อ้างอิงไม่ได้นะครับ
คิดฝันลมลมแล้งแล้งว่าหน่วยงานด้าน IT, ด้านการศึกษา, หรือ ด้านการสื่อสาร ควรจะสำรวจศึกษาข้อมูลออกมา
คงเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติในวงกว้างแน่ ๆ
แต่ก็อะนะ
. อาจจะเป็นว่า
กลุ่มคนทำรายการสารคดีประเภท กบนอกกะลา คงจะหวังพึ่งได้มากกว่า เพราะว่าดูจะมีวิสัยทัศน์กว้างไกลกว่าหน่วยงานที่มีทรัพยากรและงบประมาณมาก ๆ เสียอีก
เฮ้อ
อย่าพูดดีก่าาาาาา
)
ดังนั้นสิ่งสำคัญอันดับแรกสุดก็คือ
การพิจารณาเลือก เข้าเป็นสมาชิกชุมชนคนเล่นบล็อกให้ถูกจริตกับตัวเราเอง ให้ได้เสียก่อน, วิธีการง่าย ๆ ก็คือเราต้องประเมินทางเลือกจากความสอดคล้องของตัวตนของเราเอง กับ ตัวตนโดยรวมของพวกเขา ในด้าน
.. วุฒิภาวะทางอารมณ์, เพศ, วัย, ความสนใจทั่วไป, ความสนใจพิเศษ, แบบแผน/รสนิยมการดำเนินขีวิตหรือไลฟ์สไตล์, ประสบการณ์ภูมิหลังทางสังคม/วัฒนธรรม, และประสบกาณ์ในชีวิตประจำวัน, ตลอดจนตัวสารหรือเนื้อหาเรื่องราวที่ชาวบล็อกชาวบ้านแถบนั้นเขานิยมสื่อสารกัน เช่น เล่นกันด้วยภาพ ด้วยเสียง คุยกันเรื่องหนังสือ หนัง ละคร ดนตรี กีฬา การท่องเที่ยว ช๊อบปิ้ง ไปจนถึงประเด็นเบาๆ เรื่องรักกุ๊กกิ๊ก ไปจนถึงเรื่องจริงจังต่อแนวทางในการใช้ชีวิตอย่างเรื่องศีลธรรม จริยธรรม ศาสนา หรือว่าจะเป็นการถกเถียงอภิปรายกันในประเด็นหนัก ๆ ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง เป็นต้น,
นอกจากนี้แล้ว วีธีการสื่อสารทั้งการรับและส่งสารระหว่างกันในหมู่ชาวชุมชนก็เป็นเรื่องสำคัญมาก
พูดง่าย ๆ ก็คือเรื่องภาษาที่เขาใช้โพสต์ลงบล็อกสื่อสารกันอยู่นั้นแหละ
เราต้องพูดและฟังระหว่างกันกับสมาชิกคนอื่น ๆ ได้รู้เรื่อง
ระดับพอใช้ขึ้นไป (จะพูดว่า ถิ่นใคร ก็ถิ่นใคร อย่างนั้นก็ได้)
สรุปก็คือ ประเภทของชุมชนชาวบล็อก .ภาษา.. ภูมิหลังคนเล่น
.เพศ วัย การศึกษา .. กลุ่มย่อย.. จำนวน
กฎ กฏิกา มารยาท
ความน่าเชื่อถือได้ของไซต์ต่าง ๆ ดังกล่าวเหล่านี้ ต้องให้สอดคล้องกันกับตัวเรา
ต้องดูว่าตัวเราเองและสมาชิกกลุ่มใหญ่ของสมาชิกชุมชนชาวบล็อกนั้น ๆ ไปด้วยกันได้ไหม
. เพราะหากเราหลงเข้าไปอยู่ ผิดกลุ่ม ผิดที่ ผิดทาง แล้วก็คงยุ่งตายห่ะ
(เพราะบล็อกเราก็จะเงียบเหงา, เมื่อไปท่องบล๊อกเขาก็จะไม่รู้เรื่อง
เป็นต้น)
ท้ายที่สุด
การเล่นบล็อกก็เหมือนการใช้ชีวิตคู่
การมีชีวิตครอบครัว
การเลือกชุมชนที่อยู่อาศัย การเลือกชุมชนประกอบอาชีพ
. เลือกประชุมชนหมู่เพื่อนฝูง ...หากว่าเลือกผิดแล้ว อาจต้องคิดไปจนบล็อกตาย
(เตือนกันไว้ก่อน
จะได้
ไม่ต้องย้ายที่เล่น
บ่อย ๆ)
วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนละกัน
ใครจะเพิ่มเติมอะไรก็ช่วยกันคอมเมนต์ลงไว้เป็นการแชร์ความรู้ได้นะครับ
ด้วยความยินดี คราวต่อ ๆ ไป
จะมาว่าด้วยเรื่อง การเริ่มต้นเขียนบล็อกของตนเองและการไปเยี่ยมบล็อกคนอื่น
ควรโพสต์อะไร
เพื่ออะไร และจะทำกันยังไง
Create Date : 16 พฤษภาคม 2549 | | |
Last Update : 18 พฤษภาคม 2549 21:45:11 น. |
Counter : 871 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Blogology 101: Bloggers: professional vs. amateur", มืออาชีพ กับ มือสมัครเล่น / 013
Posted by a_somjai Tags: professional, .amateur, amateurish, bloggers, network, connection, client, audience, reader, visitor, ประเภท, บล็อก, บล็อกเกอร์, มือ, อาชีพ, สมัครเล่น. เครือข่าย, การเขื่อมต่อ, ผู้ใช้บริการ, ผู้รับบริการ, ผู้อ่าน
8 พ.ค. 2549 / 13.00 น. profesional bloggers บล็อกเกอร์มืออาชีพ
เมื่อมองดูคนเล่นบล็อก - bloggers ในแง่ของการใช้แรงและการใช้เวลาให้กับโลกของบล็อกแล้ว สิ่งที่จะต้องพิจารณาเบื้องต้นแบบ I/O ได้แก่สิ่งที่ผู้เล่นทุ่มเทลงไปให้กับการเล่นบล็อก (Input))และสิ่งที่ผู้เล่นมุ่งหวังที่จะได้ผลพวงออกมาจากการเล่นบล็อก (Output) นั้นเอง สองสิ่งนี้เป็นองค์ประกอบที่กำหนดข้อแตกต่างของการทับซ้อนระหว่างถ้อยความ การทำงาน กับ การเล่น ในเวลางานและนอกเวลางานของคนเรา
คำว่า การทำงาน นั้น เป็นถ้อยความที่เข้าใจได้โดยทั่วไปว่าหมายถึง การทำกิจกรรมเลี้ยงชีวิต โดยผู้ทำงานนั้นต้องลงทุนอย่างจริงจัง ได้แก่ ทุนทรัพย์ ทุนแรงงาน ทุนปัญญา ทุนความรู้ ความสามารถ และรวมทั้งทุนเวลาในชีวิตประจำวัน ให้ลงไปใน งาน นั้น ๆ อย่างจริง ๆ จัง ๆ ต่อเนื่องสม่ำเสมอ กล่าวคือการทำกิจกรรมงานอาชีพต้องไม่หยุดไม่ขาดแบบถาวร (คือ ถ้าต้องหยุด ก็เป็นเพียงการพัก เว้นช่วง เว้นวรรค เพียงชั่วคราว ไม่ใช่การปิดอย่างถาวร) ซึ่งหากกล่าวเพื่อชี้ไปที่ปลายสุด(โต่ง)ของความหมายแล้ว การทำงานเป็นเรื่องจริงจัง จึงต่างโดยเด็ดขาดจาก การเล่นเป็นเรื่องไม่จริงจัง
ดังนั้น ความหมายอย่างเข้มข้นของ การทำงาน ก็คือ การทำกิจกรรมอย่างจริงจังเพื่อเลี้ยงชีพอย่างมั่นคงถาวร, ภาษาที่เราใช้กันอยู่ คือ การทำมาหากิน, การทำงานเลี้ยงชีวิต, งานอาชีพ ดังนั้นบุคคลที่ทำกิจกรรมอย่างจริงจังในงานอาชีพอย่างมั่นคงถาวร จึงจัดเป็น มืออาชีพ หรือ ผู้ทำกิจกรรมแบบมืออาชีพ
แต่เรื่อง "มืออาชีพ" ที่เราจะพูดถึงนี้ ..ไม่ใช่แต่เพียงการทำมาหาเลี้ยงชีพทั่ว ๆ ไป ใคร ๆ ก็ทำได้เลยหรือหากฝีกฝนเพียงเล็กน้อยก็ทำได้ แต่เป็นคำที่หมายถึงกลุ่มอาชีพพิเศษบางประเภท จึงต้องสร้างคำขึ้นมาใข้ให้มีความหมายเฉพาะ และความจริงแล้วที่มาของคำนี้เป็นศัพท์บัญญัติมาจากภาษาของชาวตะวันตก เพราะคำนี้เกิดขึ้นมาบนบริบททางสังคมของชาวตะวันตก ที่ใช้ว่า "Professional"
"Professional" หมายถึง "ความเป็นมืออาชีพ / อย่างมืออาชีพ" และหากหมายถึง คน/บุคคลหรือกลุ่มบุคคล ก็คือ ..."ผู้ทำงานในวิชาชีพ...ที่ใช้ความสามารถ/ทักษะพิเศษเฉพาะด้าน ...ที่ต่างจากคนทำงานเลี้ยงชีพพื้น ๆ ทั่ว ๆ ไปเพราะหากว่าคนอื่น ๆ นอกกลุ่มมืออาชีพ จะมาทำกิจกรรมการงานอย่างมือาชีพบ้างก็ต้องได้รับการฝึกฝนอบรมมาอย่างดีเสียก่อน ...ดังนั้นในยุคแรก ๆ ที่เรารับเอาวัฒนธรรมด้านการศึกษาและวัฒนธรรมการทำงานของชาวตะวันตกเข้ามา จึงมีผู้ใช้ศัพท์คำนี้ในภาษาไทยว่า ...วิชาชีพ โดยเฉพาะเจาะจงถึง..."วิชาชีพชั้นสูง" ... ได้แก่ วิชาชีพครู/อาจารย์ วิชาชีพทางการแพทย์/พยาบาล วิชาชีพด้านกฎหมาย เป็นต้น ต่อ ๆ มาก็มีการยอมรับเอาวิชาชีพอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น วิชาชีพวิศวกร วิชาชีพสื่อสารมวลชน และวิชาชีพด้านศิลปะการแสดง การดนตรี รวมทั้งการกีฬา เป็นต้น"
ความเป็นมืออาชีพ - Professional นั้น มีลักษณะพิเศษอยู่ 3 ประการ ได้แก่
1) การติดต่อเชื่อมโยงกับงานการที่ทำนั้น ต้องการผู้ทำงานที่ได้ผ่านการฝึกฝนอบรมเป็นอย่างดีหรือได้รับการศึกษาทางด้านที่เกี่ยวข้องในระดับสูงมาแล้ว
2) ผู้ทำงานต้องทำงานในลักษณะที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ทำงานมีทักษะ มีฝีมือ ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี หรือ เมื่อทำงานก็ทำงานได้ด้วยความรู้ ความสามารถ ความรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วนระมัดระวัง ในขีดขั้นสูง ซึ่งตรงข้ามกับ การไม่เป็นมืออาชีพ Unprofessional
3) ทำงานแบบเป็นการงานอาชีพ คือผู้ทำงานต้องได้รับค่าจ้าง/ค่าตอบแทนคิดได้เป็นเงิน หรือมีผู้ว่าจ้าง อย่างเช่น Pro Professional ผู้ทำงานในด้านกีฬา ดนตรี งานศิลปะ ฯ เป็นนักกีฬา/นักดนตรีผู้เล่นหรือผู้ฝึกสอน เป็นต้น
สรุปแล้ว มืออาชีพ จึงมีองค์ประกอบของการอยู่ในตำแหน่ง บทบาท หน้าที่ และการลงมือทำงานอาชีพ ดังนี้
(1) เป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลผู้มีทักษะ ฝีมือ สูง ในการทำกิจการงานอาชีพนั้น ๆ โดยมุ่งตอบสนองต่อความต้องการ/ความสนใจของผู้ใช้บริการ คือ ผู้มารับบริการ ลูกค้า ผู้ดู/ผู้ชม/ผู้อ่าน (รวมถึงในวงวิชาชีพชั้นสูงอย่างครู แพทย์ ทนายความ และวิชาการด้านอื่น เรียกผู้รับบริการจากมืออาชีพว่า client หรือ audience ในชื่อ
นักเรียน นักศึกษา ผู้ป่วย และลูกความ เป็นต้น)
(2) บุคคลมืออาชีพนั้นหรือกลุ่มบุคคลเหล่านั้น เป็นผู้มีความสามารถเต็มตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ และเป็นที่ยอมรับกันในหมู่คนในวงการงานอาชีพเดียวกัน, หรือ จึงคาดหวังได้ว่า โปร - pro ทุกคนจะทำงานหรือเล่นตามตำแหน่ง/บทบาทหน้าที่ด้วยฝีมือ ได้ในระดับที่ควดหวังว่ามืออาชีพคนอื่น ๆ ก็จะต้องมีมาตรฐานการเล่นได้เช่นนั้น อีกนัยหนึ่ง โปร / มืออาชีพ สามารถทำงาน/เล่นด้วยฝีมือ ในตำแหน่ง หน้าที่ บทบาท ในระดับความสามารถแนวทางเดียวกันได้
ลักษณะงาน คุณภาพงาน และผลงานของมืออาชีพ
ย่อมอยู่ในระดับมาตรฐาน
เหมือน ๆ กัน และดังนั้น มืออาชีพจึงควรได้รับเงิน (ค่าบริการ) และ/หรือ เสียค่าปรับ/ลดค่าจ้างจากการทำงาน (หากทำผิด หรือ ฝีมือลดลง) ตามความสามารถ และกิจกรรมที่ได้ทำ ด้วยกฎเกณฑ์เดียวกัน และผลประโยชน์พึงได้พึงเสียเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดกันไว้แล้ว
(3) มืออาชีพมีสิทธิในการใช้-ได้-มี สิทธิอันพึงมี-พึงได้-พึงใช้ของการเป็นมืออาชีพ หรือ พึงหาเอาประโยชน์จากผลสำเร็จจากกิจการในงานอาชีพแห่งตน"
(4) มืออาชีพต้องดำรงตนอยู่ใน จรรยาบรรณของวิชาชีพ/มืออาชีพ หรือ ต้องเครารพใน กฎ กติกา มารยาท และจริยธรรมของวงการงานอาชีพของตน
(5) มืออาชีพต้องมีผลงานในฐานะ มืออาชีพ ที่ วัดผล/ประเมินผลได้ ทั้งด้านความรู้ และความสามารถในการปฏิบัติงาน/การเล่นตามบทบาทหน้าที่ด้วยฝีมือชั้นสูง และที่สำคัญ "ต้องมีผลงานได้มาตรฐานวิชาชีพ มีระดับ ปรากฏอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เป็นที่ยอมรับของผู้รับบริการ คือ client หรือ audience, ผู้คนในวงการเดียวกัน และสาธารณะ"
เมื่อนำคำว่า profesional มืออาชีพมาใช้กับ bloggers (คนเล่นบล็อกกลุ่มหนึ่ง) แล้ว คำถามที่พุ่งเข้าเป้าของเราที่สุด ดูเหมือนจะเป็นว่า
ใครบ้างคือบล็อกเกอร์มืออาชีพ และพวกเขาเหล่านั้นเล่นบล็อกในลักษณะมืออาชีพทำไม เล่นอย่างไร และ เล่นบล็อกเพื่ออะไร ?
คำตอบที่ฉันพอคิดได้ จากการพิจารณาสิ่งที่แสดงออกในด้าน เวลาและเนื้อหา บนบล็อกของพวกมืออาชีพ จากการสำรวจเวปไซต์ในอินเตอร์เน็ตเท่าที่ประสบการณ์ได้ผ่านพบ เป็นอย่างนี้
blogs ของมืออาชีพ มักจะมีการจัดการเวปไซต์ที่มีการดูแลสูง ทั้งความถี่ในการอัพเด็ต/โพสต์/เขียนลงบล็อก, การดูแลจัดการนำเสนอเนื่อหาที่มีคุณภาพ, การจัดวางรูปแบบ-เนื้อหาได้ทันการ ,รวมทั้งจัดวางการเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ไว้ในหน้าเวปบล็อกนั้น และเวปไซต์ต่าง ๆ ที่ลิงค์เชื่อมต่อเครือข่ายไปสู่กัน
หลายสิ่งที่มืออาชีพทำนั้นมันดูเหมือนเป็นไปโดยกระทันหัน เห็นอะไรก็เขียนลงนำเสนอได้เลย ไม่มีการเตรียมแผนมาก่อน บางครั้งบางวันในวันเดียวกันอาจมีการโพสต์/อัพเด็ตเรื่องต่อเนื่องกันหลาย ๆ เวลา เหมือนรายงานข่าว หรือ ทำลิงค์ไปหาเวปไซต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง "profesional วิชาชีพ" ที่ตนเองเชี่ยวชาญหรือสนใจอยู่ มีการขยายเนื้อหา/เนื้อเรื่องลงลึกในรายละเอียดในส่วนของ บทสนทนากับผู้เข้ามาอ่านบล็อกในส่วนคอมเมนต์ เป็นต้น
เจ้าของเวปไซต์จะบอกบ่งระบุว่าเป็นเวปส่วนตัวของตนเอง ส่วนใหญ่จะบอกชื่อจริงและข้อมูลส่วนตัวไว้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะใช้นามแฝงอยู่ด้วยก็ตาม และจะบอกวัตถุประสงค์ ทิศทางของการสร้าง/เปิดเวปไซต์/เวปบล็อก/บล็อกนั้นขึ้นมา... เท่าที่สำรวจดูแล้ว จะเป็นการนำเสนอบนเวปบล็อกด้วยรูปแบบการสื่อสารผ่าน "สื่อ"... เนื้อหา/ข้อความ - text, วิดีโอ video หรือ อูดิโอ - audio, ภาพถ่าย photo / picture, ศิลปะ- art, ดินตรี music และ อื่น ๆ
ที่สำคัญ blogs ของมืออาชีพ สร้าง/เปิดไว้สำหรับเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้อ่านผู้ใช้บล็อก ที่เป็นมืออาชีพด้วยกัน / คนในวงการเดียวกัน และ ผู้ใช้บริการ - client หรือ audience ที่สนใจเรื่องเดียวกันนั้น ซึ่งมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างทันการ มี updating "การให้บริการ การรับบริการ กันอย่างต่อเนื่องและเสร็จภารกิจไปเป็นขั้นตอนและตามช่วงเวลา โดยผ่าน ช่องทาง/ชานชาลาบล็อก - the blog platform .....ไม่ว่าจะเป็นการไปมาหาสู่กันบนอินเตอร์เน็ทกับเจ้าของไดอารี่ส่วนตัวบนเวปบล็อก, การสื่อสารติดต่อเชื่อมโยงเครื่อข่ายระหว่างบล็อกของคนทำงานกับผู้เชียวชาญหรือผู้บริหารในหน่ายงาน/องค์กร/ห้างร้านบริษัท, โครงการปฏิบัติงาน หรือ โครงการวิจัย, ไปจนถึงการจัดการแฟ้ม/ฐานข้อมูลสะสมผลงานของสมาชิกในกลุ่มมืออาชีพเดียวกัน,
นอกจากนี้ บล็อกของมืออาชีพ จะเป็นช่องทางสำหรับเครือข่ายความสัมพันธ์แบบต่าง ๆ ตั้งแต่ เพื่อนกับเพื่อน ไปจนถึงกลุ่มสนใจร่วมกัน สมาชิกแฟนคลับ หรือการสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างบุคคลในกลุ่ม/องค์กร/หน่วยงาน/ห้างร้าน/บริษัท หรือ ระหว่างคนในกลุ่มทำงานหรือเกี่ยวข้องกับโครงการปฏิบัติงาน/ภารกิจเฉพาะด้านหรือโครงการวิจัย, รวมทั้งบล็อกของกลุ่มองค์กรที่มีวัตถุประสงเชิงธุรกิจ
การพัฒนางานบริหาร...งานบริการลูกค้า
การประชาสัมพันธ์
การตลาด
, การโปรโมตเพลง/ดนตรี, งานศิลป งานการถ่ายภาพ และการนำเสนอข่าวสารสินค้าบริการในรูปแบบต่าง ๆ , การปลูกฝังโฆษณาชื่อยี่ห้อสินค้า/แบรนด์เนมของบริษัทในหมู่ลูกค้าและนำสู่สังคมวงกว้าง, การสื่อสารในหมู่สมาชิกกิจกรรมสนใจหรือภารกิจแนวร่วมเดียวกัน, การประชาสัมพันธ์-รณรงค์ทางการเมืองโดยบุคคล/กลุ่ม/พรรคการเมือง หรือ ของหน่วยงานของรัฐ/ราชการ, และแม้แต่เวปข่าวสารของสื่อสารมวลชน--หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง และสื่อออนไลน์ในรูปแบบเวปไซต์/เวปบล็อก ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะตัดสินชี้ขาด "ความเป็นมือาชีพของบล็อกเกอร์" ก็คือ ผลงานในฐานะบล็อกเกอร์มืออาชีพ ที่ วัดผล/ประเมินผลได้ ทั้งด้านความรู้และความสามารถในเรื่องที่เขียนลงบล็อกอย่างงานของมืออาชีพ คือ... มีผลงานแสดงออกถึง ความรู้ดี รู้จริง คิดจริง ทำจริง แสวงหาและพัฒนาความรู้ ความคิดใหม่ ๆ ให้งานได้ก้าวหน้าไป, มีการจัดการดูแลบล็อกของตนให้สนองต่อผู้เข้ามาติตต่อ อ่าน ชม แลกเปลี่ยนความรู้ หรือใช้บริการในงานอาชีพที่ตัวตนเจ้าของบล็อกถนัดอย่างมืออาชีพ
สรุปแล้ว
1) บล็อกของมืออาชีพ นั้น...ต้องมีผลงานปรากฎในบล็อกได้มาตรฐานวิชาชีพที่เจ้าของบล็อกเป็นอยู่ สารที่สื่อออกมาบนเวปบล็อกอยู่ในเกณฑ์ดีมีระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับบล็อกของมืออาชีพด้วยกัน และเป็นผลงานที่ก้าวหน้าปรากฏอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ มีการเชื่อมต่อเครือข่ายในวงการผู้รู้ ผู้ชำนาญ ผู้เกี่ยวข้อง จนบล็อกเป็นที่ยอมรับจากผู้คนในวงการเดียวกัน
2) และเกณฑ์วัดประเมิน "blog, blogger" ที่สำคัญที่สุดคือ...คุณค่าของสารที่นำเสนอบนบล็อกที่ให้แก่ผู้อ่าน(และให้แก่ตัวคนเขียน/เจ้าของบล็อกเองด้วย) อีกนัยหนึ่งก็คือภาพสะท้อนตัวตนออนไลน์ของคุณ_เจ้าของบล็อก ....พูดกันให้ชัดเจนลงไปได้เลยว่า...เนื้อหาตัวตนบนบล็อกของมืออาชีพต้องเป็นที่ยอมรับจากผู้อ่าน ซึ่งผู้อ่านบล็อกก็คือผู้รับบริการ/ผู้ใช้บริการ - client หรือ audience = readers, visitors คือเราท่านชาวบล็อกเกอร์ผู้เล่นเขียนและอ่านบล็อกออนไลน์นั้นเอง
เรื่องนี้คงยังไม่จบง่าย ๆ อีกหลายตอนกว่าจะถึงเรื่องใกล้ตัวพวกเราท่านชาวบล็อกแก๊ง
.. amateurish bloggers
Create Date : 08 พฤษภาคม 2549 | | |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2549 8:23:44 น. |
Counter : 1114 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Blogology 101: ทำไม bloggers จึงเล่น blogs ? / 012
Posted by a_somjai Tags: Blogology, blogers, blogosphere, comments, visitors, ประเภท, บล็อก, บล็อกเกอร์
วันที่ 26 เมษายน 2549 | 01. 29 น.|
มาเริ่มเรื่องกันต่อที่ การจัดประเภทของ บล็อกเกอร์ ด้วยการพิจารณาดูที่วัตถุประสงค์ของการเข้ามาเล่นบล็อกบนโลกออนไลน์ของเจ้าของบล็อกแต่ละคน
คำถาม: คุณมาเล่นบล็อกทำไม? เพื่ออะไร? (เล่นบล็อก, ท่องเว็ปไซต์/เยี่ยมชม/สำรวจบล็อก, อ่านบล็อกของคนอื่น, อ่านแล้วไม่คอมเมนต์, อ่านแล้วทิ้งร่องรอยตัวตน บทสนทนา ความคิดความเห็น ความรู้ ความรู้สึก ไว้ในส่วนคอมเมนต์, ติดต่อกับเจ้าของบล็อกทาง e-mail หรือ Messenger, มีบล็อก/เขียนบล็อกเป็นของตนเอง, เขียนลงบล็อกร่วมกับคนอื่น)
คำตอบ:
1. เล่นสนุก ๆ เล่นแก้เหงา เล่นเอาม่วน เล่นเอาเพลิน เล่นเอาบันเทิง เล่นฆ่าเวลา เล่นยามว่าง เล่นเป็นงานอดิเลก เล่นไปเรื่อย เล่นไม่มีจุดมุ่งหมายหรือมี
ก็ไม่แน่ชัด
2. เล่นจริงจัง เล่นเอางานเอาการ เล่นเอาปัญญา เล่นใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ เล่นเอามรรคเอาผลจากงานเล่นบล็อก, เล่นเวลางาน, เล่นเวลาในงานและนอกงาน, เล่นเป็นงานหลัก เล่นแบบมีทิศทางและแผนงาน, เล่นมีจุดมุ่งหมาย/เป้าหมายแน่ชัด
3. เล่นเอาเพื่อน เล่นเอาญาติ เล่นเอามิตรสหาย เล่นเอากลุ่มสมาคม เล่นเอาคนคอเดียวกัน และรวมทั้งเล่นหาคู่สิเนหา (เล่นเอาผัวเอาเมีย)
4. เล่นเอาความรู้/ค้นหาความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาความรู้ แสดงความรู้ (ความรู้ ความเชื่อ ความคิด ความเห็น ทัศนคติ) และรวมทั้งเล่นเพื่อข่าวสาร/การสื่อสาร
5. เล่นเอางาน เล่นเอาการ เล่นเอาเงิน เล่นค้าขาย เล่นเป็นธุรกิจ และรวมทั้งเล่นตามเงื่อนไข/โอกาสของหน่วยงาน/องค์กรที่เป็นสมาชิกอยู่ พวกเขา/เราต่างก็เล่นบล็อกกัน
6. เล่นเพื่อช่วยคนจน/คนด้อยโอกาส เล่นเพื่อจุดมุ่งหมายทางสังคม/การเมือง/ผลประโยชน์ส่วนรวม รวมทั้งกลุ่มกิจกรรมทางสังคม เศรษฐกิจ การแพทย์ การศึกษา วัฒนธรรม ศาสนาและชนกลุ่มน้อย
7. เล่นเพราะเหตุอื่น ๆ
8. เล่นเพราะหลาย ๆ อย่างดังกล่าว ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป
คำถามและคำตอบต่อเนื่อง: เมื่อคุณได้คำตอบที่แท้จริงของคุณเองว่า ทำไมคุณจึงเล่นบล็อก แล้ว
1. แล้ว คุณเป็น blogger ประเภทไหนกันบ้างล่ะ?
2. แล้ว คนอื่น ๆ เขาจัดเป็น blogger ประเภทไหนกันบ้างล่ะ?
3. แล้ว คุณเข้าไปเล่นบล็อกของ bloggers ประเภทไหนบ้างล่ะ? (ย้ำ
.เล่นบล็อก, ท่องเว็ปไซต์/เยี่ยมชม/สำรวจบล็อก, อ่านบล็อกของคนอื่น, อ่านแล้วไม่คอมเมนต์, อ่านเล้วทิ้งร่องรอยตัวตน บทสนทนา ความคิดความเห็น ความรู้ ความรู้สึก ไว้ในส่วนคอมเมนต์, ติดต่อกับเจ้าของบล็อกทาง e-mail หรือ Messenger, มีบล็อก/เขียนบล็อกเป็นของตนเอง, เขียนลงบล็อกร่วมกับคนอื่น)
4. แล้ว บล็อกที่คุณชอบ และบล็อกที่คุณไม่ขอบ เป็นอย่างไร ชอบเพราะอะไร ไม่ขอบเพราะอะไรล่ะ?
5. แล้ว เจ้าบล็อกที่คุณชอบนั้น blogger/เจ้าของบล็อกเขาใส่อะไรลงไปใน blog บ้างล่ะ เขาบริหารจัดการ/นำเสนอเนื้อหาในบล็อกเขาอย่างไร? ในทำนองเดียวกัน.....
6. แล้ว เจ้าบล็อกที่คุณไม่ชอบนั้น blogger/เจ้าของบล็อกเขาใส่อะไรลงไปใน blog บ้างล่ะ เขาบริหารจัดการ/นำเสนอเนื้อหาในบล็อกเขาอย่างไร?
7. แล้ว เรา คุณและฉัน จะเริ่มว่ากันที่ blogers ประเภทไหนก่อนดีล่ะ
ความส่งท้ายสำหรับการสนทนาต่อเนื่องในชั้นเรียนคราวหน้า:
จุดเชื่อมต่อ ==>> ..... หากต้องตัดสินเลือกเอา จุดเริ่มต้นของประเภทบล็อกเกอร์ที่มีอยู่อย่างหลากหลาย ตามที่มา/ที่ไป/ที่เป็นอยู่ ดังเช่นได้พิจารณาร่วมกันมาถึงตรงนี้
.ฉันขอเริ่มที่
เกณฑ์ด้าน
เวลา
ที่บล็อกเกอร์ทุ่มเทให้กับการเล่นบล็อก
ก็แล้วกัน (ย้ำ
.เล่นบล็อก, ท่องเว็ปไซต์/เยี่ยมชม/สำรวจบล็อก, อ่านบล็อกของคนอื่น, อ่านแล้วไม่คอมเมนต์, อ่านเล้วทิ้งร่องรอยตัวตน บทสนทนา ความคิดความเห็น ความรู้ ความรู้สึก ไว้ในส่วนคอมเมนต์, ติดต่อกับเจ้าของบล็อกทาง e-mail หรือ Messenger, มีบล็อก/เขียนบล็อกเป็นของตนเอง, เขียนลงบล็อกร่วมกับคนอื่น)
แนวทางการพิจารณา
blog, blogs หรือ bloger, bloggers จัดประเภท/กลุ่มตามคุณบัติด้านเวลาที่สัมพันธ์กับการเล่นบล็อกของชาวบล็อก
ที่จะมาว่ากันต่อไป คือ คุณเล่นบล็อกแบบมืออาชีพหรือแบบสมัครเล่น, คุณเล่นบล็อกเป็นงานประจำ/งานหลักหรือเป็นงานอดิเลก, คุณเป็นบล็อกเกอร์มีสังกัดหรือไร้สังกัด (จึงมีเงื่อนไขด้านเวลาในการเล่น เช่น เล่นในเวลางาน เล่นนอกเวลางาน เล่นทุกเวลาที่ต้องการ และมีเส้นตายของเวลากับผลงาน) เป็นต้น
ภาพจาก: //www.blogshares.com/
Create Date : 26 เมษายน 2549 | | |
Last Update : 23 มีนาคม 2550 10:59:24 น. |
Counter : 438 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|