|
ปี 2553/2010 การจราจรบนอินเตอร์เน็ดจะเข้าขั้น จลาจล แล้ว
Nemertes Research เป็นองค์กรวิจัยอิสระที่เชี่ยวชาญด้านจำแนกคุณภาพเชิงธุรกิจที่มีผลกระทบต่อเทคโนโลยี่ ประกอบไปด้วยทีมงานมืออาชีพระดับแนวหน้าของโลก IT ทั้งในยุโรปและอเมริกา พูดง่าย ๆ ก็คืองานศึกษาวิจัยของ Nemertes จะช่วยชี้แนวทางการตัดสิ้นใจด้านการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี่ของผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ทั่วโลกเลยทีเดียว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ (November 19, 2007 / 19 พฤศจิกายน 2550) Nemertes Research ได้ออกมาเตือนว่า สภาพจราจรจลาจล จะเกิดบนอินเตอร์เน็ตในอีกสามปีข้างหน้า เพราะในรายงานการวิจัยใหม่ล่าสุดของพวกเขา ชี้ว่า โลก Internet จะมีการจราจรที่อยู่ในขั้นเต็มพิกัด (gridlock) ในปี 2010/2553
ในรายงานดังกล่าว คาดการณ์ทำนองว่า สภาพอืดช้าที่สุดของที่สุด จะเกิดขึ้น เพราะเครือข่าย-network ต่าง ๆ จะต่อสู้แย่งชิงกันเองด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลของแต่ละฝ่ายที่วิ่งส่งผ่านเข้ามาบนอินเตอร์เน็ตนั้นเอง
สภาพอืดอาดเชื่องช้า (slow down) นี้ หมายถึง การใช้เวลานานมากในการ download online หรือแม้แต่การกลับเข้าไปสู่เครือข่ายให้บริการ (dial up) ก็ใช้เวลานานมากเช่นเดียวกัน ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของปรากฏการณ์ของปัญหาอุปสรรค์ดังกล่าวก็คือ ผลจากการที่ไม่มีบริการใหม่จัดหาให้ไว้บนโลกออนไลน์นั้นเอง
รายงานนี้ของ Nemertes Research เตือนว่า เมื่อวันนั้นมาถึง ความก้าวหน้าหรือก้าวย่างใหม่ ๆ ของ Amazon, Google หรือ YouTube จะไม่มีออกมาให้ประชากรชาวเน็ตได้เห็นได้มีได้ใช้อีกต่อไปแล้ว สิ่งดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุมาจากการเสื่อมความนิยมหรือความไม่ต้องการใช้บริการของผู้ใช้บริการ หากทว่าเกิดจากความด้อยประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการประยุกต์ใช้งานและความเสื่อมถอยของความร่วมมือระหว่างกัน (คงประมาณว่า ต่างฝ่ายต่างแย่งชิงการใช้งานออนไลน์กัน แบบว่าใครดีใครได้ ตัวใครตัวมัน ประมาณนั้นละกระมัง)
รายงานนี้ยังบอกอีกว่า หากจะป้องกันหรือแก้ปัญหาที่ว่านี้ไว้เสียแต่เนิน ๆ จะต้องใช้เงินจำนวนสูงถึง หนึ่งแสนสามหมื่นเจ็ดพันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ($137bn อ่านว่า 137,000,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ £66bn ปอนด์สเตอริงของอังกฤษ ) มาลงทุน upgrade broadband networks ทั้งหมดที่ใช้อยู่ในโลกเรานี้
เกี่ยวกับผลการศึกษาเรื่องการใช้งานอินเตอร์เน็ตนั้น การวัดผล(ข้อมูลสถิติ)ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ (ปี 2007) ของ comScore พบว่า เกือบ 75% ของ Internet users ในสหรัฐอเมริกา (ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ชาวอเมริกันเป็นกลุ่มผู้ใข้อินเตร์เน็ตสูงที่สุดในโลก ทั้งในด้านจำนวน ความถี่ ประเภทบริการ และความต้องการประสิทธิภาพของผลงาน ?!?) เฝ้าดู online video (ใช้เวลาส่งข้อมูลออนไลน์ติดต่อกันชุดหนึ่ง) เฉลี่ย 158 นาที และเปิดดูชม (viewed) video มากกว่าแปดพันสามร้อยล้าน รายการ (8.3bn video streams) และตัวเลขสถิติของการใช้งานดังกล่าวนี้ นับวันจะต้องยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นไปเรื่อย ๆ จนระบบเครือข่ายไม่สามารถรองรับการสนองความต้องการและการให้บริการของผู้ใช้ได้อีกต่อไป
สรุปส่งท้ายสั้น ๆ ก็คือ บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เรื่องนี้ เขากำลังขบปัญหานี้กันอยู่ ผลจะออกมาอย่างใดนั้น จะพยายามติดตามข่าวมารายงานให้ทราบกันต่อไป
พวกเราชาวเน็ตเมืองไทย ก็อยู่กันแบบไทย ๆ ต่อไปก็แล้วกัน
Local fauna getting increasingly boldfaced
by caribbeanfreephoto
รอเลือกตั้ง
แล้วก็
เฮ้อ
ส่วนใครอยากรู้เรื่องมากกว่านี้ก็ตามไปอ่าน แหล่งที่มากันเอาเองละกัน
อ้างอิง:
1. Nemertes November 19, 2007 เรื่อง User Demand for the Internet Could Outpace Network Capacity by 2010
2. BBC NEWS: Tuesday, 20 November 2007 เรื่อง Consumer demand for bandwidth could see the internet running out of capacity as early as 2010, a new study warns.
3. Editors Weblog - New Media: Thursday, November 22, 2007 เรื่อง New study warns Internet gridlock by 2010
posted by a_somjai on Wednesday, November 28, 2007 @ 11:49 AM.
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2550 8:43:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 679 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|