<<< a_somjai a_somjai's blog === อ่านเขียนบล็อก อ่านเขียนโลก <<<== a_somjai อ่านเขียนบล็อก a_somjai a_somjai's blog
Group Blog
 
All Blogs
 
ว่าด้วย....อิทธพลของสื่อ ที่ลงลึกในระดับล้างสมอง: กรณีศึกษา ASTV

updated: 24 สิงหาคม 2556


กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  แถลงการณ์ฉบับสุดท้าย! ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหว  (ลิงก์: ฟัง ดู ภาพเสียงคำแถลง)

นายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์  แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงยุติบทบาทการทำหน้าที่เป็นแกนนำพันธมิตรฯ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี โดยเนื้อหาของแถลงการณ์มีดังนี้ 
แถลงการณ์ฉบับที่ 5/2556
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง
แถลงการณ์ฉบับสุดท้าย
ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4/2556 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะยังไม่นำมวลชนเคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ สืบเนื่องจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ปราศรัย พิธีกร ศิลปิน และประชาชน ได้ถูกกลั่นแกล้งโดยยัดเยียดข้อหาร้ายแรงอันเป็นเท็จ และเพิ่มผู้ต้องหาจำนวนถึง 96 คน อย่างอยุติธรรมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการสร้างพันธนาการให้กับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แม้ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อรักษาหลักนิติรัฐนิติธรรม แต่ศาลอาญาก็ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ อ. 973/2556 ให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2556 ว่า
"ห้ามมิให้จำเลยกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรืออาจก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อความเสียหายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล"
และศาลอาญาได้แถลงย้ำคำสั่งดังกล่าวอีกเป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ย่อมแสดงให้เห็นว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ปราศรัย พิธีกร ศิลปิน และประชาชนอีกจำนวนมากได้ถูกลิดรอนสิทธิจากคำสั่งดังกล่าวอย่างชัดเจน
หากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมโดยทำตามเงื่อนไขภายใต้คำสั่งศาลอย่างครบถ้วนก็จะเป็นเรื่องยากที่จะกำหนดยุทธวิธีในการชุมนุมให้ได้รับชัยชนะได้ในทางตรงกันข้ามหากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะฝ่าฝืนคำสั่งศาลในช่วงเวลานี้เพื่อให้ได้รับชัยชนะทางยุทธวิธีในการชุมนุมก็จำเป็นที่การเสียสละนั้นจะต้องได้รับผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้อย่างแท้จริงเท่านั้นและการเสียสละของแกนนำก็ไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นมาตรการส่งเสริมการขายภาพลักษณ์หรือสร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรที่จะพ่ายแพ้ด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้กับฝ่ายรัฐบาลในทุกกรณี
เมื่อวิเคราะห์แล้วเห็นว่าหากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำการชุมนุมคัดค้านปัญหาของประเทศรายประเด็นให้ได้ผลสำเร็จก็อาจคัดค้านได้อีกเพียงเรื่องเดียว ภายหลังจากนั้นเมื่อศาลมีคำสั่งให้ถอนการประกันตัว ก็จะมีปัญหาชาติในเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญตามมาอีกไม่สิ้นสุด ดังนั้นการเสียสละของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยการชุมนุมในปัญหารายประเด็นจึงย่อมไม่คุ้มค่ากับผลประโยชน์ของประเทศชาติที่จะได้รับในขณะนี้
ในทำนองเดียวกันหากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยเคลื่อนไหวให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระหว่างการชุมนุมก็อาจถูกถอนประกันตัวจนไม่สามารถนำชุมนุมให้ได้รับชัยชนะได้ แม้ต่อให้การชุมนุมขับไล่รัฐบาลไปได้สำเร็จ ก็อาจจบลงด้วยการยุบสภาที่พรรคเพื่อไทยก็จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีก หรือแม้หากมีการสลับขั้วทางการเมือง หรือ การรัฐประหาร โดยปราศจากเป้าหมายในการปฏิรูปประเทศไทย หลังจากนั้นปัญหาวิกฤติของชาติก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่น การแก้ไขกฎหมายเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง และหากมีการเลือกตั้งใหม่พรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณก็จะได้รับชัยชนะกลับมาเป็นรัฐบาลยิ่งกว่าเดิม
ดังนั้นการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลโดยปราศจากความมุ่งมั่นของผู้ที่หวังจะเข้าสู่อำนาจในอนาคตที่จะปฏิรูปประเทศไทยปราศจากการเสียสละอำนาจและผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแล้ว ย่อมไม่คุ้มค่าต่อประเทศชาติที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะนำการชุมนุม
ดังนั้นท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความสลับซับซ้อนพัฒนาไปมากขึ้น ที่ไม่สามารถยุติปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการคัดค้านปัญหารายประเด็น และการแก้ไขปัญหาระบอบทักษิณก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น ปัญหาของประเทศชาติจึงถูกยกระดับไปเป็นระบอบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งที่ทำให้การเมืองล้มเหลว ดังนั้น แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงเห็นว่าหากมีความจำเป็นก็พร้อมจะเสียสละนำการชุมนุมแต่การชุมนุมนั้นจะต้องได้รับผลคุ้มค่าต่อประเทศชาติเท่านั้นจึงกำหนดความคุ้มค่าของการชุมนุมที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอยู่ที่ "การชุมนุมเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองที่ล้มเหลวในปัจจุบัน และปฏิรูปประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเท่านั้น"
อย่างไรก็ตามนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลในระบอบทักษิณก็มุ่งเน้นที่จะแก้ไขกฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้กับตัวเองและพวกพ้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาอยู่ภายใต้อิทธิพลของนักการเมืองส่วนใหญ่ฝ่ายรัฐบาล โดยมีเป้าหมายในการที่จะครอบงำในการคัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมิให้สามารถตรวจสอบตัวเองได้เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในระหว่างช่วงปีพ.ศ. 2544 - พ.ศ. 2548 อันเป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติมาจนถึงวันนี้ เราขอประณามนักการเมืองพรรคเพื่อไทยที่กระทำตัวเป็นทาสในระบอบทักษิณไม่มีสำนึกประโยชน์ของชาติ และสร้างวิกฤติให้แก่ประเทศชาติไม่มีวันจบสิ้น
ดังนั้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในนามตัวแทนแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้แสวงหาแนวร่วมเพื่อแก้ไขวิกฤติชาติให้ได้อย่างคุ้มค่าต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยได้เสนอทางออกให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์เสียสละลาออกมาเพื่อหยุดความชอบธรรมในจำนวนคณิตศาสตร์ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบอบเผด็จการรัฐสภาและสร้างกระแสเดิมพันหมดหน้าตักนำมวลมหาประชาชนทั่วประเทศเคลื่อนไหวเพื่อหยุดระบบการเมืองที่ล้มเหลว เรียกร้องการเปลี่ยนแปลง และการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน 65 ล้านคน โดยไม่เข้าร่วมกับการเมืองในระบบนี้อีกไม่ว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ก็ตามจนกว่าจะได้รับผลสำเร็จตามเป้าหมายการปฏิรูปประเทศไทยหากเป็นเช่นนั้นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็พร้อมเสียสละและจะร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองครั้งนี้เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าความเสี่ยงเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ของประเทศชาติที่จะได้รับ เพราะหากการชุมนุมของมวลมหาประชาชนเกิดขึ้นเมื่อใดโอกาสที่จะมีการปฏิรูปการเมืองครั้งนี้สำเร็จก็ย่อมมีสูงซึ่งผลที่ได้คือมีโอกาสหยุดปัญหารายประเด็นในปัจจุบันได้ และมีโอกาสหยุดการเมืองระบอบทักษิณในภาวะวิกฤติเช่นนี้ได้ด้วย
ทั้งนี้ในยามที่ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ยังไม่ตื่นรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ยังหลงอยู่ในวังวนของสงครามขั้วอำนาจของพรรคการเมืองต่างๆ ลำพังการนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยย่อมไม่มีพลังพอที่จะนำการชุมนุมเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยได้ในเวลานี้คงเหลือแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่มีศักยภาพพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น มวลชนที่มีฐานคะแนนถึง 12 ล้านเสียง นักปราศรัย นักกฎหมาย ฐานะการเงิน สถานีโทรทัศน์ ฯลฯ อีกทั้งผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์มิได้มีพันธนาการด้วยคำสั่งศาลเหมือนกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพรรคประชาธิปัตย์จึงย่อมอยู่ในฐานะที่จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้หากยอมเสียสละเพื่อเอาชาติเป็นตัวตั้ง
แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธไม่เสียสละลาออกจากระบบการเมืองล้มเหลวเพื่อออกมาร่วมสู้กับประชาชน ก็แสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงหวังเพียงแค่ทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายรัฐบาล หรือ หวังสลับขั้วทางการเมืองในวันข้างหน้า หรือ หวังโค่นล้มรัฐบาลโดยสนับสนุนมวลชนกลุ่มอื่นให้เสียสละแทนตัวเอง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือพรรคการเมืองทุกพรรคในสภาผู้แทนราษฎรกำลังสมรู้ร่วมคิดรู้เห็นเป็นใจกันเพื่อรักษาระบอบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งแบบนี้เอาไว้เพียงเพื่อรออำนาจและผลประโยชน์ของตัวเองในปัจจุบันหรือในวันข้างหน้าเท่านั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เชื่อได้ว่ามีการปฏิรูปประเทศไทยภายใต้ทิศทางการนำของพรรคประชาธิปัตย์ เราได้วิเคราะห์เห็นแล้วว่าแนวทางดังกล่าวที่พรรคการเมืองทุกพรรคกำลังเดินหน้าอยู่นั้นจะนำไปสู่ความชอบธรรมของระบอบทักษิณที่จะได้รับชัยชนะในระบบรัฐสภามากขึ้นและจะกระชับอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจนยากที่จะเยียวยาได้
การที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเสียสละในการนำชุมนุมย่อมไม่คุ้มค่าต่อประเทศหากมุ่งแต่เพียงคัดค้านปัญหารายประเด็นหรือโค่นล้มระบอบทักษิณโดยปราศจากการปฏิรูปประเทศ ในขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เสียสละที่จะนำการชุมนุมเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศอันเป็นประเด็นซึ่งคุ้มค่าที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะร่วมมือด้วยดังนั้นจึงย่อมเป็นไปไม่ได้ที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีฐานะการนำมวลชนได้จริงในสถานการณ์และเงื่อนไขในปัจจุบันนี้
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบัน มีกลุ่มประชาชนจำนวนหนึ่งที่มีความห่วงใยบ้านเมืองซึ่งสนใจแต่เฉพาะการชุมนุมคัดค้านปัญหาบ้านเมืองรายประเด็นหรือบางกลุ่มอาจสนใจที่จะเคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณแต่เพียงอย่างเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนอยู่ซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวทางของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตามที่กล่าวมาข้างต้น ในขณะแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็มิอาจสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนอื่นใดโดยปราศจากความรับผิดชอบในความคาดหวังต่อทั้งชัยชนะต่อประเทศชาติและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ดังนั้นการดำรงอยู่ของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็อาจเป็นอุปสรรคในการเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มอื่นที่อาจไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้
ดังนั้นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งรุ่น 1 และ รุ่น 2 จึงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ยุติบทบาทจากฐานะแกนนำ เพื่อเปิดโอกาสให้ แกนนำ นักปราศรัย ศิลปิน พิธีกร ประชาชน ฯลฯ ได้ตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมกับกลุ่มใดก็ได้อย่างอิสระเสรี และเปิดโอกาสให้เกิดขบวนการใหม่ในสังคมไทย โดยไม่ต้องรอแถลงการณ์หรือมติใดๆจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีก
การยุติบทบาทครั้งนี้ถือเป็นยุทธวิธีเดียวเท่านั้น ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจในปัจจุบัน หรือผู้ที่มีโอกาสจะมีอำนาจในอนาคต รวมถึง ทหารภายใต้จอมทัพไทยและศาลที่กระทำการภายใต้พระปรมาภิไธย ตลอดจนผู้ที่มีบทบาทในบ้านเมือง รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้ตัดสินใจที่จะทำหน้าที่ของตนเองและเลือกเดินทางของตัวเอง มากกว่าที่จะคาดหวังหรือรอมติการนำมวลชนโดยแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้เป็นตัวแปรหรือเป็นเครื่องมือที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายที่แท้จริงของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ในขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเป็นอดีตรัฐบาลที่สร้างเงื่อนไขให้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจนเป็นเหตุอันสำคัญยิ่งที่ทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่สามารถนำมวลชนได้เหมือนเช่นเดิมและในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้านในปัจจุบันไม่เสียสละลาออกมานำการต่อสู้แบบหมดหน้าตักร่วมกับประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองทั้งๆที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศไปแล้วว่าพร้อมที่จะเสียสละเข้าร่วมการในการปฏิรูปประเทศไทยครั้งนี้ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงยังคงเป็นปัญหาส่วนหนึ่งของประเทศและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประเทศไทยด้วย พรรคประชาธิปัตย์จึงต้องรับผิดชอบในผลที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อบ้านเมืองต่อไปด้วยเช่นกัน
เราขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าแม้แกนนำจะได้ยุติบทบาทไปแล้ว แต่ทุกคนก็ยังคงเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่เหมือนเดิม และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังคงอยู่เช่นเดิม อุดมการณ์ความเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังอยู่ในสายเลือดและจิตใจของทุกคนเหมือนเดิม และเรายังคงมีภาระหน้าที่ในการต่อสู้คดีความ เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ที่สูญเสีย บาดเจ็บ และเสียชีวิต ตลอดจนแสวงหาความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ถูกดำเนินคดีในระหว่างการชุมนุมต่อไป โดยในระหว่างนี้เราได้ขอให้สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี เว็บไซต์แมเนเจอร์ สื่อสิ่งพิมพ์และวิทยุในเครือ เอเอสทีวี-ผู้จัดการ ยังคงเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมเพื่อนำไปสู่การให้ปัญญากับประชาชนและการปฏิรูปประเทศ โดยแกนนำที่ยุติบทบาทไปก็จะยังคงทำหน้าที่ให้ปัญญากับประชาชนตามหน้าที่และบทบาทของแต่ละคนเพื่อเป้าหมายในการนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทยอย่างแท้จริงเท่านั้น
จนกว่าสถานการณ์จะถึงพร้อมที่ประชาชนทุกกลุ่มได้ตื่นรู้และตั้งสติได้ว่าต้องการการเปลี่ยนแปลงเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยครั้งใหญ่หรือเมื่อสถานการณ์ที่ผู้มีอำนาจหรือผู้ที่มีโอกาสจะเข้าสู่อำนาจในกาลข้างหน้า เสียสละอำนาจและผลประโยชน์ในปัจจุบันหรือในอนาคตเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย 65 ล้านคน เมื่อถึงเวลาดังกล่าวแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่แม้จะยุติบทบาทไปแล้ว ก็พร้อมจะกลับมารวมตัวกันใหม่เพื่อทบทวนบทบาทของตัวเองในการเคลื่อนไหวมวลชนอีกครั้งหากในเวลานั้นพี่น้องประชาชนยังคงต้องการพวกเรา
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 พร้อมผู้ประสานงาน และมีการแต่งตั้งแกนนำรุ่นที่ 2 ต่อมาวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551 อีกทั้งยังมีมีการแต่งตั้งแกนนำรุ่นที่ 2 เพิ่มเติมในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 และวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เราขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจพวกเราตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา และขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ได้เข้าร่วมชุมนุมแบบต่อเนื่องปักหลักพักค้าง 3 ช่วงเวลา เป็นจำนวนเวลาถึง 384 วัน 384 คืน จนได้รับผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการชุมนุมทุกครั้ง จึงนับเป็นการชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธของภาคประชาชนครั้งประวัติศาสตร์ที่ยาวนานที่สุดในโลก
เราขอยืนยันว่าจะยังคงแน่วแน่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของวีรชนและพี่น้องประชาชนที่เสียสละไม่เคยเปลี่ยน และขอให้มั่นใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นยุทธวิธีที่จะได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน
ด้วยจิตคารวะ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 
วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556



updated: 18 October 2011

--บางข้อความจาก เว็บไซต์ Thai Free News
Link “สนธิ ลิ้มทองกุล” เปิดใจหลัง ASTV ถูกตัดสัญญาณดาวเทียม //www.tfn5.info/board/index.php?topic=30050.0


« เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:59:35 AM »

--------------------------------------------------------------------------

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2554 21:30 น.



ASTVผู้จัดการ - เจ้าของดาวเทียมไม่ให้ค้างค่าเช่า เหตุ ASTV จอดับ-หยุดแพร่ภาพผ่านดาวเทียม แต่ยังดูผ่านอินเทอร์เน็ตและฟังผ่านวิทยุได้ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เผยเสียดายแต่ไม่เสียใจ ยืนยันสู้ต่อตามอุดมการณ์และจิตวิญญาณของสื่อที่นำเสนอความจริงต่อไป
-------------------------------

ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30น. วันนี้ (17 ต.ค.) สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี(ASTV) ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2546ได้หยุดแพร่สัญญานภาพผ่านดาวเทียมที่เคยทำตามปกติ ท่ามกลางความสงสัยของผู้ชมทางบ้านจำนวนมากที่โทรศัพท์เข้ามาสอบถามที่สถานี

-----

คำต่อคำ “สนธิ ลิ้มทองกุล” หลัง ASTV ถูกตัดสัญญาณดาวเทียม

“ทางเราค้างค่าดาวเทียม NSS-6 ประมาณ 6 เดือน คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ ก็ประมาณ 4 แสนเหรียญฯ หรือราว 12 ล้านบาท ในข้อตกลงเดิมเราบอกว่าเราจะเอาเงิน 6 เดือนที่ค้างจ่ายรวดเดียวเลยตอนสิ้นปี ส่วนรายเดือนที่เกิดขึ้นประจำเดือนใหม่ก็จะจ่ายทุกเดือน ทีนี้ทางดาวเทียมเขามีเจ้าของใหม่ เจ้าของใหม่เขาก็ไม่ยอม ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเราต้องเอาเงินมาจ่ายเงินเดือนพนักงานก่อน สำหรับเราแล้วพนักงานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด มันก็มีค่าใช้จ่ายต่างๆ

“อย่างที่บอกว่าเอเอสทีวีเป็นทีวีที่ยืนอยู่บนความถูกต้อง แล้วก็ไม่ค่อยมีใครลงโฆษณาเพราะเราขายความจริง การทำเอเอสทีวีเราไม่ได้เอาเงินจากการคอร์รัปชั่นแล้วมาสร้างทีวีเพื่อสนับสนุนการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่า ทีวีเสื้อแดงเขาก็มีเงินเข้ามาสนับสนุนตลอดเวลาไม่มีหยุด ส่วนทีวีอีกฝ่ายหนึ่งเขาก็มีเงินมีทองของเขา ส่วนของเรานี่เนื้อๆ เลยคือเราต้องกัดฟันต่อสู้ ส่วนตัวผมเองก็เป็นคนเดียวที่รับผิดชอบ หาเงินหาทอง แล้วก็เอาทรัพย์สินของตัวเองไปขาย เพื่อวัตถุประสงค์คือ ให้เอเอสทีวีเป็นทีวีที่ต่อสู้ให้กับประเทศไทย เราสู้มาตั้งแต่ปลายปี 2547 รวมเวลาแล้วก็เกือบ 7 ปีที่เราสู้มา ซึ่งเราก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดเวลา มีคนที่จะเอาเงินเอาทองมาให้ โดยมีเงื่อนไขว่าให้เราเปลี่ยนจุดยืนเราก็ไม่เอา ... ผมก็พูดว่าผมทำได้แค่ไหนก็แค่นั้นก็ละกัน เพราะเมื่อถึงวันนี้มันก็เป็นบทพิสูจน์ว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นของผมคนเดียว

“มีคนที่สนับสนุนเอเอสทีวีอยู่ พันธมิตรฯ ที่ พล.ต.จำลอง (ศรีเมือง) ออกประกาศให้ช่วยเหลือ ซึ่งก็ได้เงินประมาณเดือนละ 3-4 ล้านบาททั้งๆ ที่คนที่เป็นแฟนเอเอสทีวี หรือเป็นพันธมิตรฯ จริงๆ ผมว่าถ้าสักแสนสองแสนคน ช่วยกันคนละ 500 ก็ได้ 40-50 ล้านบาทแล้ว เพราะค่าใช้จ่ายของเราเดือนนึงเอาจริงๆ ก็ตกประมาณ 30-40 ล้านบาท แม้การขายปุ๋ยของ พล.ต.จำลองจะช่วยได้เยอะ แต่มันก็ไม่แน่นอนเพราะว่าเดี๋ยวน้ำท่วมปุ๋ยก็ขายไม่ออก สินค้าเอเอสทีวีก็มีกำไรตกเดือนละล้านกว่าๆ เท่านั้นเอง SMS ASTV ก็มีสมาชิกประมาณ 4 หมื่นคน จากที่เคยตั้งเป้าไว้ 1-2 แสนคน โฆษณาอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรเพราะไม่มีใครมาลง สาเหตุที่ไม่มีใครมาลงเพราะมันเป็นโทรทัศน์ที่นายทุนไม่อยากลงโฆษณาให้การสนับสนุน เพราะเราเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป ถ้าเราขายตัวขายอุดมการณ์สัก 30 เปอร์เซ็นต์ เราก็คงอยู่ได้ คงร่ำรวย แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น

“เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อประชาชนที่ดูเอเอสทีวีแล้วคิดว่าเอเอสทีวีเป็นทีวีที่ดี ประเทศไทยควรจะมีโทรทัศน์อย่างนี้ แต่ไม่ช่วยกันสนับสนุนให้เอเอสทีวีอยู่ได้ ผมคนเดียวแบกไม่ไหวหรอก ผมแบกมา 7 ปีแล้ว ผมทำได้เพียงแค่นี้ เกินกว่าที่มนุษย์คนนึงจะทำได้ เฉพาะส่วนตัวแล้วขายทรัพย์สินหมดไป 7 ปีนี้ก็พันกว่าล้านแล้ว ผมคิดว่าได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ส่วนอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากันไป

“ณ วันนี้มีแต่คนเอาแต่ได้ ได้เอา แต่เสียสละไม่ยอม การทำเอเอสทีวีเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่มากเพราะเป็นอันตรายในเรื่องถูกฟ้องร้องเอย อันตรายในการถูกลอบทำร้ายเอย แล้วก็ยังต้องสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวอีก ผมคิดว่าผม ... คนๆ หนึ่งโดนยิงอีก 200 นัด โดนคดีฟ้องในศาลอีก 70 กว่าคดี ผมคิดว่าในประเทศไทยหาคนอย่างผมคงไม่มีอีกแล้ว มิหนำซ้ำยังถูกใส่ร้ายป้ายสีอีก จากพวกพรรคประชาธิปัตย์ และแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์หาว่าผมไปรับเงินทักษิณมา นี่เดี๋ยวก็คงใส่ร้ายผมอีก หาว่าเพราะผมไปรับเงินมาก็เลยแกล้งปิดเอเอสทีวี แต่ความจริงคือเราค้างชำระค่าดาวเทียมเขามา 6 เดือนแล้ว ก่อนที่พรรคประชาธิปัตย์จะยุบสภาเสียอีก

“สมัยหนึ่ง แม้กระทั่งปัจจุบัน ทั้งโทรทัศน์ วิทยุที่ออกได้ทุกวันนี้มันออกก็เพราะว่ามันมีเงินสนับสนุนจากทางการเมือง แต่เงินทางการเมืองมาจากไหนล่ะ ก็คือเงินที่โกงกินคอร์รัปชั่นมา เพราะฉะนั้นเอเอสทีวีทุกข่าวเป็นข่าวที่บริสุทธิ์ จุดยืนทุกจุดยืนอยู่บนอุดมการณ์ บนเป้าหมายคือทำให้ชาติอยู่บนทำนองคลองธรรม เพราะฉะนั้นแล้วผมคิดว่าผมทำได้เพียงแค่นี้ ถามว่าผมเสียดายไหม ... ก็เสียดาย ถามว่าผมเสียใจไหม ผมไม่เสียใจ เหตุผลที่ไม่เสียใจก็เพราะว่า ผมคิดว่าไม่เสียชาติเกิดที่ได้ทำมาขนาดนี้แล้ว นอกจากนี้แล้วยังได้ร่วมขบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อต่อสู้ให้กับบ้านเมือง สู้เพื่อปกป้องแผ่นดินไทย สู้เพื่อเอาข่าวสารที่แท้จริงออกมาให้กับสังคมไทย ซึ่งสื่อมวลชน โทรทัศน์ทุกช่อง ไม่ได้มีข่าวสารที่แท้จริง และไม่มีความกล้าหาญพอที่จะเอาความจริงมาเปิดเผย เพราะฉะนั้นแล้วผมจึงมีความรู้สึกว่าผมไม่เสียชาติเกิด

“แต่ว่าเอเอสทีวีก็ยังออกอยู่ คนก็ยังสามารถที่จะดูได้อยู่ผ่านอินเทอร์เน็ต ส่วนคนที่อเมริกาก็ยังดูได้ เพราะว่าเราส่งสัญญาณผ่านอินเทอร์เน็ตไปที่อเมริกาและขึ้นดาวเทียมที่อเมริกา ค่าใช้จ่ายก็ยังพอจะจ่ายได้ เพราะว่ามีสมาชิกที่อเมริกาเขาจ่ายเงินให้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ให้ฟังว่า ถ้าเรามีแฟนพันธุ์แท้เอเอสทีวีหรือพันธมิตรฯ สักแสนคนจากจำนวนล้านคน ซึ่งน่าจะหาได้ ไม่ต้องอะไรแค่รับเป็นสมาชิก SMS เราเดือนละ 200 บาท เราก็อยู่ได้แล้ว แต่พอเอาเข้าจริงๆ มีแค่ 4 หมื่นคน เพราะฉะนั้นแล้ว ... (หยุดคิด) ผมก็เห็นใจเขานะ ผมก็เลยคิดเสียว่าวันนี้ไม่มีคนดูเอเอสทีวีผ่านดาวเทียมก็แล้วกัน ถ้าใครอยากดูก็ดูผ่านอินเทอร์เน็ตเอา

..............................................................
... ในสังคมไทยเราเป็นคนปกติ ที่อยู่ในสังคมที่ไม่ปกติ

“ตอนนี้พันธมิตรฯ หรือ คนที่เชียร์เอเอสทีวีที่เชียร์แต่ปาก ไม่ได้ช่วยอะไร ก็รบกวนไปดูช่องฟรีทีวี 3, 5, 7, 9, 11 แล้วกัน แต่พนักงานของเอเอสทีวีก็จะอยู่เหมือนเดิม เราก็จะต่อสู้หาเงินมาจ่าย แต่อย่างน้อยเราก็ลดต้นทุนการจ่ายค่าช่องสัญญาณดาวเทียมได้ ส่วนช่องอื่นๆ อีก 2 ช่อง คือ ช่อง Super บันเทิง กับช่องภาษาอังกฤษที่ออกทรูวิชั่นส์นั้น เขามีรายได้ของเขาเองสามารถดูแลตัวเองได้ เพราะฉะนั้นที่จะต้องดูแลก็คือช่อง นิวส์วัน แล้วก็ยังโชคดีที่มีอินเทอร์เน็ต มีเว็บไซต์ข่าวที่คนเข้าเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย

“เอเอสทีวีเป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ชัดว่า คนไทยชอบเชียร์ แต่พอถึงเวลาต้องลงเงินลงแรงให้ของดีๆ ต้องมีอยู่ต่อไปก็จะเฉยๆ วันนี้ก็ไม่มีอะไรให้แล้ว ก็กลับไปสู่ยุคเดิม ยุคสมัยก่อนที่ผมทำเอเอสทีวี ... ถ้าไม่มีเอเอสทีวีเมืองไทยก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แล้ววันนี้ก็ไม่มีเอเอสทีวีอีกต่อไป เมืองไทยก็คงจะเปลี่ยนแปลงยากเหมือนกัน”

---------
บางบทวิเคราะห์ (ความเห็น จงใช้วิจารณญาณในการชม)





แหล่งสืบค้น
- พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (People's Alliance for Democracy: PAD)

- ASTV





เสียงสะท้อนจาก ผู้ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลสื่อโทรทัศน์ ASTV:
กรณีศึกษา ที่ 1


กระทู้ห้องราชดำเนิน PANTIP.COM : สุดยอดเว็บบอร์ดไทย เพื่อสังคมออนไลน์คุณภาพ
P6836207 อยากจะบ้าตายเพราะพันธมิตร


--ข้อความ---
อยากจะบ้าตายเพราะพันธมิตร

จากเดิมเราเป็นคนที่ไม่ชอบทักษิณ (จะโดนด่ามั้ยเนี่ย) และพวกลูกน้อง แต่เราเป็นคนที่ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน ใครที่ทำไม่ดีเราก็เกลียด จากเดิมที่ไม่เคยเกลียดพัธมิตร แต่ตอนนี้โคตรเกลียด เพราะแม่เรานั่งดูastv ทุกวันตั้งแต่เช้าตรู่ยันดึกจนหลับแว่นยังอยู่ที่ตา เนื่องจากบ้านไฟไหม้ต้องอาศัยบ้านญาติก็เลยต้องนอนรวมกัน เราอยากจะบ้าตายกับเรื่องราวที่ไม่มีบ้าอะไรเลยนอกจากด่าๆๆๆๆๆและตะโกนเพื่อเรียกเสียงจากคนฟัง เรากำลังตกงานไม่ชอบออกไปไหนทั้งเครียดฟังไอบ้าพวกนี้จนเราเกลียดพวกมัน ตอนนี้แม่เราไม่รับฟังอะไรเลย หลงเชื่อไอบ้าพวกนี้จนเราโมโหจนแทบจะเป็นลูกอกกตัญญู เราไม่รู้จะพูดยังงัยให้แม่เลิกเชื่อพวกบ้าเนี่ย ตอนนี้บ้านก็วุ่นวายประเทศก็วุ่นวาย เพราะมีแต่พวกหัวหน้า ที่คอยยุยงให้ประชาชนมาทะเลาะกันเอง ในส่วนตัวเราเกลียดทักษินเพราะมันโลภ ทั้งที่เป็นคนฉลาดแทนที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศกลับหาประโยชน์ใส่ตัวเอง ส่วนพวกสนธิจำลอง ก็เอาแต่ยุยงให้แตกแยก เราอยากจะกระโดดกระชากหน้ากากพวกมันออกมา ทำเป็นทำเพื่อประเทศ พวกมันก็ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้าเรามีอำนาจ เราจะเรียกทุกฝ่ายเลย มานั่งด่าเรียงตัวเลย เมื่อจะเลิกเห็นแกผลประโยชน์ของตัวเอง ที่มีกินทุกวันนี้ยังไม่พอหรืองัยประเทศชาติจะล่มจมอยู่แล้ว ยังไม่สำนึกอีก ถ้าไม่มีประเทศไทยพวกมึ... จะอยู่ยังงัย ทุกวันนี้ในหลวงจะปวดหัวแค่ไหน ตลอดที่พระองค์ครองราชย์ มายังทำงานหนักไม่พออีกเหรอ คอยแต่จับผิดว่าใครจาบจ้วง ทำเป็นรักพระองค์ แต่จริงแล้วพวกมันรู้ว่าคนไทยรักในหลวงมากถ้าใครจาบจ้วงและอีกฝ่ายเอาเรื่องมันก็ได้ใจจากประชาชนที่รักในหลวงไป ทุกวันนี้ฟังastvจะอวกอยู่แล้ว ยังต้องมีปัญหากับแม่อีก ปวดหัวมากเลย ทำยังงัยถึงจะให้เลิกหลงเชื่อพวกมันได้
ปล อัดอั้นมาก
จากคุณ : wow_oil [ 27 ก.ค. 51 16:08:37

--จบหัวกระทู้---

ต่อไปนี้ เป็นคำตอบจากสมาชิกผู้ร่วมวงสนทนาในกระทู้นี้
(เลือกเอามาเฉพาะ ที่เห็นว่าผู้แสดงความเห็นรุ้สึกว่าตนได้รับ ผลกระทบจากสื่อนี้)







---หยุดพักกรณีศึกษาที่ 1---



หากท่านต้องการพิสูจน์ทราบ ความจริงเท็จของผลกระทบดังแสดงมาเบื้องต้น
โปรด คลิก ตามลิงค์ข้างล่างนี้ไปดู ฟัง และคิด ด้วยตนเอง

ASTV

แต่เข้าไปแล้ว....จงตั้งสติให้ดีนะครับ
และหากว่า...ท่านใดเกิดบ้าไปอีกคน อย่างที่กระทู้กรณีศึกษาข้างบนนี้ว่าไว้ละก็
ข้าพเจ้า—เจ้าของบล็อกนี้ ไม่ขอรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น




posted by a_somjai's blog a_somjai on July 28, 2008 @ 2:52 AM.





Updated 21 กันยายน 2551 @ 04:21 AM.

"------------------------------
อย่างไรก็ตาม อาจต้องขอบคุณคุณูปการของพันธมิตรฯ ที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หลังจากก่อนหน้านี้สังคมเรามักมีการวิจารณ์กันเป็นหย่อม ๆ เราจะได้เถียงกันจริงจังเสียทีว่าอะไรเป็นแนวทางที่เราต้องการ

ในส่วนของบทบาทสื่อนั้นถูกทวงถามมาก เพราะเริ่มเกรงว่าจะไปสร้างความรุนแรง นี่ก็เป็นเหตุผลที่สังคมไทยหันมาสู่สันติวิธี

ส่วนของสื่อมวลชนในกระบวนการประชาธิปไตยนั้น ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเมืองทีเป็นสถาบันการเมืองหลักหรือขบวนการการเมืองที่ต่อต้านรัฐอย่างพันธมิตรฯ หรือกระบวนการทางการเมืองอื่น ๆ ก็ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยสื่อมวลชน ถ้าไม่ผ่านสื่อมวลชนก็ไม่มีโอกาสได้ส่งเสียงให้กลุ่มอื่นได้ยิน

ดังนั้น สื่อมวลชนจึงมีทั้งหน้าที่และอำนาจ โดยที่สังคมสนับสนุนในแบบใดแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการติดตามดู ติดตามซื้อหรือเขาไปมีส่วนร่วมโดยตรงกับสื่อ นี่เป็นระบบตัวแทนเหมือนกันแต่เป็นโลกสัญลักษณ์ และครั้งนี้เห็นอิทธิพลของสื่อที่เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ในระดับสูง



สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เราเห็น Media Event ชัดเจนมาก โดยล่าสุดคือการโหวตในสภาที่ถ่ายทอดสด หรือขบวนการพันธมิตรฯ เราก็เห็น Media Event Live

สื่อต้องเลือกคัดสรรมาถ่ายทอด ไม่สามารถถ่ายทอดได้ทั้งหมด และถ้าทำให้เกิดลักษณะที่น่าประทับใจ หลายท่านบอกว่า การติดตามดู ASTV ทุกวันได้เกิดความประทับใจให้อยากติดตาม เป็นละครการเมือง มีหลายตอนจบ มีตัวละครฝ่ายพระเอก ฝ่ายผู้ร้าย หรือมีนักแสดงหลากหลายที่จะขึ้นเวที ขณะเดียวกันนักแสดงก็ต้องทำให้มีลักษณะที่เป็นตัวแทนที่เข้าใจง่าย ซ้ำ ๆ ง่าย ๆ

การรายงานข่าวที่เป็นละครการเมืองแบบนี้ ผู้รายงานตกที่นั่งลำบาก คือต้องคัดเลือก เอามาตีความแล้วก็เอามาจัดวาระ

เราจะเห็นว่าขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯ สามารถถูกจัดมาเป็นข่าวลำดับที่ 1 มาเป็นเวลานานเพราะได้รับความสนใจของสื่อกระแสหลักเป็นอย่างยิ่ง

นำมาสู่การตั้งคำถามจากสังคมว่า ตกลงว่าสื่อจะเป็นผู้สังเกตการณ์ เป็นกรรมการหรือจะเป็นผู้เล่นเกมกันแน่




อย่างไรก็ดี อยากเสนอเพิ่มว่า สื่อขณะนี้มีลักษณะเป็นสื่อการเมืองสูง เป็น Political Media คือสนับสนุนวาทกรรมหรืออุดมการณ์ใดอุดมการณ์หนึ่งอย่างชัดเจน ก็ดีไปอย่างสำหรับผู้รับ บางทีก็ใช้คำว่าสื่อ เลือกข้าง ซ้าย ขวา ขาว ดำ หรือการประกาศว่าเป็นสื่อในสถานการณ์สู้รบ เช่น สื่อเครือผู้จัดการ

หรือกรณีที่เป็นสื่อทางเลือกสมัยใหม่ เช่น สื่ออินเตอร์เน็ต ที่เปิดพื้นที่เว็บบอร์ดที่มีการมีส่วนร่วม

ส่วนสื่อที่เลือกข้างทางการเมืองอย่างชัดเจนในประวัติศาสตร์ไทยก็มีมาแล้ว ในช่วงประมาณ 2475 เป็นต้นมา คือเลือกประชาธิปไตย อำนาจเก่า หรืออำนาจใหม่ กลุ่มที่ประชาธิปไตยและอำนาจใหม่ ถือว่าเป็นกลางที่สุด



นี่ก็เป็นคำถามว่าสื่อปัจจุบัน สื่อจะเลือกแบบใด



สุดท้าย โลกของสื่อเป็นโลกสัญลักษณ์ กับ โลกของกระบวนการทางการเมืองที่ขับเคลื่อนกันอยู่ก็ต้องมาผสมผสานกันอยู่แล้ว

ขณะนี้รัฐสภาก็ยังดำเนินอยู่ อยากขอเสนอให้ใช้กระบวนการในสภา เชิญหลายๆ ฝ่ายเข้าไปแสดงบทบาททางการเมืองร่วมกัน ซึ่งกระบวนการของพันธมิตรฯ อาจจะไม่ครอบคลุม การใช้เวทีรัฐสภาน่าจะพอให้การเมืองขับเคลื่อนไปได้และแก้ปัญหาร่วมกันได้ "

ประชาไท วันที่ : 21/9/2551: อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ นักนิเทศศาสตร์ การอภิปราย “การเมืองสยามประเทศ (ไทย)-หลังสมัคร III : การเมืองไร้ระเบียบใหม่ และ ประชาธิปไตย 70 = 30 ได้ด้วยหรือ” วันที่ 19 กันยายน 2551 จัดโดย มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ และเครือข่ายสันติประชาธรรม ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์





updated: 23-April-2010 / 4.30 AM.
ประเด็น: "อิทธิพลสื่อโฆษณาชวนเชื่อ - Propaganda ในด้้านสร้างและปลูกฝังความเกลียดชังกันอันมีสาเหตุจากความคิดเห็นต่างทางการเมือง - Politics of Hate"

ข้อสังเกตจากรายการ DAILY DOSE ทาง VOICETV
Link ตอน: NBT ในยุคปัจจุบันแย่เฉพาะบางรายการ เป็นเพียงเฉพาะพิธีกรบางคนและแขกรับเชิญเท่านั้น
ดำเนินรายการโดย ม.ล.ปลื้ม (ณัฏฐกรณ์ เทวกุล)



22 เมษายน 2553 เวลา 17:47 น.
View 1248 : comment 0







Create Date : 28 กรกฎาคม 2551
Last Update : 24 สิงหาคม 2556 11:13:11 น. 14 comments
Counter : 1180 Pageviews.

 
เห็นหัวข้อน่าสนใจเลยเข้ามาดู ผมเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่าสื่อเป็นผู้กำหนดทิศทางของสังคม แล้วสังคมต่อไปนี้ล่ะจะเป็นอย่างไร

อย่าหาว่าผมดูถูกเลย คนที่เห็นต่างกันไม่ว่าจะฝ่ายไหน ไปด่าเค้าว่า ไม่มีสมอง สัตว์เลี้ยงชาวนา เขางอก ด่ามันทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงประเทศนี้มีแต่ สัตว์เลี้ยงของชาวนาเหรอ

ผมไม่พอใจมากที่สุดคงเป็นเรื่อง ไปทำให้ชาวบ้านเค้าเดือดร้อน นี่ล่ะ ที่แย่


โดย: toor36 วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:01:27 น.  

 
มันเป็นคนโรคจิต
ลองเข้ดู blog ผม ประนามความจัญ.... ของมันดูแล้วจะรู้

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=boyblackcat&month=25-07-2008&group=19&gblog=3


โดย: boyblackcat วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:38:48 น.  

 
ผิดอันต้องอันนี้ ไล่ใครก็ไม่รู้

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=boyblackcat&date=25-07-2008&group=19&gblog=2


โดย: boyblackcat วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:41:10 น.  

 
เพิ่มเดิม ข้อมูลจากกระทู้ราชดำเนิน
กรณีศึกษาที่ 2 : P6921440 พูดไม่ออก บอกใครไม่ได้ เมื่อญาติผู้ใหญ่ถูก ASTV ล้างสมอง Sky (81 - 25 ส.ค. 51 02:40)


พูดไม่ออก บอกใครไม่ได้ เมื่อญาติผู้ใหญ่ถูก ASTV ล้างสมอง

ข้อความประกอบหัว(เรื่อง)กระทู้

นาน ๆ จะกลับบ้าน
วันนี้ที่บ้านเอารถมารับ
นั่งไปในรถ ก็คุยกันตามปกติ
แต่เริ่มแปลก ๆ เมื่อที่บ้านพูดถึงการชุมนุมใหญ่และการเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายของคุณสนธิ
และที่บ้านพูดถึงมหาวิทยาลัยราชดำเนิน
พูดถึงการรับปริญญาของมหาวิทยาลัยราชดำเนิน

ผมก็ยังเฉย ๆ นะ เพราะคิดว่าเรื่องแบบนี้
คงเป็นข่าวตามสื่อสิ่งพิมพ์
ที่บ้านคงหาเรื่องมาคุยในระหว่างทาง
ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร
และผมไม่ได้คุยอะไรในเรื่องความคิดเห็นทางการเมืองกับที่บ้าน
ไม่ต้องการให้ที่บ้านทราบว่า
ผมคิดอะไรหรือผมชอบใคร
และที่บ้านเห็นผม....ไม่สนใจเรื่องการเมือง
จึงเปลี่ยนเรื่องคุย...

แต่เริ่มแปลก ๆ มากขึ้น
เมื่อที่บ้านพาแวะเข้าวัดเขาXXX ในระหว่างทางที่กลับบ้าน
เพื่อพาผมเข้าวัดไปทำบุญไปคุยกับพระบ้าง
ผมก็คุยกับพระและทำบุญ
แต่ก่อนกลับ...ที่บ้านถามพระว่า
วันที่ 26 สิงหา จะเกิดอะไรขึ้นไหม
พันธมิตรจะชนะไหม
จะล้มรัฐบาลขี้โกงขายชาติได้ไหม
ผม..เฮ้ย!!!... อุทานในใจ...
แต่ก็ยังเงียบ ๆ ... ไม่พูดอะไร...
เริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองแล้วว่า...
นรก มาเยือนแล้ว....

เมื่อออกจากวัดเขาXXXX แล้ว
ผมจึงได้ถามที่บ้านว่า ที่บ้านติด ASTV หรือเปล่า
ที่บ้านบอกว่า ซื้อ LNB ของ ASTV มา และติดแบบ Duo
อ่ะจึกย์ .... เวรของกรรมเลยตู....



เมื่อเข้าบ้าน ผมก็กวาดหน้าบ้าน รดน้ำต้นไม้ อาบน้ำ
และนั่งเปิดโน๊ตบุคทำงานห้องข้าง ๆ กับห้องดูโทรทัศน์
ที่บ้านก็ขนเอาขนมเอาน้ำมาให้ผมกินขณะทำงาน
แล้วที่บ้านก็ปูผ้าหมอนต่าง ๆ เพื่อดูโทรทัศน์....

เวลาประมาณสัก 2 ทุ่มครึ่ง
เมื่อพลตรีจำลองขึ้นเวที่ และประกาศว่า
สวัสดีครับ "ท่านนักสู้ผู้กล้าหาญ ผู้ทรหด อดทน ทุกท่าน"
เสียงที่บ้านขานรับจากทีวีเลย "ค่าาาา"
พระเจ้าช่วย...

และเมื่อพลตรีจำลองพูดปราศรัยจบ
คุณสนธิ ขึ้นพูดบนเวที
ที่บ้านเรียกผมทันที่
"....มานี้เร็ว...
มาฟังคุณสนธิ พูดเร็ว

มาคลายสมองบ้าง มาฟังคุณสนธิเร็ว"
ด้วยความเกรงใจ ผมก็เดินเข้าไปในห้องดูโทรทัศน์
และนั่งดูแบบเงียบ ๆ
ที่บ้านก็อธิบายประกอบ
ว่าคุณสนธินี้ เป็นคนดีอย่างไร
ชอบทำบุญสุนทานอย่างไร

ผมก็นั่งดูโทรทัศน์แบบเงียบ ๆ
ทำเป็นสนใจว่าคุณสนธิพูดอะไร

ในขณะที่บ้านหารือกันว่า
จะไปกู้ชาติในวันที่ 26 ด้วย
แต่ที่บ้านก็ยังห่วงว่า
หากไปกู้ชาติ จะไม่ได้ดูการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม
สุดท้ายที่บ้านถามว่า เคยดูไหม
ผมตอบแบบอ้อม ๆ แอ๊ม ๆ ว่า
เคยดูนิดหน่อยคับ

ที่บ้านถามว่าชอบฟังคุณสนธิไหมไหม
ผมตอบว่า "ส่วนใหญ่ดู UBC มากกว่าครับ
ดูหนัง HBO ฝึกภาษาอังกฤษ
ดูรายการดิฟคัฟเวอรีมากกว่าครับ"

เมื่อคุณสนธิปราศรัยจบ ผมรีบเผ่นออกจากห้องดูทีวี
ในขณะที่ ที่บ้านพยายามเรียก ให้ฟังแกนนำคนอื่น ๆ พูดปราศรัยต่อ

แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 51 00:47:30

แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 21:50:46

-------++++++++++++++++-----------

ตัวอย่างบางบทสนทนาในกระทู้นี้

-------++++++++++++++++-----------

ความคิดเห็นที่ 73

ความคิดเห็นที่ 67

โชคดีไปแม่ผมแยกแยะเป็น แต่ป้าผมไม่ -_-"

ทั้งสองท่านมีเพื่อนฝูงเป็น "ก๊วนอาซิ่มรักลิ้มยิ่งชีพ" แล้วป้าผมก็รักประชาวิบัติเป็นทุนเดิม ก็เลยไปกันใหญ่

โชคดีที่ที่บ้านไม่คุยเรื่องการเมืองกับคนในบ้าน ด้วยถือคติ "จะไม่ทะเลาะกับญาติด้วยเรื่องของคนนอก" ผมเลยรอดตัว อยู่เงียบๆก็ไม่มีใครมาตอแยแล้ว

จากคุณ : ชายทศ
----------------------------------------------------------------------------
ู^
^
^
คำนี้มันใช่เลย "ก๊วนอาซิ่มรักลิ้มยิ่งชีพ" อาอี๊(ป้า)ทั้งหลายของเราก็เป็น
เจอแกทีไรก็ "ดูASTVบ้างรึเปล่า มีประโยชน์มากนะ" (-_-")

เซ็งมาก กดดันสุดๆ เวลาต้องฟังเรื่องพวกนี้
ล่าสุดดี๊ด๊ากับการไปประท้วงที่สถานฑูตอังกฤษ(-_-")

..............เศร้าอย่างร้ายแรง.........(T_T)
เข้าใจหัวอกเจ้าของกระทู้ค่ะ

จากคุณ : เห็ดอ้วน - [ 25 ส.ค. 51 00:27:00 A:58.64.72.240 X: ]
^
^
^
เห็นด้วยอย่างแรงครับ
ผมเจอไป 2- 3 ประโยค

"เคยดู ASTV ไหม "
อ่ะน่ะ....ไม่กล้าบอกเรื่องจริงเลย
บอกได้เพียงว่า ส่วนใหญ่ดู UBC ครับ.....
เพื่อให้เข้าใจว่า ไม่ค่อยดูหรือไม่เคยดู ASTV

"ASTV นำเรื่องจริงมาแจ้งให้ประชาชนรู้นะ... "
เง้อ...เรื่องนี้ว่าจะแจ้งว่า เรื่องทุบพระพรหม เรื่องทำบุญวัดพระแก้ว
เรื่องทุบปราสาทหินเขาพนมรุ้ง เรื่องปราสาทเขาพระวิหาร อื่น ๆ อีกมากมาย
แต่คำพูดหายไปในลำคอทั้งสิ้น....
เพราะตะลึง.....ตึ่ง ๆๆๆๆๆๆ

และอีกประโยค เรื่องการไล่ตีกันที่อุดร
เรื่องนี้ก็ตะลึง....

จึงได้แค่ นั่งเงียบ ๆ ....
เพื่อให้เปลี่ยนเรื่องคุย...
เพราะนึกหาเหตุผลไม่ทัน
หากนึกทันก็คงจะโดนสวนกลับ
เพราะการอธิบาย ในบางเรื่องต้องใช้เวลาลำดับเหตุการณ์
และใช้ข้อมูลประกอบ

เพราะไม่อย่างนั้น จะตกม้าตายเอาง่าย ๆ

ทำให้เข้าใจเลยว่า
คนที่เชื่อเมื่อชม ASTV ก็จะยิ่งเชื่อมากขึ้น
และจะติด ASTV และชม ASTV ตลอดเวลา

ส่วนคนที่ไม่เชื่อ
เมื่อชม ASTV อย่างไรก็ไม่เชื่อ

เท่าที่สังเกตุ ที่บ้านจะเปิดช่วงเช้า รายการของคุณอัญชลี ไพรีรักษ์ แล้วปิดทีวี
และช่วงหกโมงเย็น ฟังคุณเติมศักดิ์ จารุปราน จบแล้ว ปิดทีวี
และช่วงสุดท้าย จะเปิดฟังการปราศรัยของเหล่าแกนนำ เช่นคุณจำลอง คุณสนธิ
แล้วจึงปิดทีวีเข้านอน

3 รายการนี้ ....ที่ที่บ้านชอบดู...

และเป็นรายการที่สุดยอดของการปลุกระดมจริง ๆ
แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 51 00:55:54

จากคุณ : Sky - [ 25 ส.ค. 51 00:42:25 A:124.121.174.223 X: ]




โดย: a_somjai วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:4:29:18 น.  

 
สืบเนื่องจาก กรณี: พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT
และ
ยึดทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันอังคารที่ 26 สิงหาคม 2551


28 สิงหาคม 2551

กระทู้ราชดำเนิน:
P6935666 ผิดรึป่าวค่ะ ที่หนูรักพ่อ มากกว่ารักชาติ JikKeE (0 - 28 ส.ค. 51 16:13)

ผิดรึป่าวค่ะ ที่หนูรักพ่อ มากกว่ารักชาติ
พ่อขา กลับบ้านเถอะค่ะ
หนูเป็นห่วงพ่อมาก ๆ นะค่ะ
ทำไมเค้าต้องมาปลุกระดมอะไรแบบนี้ด้วย
หนูไม่เข้าใจ หนูรู้แต่ว่าหนูรักพ่อค่ะ

จากคุณ : JikKeE - [ 28 ส.ค. 51 16:13:53 A:67.159.57.202 X: ]





++++++++++++



P6935658 กำลังมันส์สสสสส .... ข้างบ้านผม NBT vs ASTV HI Golfer (0 - 28 ส.ค. 51 16:12)




้ข้างบ้าน... ผมสงสัย กำลังเล่นสงครามสื่อกันอยู่

บ้านอยู่ คนละฟากถนน ประมาณ 5เมตร
ต่างคนต่าง หันจอ TV ออกถนน
บ้านหนึ่งเปิด ASTV
อีกบ้านตรงข้าง เปิด NBT

...เหมือนกันคือ... เปิดเสียงดังทั้งคู่...


ผมอยู่ข้าง ๆ .... ดู NBT อยู่เงียบ ๆ ...

จากคุณ : HI Golfer - [ 28 ส.ค. 51 16:12:25 A:125.25.141.250 X: ]


ความคิดเห็นที่ 2

555 เหมือนแถวบ้านเราเลย

จากคุณ : ตาลสด - [ 28 ส.ค. 51 16:22:13 A:58.9.152.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3

ผมดู 2 ช่อง พร้อมกันครับ

ดูความบ้า ความไร้สติของช่อง ASTV สรุปได้ว่า พวกนั้นเครียดจนใกล้จะถึงจุดแล้ว

ส่วนช่อง NBT ยังสบาย ๆ ไม่เครียดครับ เปลี่ยนคนมารายงานข่าว มีการผ่อนคลาย ยังใจเย็น ๆ คาดว่าจะเริ่มยิงข้อมูลถล่ม ASTV อีกครั้งในช่วงข่าวภาคค่ำ


ส่วนตัว สนใจ NBT ครับ ติดตาม คุณตวงพร ครับ

จากคุณ : Sky - [ 28 ส.ค. 51 16:24:42 A:124.121.174.142


ความคิดเห็นที่ 4

อ่ะ ยังดี๊

บ้านผมสิ ข้างบน แม่ผม เอเอสทีวี

ข้างล่าง เอ็นบีที

ดีว่า แม่ผมมรดกเยอะ ไม่งั้นผมจะแกล้งจูนทีวี หนีเอเอสทีวีไปนานแล้ว

จากคุณ : เทพบุตรแดนสนธยา - [ 28 ส.ค. 51 16:25:56 A:unknown X:58.147.39.165 ]

ความคิดเห็นที่ 7

แถวบ้านเปิด astv ด้ง โ ค ด ๆ

อยู่ถัดออกมาหลายเมตรยังได้ยินชัดแจ๋ว

แต่ดีที่ส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน เลยไม่ได้ยิน


พวกนี้ถูกล้างสมองมาครับ สั่งให้สาวกเปิดดังๆ น่ะครับ

จากคุณ : ตี๋แกงป่า - [ 28 ส.ค. 51 16:31:31 A:124.120.159.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9

งานนี้พันธมิตรพลาดจริงๆที่ยึด NBT ไม่ได้ ฝ่ายนั้นเลยหันมาเป็นศํตรูเต็มตัวโดยไม่ต้องมีใครสั่ง ฝ่ายหนึ่งดูฟรีทั่วประเทศ อีกฝ่ายต้องบอกรับสมาชิกและเสียเงิน ไม่ต้องบอกก็ได้ว่าใครแพ้




จากคุณ : Tanis - [ 28 ส.ค. 51 16:35:52 A:61.19.98.126 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10

ดีที่บ้านผมไม่มีเพื่อนบ้านดู astv นะคงสุขภาพจิตคงแย่เลย

จากคุณ : nice rider - [ 28 ส.ค. 51 16:37:59 A:125.25.205.162 X: ]


โดย: a_somjai วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:17:00:53 น.  

 
ขอย้ำ..... กรณีศึกษา... ของเรื่องในบล็อกที่บันทึกเสนอไว้เหล่านี้... เพียงต้องการบอกว่า

- ผู้ที่สร้าง/ใช้สื่อ จะถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว ไม่ใช่ประเด็น
- ผู้เสพย์ติดสื่อ จะถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว ไม่ใช่ประเด็น

ประเด็นคือ การใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการล้างสมองนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้จริง มีอยู่จริง เกิดผลต่อผู้สร้างและผู้เสพย์สื่อเหล่านั้นจริง

+++++++++++

ตัวอย่างกรณีศึกษากระทู้ห้องราชดำเนิน ต่อเนื่อง
2 กันยายน 2551

เรื่อง +++เมื่อเช้าไปเดินตลาด แม่ค้าจะตีกันเพราะ ASTV สาวกกบฏเปิดซะดังลั่นแล้วใครจะทนไหว +++


ข้อความ: ++++ ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นเพราะสื่อที่ปลุกระดม และบิดเบือน และคนที่หลงเชื่อก็ทำตัวให้เกิดความสนใจ อยากต่อต้านสงคม รบกวนความสงบสุขของผู้อื่น...ขอให้รีบปิด ASTV ก่อนที่สื่ออื่นๆจะคิดว่า ท่านผบทบ. ไร้น้ำยา..ด่วน.......ถึงเวลาเชือดไก่ ให้ลิงดูแล้ว......หากไม่เชือดตอนนี้ลิงโลดแน่ๆคับ...+++

จากคุณ : คนเชื่อพระเจ้า - [ 2 ก.ย. 51 13:49:12 A:58.147.61.210 X: ]



บางความเห็น:

ความคิดเห็นที่ 1

เหมือนกันเลย ข้างบ้าน เปิดซะดังลั่น ที่แรกคิดว่าพันธมิตรมาตั้งเวที่ในบ้าน

จากคุณ : ลูกโป่งสวรรค์สีขาว - [ 2 ก.ย. 51 14:11:54 A:125.25.195.211 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3

ไม่อยากจะพูดผู้จัดการทำงานโต๊ะติดกันเปิดพันธมิตรปราศัยซะดังลั่นออฟฟิส เราจะเปิด นปช มั่งก็เกรงว่าจะเวลากินข้าวก็ต้องมานั่งเถียงกันว่าข้างนี้ถูกหรือข้างนี้ผิด ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นผู้จัดการว่าจะด่าซะให้เสียเลย

จากคุณ : นุช (nuch1980) - [ 2 ก.ย. 51 14:41:23 A:58.10.170.237 X: ]


ความคิดเห็นที่ 4

อืม.....เราก็เบื่อพวกที่ดูASTV มันชอบเปิดดังๆ ก็ไม่รู้ว่ามันจะเปิดดังไปทำไม !!! งง.....

หรือจะหูหนวก

จากคุณ : ป้าแตงโม - [ 2 ก.ย. 51 14:51:27 A:117.47.169.207 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5

ใน ซอยพหลโยธิน ๑๒ เหมือนกัน มีศูนย์บริการของโตโยต้าอยู่ปากซอย พนักงานช่างเปิดซะลั่นไปถึงท้ายซอยบ้านดิฉันเลย ไม่เข้าใจเขาเลยทำเพื่ออะไรน่ะ

จากคุณ : พริกแดง (JAYYA001) - [ 2 ก.ย. 51 14:54:23 A:202.142.193.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6

ผู้คนเหล่านี้ ต้องการประกาศศักดา ว่าพวกตนแน่เป็นพวกพธม. ใหญ่ไม่กลัวใคร ต้องการโฆษณาชวนเชื่อ เป็นพวกต่อต้านสังคม ขาดการเคราพกฏกติกามายาททางสังคม ผู้คนเหล่านี้ไม่รู้สึกรู้สาว่าสร้างความแตกแยกและความเบื่อหน่ายแก่คนอื่นที่ตั้งใจทำมาหากินอย่างสุจริต พวกนี้คิดว่าถ้าเข้าข้างพธม.แล้วพวกตนจะดูเท่ห์ ทันสมัย บ้านเมืองวุ่นวายแล้วพวกตนจะไม่ได้รับความเดือดร้อนเพราะเข้าข้างถือหางพธม. ซึ่งจริงๆๆถ้าเศรษฐกิจบ้านเมืองมีปัญหาเพราะความขัดแย้งนี้ พวกคนเหล่านี้จะเป็นบุคคลคณะแรกที่ตกงานทันที เนื่องจากนายจ้างคงต้องตัดเนื้อร้ายในสังคมทิ้งก่อน เพราะไม่มีใครทุ่มเทในหน้าที่การงาน

จากคุณ : สลักหิน - [ 2 ก.ย. 51 15:08:54 A:58.10.9.2 X: ]





โดย: a_somjai วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:15:13:31 น.  

 
ตัวอย่างกรณีศึกษากระทู้ห้องราชดำเนิน ต่อเนื่อง
พฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน 2551


Link: P6962778 ที่บ้านมีน้องสาว อยู่คนเดียว เป็นคนเรียบร้อย แล้วทำไมเมื่อดู ASTv ลูกโป่งสวรรค์สีขาว (22 - 4 ก.ย. 51 11:43)

ที่บ้านมีน้องสาว อยู่คนเดียว เป็นคนเรียบร้อย แล้วทำไมเมื่อดู ASTv
บัดนี้ กลายเป็นคน ที่ไม่ฟังเหตุและผล ของใครเลย

จากคนที่พูดจา เรียบร้อย กลาย เป็นคน ก้าวร้าว

ญาติ พี่ น้อง เพื่อน ที่รู้จัก กันมา พูดอะไร ก็ไม่เชื่อ

แต่กลับไปเชื่อ สนธิ เชื่อ จำลอง

จากที่เคยเป็นผู้ฟัง ตอนนี้ไม่ฟังใคร นอกจาก สนธิ

ธิ พูดไร หล่อนเชื่อทุกอย่าง

หล่อน บอกว่า พันธมิตรไปด้วยใจ ไม่มีการจ้างไป

เลยถามว่า รู้ได้ไง หล่อน ว่า สนธิ บอก

หล่อน บอกว่า พันธมิตร ได้จับ พวก นปก ได้ 1000 กว่าคน แล้วกำลังจะทำร้าย (ไหนบอกว่าไม่รุนแรง) แต่ไม่ทำเพราะ พวก นปก บอกว่าโดน จ้างมาคนละ 300 บาท อย่าตีเลย แล้วปล่อยตัวไป เลยถามว่ารู้ได้ ไง หล่อนว่า
สนธิ บอก

ถามอะไร ก็บอกว่า สนธิบอก จำลองพูด สุริยะ เห่า ให้ฟัง


จะพาไปรักษา ที่ไหน ดี (จริงจัง) เพราะดูแล้ว หล่อนเครียดมาก บางวันดู astv จนดึก จนดื่น ไม่หลับ ไม่นอน



ข้อมูลเพิ่มเติม และพฤติกรรมการ เปิดทีวี เสียงดังมาก ประหนึ่ง เวทีพันธมิตรมาตั้งอยู่ในบ้าน

แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 11:01:29

แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 11:00:40

จากคุณ : ลูกโป่งสวรรค์สีขาว - [ 4 ก.ย. 51 10:18:05 A:125.25.208.193 X: ]

ความคิดเห็นที่ 1

โดนล้างสมองเรียบร้อยแล้ว ต้องพาไปพบจิตแพทย์นะ แต่ต้องดูด้วยว่าหมออยู่ฝ่ายไหนด้วย

จากคุณ : HunterCotarot - [ 4 ก.ย. 51 10:36:41 A:161.200.255.162 X: ]


ความคิดเห็นที่ 5

ไม่รู้จะช่วยมั้ย เอากาลามสูตร 10 ให้อ่าน

คือ บัวมี 4 เหล่า แต่ละคนก็ต้องผ่านการเรียนรู้ของตัวเองไป เป็นเส้นทางของใครของมัน แล้วแต่ละคน เค้าก็เลือกสิ่งที่เค้าเห็นว่า ดีที่สุด ถูกต้องที่สุดในสายตาเค้า

จากคุณ : Baritone - [ 4 ก.ย. 51 10:43:37 A:125.25.240.121 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7

เรื่องนี้น่าทำวิจัย

เรื่องจิตใจและพฤติกรรมก่อนและหลังดู astv

(รวมถึงวิธีคิดด้วยก็ดีครับ)

จากคุณ : วิทย์ศิลป์ - [ 4 ก.ย. 51 10:49:00 A:125.25.142.197 X: ]


ความคิดเห็นที่ 13

เหมือนกันเลย แต่ที่บ้านดู NBT นะ

จากคุณ : น้องฝน - [ 4 ก.ย. 51 11:01:21 A:203.144.130.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29

ป้าเรา 3 คนดู NBT ไม่เห็นมีพฤติกรรมเหมือนที่คุณน้องฝนบอกเลยค่ะ น้องฝนคิดไปเองรึเปล่า

ส่วนแม่เราฟัง 92.25 ตอนนี้ไปทำเนียบแทบทุกวัน วันไหนไม่ได้ไปก็เปิดวิทยุดังลั่นบ้าน แถมยังออกไปด่านายกให้คนแถวบ้านฟัง ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง พูดแต่ว่า ไม่ได้กินหญ้า ไม่ได้กินหญ้า อธิบายอะไรให้ฟังก็บอกว่า รัฐบาลสร้างสถานการณ์ เนวินเล่นคุณไสย ทักษิณแก้ดวงเมือง อยากเป็นประธานาธิบดี ฯลฯ

ส่วนเราตั้งแต่แม่เปิด 92.25 มา มีอาการปวดหัวเป็นระยะๆ เหมือนถูกกด เมื่อยหน้า คิดว่าน่าจะเป็นอาการเครียด

อยากรู้ค่ะ ว่าถ้าเสียสุขภาพจิตเพราะวิทยุคลื่นนี้ เราจะสามารถฟ้องร้องใครได้บ้างคะ

จากคุณ : หมูน้อยห้อยหัว - [ 4 ก.ย. 51 12:30:58 A:125.25.151.226 X: ]





ความคิดเห็นที่ 16

มันเป็นลัทธิค่ะ ไม่อยากเปรียบเทียบกับสมัยนั้นตอนที่ วัดพระธรรมกายกำลังดัง คนก็แห่กันไปหลงใหลศรัทธาแรงกล้าเหมือนกัน

ตอนนี้ก็ใช้วิธีการคล้าย ๆ กันโดยมีนายจำลองเจ้าลัทธิ และนายสนธิที่เคยทำตัวเป็นสื่อนักวิจารณ์ที่มีคนไทยเลื่อมใสมาก บัดนี้นายสนธิพูดจริง-เท็จยังไง ใคร ๆ ก็เชื่ออยู่แล้วค่ะ

จากคุณ : แมวตะกุย - [ 4 ก.ย. 51 11:09:17 A:124.121.0.151 X: ]


ความคิดเห็นที่ 19

จ๊าก หยั่งกะพ่อผมเลย

ผมแก้ปัญหาด้วยการควักตังค์แล้วซื้อหูฟังอย่างดีให้ครับ บอกเลยว่า อยากฟังก็ำฟังไป แต่ต้องไม่รบกวนชาวบ้าน

ส่วนความก้าวร้าว เชื่อศาสดาลูกเดียวนี่ ผมเองก็จนปัญญาเหมือนกัน

จากคุณ : เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) - [ 4 ก.ย. 51 11:21:27 A:124.121.57.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20

จริงหรือแต่งเนี่ย จขกท.

คงไม่ใช่พวก ต่อต้านการข่าวนะ ที่ชอบแต่งเรื่องทำลายอีกฝ่าย
เพราะพวกนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกันหรอก พวกนี้ในเวปมันเยอะ..........เซ็ง

แต่ถ้าเรื่องจริงผมสงสาร คุณและครอบครัวนะ

จากคุณ : ๏พวกทำบ้านเมืองพินาศจงแพ้ภัย๛ (ฺิnopponj) - [ 4 ก.ย. 51 11:22:18 A:71.109.64.46 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22

ตอบคหที่ 20
เรื่องจริง ถ้าเรื่องที่เล่ามา ลูกโป่ง โกหก ขอให้ตัวลูกโป่ง และครอบครัวพบกับความหายนะ สาธุ



เพราะลูกโป่ง รักพระเจ้าอยู่หัว และ รักประเทศไทยด้วย

จากคุณ : ลูกโป่งสวรรค์สีขาว - [ 4 ก.ย. 51 11:42:57 A:125.25.208.193 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23

ง่ายๆครับ คุณก็ไม่ต้องเล่นอินเตอร์เนตดิ ของง่ายๆ ถ้าติดสัญญาณเอเอสทีวี ก็เอาออกด้วย ทีนี้คุณก็ไม่ต้องกลัวรน้องคุณจะกร้าวร้าวอีก
เออ แต่ว่าแต่คุณ ดูเอ็นบีทีกับเสพห้องราชดำเนินมากไปรึเปล่าเนี่ย
ถ้าใช่ ผมว่านะ อย่าไปว่าน้องคุณเลยครับ เพราะเขาก็พอใจเสพในสิ่งที่เขาชอบ
คุณก็เสพในสิ่งที่คุณชอบไปเถอะ
แล้วน้องคุณก็ไม่เห็นจะอารมณ์เสียกับสิ่งที่คุณเสพจนต้องเอามาตั้งกระทู้ถามในนี้เลยครับ
ถ้าคุณไม่อยากมีปัญหาก็หยุดเสพอินเตอร์เนตเสียเถอะ เพื่อครอบครัว
คุณเอง

จากคุณ : qiss (Qiss) - [ 4 ก.ย. 51 12:05:29 A:58.9.202.65 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24

ที่บ้านพี่ชายก็เป็นเหมือนกันค่ะ หลังจากดู astv มา 3 ปี ไม่ยอมฟังเหตุผลใครเลย

จากคุณ : oyayoo - [ 4 ก.ย. 51 12:08:02 A:125.27.113.208 X: ]





โดย: a_somjai วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:12:42:20 น.  

 
19 กันยายน 2551

P7013599 ประสบการณ์คนใกล้ตัวสาวก พธม. khampan_khampan (16 - 19 ก.ย. 51 15:16)

ประสบการณ์คนใกล้ตัวสาวก พธม.

ณ ที่ทำงานแห่งหนึ่ง

พี่สาววัยดึกโดดเดี่ยวไร้คู่ เข้าสู่วันทอง มาบริษัทฯ แต่เช้าเปิดเจ้า ASTV ทุกวัน

เสียงดังลั่น ใครปิดก็ไม่ได้ ใครว่าอะไรก็ไม่ได้ อย่าแตะต้องพี่มาร์คของอิฉันนะ

ใครมาว่าโกงกิน ได้โดนดี แต่แกก็ยอมรับนะว่าฟังพวกนี้แล้วทำเอานอนไม่หลับเลย มันเคียด ฟังไปคิดไป

แต่แกก็ยังฟังอยู่ จนคนรอบข้างปวดหัวไปตามๆ กัน

จนในวันหนึ่งกรรมการเดินไปบอกตรงๆ เลย "หัดหาพระมาเปิดฟังบ้างนะ จะได้จรรโรงใจหน่อย

เห็นใจคนอื่นบ้างหากจะฟังก็เปิดฟังเบาๆ ไม่ต้องมาเผื่อแผ่ผู้อื่น หาหูฟังมาเสียบซะ"

เท่านั้นแหล่ะ อย่าคิดว่าจะเลิกนะ แต่เปิดเบาหน่อยเท่านั้นเอง

ต่อมาก็ไอ่ตอน สนธิเรี่ยไรเงินบนเวที รับข่าว 200 บาทต่อเดือน

งานเข้าครับที่นี่ แกอยากได้แต่ทำไม่เป็นเที่ยวให้คนนู้นคนนี้ทำให้ แต่ไม่มีใครทำให้แกสักคน

เพราะไม่อยากให้แกโดนหลอก ข่าวบ้าบออะไร ตั้ง 200 บาท/เดือน ทั่วไปก็แค่ 39.- ไม่เกิน น่าสงสารจังแม่หญิงวัยทอง

อีกคนใหญ่หน่อย ตังค์หนาหน่อย บริจาคให้ไปเยอะแล้ว ทั้งของกินและเงิน

ปรากฏว่าพอได้นายกใหม่ แล้ว พธม.ไม่ยอมหยุดสักที

แกก็บอกว่าไอ่พวกนี้มันเลื่อนลอย หาที่ลงไม่ได้ แล้วใครจะบ้าไปบริจาคให้มันตลอดเวลา

มันบ้าแล้ว

เพิ่มเติม..........

ของแถม เป็นบุคคลในกลุ่มเดียวกัน เค้าบอกว่า

"รู้ไหมที่ทุกวันเนี้ยมีงานทำเพราะใคร นู้นต้องขอบคุณ พธม. เพราะเค้าต่อสู้เพื่อเรา

ต่อสู้รัฐบาลที่โกงกิน"

เอาเข้าไปนู้น

สลดใจจริงๆ

..................................................................................................

เอามาเล่าให้ฟังขำๆ

เพราะที่บริษัทฯ เริ่มพูด เริ่มดู เหมือนดูตลกคาเฟ่ ทุกวัน ฮาดี

แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 51 12:42:04

จากคุณ : khampan_khampan


ความคิดเห็นที่ 1

ขำตอนไม่มีใครทำเรื่องข่าวให้เค้าซักคนอ่ะค่ะ

แต่ข่าวก็แพงนะคะ 200 บาทต่อเดือน โห...........

จากคุณ : Kibson_TT


ความคิดเห็นที่ 2

ปล่อย ไปเถอะครับ ยากที่จะ เยียวยา รักษาแล้ว
มีคนบอกว่าตอนนี้ สมองของผู้เข้าร่วมชุมนุม พธม
มีแต่ สมองด้านความจำกับความเชื่อ ส่วนด้านเหตุผล
ได้หายไปแล้ว .......น่าสงสารมาก
แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 51 09:43:26

จากคุณ : jar_007


ความคิดเห็นที่ 5

ใช่ ๆ อาผมก็เหมือนกันจะสมัครไอ้217 บาท ต่อเดือน แต่ไม่มีใครทำให้ สุดท้ายผมสงสารอาเลยทำให้ เฮ้อ... รักชาติไม่ถูกทาง

จากคุณ : เรดโอ๊ค - [ 19 ก.ย. 51 10:03:09 A:124.120.189.78 X: ]


ความคิดเห็นที่ 6

ที่ทำงานก็มี เธอเป็นสาวใหญ่วัยเกษียณ ทำงานไปเปิดดู astvไปเสียงดังมาก พอใครไปว่าแก แกจะบอกว่าไม่รักชาติกันหรือไง พอไอ้แป๊ะมันเรียกรวมพลแกจะรีบทิ้งงานไปทันทีเลย..แต่ทนอีกอาทิตย์เดียวแกก็จะเกษียณแล้วหละ ทีนี้แกคงได้ไปกินนอนอยู่ที่ทำเนียบสมใจแกซะที

จากคุณ : jeab_dca - [ 19 ก.ย. 51 10:04:09 A:192.168.103.104 X:210.246.145.45 ]


ความคิดเห็นที่ 7

กระทู้นี้ สะท้อนถึงความเป็นจริงทางสังคม มีประโยชน์มาก รวมทั้งความเห็นต่างๆด้วย

จากคุณ : White Hawk - [ 19 ก.ย. 51 10:25:17 A:125.24.20.46 X: ]


ความคิดเห็นที่ 8
...
ล้อเล่นจร้า
ป.ล ที่ทำงานผมโอเคครับ ผมบล๊อคไว้ไม่ยอมให้เปิด ASTV ที่โรงอาหาร
แม้แต่เวปเมเนเจอร์ผมก้อบอกโปรแกรมเมอร์บล๊อคครับ
ไม่อยากให้พี่น้องที่ทำงานเครียดมากไปน่ะ

จากคุณ : tri - amp lampang - [ 19 ก.ย. 51 10:30:08 A:58.137.105.177 X: ]


ความคิดเห็นที่ 9

ที่ทำงานผมก็มี แถมออกมาเหน็บว่าคนไม่ดู ASTV โง่ ประเทศชาติเสียหายเพราะการคอรัปชั่นไม่รู้เท่าไหร่ พอผมถามกลับไปว่าการเมืองใหม่ต่างจากคอมมิวนิสก์ตรงไหน แล้วโกงไม่ได้ตรงไหน แกก็แถไปเรื่องอื่นประมาณว่าคิดต่างกับแกโง่หมด

จากคุณ : X-Sy - [ 19 ก.ย. 51 10:30:57 A:172.29.3.98 X:202.29.5.210 ]


ความคิดเห็นที่ 10

ตอนนี้ไม่เข้า office แล้ว ย้ายที่ทำงานมาที่บ้านแทน เพราะเบื่อและทนฟังท่านเจ้าของบริษัท (ท่านพ่อและแม่) เปิด ASTV ไม่ได้ เปิดตลอด 24 ชม. แถมไปสมัครรับ SMS อีก ไม่รู้จะพูดยังไง ว่าจะแอบเอาโทรศัพท์เค้ามากดยกเลิก แต่ทำไม่เป็นและกลัวเค้าว่าจะรู้ ทำไงดีล่ะถึงจะเนียน แนะนำหน่อยซิคะ

จากคุณ : ปรางทราย - [ 19 ก.ย. 51 10:51:34 A:125.27.86.187 X: ]


ความคิดเห็นที่ 12

ของแถม เป็นบุคคลในกลุ่มเดียวกัน เค้าบอกว่า

"รู้ไหมที่ทุกวันเนี้ยมีงานทำเพราะใคร นู้นต้องขอบคุณ พธม. เพราะเค้าต่อสู้เพื่อเรา

ต่อสู้รัฐบาลที่โกงกิน"

เอาเข้าไปนู้น

สลดใจจริงๆ

จากคุณ : khampan_khampan - [ 19 ก.ย. 51 12:29:49 A:58.8.128.7 X: ]


ความคิดเห็นที่ 13

ที่ทำงานน้อง น้องเล่าให้ฟังว่า เจ้านายเปิด ASTV เร่งเสียงเต็มที่
น่ารำคาญ มากๆ ทั้งคำหยาบ คำด่า เสียดสี แล้วเปิดทั้งวันด้วย
ทำงานไปฟังไป จะอ๊วก มันน่าเวียนหัว

พอ ที่เวทีประกาศ ขอบริจาคอะไร ก็จะรีบสั่งลูกน้องวิ่งไปหาซื้อ
แล้วให้ขนไปที่เวที บางครั้งก็ลงมือทำอาหารเอง แล้วสั่งคนขับ
รถเอาไปที่เวที

ที่เวทีขาด หมวกกันน๊อก ขาดชุดชั้นใน จะต้องรีบวิ่งไปหาซื้อ
ไปบริจาค ทีละเป็นหมื่น

แต่กับลูกน้อง เงินเดือน แป๊กมาหลายปี บริษัทก็ขาดทุน
แต่ก็ต้องจำทนทำงานเพื่อแลกกับเงินเดือน ทำไงได้มีเจ้านาย
เสพติด ASTV ตัวเจ้านายเองก็ไม่ได้สนใจหรอกเรื่องกู้ชาติ
บ้านเมือง แต่มันเสพติด คำหยาบ คำด่า ใส่ร้าย เสียงที่แผดดัง
กร้าวร้าว บางคนฟังแล้วติด บางคนฟังแล้วจะอ๊วก

คนที่ติดก็ถือว่าโชคร้าย เสียทั้งเงิน หน้าตาก็บูดบึ้ง การพูดจาก็
เปลี่ยนไปกลายเป็นคนหน้าบึ้งพูดจาห้าวๆ ไม่ฟังก็ไม่ได้ มันอยาก
จะลงแดง เค้าเฮก็เฮด้วย ตบมือก็ตบด้วย ถามว่าเรื่องอะไรยัง
ตอบไม่ได้เลย ฟังคนเดียวก็ไม่ได้ ต้องเผื่อแผ่ให้คนรอบข้าง
จะได้มีเพื่อนที่เป็นเหมือนกัน

แค่ขำๆ แต่คนที่โดนกับตัวก็คงพูดไม่ออกเหมือนกันครับ

จากคุณ : Lcsa - [ 19 ก.ย. 51 12:39:49 A:125.24.43.101 X: ]


ความคิดเห็นที่ 14

หลังๆๆ เปิดฟังคลายเครียด เพราะเริ่มเพ้อเจ้อ...

จากคุณ : กุ้งกระเบื้อง






โดย: a_somjai วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:16:10:56 น.  

 

P7026929 ....ASTV!!!!!!!!!!!!!!!!! PLEASE!!!!!!!!!!!!!!................... ฤทัยนาวา (4 - 23 ก.ย. 51 18:16)

....ASTV!!!!!!!!!!!!!!!!! PLEASE!!!!!!!!!!!!!!...................
....ไปตัดผม....

เดินเข้าไปในร้านตอนห้าโมงกว่า นั่งรอคิวจนผมแห้ง ผ่านไปชั่วโมงกว่าก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ตัด คนเยอะ.... เข้าใจๆ

รอคิวนานยังพอทำใจได้นะครับ แต่บรรยากาศภายในร้านระหว่างที่รอนี่สิ ทำใจยากเหลือเกิน

ในร้านเขาเปิด ASTV เสียงดังลั่น ปรกติที่ผ่านมาร้านนี้จะเปิดเพลงเพราะๆ ให้ลูกค้าฟัง แต่ไปครั้งนี้เพลงน่ะยังมีครับ แต่แถมรายการช่องนี้ให้ด้วยความปราถนาดีที่อยากให้ลูกค้าทุกท่านเรียนรู้จากมหาลัยราชดำเนิน แบบศึกษาทางไกลตลอด 24 ชั่วโมง

แต่ไม่ได้ถามลูกค้าเลยสักคำว่าอยากเรียนหรือเปล่า...

ผมไม่ขอพูดถึงประเด็นการเมืองหรือกลุ่มพันธมิตรเจ้าของ ASTV แต่วันนี้ ขอพูดในประเด็นของสื่อการสอนที่เรียกว่า ASTV ล้วนๆ

ก่อนอื่น ในความเห็นผม ผมไม่ถือว่า ASTV เป็นรายการโทรทัศน์นะครับ เนื่องจากเป้าประสงค์ของ ASTV ก็ชัดเจนมาแต่แรกอยู่แล้วว่าเพื่ออะไร เป็นเพียงการถ่ายทอดกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง ผ่านทางสัญญานสื่อที่เรียกกันติดปากง่ายๆ ว่า "โทรทัศน์" (ซึ่ง ASTV ถ่านทอดสัญญานผ่านดาวเทียม) เท่านั้นเอง ซึ่งจะแตกต่างจาก ช่อง 3 5 7 9 11 และ TPBS โดยสิ้นเชิง และที่ผ่านมากิจกรรมที่ผ่านสายตาของผมนั้นไม่ได้มีอะไรที่เรียกว่ารายการโทรทัศน์ได้เลยแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าต้องมีคนเห็นตรงข้ามกับผม...ไม่ว่ากันครับ ในรายละเอียดคงไม่ถก

ผมใช้เวลาชั่วโมงกว่าในการนั่งพลิกหนังสือไปมา เพื่อให้สมาธิอยู่กับเรื่องอื่นๆ แต่พยายามแค่ไหนก็แล้ว มีหรือจะสู้เสียงตะโกนด่าทอที่แผดออกมาจากทีวี LCD 32 นิ้วตัวนั้นได้

ถ้อยคำพลุสวาทที่พรั่งพลูออกมา นั้นช่างเหมาะเหม็งกับสีหน้าและแววตาของผู้พูดที่คล้ายกับโกรธแค้นเหล่าบรรดากองเชียร์ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหน้ามาแต่ชาติปางไหน

ถึงได้มายืนตะโกนด่าทอด้วยอากับกริยาแบบนั้นได้นานนับชั่วโมง

ที่สำคัญบรรดาผู้ที่นั่งฟัง กลับไม่อินังขังขอบกับกริยาแบบนั้น ตรงข้ามกับชื่นชมยินดีปรีดา พากันโห่ร้องแสดงความพึงพอใจในสิ่งที่คนผู้นั้นได้ตะเบงวาจาด้วยน้ำเสียงอันแผดเผาความรู้สึกของการผ่อนคลายลงไปสิ้น

พวกเขาทนฟังน้ำเสียงแบบนั้น และดูกริยาแบบนั้น อยู่ได้อย่างไร?

นี่คือคำถามของผมในขณะนั้น..............

ไม่รู้สึกถึงความไม่ปรกติของการพูดหรือ?..ไม่รู้สึกถึงความไม่สบายใจในการฟังหรือ?...ไม่รู้สึกถึงความอึดอัดในการชมหรือ?..

ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่น้ำเสียงเหล่านั้น กระแทกหน้าของท่านระลอกแล้วระลอกเล่าหรืออย่างไร?....

ผมไม่พูดถึงผู้พูดนะครับ เพราะนั่นเข้าใจว่าท่านมีเหตุผลของท่านที่จะพูดเรื่องนั้น ด้วยคำพูดแบบนั้น และด้วยกริยาแบบนั้น..

แต่ผมพูดถึงคนฟังเท่านั้น....


มันดูคล้ายกับเราไปอยู่ท่ามการการทะเลาะเบาะแว้งของใครสักคน แล้วเขากำลังตะโกนด่าทอกันอยู่ หรือมีใครกำลังตะโกนโหวกเหวกโวยวายไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรก็ตาม...

คุณชอบฟังเสียงเหล่านั้นใช่มั๊ย?

เมื่อวาน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพูดเรื่องอะไรบ้าง ไม่ได้สนใจดูด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนพูด ผมบอกได้คำเดียวว่าผมรู้สึกเครียดมาก

สมาธิผมจดจ่ออยู่แต่ว่าผมจะทำอย่างไรถึงจะไม่ได้ยินเสียงนั้น....

รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยตอนที่เขาสลับเป็นดนตรีมาเล่น เพื่อให้ผ่อนคลาย...

.......

ถึงตรงนี้ มีเรื่องหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่รับชมสื่อการสอนนี้ ถึงได้มีการกระทำที่จะให้คนอื่นๆ ได้รับชมไปพร้อมๆ กันด้วยอาการที่เรียกว่า "จงใจ" อย่างเห็นได้ชัดเจน

แม้ไม่ตั้งใจ แต่ก็ได้ยินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หลายคนเปิดลั่นบ้าน หลายคนเปิดลั่นที่ทำงาน หลายคนส่ง URL มาให้ หลายคนส่งเมล clip รายการมาให้ดู และหลายคนเปิดลั่นร้าน ที่จริงอยู่ แม้จะเป็นร้านส่วนบุคคล แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าลูกค้าอาจไม่ต้องการ...

ทำได้ไง.....

หรือนี่คือสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเขา? เป็นกรรมวิธีที่เขาต้องทำหรืออย่างไร?

ผมคงโชคไม่ดีนัก ที่ได้รับชม ASTV ในช่วงที่ไม่ใช่ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ที่ผมเคยดู ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีอยู่หรือเปล่านะ หรือว่าเปลี่ยนเป็นกริยาแบบนี้กันไปหมดแล้ว!!!???? หรืออย่างไร?


.....

..

ผมบอกแต่แรกนะครับ ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องของการแสดงออกของ ASTV เท่านั้น....

แต่ถ้ามันจะใช่เรื่องการเมือง ก็คงช่วยไม่ได้...

จากคุณ : ฤทัยนาวา - [ 23 ก.ย. 51 17:42:42 A:202.28.24.245 X: ]
**** และ/หรือ บล็อกของคุณ ฤทัยนาวา ชุมชน bloggang.com เรื่อง ชีวิตคุณน้ำใจ: ตอน...ASTV!!!! ได้โปรดดดดด..... ****


ความคิดเห็นที่ 1

เข้าใจ จขกท. ครับ ผมเคยไปกินก๋วยเต๊ยว ร้านนึงที่จ.ราชบุรี เปิดซะดังลั่น เลยเลี่ยงไป กินข้าวหมูแดงร้านอื่นแทน

พวกนี้ชอบคิดว่าคนอื่นจะชอบเหมือนเขาครับ

ต้องทำใจครับ จขกท

จากคุณ : พฤศจิ - [ 23 ก.ย. 51 18:02:07 A:203.152.55.1 X: ]


ความคิดเห็นที่ 4

กลุ้มเหมือนกันค่ะ จขกท.

ตอนนี้ astv มันแพร่ลุกลามเป็นเชื้อโรคร้าย
โดยเฉพาะในต่างจังหวัด...กำลังฮิต อินเทรนด์

แฟชั่นสำรอกออกอากาศระบาดไปทั่ว...

หยาบได้ทุกเม็ด ไม่มีระบบเซ็นเซอร์...

....ทำไงดี...ต่อไปมันยิ่งขยายเป็นมะเร็งร้ายในบ้านเรา...ใครก็ได้ ช่วยหยุดมันที...

จากคุณ : ตามมาให้กำลังใจจขกท. (ทากชมพู) - [ 23 ก.ย. 51 18:15:46 A:58.136.53.203 X: ]


ความคิดเห็นที่ 5

ที่ตลาดทางรถไฟมหาชัย จ.สมุทรสาคร มีทีวีจอแอลซีดีใหญ่มาก เปิดแต่เอเอสทีวีทั้งวันทั้งคืน ดังสนั่นไปหมด ไม่รู้ว่าใครเป็นสปอนเซอร์ หรือว่าการรถไฟ น่าเบื่อมากๆเวลาที่ผ่านไปเห็น

จากคุณ : ทัชชี่สกรีน - [ 23 ก.ย. 51 18:46:23 A:202.91.19.204 X: ]


ความคิดเห็นที่ 6

คล้ายๆกันแหละครับ ร้านชายน้ำที่โรงเรียนเปิด 97.75

ผมก็ไปซื้ออีกร้าน แพงกว่ากันบาทนึง ก็ยอมครับ

จากคุณ : ดอกไม้ไฟสีน้ำเงิน - [ 23 ก.ย. 51 19:04:54 A:58.9.239.236 X: ]


ความคิดเห็นที่ 8

ตอนนี่ไม่ได้อยู่ลำปางนะ ฮ่า ๆ ๆ

แต่ที่เจอเนี่ยเจอที่นครนายกคับ

พอดีผมจะต้องบ้านแฟนเกือบเสาร์ - อาทิตย์

ที่นี่นะคับในตัวเมืองเนี่ย เค้าเปิด ASTV กันหมดทุกร้าน ไม่ต้องคิดเลยคับ

ว่าจะไม่ซื้อร้านนี่ไปซื้อร้านอื่น เพราะร้านอื่นมันก็เปิดอยู่ดี

ตามตลาดโต้รุ่งก็เหมือนกันครับ ร้านขายลูกชิ้นเปิดเสียงดังสนั่น

ผมไปทานข้าวกับแฟนทีไร ไม่ค่อยอยากจะทานเลยคับ

แต่ก็มองหน้ากับแฟนแล้วก็ ทำใจ ครับ

สื่ออุบาด นี่ชักจะลามมากขึ้นนะคับ คนดูก็เหมือนโดนล้างสมอง

ฟังความมาข้างเดียว แล้วเฮ ตามได้เลย

ผมว่าเค้าสอนให้กินหญ้าให้อร่อย ก็คงจะใช่แล้วล่ะคับ

จากคุณ : คนเมืองลำปาง - [ 23 ก.ย. 51 19:19:30 A:125.25.180.138 X: ]









โดย: a_somjai วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:19:48:59 น.  

 
ประชาไท โพสท์ 30/9/2551
สนธิ ลิ้มทองกุล: ขึ้นต้น ‘การเมืองใหม่’ ลงท้าย ‘คืนพระราชอำนาจ’

ความคิดเห็นที่ 39
noom'
66.57.169.ip

เมียอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่ฟัง astv ทุกวัน ส่วนคนผัวอ่านออกทั้งไทยและอังกฤษชอบอ่านข่าวทั่าโลก ผัวชอบมากเรื่องประชาธิปไตย ไม่พอใจอย่างมากที่เมียติด astv ทะเลาะกันทุกวัน ลูกสาวอายุ 20 ทนไม่ได้ย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน มันเป็นเรื่องเศร้าที่ใครๆก็ช่วยไม่ได้ สงสารมากแต่ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ปลอบใจว่าให้ใจเย็นๆอย่าทะเลาะกัน ผมช่วยได้เท่านั้นจริงๆ อาทิตย์ที่แล้ว ได้ข่าวว่า คนผัวเอาฆ้อนตอกตะปูตี tv แตกเพราะทนฟังพวกปัญญาอ่อนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เมียโมโหมากคว้าตะหลิวฟาดตา คนผัวต้องเข้าโรงพยาบาล น่าสงสารมาก สมเพชเวทนาจริงๆ

เรื่องคงไม่จบง่ายๆ เพราะลูกสาวจะเอาเรื่องแม่ ตามกฏหมาย ผมก็ได้แต่ห้ามใว้ไม่รู้ว่าจะฟังหรือเปล่านะ

วันที่ 30/09/2551 20:40 ## 354085


โดย: a_somjai วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:22:18:15 น.  

 
วานนี้ (4 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.20 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล

"..................


พี่น้องเราสู้มาตั้งนาน ผมสู้มาตั้งนาน ผมเคยพูดมาตั้งนานว่า ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง นัยยะนี้แปลว่าอะไร แปลว่าเมื่อมันมาถึงเรื่องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์แล้ว ถึงจะต้องตายก็ยอมตายเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ถึงจะเจ๊งก็ต้องยอมเจ๊ง แต่ว่าพ่อแม่พี่น้องไม่ยอมให้เจ๊งเสียที เอเอสทีวีและพนักงานทุกคนต้องกราบมาที่แทบเท้าพี่น้อง ว่าโทรทัศน์เอเอสทีวีันั้น เป็นของพ่อแม่พี่น้อง ไม่ใช่ของเรา เพราะพ่อแม่พี่น้องเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้



“จากการถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมง ทำให้โฆษณาเจ้าประจำที่เราเคยได้ เราไม่มีสิทธิที่จะออกโฆษณาเลยแม้แต่นิดเดียว ก็เลยเก็บเงินเขาไม่ได้ ระหว่างที่หยุดถ่ายทอดสดเพื่อออกโฆษณาให้เขา กับการถ่ายทอดสดแล้ว การมอบปัญญา มอบความรู้ ให้กับพ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศไทย สำคัญกว่าเงินรายได้โฆษณาครับ”

นายสนธิกล่าว โดยมวลชนพากันปรบมือให้



......."


ที่มา: ประชาไท วันที่ : 5/10/2551 | สนธิท้าให้จับแกนนำ! ลั่นจะไม่ประกันตัวเด็ดขาด และขอยอมตายแลกประเทศไทยคืนมา


โดย: a_somjai วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:2:46:21 น.  

 
Manager Online 5 ตุลาคม 2551 18:05 น.
บทบาทของพันธมิตรฯ หลังยุติการชุมนุม โดย ชัยอนันต์ สมุทวณิช


เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ศาสตราจารย์ Fred Riggs ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับประเทศไทย มีใจความสรุปได้ว่า การเมืองไทยเป็นการเมืองแบบอำมาตยาธิปไตยหรือ Bureaucratic Politics ซึ่งข้าราชการเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองด้วย การคานอำนาจของข้าราชการจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมี “พลังต้าน” นอกระบบราชการ

เมื่อระบบการเมืองเป็นแบบอำมาตยาธิปไตย นักวิชาการก็หวังว่าพรรคการเมือง และนักการเมืองจะเป็นทางแก้ เป้าหมายของการปฏิรูปหรือการเปลี่ยนแปลงที่ดีก็คือ การที่ข้าราชการหมดหรือลดบทบาททางการเมืองลง และนักการเมืองเป็นฝ่ายนำการเมืองแทน

การไปสู่เป้าหมายนี้มีความเป็นรูปธรรม เพราะระบอบอำมาตยาธิปไตยนั้น มีรัฐธรรมนูญรองรับอยู่ บทบัญญัติที่กันนักการเมืองออกจากกรณีอำนาจบริหารก็คือ การยอมให้ผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แม้จะมีสภาผู้แทนราษฎร แต่ก็มีวุฒิสภา บางสมัยก็มีสภาฯ ที่มีสมาชิกสองประเภท ทำให้บทบาทของนักการเมืองมีไม่มาก ทั้งทางด้านบริหารและด้านนิติบัญญัติ สภาผู้แทนราษฎรก็มีความอ่อนแอ คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาฯ ก็ไม่มีบทบาทเหมือนอย่างในปัจจุบัน

ข้อเรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย นำไปสู่การเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สำคัญ 2 ครั้ง คือ 14 ตุลา และ “พฤษภาทมิฬ” หลังจากนั้น เราก็มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ข้าราชการและทหารเริ่มลดบทบาทลง โดยเฉพาะหลังรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพมาได้เป็นเวลา 10 ปี

การที่เราเรียกร้องและสนับสนุนให้มีระบอบประชาธิปไตยมาแทนระบอบอำมาตยาธิปไตยนั้น ก็เพราะหวังว่าประชาชนจะมีส่วนร่วมทางการเมือง และมีอิทธิพลต่อการบริหารงานของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมากขึ้น โดยไม่คาดคิดว่านักการเมือง และพรรคการเมืองจะกลายมาเป็นปัญหาใหญ่กว่าการเมืองแบบอำมาตยาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นในแง่คุณสมบัติ และความสามารถของรัฐมนตรี หรือการคอร์รัปชันซึ่งมีมากขึ้น

การหมดบทบาทของข้าราชการ ทำให้อิทธิพลของนักธุรกิจท้องถิ่นมีมากขึ้น ระบบการเลือกตั้งที่มีอย่างต่อเนื่องทำให้นักธุรกิจท้องถิ่นสามารถสร้าง และขยายเขตอิทธิพลออกไปได้อย่างกว้างขวาง เช่น กรณีของนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นต้น พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นก็เป็นพรรคของหัวหน้า มีกิจกรรมหลักคือ การจัดการเลือกตั้ง ซึ่งอาศัยการซื้อเสียงมากกว่าการเผยแพร่นโยบาย พรรคการเมืองที่มาภายหลัง เช่น พรรคไทยรักไทย แม้จะมีการเสนอนโยบายที่ชัดเจน แต่ก็ยังมีเจ้าของและหุ้นส่วนจำนวนน้อย

การเปลี่ยนแปลงจากระบอบอำมาตยาธิปไตยมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนในชนบทได้รับประโยชน์มากขึ้น โดยเฉพาะการนำเงินจากกองทุนต่างๆ ลงไปยังหมู่บ้าน ส่วนในระดับบน พรรคการเมือง 4-5 พรรคก็ร่วมกันแสวงหาประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งในยุคก่อนนักการเมืองไม่สามารถเข้าถึง และควบคุมงบประมาณโดยตรง แต่ต้องแสวงหาประโยชน์ผ่านข้าราชการ ในระบอบประชาธิปไตย นักการเมืองสามารถตั้งงบประมาณได้ โดยหาโครงการใหญ่ๆ มา

ไปๆ มาๆ เราต้องมาต่อต้านนักการเมือง และพรรคการเมืองที่เราเคยสนับสนุน และหวังว่าจะมาช่วยแก้ปัญหา การติดกับดักของประชาธิปไตยนี้มีผลทำให้การเมืองไทยไร้ทางออก เมื่อพันธมิตรฯ ชุมนุมอย่างยืดเยื้อ ปัญหาต่างๆ ก็ได้รับการหยิบยกขึ้นมา และเรียกร้องให้มี “การเมืองใหม่” ที่เริ่มด้วยความคลุมเครือว่าเป็นอย่างไร แต่ที่ชัดเจนก็คือ “การเมืองใหม่” มีพลังด้านการปฏิเสธ คือ เป็น negative force “การเมืองใหม่” คืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่การเมืองเก่า

การคิดสร้าง “การเมืองใหม่” อย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวข้องกับการหาวิธีการของการมีส่วนร่วมโดยพลเมืองในกระบวนการทางการเมือง การเมืองไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองและนักการเมืองแต่เพียงฝ่ายเดียว ประเด็นนี้มีความชัดเจนจากการตื่นตัวของประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม และสนับสนุนพันธมิตรฯ แต่วิธีการเลือกตั้งแบบสัดส่วน และแบบกลุ่มอาชีพยังไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร แต่ก็สามารถพิจารณาในรายละเอียดได้ ว่าจะจัดอย่างไร

ถ้าจะถามว่า “การเมืองใหม่” เกิดขึ้นหรือยัง คำตอบก็คือ เกิดขึ้นแล้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั่นแหละ คือ รูปธรรมของการเมืองใหม่

ไม่ว่าระบบการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ประเด็นสำคัญที่ยังไม่ค่อยมีการพูดกันก็คือ บทบาทของพันธมิตรฯ หลังจากการยุติการชุมนุม ถ้าคิดในแบบการเมืองเก่าก็คือ การยกระดับขึ้นเป็นพรรคการเมือง แต่ถ้าคิดแบบ “การเมืองใหม่” ก็คือ การจัดระบบเครือข่าย และการทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบอื่นที่มิใช่การชุมนุม ผมเห็นว่ามีสิ่งที่น่าจะทำดังนี้

1. เร่งขยายการติดตั้งจานรับ ASTV โดยมีการรณรงค์ให้บริจาคจานให้แก่หมู่บ้านที่ห่างไกล

2. หาสมาชิกที่รับข่าวจาก ASTV วิทยุ และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายละ 200 บาทให้ได้ 500,000 ราย

3. จัดรายการให้ความรู้ทางการเมืองทางวิทยุ และโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง

4. จัดการเดินทางไปจังหวัดต่างๆ โดยมีปาฐกถาและการสัมมนา

5. เปิดหลักสูตรการเรียนทางไกลด้าน “การเมืองใหม่” โดยมีประกาศนียบัตรให้

6. มีการอบรมระยะสั้นโดยให้สมาชิกเข้าร่วมการอบรม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือมีก็แต่น้อย

7. มี web ข่าวสังคมของสมาชิกพันธมิตรฯ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน

8. สนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรฯ ในจังหวัดต่างๆ

9. ผลิตสัญลักษณ์ เช่น เสื้อยืด และของที่ระลึกอื่นๆ เพื่อให้สมาชิกได้มีไว้ใช

การดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องนี้ เป็นการสร้างเครือข่ายที่ไม่ใช่การจัดตั้งพรรคการเมือง พลังของพันธมิตรฯ อยู่ที่การสร้างจิตสำนึก และการให้ข้อมูลข่าวสารความรู้เพื่อให้ประชาชนเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เป้าหมายของการเข้าไปมีอำนาจทางการเมืองโดยตรง แต่จะเป็นผู้ทำการวิเคราะห์เจาะลึก ประเด็นปัญหาสำคัญๆ ให้ประชาชนได้รู้

ผมคิดว่าพลังของพันธมิตรฯ หลังการยุติการชุมนุมจะมีอยู่ตลอดไป ที่สำคัญก็คือ รัฐบาลทุกรัฐบาลย่อมรู้ถึงศักยภาพที่พันธมิตรฯ จะเรียกชุมนุมใหญ่อีกหากมีความจำเป็น




Link อ่าน


โดย: a_somjai วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:6:09:20 น.  

 
กระทู้พันทิบ
P7075336 โปรดระวังบุุคคลใกล้ชิดของคุณ ที่เริ่มมีพฤติกรรมเข้าข่ายพันธมิตรฝังหัวดังนี้ bananaku (19 - 8 ต.ค. 51 07:08)

โปรดระวังบุุคคลใกล้ชิดของคุณ ที่เริ่มมีพฤติกรรมเข้าข่ายพันธมิตรฝังหัวดังนี้

1. เถียงหัวชนฝา ไม่รับฟังเหตุผลจากใครทั้งสิ้น ยกเว้นเหตุผลจากช่อง ASTV เพียงแห่งเดียว ไม่ว่าใครจะอธิบาย ยกรูปภาพ พูดดีก็แล้ว ก็ยังเถียงหัวชนฝาว่าเป็นระเบิด ไม่ใช่แก๊สน้ำตาชนิดขว้าง

2. การรวมกลุ่มเข้ายึดสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญต่างๆ โดยผิดกฏหมาย และสร้างความเดือดร้อนให้กับคนทั้งประเทศ .... แต่ถูกกฎหมู่ซึ่งบัญญัติโดยผู้นำแห่ง ASTV ว่าให้เคลื่อนพล ประชิดที่นั่นที่นี้ได้ ถือเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจที่ช่วยชาติ ไม่ได้ผิดกฎหมาย และห้ามมิให้ตำรวจมาเอาผิด หรือจับตัวไปลงโทษ เพราะพันธมิตรของแท้ ต้องอยู่เหนือกฎหมาย อยู่ภายใต้กฎหมู่เท่านั้น

3. มีการพูดจาเสียงดัง แทบจะเรียกว่าตะโกนใส่กัน โดยไม่มีหางเสียง หลังจากพูดจบต้องตบมือ ( อาจใช้อุปกรณ์ช่วยที่เรียกว่ามือตบฯ ) ถ้าให้ up grade ได้ต้องพูดคำว่า " พี่น้องครับ/คะ " เพิ่มเข้าไปด้วย จะได้ดูเป็นผู้นำ

4. แฟชั่นการแต่งตัวต้องมีผ้าสีเหลืองโพกไว้ตามศรีษะ คอ ข้อมือ หรือเอว ถ้าเป็นชาย อนุโลมให้ใส่หมวกไหมพรมปิดหน้า ใส่แว่นกันแดดปิดตา มือถือดาบหรือธงจะยิ่งเท่ห์มาก

5. วันๆ ไม่ต้องเป็นอันทำอะไร ถ้าไม่ไปชุมนุม ก็นั่งดู ASTV อยู่ที่บ้าน เปิดเสียงทีวีให้ดังที่สุด เพื่อประกาศศักดาว่า " ข้าคือคนดีของชาติ กำลังช่วยกู้ชาติ โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ที่ไหน " แม้ว่าเสียงดังขนาดนี้จะไปรบกวนคนกำลังหลับพักผ่อน เด็กๆ อ่านหนังสือ คนใช้สมาธินั่งเรียนหนังสือ คนนั่งทำงาน รวมไปถึงสมาชิกในครอบครัวที่อยากดูทีวีช่องอื่น แต่ดูไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้น้ำในบ้าน ที่กำลังเมามันส์กับ ASTV อยู่

6. เป็นคนชอบท้าทาย เที่ยวได้ตะโกนด่า ว่าคนอื่นว่าเลวอย่างนั้นอย่างนี้ นิสัยชั่วช้า โกงกิน หาจุดด้อย ข้อเสียของคนอื่น เที่ยวขุดมาด่าให้หมดสิ้น ถ้าใครไม่อยู่ข้างเดียวกันกับข้า...เองคือศัตรูของข้านี่เอง ด่าเค้าแล้วก็ห้ามไม่ให้เค้าโต้ตอบ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม อยากฟ้องศาลเรอะ...เชิญเลย ยังไงก็จับกุมตัวไม่ได้หรอก ( ถ้าไม่ใช้วิธีล่อให้มาจับล่ะก็ ) .....ที่สำคัญคือ ถ้ามาใช้กำลังกับข้า...เอ็งก็คือคนชั่วช้าสามานย์ ที่เก่งแต่จะใช้กำลังกับคนที่ไม่มีอาวุธ ข้าจะต้องป่าวประกาศให้ทั่วโลกได้รู้ถึงความชั่วร้ายของเอง ที่ใช้ความรุนแรง ป่าเถื่อน .....>>> แต่จริงๆ แล้วแถวบ้านผม เวลาใครมากวนตี...แบบว่าใช้คำพูดหยาบคาย ด่าคนนู้น ด่าคนนี้ วิจารณ์เค้าว่าเลว โกงกิน ต่างๆนาๆ แต่ไม่ได้ส่องกระจกดูตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว คนๆนี้ ก็คงโดนสหบาทา ตายคาที่ไปแล้ว ก่อนที่มันจะได้เคลื่อนพล เอ๊ย... เดินไปที่อื่นซะอีก <<<<

เบื่อม๊อบพันธมิตรอ่ะ พอแล้วได้ป่ะคับ

ปล. เดี๋ยวจะโดนข้อหาว่าผมเป็น นปก. ... ผมก็ไม่ชอบ นปก.ครับ ไม่ชอบการชุมนุมประท้วงทุกรูปแบบที่ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย เพียงแต่ไม่ได้พูดถึงเพราะ นปก. ไม่มีการปลุกระดม 24 ชั่วโมง ไม่ได้ทำให้พ่อแม่พี่น้องผมต้องแตกแยก ไม่ได้ยั่วยุโดยการปิดสถานที่สำคัญต่างๆ แล้วทำให้เดือดร้อนทั้งประเทศครับ

แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 51 02:08:36

จากคุณ : bananaku - [ 8 ต.ค. 51 01:21:59 A:117.47.200.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 1

ไม่ต้องระวังแล้วครับ

โดนเต็มๆ

จากคุณ : TONI_P - [ 8 ต.ค. 51 01:35:01 A:125.26.87.207 X: ]


ความคิดเห็นที่ 2

แล้วไอ้กลุ่ม นปก มันไม่ใช่แบบนี้เรอะ !!!!!!!
แม่ม คนตายแล้วยังเจือกเสียดสีอยู่ได้

จากคุณ : KapampaBlue - [ 8 ต.ค. 51 01:40:36 A:222.123.205.141 X: ]


ความคิดเห็นที่ 3

เอ่อ คนในราชดำเนินก็มีนะครับแบบนี้

จากคุณ : Chinobo2007 (Chinobi2007) - [ 8 ต.ค. 51 01:41:50 A:58.9.41.55 X: ]


ความคิดเห็นที่ 5

คนรอบ ๆ ตัวเรา เข้าเค้า ข้อ 6 ค่ะ

จากคุณ : mayurae - [ 8 ต.ค. 51 01:47:34 A:124.120.72.204 X: ]


ความคิดเห็นที่ 10

คห.2 ก็คงเป็นตัวอย่างอันนีงครับ ที่ใช้การพูดจาไม่สุภาพ และไม่เคยมองเลยว่า คนที่ตาย...เพราะอะไร

เค้าก็จะโทษกันแต่ว่า....เพราะตำรวจเลว ...เพราะรัฐบาลสั่ง... เพราะพวกโกงบ้านเมืองมันชั่วช้า

เคยเห็นมีใครบอกไม๊ล่ะครับ ... ว่าเพราะพันธมิตรเริ่มต้นก่อสงครามยั่วยุทุกฝ่ายเอง ก็ตัวเองยังเรียกว่า " สงครามครั้งสุดท้าย" เลยครับ

ผมไม่ได้มาเสียดสีเรื่องคนตาย ... กรุณาอย่าพาดพิงเลยครับ

ผมจะบอกให้ก็ได้ว่าที่เขียนมาได้ขนาดนี้ เพราะแม่ผมนี่นั่งเฝ้าทีวีทั้งวัน ไม่ให้คนอื่นดูข่าวสารโลกภายนอกเลย วันๆ ดูแต่ ASTV ตังก์ก็เสียให้มันไปแล้ว ไหนจะความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอีก เค้าเป็นอย่างที่ผมเขียนจริงๆ นะครับ อธิบายยังไงก็ไม่ฟัง เอาแต่บอกว่า ผมไม่รู้อะไรหรอก รัฐบาลนี้เนี่ยเลวชะมัดยาด สนธิเค้าบอกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ จำลองมาอธิบายว่าอย่างนั้นอย่างนี้..... พวกแกไม่มีทางได้ยินมาจากที่อื่นหรอก เพราะไม่มีใครเค้ากล้าพูดความจริงกันอย่างพันธมิตรนี่

ผมได้แต่มองตาปริบๆ .... เฮ้อ... ยังไงเค้าก็เป็นแม่เราครับ ผมไม่เถียงอยู่แล้วครับ

จากคุณ : bananaku - [ 8 ต.ค. 51 01:55:19 A:117.47.200.148 X: ]


ความคิดเห็นที่ 11

บาปกรรมของแกนนำพันธมิตรจริงๆเลยทำให้หลายครอบครัวต้องระมัดระวังในการดำเนินชีวิตร่วมกัน

จากคุณ : sukhumwitz - [ 8 ต.ค. 51 02:08:59


ความคิดเห็นที่ 12

โดนมากกว่าหนึ่งข้อ นั่นคือพ่อผมเองครับ T_T
เอาหลักฐานให้ดูตรงหน้าก็สะบัดก้นหนีไปซะงั้นๆ

จากคุณ : เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) - [ 8 ต.ค. 51 02:21:20 A:124.121.214.108 X: ]


ความคิดเห็นที่ 13

โปรดระวังบุุคคลใกล้ชิดของคุณ ที่เริ่มมีพฤติกรรมเข้าข่ายรับเศษเงินฝังหัวดังนี้
1. เถียงหัวชนฝา ไม่รับฟังเหตุผลจากใครทั้งสิ้น ยกเว้นเหตุผลจากช่อง NBTเพียงแห่งเดียว ไม่ว่าใครจะอธิบาย ยกรูปภาพ พูดดีก็แล้ว ก็ยังเถียงหัวชนฝาว่าเป็นแก๊สน้ำตา ไม่ใช่ระเบิดชนิดขว้าง

2. การรวมกลุ่มเข้ายึดทำความเสียหายแก่บุคคลที่ไม่มีทางตอบโต้ โดยผิดกฏหมาย และสร้างความเดือดร้อนให้กับคนทั้งประเทศ .... แต่ถูกกฎหมู่ซึ่งบัญญัติโดยผู้นำแห่งลัทธิที่หนีหมายศาลว่าให้เคลื่อนพล ประชิดที่นั่นที่นี้ได้ ถือเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจที่ช่วยผู้นำแห่งลัทธิที่หนีหมายศาล ถึงทำผิดกฎหมาย ก็สามารถห้ามมิให้ตำรวจมาเอาผิด หรือจับตัวไปลงโทษได้ เพราะมีตำรวจอยู่ภายใต้อำนาจ มีเงินเลยต้องอยู่เหนือกฎหมาย

3. มีการพูดจาเสียงดัง บอกว่าเป็นคนรากหญ้าไม่มีสิทธิมีเสียงในสังคม ต้องการแสดงออกถึงความรักในผู้นำแห่งลัทธิที่หนีหมายศาลเท่านั้นด้วยความซื่อไม่ได้รับเงิน

4. แฟชั่นการแต่งตัวต้องใส่เสื้อผ้าสีแดง มีโพกโพกไว้ตามศรีษะ คอ ข้อมือ หรือเอว ถ้าเป็นชาย อนุโลมให้ใส่หมวกไหมพรมปิดหน้า ใส่แว่นกันแดดปิดตา มือถือดาบหรือธงจะยิ่งเท่ห์มาก ผู้หญิงต้องดูกร้านโลก เป็นทอมยิ่งดียิ่งน่านับถือ ต้องมีเส_มาสอนรบด้วย โอ๊ย...โคตรเท่ห์

5. วันๆ ไม่ต้องเป็นอันทำอะไร ถ้าไม่ไปชุมนุมที่สนามหลวง ก็นั่งดู NBT โดยเฉพาะรายการ "ควา_จริงวันนี้"(ขอโทษครับไม่เคยดูกลัวผิดเลยเว้นไว้) อยู่ที่บ้าน เปิดเสียงทีวีให้ดังก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวคนดี ๆแถวบ้านจะรู้ว่าเป็นพวกหิวเศษเงิน บางทีก็ดูทีวีช่องอื่น แต่พูดไม่ได้ ต้องอาศัยข้อมูลคนอื่นทำตามน้ำเพราะไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเงินที่จ้างมา เพราะกลัวเดี๋ยวข้อมูลไม่ตรงกัน

6. เป็นคนชอบท้าทาย เที่ยวได้ตะโกนด่า ว่าพันธมิตรว่าเลวอย่างนั้นอย่างนี้ นิสัยชั่วช้า เที่ยวหากิน หาจุดด้อย ข้อเสียของคนอื่น เที่ยวขุดมาด่าให้หมดสิ้น ถ้าใครไม่อยู่ข้างเดียวกันกับข้า...เองคือศัตรูของข้านี่เอง ด่าเค้าแล้วก็ห้ามไม่ให้เค้าโต้ตอบ แทนที่จะพูดกันด้วยเหตุผลก็จัดกลุ่มคนรักโน่น รักนี่ (แต่ไม่เคยเห็นจะรักชาติซักที) ขึ้นมาไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม อยากฟ้องศาลเรอะ...เชิญเลย ยังไงก็จับกุมตัวไม่ได้หรอก ( ถ้าไม่ใช้โดนกดดันให้ต้องจับล่ะก็ พอจับก็โอ๊ย...กว่าจะสอบพยานได้...หุหุ ) .....ที่สำคัญคือ ถ้ามาใช้กำลังกับข้า...เอ็งก็คือคนชั่วช้าสามานย์ ที่เก่งแต่จะใช้กำลังกับคนจนคนรากหญ้า ข้าจะต้องป่าวประกาศให้ทั่วโลกได้รู้ถึงความชั่วร้ายของเอง ที่ใช้ความรุนแรง ป่าเถื่อน กฏหมู่ ฝ่าฝืนกฏหมาย แต่ถ้าถามองค์ประกอบของความผิดของกฏหมาย ก็ แบะ แบะ แล้วก็บอกเรียนมาน้อย (แต่ไม่คิดจะใฝ่รู้) เรื่องแบบนี้ต้องให้รายการที่ NBT ข้างต้นมาตอบก่อนตนจึงจะรู้ .....>>> แต่จริงๆ แล้วแถวบ้านผม เวลาใครมากวนตี...แบบว่าใช้คำพูดหยาบคาย ด่าคนนู้น ด่าคนนี้ วิจารณ์เค้าว่าเลว เที่ยวหากิน ต่างๆนาๆ แต่ไม่ได้ส่องกระจกดูตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว คนๆนี้ ก็คงโดนสหบาทา ตายคาที่ไปแล้ว ก่อนที่มันจะได้เคลื่อนพล(ด้วยความสงบอาวุธเต็มมือ) เอ๊ย... เดินไปที่อื่นซะอีก <<<<

เบื่อพวกรับเศษเงินแล้วอ่ะ พอแล้วได้ป่ะคับ

จากคุณ : ท่องโดดเดี่ยวหมื่นลี้ - [ 8 ต.ค. 51 02:27:28 A:124.120.159.141 X: ]


ความคิดเห็นที่ 14

ดีใจครับคนในครอบครัวไม่มีอย่างนี้ แต่คนรอบบ้านเป็นอย่างนี้ วันวันไม่ทำมาหากินไร การเมืองเข้าสมองแต่ไม่เคารพประชาธิปไตยแล้วอ้างว่ากู้ชาติ
ผมว่าเราเสียอธิปไตยให้ใครยัง ถึงต้องกู้ พูดไปพูดมาหาว่าเราไม่รักชาติอีกเอ้า (ผิดเลยตู) แล้วพอยึดที่ไหนได้ดีใจกันใหญ่ ส่วนอุปกรณ์ก็เอามาฝากผมครับเป็นมือปลอมยังไม่รู้เลยว่าเอาไปใช้ทำไรได้บ้าง ยังมีอีกอย่างครับ คือชอบเล่าว่าในastv พูดไรบ้างและพวกเขารักกันแค่ไหน

จากคุณ : นู๋มาเฟีย - [ 8 ต.ค. 51 02:41:55 A:124.120.145.153 X: ]


ความคิดเห็นที่ 16

คห.13

เบื่อพวกรับเศษเงินแล้วอ่ะ พอแล้วได้ป่ะคับ

-----------

เห็นประกาศป่าวๆ ว่า พ่อแม่พี่น้องครับ ช่วยบริจาคค่านั้น ค่านั้น ค่านี้
ขอบริจาคเงินเพื่อเป็นเงินเดือนพนักงานกระผมหน่อย

ดู ASTV มีให้เห็น 2 อย่าง...
ด่าฝ่ายตรงข้าม + ขอเงินพวกเดียวกัน

เบื่อเหมือนกัน

จากคุณ : เมษาพาเพลิน - [ 8 ต.ค. 51 03:28:57 A:192.251.125.85 X: ]


ความคิดเห็นที่ 17

อุ๊ย........อายจัง...
น้องชาย พี่ชาย ....
เอ่อ...ไม่ตรงทุกข้อ ที่ตรงก็มี
....ข้อ.1 ......2.......4........5.......และ 6.......
เอ่อ....จะมีอาการ แบบที่จขกท. บอกมา....
**อาการอย่างนี้ เข้าข่ายพันธมิตร มั้ยจ๊ะ?????
แล้วถ้าใช่.....
.....มี*** วิธีแก้ อาถรรพ์ครั้งนี้มั้ยจ๊ธ???****
....พ่อหนุ่ม.....ช่วยทีนะ.....
อาการ เริ่มทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด เวลามีข่าวจะสลายม๊อบ....
แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 51 04:35:55

จากคุณ : syk05 - [ 8 ต.ค. 51 04:35:19 A:58.9.157.44 X: ]


ความคิดเห็นที่ 18

โอ้ย ผมโดนไปหลายแล้วทั้งจากคนที่ทำงาน และข้างบ้านที่ฝักใฝ่ รักสนธิฝังลึก ใครอย่าใส่เสื้อแดง หรือไปเสนอหรือพูดอะไรที่ไม่เข้าข้างพธม. นะ มีสิทธิ์ถูกด่า หรือไล่ต่อยตี หัวแตก

จากคุณ : คนดูหนังคนเดียว - [ 8 ต.ค. 51 05:17:37 A:124.120.198.124 X: ]


ความคิดเห็นที่ 19

ที่บ้านผมก็เป็นครับ แต่ผมพยายามไม่ให้เปิด แกก็แอบไปเปิดวิทยุในรถ ไอ้แปะนี่ผมเคยพูดเมื่อ 2 ปีก่อนว่าถ้าไม่รีบกำจัดมันคือตัวบุคคลอันตรายที่สุด

จากคุณ : ปีศาจValkyrie - [ 8 ต.ค. 51 07:07:15 A:125.25.197.109 X: ]



Link อ่าน


โดย: a_somjai วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:9:11:09 น.  

 
กระทู้การเมือง ที่ mthai.com โดย: ปากกล้า
“สนธิ” ชี้ “ระบอบทักษิณ” ซื้อบิ๊กทหาร-ตำรวจเป้าหมายล้มสถาบันโดย ผู้จัดการออนไลน์14 ตุลาคม 2551 23:44 น

“สนธิ” สรุปการต่อสู้ตั้งแต่ปี 44 เป็นการต่อสู้ระหว่างคนสองกลุ่มคือ กลุ่มระบอบทักษิณที่ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ กับอีกกลุ่มที่ปกป้องสถาบันด้วยชีวิตนำโดยพันธมิตรฯ ชี้เป็นเกมที่อีกฝ่ายวางไว้ล่วงหน้า ซื้อเกือบทุกอย่างเอาไว้ในมือทั้งรากหญ้า ขรก.ตำรวจและทหารใหญ่บางคน ย้ำการเมืองใหม่ต้องเริ่มที่สถาบันต้องมั่นคงเรื่องอื่นเรื่องเล็ก

วันนี้ (14 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.15 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ย้ำให้พี่น้องเดินหน้าขยายการบอยคอตหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับต่อไปจนถึงที่สุด นั่นคือ ข่าวสด มติชน และมติชนสุดสัปดาห์ และพิ่มอีกหนึ่งฉบับ คือประชาชาติธุรกิจ เพื่อเห็นแก่วีรชนของเราที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

จากนั้น นายสนธิ ได้กล่าวว่า ณ วันนี้เราสามารถสรุปได้แล้วว่าสาเหตุที่เราต่อสู้เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ เพราะถ้าสถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคง ชาติก็มั่นคง ขณะเดียวกัน ถ้าสถาบันไม่มั่นคง ชาติก็ไม่มั่นคงไปด้วย

“ให้พวกเราคิดสักนิดว่า ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงวันนี้ พวกมันยังไม่หยุดจาบจ้วง วันนี้ที่เวทีสนามหลวง ยังจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ วันนี้มันเปิดหน้าชกแล้ว” นายสนธิระบุและว่า ที่มันเอาเงินไปซื้อรากหญ้า ซื้อตำรวจ และทหารที่มีอำนาจบางคน ซึ่งตอนนี้เรารู้แล้วว่าเป็นใคร เพราะแม้ประชาชนถูกฆ่ามันก็ไม่ออกมา เห็นเกมของพวกมันแล้วหรือยัง

“นี่คือ เกมทำลายของทักษิณ เกมการเมือง เกมในสภาถือว่าเกมลวง แต่ยังมีก้างขวางคอที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ พวกเราที่ทำเนียบและที่สะพานมัฆวานเท่านั้น จำได้หรือไม่ที่เคยบอกว่าราชบัลลังก์มีแต่พวกเราเท่านั้นที่คอยปกป้อง และให้จำไว้ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งยวด” นายสนธิ กล่าว และว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องมีประชาชน ซึ่งเวลานี้มีประชาชนสองส่วนส่วนหนึ่งคือ พวกเราที่ยอมตายเพื่อปกป้องราชบัลลังก์ ขณะที่อีกส่วนหนึงที่ยังเข้าไม่ถึงข้อมูล

นายสนธิ กล่าวว่า ตนเองมานั่งทบทวนในเรื่องคดีความต่างๆ หรือเรื่องชั่วๆ ต่างๆ พวกมันไม่เคยยี่หระ เพราะวัตถุประสงค์ของพวกมัน คือ ต้องการสลายพวกเราที่ออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป้าหมายของมันคือต้องการล้มล้างราชบัลลังก์

“นายวีระ และ นายจักรภพ พูดว่าไม่ต้องไปเจรจากับพันธมิตรฯ แต่ต้องไปเจรจากับเจ้าของพันธมิตรฯ ดังนั้น ถ้าพวกเอ็งไม่ยอมรับสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ให้ไสหัวออกไปจากประเทศไทย เพราะพวกเราต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะปกป้องด้วยชีวิต” นายสนธิ ระบุและว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างคนที่เอาพระมหากษัตริย์กับฝ่ายที่ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เลือกเอา และนี่คือ สงครามครั้งสุดท้ายเราถอยไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว

นายสนธิ สรุปว่า สาเหตุที่พวกเราเหล่าพันธมิตรฯ มารวมกันเป็นหนึ่งเดียวจนถึงบัดนี้ก็มาจากสาเหตุที่เรารักพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีนาถ และราชวงศ์ นั่นเอง ดังนั้น การเมืองใหม่ต้องเริ่มที่สถาบันพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรมนั่นเอง เพราะจะทำให้ประชาธิปไตยมั่นคงและชาติมั่นคง

ผมเชื่อในสิ่งต่างๆ ความเปลี่ยนแปลงต่างๆในประเทศที่ผมรู้ตลอด เวลา กว่า ครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา

กว่าครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา มีโครงการต่างๆที่ทำเพื่อประชาชน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนเกิดขึ้น นับได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 โครงการ

ผมเชื่อ ว่าหลังการพังทะลายของ บรรษัทยักษ์ใหญ่ สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ จะทำให้สังคมโลกเริ่มมองเห็นความล้มเหลว และตีบตันของระบอบทุนนิยมสามานย์ รวมทั้งอนาคตที่ใกล้ล่มสลายของมัน และ สังคมโลกจะเริ่มหันกลับมาถามหา ความพอดีพอเพียง ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ล้ำหน้าอย่างยิ่ง ในอนาคต (ซึ่งหลายประเทศในยุโรป ก็เริ่มหันกลับมาศึกษาเศรษฐกิจแบบพอเพียงกันแล้ว)

ผมไม่เชื่อ ทักษิโณมิกส์ ที่ พยายามจะวิ่งตามทุนนิยมสุดขั้วแล้วสุดท้าย ก็ไม่พ้นจะพาประเทศชาติไปสู่จุดจบในสภาพเดียวกับ เลย์แมน และ หลายๆบริษัทในอเมริกาที่กำลังล้มละลายอยู่ขณะนี้

ผมไม่เชื่อ คนที่ เอาเงินภาษีของประชาชน เงินรายได้จากการส่งออกที่มาจากการทำมาหากินของประชาชน เงินที่รัฐบาลชวนทำไว้ให้ในช่วงปี 2542 - 2544 ชุบมือเปิบไปใช้หนี้ IMF แล้วก็คุยโวโอ้อวดว่าเป็นผลงานอันแสนจะวิเศษของข้า ข้าสมควรจะเป็นวีรบุรุษ

ผมไม่เชื่อ คนที่ แปรรูปบริษัทน้ำมันให้ตัวเอง พวกตัวเองรวยเป็นพันล้านหมื่นล้าน ขณะที่ค่าครองชีพ ค่าขนส่ง ทุกอย่างแพงขึ้นอย่างสาหัสสากรรจ์

--------------------------


โดย: a_somjai วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:5:33:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

a_somjai
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add a_somjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.