i BLOG f 2006-09-19
2006-09-19 | ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับบ้านเมือง (11) posted by a_somjai | ตำนาน, ลัวะ, เมือง, เหนือ, ล้านนา, เชียงใหม่, ดอยอุสุปัพพตาคีรี, ดอยอุจปัพพตะ, ดอยอ้อยช้าง, ดอยสุเทพ, ดอยลัวะ, ผาลาด, ดอยอ่างสรง, สุวรรณคำแดง, เจ้าหลวง, คำแดง, นางอินเหลา, คนเกิดในรอยตีน/เท้าสัตว์, จามเทวีวงศ์, สุเทวรสี, ฤษีวาสุเทพ.
สร้างป่าให้เป็นเมือง สร้างเรื่องให้เป็น ลัวะ (2)
เมื่อเจ้าสุวัณณคำแดงราชบุตรได้สนุกยินดีด้วยนางอินเหลา ตามความมักแห่งเจ้าทัง ๒ ภายในถ้ำดอยอ่างสรงนั้น พร้อมด้วยริพลโยธาทังมวลก็ให้ยั้งหยุดอยู่ในฐานะที่นั้น เป็นอันเมินนานนักแล้ว เจ้านายท้าวพระยาเสนาอามาตย์ริพลโยธาทังหลาย เขาก็ยินก้าย(เบื่อหน่าย)เสียแล้ว เขาจิ่งพร้อมกันไปไหว้สาว่า
ข้าแด่ราชบุตรเจ้า ผิดและชอบทังมวล ข้าน้อยขอขมา ข้าทังหลายขอไหว้ว่า ติดด้วยอาชญา(คำสั่ง)พระมหาราชเจ้าตนเป็นพ่อแห่งเจ้า จักละเสียกา (จะละทิ้งภารกิจเสียแล้วหรือ) แม่นว่าเจ้าจักละเสียนั้น ผู้ข้าทังหลายจักขอลาเมือ(กลับ)เสียก่อนแล หลอนบ่ละ(หากไม่ปล่อยมือ/เลิกลา) เราก็จักพากันไล่(ตามเนื้อทรายคำ)ไปแถมชะแล
ที่นั้นเจ้าสุวรรณคำแดงราชบุตรก็ถามว่า สูท่านทังหลาย ยังได้หัน(เห็น)ทรายคำตัวเก่านั้นชา อามาตรย์ทังหลายจิ่งไหว้สาว่า ลางวันก็หัน ลางวันก็บ่หันแล ในที่สุดเจ้าพระยาเสนาอามาตย์ริพลโยธาทังมวล ทังเจ้าและข้า ก็จิ่ง(พา)เอากันเสด็จยาตราต่อไป และตกลงกันว่า เราทังหลายจักหนีเสีย(จาก)กัน และจักละกันบ่ได้ (ปล่อยมือจากงานนี้ไม่ได้) เหตุว่าอาชญาพระยาเจ้าตนพ่อ หากแต่งหื้อ(ได้มีคำสั่งให้)เราทังหลายมาแล แล้วเขาก็ชวนกันออกจากตีนดอยที่นั้นไปตามตวยรอยทรายคำตัวนั้นไป
ความต่อไปในในตำนานเชียงใหม่ปางเดิม เป็นการเล่านิทานซ้อนนิทาน ดังนี้
...อ่าน...Read...
2006-09-18 | ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับบ้านเมือง (10) posted by a_somjai | ตำนาน, ลัวะ, เมือง, เหนือ, ล้านนา, เชียงใหม่, ดอยสุเทพ, ดอยลัวะ, ถ้ำ, ดอยอ่างสรง, สุวรรณคำแดง, เจ้าหลวง, คำแดง, นางอินเหลา, อารักษ์, เชนเมือง, ผีบรรพบุรุษ.
สร้างป่าให้เป็นเมือง สร้างเรื่องให้เป็น ลัวะ (1)
นโม ตัสสัตถุ ศรีสวัสดี ทีนี้จักกล่าวยังตำนานโบราณปฐมมูลโคตรเค้าแห่งเมืองพิงค์เชียงใหม่ อีกตำนานหนึ่ง
ตำนานนิทานกถาสำนวนนี้ a_somjai เข้าใจเอาเองว่า เป็นตำนานที่ยึดเค้าเรื่องนิทานดั้งเดิมของชนพื้นถิ่นที่เรารู้จักกันในชื่อว่า "ลัวะ"
"ลัวะ" "คนลัวะ" "ชาวลัวะ" "ชนเผ่าลัวะ" มีประวัติการตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้มาก่อนยุคราชวงศ์มังรายสร้างเมืองและปกครองอาณาจักรล้านนาเชียงใหม่ (หรือจะว่าเป็นกลุ่มชนพื้นเดิมกลุ่มสำคัญกลุ่มหนึ่งที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในภูมิภาคล้านนาและล้านช้าง มาก่อนหน้าคนกลุ่มวัฒนธรรมภาษาไท-ลาวจะเข้ามามีอำนาจเหนือดินแดนแห่งนี้ ก็ได้)
เพราะนิทานเบิกเรื่องเล่าก็พุ่งเป้าไปที่--- ดอยลัวะ, ดอยอ้อยช้างและ/หรือคือ ดอยสุเทพ อันเป็นศรีของเมืองพิงค์เชียงใหม่ โดยไม่ย้อนอดีตให้มากความ
โบราณอาจารย์ (กลุ่มรักษ์ลัวะ) เล่าไว้ในนิทานสำนวนนี้ว่า-
....อ่าน...READ...
2006-09-17 | ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับบ้านเมือง (9) posted by a_somjai | ตำนาน, เมือง, เหนือ, ล้านนา, เชียงลาว, ยางเงิน, เงินยาง, ลวจังกราช, จอมผาเรือง, เจือง, ขุนเจือง, ชนเผ่า, ระบบรัฐ, บ้านเมือง, ข้าฅน, ไพร่ไท, ยาง, ไม้ยาง, ป่ายาง, บ้านยาง, หมู่ยาง.
สร้าง ยาง หื้อเปนเมือง
บ้านเมืองในตำนานราชวงศ์ลาวยุคต้น จับเอาช่วงตั้งแต่สมัยพระญาลวจักราชจนถึงสมัยพระญาจอมผาเรือง (รัชกาลที่ ๑๘ ตามตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ว่าเป็นพ่อของพระญาเจืองหรือขุนเจือง)
ตอนเริ่มต้นเรื่องเล่า มีความที่กล่าวถึงการจัดการให้กลุ่มบ้านเรือนแบบชนเผ่า เข้ามาสู่ระบบรัฐหรือบ้านเมืองอยู่ ดังนี้ --- พระญาลวจังกราช ตนพ่อ จิ่งหื้อสร้างบ้าน อัน ๑ กว้างขวางนัก หื้อลูกผู้พี่ชื่อว่าลาวครอบอยู่ ได้ชื่อว่าบ้านถ้ำ พ้อยสร้างบ้านอัน ๑ หื้อผู้กลางชื่อลาวช้างอยู่ ได้ชื่อว่าบ้านคา ซ้ำหื้อสร้างบ้านอัน ๑ ที่ใกล้ผาเลา กว้างขวางควรสนุกถูกเนื้อเพิงใจนัก หื้อลาวเกล้าแก้วมาเมือง ผู้เปนน้องซ้อย(น้องสุดท้อง)อยู่ ได้ชื่อว่าบ้านผาเลา พระญาตนพ่อก็แบ่งเข้าของเงินฅำ(ข้าวของเงินทอง) ช้าง ม้า ข้าฅน ไพร่ไท แก่ลูกตนทัง ๓ เสมอกันชู่(ทุก)ประการ คุ้มบ้านทังมวลก็มีมาในเมืองเชียงลาว ที่นั้นแล
เมื่อตำนานลำดับมาถึง--- ลาวเคียง (รัชกาลที่ ๙ กินเมืองเชียงลาว) เจ้าตนนี้ใจกว้างขวางนัก แต่งบ้านแปลงเมืองฉลาดนัก มีวัน ๑ เจ้าไปแอ่วดูประเทศบ้านเมืองป่ายางทังหลาย (เห็นว่า บ้านยางเสี้ยว)อันนั้นมีที่ใกล้แม่สาย เปนที่จำเริญใจนัก จิ่งหื้อสร้างเวียงตั้งบ้านเมืองที่นั้น เอานิมิตต์ไม้สรีเผือกดั่งเงินตั้งอยู่กลาง (จึงให้ชื่อเมืองว่า) ยางเงิน
ถึงตรงนี้ผมมีข้อสังเกตสามประการครับ
....อ่าน...READ....
2006-09-15 | ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับบ้านเมือง (8) posted by a_somjai | ตำนาน, เมือง, เหนือ, ล้านนา, เชียงลาว, ยางเงิน, เงินยาง, ลวจังกราช.
แรกสร้างความเจริญแก่เมืองเชียงลาว
หากจะขุดคุ้ยพูดคุยกันถึงเรื่อง เมืองใหญ่ในล้านนาไท ในมุมมอง 'เมืองโบราณ ในขอบเขตเนื้อหาวิชาการทางโบราณคดี ทางประวัติศาสตร์ และทางข้อมูลความรู้ที่ท่านผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ได้ศึกษาค้นคว้ามาเสนอไว้ร่วมยุคสมัยแล้ว ก็คงมีเรื่องพูดกันได้ไม่รู้จักจบสิ้นและที่สำคัญคือไม่อาจหาข้อยุติได้
ด้วยเหตุนี้เองตำนานต่าง ๆ จึงจะต้องคลี่คลายขยายออกไปไม่รู้จบรู้สิ้นและไม่อาจหาข้อยุติได้อีกในกาลต่อ ๆ ไปเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่นว่า เมืองชื่อเชียงลาวนี้มีอยู่จริง ๆ หรือไม่? ถ้าเคยมีอยู่จริง แล้วเมืองนี้ชื่อเมืองเชียงลาวจริง ๆ หรือไม่? เพราะว่าใน(เอกสาร)ตำนานบางแห่งเรียก เมืองยางเงิน และแปรมาเรียก เมืองเงินยาง ก็มี ดังนั้นยังอาจตั้งคำถามต่อไปได้อีกว่าเมืองยางเงินกับเมืองเงินยางเป็นเมืองเดียวกัน ทั้งในแง่การเรียกชื่อและในแง่ที่ตั้งของเมือง? เป้นต้น
เมื่อลำดับเหตุการณ์ห่างจากยุคปฐมราชวงศ์ลาว ถัด ๆ มาแล้วก็ยิ่งยุ่งครับ รับรองว่ายุ่งแน่ ๆ เพราะฉะนั้นทางที่ดีก็คือเราต้องเชื่อว่า ตำนานเป็นความจริงในปัจจุบัน ขณะที่เราเสพอ่านมันก็พอแล้ว,
แต่อย่างไรก็ดี เพื่อทำให้งานเล่าตำนานของเราดูเข้มขลังเอาจังอาจริง เราก็ต้องนำเอาบทเรียนความรู้ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีมาใช้อยู่ดี;
...อ่าน...Read...
2006-09-13 | ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับบ้านเมือง (7) posted by a_somjai | ตำนาน, เมือง, เหนือ, ล้านนา, เชียงลาว, ยางเงิน, ลวจังกราช , ปู่เจ้าลาวจก, เชียงใหม่
เสียงเงียบจากเมืองเชียงลาว
ถึงเมืองเชียงใหม่
กำลังนี้ผมจะบอกท่านว่า
หากมองตำนานว่าเป็นเรื่องเล่าที่สร้างขึ้นด้วยการปรุงแต่งผ่านรูปแบบของภาษาและการบรรยายแล้ว ตำนานในระดับนี้จึงเป็นนิทานอันหมายถึงเรื่องโกหก ไม่ควรคิดอะไรให้มากไปกว่าการเสพเพื่อความบันเทิง
แต่ทว่าหากยกระดับตำนานขึ้นสู่ระดับความจริงเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงด้วยคำพูดหรือถ้อยคำแล้ว ความจริงเชิงสัญลักษณ์ที่ตำนานต้องการบอกนั้นก็คือ --- ความเงียบที่อยู่เบื้องหลังคำพูด
ตำนานจึงต้องเป็นความจริงในปัจจุบัน ณ กาลเทศะที่เราเสพสื่อสารกับมันเสมอไป
...อ่าน...Read....
2006-09-12 | ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับบ้านเมือง (6) ปฐมวงศาพระญาลาวมาจากไหน? posted by a_somjai | ตำนาน, เมือง, เหนือ, ล้านนา, เมืองเชียงลาว, เมืองยางเงิน, จุลศักราช, พุทธศักราช, โหราศักราช, รัชศักราช, ราชวงศ์ลาว, ลวจักราช , ปู่เจ้าลาวจก
ปฐมวงศาพระญาลาวมาจากไหน?
พระญาอนุรุทธธัมมิกราชะ(แห่งอาณาจักรพุกาม)ตนนั้น ตั้งสกราชใหม่(จุลศักราช)ตัว ๑ ไปในวันนั้นแล้ว ในขณะยามนั้น (พระองค์) เรียกหายังมหากระสัตร (กษัตริย์) แลท้าวพระญาทั้งมวล หื้อ(ให้)เข้ามาพร้อมในราชสำนักแห่งตน
ปรากฏว่าท้าวพระญามหากษัตริย์เมืองอื่นก็เข้าไปเฝ้าพร้อมเสี้ยง (หมดสิ้น) แต่ 'เมืองล้านนาไท นั้นหาใผเป็นตัวแทนท้าวพระญามหากษัตริย์จักไปพร้อมบ่ได้ เหตุว่าบ่มีมหากระสัตร นั้นแล
ถึงตรงนี้ ขอเรียนย้ำไว้ ณ ที่นี้ว่า วัตถุประสงค์ของการแต่งเรื่องและเนื้อเรื่องในตำนานล้านนานั้น ตั้งอยู่บนฐานคิดเรื่อง เมืองอันเป็นที่ตั้งวรศาสนาและพระธรรมราชา ตำนานจึงบอกเราว่าเมื่อปีจุลศักราช ๑ ซึ่งตรงกับปีพุทธศักราช ๑๑๘๒ (= 1181 + 1) นั้น
(๑) มีกลุ่มเมืองล้านนาไทแล้วในปี พ.ศ. ๑๑๘๒ (ส่วนจะมีมาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ ก็แล้วแต่ท่านผู้ฟังนิทานตำนานจะลองวินิจฉัยกันดูนะครับ
(๒) ยังไม่มีพระญาธัมมิกราช (พระยาธรรมิกราช) ผู้เป็นใหญ่กว่าท้าวพระญามหากษัตริย์ในเมืองทั้งหลายในล้านนาไท และ
(๓) ยังไม่มีพระญาธัมมิกราชพระองค์ใด เป็นใหญ่เหนือกลุ่มเมืองที่ตำนานเรียกว่า เมืองล้านนาไท
แต่เมื่อกลับไปพิจารณาความในตำนานที่เล่าไว้ใน ตอนที่ ๑ ว่า "กล่าวสำหรับตำนานท้าวพระญาและเมืองในล้านนาตามที่เล่าไว้ใน ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ โดยลำดับนั้น เป็นเรื่องราวของปฐมกษัตริย์เมืองล้านนาไท เมื่อปีเริ่มนับจุลศักราช (ลวจักราช ลวจังกราช หรือ ลาวจก เกิด จ.ศ. ๑ ตาย จ.ศ. ๑๒๐ ตรงกับ พ.ศ. ๑๑๘๑ - ๑๓๐๑) ถึงบัดนี้คือ เรื่องสมัยพระเจ้าเชียงใหม่ เชื้อเจ้าเจ็ดตน จ.ศ. ๑๑๘๙ (พ.ศ. ๒๓๗๐ __เกณฑ์ตัวเลขสำหรับลบบวกจุลศักราชกับพุทธศักราชคือ 1181)" แล้วละก็อาจวินิจฉัยได้ว่า
(๔) ท่านผู้แต่งตำนานเมืองเขียงใหม่ สำนวนล้านนา ซึ่งเราอาจคิดเอาได้ว่าเป็นตัวแทนผู้นำและปัญญาชนล้านนาสมัยที่แต่งตำนานนี้ ไม่ได้ถือว่า ยุคสมัยของราชวงศ์จามเทวีครองเมืองละพูนหรือนครหิริปุญไชยรวมอยู่ในเมืองกลุ่มเดียวกันหรือกล่มอำนาจเดียวกันกับกล่มเมืองล้านนาไท เพราะแคว้นหริปุญไชยอยู่คนละเขตแคว้นกับอำนาจเมืองล้านนาไทภายใต้ปกครองราชวงศ์ลาวของลวจกราชแห่งเวียงเชียงลาวยางเงิน (?)
....อ่าน....READ...
2006-09-11 | ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับบ้านเมือง (5) posted by a_somjai | ตำนาน, เมือง, เหนือ, ล้านนา, ศักราช, จุลศักราช, พุทธศักราช, มหาศักราช, โหราศักราช, รัชศักราช.
การเทียบศักราชโบราณ (2) ลำดับเวลาในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่
ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่บอกเราว่า
ก.) ลูกนางจามเทวีคือพระญามหันตยสกินเมืองละพูนในยุคสมัยเดียวกับพระญาพันธุมัตติธัมมิกราชะเป็นใหญกว่าราชาแห่งเมืองทั้งหลายในลังกาทวีป โดยเทียบจากเกณฑ์ปี พ.ศ. ๕๖๐
ข.) มีการลบศักราชเก่าแล้วตั้งศักราชขึ้นมานับ ๑ กันใหม่อีกมหาปางสมัยแล้ว และดังนั้น
ค.) เมื่อเพิ่มจำนวนนับปีช่วงสมัยพุทธกาลเข้าไปอีก ๕๖๐ ปี รวมกับเวลาต่อด้วยจำนวนนับปีตามพันธุมัตติสกราช ก็จึงจะได้เป็นปีพุทธศักราช ดังจะแสดงให้เห็นต่อไป
...อ่าน...Read...
2006-09-09 | ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับบ้านเมือง (4) posted by a_somjai | ตำนาน, เมือง, เหนือ, ล้านนา, ศักราช, สักกราช, พุทธศักราช |
โปรดเตรียมเทียบเวลาในตำนาน (1)
ส่วนนักเลงตำนานด้วยกัน (อย่างข้าพเจ้าผู้เขียนบล็อก Blog aroung the Bog) ต่างรู้ดีในความจริง ๒ เรื่องครับ
ประการแรก เราต้องเชื่อว่าเรื่องราวในตำนานเป็นความจริงในปัจจุบัน(เพราะเรากำลังอ่าน ฟังเรื่องราวของมันอยู่) แต่อาจไม่ใข่เรื่องราวความจริงในอดีต
ดังนั้นเมื่อเราศึกษาตำนาน อ้างถึงตำนาน เล่าตำนาน ฟังตำนาน วิเคราะห์ ออกความเห็นที่เกี่ยวข้องกับตำนานแล้วละก็ เราจะต้องตั้งข้อสงสัยพร้อมกันไปด้วยว่าตำนานก็คือนิทานโกหกเราดี ๆ นี้เอง
และประการที่สองนั้น เรา(ต้อง)ตระหนัก(ไว้ให้)ดีว่า ใครก็ตามที่พยามยามอ้างอิงเหตุการณ์ในตำนานเพื่อสร้างความน่าเชื่ออถือได้ทางประวัติศาสตร์ขึ้นมา โดยผูกลำดับท้องเรื่องไว้กับความเที่ยงตรงของลำดับเวลาแล้วละก็ นักเลงตำนานผู้นั้นจะตกอยู่ในวังวนที่พระยาประชากิจกรจักร์ผู้แต่งหนังสือพงศาวดารโยนก พบมาก่อนหน้านี้แล้ว และท่านก็ไม่อาจแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ได้
...อ่าน...Read..
2006-09-07 ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับ บ้านเมือง (3) posted by a_somjai | | ตำนาน, เมือง, เหนือ, ล้านนา |
จากสิทธัตถโพธิสัตว์ถึงอโศกธรรมิกราช
ตั้งแต่เจ้าชาลี(โอรสพระเวสสันดร)ลำดับมาเถิงเจ้าสิทธัตถะ ได้ ๔ แสนปลาย ๓ ตนราชวงส์ทังเจ้าสิทธัตถะแล (มีพระญากินเมืองกบิลพัสดุ์รวมทั้งพระเจ้าสิทธัตถะด้วยได้สี่แสนกับสามชั่วคน/รัชกาล)
"นับแต่พระญาสมันตราชะ(พระชาติแรกที่พระพุทธโคตมะเจ้าแห่งเรายังสร้างโพธิสมพารเป็นพระญากินเมืองพาราณสี เมื่อปฐมราชวงส์) ลำดับมาเถิงเจ้าสิทธัตถะราชะ(กินเมืองกบิลพัสดุ์)ได้ ๖๗๖๒๘๐ ตนแล
เราจะมาว่าต่อกันด้วยข้อสังเกต ที่เก็บความจากตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่กันดังนี้
กลุ่มเจ้าเมืองและกลุ่มเมืองในชมพูทวีปเมื่อยุคก่อนพุทธกาลต่อมาจนถึงยุคพุทธกาล แบ่งตามช่วงเวลาได้เป็นสองรุ่น ดังนี้
(ก) รุ่นแรกนับแต่พระญาสมันตราชะ สืบเชื้อสายญาติวงศ์พระญาสายเลือดเดียวกันกินเมืองต่าง ๆ ได้แก่ พาราณสี ราชคหะ มิถิลา และกุสาวัตติ โดยมีเมืองพาราณสีเป็นใหญ่เหนือเมืองอื่น ๆ (ข) ต่อมามีสายสากยราชะแยกตัวออกมาตั้งราชวงส์และตั้งเมืองใหม่เป็นศูนย์อำนาจใหม่ มีเมืองกบิลพัสดุ์เป็นใหญ่เหนือเมืองอื่นที่มีกล่าวถึงในตำนานนี้คือเทวทหนคร
ข้อสังเกตทั้งสองนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ตอกย้ำแบบแผนความชอบธรรมแห่งการสืบสายและลำดับ กลุ่มพระญาเจ้าเมืองเชื้อสายเดียวกัน ที่กินเมืองในกลุ่มวงศ์วานเดียวกัน ทั้งสิ้น, หรือใครว่าไม่ใช่?
.....อ่าน....
2006-09-06 ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับ บ้านเมือง (2) posted by a_somjai | | ตำนานเมืองเหนือ
ปฐมราชวงศ์และลำดับแห่งผู้ปกครองบ้านเมืองชาวพุทธ
หิ ด้วยมีแท้แล ในเมื่อพระพุทธเจ้ากัสสัปปะปรินิพพานไปแล้ว ในละแวกหว่างนั้นพระพุทธโคตมะเจ้าแห่งเรายังสร้างโพธิสมพาร ได้มาเปนพระญาเสวยราชสัมปัตติในเมืองพาราณสี ประกอบด้วยบุญ ปัญญา กายะ พละ รูปสัมปัตติ อิสริยปุริสลักขณะ ยิ่งกว่าฅนทังหลายฝูงอื่น ปรากฎชื่อว่าพระญามหาสมันตราชะมีอายุยืนได้อสงขัยปลี (ปลี=ปี)
บทเปิดเรื่องในพื้นนครนิทานกถาของโบราณาจารย์ข้างต้นนี้ สั้น กระชับ จับใจความสำคัญ ฟังดูจริงจัง ขรึมขลังศักดิ์สิทธิ์ น่าเชื่อถือและเลื่อมใสสัทธา เพียงใด ท่านผู้อ่านก็ลองอ่านออกเสียงช้า ๆ ด้วยสำเนียงคำเมืองพื้นถิ่นล้านนาดูนะครับ สำหรับผมขอทำหน้าที่เสนอความเห็นไว้ตามลีลาการเล่านิทานไว้ดังนี้
(๑) ลำดับความสืบเนื่องในประวัติศาสตร์ของชาวพุทธนั้น มีต่อสายเนื่องกันมาอ้างได้ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรณ์อันยังกำหนดมิได้แห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายโพ้น อ้างกันแค่พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งเคยมีมาในกัปกัลป์ต่าง ๆ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่อ้างเอา ยุคละแวกระหว่างพระพุทธเจ้าพระองค์แรก คือ พระพุทธเจ้ากัสสัปปะ ปรินิพพาน
(๒) อ้างการสร้างโพธิสมพารคือ
....อ่าน....
2006-09-05 ตำนานเมืองใหญ่ในล้านนา ฉบับ บ้านเมือง (01) posted by a_somjai | 2006-09-05 | ตำนานเมืองเหนือ
A_Somjai ในฐานะ blogger นำงานเขียนเก่า ๆ (เขียนไว้ประมาณปี 2545 หรือ ปี ค.ศ. 2002) ชุดตำนานล้านนา มาโพสต์ไว้ในช่วงที่มีภารกิจอื่น เพื่อทำให้ Blog Around The Blog ไม่ว่างจาก blog, blogging ... blog! blog! แฮะ ๆ..
นิทานชุดที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องเล่าที่มีเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ศูนย์กลางอำนาจของอาณาจักรล้านนา ผู้เล่าอาศัยเนื้อความสำนวนล้านนา ที่ปริวรรตเป็นอักษรไทยกลาง และพิมพ์เผยแพร่แล้ว จากหนังสือ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ ๗๐๐ ปี เป็นหลัก นอกจากนั้นก็จะใช้เอกสารอื่นที่เห็นว่าเกี่ยวข้องมาใช้ประกอบด้วยบ้างตามที่ผู้เล่าเห็นว่าจำเป็นและพอจะหยิบฉวยเอามาใช้ได้ถูกกาลเทศะ
ดังว่า โสธโว ดูราโสตุชนสัปปุริสะเจ้าทังหลาย อาจารย์เจ้าตนจักแปลงนิทานสุภกถาจารีตอดีตลำดับราชวังสราชาท้าวพระญา อันเสวยราชสมบัติในนพปุรีสรีพิงชัยเชียงใหม่อันเป็นใหญ่ ในล้านนา ๕๗ เมือง ตั้งแต่ลวจังกราชะเจ้ามาตราบเถิงเจ้าพระญามังราย ด้วยลำดับต่อเท้าเถิงกาละบัดนี้
...อ่าน...
Create Date : 05 กันยายน 2549 |
Last Update : 19 กันยายน 2549 15:55:31 น. |
|
5 comments
|
Counter : 540 Pageviews. |
|
|
|
Thank you for writing a comment on my Vaspers the Grate blog. Your Thai script (written language) is very beautiful and alient to my English words.
I have Vietnamese friends, and I love your food. Hot Thai sauce.