Group Blog
 
All blogs
 
ประวัติพระอนุรุทธะ



พระอนุรุทธเถระ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นสุขุมาลชาติ เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นคฤหัสถ์อยู่นั้น ท่านคือเจ้าชายผู้องอาจสง่างาม แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นพระอนุชาของพระเจ้ามหานามะ เป็นราชโอรสของพระเจ้าสุกโกทนะ และเป็นพระญาติผู้มีศักดิ์เป็นอนุชาของพระบรมศาสดา

..ความพรั่งพร้อมบริบูรณ์ในทุกสิ่ง ทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลได้บังเกิดขึ้นแก่ท่าน แม้กระทั่งสถานที่ประทับ พระบิดาก็ให้เจ้าชายประทับอยู่ในปราสาท 3 หลัง เพื่อประทับพักผ่อนในแต่ละฤดู ทั้งยังมีเหล่าสนมนางรำคอยแวดล้อมบำรุงบำเรออยู่ตลอดเวลา (มก. ล.32 น.312)

เจ้าชายอนุรุทธะเป็นผู้มีบุญมาก แม้กระทั่งคำว่า ไม่มี พระองค์ก็ไม่เคยรู้จักเลยดังมีเรื่องเล่าว่า


ในครั้งที่เจ้าชายอนุรุทธะยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น วันหนึ่งเจ้าชายทั้งหลายต่างก็ชักชวนกันเล่นขลุบ โดยตกลงกันว่า หากใครแพ้ ผู้นั้นต้องนำขนมมาเป็นค่าเสียพนันเมื่อเล่นตาแรก เจ้าชายอนุรุทธะก็เป็นฝ่ายแพ้ พระองค์จึงให้คนไปกราบทูลพระมารดาเพื่อขอขนม พระมารดาก็ทรงให้คนบรรจุขนมใส่ในถาดทองจนเต็ม แล้วทรงให้บุรุษส่งขนมมา

..เมื่อได้ขนมแล้ว เจ้าชายอนุรุทธะก็ทรงเล่นอีก แม้ตาที่สองก็ทรงเสียพนันอีก เจ้าชายก็ให้คนไปทูลขอขนมจากพระมารดาอีก เป็นอยู่เช่นนี้จนกระทั่งขนมที่พระมารดามีอยู่นั้นหมดลง พระมารดาจึงให้คนมาทูลเจ้าชายว่า บัดนี้ ขนมไม่มีแล้ว

ฝ่ายเจ้าชายอนุรุทธะ พระองค์ไม่เคยรู้จักคำว่าไม่มีมาก่อนเลย พระองค์ทรงเข้าใจว่า ขนมไม่มีนั้น เป็นชื่อขนมประเภทหนึ่ง จึงทรงบอกคนรับใช้ให้ไปกราบทูลพระมารดาว่า

ขอพระมารดาจงให้ขนมไม่มีนั้นแก่หม่อมฉันด้วยเถิด

ฝ่ายพระมารดาสดับคำของเจ้าชายแล้ว ก็ทรงดำริว่า

บุตรของเรานั้นเป็นผู้มีบุญมาก เขาไม่เคยได้ยินคำว่าไม่มีมาก่อน บัดนี้ เราจะสอนเขาให้รู้จักกับคำว่าไม่มี

จากนั้นพระนางก็ทรงใช้ถาดทองคำที่ว่างเปล่า ปิดด้วยถาดทองอีกใบหนึ่งแล้วจึงให้คนส่งไปให้พระโอรส

....ในขณะที่คนรับใช้กำลังถือถาดเปล่าเพื่อจะนำไปถวายแด่เจ้าชายนั้นเอง เหล่าเทพยดาผู้รักษาพระนคร ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็เกิดความเดือดร้อนขึ้น เพราะทราบว่า ในครั้งอดีตเจ้าชายอนุรุทธะเคยสร้างบุญแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ตนอย่าได้พบกับคำว่าไม่มีเลย เพราะเหตุนี้เอง มาในปัจจุบันชาตินี้เจ้าชายจึงไม่รู้จักกับคำว่าไม่มีเลย

ด้วยอำนาจบุญของเจ้าชาย เทพยดาจึงไม่อาจเพิกเฉยได้ ได้เนรมิตขนมอันเป็นทิพย์ไว้เต็มถาดทองคำครั้นเมื่อคนรับใช้นำถาดมาวางไว้ เบื้องหน้าของเจ้าชายแล้วเปิดออกเท่านั้น กลิ่นขนมทิพย์ก็หอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งพระนคร

ครั้นเจ้าชายอนุรุทธะเสวยขนมแล้ว รสอร่อยของขนมก็แผ่ซ่านไปสู่ประสาทรับรสทั้ง 7 พัน เจ้าชายทุกๆพระองค์ก็เช่นกันได้เสวยขนมนั้นอย่างเอร็ดอร่อยส่วนเจ้าชายอนุรุทธะเอง ทรงกลับนึกน้อยพระทัยขึ้นว่า

เมื่อก่อนนี้ พระมารดาของเรา คงจะไม่รักเราเลยกระมังถึงไม่ยอมส่งขนมรสอร่อยถึงปานนี้มาให้แก่เราเลย

จึงเสด็จไปตัดพ้อต่อว่าพระมารดา ฝ่ายพระมารดาก็ยิ่งอัศจรรย์ในบุญของพระโอรสยิ่งขึ้นไป นับแต่นั้นเป็นต้นมา เจ้าชายอนุรุทธะก็ไม่ยอมเสวยขนมอย่างอื่นเลย ปรารถนาจะเสวยแต่ขนมไม่มีเพียงชนิดเดียวเท่านั้น และเมื่อเจ้าชายร้องขอจะเสวยขนมไม่มีครั้งใด พระมารดาจะต้องส่งถาดทองคำเปล่า ครอบด้วยถาดอีกใบไปให้ทุกครั้ง และเหล่าเทวดาก็จะเนรมิตขนมทิพย์ใส่ในถาดทุกครั้งเช่นกัน

ooooooooooooooooooooooooooooo

เหตุที่เจ้าชายอนุรุทธะเป็นผู้มีบุญมาก แม้กระทั่งคำว่าไม่มีก็ไม่รู้จักนั้น เพราะเหตุแห่งการสั่งสมบุญในครั้งอดีต คือในระหว่างพุทธันดรที่ผ่านมา ภายหลังจากศาสนาของพระกัสสปะพุทธเจ้าได้เสื่อมไปแล้ว มีเพียงพระปัจเจกพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้นเพื่อเป็นเนื้อนาบุญ

ครั้งนั้นเจ้าชายอนุรุทธะได้เกิดเป็นชายยากจนเข็ญใจอาศัยอยู่ในนครพาราณสี มีชื่อว่า อันนภาระ แต่ละวันเขาและภรรยาต้องทำงานรับจ้างท่านสุมนเศรษฐีเพื่อแลกกับอาหารพอประทังชีวิตไปวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้านามว่า อุปริฏฐะ ท่านได้ออกจากนิโรธสมาบัติที่เจริญมาแล้ว 7 วันแล้วดำริว่าทั่วทั้งภพสามนี้ บุคคลใดหนอจะเป็นผู้มีบุญลาภควรที่ท่านควรจะไปโปรด ท่านได้มองเห็นชายหนุ่มอันนภาระเข้ามาในข่ายพระญาณ ท่านมองเห็นว่าขณะนี้ชายหนุ่มกำลังหาบหญ้าเดินทางกลับมาจากดงท่านจึงถือบาตรและจีวรแล้วมาด้วยฤทธิ์ มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าของชายหนุ่มในทันที

ฝ่ายชายหนุ่มเมื่อมองเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใส ได้เรียนถามพระปัจเจกพุทธเจ้าว่า ท่านได้รับภิกษาหารมาแล้วหรือยัง เมื่อรู้ว่ายังไม่ได้รับ เขารีบวางหาบของตนลง แล้วรีบกลับไปสู่เรือนเพื่อถามภรรยาว่า วันนี้มีอาหารหรือไม่ เมื่อรู้ว่าอาหารนั้นมีอยู่ เขาดีใจอย่างยิ่ง รีบวิ่งกลับมาขอบาตรเปล่าจากพระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วนำกลับไปให้ภรรยาใส่อาหารในส่วนของตนจนเต็มบาตรแล้วนำกลับมาถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า พร้อมตั้งจิตอธิษฐานว่า

ด้วยบุญในครั้งนี้ ขอความเป็นผู้ขัดสนยากจน อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลย ขึ้นชื่อว่า ไม่มี จงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลยตลอดไปทุกภพทุกชาติ

บุญที่อันนภาระได้ทำในวันนี้ มีผลที่ยิ่งใหญ่ จนกระทั่งเทวดาผู้สิงสถิตอยู่ในฉัตรของสุมนเศรษฐี ได้กล่าวสาธุการขึ้นถึง 3 ครั้ง ทำให้สุมนเศรษฐีเกิดความสงสัย ครั้นทราบว่าเทวดาได้กล่าวสาธุการเพราะปรารภเหตุการทำทานของอันนภาระแล้ว เศรษฐีก็เกิดความเลื่อมใส ได้ขอมีส่วนในบุญกับเขาด้วย พร้อมกับมอบทรัพย์ 1พันกหาปณะเพื่อบูชาคุณของเขา แม้อันนภาระจะกล่าวปฏิเสธไม่รับเงินนั้น แต่ท่านเศรษฐีก็ยังยืนยันจะมอบให้ พร้อมกับบอกอีกว่า

นับแต่นี้ไป เจ้าและภรรยาไม่ต้องทำการงานอีกแล้ว และจงปลูกเรือนในที่ดินผืนโน้น แล้วหากปรารถนาของสิ่งใดในเรือนของเรา ก็จงถือเอาได้ตามต้องการทุกอย่าง

ด้วยบุญที่อันนภาระทำในครั้งนี้ ยังส่งผลแบบทับทวียิ่งขึ้นภายในวันนั้นทีเดียว เมื่อท่านสุมนเศรษฐีได้ไปเข้าเฝ้าพระราชา และได้พาชายหนุ่มไปด้วย ด้วยบุญของเขาทำให้พระราชาทรงสนพระทัยทอดพระเนตรแต่เขาเพียงผู้เดียว และเมื่อได้ทราบถึงการถวายทานของเขาแล้ว พระราชาก็ทรงเลื่อมใสได้พระราชทานทรัพย์ 1 พันกหาปณะให้แก่เขาเช่นกัน

ในขณะนั้นเอง ที่เรือนที่กำลังสร้างใหม่ของอันนะภาระก็ได้มีเหตุอัศจรรย์บังเกิดขึ้น เมื่อคนทั้งหลาย ขุดดินแผ้วถางหญ้า ก็ได้พบขุมทรัพย์ผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ดเต็มทั่วบริเวณบ้านของชายหนุ่ม

ราชบุรุษจึงนำข่าวมากราบทูลพระราชา พระองค์ทรงให้ราชบุรุษนำขุมทรัพย์ทั้งหมดมากองรวมกันที่พระลานหลวงเพื่อให้มหาชนได้เห็น แล้วจึงแต่งตั้งให้อันนภาระเป็นเศรษฐีประจำพระนครพร้อมทั้งมอบฉัตรประจำตำแหน่งให้กับเขาภายในวันนั้นเอง ตั้งแต่นั้นมาชายหนุ่มได้กลายเป็นมหาเศรษฐี ได้สั่งสมบุญกุศลทุกอย่างจนตลอดชีวิต ครั้นละโลกแล้วก็ได้ไปบังเกิดในสวรรค์

เขาเวียนว่ายอยู่เพียง 2 ภพภูมิคือมนุษย์และชาวสวรรค์ กระทั่งมาถึงกาลสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราองค์ปัจจุบัน ชายหนุ่มนั้นจึงได้มาบังเกิดในราชนิเวศน์ของเจ้าศากยะในนครกบิลพัสตร์ กลายเป็นเจ้าชายผู้ทรงสุขุมาลชาติยิ่ง คำว่าไม่มีไม่เคยเกิดขึ้นกับพระองค์เลย ครั้นเมื่อออกบวชแล้ว ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านมีดวงตาอันเป็นทิพย์ จนได้รับการยกย่องจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราให้เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งปวงในด้านมีทิพยจักษุ

ท่านผู้อ่านทุกท่านคะ เมื่อได้ศึกษาถึงเรื่องราวบุพกรรมของพระอนุรุทธะเถระแล้ว กว่าที่ท่านจะกลายมาเป็นเจ้าชายผู้พรั่งพร้อมในทุกสิ่งในปัจจุบัน เป็นผู้มีบุญมากจนกระทั่งคำว่า ไม่มีก็ไม่รู้จักนั้น ท่านก็คืออดีตชายยากจนแต่ร่ำรวยน้ำใจ เพราะได้สลัดความตระหนี่ให้หลุดล่อนถวายภัตตาหารที่ตนเองจะต้องรับประทานในวันนั้น แม้ว่าจะหิวโหยเพียงใด เพราะต้องตรากตรำทำงานหนัก แต่ท่านก็ไม่ได้นึกถึง คิดเอาบุญก่อน ด้วยการถวายภัตตาหารในส่วนของตนทั้งหมดแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าไป พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานกำกับว่า ขออย่าได้รู้จักกับคำว่าไม่มีอีกเลย เพราะเหตุแห่งการทำทานที่ถูกหลักวิชาถูกเนื้อนาบุญนี่เอง ความอัศจรรย์จึงบังเกิดขึ้น บุญส่งผลแบบปัจจุบันทันด่วน ทำให้ท่านกลายเป็นมหาเศรษฐีภายในวันเดียวเท่านั้น

ไม่เพียงเท่านั้น บุญยังส่งผลให้คำอธิษฐานในครั้งนั้นสัมฤทธิ์ผลอีกด้วย ทำให้ท่านไม่เคยรู้จักกับคำว่ายากจน และคำว่าไม่มีอีกเลย

oooooooooooooooooooooooooooooo

คัดลอกจาก antique.exteen.com

เนื้อเรื่องจาก DMC Channel
Reference Link : //www.dmc.tv




Create Date : 18 กันยายน 2552
Last Update : 18 กันยายน 2552 11:18:56 น. 1 comments
Counter : 445 Pageviews.

 


โดย: ก้าวไปตามใจฝัน วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:13:21:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Erec Rex
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Erec Rex's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.