|
ผูกเสี่ยว : วัฒนธรรมแห่งความรัก
มนุษย์ไม่สามารถอยู่บนโลกอย่างโดดเดี่ยวตามลำพังได้ อย่างน้อยที่สุดเมื่อเป็นทารกมนุษย์ย่อมต้องการผู้ที่เลี้ยงดูให้มีชีวิตรอดต่อไปได้ แม้กระทั่งเข้าโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ทุกชีวิตรอบตัวเรา สิ่งต่าง ๆ รอบตัวก็มีความเกี่ยวข้อง บ้านที่เราอยู่คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามี อิฐ หิน ปูน ทราย แรงงาน คนงาน ผู้คุมการก่อสร้าง คนขาย พ่อแม่ของแรงงานเหล่านั้น ป่าไม้ ดิน ดวงอาทิตย์ โลก น้ำ พ่อแม่ของเราเอง บรรพบุรุษของเรา กษัตริย์ไทย ชาวต่างชาติ ฯลฯ
หากเปรียบชีวิตเป็นเช่นต้นมะม่วงต้นใหญ่ที่มีอายุหลายล้านปี เราก็เปรียบเสมือนผลของต้นมะม่วงผลเล็ก ๆ ซึ่งต้นมะม่วงนี้ย่อมเกิดจากผลมะม่วงผลก่อน เรียกได้ว่า มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างเป็นข่ายโยงใย ไม่จำเพาะแต่เพียงตัวเราเองกับครอบครัวเรา หรือจำกัดความเกี่ยวเนื่องอยู่แต่เพียงตนเองเท่านั้น ในความเข้าใจในเรื่องแห่งความเกี่ยวเนื่องเกื้อกูลกันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เช่นนี้ ได้มีบรรพบุรุษชาวไทยอีสานได้ริเริ่มให้มีพิธีผูกเสี่ยวขึ้น
พิธีผูกเสี่ยวเป็นผลแห่งภูมิปัญญาตะวันออกที่มองเห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ กับมนุษย์ ในอันที่จะส่งเสริมและก่อให้เกิดความรักระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งฐานนี้อยู่บนการมองเห็นความเชื่อมโยงกันของสรรพชีวิตของคนโบราณที่ส่งเสริมให้เกิดพิธีผูกเสี่ยว การมองอย่างเชื่อมโยงว่าสรรพชีวิตมีความเกื้อกูลกันนี้เป็นภูมิปัญญาที่ทำให้มนุษย์รู้จักนอบน้อมต่อโลก ต่อธรรมชาติ และต่อสิ่งรอบตัว ด้วยความเข้าใจว่า ทุกชีวิตมีส่วนก่อให้เกิดชีวิตเราขึ้นมา ทุกชีวิตมีหน้าที่ของตน การผูกเสี่ยวซึ่งเป็นพิธีกรรมของชาวอีสานได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน เป็นตัวแทนแห่งการแสดงความเข้าใจความเป็นเหตุ-ปัจจัยของกันและกันของมนุษย์ ที่จะนำพาคนที่ไม่ใช่ญาติกัน มาเกี่ยวดองกันให้มีความสัมพันธ์ดังญาติ เมื่อญาติพี่น้องของเสี่ยวทั้งสองลงความเห็นว่า คู่เสี่ยวซึ่งหมายความว่า เป็นเพื่อนแท้ เพื่อนสนิท เพื่อนตายกัน นั้นมีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกัน หน้าตารูปร่างคล้ายคลึงกัน และมีความยินดีจะเป็นเสียวกัน ก็ให้จัดพิธีผูกเสี่ยวขึ้น เพื่อให้ทั้งสองเป็น เสี่ยว กัน ส่งเสริมให้มิตรภาพของทั้งสองแนบแน่นขึ้น
แม้ว่าปัจจุบัน พิธีผูกเสี่ยวอาจจะไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และอาจจะถูกนำมาใช้ส่งเสริมในเชิงธุรกิจ แต่สาระแห่งพิธีกรรมผูกเสี่ยวนั้นยังคงแฝงไว้ด้วยภูมิปัญญาอันงดงามแห่งชาวไทย อีสาน วิธีการผูกเสี่ยวของชาวไทยอีสานไม่มีแบบตายตัว อาจจะเริ่มต้นจากวิธีง่ายที่สุด คือเมื่อเพื่อนทั้งสองมีความตั้งใจจริงต่อกัน มีความถูกอกถูกใจกัน หรือมีจิตใจตรงกันทั้งสองฝ่ายเพื่อนทั้งสองสามารถทำความตกลงกันด้วยวาจาหรือแสดงออกถึงเจตนาที่จะเป็นเสี่ยวกันได้ พิธีกรรมในการผูกเสี่ยวอาจจะจัดให้มีขึ้นในหลายรูปแบบ เช่น ให้มีฝ้ายผูกแขนคนทั้งสอง มือถือข้าวปั้น ไข่หน่วย กล้วยลูกแล้วแบ่งกันกิน หรืออาจจัดให้มีพิธีสู่ขวัญ กล่าวคำสาบาน หรือรับประทานอาหารเป็นการแสดงความยินดีด้วยก็ได้
สัมพันธภาพที่เกิดจากการเป็นเสี่ยวนั้น เป็นสัมพันธภาพที่งดงามและยั่งยืน ในบางจังหวะแห่งชีวิตที่คู่เสี่ยวคนหนึ่งอาจประสบปัญหา หรือมีความทุกข์ เสี่ยว ซึ่งถือเป็นกัลยาณมิตรมีส่วนช่วยมิตรให้หลุดออกจากความทุกข์นั้น หรือช่วยให้คลายทุกข์ในขณะนั้น ๆ ไปได้ ในยามสะดวกสบายก็เกื้อกูลกัน ถือเป็นภาพแห่งมิตรภาพที่งดงามซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจโลกและชีวิตของชาวไทยอีสานโบราณ ซึ่งความเข้าใจโลกและชีวิตนี้เป็นพื้นฐานแห่งวิชาจิตวิทยารวมไปถึงศาสตร์และศิลป์ต่าง ๆ ในโลก รวมทั้งยังเป็นหลักพื้นฐานแห่งนักจิตวิทยาที่จะช่วยนำพาผู้ที่ต้องการการเยียวยาทางใจ ให้ได้รับการเยียวยาให้เกิดการเจริญงอกงามทางจิตใจของแต่ละบุคคล
----------------------------------------------------------- บทความนี้นำเสนอในงานจุฬาวิชาการ 23-27 พ.ย.48
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2548 |
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2548 23:13:03 น. |
|
12 comments
|
Counter : 770 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เด็กชายก้อง วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:2:58:56 น. |
|
|
|
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:7:13:10 น. |
|
|
|
โดย: ชอบไดเธอจัง IP: 61.91.212.83 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:41:13 น. |
|
|
|
โดย: จิงสิจ๊ะ (jingsija ) วันที่: 7 ธันวาคม 2548 เวลา:20:36:43 น. |
|
|
|
โดย: oishijung IP: 203.113.61.201 วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:7:08:27 น. |
|
|
|
โดย: IceIcy (lcelcy ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:33:23 น. |
|
|
|
โดย: เด็กหญิงแพง IP: 58.8.246.105 วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:17:01:01 น. |
|
|
|
| |
|
|