I AM LEGEND, ตำนานบทบีบน้ำตา

I AM LEGEND
หนังเรื่องนี้เป็นหนังดราม่า ไม่ใช่หนังแอ๊คชั่น

ก่อนอื่นต้องขออนุญาตกล่าวโทษชื่อไทยของหนังเรื่องนี้ก่อนเลยครับ ....ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ โอโห้ เอาไปตั้งชื่อให้เรื่อง Warlord ดีกว่ามั้งเนี่ย คือก่อนหน้านี้ผมก็พอจะทราบเนื้อหาของเรื่องนี้มาคร่าวๆครับ ว่าเป็นเรื่องของมนุษย์คนสุดท้ายที่อยู่บนโลกซึ่งคนอื่นๆติดเชื้อไวรัส กลายเป็นผีดิบไปหมดแล้ว เขาจะเอาชีวิตรอดยังไงในโลกแบบนี้

ด้วยจินตนาการอันบรรเจิดของผมเอง ทำให้ผมตีความหนังเรื่องนี้ดังนี้
- พระเอกแมร่งต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ ถึงเหลืออยู่คนสุดท้าย
- พระเอกแมร่งคงคล้ายๆ Blade ที่ต้องออกมาสู้กับผีดิบ
- พระเอกแมร่งต้องเป็นตำนานสมชื่อเรื่องแน่ๆ ประมาณตำนานมนุษย์ผู้สู้ผีดิบ

เมื่อบวกกับชื่อไทย ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ และตัวอย่างหนังที่เห็นแว้บๆเหมือนกับ "พระเอกกับผีดิบกำลังคุยกัน" ทำให้ผมคิดไว้ว่า โห เดี๋ยวพระเอกมันคงเสี่ยงตายเข้าไปในรังผีดิบเพื่อเจรจาขออยู่อย่างสงบสุขแน่ๆ

ทั้งที่จริงๆแล้ว หนังเรื่องนี้ไม่มีผีดิบในแบบแฟนตาซีครับ เรื่องนี้เป็นวิทยาศาสตร์ล้วนๆเลยต่างหาก

หนังบอกเล่าถึง เนวิลล์ ลองบัตท่อม...เอ้ยม่ายช่าย หนังเล่าถึงโรเบิร์ต เนวิลล์ มนุษย์คนสุดท้ายในนิวยอร์ค ซึ่งรอดจากไวรัสสังหารผู้คนมาได้อย่างไรไม่ทราบ (หนังจะบอกเอง) เขาจึงต้องเอาชีวิตรอดในเมืองที่ผู้คนกลายเป็นปิศาจร้ายกระหายเลือด พร้อมทั้งหาวิธีแก้เชื้อไวรัสนี้ให้ได้

ผมสังเกตว่ตัวหนังไม่ได้เน้นรายละเอียดพวกไวรัส หรือผีดิบมากเท่าไหร่ แต่จะเน้นไปที่การเอาชีวิตรอดและสภาพจิตใจของตัวเอกมากกว่า ซึ่งจุดนี้เป็นส่วนที่ผมชอบมากๆ คือหนังแนวๆนี้ส่วนใหญ่ (เป็นต้นว่า ตระกูล Dead ของโรเมโร หรือพวก 28 Days Later) ถ้าไม่เน้นที่ความโหดร้ายของผีดิบ ก็จะเน้นสภาพจิตใจของคนที่มาอยู่ร่วมกัน แต่เรื่องนี้กลับเสนอให้เห้นสภาพจิตใจของตัวละครที่ต้องอยู่คนเดียว

ลองนึกดูเล่นๆ ถ้าเราอยู่คนเดียว (อ้อ กับหมาหนึ่งตัว) ถึงสามปี จะเป้นยังไง ...ไม่ต้องสามปีก็ได้ คิดเล่นๆแค่สามอาทิตย์ ไม่ได้คุยกับใครเลย ไม่มีอินเตอร์เน้ตเล่น (เพราะไม่รู้จะเล่นกับใคร) วันๆกินข้าว เอาปืนยิงสัตว์เล่น ตีกอล์ฟ เราจะทนได้หรือไม่

ในหนังเราจึงเห็นการกระทำที่น่าสนใจ (และบางครั้งดูตลก) หลายอย่างของพระเอก เช่นการคุยกับหุ่นโชว์เหมือนเป็นคนจริงๆ (พูดก็พูดเถอะ ไอ้หุ่นในหนังนี่หน้าตามันหลอนมากๆ ถ้ามันพูดได้ขึ้นมาผมคงวิ่งล่ะครับ หะหะ) การที่พระเอกไม่รู้จะทตัวยังไงเมื่อเจอคนจริงๆคนอื่น นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ความพยายามที่จะ "รักษา" (Cure) ไม่ใช่ "ทำลาย" (Extinct) ที่พระเอกทุ่มเทตัวเองหายาที่จะช่วยให้พวกผีดิบกลับคืนเป็นคนได้ ไม่ใช่แค่เอาตัวรอดไปวันๆ นั่นทำให้เขาเหมาะที่จะได้ชื่อว่า เป็นตำนาน สมชื่อเรื่องจริงๆ

โดยรวมแล้ว อย่าคิดว่าหนังเป็นแบบแอ๊คชั่น ยิงผีดิบกระจายนะครับ คิดซะว่ามาดูหนังดราม่า ไซไฟ สักเรื่องดีกว่า มีฉากบีบน้ำตาอยู่หลายฉาก ฉากลุ้นระทึกก็ทำได้ดีจนหายใจไม่ทั่วท้องก็บ่อย ข้อเสียอาจจะเป็นเรื่องของการเล่าเรื่องที่ดูรวบรัดไปนิดนึง (หลายคนจึงยังอาจสงสัย ไวรัสมันมายังไงไปยังไง แล้วอาหารที่เก้บไว้สามปีมันไม่บูดเหรอ ฯลฯ) รวมทั้ง CG พวกผีดิบและเอฟเฟคต์ต่างๆที่ยังไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ พอจะจับผิดได้ (แต่จริงๆผมว่ามันก็ยอดแล้วนะ) เอาเป้นว่าผมอยากให้ท่านดูเรื่องของอารมณ์ความเหงาและการมีชีวิตของตัวละครมากกว่าที่จะไปสนใจรายละเอียดปลีกย่อยนะครับ (อารมณ์คงคล้ายๆกับพวก Lost in Translation ที่ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรเล่าเท่าไหร่ สื่ออารมณ์มากกว่า)

สรุป เป็นหนังน่าดูอีกเรื่องในช่วงสัปดาห์ครับ ก่อนจะรอพบแบบเลือดๆ บู๊ๆ เต็มๆใน AVP ปลายเดือน โฮะๆๆๆ
ให้ 7.5/10 ครับ

ปล. ต่อไปนี้เป็นฉากที่ผมชอบและประทับใจมาก มีสปอยล์นะครับ





1.ฉากพระเอกฆ่าหมาตัวเอง สังเกตว่าพระเอกไม่ได้มองหน้าน้องหมา และกล้องก็ไม่ได้ถ่ายให้เห็น ลองคิดภาพสิครับ ต่อจากนี้พระเอกจะต้องอยู่กับอารมณ์ที่ว่า "ชั้นฆ่าหมาตายคามือ" ไม่แปลกใจเลยที่ต่อจากนั้นพระเอกจะไปล้างแค้น

2.ฉากพระเอกเค้นให้หุ่นพูดกับเขา ทั้งฉากคุยกับเฟรดที่ถนน (ตอนพระเอกถามว่า "ถ้าแกเป็นคนล่ะตอบหน่อย" ลึกๆแล้วพระเอกก็ยังหวังให้หุ่นพวกนั้นคุยกับเขาได้สินะ) และฉากที่ไปคุยกับหุ่นหญิงชุดดำ ที่พระเอกพูดทั้งน้ำตาว่า "ตอบหน่อยสิ พูดทักทายหน่อยสิ" คือผมว่าหุ่นมันหลอนๆอยู่แล้ว ถ้าพูดขึ้นมาผมคงวิ่ง แต่พระเอกคงจะโคตรดีใจ จะเป้นผีหุ่นก็่ช่าง มาคุยกับกรูก็พอ

3.คำพูดในวิทยุ "คุณไม่ได้อยู่คนเดียว" ในหนัง....ผมฟังแล้วน้ำตาแทบไหลเลย เพราะฟังแล้วผมมักจะต่อให้ว่า "แต่ผมอยู่คนเดียว" ทุกทีเลย ลึกๆแล้วมันอาจไม่ใช่คำพูดให้ผู้รับสาร แต่เป็นคำพูดปลอบใจพระเอกต่างหาก(ว่าชั้นไม่ได้อยู่คนเดียวนะ)

4.ฉากระเบิดพลีชีพ ชอบหน้าพระเอกมาก โคตรเท่อ่ะ เห็นหลายคนบอกไม่ชอบให้พระเอกตาย แต่ผมว่ามันเป็นอะไรที่ถูกต้องแล้วล่ะครับ อยู่คนเดียวมาสามปี จนคิดวัคซีนได้สำเร็จ ชีวิตนี้คุ้มค่าแล้วครับสำหรับการเป็นตำนาน

น่าเสียดายที่ผมไม่ค่อยได้สังเกตสัญลักษณ์ผีเสื้อในหนัง บางทีอาจต้องกลับไปดูอีกสักรอบ หะหะ


Create Date : 16 ธันวาคม 2550
Last Update : 16 ธันวาคม 2550 12:18:30 น. 1 comments
Counter : 548 Pageviews.

 
วิจารณ์ได้ใจมากๆ ชอบอ่ะ ชอบโคตะระเลยหนังเรื่องนี้
แต่ไปดูช้าไปนิด(เมื่อวาน)
ยินดีที่ได้รู้จักนะ


โดย: sunshine (klint77 ) วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:16:22:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

CARAGIO
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด
คนฉลาดตกเป็นทาสของคนแกล้งโง่
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add CARAGIO's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.