~ ~ + + + + + The only thing necessary for the triumph of evil is for good men to do nothing + + + + + ~ ~
 
ซินเจียอยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้...ไหว้เจ้ารับโชคปีฉลู

เครดิต : //www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9520000008314

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

วันตรุษจีนถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ที่ชาวจีนให้ความสำคัญที่สุดในรอบปี เพราะเป็นการก้าวย่างเข้าสู่ปีใหม่เพื่อชีวิตใหม่ ซึ่งจะต้องมีประเพณีไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ที่ยึดถือกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

พิธีกรรมการไหว้ตามประเพณีของคนจีนนั้นจะทำกันอย่างยิ่งใหญ่หลายวัน โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 มกราคม 2552 เป็นวันไหว้ส่งเทพเจ้ากลับสวรรค์ ของสำคัญในการไหว้ได้แก่ ขนมแป้งข้าวเหนียวพร้อมกับน้ำตาลทรายแดง วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2552 เป็นวันจับจ่ายซื้อของเตรียมไหว้เจ้า

พอขึ้นวันที่ 25 มกราคม หรือวันสิ้นปีของคนจีนจะมีการจัดเครื่องไหว้ โดยทั่วไป ชาวจีนนิยมจัดของไหว้แบ่งเป็น เนื้อสัตว์ห้าชนิด(โหงวแซ)หรือสามชนิด(ซาแซ) ผลไม้(ห้าหรือสามชนิด) ขนมหวาน(ห้าหรือสามชนิด) กับข้าวคาว กับข้าวเจ สุรา น้ำชา ข้าวสวย และกระดาษเงินกระดาษทองประเภทต่างๆ (แยกเป็นของเทพเจ้า กับ วิญญาณ) ทั้งหมดทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับฐานะ ความพร้อมทางการเงิน สำคัญว่า ไหว้จ้าวแล้ว อย่าให้ตนและครอบครัว ต้องเดือดร้อนก็แล้วกัน

การไหว้นั้นจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเช้า จากนั้นจึงตั้งเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และหลังเที่ยงเป็นต้นไปบางบ้านอาจจะไหว้วิญญาณไร้ญาติ สัมภเวสีทั้งหลาย เป็นการทำบุญทำทานส่งท้ายปีเก่า

การปฏิบัติอีกประการหนึ่งที่ชาวจีนนิยมมากเกี่ยวกับการขอให้บังเกิดลาภผลกับตนเอง ด้วยการบูชากราบไหว้ขอพรจากเทพจ้าวท่านหนึ่ง คือ “เทพจ้าวแห่งความมั่งคั่ง”หรือ “เทพจ้าวแห่งโชคลาภ” ที่ชาวจีนเรียกท่านว่า “ไฉสิงเอี๊ย”หรือ “ไฉเสิน-เอี๊ย”



“เทพจ้าวแห่งโชคลาภ”ในประวัติตำนานของจีน มีจำนวนมากมายหลายท่าน แบ่งออกเป็นยุคสมัย ตามสมัยของราชวงศ์ต่างๆ แล้วแต่ประชาชนและกษัตริย์ในยุคสมัยต่างๆจะสถาปนาขึ้นมาเป็นความภาคภูมิของตนเอง แต่เทพจ้าวแห่งโชคลาภที่ได้รับการกล่าวขานถึงและนิยมมากที่สุด เห็นจะเทพจ้าวแห่งโชคลาภที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ “โจว”โบราณ ประกอบด้วย เทพแห่งโชคลาภภาคขุนนางเสนาบดี หรือเทพแห่งโชคลาภฝ่ายบุ๋นและอีกท่านหนึ่งคือ เทพแห่งโชคลาภภาคนักรบ หรือเทพแห่งโชคลาภฝ่ายบู๋ กล่าวคือเทพแห่งโชคลาภฝ่ายบุ๋น มีชื่อว่า “ผี่กาน”เป็นเสนาบดีที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยมาก มีอุปนิสัยชอบแจกเงินทองของมีค่าแก่ชาวบ้านทั่วไป ไม่เลือกคนร่ำรวย ยากดีมีจน คนดีหรือคนเลว ชอบแจกปันชนิดไม่เลือกหน้าไม่เลือกชั้นวรรณะ

ภาพลักษณ์ของเทพแห่งโชคลาภฝ่ายบุ๋น “ผี่กาน” มักจะสวมอาภรณ์ชุดสีแดง สวมหมวกเสนาบดีที่มีปีกสองข้าง หน้าตาอิ่มเอิบไร้ทุกข์ ยิ้มแย้ม หัวร่อ นิสัยออกจะเพี้ยนๆบ้าง มือถือเงินทองกองใหญ่ มีเด็กเล็กเป็นบริวารวิ่งตามอย่างร่าเริงจำนวนมากมาย ส่วนเทพแห่งโชคลาภฝ่ายบู๋ มีชื่อว่า “เจ้ากงหมิง”เป็นนายพลที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก สำเร็จวิชาไสยเวทย์ ยุทธศาสตร์บนเทือกเขา“ง๊อไบ๊”หรือ “เอ๋อเหมย” มีเสือสมิงเป็นพาหนะและเป็นบริวาร ที่ได้มาจากคราวที่ปราบปีศาจเสือสมิงมากฤทธ์ที่มาคอยกัดกินทำร้ายชาวบ้าน เป็นนายพลที่มีอำนาจบารมีมาก หน้าตาขมึงทึง ไว้หนวดแข็งบาน สวมชุดนายทหารเต็มยศ มือหนึ่งถือกระบองวิเศษสามารถปราบปีศาจร้ายได้ อีกมือหนึ่งถือถังเงินถังทองวิเศษ ที่ได้รับจาก เทพปรมาจารย์ชื่อ“เจียงไถ้กง” หรือ “เจียงจื่อหยา”ภายในเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดาของมีค่า ที่หยิบออกมาได้ไม่รู้จักหมดสิ้น กิริยาบทจะยืนบนหลังเสือหรือขี่เสือสมิงที่เป็นบริวาร เป็นคู่ขับเคี่ยวแข่งขันบารมีของ “ผี่กาน”มาตลอด ทั้งสองท่านเกิดในยุคสมัยเดียวกัน ประชาชนส่วนมากนิยมเทพแห่งโชคลาภฝ่ายบู๋มากกว่า เพราะนอกจากมีความมั่งคั่งแล้วยังมีอำนาจมากมหาศาลด้วย จึงเชื่อว่า เมื่อกราบไหว้บูชาท่าน จะส่งผลให้บังเกิดทั้งความร่ำรวยและมีอำนาจบารมีพร้อมกันไปด้วย

ชาวจีนจะนิยมมากในการขอพรแห่งโชคลาภในวันขึ้นปีใหม่ หรือวันตรุษจีน เพราะถือว่าเป็นวันแห่งการริเริ่มในสิ่งที่เป็นมงคลเป็นสิ่งดีงาม แต่ขบวนการและบทบาทการขอพรก็จะต้องมีขั้นตอนที่ละเอียดซับซ้อนตามไปด้วย ด้วยความเชื่อที่ว่า เทพแห่งโชคลาภจะโคจรอยู่เสมอไม่หยุดนิ่งที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานานๆ เพราะจะต้องสัญจรไปแจกปันความมั่งคั่งความสุขตามที่ท่านเคยได้ตั้งปฏิปทาไว้ ในเทศกาลวันตรุษจีน ช่วงเวลาแรกสุด(ยี่สิบสามนาฬิกาของเวลาสากล ชาวจีนถือเป็นเวลาที่หนึ่งหรือยามแรกของวันใหม่แล้ว)ของวันแรกของเดือนแรกของปี ชาวจีนเรียกว่าแทบทุกบ้าน จะต้องขะมักเขม้นที่จะเตรียมการจัดของ อาหารชั้นเลิศทั้งอาหารเจ ของคาว ของหวาน ผลไม้ชื่อมงคลรวมกันหลายสิบชนิด พร้อมกระดาษเงินกระดาษทอง ทองคำแท้แท้ เพชรนิลจินดา(ที่ว่านี้เป็นเฉพาะครอบครัวที่มีอันจะกินมากๆเท่านั้น)เสื้อผ้าสีสวยงามที่ดีที่สุดมาจัด เพื่อถวายไหว้แก่เทพจ้าวแห่งโชคลาภ


การจัดข้าวของบนโต๊ะจะจัดอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบ เรียงตามลำดับความสำคัญ ตามชนิดของอาหาร แยกประเภทอย่างพิถีพิถัน อาหารแต่ละชนิดจะมีเสียงเรียกพ้องกับเสียงของคำมงคลทั้งสิ้น แม้สัตว์ต่างๆบนโต๊ะบูชาก็จะมีความหมายเป็นมงคลทั้งหมด ผลไม้ที่ขาดไม่ได้คือ “ส้มมหามงคล”สีทองที่ชาวจีนเรียกว่า “ส้มไต่กิก”เพราะมีความหมายหมายถึงความสวัสดีมงคลอย่างยิ่ง

การไหว้เทพแห่งโชคลาภในคืนวันสุดท้ายคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาแรกสุดของวันใหม่ปีใหม่ถือเป็นประเพณีสำคัญหลักทั่วไปอย่างขาดมิได้ และนิยมไหว้กันโดยเฉพาะสถานที่ ที่เน้นเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อการพักผ่อน เช่น บ้าน ร้านค้า

นอกจากการจัดอย่างพิถีพิถันมีความหมายแล้ว ยังมีความเชื่อในเรื่องของการเลือกเวลาไหว้ให้เหมาะกับบุคคลที่มีปีเกิดแตกต่างกันออกไปอีกด้วย เช่นการไหว้เทพแห่งโชคลาภสำหรับสถานที่ที่เป็นร้านค้า ที่ประกอบการธุรกิจ ถือว่าเทพแห่งโชคลาภเป็นเทพที่สำคัญมากสำหรับผู้ทำมาค้าขาย การไหว้บูชาประเภทนี้จะดูฤกษ์งามยามดีของแต่ละบุคคล ว่าวันและเวลานั้นเป็นมงคลกับตนหรือไม่ วันและเวลานั้นเป็นโทษกับตนหรือไม่ จะพยายามเลือกวันที่เป็นประโยชน์มากที่สุด เพื่อใช้เป็นฤกษ์ในการเปิดร้านค้าหรือทำกิจการธุรกิจเป็นวันแรกในปีนั้นๆ โดยอาจเลือกเปิดกิจการพอเป็นพิธีตามฤกษ์ที่ดี แล้วปิดร้านเพื่อไปพักผ่อนหรือท่องเที่ยวจนเห็นสมควรหรือเหมาะสมสะดวกแก่สถานการณ์แล้วจึงดำเนินกิจการจริงจัง
หรือเลือกที่จะใช้ฤกษ์ที่ดีในการเปิดร้านธุรกิจเป็นวันแรกแล้วดำเนินการต่อเนื่องไปเลยตามแต่สมควรของแต่ละกิจการแต่ละบุคคล อีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ การไหว้ให้ถูกต้องตามทิศของแต่ละวัน เพราะมีความเชื่อว่า เทพแห่งโชคลาภจะสัญจรเปลี่ยนตำแหน่งไปตลอดเวลา การจัดโต๊ะเพื่อทำการบูชาเทพจึงต้องพิจารณาทิศทางที่เทพสถิตย์อยู่ให้ถูกต้องด้วยเช่นกัน เรียกว่าไหว้ให้ถูกเวลา(ฤกษ์ดี) ไหว้ให้ถูกสถานที่(ชัยภูมิดี) ไหว้ให้เหมาะกับบุคคล(นักษัตรปีเกิดดี) และยังไหว้ให้ถูกขั้นตอนประเพณีอีกด้วย(ขบวนการ วิธีการดี)

สำหรับปีนี้การไหว้ไฉซิ่งเอี้ยช่วงเวลาที่ดีที่สุดอยู่ระหว่าง 03.00 -05.00 น. ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ 26 มกราคม

ข้อมูล : อ.วิศิษฏ์ เตชะเกษม



Create Date : 24 มกราคม 2552
Last Update : 24 มกราคม 2552 8:47:05 น. 0 comments
Counter : 2977 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Ekanat
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add Ekanat's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com