Group Blog
 
All blogs
 
อุพพิริเถรี พระเถรีผู้สำเร็จอรหันต์ก่อนบวช

อุพพิริเถรีเกิดในตระกูลคฤหบดีมหาศาล กรุงสาวัตถี ได้นามว่า อุพพิริ เป็นหญิงมีรูปงามน่าทัศนาน่าเลื่อมใส ท่านได้เป็นมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล มีบุตรชื่อว่า ชีวา แต่ต้องมาเสียเมื่อยังเล็ก แต่ด้วยบารมีที่สั่งสมไว้ในอดีต

ได้มาพบพระพุทธเจ้าได้ฟังธรรมบรรลุอรหันต์ ทั้งที่ยังเป็นคฤหัสถ์อยู่ ภายหลัง ออกบวชบำเพ็ญกรรมฐานวิปัสสนาสำเร็จวิชชา ๓ เชิญอ่านกันครับ

ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ เกิดในเรือนแห่งตระกูลในพระนครหงสวดี เมื่อรู้ความแล้ว วันหนึ่งเมื่อบิดามารดาไปเรือนอื่นเพื่อร่วมงานมงคล ตนเองไม่มีเพื่อนถูกละไว้ในเรือน ในเวลาใกล้ภิกขาจารแล้ว เห็นพระเถระขีณาสพองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เดินเข้ามาใกล้ประตูเรือน ประสงค์จะถวายภิกษาจึงกล่าวว่า นิมนต์ท่านเข้ามาในที่นี้เจ้าข้า เมื่อพระเถระเข้าเรือนแล้ว ไหว้พระเถระด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ได้ปูลาดอาสนะด้วยพรมที่ทำด้วยขนแกะเป็นต้นถวาย พระเถระนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ นางรับบาตรใส่บิณฑบาตจนเต็มแล้ววางในมือพระเถระ พระเถระอนุโมทนาแล้วหลีกไป ด้วยบุญกรรมนั้น นางเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เสวยทิพย์สมบัติโอฬารในดาวดึงส์นั้นจนตลอดอายุ จุติจากดาวดึงส์นั้นท่องเที่ยวอยู่ในสุคตภูมิทั้งหลายเท่านั้น

ในพุทธุปปาทกาลนี้ เกิดในตระกูลคฤหบดีมหาศาล กรุงสาวัตถี ได้นามว่า อุพพิริ เป็นหญิงมีรูปงามน่าทัศนาน่าเลื่อมใส เมื่อเจริญวัยแล้ว นางถูกนำไปสู่พระตำหนักส่วนพระองค์ของพระเจ้าโกศล ล่วงไป ๒-๓ ปี ได้ธิดาคนหนึ่ง ญาติพี่น้องทั้งหลายไปตั้งชื่อธิดานั้นว่า ชีวา พระเจ้าโกศลทอดพระเนตรเห็นธิดาของนาง ทรงมีพระทัยยินดีได้พระราชทานอภิเษกด้วยแผ่นดินมีพืชอุดม แต่ธิดาของนางได้ตายเสีย ในเวลาที่เที่ยววิ่งไปวิ่งมาได้มารดาไปป่าช้าที่เขาเอาร่างของธิดาไปทิ้ง คร่ำครวญอยู่ทุกวัน

วันหนึ่ง นางไปเฝ้าพระศาสดาถวายบังคมแล้ว นั่งอยู่หน่อยหนึ่ง ก็ไปยืนที่ฝั่งแม่น้ำอจิรวดีคร่ำครวญถึงลูก พระศาสดาทรงเห็นดังนั้น ประทับนั่งในพระคันธกุฏีอย่างเดิมนั่นเอง แสดงพระองค์ตรัสถามว่า เธอบ่นเพ้อเพราะเหตุไร? นางกราบทูลว่า บ่นเพ้อถึงลูกสาวของข้าพระองค์พระเจ้าข้า พระศาสดาตรัสว่า ที่ป่าช้านี้เขาเผาลูกสาวของเธอประมาณ ๘๔,๐๐๐ คน บรรดาลูกสาวเหล่านั้น เธอบ่นเพ้อถึงคนไหน? ดังนี้แล้ว ทรงแสดงที่เผาศพของลูกสาวเหล่านั้น ตรงนั้น ๆ แล้วตรัสพระคาถาครึ่งว่า แน่ะอุพพิริ เธอคร่ำครวญอยู่ในป่าว่า ลูกชีวาเอ๋ย เธอจงรู้จักตน ธิดาของเธอที่มีชื่อว่าชีวา ทั้งหมดมีประมาณ ๘๔,๐๐๐ คน ถูกเผาอยู่ในป่าช้านี้บรรดาธิดาเหล่านั้น เธอเศร้าโศกถึงธิดาคนไหน?

นางส่งญาณไปตามกระแสพระเทศนาปรารภวิปัสสนา ด้วยความไพเราะแห่งเทศนาของพระศาสดา และด้วยความสมบูรณ์แห่งเหตุของตน(บารมีในอดีตชาติ) นางยืนอยู่อย่างนั้นแหละขวนขวายวิปัสสนา ตั้งอยู่ในพระอรหัต ซึ่งเป็นผลเลิศตามลำดับมรรคเพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวได้ในอปทานว่า

ผลแห่งอาสนะผืนเดียว

ในกาลนั้น ข้าพเจ้าเป็นช่างกรองดอกไม้อยู่ในพระนครหังสวดี บิดามารดาของข้าพเจ้าท่านไปทำงาน ข้าพเจ้าได้เห็นพระสมณะกำลังเดินไปตามถนนในเวลาเที่ยงวัน ข้าพเจ้าได้ปูลาดอาสนะไว้ ครั้นปูลาดอาสนะด้วยผ้าที่ทำด้วยขนแกะอันวิจิตรเป็นต้นแล้วมีจิตเสื่อมใส ดีใจ ได้กล่าวคำนี้ว่า ภูมิภาคร้อนแรง แก่กล้าเวลาเที่ยงวัน ลมก็ไม่พัด และเวลานี้ก็จวนจะเลยเวลาแล้ว ข้าแต่พระมหามุนี อาสนะนี้ดิฉันปูลาดถวายแด่ท่าน ขอท่านได้โปรดอนุเคราะห์นั่งบนอาสนะของดิฉันเถิด

พระสมณะผู้ฝึกตนดีแล้ว มีใจบริสุทธิ์ ได้นั่งบนอาสนะนั้น ข้าพเจ้ารับบาตรของท่านแล้ว ได้ถวายบิณฑบาตตามที่หุงต้มไว้ เพราะกรรมที่ทำไว้ดีนั้นและเพราะความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ข้าพเจ้าละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ วิมานที่บุญกรรมสร้างไว้ให้ข้าพเจ้านั้นสวยงาม สูง ๖๐ โยชน์ กว้าง๓๐ โยชน์ ได้สร้างขึ้นอย่างดีเพราะการถวายอาสนะ บัลลังก์ของข้าพเจ้ามีหลายอย่าง ต่าง ๆ ชนิด สำเร็จ ด้วยทองก็มี ด้วยแก้วมณีก็มี ด้วยแก้วผลึกก็มี ด้วยแก้วปัทมราคก็มี บัลลังก์ของข้าพเจ้าปูลาดด้วยนวมก็มี ด้วยผ้าลาดอันวิจิตรด้วยรูปราชสีห์และเสือโคร่งเป็นต้นก็มี ด้วยผ้าลาดทอด้วยไหม ประดับแก้วอันวิจิตรก็มี ด้วยเครื่องลาดมีขนสัตว์ข้างบนด้านเดียวก็มี เมื่อใดข้าพเจ้าต้องการจะเดินทาง เมื่อนั้นข้าพเจ้าเพรียบพร้อมด้วยการรื่นเริงสนุกสนานไปยังที่ที่ข้าพเจ้าปรารถนา พร้อมด้วยบัลลังก์อันประเสริฐ

ข้าพเจ้าได้เป็นมเหสีของเทวราช ๘๐ องค์ เป็นมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ ๗๐ องค์ เมื่อข้าพเจ้ายังท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ ได้โภคะมากมาย ข้าพเจ้าไม่บกพร่องโภคะเลย นี้เป็นผลแห่งอาสนะผืนเดียว ข้าพเจ้าท่องเที่ยวไปแต่ในสองภพ คือเทวโลกและมนุษยโลกภพอื่น ๆ ข้าพเจ้าไม่รู้จัก นี้เป็นผลแห่งอาสนะผืนเดียว ข้าพเจ้าเกิดแต่ในสองตระกูล คือตระกูลกษัตริย์และตระกูลพราหมณ์ ข้าพเจ้าเกิดในตระกูลสูงทุก ๆ ภพ นี้เป็นผลแห่งอาสนะผืนเดียว ความโทมนัสที่ทำจิตของข้าพเจ้าให้เร่าร้อน ข้าพเจ้าไม่รู้จัก ความเป็นผู้ไม่มีวรรณะ ข้าพเจ้าก็ไม่รู้จัก นี้เป็นผลแห่งอาสนะผืนเดียว พี่เลี้ยงนางนมต่างก็บำรุงข้าพเจ้า หญิงค่อมและเด็กรับใช้มีมาก ข้าพเจ้าจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง นี้เป็นผลแห่งอาสนะผืนเดียว พี่เลี้ยงนางนมพวกหนึ่งให้ข้าพเจ้าอาบน้ำ พวกหนึ่งให้รับประทานข้าว พวกหนึ่งประดับตกแต่ข้าพเจ้า พวกหนึ่งคอยทำให้ข้าพเจ้ายินดีทุกเมื่อ พวกหนึ่งไล้ทาของหอมนี้เป็นผลแห่งอาสนะผืนเดียว เมื่อข้าพเจ้าอยู่ในมณฑปก็ตาม ที่โคนไม้ก็ตาม ในเรือนว่างก็ตาม บัลลังก์ดังจะรู้ความดำริของข้าพเจ้า ย่อมปรากฎขึ้น นี้เป็นอัตภาพสุดท้ายของข้าพเจ้า ภพหลังกำลังเป็นไป

แม้วันนี้ข้าพเจ้าก็ได้สละราชาสมบัติบวชเป็นบรรพชิตในแสนกัปแต่ภัทรกัปนี้ ข้าพเจ้าได้ให้ทานใดในกาลนั้น ด้วยทานนั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จักทุคติ นี้เป็นผลแห่งอาสนะผืนเดียว ข้าพเจ้าเผากิเลสแล้ว ถอนภพทั้งหลายขึ้นหมดแล้ว

ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันเหมือนช้างพังตัดเชือก เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ การมาเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐของข้าพเจ้า เป็ฯการมาดีแล้วหนอ ข้าพเจ้าบรรลุวิชชา ๓ แล้ว ได้ปฏิบัติคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว คุณวิเศษเหล่านี้คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว. ครั้นตั้งอยู่ในพระอรหัตแล้ว เมื่อประกาศคุณวิเศษที่ตนบรรลุ ได้กล่าวสองคาถาเหล่านี้ว่า ลูกศรคือความโศกที่เห็นได้ยาก เสียบอยู่แล้วในหทัยของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ถอนขึ้นได้แล้ว ข้าพระองค์บรรเทาความเศร้าโศกถึงธิดาของข้าพระองค์ผู้ถูกความโศกครอบงำได้แล้ว วันนี้ข้าพระองค์ถอนลูกศรคือความโศกขึ้นแล้ว หมดความอยาก ดับรอบแล้ว ข้าพระองค์เข้าถึงแล้วซึ่งพระพุทธเจ้าผู้เป็นนักปราชญ์ กับทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ



Create Date : 22 สิงหาคม 2551
Last Update : 22 สิงหาคม 2551 20:17:00 น. 0 comments
Counter : 290 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ebusiness
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







พระพุทธเจ้าทรงมอบสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้แก่มวลมนุษยชาติ สิ่งนั้นคือพระธรรมที่ใช้เป็นกรอบในการดำเนินชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีงาม สู่ความเจริญสูงสุดของชีวิต ในฐานะชาวพุทธ ทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลรักษาสิ่งที่ดีเหล่านี้เอาไว้ให้ได้นานที่สุด อย่างน้อยก็ในช่วงชีวิตเราแต่ละคน
Friends' blogs
[Add ebusiness's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.