Group Blog
 
All blogs
 
บุพพกรรมของพระมหาโมคคัลลานะ

หลังจากที่พระมหาโมคคัลลานะปรินิพพาน
มีการโจษขานกันว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธ์ิมากอย่างนั้น
ทำไม ? จึงถูกพวกโจรทุบตาย เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
เพื่อความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสอดีตกรรมของท่านใน
ท่ามกลางสงฆ์ว่า
สาเหตุที่พระมหาโมคคัลลานะ ถูกพวกโจรทุบตีจนถึงแก่ความตายว่า ในอดีตชาติ
พระมหาโมคคัลลานะนั้น เป็นบุตรชายชาวเมืองพาราณสี เป็นผู้ที่บำรุงเลี้ยงดูพ่อแม่ที่ตาบอด
ฝ่ายพ่อแม่มีความสงสารเห็นใจลูกชาย จึงสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่งมาเป็นภรรยา
ฝ่ายภรรยาเลี้ยงดูพ่อแม่สามีอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ ก็เกิดความรังเกียจคนแก่ที่พิการ
ได้พูดติเตียนพ่อแม่ของสามีอย่างเสีย ๆ หาย ๆ
ฝ่ายสามีไม่เชื่อคำของนาง เมื่อสามีไม่อยู่บ้าน นางจึงออกอุบายโดยทำสิ่งของให้
รกรุงรังทั่วบ้าน สามีกลับมาเห็นเข้าจึงถาม นางก็บอกว่าพ่อแม่ของท่านเป็นคนทำเขาจึงเข้าใจ
ผิดเชื่อคำของนาง จนทำให้เกิดความแตกร้าวกับพ่อแม่ของตัวเอง และรับปากกับภรรยาว่า
จะจัดการกับท่านทั้งสอง
วันหนึ่ง ได้โกหกพ่อแม่ว่าจะพาไปเยี่ยมญาติต่างถิ่น จึงได้พาขึ้นเกวียนเดินทางไป
เมื่อถึงกลางป่าจึงบอกพ่อว่าให้ช่วยถือเชือกบังคับโคแทนตนไว้ และโกหกท่านว่าที่นี่มีโจรดัก
ซุ่มอยู่ ทำทีว่าจะไปสังเกตการณ์ แล้วได้ปลอมตัวเป็นโจร มาทุบตีพ่อแม่จนถึงแก่ความตาย
และทิ้งศพไว้ในป่าแล้วจึงกลับไป
พระมหาโมคคัลลานะทำกรรมนี้แล้ว หลังจากตายแล้วได้ไปตกนรกหลายแสนปี
เพราะเศษวิบากที่เหลืออยู่ เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ จึงถูกทุบตีจนร่างกายเละถึงแก่ความ
ตายถึง ๑๐๐ ชาติ และชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่ท่านได้รับวิบากที่สมควรแก่เหตุที่ท่านได้ทำไว้แก่
พ่อแม่ผู้มีพระคุณในชาติก่อน
สรุปความได้ว่า...
เหตุที่พระมหาโมคคัลลานะทำกรรมในอดีตชาติคือ ฆ่าพ่อแม่ด้วยการทุบตีจนถึงแก่
ความตาย ผลของกรรมที่พระมหาโมคคัลลานะได้รับคือ ตกนรก และถูกทุบตีจนร่างกายเละ
ถึง ๑๐๐ ชาติ
จะเห็นได้ว่า กรรมที่พระมหาโมคคัลลานะกระทำนั้นเป็นกรรมหนักเรียกว่าครุกรรม
ดังนั้น การฆ่ามารดาบิดาผู้บังเกิดเกล้าเป็นกรรมหนักที่สุด จัดเป็นอนันตริยกรรมด้วย ตัด
ทางสวรรค์ ตัดทางนิพพาน ในชาติที่ทำกรรมนี้ ถ้าผู้ใดทำกรรมนี้แล้ว จะต้องไปเกิดในทุคติ
ภูมิอย่างแน่นอน ท่านทั้งหลายจึงควรกลัวทุกข์โทษ ที่จะเกิดขึ้นจากการทำอกุศลกรรมเช่นนี้ไว้
เพราะกฎแห่งกรรมเป็นธรรมชาติ ที่เที่ยงแท้แน่นอน ตามเหตุตามปัจจัยที่ทำ ซึ่งเป็นไป
ตามวัฏฏะ ๓ คือ กิเลส กรรม วิบาก หมุนเวียนอยู่อย่างนั้นไม่รู้จักจบสิ้น.

บุคคลที่ทำร้ายผู้บริสุทธ์ิ ย่อมได้รับผลกรรม ๑๐ ประการ คือ
๑. ได้รับทุกข์กายและทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส ๒. ทรัพย์สมบัติย่อมฉิบหาย
๓. จะต้องสูญเสียอวัยวะบางส่วน ๔. ป่วยอย่างหนัก
๕. เป็นบ้า ๖. ถูกถอดยศ ปลดตำแหน่ง
๗. ถูกใส่ร้าย ๘. ไร้ญาติขาดมิตร
๙. ไฟไหม้บ้าน ๑๐. ตกนรก
(ขุ.ธ.๒๕/๔๑/๑๓๗-๑๔๐).

ผู้หว่านพืชเช่นใดได้เช่นนั้น เป็นแม่นมั่นเหมือนว่าอุทาหรณ์
ทำกรรมดีมีมาเป็นอากร สุขสะท้อนตามกรรมที่ทำดี
ถ้าทำชั่วได้ชั่วทั่วทั้งสิ้น แม้องค์อินทร์ทรงฤทธ์ิอย่าคิดหนี
หลีกไม่พ้นบาปชั่วที่ตัวมี ทำความดีจึงสุขสนุกใจ.


Create Date : 15 ตุลาคม 2551
Last Update : 15 ตุลาคม 2551 23:52:47 น. 0 comments
Counter : 846 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ebusiness
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







พระพุทธเจ้าทรงมอบสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้แก่มวลมนุษยชาติ สิ่งนั้นคือพระธรรมที่ใช้เป็นกรอบในการดำเนินชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีงาม สู่ความเจริญสูงสุดของชีวิต ในฐานะชาวพุทธ ทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลรักษาสิ่งที่ดีเหล่านี้เอาไว้ให้ได้นานที่สุด อย่างน้อยก็ในช่วงชีวิตเราแต่ละคน
Friends' blogs
[Add ebusiness's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.