เรื่องราวของชายผู้มีความหลัง
Group Blog
 
All blogs
 
วิเคราะห์แมตช์เยอรมัน-เอกวาดอร์ : เป็นชัยชนะที่วัดอะไรไม่ได้ แต่ก็เรียกกำลังใจนักเตะได้หลายคน

หลังจากที่ผมได้ดูเกมที่เยอรมันพบกับเอกวาดอร์ในรอบสุดท้ายกลุ่ม เอ ซึ่งทั้งคู่ลอยลำเข้ารอบสองไปแล้ว แต่เยอรมันต้องการอีก 3 แต้มเพื่อการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม ซึ่งเยอรมันชนะไป 3-0อย่างสบาย ๆ จากการยิงของมิโรสลาฟ โคลเซ่ 2 ลูกในครึ่งแรก และลูคัส โพดอลสกี้ยิงอีกลูกในกลาง ๆ ครึ่งหลัง ผมมองว่ายังวัดประสิทธิภาพอะไรไม่ได้เลย เนื่องจากเอกวาดอร์ส่งผู้เล่นสำรองลงสนามถึง 5 คน แทนผู้เล่นตัวจริงติดโทษใบเหลือง ถึงแม้จะมีตัวหลักที่โชว์ฟอร์มดีลงครบก็ตาม ยิ่งกว่านั้นก็คือสไตล์การเล่นของเอกวาดอร์ก็ยังคล้าย ๆ กับโคลอมเบียที่เยอรมันเคยอุ่นเครื่องมาก่อน จึงไม่แปลกนักที่เยอรมันจะเอาชนะได้ด้วยสกอร์ถึง 3-0 และมีรูปเกมที่เหนือกว่าเอกวาดอร์มาก

ปัญหาก็คือถ้าเอกวาดอร์ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามทั้งหมดเยอรมันจะพบกับงานง่ายเหมือนในนัดนี้หรือ ?

ตอบได้เลยว่ามันไม่ง่ายเท่าไหร่ ซึ่งถ้าเยอรมันทำเกมไม่ออก แล้วนักเตะมีความกดดันจนเอาลูกหนักมาใช้ ที่ติดใบเหลืองอยู่แล้วอาจติดแบนจนถึงรอบน็อคเอาท์ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก

ยิ่งไปกว่านั้นเอกวาดอร์เป็นทีมที่นักเตะมีศักยภาพไม่สูงมาก คุณภาพนักเตะเมื่อเทียบกับทีมอื่นอย่างอาร์เจนตินา บราซิล อิตาลี ฝรั่งเศส อังกฤษ ฮอลแลนด์ โปรตุเกส หรือแม้กระทั่งสวีเดนที่เยอรมันจะต้องเจอในวันเสาร์นี้ มันเทียบไม่ได้เลย

ดังนั้น เราไม่อาจวัดอะไรได้กับฟอร์มการเล่นของเยอรมันในนัดนี้

อย่างไรก็ดี ก็ถือว่าชัยชนะ 3-0 ก็สามารถเรียกความมั่นใจของนักเตะบางคนให้กลับคืนมาได้ ไม่ว่าจะเป็นโคลเซ่ที่ฟอร์มฝืดในนัดที่เล่นกับโปแลนด์ โพดอลสกี้ที่ฟอร์มฝืดมา 2 นัดติด ฟรีดริชที่ต้องการหาฟอร์มที่แท้จริงของตัวเอง รวมถึงแดนกลางของทีมในนัดที่แล้วที่เล่นได้เละเทะ ซึ่งนัดนี้นักเตะเหล่านั้นได้กลับมาเรียกฟอร์มเดิมของตัวเองกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น

แนวรับในเกมนี้เล่นได้ดีมาก หยุดเกมรุกของเอกวาดอร์ได้สนิท การยืนตำแหน่ง การเช็คไลน์ รวมถึงการประสานงานทำได้อย่างลงตัว นักเตะอย่างฮูธ ถึงแม้ว่าจะนัดนี้จะวัดความสามารถแท้จริงของเค้าไม่ได้ แต่การได้ออกมายืดเส้นยืดสายแทนเม็ตเซลเดอร์ที่บาดเจ็บก็ทำให้ฮูธได้เพิ่มพูนประสบการณ์ให้มากขึ้น แต่กระนั้นคลิ้นซี่ก็ออกมายืนยันแล้วว่านัดหน้ากับสวีเดน เม็ตเซลเดอร์ก็ยังคงเป็นตัวจริงคู่กับแมร์เตซัคเกอร์ต่อไป

เกมรุกและการประสานงานในแดนกลางของทีม จะเห็นได้ว่าบางจังหวะแดนกลางไม่ค่อยลงมาช่วยไล่บอลเท่าไหร่นัก ทำให้ระยะห่างระหว่างแดนกลางกับแดนหลังมีมากเกินไป ผมมองว่าฟริงก์สยังต้องปรับปรุงอีกมากอยู่ดีในเรื่องของการรักษาตำแหน่ง ซึ่งคลิ้นซี่ก็เริ่มออกมาติงแล้วว่าแดนกลางกับแดนหลังห่างกันเกินไป ส่วนเกมรุกต้องชมเลยว่าประสานงานกันได้ดี การขึ้นเกมทางซ้ายโดยลาห์มและชไวน์สไตเกอร์ทำได้จัดจ้านอีกครั้ง ชไวนี่ยังเข้ามาเติมเกมได้เยี่ยมพร้อมทั้งผ่าน 1 ลูกให้โคลเซ่เปิดแผลลูกแรกเข้าไป ส่วนทางขวาฟรีดริชเริ่มมีส่วนกับเกมรุกมากขึ้น และชไนเดอร์ก็เปิดลูกโค้งเรียดพื้นให้โพดอลสกี้ยิงเข้าไป ตรงกลางสนามบัลลัคเล่นไม่เต็มที่นักเนื่องจากกลัวปัญหาเรื่องใบเหลือง แต่ก็ยังชิพบอลน้ำหนักเหมาะเจาะให้โคลเซ่หลุดไปยิงได้ ถือว่าเข้าใกล้ระดับโลกไปทุกทีแล้ว นับเป็นเรื่องที่ดีของแดนกลางเยอรมันในครั้งนี้

ส่วนแดนหน้าต้องชมโคลเซ่ว่ามีสัญชาตญาณในการทำประตูที่เยี่ยมยอด ลูกแรกนั้นเป็นการยิงประตูแบบไม่ต้องจับ จากลูกผ่านย้อนเข้ากลางของชไวนี่ และอีกลูกจากการชิพของบัลลัค ที่โคลเซ่เอาเข่าแตะบอลที่กระดอนให้หนีโกล์เอกวาดอร์ก่อนหลุดไปโล่ง ๆ ยิงเข้าประตูไป ซึ่งต้องชมเทคนิคและบาลานซ์ รวมถึงความเยือกเย็นของเขาเลยทีเดียว ส่วนโพดอลสกี้นัดนี้ฟอร์มโดยรวมไม่ดี แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ยิงประตูได้ ซึ่งผมเองก็ยินดีด้วยกับเขา หวังว่าเขาคงจะช่วยแบ่งเบาภาระการทำสกอร์ของโคลเซ่ได้ในดต่อ ๆ ไป

วิเคราะห์และประเมินฟอร์มผู้เล่นทีมชาติเยอรมัน :

เยนส์ เลห์มันน์ - ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้เซฟมากนัก จะมีก็แค่ลูกยิงฟรีคิกของเอกวาดอร์ช่วงท้ายครึ่งแรกซึ่งเลห์มันน์ไม่พลาด แต่จะสังเกตได้ว่าเลห์มันน์ออกมาชกบอลบ่อยเกินไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เป็นการส่งสัญญาณว่าเล่นได้ไม่แน่นอนเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าติดโรคเดียวกะโค้ชประตู (อันเดรียส ค็อปเค่) รึเปล่า เพราะโค้ชประตูก็เป็นโรคชอบออกมาชกบอลสมัยยังเป็นนักเตะ (3.5)

อาร์เน่ ฟรีดริช - เล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เดินเกมรุกได้ดีกว่า 2 นัดแรก เกมรับเล่นใช้ได้ คุมเกมดี (3)

ฟิลิปป์ ลาห์ม - เล่นเด่นตลอดทั้งเกมเหมือนที่เคยเป็น แต่เกมรับมีปัญหาในช่วงแรก ๆ ในการจัดการกับนักเตะเอกวาดอร์ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปรับตัวกับเกมได้ ส่วนเกมรุกจัดจ้าน เล่นได้แน่นอน (3)

เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์ - ไม่มีปัญหาในการจัดการกับความเร็วของนักเตะเอกวาดอร์ ยืนซ้อนตำแหน่งได้ดี เป็นอีกนัดที่ไม่ต้องทำอะไรมาก (2.5)

โรเบิร์ต ฮูธ - ลงเล่นตัวจริงนัดแรกในบอลโลกหนนี้ เข้าปะทะได้แข็งแกร่ง ประกบได้เหนียวแน่น ไม่มีข้อผิดพลาดมากนัก (2.5)

ทอร์สเท่น ฟริงก์ส - เล่นเกมรับได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องพัฒนาขึ้นอีก โดยเฉพาะการรักษาตำแหน่ง การเข้าปะทะยังเข้าพรวดอยู่บ้าง นัดต่อไปไม่ควรพลาดแม้แต่น้อยเพราะสวีเดนมีแต่จอมเทคนิค (2.5)

มิชาเอล บัลลัค - เด่นพอสมควร ยังไม่ค่อยกระตือรือร้นมากนักเนื่องจากกลัวโดนอีกเหลือง แต่ก็มีทีเด็ดจากลูกชิพข้ามหัวกองหลังให้โคลเซ่เข้าไปยิง บ่งบอกได้ว่าใกล้เวิลด์คลาสไปทุกทีแล้ว (2)

บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - จ่ายให้โคลเซ่ยิงอีก 1 เม็ด วิ่งพล่านทำเกมได้ดี สลับตำแหน่งซ้ายขวากับชไนเดอร์ได้เยี่ยม จ่ายบอลทะลุช่องตัดแนวรับได้ดีอีกด้วย ค่อนข้างประทับใจ (2.5)

แบร์นด์ ชไนเดอร์ - เล่นได้แน่นอนในครึ่งแรก มีความเก๋าช่วยทีมได้มาก เปิดลูกโค้งสุดสวยให้โพดอลสกี้ยิงได้ ฟอร์มอยู่ในช่วงขาขึ้น (2.5)

ลูคัส โพดอลสกี้ - ยิงประตูลดความกดดันของตัวเองลงไปได้บ้าง ถึงแม้จะเป็นการยิงในช่วงที่รูปเกมไม่มีอะไรแล้วก็ตาม แต่ก็ยังต้องปรับปรุงเรื่องของการวิ่งหาพื้นที่ และความนิ่ง (3)

มิโรสลาฟ โคลเซ่ - แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณของกองหน้าในลูกแรก และเทคนิคกะบาล้านซ์ร่างกายที่เยี่ยมในลูกที่สอง ครึ่งหลังลงต่ำมาช่วยแดนกลาง ลูกที่โพดี้ยิงได้ มาจากการตั้งเกมของโคลเซ่ด้วย เป็นนักเตะที่สปิริตเยี่ยมยอด (2)

ตัวสำรอง :

ทิม โบรอฟสกี้ - เล่นกลางรับแทนฟริงก์ส บางครั้งชอบฟาวล์พร่ำเพรื่อ โฉ่งฉ่างเกินไป เหมาะกับตัวเดินเกมมากกว่า เพราะให้บอลง่าย จ่ายบอลแม่น ยิงแถวสองใช้ได้ (5)

เกราลด์ อซาโมอาห์ - ทีมเวิคไม่ค่อยดี ชอบฝืนเลี้ยงไปคนเดียว ยังขาดความแน่นอนในการประสานงาน (5)

โอลิเวอร์ นอยวิลล์ - ไม่มีโอกาสได้โชว์ฟอร์มอะไรเท่าไหร่นักเนื่องจากเป็นช่วงท้ายเกมที่สกอร์ขาดและเริ่มปิดเกมแล้ว (-)

กระนั้นผมก็ยังเกรง ๆ คู่แข่งรอบต่อไปหลังจากที่ผมได้ดูคู่อังกิด-สวีเดน ผมรู้สึกหวั่น ๆ สวีเดนอยู่พอสมควร เนื่องจากสวีเดนเป็นทีมที่เล่นเกมรุกได้ดุดัน เทคนิคเยี่ยม จ่ายบอลสั้นสลับยาวได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะการโยนยาวของสวีเดนที่มีเปอร์เซนต์ความแม่นยำถึง 70 % เลยทีเดียว ลูกกลางอากาศถือเป็นลูกอันตราย อีกทั้งเป็นทีมที่เล่นเกมเร็ว สวนกลับอันตรายมาก ๆ ถ้าเยอรมันบุกเพลินปล่อยให้มีพื้นที่ระหว่างแดนกลางกับแดนหลังขนาดนี้ เยอรมันอาถึงกับเสียประตูได้ ยิ่งกว่านั้น แนวรับสวีเดนเองก็ไม่ใช่เล่น เพราะเข้าบอลได้เหนียวแน่นแข็งแกร่ง นักเตะทุกคนไล่บีบพื้นที่ดีมาก และเล่นหนัก เยอรมันต้องทำการบ้านมาให้ดี

แต่สวีเดนก็มีจุดบอดตรงที่กองหน้าจบสกอร์ยังไม่คมเท่าไหร่ ใช้โอกาสเปลืองมาก ซึ่งถ้าเยอรมันดักเกมรุกของสวีเดนอยู่ เยอรมันอาจไม่ต้องพบงานหนักมากนัก แต่ก็ต้องพยายามครองเกมในแดนกลางให้ดีด้วย ยิ่งกว่านั้นสวีเดนมีจุดอ่อนตรงแบ๊กที่ยังไม่ค่อยเหนียว พยายามเจาะเข้าริมเส้นเยอรมันอาจได้ลุ้น รวมถึงสวีเดนเป็นทีมที่เกมแดนกลางไม่ค่อยมีการยืดหยุ่นจังหวะเกม สปีดเกมค่อนข้างคงที่เกินไป หนักไปทางเปิดเกมเร็ว ทำให้คู่ต่อสู้จับจังหวะเกมได้ง่าย ขึ้นอยู่กับว่าเยอรมันจะวางแผนมาดีแค่ไหนด้วยในการรับมือจอมเทคนิคโคตรฟิตของยุโรปทีมนี้

ใจจริงอยากเจออังกฤษมากกว่าอีกเพราะมันง่ายกว่าเยอะ แต่ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให้เยอรมันคับผม



Create Date : 23 มิถุนายน 2549
Last Update : 23 มิถุนายน 2549 1:55:46 น. 0 comments
Counter : 295 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ดยุคแห่งออสเตรีย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]