"To impoverich the rich is not to enrich the poor"
 
 

♥ สมุนไพรแห่งความรัก (อีกครั้ง)

ยังไม่ถึงวันแห่งความรักแต่อย่างใด...แต่มีความรู้สึกบางอย่างเกี่ยวกับความรักในเวลานี้เลยมีความคิดที่จะนำมาพิมพ์อีครั้ง...

ก้อขอภาวนาให้ต้นความรักเบิกบานไปในทุกที่..ทุกใจ..ในโลกสีฟ้าใบกลมๆนี้....

ใครที่ยังไร้ความรักหรือยังคิดว่ารักไม่เพียงพอ..ขอเสนอตำรับยาทางใจสูตรโบราณบรรเทาอาการทุกข์กังวล..และยังเป็นยาบำรุงต้นรักด้วยครับ...(ต้นตำรับยาเป็นนักเขียนท่านนึง..ปรุงไว้นานแล้ว..ผมเอามาปรับสูตรใหม่ให้รสชาติอ่อนลง..เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดีครับ...

ตัวยาประกอบไปด้วยสมุนไพร 9 ส่วน 9 ชนิด...หากเลือกทานเฉพาะส่วนที่ชอบอาจผิดสำแดงกลายเป็นคนใจร้ายไปก็เป็นได้...ดังนั้นผู้ปรุงขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบครับ....

สมุนไพรตัวที่หนึ่ง การถนอมน้ำใจผู้คน
การถนอมน้ำใจผู้คน..โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เรารัก.."ให้ถือเป็นเป้าหมายหลัก" ที่จะต้องพึงปฎิบัติ

สมุนไพรตัวที่สอง การรู้จักให้อภัย
การให้อภัยผู้คนไม่ใช่เรื่องยากเย็นหากหมั่นฝึกฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เรารัก.."ให้ถือเป็นหน้าที่หลัก " ที่จะต้องพึงปฎิบัติ และมันจะเป็นทางที่จะทำให้เราบรรลุถึงวิธีการถนอมน้ำใจนั้น

สมุนไพรตัวที่สาม การพิจารณาเรื่องราวและการให้อภัยโดยไร้อคติ
เมื่อเรารู้จักการให้อภัยแล้ว, ผ่านเจ้าตัวการให้อภัยนั้น...เราจะเริ่มเรียนรู้ถึงการที่จะไม่ตัดสินหรือพิจารณาคนที่เรารักหรือคนอื่นๆ และรวมทั้งตัวเราด้วยความมีอคติหรือมีแต่ควรมีให้น้อยที่สุด

สมุนไพรตัวที่สี่ การหยุดความกังวล..ละทิ้งอดีต..และอยู่กับปัจจุบัน
เราสามารถที่จะหยุดความกังวล เมื่อเราหยุดที่จะตัดสินและคาดการณ์ใดๆในอนาคตโดยใช้พื้นฐานมาจากอดีต...อย่าลืมว่าเราล้วนอาศัยอยู่ในปัจจุบัน..ดังนั้นพยายามใช้ชีวิตให้อยู่ในปัจจุบันให้มากที่สุด(ถ้าไม่อยากรับประทานตัวนี้กรุณารับประทานสมุนไพรตัวที่ 5 ให้มากขึ้น)

สมุนไพรตัวที่ห้า การหยั่งรู้เสียงจากภายใน
เราสามารถเรียนรู้ที่จะยอมรับทิศทางของเราจากจากภายใน...จากสิ่งที่ผุดขึ้นจากภายในใจ ของเรา ซึ่งมันจะเป็นเครื่องมือที่จะนำทางเราในการรู้และเรียนรู้ได้ดีที่สุด

สมุนไพรตัวที่หก การค้นพบคำตอบจากใจตนเอง
และหลังจากสมุนไพรตัวที่ห้าออกฤทธิ์แล้วเสียงที่เกิด(ผุด)ขึ้นภายในใจนั้นจะบอกชี้ชัดถึงทิศทางและวิธีการกับเรา, และพร้อมกันนี้มันได้จัดหาความหมายและคำตอบของวิธีการที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในเรื่องที่คาดหวัง(มรรคผล) รวมทั้งอะไรก็ตามที่จำเป็น

สมุนไพรตัวที่เจ็ด การมุ่งมั่นปฎิบัติตามจินตภาพที่บังเกิดจากใจ
ในการปฎิบัติตามวิธีการและข้อแนะนำที่ผุดขึ้นมาจากใจนั้น บ่อยครั้งที่เราจำเป็นที่จะต้องสร้างข้อผูกมัดหรืออุทิศตนเพื่อความสำเร็จตามเป้าหมายนั้นๆ หรือแม้กระทั่งเรายังไม่อาจสามารถบรรลุผลสำเร็จในทันทีทันใดก็ตาม(เป็นเด็กดีต้องฝึกรอ). นี่คือการเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมแห่งเหตุผล(ที่เรามักยกขึ้นมาอ้าง)ของเราที่เคยมีมา

สมุนไพรตัวที่แปด การสร้างทางเลือกและเข้าใจจิตใจตนเอง
เราสามารถมีและสร้างทางเลือกสำหรับการตัดสินใจ, และอะไรที่เราควรสำเหนียก(รู้)ว่าอะไรควรไม่ควร..และความรู้สึก และอารมณ์แบบไหนที่เรามีประสบการณ์

สมุนไพรตัวที่เก้า การหมั่นฝึกฝน

สมุนไพรตัวสุดท้ายนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดนั่นคือหากเราหมั่นรับประทาน(ฝึกฝน) 1-8 บ่อยๆ เราจะสามารถเรียนรู้ถึงการใช้จินตนาการในด้านดี(กุศลจิต)ได้อย่างคล่องแคล่ว, และมันสามารถที่จะนำไปใช้พัฒนาการปฎิบัติในสิ่งที่ดีงามต่อผู้คนปรับใช้อย่างเป็นธรรมชาติได้ในภาวะปัจจุบันโดยรวมทั้งพัฒนาและปรับปรุงจินตภาพแห่งความรักที่ผุดขึ้นมาจากจิตใจของเราเองให้ดีขึ้นได้ด้วยครับ...

ขอขอบคุณ Jerry Jampolsky อาจารย์ผู้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาการปรุงสมุนไพร

ขอขอบคุณ The Blue Planet ที่ให้ที่อยู่อาศัยแด่มวลมนุษย์

ขอขอบคุณ นักบุญ Valentine ผู้เป็นต้นกำเนิดนิยามในวันแห่งความรัก

และขอบคุณพิเศษ สำหรับ “ ความรัก ” ที่พระเจ้าจากทุกศาสนาทรงเผื่อแผ่ให้หมู่มวลมนุษย์ชาติ ซึ่งเจ้าต้นความรักนั้นสามารถปลูกเพาะได้เจริญงอกงามดีในโลกสีฟ้าใบนี้..และเจริญงอกงามดีได้ในใจแห่งผู้คนตลอดมา

และท้ายที่สุดขอขอบคุณ พ่อ ผู้ล่วงลับและ แม่ ที่ยังอยู่ที่ให้โอกาสเด็กชายคนนึงได้เกิดเติบโตมาพร้อมกับความรัก..

และขอบคุณ สมอง และ สองมือ ที่สามารถปรุงยาได้โดยไม่ติดขัด....

ปล.ถ้าอ่านแล้วไม่พึงใจกรุณารับประทานสมุนไพรตัวที่ 2 ให้เยอะๆครับ

พิมพ์ไปทีนึงคราวที่แล้วในที่แห่งนึง...มีเพื่อนท่านนึงแนะนำว่าให้ไปปรุงกินเองเยอะๆเสียก่อน.....ผมว่าผมอาจกินยาสูตรนี้มากไปจนรักเค้าไปหมดเลย...อิ..อิ




ที่มา -//www.thais.it/botanica/erbeamore/default_uk.htm




 

Create Date : 20 มกราคม 2549   
Last Update : 20 มกราคม 2549 11:02:48 น.   
Counter : 482 Pageviews.  


เวลา...ภาษาลวง

" เวลาคืออะไร...? "

/---แนวคิดทางศาสนาพุทธ : เวลาย่อมกลืนกินทุกสรรพสิ่งและตัวมันเอง...


/---ท่านพุทธทาสภิกขุ : เวลาคือระยะทางแห่งความอยากและสมอยาก...


/---ไอน์สไตน์ : พูดถึงเรื่องเวลาเมื่อคราวอธิบายความหมายของทฤษฎีสัมพันธภาพให้เพื่อนฟังว่า " เมื่อเรานั่งคุยกับคนรักเรา ๒ ชั่วโมง เราจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเพี่ยง ๒ นาที...แต่ถ้าเรานั่งอยู่หน้าเตาไฟ ๒ นาที เราจะรู้สึกว่า เรานั่งอยู่ ๒ ชั่วโมง " ...


/---กฤษณะมูรติ : เช่นเดียวกันกับกฤษณะมูรติ ที่ได้ให้ความหมายของเวลาไว้เป็น ๒ นัยคือ เวลาตามปฎิทิน ที่คำนวณจาการโคจรหรือการหมุนของโลก(โครโนโลจิคัลไทม์) และ เวลาทางจิต ซึ่งก็คือเวลาตามความรู้สึกของเราที่สั้นยาวต่างกัน..และไม่ได้เดินคงที่ดุจเวลาตามปฎิทิน...


/---คำสนทนาของพราหมณ์คนหนึ่งกับวอลแตร์เกี่ยวกับเรื่องเวลา : พราหมณ์กล่าวว่า "ฉันมีชีวิตอยู่ในเวลา แต่ไม่รู้ว่า เวลาคืออะไร "...


/---คาลิล ยิบราน : เวลาก็เป็นเช่นความรัก...แบ่งไม่ได้..และไม่เคลื่อนที่ไปเป็นก้าว...*


/---พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน : เวลาคือชั่วขณะความยาวนานที่มีอยู่หรือเป็นอยู่ โดยนิยมกำหนดขึ้นเป็นครู่ คราว วัน เดือน ปี เป็นต้น...


/---ช่างทํานาฬิกา : เวลาคือเสียงนาฬิกาเดิน...


/---นักฟิสิกส์ : เวลาคือองค์ประกอบหนึ่งของจักรวาล...


/---นักชีววิทยา : เวลาคือสิ่งที่กําหนดพฤติกรรมของสัตวและพืชให้คล้องจองกับธรรมชาติภายนอก...


/---นักจิตวิทยา : บอกว่าคนทุกคนรู้ว่าเวลาคืออะไร...


/---เด็กต่ำกว่าสองขวบ : เขาจะไมรู้จักเวลาเลย...


/---เวลาอินเตอร์เน็ต : เวลาอินเตอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงโซนต่างๆ โดยการกำหนดว่า ใน 1 วัน หรือ 24 ชั่วโมง ให้มีจำนวน 1000 บีตส์ (Beats) ดังนั้น 1 บีตส์จะเท่ากับ 1.44 นาที = 1 + 44/100 = 1 นาที 26.4 วินาที ที่กรุงเทพเราเริ่ม 0 บีตส์ ที่ 6.00 A.M. หรือ 6 โมงเช้า ...


/---เวลาเล่นอินเตอร์เนต..เป็นเวลาที่ช่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียจริง ๆ...พับผ่าสิ...


/---นาฬิกา : ไม่ใช่เวลา..มันเป็นเครื่องมือบอกเวลาเท่านั้น..

ที่มาของข้อมูล : จากหนังสือ "อยู่อย่างเซน" โดย ละเอียด ศิลาน้อย, พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน๒๕๔๒(ฉบับออนไลน์) และจากเรื่อง"วิทยาศาสตร์ของเวลา"หาอ่านเพื่มเติมได้ที //www.ipst.ac.th/ThaiVersion/publications/in_sci/science_time.pdf
และที่ //www.physics.sci.rit.ac.th/charud/oldnews/17/index17.htm
*ใน "The Prophet"
/-----

/

เวลาเปรียบแท้แน่...........ความลวง

โลก บ่ สนหมุนควง.........อยู่เฝ้า

คนเสพเปลี่ยนยามตวง*....สลับที่

หมุ่นถี่ตามใจเร้า.............เร่งเจ้าเวลา


//

เวลาใจช่างไร้................เกินตาม

โหมเร่งเวลาถาม.............ถี่เข้า

ใจถึงก่อนตามความ.........คิดเร่ง

ทุกข์ที่คนคอยเร้า............เร่าร้อนเกินกาล


///

นาฬิการ้องสั่ง.................บอกคน

ติดจั่นความกังวล.............รุ่มร้อน

เวลาอยู่ตามกล ..............ไกที่ เจ้าทำ

คนหาก บ่ เคยย้อน...........ผ่อนคร้ามใจตน...


****


" ยาม " ในที่นี้หมายถึง ชื่อส่วนแห่งวัน ยามหนึ่งมี ๓ ชั่วโมง รวมวันหนึ่งมี ๘ ยาม.(ความตามพจนานุกรมฯ)
"ตวง" นับ, กะ, ประมาณ





 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2548   
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2548 6:55:25 น.   
Counter : 231 Pageviews.  


ฤดูกาล..ในสายตาเธอ (ความเรียง)

.... ค่ำคืนเหงา ๆ คืนหนึ่ง ลมอุ่นจาง ๆ ที่พัดสอดลอดหน้าต่างใจได้พยายามไชชอน..และง้อแง้มเปิดประตูแห่งความทรงจำแลความเหงาแห่งผู้คน...

.... อารมณ์อุ่นที่แสนเพรียวบางในยามนี้ก็กระไรอยู่..กลับก่อมวลน้อยๆแง้มรอรับอย่างกระหาย....สายลมที่อุ่นอวลเป็นมิตรนั้นพอได้ใจภายนอกแล้วจึงพยายามแง้มเปิดแผ่นผิวแห่งความทรงจำด้วยกำลังแรงที่ควบรวมกับลมภายในให้ย้อนหลังไปทีละหน้า..ทีละหน้า..และค่อยๆอ่อนแรงลงทอดสมอหยุดลงอยู่ ณ ที่หน้าความทรงจำหนึ่ง....เพลงเก่า ๆ เปื้อนฝุ่นเพลงหนึ่ง...ได้ปรากฎชัดเจนขึ้น..

....ในท่อนรำพึงท่อนหนึ่งของเพลงนั้น...ได้เปรียบเทียบฤดูกาลกับสาวคนรัก...ทำให้เกิดอาการอยากร้อยต่อคำ..รำพึง..เรื่อยเปื่อยผสมผเสจากจุดนั้น..ตามนิสัยบาง ๆ ที่มีอยู่ครับ....


***************


/.... ฤดูหนาวที่ยังไม่ทันจากจางหาย..กุหลาบสวยที่แห้งจากไปภายใต้ลมแห้ง..และเย็นนั้น...


/.... ความหนาวระเรื่อที่มิเคยรู้สึกรู้สา....หากแต่ร้อนเสียเต็มประดาระอุอวลจนรู้สึกได้อยู่ในสายตาของเธอ....


/.... ฤดูกาลที่ทอดเปลี่ยน...ช่างเล่นตลกร้ายนัก...ฤดูร้อนที่แผดเผาใจให้มืดดำ...มิเฉกเช่นความร้อนร้าวพราวจากตะวัน...หากมันเป็นฤดูร้อนที่ทอดออกมาจากสายตาของเธอ !... มันร้อนจนแทบเจียนตาย ...มันร้อนเสียจนแทบเป็นบ้า !...


/.... เสียงราตรีสวัสดิ์ของเธอ ที่ร้องบอกว่าค่ำคืนได้มาถึง...มิอาจได้ยินจากกองกุหลาบที่ตายแล้ว...เหี่ยวแห้งแล้ว... มันอาจเป็นคำบอกลาก็เป็นได้....จะทำอย่างไรดี...มันเป็นค่ำคืนที่ช่างร้อนรนและยาวนานเสียนี่กระไร !...


/.... หากความรักที่เธอมีให้..กำลังจะจากไป..ขอได้ไหม ?...ขอให้รอเวลาฤดูฝนที่กำลังจะมา...ขอเวลาอีกหน่อยเถิดนะ..ที่รัก..


/.... ได้ไหมที่รัก ?... ได้ไหม ?... ขอให้แม่น้ำแห่งน้ำตาช้ำได้ไหลไปตามครรลองของมันเถิด...มันจะแห้งเหือดไปเองจากฤดูร้อนในดวงตาของเธอเอง...


/.... อย่าเร่งเร้ามันอีกเลย !...ได้โปรดเถิดที่รัก !...สายแม่น้ำแห่งน้ำตามันสั้นไปใช่ไหม ?... หน้าฝนมันเยื้องย่างมาช้าเกินใจเธอรอใช่ไหม ?... จะให้ร่ำร้องแทนสายฝน...จนสายตามืดบอดไม่ให้รับรู้เห็นใครอีกเลยใช่ไหม ?...ใช่ไหมที่รัก ?...

*จินตนรำพัน เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากเพลงของศิลปินต่างประเทศท่านนึง




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2548   
Last Update : 14 ธันวาคม 2548 13:24:46 น.   
Counter : 284 Pageviews.  


บริบทแห่งชีวิต (ความเรียง)

.......................................


ชีวิต....มีจะค่ามีความหมายใด....หากคุณค่าแห่งชีวิตนั้นมีไว้สำหรับเพื่อตนเอง วันวานของแต่ละวันที่ถูกวันแห่งวันนี้กลืนกินไป.....กาลเวลาที่เคลื่อนที่ได้ทั้งช้าเร็วตามความรู้สึกแห่งผู้คน การเฝ้ารอพ้อเพ้อถึงแต่วันพรุ่งจะมีค่ามีความหมายหรือหากเรายังคงต้องเผชิญหน้าอยู่แต่กับวันนี้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด


คนเราเกิดมาเพื่อที่จะต้องตายไป แต่มิใช่ตายจากด้วยลิขิตแห่งฟ้าหรือโชคชะตากำหนด หากแต่ต้องตายเพราะเวลาที่ขับเคลื่อนชีวิตของตัวได้หมดลง กาลเวลาและมิติแห่งจักรวาลที่ห้อมล้อมเหล่าชีวิตและสรรพสิ่งบนโลกแห่งนี้ต่างหากที่ไม่เคลื่อนไหวเลยในความรู้สึกยามเมื่อธุลีชีวิตเล็กๆนั้นได้ดับสูญไป และยังคงเป็นเช่นนี้ เป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป...


การเดินทางรอนแรมที่ไร้จุดหมาย..เคลื่อนไหวไปภาคหน้าอย่างคดเคี้ยวและโดดเดี่ยว ติดสอยห้อยตามเยี่ยงทาสแห่งความพึงใจในจุดหมายสดใหม่ไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด การเดินทางไปตามอนาคตที่นึกฝันนั้น มิใช่การค้นหา และยังไม่แตกต่างจากการเดินทางในความฝันโดยลำพังบนดินแดนที่ไร้พันธนาการแห่งกฎเกณฑ์ใดๆ วนเวียนเสพสมอยู่กับมันจนกระหวัดรัดตัวตนแห่งความจริงให้ดับดิ้นไป


เหล่านี้ล้วนมิใช่การเดินทางขับเคลื่อนชีวิตที่มีความหมายใดๆ การมีชีวิตที่ต้องผูกพันอาศัยอยู่กับวันนี้ หากยังย้ำจำอยู่แต่วันวานที่คาคละไปด้วยทั้งความสมหวังและขมขื่น เปรียบเสมือนน้ำทิพย์ที่แสนหวานยามกระหาย และเสมือนน้ำกรดกร่อนกินใจให้ตายทั้งที่มีชีวิตอยู่ ชีวิตเฉกนี้ย่อมไม่อาจหลุดพ้นวังวนแห่งความคิดและจิตใจที่เฝ้ามุ่งแต่ตน แสวงหาเพียงแต่สิ่งที่ตนมุ่งหวังหมายเสพคล้ายดั่งเดินติดจั่นหวั่นวนอยู่บนปากเหวแห่งจักรวาลอันไพศาลที่มิอาจพานพบจบขอบสู่ทางออกได้ในชีวิตนี้


ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สามารถเป็นของเรา..ติดตามเราไปได้ทุกหนแห่งอย่างเที่ยงแท้...เราต่างหากที่เป็นธุลีชีวิตแห่งโลกนี้และโลกเป็นเสี้ยวธุลีแห่งจักรวาลนี้...ดังนั้นแล้ว...การตกตมอยู่แต่ในกรอบเขตแห่งความเพ้อฝันหรือกรงขังในโลกแห่งตนนั้นเป็นการขับเคลื่อนเวลาแห่งชีวิตที่สูญเปล่าและเผาผลาญ......ขณะที่เราดำรงอยู่ในโลกใบนี้ในเวลานี้...เรายังได้ยืนอยู่บนจักรวาลที่โลกอาศัยนี้....และสรรพชีวิตรวมทั้งสรรพสิ่งบนโลกนี้หรือโลกอื่นๆจะมีความหมายใด....อยู่ได้อย่างไร....หากจักรวาลไม่เคลื่อนเดิน..ไม่ทำงาน...ไม่นำพา...ไม่เป็นไปตามครรลองแห่งจักรวาลเอง.....


มวลมนุษย์มีชีวิตที่เป็นอิสระ....แสวงหาคำตอบที่ตนไขว่คว้าและต้องการอย่างไม่หยุดหย่อน...หากแต่การเป็นใครในโลกนี้จะไม่มีความหมายความสำคัญเลย...เมื่อมนุษย์มีเป้าหมายอยู่เพียงแค่ความต้องการส่วนตน..ขยายขอบเขตเป็นกลุ่มที่มีหลายเข็มมุ่งไร้เอกภาพขาดความเมตตาและอยู่ร่วมอย่างกันอย่างพึ่งพายั่งยืน ...ท้ายที่สุดก็ควบกลืนคุมการขับเคลื่อนเดินทางของสรรพชีวิตอื่นๆ...ชีวิตเหล่านั้นจะไม่มีวันเข้าใจในธรรมชาติแห่งชีวิตอื่นๆหรือแม้กระทั่งชีวิตแห่งตนเอง....


ลองแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้าง...หากอยากมองให้ไกลกว่านั้นอีก..เราจะรู้ทันทีว่าเรายังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้พยายามและทุ่มเทเวลาอีกมากเพื่อไปให้ถึงจักรวาลที่มองไม่เห็นและเพื่อหลุดพ้นจากข้อจำกัดแห่งมนุษย์เอง...นั่นย่อมเป็นสิ่งที่ดีมีความหมาย....แต่หากเราลืมไปว่าเรายังสามารถมองเห็นตัวเราและสิ่งรอบตัวเราได้ชัดเจนโดยทันทีและไกลมากกว่าในความหลากหลายแห่งสรรพสิ่งและข้อเท็จจริงแห่งปัจจุบัน.....


นั่นเอง...หากเราเริ่มพิจารณาสิ่งรอบข้างตั้งแต่วันนี้...เริ่มต้นเข้าใจสรรพชีวิตอื่นๆที่รายล้อม...เคารพในความหมายแห่งการเคลือนไหวเหล่านั้นเท่าที่เราเคลื่อนไหวชีวิตแห่งเรา...ถือเป็นการเริ่มต้นเดินทางกลับเข้าเส้นทางแห่งความเป็นจริงของชีวิตที่ดำรงอยู่ภายใต้จักรวาล....การเดินทางเช่นนี้จะไม่โดดเดี่ยวไร้เพื่อนร่วมทาง...นั่นคือการเดินทางใช้ชีวิตในห้วงเวลาที่เป็นอยุ่อย่างมีคุณค่า...อย่างแท้จริง....


........................................




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2548   
Last Update : 14 ธันวาคม 2548 13:25:22 น.   
Counter : 308 Pageviews.  



ดวงสมร
 
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








[Add ดวงสมร's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com