ทุ่งฟ้าโค้ง...ดงทะเล (กาพย์ห่อโคลง ลำดับที่ 2/ 3) (ยาม...สายัณห์เยือน) ตะวันลอยคล้อยเคลื่อน......ลอยโค้งเลื่อนแตะขอบน้ำ แสงทองจูบผิวคราม..........เข้าเขตขามยามสายัณห์ ตะวันลอยคล้อยเคลื่อน......ลาวัน เวียนว่ายวิถีจันทร์.............เปลี่ยนเฝ้า แสงนวลส่องเปิดพลัน........สวรรค์ท่อง ธารทอง คืนล่องเคียงนวลเจ้า..........สว่างเข้าตลอดใจ... ...................... (เล่นลม...ชมคลื่น) ระริกราวเล่นด้วย..............ลมระทวยย้วยลูบผิว ระยิบยอดทอดทิว............ดัชนีนิ้วพลิ้วรัญจวน ระริกราวเล่นด้วย..............แลลม ผิวลู่ลอนสลับสม..............คลื่นพลิ้ว ยอดคอดกิ่วทิวชม............เอวอ่อน จรลี ดุจดั่งดัชนีนิ้ว..................เลื่อนคิ้วดูเชิง... .......................... (เกาะกระเช้า) เจ็ดวันคืนล่วงเข้า..................เกาะกระเช้าคู่เคียงงาม ปะการังใกล้ฝั่ง.....................ทอดเรือยั้งรั้งเชยชม.. เจ็ดวันคืนล่วงเข้า.................เกาะงาม ผาคู่ดูเกรงขาม....................กิ่วเว้า ฝูงปลาว่ายเวียนตาม.............เรือล่อง ดำท่องปะการังเฝ้า...............ก่อนเข้าค้างแรม...   Create Date : 12 ธันวาคม 2548     0 comment Last Update : 17 ตุลาคม 2550 8:13:06 น.     Counter : 550 Pageviews.   Share Tweet

บทที่ 2 ทุ่งฟ้าโค้ง..ดงทะเล (กาพย์ห่อโคลงลำดับที่ 2/1-2) สุดดินจดแผ่นน้ำ........ทุ่งฟ้าครามงามทะเล หาดโค้งลงลาดเท.......กลาสีเร่เวลาจร สุดดินจดแผ่นน้ำ........คนจร วันรุ่งคงแรมรอน........ฝั่งน้ำ แลหาท่าเรือนอน.......เติมอิ่ม เตรียมท่องทะเลล้ำ....เที่ยวข้ามแดนสวรรค์ ลงเรือใบใกล้ท่า........มุ่งสู่มหาสมุทรกว้าง ลมรุ่งจูงใบกาง..........ลอยคล้อยห่างฝั่งดินลา ลงเรือใบใกล้ท่า........ออกชม ลมส่งดันใบสม..........มุ่งหน้า ลอยละล่องอารมณ์....ตามคลื่น เรือปล่อยใจลับฟ้า.....ฝั่งพื้นแดนทอง..   Create Date : 27 ตุลาคม 2548     2 comment Last Update : 14 ธันวาคม 2548 13:19:59 น.     Counter : 322 Pageviews.   Share Tweet

บทที่ 1 ท่องฟ้า...เดินดง (กาพย์ห่อโคลงลำดับที่ 1/1-13) แรมรอนจรทั่วหล้า.............ทุรหารั้งความหวัง ป่าชัฏทะเลว้าง..................ผาลึกขวางมิหวั่นเกรง แรมรอนจรทั่วหล้า.............กลาสี เดินทั่วทางบุรี...................ที่ไคล้ ขุนเขาป่าพงพี...................แสวงผ่าน ครามแผ่นทะเลท้าย...........ท่องได้ไม่เกรง (ท่องฟ้า) แพธารปกห่มหล้า..............เมฆเล่นฟ้าฟูฟ่องลอย เย็นฉ่ำขาวครามร้อย..........ระเด่นเห็นเช่นปุยงาม แพธารปกห่มหล้า..............เมฆเอย นวลนุ่มคลุมเคียงเกย.........ล่องฟ้า ละอองทั่วทอดเผย............เย็นฉ่ำ ยามพึ่งหลบแสงกล้า..........ที่เจ้าโอบเคียง ปลายขอบสายรุ้งสว่าง.......แพรสีสร้างทางเคียงกัน แดดกลืนไอชื้นกลั่น..........ระเหยหันควันเมฆา ปลายขอบสายรุ้งสว่าง........แพรงาม ประหนึ่งทาสีคราม.............แต่งหล้า เรียวอุ่นสีแสงตาม.............โอบที่ ฤดีอิ่มเอิบแสงอ้า...............เปล่งเย้ายวนสวรรค์ (เดินดง) รอนแรมลงป่าเช้า..............ย่องเงียบเข้าสงบผ่าน สกุณาร้องขับขาน..............เจื้อยแจ้วหวานระงมไพร รอนแรมลงป่าเช้า..............ดูความ สงบดั่งสวรรค์งาม..............ร่มไม้ ธารรินเอื่อยคลอตาม..........แนวผ่าน นกกู่คลอเสียงคล้าย...........ดื่มล้นสุขแสน โขดหินลดหลั่นเว้า.............เรียงรายเข้าล้อมธารา แมลงปอล้อลมผา..............เกาะกิ่งท้าน้ำตกพราว โขดหินลดหลั่นเว้า.............รายเรียง ตะไคร่เขียวคลุมเคียง.........เลื่อมพร้อย ลูกปลาว่ายคลอเพียง.........ทวนอยู่ นกที่โขดหินย้อย...............เพ่งเจ้าคอยกิน (ค้างแรม) เนินทอดสูงฝั่งน้ำ..............ย่างย่ำค่ำหยุดค้างแรม จุดไฟเติมแต่งแต้ม............ราตรีแย้มพลิ้วเพลงไฟ เนินทอดสูงฝั่งน้ำ..............เรือนนอน คืนหรี่แสงสุมฟอน............ท่อนไม้ ประกายแข่งดาวจร...........ใจล่วง คิดห่วงคนเคียงใกล้..........ใฝ่เฝ้าในฝัน พักลงตรงที่นี้...................ครั่นฤดีคิดรัญจวน คืนเปลี่ยวหนาวลมรวน.......เย้าใจหวนคนึงความ พักลงตรงที่นี้....................คืนเดือน หนาวเปลี่ยวแสงนวลเยือน...เตือนเย้า เต็มดวงส่องรองเรือน..........รักพี่ จนหรี่แสงหลบเศร้า............เปลี่ยนฟ้าคืนจันทร์... (คืนทาง...ชมธรรมฯ) สิงสาสัตว์ใหญ่น้อย...........ออกจากรอยแลอาหาร สู่ขุนเขาทะเลธาร..............วัฎผ่านเวียนตามธรรม สิงสาสัตว์ใหญ่น้อย...........ดำรง เคียงคู่นิเวศน์คง...............เผ่าได้ ทางธรรมง่ายความตรง......โครงข่าย เวียนว่ายตายเกิดไซร้........แน่แท้ตามกรรม เดินทางออกมุ่งหน้า...........พสุธากว้างทางวิถี เลาะริมฝั่งสายนที..............ผ่านป่าสีลุบึงเพลิง เดินทางออกมุ่งหน้า...........วนาสาย ใบหลั่นสีงามลาย..............กลุ่มซ้อน พรมใบร่วงดินกลาย...........คืนสู่ เวียนพึ่งพาเย็นร้อน............ชุ่มฟ้าแดนสรวง (บึงเพลิง) เลียบธารเลาะผ่านใกล้.........เข้าบึงใหญ่สุดสายตา อร่ามแหล่งบัวแดงสง่า.........งามล้ำค่าทับทิมไพร เลียบธารเลาะผ่านใกล้..........บึงแดง สีเด่นดุจนามแถลง...............แต่งไว้ ปทุมสี่ในบึงแฝง..................นัยอยู่ พุทธฯท่านสอนบอกไซร้.......กลุ่มถ้วนคนเรา ชูดอกตูมเต่งตั้ง...................บัวเพลิงรั้งเหนือผิวธาร ใบกลมคมเรียวก้าน..............ดอกเบ่งบานแดงทับทิม ชูดอกตูมเต่งตั้ง...................ดุจพนม มือที่สบดอกสม..................สื่อไหว้ ประคองช่อกลีบคม..............ดอมกลิ่น งามถิ่นเพลิงบัวคล้าย............ร่ายร้อนเรือนธรรม (ทางแยก) ถึงทางแยกข้างฝั่ง................ทางเตียนต่างทางรกไกล จำจนพึ่งผลทาย...................เครื่องมือใช้ตัดสินความ ถึงทางแยกข้างฝั่ง................ควรไป จำเสี่ยงผลกลทาย...............ช่วยปั้น สมใจดั่งคาดหมาย...............ทางที่ รกเปลี่ยวอุปไมยดั้น.............ก่อนขึ้นแดนสวรรค์ เลือกทางรกเข้าก่อน.............ทุรจรฝึกภูมิทาน ทางเตียนละเรียนผ่าน...........ประสบการณ์มิได้ไป เลือกทางรกเข้าก่อน............สอนใจ เตียนต่างทางสบาย..............ไม่รู้ เวียนลงดิ่งดำหาย................นรกสู่ รกเหนื่อยขึ้นสวรรค์กู้............ดั่งได้ภูมิทาน (ล่องธาร) มัดรวมแพไม้ไผ่..................ถ่อลอยสายธารชุ่มเย็น น้ำใสปลาว่ายเห็น................นกไพรเล่นล้อคลอกัน มัดรวมแพไม้ไผ่.................ลอยลำ คัดถ่อประคองนำ................มุ่งหน้า เลาะเกาะแก่งลงตาม...........ธารเชี่ยว หลุดผ่านกายบอบล้า...........ชุ่มด้วยเหงื่อไคล ลัดเลาะลงล่องพ้น..............ธารวกวนลอยลำเอื่อย สายลมพลิ้วโรยเฉื่อย..........แพลำเปลือยค่อยเลื่อนไป ลัดเลาะลงล่องพ้น..............เลยวัน เกาะแก่งวังผาลาน..............ผ่านท้าย ลอยลำสู่แดนฝัน................ธารเอื่อย นอนปล่อยลมลูบไล้............เหนื่อยแท้ล่องธาร...(มีต่อ)   Create Date : 11 กันยายน 2548     10 comment Last Update : 14 ธันวาคม 2548 13:18:54 น.     Counter : 444 Pageviews.   Share Tweet