ทาน คือการทำกุศลที่ได้บุญ การให้อภัย คือการทำกุศลที่ได้บุญมากกว่า
Group Blog
 
All blogs
 

U.S. diplomat says Thailand has seen steady progress toward democracy

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 09, 2007
U.S. diplomat says Thailand has seen steady progress toward democracy
ที่มา iht.com
โดย The Associated Press
9 สิงหาคม 2550

WASHINGTON: A senior U.S. diplomat on Wednesday urged Thailand's military government to follow pledges to give up power and allow elections, while also noting steady progress toward a restoration of democracy.

Thailand's current leaders were installed after a military coup last September ousted Prime Minister Thaksin Shinawatra. Eric John, a deputy assistant secretary of state, said Washington has suspended $35 million (€25.6 million) in funds, mostly military aid, to Thailand, invoking laws that bar certain aid to governments that have taken power by force. Free trade negotiations between the countries were also suspended.

"We have made it clear that our relationship will be circumscribed until democracy is restored," John said in testimony before a House of Representatives Asia subcommittee. "They absolutely need to get to a democratically elected government."

But John, who has been nominated as U.S. ambassador to Thailand, also expressed optimism that Thailand could have an elected government in place by the end of the year, citing a referendum on a draft constitution scheduled for August 19 and national elections set for November or December.

Thai Foreign Minister Nitya Pibulsonggram said Wednesday that the bloodless coup was a temporary "glitch" and that Thailand will return to democracy

While military aid was suspended, John said Thailand still receives about $34 million (€24.8 million) to support disaster relief, counter terrorism, counter narcotics and other programs.

The United States and other Western nations and rights groups have criticized the coup as a setback for rule by elected leaders. Thailand's military accused Thaksin of corruption and abuse of power.

Republican Rep. Mark Kirk told the committee that Thai military leaders have given themselves a $9 million (€6.5 million) pay raise since the coup, boosted the military budget by more than $1 billion and cut health care spending by at least $12 million (€8.7 million).

The hearing also focused on the impact of sanctions on Fiji, which in December of last year saw its fourth coup since 1987.

Commodore Frank Bainimarama has promised to restore democracy after weeding out alleged corruption in the bureaucracy and reforming the electoral process. But he has given only a vague commitment to a timetable.

Glyn Davies, a deputy assistant secretary of state, said Fiji has seen poor progress toward democracy since U.S. sanctions went into place last year.

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า คณะกรรมาธิการชุดเล็กของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ของประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชียได้เปิดประชุมร่วมกัน และหนึ่งในวาระการประชุมครั้งนี้ได้มีการหยิบยกเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วขึ้นมาหารือด้วย

ทั้งนี้ นายเอริก จอห์น ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำกรุงเทพฯ ให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ ว่า หลังคณะทหารก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน ปีที่แล้วโดยล้มรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันภายใต้การนำของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ตัดความช่วยเหลือแก่ประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าราว 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1 พันล้านบาท โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นเงินช่วยเหลือทางการทหาร

นอกจากนั้น นายจอห์นกล่าวด้วยว่า สหรัฐยังบังคับใช้กฎหมายห้ามให้การสนับสนุนรัฐบาลไทยของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีอีกหลายรายการ รวมทั้งระงับการเจรจาเปิดเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐ เอาไว้ชั่วคราว ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติจะกลับสู่ภาวะปกติต่อเมื่อระบอบประชาธิปไตยของไทยได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง

ด้านนายมาร์ก เคิร์ก ส.ส.สังกัดพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดีบุชแถลงต่อคณะกรรมาธิการว่า หลังเหตุรัฐประหาร คณะผู้นำกองทัพไทยได้ปรับขึ้นเงินเดือนของตัวเองเพิ่มขึ้นราว 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันก็เพิ่มงบประมาณการทหารสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และตัดงบประมาณด้านสาธารณสุขลงไปอย่างน้อย 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เครดิต: เสรีชน

เขียนโดย พยับหมอก ที่ 8/09/2007 08:22:00 ก่อนเที่ยง






 

Create Date : 09 สิงหาคม 2550    
Last Update : 9 สิงหาคม 2550 9:59:51 น.
Counter : 390 Pageviews.  

เสียงเพลงและภาพสื่อไว้ ในอ้อมใจเสรีชน



วันอังคาร, สิงหาคม 07, 2007
เสียงเพลงและภาพสื่อไว้ ในอ้อมใจเสรีชน
ที่มา เวบไซต์พันทิป และประชาไท
โดย ศูนย์ข่าวชาวบ้านบางไซ
7 กรกฎาคม 2550



บทเพลง วันของเรา : จิ้น กรรมาชน

หากใคร ไม่ท้อ จงสู้ต่อไป
ยืดอก ภูมิใจ ไม่ก้มหัว
ไม่ยอม พ่ายแพ้ เพราะเราไม่กลัว
ปราบคนชั่ว ด้วยมือ พวกเรา

คลื่นคน บนถนน ทอดยาวสุดตา
กู้ร้อง ก้องฟ้า จะปลุกเร้า
ฝากความ ห่วงใย ทักทายเพื่อนเก่า
รอถึง วันของเรา อีกครั้ง

ตื่นเถิด ขึ้นมา ระดมคนร่วมฝัน
เพื่อสร้างสรรค์ วันที่เป็นของเรา


ภาพถ่ายคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2550 วันที่หกแกนนำ นปก.1 ได้รับการประกันตัว และเดินทางมาถึงท้องสนามหลวง ท่ามกลางความยินดีของมวลชนที่ร่วมชุมนุมกัน และผู้ฟังวิทยุผ่านทาง internet ทั่วโลก




บทเพลง ปณิธานแห่งเสรีชน : จิ้น กรรมาชน

คนหนึ่งคน รวยจนก็มีหนึ่งเสียง
ไม่ใช่งานเลี้ยง ขอเชิญมาเดินขบวน
เธอและฉัน ช่วยกันฟันฝ่า
เป็นแนวหน้า เพื่อประชาธิปไตย

คนหนึ่งคน รวยจนย่อมมีศักดิ์ศรี
เกิดแผ่นดินนี้ เท่าเทียมทุกเสรีชน
คนถือปืน จงคืนอำนาจ
เราจะสร้างชาติ ภายใต้รัฐธรรมนูญ

เราตั้งปณิธาน ต้านเผด็จการ ทุกชาติไทย
เราตั้งปณิธาน ต้านเผด็จการ ทุกชาติไทย
เขียนโดย พยับหมอก ที่ 8/07/2007 08:22:00 ก่อนเที่ยง






 

Create Date : 09 สิงหาคม 2550    
Last Update : 9 สิงหาคม 2550 9:52:49 น.
Counter : 1399 Pageviews.  

ผลของมาตรา 309 โอมายก๊อดด!!!!!!

ผลของมาตรา 309 โอมายก๊อดด!!!!!! (เก็บมาฝากค่ะ)
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 09:12:19 »

--------------------------------------------------------------------------------
ได้เป็นใบปลิวมา ก็เลยเอาฝากเพื่อน ๆ ได้อ่านด้วย ไม่รู้ว่ามีใครเคยได้อ่านบ้างหรือยัง...

ผลของมาตรา 309 โอมายก๊อดดดดดดดดด!!!!!!!!!

เข้าใจหมกเม็ด กินยาว และนิรโทษกรรมตัวเองทุกอย่างตลอดไปน๊ะ พวกเผด็จการเนี่ย!!!!!!

ผลของมาตรา 309 ในรธน.50 รับรองว่า การใดที่ รธน.49 ว่าชอบด้วยกฎหมาย รธน.50 ก็ถือว่าชอบด้วยกฎหมายด้วยเช่นกัน แล้ว รธน.49 รับรองว่าอะไรชอบด้วยกฎหมายบ้าง?

1. คำสั่งต่าง ๆ ของคณะปฏิวัติ ซึ่งกระทำในวันที่ 19 ก.ย 49 ถึงวันประกาศ รธน.ภต. ชอบด้วยกฎหมายและมีผลต่อไปเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด

2. การใดที่ คปค. ได้ทำไปในการรัฐประหาร ไม่ว่าก่อนหรือหลัง 19 กย. 49 ก็ชอบด้วยกฏหมาย

ถ้างั้น

1. ถ้าคดีลอบฆ่าทักษิณในเครื่องบินไทยแอร์เวย์ระเบิด พิสูจน์ได้ว่า เผด็จการทำ ก็ชอบด้วยกฏหมาย เพราะเป็นการเตรียมการเพื่อรัฐประหาร

2. คดี คาร์บ๊องเพื่อลบฆ่าทักษิณ ถ้ามีการสั่งการให้ทำ หรือการเป่าคดี ดองคดี ฯลฯ ก็ชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกับข้อ 1

3. ถ้า คตส.จะกลั่นแกล้ง ด้วยการอายัดทรัพย์ทุกอย่างของใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับทักษิณ ปีนี้ หรือปีหน้า หรือ ปีไหน ก็ชอบด้วยกฎหมาย

4. งบลับในการปฏิวัติต่าง ๆ ถ้านำไปกินกันเอง ก็เป็นการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับการรัฐประหาร ก็ชอบด้วยกฎหมาย

5. การใช้กำลังทหารสกัดม๊อบ จับกุม คุมขัง ก็เกี่ยวเนื่องกับการรัฐประหาร ก็ชอบด้วยกฎหมาย

6. คิดเองมั่งดิ..ก็ชอบด้วยกฏหมาย มันครอบจักรวาลเลย

7. บรรดา สนชง กกต. สสร. คตส. ตุลาการ รธน. หรือองค์กรใด ก็แล้วแต่ ที่กำเนิดจาก รธน.49 จะดำรงต่อไป (เพราะคำสั่งใด ๆ ของ คปค. มีผลต่อไปไงหล่ะ) มันจะทำให้มีองค์กรซ้อนกับองค์กรที่จะเกิดตาม รธน.50 (เช่น สนช. ก็ยังมีผลต่อไป เพราะเป็นคำสั่ง คปค.ที่ต้องมีผลต่อไป และสภาผู้แทน ก็จะมีการเลือกตั้ง ใช่ม่ะ) และจะทำให้ วุ่นกันไปใหญ่ ต้องมีการตีความแหง ๆ

8. ตัว คมช.เอง ก็ยังอยู่ เพราะ รธน.49 ไงหล่ะ ที่ให้มี คมช.มิใช่หรือ งั้นก็ต้องถือเป็นบรรดาคำสั่งใด ๆ ที่ต้องมีผลต่อไป....

สรุปว่า โหวตเลือกรับ รธน.50 คราวนี้ เราจะได้ Hole on One คือได้ทั้ง รธน. 49 + รธน.50 คุ้มจริง ๆ คับท่าน !!!!




 

Create Date : 09 สิงหาคม 2550    
Last Update : 9 สิงหาคม 2550 9:35:29 น.
Counter : 606 Pageviews.  

หัวข้อ: ขั้วเก่าชนะคนก็ต้าน ทุกก๊วน-ทุกขั้ว'แตะมือ' สกัดพปช.' ฝังดิน'ทางการเมือง

เมื่อ: วันนี้ เวลา 09:25:14 »
หัวข้อ: ขั้วเก่าชนะคนก็ต้าน ทุกก๊วน-ทุกขั้ว'แตะมือ' สกัดพปช.' ฝังดิน'ทางการเมือง
--------------------------------------------------------------------------------
แตะมือทุกก๊วน เตะสกัด “ทรท.” ในคราบ “พปช.” ไม่ให้เกิด เผยมีทั้ง “สมานฉันท์-มัชฌิมา-รวมใจไทย-รักชาติ” ที่พร้อมใจจับขั้วกันแน่น เชื่อถ้าพปช.ชนะ ก็จะมีคนต่อต้านอีกแน่ ขณะที่ “ปุระชัย” ยังแทงกั๊ก ไม่รู้จะเข้าขั้วไหน


รอถ้าบ้านเมืองวิกฤต พร้อมเป็นชาวบ้านบางระจัน ส่วน “จตุพร-จักรภพ-ณัฐวุฒิ” เตรียมลงส.ส.ในนาม “พปช.” แน่

แหล่งข่าวจากกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ทางการเมือง เปิดเผยว่า หลังการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 19 ส.ค.นี้ ทางกลุ่มซึ่งมีอดีตส.ส.ประมาณ 50 คน โดยมีแกนนำคือ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ นายพินิจ จารุสมบัติ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ได้นัดประชุมจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งตอนนี้พร้อมหมดแล้ว รวมทั้งตัวหัวหน้าพรรค แต่ยังไม่ขอบอกว่าเป็นใคร ส่วนชื่อพรรคเป็นที่ชัดเจนว่าจะขอจดชื่อ “พรรคสมานฉันท์” เพราะมีความหมายดี สอดคล้องกับความต้องการคนในชาติ

แหล่งข่าว เผยด้วยว่า กรณีที่นายทหารระดับสูงพยายามรวบรวมกลุ่มการเมืองต่างๆ เพื่อหวังล้มพรรคพลังประชาชน (พปช.) ซึ่งเป็นพรรคไทยรักไทยเดิมนั้น ที่ผ่านมาแกนนำกลุ่มทั้งนายสุวัจน์ นายสุวิทย์ ก็ไปพูดคุยกับทุกฝ่าย

"เราแตะมือกันอย่างหลวมๆ การตัดสินใจจะเข้าร่วมกับใคร ขึ้นอยู่ที่ว่าหัวแถวของฝ่ายนั้นเป็นใคร ยอมรับได้หรือไม่ นโยบายของเขาและของเราไปด้วยกันได้หรือไม่ รวมทั้งต้องฟังเสียงประชาชนว่ามีความเห็นอย่างไร"แหล่งข่าวกล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวจากกลุ่มมัชฌิมา กล่าวเช่นกันว่า ถ้าผลการเลือกตั้งออกมาพรรคพลังประชาชนชนะ ก็จะต้องมีคนต่อต้าน ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ การจับขั้วระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ ทั้งมัชฌิมา สมานฉันท์ รวมใจไทย รักชาติ ซึ่งต้องให้แกนนำไปหารือกัน

ด้านร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งจับตากันว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ที่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายนพดล อินนา คนสนิทของร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า หลังจากร.ต.อ.ปุระชัยกลับจากต่างประเทศ ตนได้เล่าสถานการณ์ต่างๆ ให้ฟัง รวมทั้งเรื่องที่มีกลุ่มการเมืองติดต่ออยากให้เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งท่านก็รับฟังและขอบคุณทุกกลุ่มที่ติดต่อเข้ามา แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร

นายนพดล ยอมรับว่า กลุ่มรักชาติได้ส่งตัวแทนมาพูดคุย แต่ตนตอบกลับไปว่า หากมีการเลือกตั้งช่วงปลายปี ถ้าจะมีการรวบรวมนักการเมืองหน้าใหม่ก็เป็นไปได้ยาก จะไปหานักการเมืองเก่ามาร่วมงานก็ยากเช่นกัน และถ้าลงเลือกตั้งแล้วไม่ชนะจะทำอย่างไร จึงฝากให้ไปคิดให้ดี รวมทั้งกรณีทหารจะมาเล่นการเมืองด้วย

นายนพดลกล่าวอีกว่า ร.ต.อ.ปุระชัยเคยปรารภกับตนว่า การช่วยงานบ้านเมืองมีหลายอย่างไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นนักการเมือง หากประเทศอยู่ในภาวะปกติคงไม่เหมาะหากจะลงมาเล่นการเมือง ยกเว้นในช่วงสถานการณ์ที่เกิดวิกฤติมากๆ คือช่วงเวลาที่เหมาะ เปรียบเหมือนชาวบ้านบางระจัน ดังนั้นร.ต.อ.ปุระชัยคงต้องดูสถานการณ์หลายอย่างประกอบ ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ การลงประชามติ แต่วันนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจทางใดทางหนึ่ง

ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชาชน พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว ประธานที่ปรึกษาพรรค กล่าวว่า ตามที่พรรคได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการจัดประชุมใหญ่ และกกต.ตอบมาแล้วว่าไม่ขัดข้องอนุญาตให้ประชุมใหญ่ได้ ดังนั้นพรรคสามารถจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้ทันที แต่ยังไม่ได้หารือกลุ่มไทยรักไทยว่าจะประชุมวันใด ความเห็นตนน่าจะประชุมก่อนวันลงประชามติ 19 ส.ค.นี้

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวอ้างว่า แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) 3 คน ได้แก่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้หารือกันถึงเรื่องอนาคตทางการเมืองหลังจากยุติบทบาทในการชุมนุม ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ทั้ง 3 จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน เพื่อลงสมัครส.ส.ต่อไป


//thaiinsider.info/portal/content/view/5930/12/




 

Create Date : 09 สิงหาคม 2550    
Last Update : 9 สิงหาคม 2550 9:32:33 น.
Counter : 437 Pageviews.  

หน้าบ้านสี่เสาฯ : ใครลงมือ ใครมีอาวุธ ใครเถื่อน ใครเผด็จการ





//bp2.blogger.com/_nIFuLSFd-dA/RqQm0325LDI/AAAAAAAAANw/S2Bk1kXJ-Ys/s400/22July1.jpg

//bp2.blogger.com/_nIFuLSFd-dA/RqQlV325K9I/AAAAAAAAANA/CnD9QwvIMcg/s400/22July21.jpg





วันจันทร์, กรกฎาคม 23, 2007
ฟ้องด้วยภาพ 22/7/50 วันที่เจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชน หน้าบ้านสี่เสาฯ : ใครลงมือ ใครมีอาวุธ ใครเถื่อน ใครเผด็จการ
ที่มา เวบไซต์ประชาไท พันทิป
โดย ศูนย์ข่าวชาวบ้านบางไซ
23 กรกฎาคม 2550



ปฏิวัติขัดขืน

. . เรียนเจ็บแต่เด็กด้วย . .. . กระบองถือ
ตำรวจพร้อมโล่ฮือ . . . . . . แห่เข้า
ป้าคราวแม่ไหว้มือ . . . . . . ปลกปลก
ลุงแก่เลือดท่วมเศร้า . . . . . ภาพฟ้องความจริง

ทำร้ายประชาชนที่ไม่มีทางสู้

โดยคุณ หนึ่ง [๑] จาก เวบไซต์พันทิป













ข่าวจากไทยรัฐ 23 ก.ค.50

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (23 ก.ค.) อ้างสำนักข่าวรอยเตอร์ เผยแพร่เทปข่าวโทรทัศน์ความยาวประมาณ 3 นาที เนื้อหาระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ประมาณ 5,000 คน ชุมนุมประท้วง ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงการปกครองและการยึดอำนาจของทหารโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 และเปลี่ยนชื่อเป็น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในวันนี้ ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ ทางกลุ่มระบุว่า ต้องการให้ พล.อ.เปรม ลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี โดยกล่าวหาว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสลายการชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนขว้างก้อนหิน ขวดน้ำและวัตถุอื่นๆเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการตอบโต้

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าการปะทะกันครั้งนี้มีประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับบาดเจ็บกว่า 40 คน ขณะที่ โฆษก นปก. ระบุว่า กลุ่ม นปก.จะเดินหน้าชุมนุมประท้วงต่อไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงสลายกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยการใช้แก๊สน้ำตา มีรายงานด้วยว่า การปะทะกันจบลงด้วยการที่กลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนกลับไปตั้งหลักที่สนามหลวงพร้อมประกาศเดินหน้าชุมนุมประท้วงต่อไป


ชมภาพวิดีโอ ช่วงประชาชน เดินจากสนามหลวง ไปบ้านสี่เสาฯ ที่ควรจดจำ จาก ลิงก์

ชมภาพถ่าย และเรื่องราวเพิ่มเติมจากคุณมังกรดำ (เวบไซต์พันทิป) ได้ที่ ลิงก์1 ลิงก์2

(ขอขอบคุณเจ้าของภาพถ่ายทุกท่าน โดยเฉพาะที่ไม่ได้เอ่ยนามในที่นี้ ท่านทำหน้าที่สื่อภาพประวัติศาสตร์ สื่อความเป็นจริงเหล่านี้สู่ประชาชนได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด)

เชิญฟังคลิปเสียงการปราศรัยตามลำดับเหตุการณ์ เริ่มตั้งแต่ 13.00 น.จนเริ่มออกเดินขบวน ถึงหน้าบ้านสี่เสาฯ และกลับสนามหลวง ได้ที่ ลิงก์ 1 ลิงก์2 ลิงก์3 ลิงก์4 ลิงก์5 ลิงก์6 ลิงก์7 (เครดิตลิงก์จากคุณจารชนแสนคม เวบไซต์พันทิป)

เขียนโดย พยับหมอก




 

Create Date : 09 สิงหาคม 2550    
Last Update : 9 สิงหาคม 2550 9:42:34 น.
Counter : 746 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

drunkcat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ

ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า

"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"

ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
Friends' blogs
[Add drunkcat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.