All Blog
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1705 – 1732
#พรรณีเกษกมล
#ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1705 – 1732
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ซ่งใต้หรือองค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ซ่ง
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้พระนามเดิมเจ้าเชิน ประสูติ วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 1670 ครองราชย์ต่อจากซ่งเกาจงฮ่องเต้ที่สละบัลลังก์ในปี พ.ศ. 1705
พระนามฮ่องเต้ หมายถึง ผู้ปกครองที่ผูกพันกับประชาชน ครองราชย์เมื่อพระชนม์ 35 พรรษา สวรรคตวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 1737 เมื่อพระชนม์ 67 พรรษา
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้เป็นลูกหลานรุ่นที่ 7 ของซ่งไท่จู่ฮ่องเต้
นับเป็นการข้ามสายตระกูลจากฮ่องเต้องค์ที่ 2 ซ่งไท่จงฮ่องเต้ พระอนุชาของซ่งไท่จู่ฮ่องเต้ องค์ที่ 1 มายังสายเดิม และได้สืบต่อกันจนสิ้นราชวงศ์ซ่งใต้เลยทีเดียว
คงจำกันได้ว่า เคยมีข่าวลือว่า ซ่งไท่จงฮ่องเต้ทรงฆ่าซ่งไท่จู่ฮ่องเต้และฆ่าผู้เกี่ยวข้องที่มีโอกาสจะขึ้นครองราชย์ทั้งหมด สายของซ่งไท่จงฮ่องเต้จึงได้ครองราชย์ต่อกันมาจนสิ้นราชวงศ์ซ่งเหนือ และได้กอบกู้บัลลังก์จนเป็นองค์แรกแห่งราชวงศ์ซ่งใต้
ต่อจากนั้นจึงเป็นสายของซ่งไท่จู่ฮ่องเต้มาตลอดนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว
ช่วงที่เกิดสงครามกับจินนั้น ราชสำนักจินได้จับตัวลูกหลานที่มีเชื้อสายใกล้ชิดกับซ่งเกาจงฮ่องเต้ที่อาศัยอยู่เมืองไคเฟิง ไปที่เมืองจีนทางตอนใต้เกือบหมด นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไมสายของซ่งไท่จงฮ่องเต้จึงหมดสิ้นลงที่รัชกาลที่ 10 เท่านั้น
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้เป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ของเจ้าซิเฉิงหรือองค์ชายซิแห่งซิหยวน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่ 6 ของซ่งเกาจงฮ่องเต้และซ่งชินจงฮ่องเต้
เจ้าซิเฉิงเป็นโอรสของเจ้าหลิงหัวหรือดยุคแห่งชิง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่ 5 ของซ่งฮุยจงฮ่องเต้และซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้ ไล่เรียงลำดับกันเป็นพระญาติสนิทที่ยังคงหลงเหลือรอดชีวิต เมื่อมีบุญย่อมได้ในสิ่งที่ควรได้
ส่วนฮองเฮาคงเป็นพี่น้องจากตระกูลเดียวกัน คือ ตระกูลเฉิง 3 คนด้วยกัน เฉิงหมู เฉิงกง และเฉิงซุ่ย
บ้านเมืองยังอยู่ในช่วงสงครามกับจิน
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้ยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อแลกกับตำแหน่งของตนเองที่จะได้เป็นฮ่องเต้และความสงบสุขของบ้านเมือง
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้ทำสัญญาสงบศึกกับจิน ยอมจ่ายเงินเป็นเครื่องบรรณาการต่อจินปีละ 200,000 ตำลึง กับผ้าไหมอีก 200,000 พับ
จำนวนนี้ไม่นับว่ามากเมื่อเทียบกับสมัยของซ่งหนิงจงฮ่องเต้ในรัชกาลต่อ มา เพราะต้องเพิ่มเงินที่ต้องจ่ายเป็นเครื่องบรรณาการต่อจินเป็นปีละ 300,000 ตำลึง กับผ้าไหมอีก 300,000 พับ
อาณาเขตของซ่งใต้ลดลงจากซ่งเหนือเหลือเพียงสองในสาม ชาวฮั่นเองไม่อาจลืมตาอ้าปากได้เลยนับเป็นช่วงที่ชาวฮั่นตกต่ำสุดขีดในประวัติศาสตร์



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2568 12:19:24 น.
Counter : 113 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
ซ่งเกาจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1669 - 1705
#ซ่งเกาจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1669 - 1705
#พรรณีเกษกมล
ซ่งเกาจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์แรกแห่งราชวงศ์ซ่งใต้ หรือองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ซ่ง
ซ่งเกาจงฮ่องเต้เป็นพระโอรสองค์ที่ 9 ของซ่งฮุยจงฮ่องเต้กับพระมารดาเหวยเสียงหยิน ต่อมาพระมารดาได้ตำแหน่งเป็นเสียนเหรินไทเฮา เป็นพระอนุชาของซ่งชินจงฮ่องเต้แต่ต่างพระมารดากัน ประสูติวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 1650 พระนามฮ่องเต้หมายถึง ผู้ปกครองที่สูงส่ง หลังจากครองราชย์นานถึง 35 ปีได้สละราชย์สมบัติ พ.ศ. 1705 ด้วยพระชนม์ 53 พรรษา สวรรคตเมื่อมีพระชนม์ 80 พรรษา วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 1620
หลังจากซ่งเกาจงฮ่องเต้กอบกู้บ้านเมืองแล้ว ได้สถาปนาเมืองหลินอันหรือปัจจุบันคือเมืองหางโจวเป็นราชธานีแห่งใหม่ แทนเมืองไคเฟิงซึ่งโดนพวก
จินบุกยึดไปแล้ว
เมื่อราชวงศ์ซ่งเหนือภายใต้บัลลังก์ของซ่งชินจงฮ่องเต้ล่มสลาย ซ่งเกาจงฮ่องเต้สามารถกอบกู้เอกราชได้ แต่ว่ายังต้องต่อสู้กับพวกจินอยู่เกือบตลอดเวลา
แม่ทัพคนสำคัญชื่อหลี่กัง งักฮุย หานซื่อจง และอวี่หยุนเหวินซึ่งเคยสู้รบในรัชกาลก่อนยังคงเป็นกำลังสำคัญในรัชกาลนี้
ทว่าเข้าอีหรอบเดิม ซ้ำร้ายอาจแย่กว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
หลังจากสู้รบกันเป็นเวลานาน ซ่งเกาจงฮ่องเต้ไม่สามารถได้รับชัยชนะเด็ดขาด ซ่งเกาจงฮ่องเต้จึงเปลี่ยนนโยบายเป็นสันติวิธี แค่ปกป้องชายแดนไม่ให้พวกจินมารุกราน และเป็นการช่วยชีวิตของอดีตฮ่องเต้ทั้งสอง ซ่งชินจงฮ่องเต้และซ่งฮุ่ยจงฮ่องเต้ด้วย
แผนการที่จะทำให้เกิดสันติสุขภายในประเทศนั้น ซ่งเกาจงฮ่องเต้บังคับให้แม่ทัพงักฮุยถอนทัพออกจากชายแดน แล้วให้มหาอำมาตย์ฉินฮุ่ยประหารชีวิตแม่ทัพงักฮุย
เรื่องราวตอนนี้ไม่รู้ใครผิดใครถูก ระหว่างการเลือก
ฮ่องเต้ใจร้ายสั่งฆ่าแม่ทัพของตนเองเพื่อให้สงครามยุติแล้ว บ้านเมืองก้าวเดินต่อไปได้
แม่ทัพงักฮุยไม่ยินยอมที่จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ คิดจะต่อสู้โรมรันจนอาจได้ชัยชนะ แล้วบ้านเมืองไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นของศัตรู
ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนถูก
สุดท้ายผู้มีอำนาจมากกว่าจะเป็นผู้ถูกต้องเสมอ
เหตุรุนแรงแค่นี้ยังไม่มากพอ
ซ่งเกาจงฮ่องเต้สั่งถอดถอนแม่ทัพหานซื่อจงออกจากอำนาจทางการทหารทั้งหมด แล้วซ่งเกาจงฮ่องเต้เซ็นสัญญาสงบศึกกับพวกจิน เรียกชื่อสัญญานี้ว่า สัญญาสงบศึกเส้าซิง เป็นสัญญาที่ซ่งใต้เสียเปรียบจินเป็นอย่างมาก
ซ่งเกาจงฮ่องเต้เลือกที่จะทำถึงแม้ว่าจะต้องตัดกำลังของตนถึง 2 คนก็ตาม และยอมส่งส่วยแก่จิน เพื่อแลกกับความสงบสุขที่จะเกิดขึ้น
สิ่งที่ซ่งเกาจงฮ่องเต้ทำอาจดูแย่ ๆ ในสายตาของใครบางคน แต่ซ่งเกาจงฮ่องเต้ต้องการความสงบสุขบนผืนแผ่นดินของตนเท่านั้น
ถ้าดูปูมหลังจะพบว่า ซ่งเกาจงฮ่องเต้เป็นกวีเอกด้วย เคยแต่งบทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงและที่ยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน คือ บทประพันธ์ที่ชื่อว่า บทกวีสี่วรรคบนภูผาสวรรค์
ศิลปินจิตรกรคงไม่ชอบการทำศึกสงคราม
ซ่งเกาจงฮ่องเต้ก็เช่นกัน หวังที่จะมองเห็นความสุขความสงบมากกว่าการได้รับชัยชนะจากสงครามชายแดน
ด้วยชีวิตที่เปี่ยมล้นด้วยความสุขจึงเป็นฮ่องเต้ที่ยอมสละบัลลังก์และมีอายุยืนยาวถึง 80 พรรษา



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2568 12:05:02 น.
Counter : 95 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
ซ่งชินจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1669 – 1669
#พรรณีเกษกมล
#ซ่งชินจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1669 – 1669
ซ่งชินจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 9 ของราชวงศ์ซ่ง และองค์สุดท้ายของราชวงศ์ซ่งเหนือ
ซ่งชินจงฮ่องเต้ พระนามเดิมเจ้าหวน ประสูติวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 1643 เป็นพระโอรสองค์โตของซ่งฮุยจงฮ่องเต้ พระมารดามาจากตระกูลหวัง ครองราชย์เมื่อมีพระชนม์ 23 พรรษา วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 1669 สวรรคต วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 1704 
ซ่งชินจงฮ่องเต้ได้เป็นฮ่องเต้เมื่อซ่งฮุยจงฮ่องเต้พระบิดาหนีเอาตัวรอดจากภัยสงครามที่จินไท่จงฮ่องเต้ นำทัพจินเตรียมบุกเมืองหลวงไคเฟิง
ความเป็นผู้นำของซ่งชินจงฮ่องเต้ เมื่อได้เป็นฮ่องเต้ในภาวะวิกฤตหรือเป็นฮ่องเต้ที่ไม่แน่ว่าจะไร้บ้านเมืองให้ปกครอง ได้หาหนทางกอบกู้เอกราชของชาติ ไม่ได้คิดหนีเฉกเช่นพ่อ
ทว่าในตอนหลังกลับไม่มีความกล้าหาญมากพอจะต่อสู้กับศัตรู ไม่มั่นใจในกองกำลังของตนที่จะยืนหยัดจนลมสุดท้าย

ซ่งชินจงฮ่องเต้ระดมความคิดและสรรพกำลังจากบรรดาขุนนาง 
หลายคนเสนอให้ย้ายเมืองหลวง เตรียมลี้ภัย แต่ยังมีผู้กล้าอีกคน คือ 
หลี่กังรับอาสาปกป้องเมืองหลวงไคเฟิง แม่ทัพหัวเมืองหลายคนเตรียมทัพตั้งรับการรุกรานจากจินไท่จงฮ่องเต้ 
เมื่อใกล้ถึงทางตันหรือจนตรอก ความรู้สึกฮึกเหิมเพื่อหวังปกป้องบ้านเมืองของตนได้เกิดขึ้น 
หลี่กังและแม่ทัพหัวเมืองหลายคนสามารถป้องกันเมืองในระยะเวลานานพอที่จะทำให้ทัพจินขาดเสบียงได้
ในขณะที่ทหารพยายามปกป้องบ้านเมืองอยู่นั้น 
ซ่งชินจงฮ่องเต้อาจจะไม่แน่ใจในฝีมือของทหารซ่งเหนือจึงแอบไปทำสัญญาสงบศึกกับจินไท่จงฮ่องเต้ 
ซ่งชินจงฮ่องเต้ยอมจ่ายเบี้ยสงครามให้จินไท่จงฮ่องเต้จำนวนมากแถมด้วยเมืองอีกสามเมือง จินไท่จงฮ่องเต้จึงยอมถอยทัพกลับ
สงครามครั้งนี้สงบได้ด้วยฝีมือของซ่งชินจงฮ่องเต้ 
แต่อาจมองอีกมุมว่าเป็นการพ่ายแพ้ ยกมือยอมแพ้แต่ยกแรก
ถ้าซ่งชินจงฮ่องเต้เชื่อมั่นในฝีมือของหลี่กังและแม่ทัพหัวเมือง จินไท่จงฮ่องเต้อาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และหนีทัพกลับไปเองก็ได้ 
เกมพลิกได้ แค่ตัดสินใจพลาดยกเดียว
การตัดสินใจยอมแพ้ทั้งที่ยังไม่เห็นผลสุดท้ายเป็นสิ่งที่ราชวงศ์ซ่งเหนือเลือก นอกจากนี้ยังสั่งปลดหลี่กังและแม่ทัพหัวเมืองอีก ซึ่งอาจเป็นผลจากการทำสัญญาสงบศึก 
ถ้าใครเป็นหลี่กังและแม่ทัพหัวเมืองคงเซ็งจนพูดไม่ออกเลยที่มีผู้นำประเทศเช่นนี้
นอกจากหลี่กังและแม่ทัพหัวเมืองจะสุดเซ็ง แต่ไม่สามารถทำอันใดได้ ชาวเมืองทั้งสามเมืองอันได้แก่ เมืองไท่หยวน จงซาน และเหอเจียน ที่ซ่งชินจงฮ่องเต้ทำสัญญายกให้กับแคว้นจินก็ไม่ยินยอมเช่นกัน 
ชาวบ้านไม่เชื่อฟังฮ่องเต้ที่ไร้ฝีมือ ขลาดกลัวต่อผลสุดท้ายที่จะได้รับทั้งที่ยังไม่รู้ผลที่แน่นอน
ชาวบ้านต่อสู้กับทัพจินที่จะเข้ามาครอบครอง 
เมื่อใจไม่ยอมแพ้ ที่จะตกเป็นเมืองขึ้น หรือเชลยสงคราม มันต้องลุกขึ้นสู้
ทัพจินทำอย่างไรดีเมื่อฮ่องเต้ยอมแต่ชาวบ้านไม่ยอม ทัพจินจึงสั่งบุกเมืองทั้งสาม ชาวเมืองไท่หยวนสู้เพื่อเมืองของตนเองจะได้ไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของราชวงศ์จิน 

นึกถึงชาวบ้านบางระจัน ที่สู้จนหมดแรง ไม่มีใครมาช่วย
สุดท้ายเสียเมืองหลวง ตกเป็นเมืองขึ้นเช่นกัน

พวกเขาต่อสู้จนหมดเสบียง ไม่มีใครมาช่วยเหลือ สุดท้ายเมืองไท่หยวนต้องตกเป็นของราชวงศ์จินจนได้ 
เมื่อทัพผ่านสามเมืองมา ทัพจินถือโอกาสบุกเมืองหลวงไคเฟิงอีกครั้ง
ซ่งชินจงฮ่องเต้ขอทำสัญญาสงบศึกอีกครั้ง 
จินไท่จงฮ่องเต้รู้ว่าชาวบ้านไม่เชื่อฟังซ่งชินจงฮ่องเต้ ถึงสัญญาไปคงไม่เกิดประโยชน์สู้ยึดเมืองหลวงไคเฟิงให้ได้จะดีกว่า สุดท้ายซ่งชินจงฮ่องเต้และราชวงศ์ซ่งเหนือเป็นอันล่มสลาย
ซ่งชินจงฮ่องเต้หนีภัยสงครามลงทางใต้เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์ซ่งเหนือ ครองราชย์ได้เพียงปีเดียวในช่วงที่บ้านเมืองเกิดศึกสงคราม 
พ่อหนีไป ทิ้งภาระให้ลูกชายคนโตแต่สุดท้ายลูกชายอีกคนต่างแม่หรือน้องชายต่างมารดาสามารถกอบกู้เอกราชของบ้านเมืองได้แทน ขณะที่หนีภัยนั้นมีพระชนม์ 27 พรรษา แต่ทรงมีพระชนม์ถึง 61 พรรษา สวรรคต พ.ศ. 1704



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2568 5:19:53 น.
Counter : 263 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
ซ่งฮุยจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1643 - 1669
#ซ่งฮุยจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1643 - 1669
#พรรณีเกษกมล
ซ่งฮุยจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 8 ของราชวงศ์ซ่ง
ซ่งฮุยจงฮ่องเต้ พระนามเดิมเจ้าจิ ประสูติวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 1625 เป็นพระโอรสองค์ที่ 11 ของซ่งเฉินจงฮ่องเต้ เป็นพระอนุชาของซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้ ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1643 ขณะมีพระชนม์ 18 พรรษา เพราะพระเชษฐาไม่มีพระโอรส สวรรคตวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 1678 
  ซ่งฮุยจงฮ่องเต้ทรงเป็นผู้นำประเทศที่ไม่ใส่ใจเรื่องการทหาร สนใจและส่งเสริมแต่เรื่องของศิลปวัฒนธรรม 
เนื่องจากพระองค์ทรงมีทักษะทางวรรณกรรม การประพันธ์ การวาดรูป ดนตรี ช่วยให้ศิลปินจิตรกรโดดเด่นในวิชาชีพทำให้เกิดผลงานด้านศิลปะมากกว่า 6,000 ชิ้นในพระราชวังและปรากฏสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน 
นอกจากนี้พระองค์นับถือลัทธิเต๋า จึงส่งเสริมให้ผู้คนนับถือลัทธิเต๋าเต็มที่
ซ่งฮุยจงฮ่องเต้สนับสนุนกลุ่มขุนนางไช่จิงและพวก นับเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะกลุ่มนี้ได้ผลักดันกฎหมายใหม่มาใช้ ซึ่งเจตนาที่แท้จริงเพื่อผลประโยชน์ในการโกงกินและขยายอำนาจในหมู่พรรคพวกเดียวกันอันนำมาซึ่งยุคแห่งความมืดมนฟอนเฟะของราชวงศ์ซ่ง       
การตัดสินใจที่ผิดพลาดของซ่งฮุยจงฮ่องเต้ในการบริหารบ้านเมืองได้ก่อให้เกิดการลุกฮือของชาวบ้านและการก่อกบฏซ่งเจียง พ.ศ. 1661 กบฏฟางล่า พ.ศ. 1663 
ต่อมามีผู้นำเรื่องราวของกบฏซ่งเจียงมาประพันธ์เป็นบทนิยายในชื่อเรื่องวีรบุรุษเขาเหลียงซาน เรื่องนี้คอหนังจีนคุ้นเคยอีกเช่นกัน กบฏในช่วงนี้ยังไม่กล้าแข็งพอที่จะเอาชนะกำลังทหารของทางราชสำนักได้
ภาพยนตร์จีนเรื่องซ้องกั๋ง ที่มีผู้กล้าแห่งเขาเหลียงซานหรือกบฏซ่งเจียงคงทำให้คนไทยหลายคนรู้จักราชวงศ์ซ่งหรือซ้องดีขึ้น 
ผู้กล้าที่เริ่มจากชาวบ้าน108 คนมารวมตัวกันในป่าแห่งหนึ่ง เพื่อต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมของทางการ เพื่อต้องการทวงสิทธิมนุษยชนที่พวกเขาพึงมีพึงได้ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ทำให้กล้าต่อสู้กับราชวงศ์ซ่ง เป็นชาวบ้านธรรมดาแต่กล้าอาจหาญสู้กับผู้มีอำนาจสูงศักดิ์คงใช้ความกล้าหาญมากพอควร
ในประเทศเกิดกบฏ ขณะเดียวกับที่นอกประเทศเกิดสงครามปะทะกับพวกเหลียว แน่นอนบ้านเมืองต้องอ่อนแอลง เพราะเจอทั้งศึกนอกและศึกในรุมเร้าพร้อมกัน พวกชนเผ่าแข็งแรงขึ้นโดยเฉพาะพวกชนเผ่าเจอร์เชนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พ.ศ. 1658 หวันเหยียนอากู่ต่าได้สถาปนาแคว้นจินหรือกิมที่ฮุ่ยหนิง
ปัจจุบันอยู่ในมณฑลเฮยหลงเจียง 
หวันเหยียนอากู่ต่าตั้งตนเป็นจินไท่จูฮ่องเต้ แล้วนำกองกำลังของชนเผ่าเจอร์เชนบุกเข้าชายแดนของประเทศเหลียวราชวงศ์
ซ่งเหนือรู้ข่าวนี้แสนจะยินดี จึงหันมาร่วมมือกับหวันเหยียนอากู่ต่าหวังจะเอาดินแดนที่เป็นของตนที่ราชวงศ์เหลียวเคยยึดไปกลับมาให้ได้ ยอมส่งเครื่องบรรณาการให้จินไท่จูฮ่องเต้เพื่อแลกกับเมืองปักกิ่งและต้าถง
เมื่อสองราชวงศ์ร่วมมือกันเพื่อจัดการกับราชวงศ์เหลียว ราชวงศ์ซ่งเหนือจัดการบุกกรุงปักกิ่งและต้าถง ส่วนราชวงศ์จินบุกดินแดนเหลียวทางตอนเหนือ ถงก้วนแม่ทัพของราชวงศ์ซ่งเหนือนำทัพซ่งบุกเมืองเยียนจิงสองครั้งแต่พ่ายแพ้ทั้งสองครั้ง ต้องยอมให้ทัพจินบุกเข้าเมืองแทน 
การณ์ครั้งนี้ราชสำนักซ่งต้องจ่ายภาษีรายปีที่จะได้จากภาษีท้องถิ่นคืนให้ราชสำนักจินด้วย
สองรุมหนึ่ง เรียกรุมกินโต๊ะ
เมื่อหนึ่งพ่ายไปแล้ว
สองจะแตกหัก เหลือเพียงหนึ่ง

คนเราเมื่อได้ทำงานร่วมกัน ย่อมมองเห็นไส้เห็นพุงกันชัดเจนยิ่งขึ้น 
ทัพจินมองเห็นว่าทัพซ่งเหนือไร้ประสิทธิภาพ การร่วมกันทำงานย่อมไม่เกิดประโยชน์สู้เอาชนะทัพซ่งเหนือน่าจะดีกว่า 
เมื่อจินไท่จูฮ่องเต้คิดเช่นนี้ จึงจัดกองทัพบุกยึดเมืองของราชวงศ์ซ่งเหนือ
พ.ศ. 1668 หวันเหยียนเซิ่นขึ้นครองราชย์เป็นจินไท่จงฮ่องเต้สืบต่อจากจินไท่จูฮ่องเต้พระเชษฐา
จินไท่จงฮ่องเต้ได้นำกองทัพกวาดล้างแคว้นเหลียวเป็นผลสำเร็จ 
เมื่อราชวงศ์จินนำทัพจินบุกเหลียวได้สำเร็จแล้ว จึงก่อการใหญ่บุกซ่งเหนือด้วยซะเลย ด้วยการหาเหตุอ้างว่าติดตามแม่ทัพเหลียวเข้ามา 
ถึงแม้จินกับซ่งเหนือยังมีสัญญาสุภาพบุรุษต่อกันว่าจะเป็นมิตร 
จินนำโดยจินไท่จงฮ่องเต้ไม่ได้คิดเช่นนั้นด้วย เมื่อนำกองทัพรุกล้ำเข้าไปในอาณาเขตของซ่งเหนือ แล้วจัดการยึดเมืองปักกิ่ง แม่ทัพที่รักษาเมืองยอมพ่ายแพ้แต่โดยดี 
ทัพจินจึงบุกต่อไปยังเมืองหลวงของราชวงศ์ซ่งเหนือหรือเมืองไคเฟิง
ยังไม่ทันรู้ผลแพ้ชนะว่า ทัพจินจะเอาชนะเมืองไคเฟิงสำเร็จหรือไม่ 
ซ่งฮุยจงฮ่องเต้เมื่อรู้ว่าเพื่อนได้แปรพักตร์ไปซะแล้วจึงนำทัพซ่งเหนือลงใต้ ไม่ใช่เพื่อกอบกู้เอกราชของบ้านเมืองกลับคืนมา แต่กลายเป็นว่า เพื่อหนีเอาตัวรอดแล้วยกบัลลังก์ให้กับรัชทายาท เป็นความคิดที่หวังเอาตัวรอดคนเดียว ซึ่งไม่น่าจะใช่ความคิดของคนที่เป็นฮ่องเต้ผู้นำของประเทศเลย
ปีที่ 26 ในสมัยของซ่งฮุยจงฮ่องเต้ ทรงพ่ายแพ้ต่อกองทัพจินเพราะความไม่ใส่ใจในเรื่องของกองทัพมาตั้งแต่เริ่ม 
เมื่อพระชนม์ 44 พรรษาจึงสละราชสมบัติยกให้โอรสซ่งชินจงครองราชย์แทนและทรงหนีทัพจินลงไปทางใต้



Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2568 13:33:52 น.
Counter : 146 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
ซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1628 – 1643
ซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1628 – 1643
#พรรณีเกษกมล
ซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 7 ของราชวงศ์ซ่ง
ซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้ พระนามเดิมเจ้าสู เป็นพระโอรสของฮ่องเต้องค์ที่ 6 ซ่งเฉินจงฮ่องเต้กับเกาฮองเฮา ประสูติวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 1619 ได้ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนม์เก้าชันษา
ความหมายพระนามฮ่องเต้ หมายถึง ความฉลาด อำนาจเหนือผู้คนทั้งแผ่นดินด้วยวัยเท่านี้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของพระมารดาหรือเกาไทเฮา
เกาฮองเฮากับเกาไทเฮา คือ คนเดียวกัน 
ฮองเฮาคือพระมเหสีของฮ่องเต้ แต่ไทเฮาคือพระมารดาของฮ่องเต้
เมื่อเกาไทเฮาขึ้นมามีอำนาจกลับมีความคิดทางเดิม คือ คัดค้านการปฏิรูปประเทศของหวังอันสือ และมอบหมายให้ซือหม่ากวงเป็นแกนนำการบริหารประเทศ
อำมาตย์ซือหม่ากวง คือ คนที่สนใจหนังสือประวัติศาสตร์ 
ดังนั้นเกาไทเฮาจึงคิดว่าอำมาตย์ซือหม่ากวงเป็นผู้รอบรู้ที่จะแก้วิกฤติการณ์ของประเทศได้
เมื่อสิ้นเกาไทเฮา พ.ศ. 1636 ซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้หันมาให้ความสำคัญต่อแนวทางการปฏิรูปประเทศของหวังอันสือ ทำให้เกิดการแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรงอีกครั้ง 
การแย่งชิงอำนาจเพื่อการคานอำนาจซึ่งกันและกันเป็นไปตลอดสมัยของซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้

ไม่รู้ว่า คนคิดต่างขั้ว มาร่วมกันปกครอง จะดีหรือไม่
ยิ่งหัวอนุรักษ์กับหัวก้าวหน้า ที่อยู่คนละฟากฟ้า
คงยากจะโคจรมาบรรจบพบกันได้ ในวงโคจรที่กว้างใหญ่

ซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้ครองราชย์จนถึงพระชนม์ 25 พรรษา เสด็จสวรรคต วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 1643ที่เมืองไคเฟิงพระอนุชาได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา



Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2568 4:22:57 น.
Counter : 174 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments