Group Blog All Blog
|
#หยวนอิงจงฮ่องเต้พ.ศ. 1863 - 1866 #พรรณีเกษกมล
#หยวนอิงจงฮ่องเต้พ.ศ. 1863 - 1866
#พรรณีเกษกมล หยวนอิงจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 10แห่งราชวงศ์หยวน หยวนอิงจงฮ่องเต้พระนามเดิม จีจีนข่านหรือชิดิบาลา ประสูติวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 1846 เป็นพระโอรสองค์โตของฮ่องเต้องค์ที่ 9 หยวนเหรินจงฮ่องเต้กับรัดนาชิริซึ่งอยู่ในตระกูลคุนกิรัท ขึ้นครองราชย์แทนแต่อยู่ได้เพียง 2 ปี สวรรคตขณะที่มีพระชนม์เพียง 20 พรรษาวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 1866 หยวนอิงจงฮ่องเต้เป็นข่านองค์ที่ 9 ของชาวมองโกลในมองโกเลียในขณะเดียวกับที่ได้เป็นฮ่องเต้ปกครองประเทศจีน ที่จริงควรจะต้องคิดว่า จีนคือส่วนหนึ่งของมองโกเลีย แต่เมื่อจีนกลายเป็นมหาอำนาจในกาลต่อมา บันทึกประวัติศาสตร์จึงเปลี่ยนไป พระนามจีจีนข่านหรือชิดิบาลามีความหมายว่าตรัสรู้หรือฉลาดในภาษามองโกลเลียน นอกจากหยวนอิงจงฮ่องเต้จะส่งเสริมลัทธิขงจื้อแล้วยังส่งเสริมศาสนาพุทธ ผ่านทางลามะโดยให้แปลพระไตรปิฎก ส่วนกลุ่มอิสลามน่าจะลำบากที่สุด เพราะฮ่องเต้ให้ทำลายศาสนสถานของพวกมุสลิมที่ฉางตู และห้ามซื้อทาสจากมองโกลและมาขายที่เมืองจีน ในรัชสมัยที่พระบิดาปฏิรูประบบจัดเก็บภาษี แต่ทำไม่สำเร็จและคิดจะสละราชสมบัติ เพื่อให้ชิดิบาลาพระโอรสขึ้นครองราชย์แทนนั้น อำนาจอยู่ในมือสองฝ่ายใหญ่ ๆ ได้แก่ ตระกูลทางพระมารดาซึ่งมีอำนาจทางกองทัพ ส่วนเทมูเดอร์และดากิมีอำนาจสูงมากในราชสำนักและการปกครอง เมื่อพระบิดาสวรรคตนั้น ทั้งเทมูเดอร์และดากิยังคงมีอำนาจสูงมากอยู่เช่นเดิม และประกาศตนชัดแจ้งในอำนาจที่มีอยู่ ทั้งนี้ตระกูลของพระมารดาได้พยายามที่จะคานอำนาจของทั้งสอง รัชสมัยของหยวนอิงจงฮ่องเต้ได้สานต่อนโยบายการปกครองเทอร์มอยล์ โดยมีเทมูเดอร์กำกับงานภายใต้การดูแลของดากิเหมือนในรัชสมัยก่อน เทมูเดอร์พยายามจะลอบสังหารฮ่องเต้ โดยติดต่อกับหน่วยคุ้มครองที่ชื่ออลัน นับเป็นครั้งแรกที่มองเห็นเค้ารางของความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในการพยายามที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่วนตระกูลคุนกิรัททางพระมารดาเริ่มมีอำนาจและบทบาทสำคัญในศาลนอกเหนือจากกองทัพ เมื่อเทมูเดอร์และดากิตายในปี พ.ศ. 1845 ทำให้ตระกูลคุนกิรัทมีอำนาจมากขึ้น แต่หยวนอิงจงฮ่องเต้ยังคงไม่มีอำนาจอีกเช่นเคย เมื่อหยวนอิงจงฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 1863 ดากิได้แต่งตั้งให้เทมูเดอร์เป็นสมาชิกสภาสูงผู้มีอำนาจเต็ม ทั้งสองพยายามต่อต้านอำนาจของฮ่องเต้และสามารถมีอำนาจเหนือฮ่องเต้ ส่วนหยวนอิงจงฮ่องเต้เองพยายามที่จะให้ขุนนางลัทธิขงจื้อเข้ามามีส่วนในการบริหาร ซึ่งได้รับการต่อต้านจากเทมูเดอร์เช่นเคย จนกระทั่งเทมูเดอร์ตายในอีกสองปีต่อมา บุตรบุญธรรมของเทมูเดอร์ ได้เป็นแกนนำต่อจากเทมูเดอร์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงอีกหลายคน รวมทั้งองค์ชายอีก 5 องค์ ได้แก่ อัลตัน บูคาพระอนุชาขององค์ชายอันไซ อนันดา โบลัดพระนัดดาในอารีคโยเก ออลัคบุตรชายของอนันดา คูลัด บูคา และอูลัสบูคาซึ่งเป็นลูกหลานของมองกี้ข่าน ในขณะที่หยวนอิงจงฮ่องเต้ประทับอยู่ที่พระราชวังฤดูร้อนนานโปและเดินทางจะกลับเมืองหลวงนั้นได้สวรรคต เนื่องด้วยโดนเทคชีโจมตี เทคชีไม่ได้หวังบัลลังก์เอง กลับไปขอร้องให้เยซูนเตมูร์ขึ้นครองราชย์ แต่ทว่าได้รับการปฏิเสธในช่วงแรก เพราะคิดว่า อาจเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดโดนหลอกใช้ #หยวนเหรินจงฮ่องเต้พ.ศ. 1854 - 1863 #พรรณีเกษกมล
#พรรณีเกษกมล
#หยวนเหรินจงฮ่องเต้พ.ศ. 1854 - 1863 หยวนเหรินจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 9แห่งราชวงศ์หยวน หยวนเหรินจงฮ่องเต้ชื่อเดิมคืออายูบาร์ดา บูยานตูข่าน ประสูติวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 1829 เป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ขององค์ชายดารมาบาลา กับดากิเป็นหลานชายคนโปรดของกุบไลข่าน ได้รับการอบรมจากหลี่หมิงนักวิชาการขงจื้อและมีอิทธิพลทางความคิดในกาลต่อมา หยวนเหรินจงฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ 25 พรรษา ด้วยการสนับสนุนจากฮองเฮาของฮ่องเต้องค์ที่ 2 หยวนเฉินจงฮ่องเต้และพระเชษฐาฮ่องเต้องค์ที่ 3 หยวนหวู่จงฮ่องเต้ สวรรคตเมื่อพระชนม์ 34 พรรษา วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 1863 พ.ศ. 1848 อายูบาร์ดา บูยานตูได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองโฮนันในฐานะองค์ชายฮวยหนิง บูรูแกนภรรยาม่ายของเตมูร์ข่านวางแผนการที่จะกีดกันพระโอรสทั้งสองขององค์ชายดารมาบาลา โดยส่งไปให้อยู่กับอนันดา เมื่อทั้งสองได้กลับมาเมืองหลวงต้าตูอีกครั้ง ได้วางแผนกลยุทธิ์จับ อนันดากับบูรูแกนขังแทน แล้วให้พระเชษฐาเป็นหยวนหวู่จงฮ่องเต้ ส่วนตัวเองเป็นองค์รัชทายาทและทำหน้าที่เป็นแกนนำในรัฐบาลกลาง มีนักวิชาการชาวจีนที่รายล้อมรอบพระองค์คอยให้คำปรึกษาในทุกด้าน หยวนเหรินจงฮ่องเต้นับเป็นข่านองค์ที่ 8 ของชาวมองโกลในมองโกเลีย ความหมายของชื่อในภาษามองโกลหมายถึงเป็นข่านที่ดีและมีความสุข ส่วนคำว่า อายูบาร์ดามาจากภาษาสันสกฤต มีความหมายว่าเป็นภูเขาที่ทอดยาว ซึ่งต่างจากคำว่าเหรินจงเล็กน้อย ในภาษาจีนจะหมายถึงภูเขาและทะเล หยวนเหรินจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์แรกในราชวงศ์หยวนที่ยกย่องขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวจีน และเพิ่มระบบการตรวจสอบทางแพ่งสำหรับราชวงศ์ ถึงแม้จะเป็นชาวมองโกลโดยสายเลือด และอยู่ในราชสำนักที่เคร่งครัดในจารีตของชาวมองโกล พระองค์ทรงเก่งในภาษาจีนทั้งอ่านและเขียน เข้าใจในประวัติศาสตร์และขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวจีนเป็นอย่างมาก เข้าใจลัทธิขงจื้อเพราะมีครูจีนที่อยู่ในลัทธิขงจื้อ มาอบรมบ่มเพาะตั้งแต่อยู่ในวัยเยาว์ ทรงซาบซึ้งในศิลปะภาพวาดจีน ตัวอักษรจีน จริยธรรมทางการเมืองการปกครองของขงจื้อซึ่งมักจะคิดเห็นตรงข้ามและขัดแย้งกับพระเชษฐาอยู่เสมอ เมื่ออายูบาร์ดา บูยานตูข่านได้ขึ้นเป็นหยวนเหรินจงฮ่องเต้ ทรงยกเลิกระเบียบแบบแผนการปกครองดั้งเดิม ทำให้ส่งผลต่อตำแหน่ง 5 เจ้ากรมใหญ่ และเงินตราสกุลชิดากับเหรียญที่ใช้ในรัชกาลก่อน หันกลับมาใช้เงินตราสกุลจงทงกับจิหยวนแทน ลดตำแหน่งข้าราชการให้เหลือน้อยลง หยุดโครงการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในรัชกาลก่อน แต่งตั้งให้หลี่หมิงกับจางกุยเป็นที่ปรึกษาใหญ่ในการนำเสนอข้อคิดเห็น เข้าแทรกแซงตลาดการเงินด้วยการยกเลิกระบบการจัดเก็บภาษีแบบดั้งเดิม ในรัชกาลนี้เกิดการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ในหลาย ๆ ด้าน หันกลับมาฟื้นฟูขนบธรรมเนียมเยี่ยงชาวจีน ลัทธิขงจื้อแทนจารีตของชาวมองโกลที่เพิ่งเกิดขึ้นในราชวงศ์หยวน จึงเรียกว่าเป็นยุคลัทธิขงจื้อใหม่ ได้นำปรัชญาแนวคิดในการดำรงชีวิตมาประยุกต์ใช้ ระบบการตรวจสอบราชสำนักที่ใช้ในสมัยกุบไลข่านได้นำมากลับมาใช้อีกครั้ง เหตุผลที่หยวนเหรินจงฮ่องเต้ ปฏิรูปประเทศโดยให้กลับมาใช้ลัทธิขงจื้ออีกครั้ง เพราะเชื่อว่าการปกครองชาวจีน ควรใช้ความเป็นชาวจีนเพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้าน การแข็งขืนที่จะบังคับให้ชาวจีนมาใช้จารีต อย่างชาวมองโกลซึ่งไม่คุ้นเคยจะยิ่งเพิ่มแรงต้านให้มากขึ้น และจะคิดว่าทำไมต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของฮ่องเต้ที่ไม่ใช่ชาวจีน ความคิดทั้งหมดเกิดจากการเรียนรู้จากครูจีนในวัยเยาว์ รู้ว่าอารยธรรมและปรัชญาจีนได้หล่อหลอม และพัฒนามานานนับพันปี ต่างจากมองโกลที่เร่ร่อนตามทะเลทราย การเรียนรู้ในวัยเด็กจะมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตในวัยต่อมา ช่วงต้นรัชกาลพระองค์ได้ส่งเสริมการเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้รัฐด้วยการจัดเก็บภาษี ตามมาด้วยการที่รัฐควบคุมการค้าเกลือและเหล็กกับต่างชาติภายใต้การควบคุมของเทมูรเดอร์ ทว่าผลที่ได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ตั้งใจไว้ การสำรวจพื้นที่การค้าเกลือและจัดระบบโครงสร้างภาษีควรจะทำรายได้ให้มากขึ้น แต่การคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ในทุกภาคส่วนคือตัวปัญหา ช่วงการครองราชย์ได้ปฏิรูปภายใต้ชื่อนโยบายการปกครองเทอร์มอยล์ โดยมีเทมูเดอร์กำกับงาน ภายใต้การดูแลของดากิอีกที ทั้งเทมูเดอร์และดากิมีอำนาจและอิทธิพลในราชสำนักสูงมากในรัชกาลนี้และรัชกาลต่อมา ด้วยสัญชาติญาณของนักรบทะเลทราย ทำให้พระองค์ต้องการขยายดินแดนให้กว้างไกลยิ่งขึ้น การบุกเกาะมาลาบาร์ อาณาจักรของยูนนาน อันนัมหมู่เกาะของญี่ปุ่นภายใต้ชื่อนโยบายจามปา แต่งานนี้ไม่สำเร็จ ก่อนที่หยวนหวู่จงฮ่องเต้จะสวรรคต หยวนเหรินจงฮ่องเต้คงจะทำสัญญากับพระเชษฐาหยวนหวู่จงฮ่องเต้ว่า จะให้พระโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ หยวนเหรินจงฮ่องเต้ไม่ได้รักษาสัญญา และยังให้พระโอรสของหยวนหวู่จงฮ่องเต้ ที่ชื่อทิวช์เตมูร์ กูซารา ออกจากตำแหน่งในรัฐบาลกลางด้วย นอกจากนี้ได้ล้างบางพรรคพวกของหยวนหวู่จงฮ่องเต้และพระโอรสทั้งสองให้หมดสิ้นไปด้วย หลังจากหยวนเหรินจงฮ่องเต้ครองราชย์ได้แต่งตั้งให้พระโอรสของพระองค์ที่ชื่อ ชิดิบาลาเป็นองค์รัชทายาท พ.ศ. 1859 ต่อมาได้ครองราชย์ทรงพระนาม หยวนอิงจงฮ่องเต้ #หยวนหวู่จงฮ่องเต้ พ.ศ. 1850 - 1854 #พรรณีเกษกมล
#พรรณีเกษกมล
#หยวนหวู่จงฮ่องเต้ พ.ศ. 1850 - 1854 หยวนหวู่จงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 8แห่งราชวงศ์หยวน หยวนหวู่จงฮ่องเต้ พระนามเดิม คูลุกข่าน ประสูติวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 1824 เป็นพระโอรสขององค์ชายดารมาบาลา พระเชษฐาของหยวนเฉินจงฮ่องเต้เป็นพระนัดดาของหยวนเฉินจงฮ่องเต้หรือเตมูร์ข่าน ได้ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ 26 พรรษาสวรรคตวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 1854 ตลอดรัชสมัยของหยวนหวู่จงฮ่องเต้มีแต่การแก่งแย่งชิงอำนาจกันระหว่างเชื้อพระวงศ์ ราชวงศ์หยวนจึงอ่อนแอลงเรื่อย ๆ หยวนหวู่จงฮ่องเต้สวรรคตเมื่อพระชนม์ 29 พรรษาอายูบาร์ดา บูยานตูข่านขึ้นครองราชย์แทนเป็นหยวนเหรินจงฮ่องเต้ คงจำกันได้ว่า หยวนเฉินจงฮ่องเต้พยายามแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแต่ทำไม่สำเร็จ ปัญหานี้ยังคงค้างคามาจนถึงรัชกาลนี้ หยวนหวู่จงฮ่องเต้พยายามตัดลดทอนงบประมาณรายจ่ายที่ใช้ในราชการด้วยการออกคำสั่ง พ.ศ. 1850 ลดจำนวนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในโควต้าที่แต่งตั้งในสมัยของหยวนเฉินจงฮ่องเต้ คำสั่งนี้ไม่มีผลในทางปฏิบัติ เพราะยังเกิดการเลื่อนขั้นอย่างมากมายและรวดเร็วเช่นจากระดับ 6 ในสมัยหยวนซื่อจู่ฮ่องเต้ก้าวไปถึงระดับ 23 ในรัชกาลนี้ ตัวของหยวนหวู่จงฮ่องเต้ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ใหม่ ๆ เพิ่มด้วยเพื่อดูแลรักษาวังที่ต้าตูและเฉิงตู เงินที่เป็นกระดาษหรือธนบัตรเริ่มมีปัญหาเลยต้องผลิตเงินเหรียญทองแดงมาแทนที่โดยทำ 2 ชนิด 3 ขนาด ขนาดเล็ก 1 ลิ ขนาดกลาง 10 ลิ และเหรียญที่ผลิตในโอกาสพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองราชวงศ์ถังและซ่งและมีเครื่องหมายสัญลักษณ์ชาวมองโกลกำกับเพื่อไม่ให้ซ้ำกับเหรียญโบราณ เงินเหรียญที่ผลิตนี้เพื่อนำไปใช้ในราชการแต่ยิ่งก่อให้เกิดปัญหาความยุ่งยากมากยิ่งขึ้น รัฐผูกขาดการค้าขายเกลือ ทำให้ราคาเกลือพรวดพราดสูงขึ้นอย่างมากถึงร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับ พ.ศ. 1850 และเรียกเก็บเงินร้อยละ 2 กับตระกูลที่มั่งคั่งในเมืองเชียงหนาน และเรียกเก็บสูงกว่าในรัชกาลก่อน ทำให้เกิดการต่อต้านระบบโควต้า เลยลดจำนวนเลขาใหญ่ที่ทำหน้าที่เก็บภาษีและลดจำนวนข้าราชการลง ด้านศาสนาหยวนหวู่จงฮ่องเต้ โปรดปรานศาสนาพุทธเป็นอันมากถึงขั้นให้มีการแปลหนังสือศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพุทธ ซึ่งน่าจะเป็นพระไตรปิฎกจากภาษาทิเบตโดยลามะชกดิโอซอ เมื่อพระทำผิดจารีตของราชวงศ์ชาวมองโกลไม่ได้สั่งลงโทษแต่อย่างใดรวมทั้งสั่งไม่ให้เก็บภาษีจากวัดพุทธและพวกลัทธิเต๋าด้วย รัชกาลต่อมากลับปฏิเสธสิ่งที่รัชกาลนี้คิดและทำอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่ครองราชย์ได้ 4 ปี หยวนหวู่จงฮ่องเต้สวรรคต หลังจากที่หยวนหวู่จงฮ่องเต้สวรรคตแล้วอายูบาร์ดา บูยานตูข่านขึ้นครองราชย์แทนเป็นหยวนเหรินจงฮ่องเต้ทันที และปฏิเสธที่จะให้พระโอรสองค์โตของหยวนหวู่จงฮ่องเต้ที่ชื่ อทิวช์เตมูร์กูซาราเป็นองค์รัชทายาทพร้อมทั้งให้ออกจากตำแหน่งในรัฐบาลกลางด้วย #หยวนเฉินจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1837 - 1850 #พรรณีเกษกมล
#พรรณีเกษกมล
#หยวนเฉินจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1837 - 1850 หยวนเฉินจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 7แห่งราชวงศ์หยวน หยวนเฉินจงฮ่องเต้ หรือเตมูร์ข่านประสูติวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 1808 เป็นพระนัดดาของกุบไลข่าน เป็นพระโอรสองค์ที่ 3 ขององค์ชายเฉิงจิงมีพระเชษฐา 2 องค์ คือ องค์ชายกัมมาลา กับองค์ชายดารมาบาลา เมื่อพระชนม์ครบ 20 พรรษา พระบิดาหรือองค์ชายเฉิงจิงรัชทายาทเสียชีวิต ทำให้เตมูร์ได้เป็นองค์รัชทายาทสืบแทน จนถึง พ.ศ. 1837 กุบไลข่านสวรรคต เตมูร์ข่านจึงได้ขึ้นครองบัลลังก์ในขณะที่พระชนม์ 29 พรรษา ครองราชย์ได้ 12 ปี สวรรคต เมื่อพระชนม์41 พรรษา ต่อมาพระนัดดาขององค์ชายกัมมาลากับองค์ชายดารมาบาลาได้ครองราชย์เป็นไท่ติงตี้ฮ่องเต้ และหยวนหวู่จงฮ่องเต้กับหยวนเหรินจงฮ่องเต้เพราะหยวนเฉินจงฮ่องเต้สวรรคต โดยไร้ผู้สืบสกุล พระโอรสเตโชวสวรรคตก่อนที่หยวนเฉินจงฮ่องเต้สวรรคตทำให้ลำดับการครองราชย์กลับตกไปที่พระนัดดา ช่วงแรกที่พระบิดาองค์ชายเฉิงจิงยังไม่ได้เป็นองค์รัชทายาทนั้น สิทธิ์การครองราชย์อยู่ที่พระโอรสองค์โตของหยวนซื่อจู่ฮ่องเต้ที่ ชื่อองค์ชายดอร์จิ แต่ทว่าเกิดป่วยและเสียชีวิตกระทันหัน องค์ชายเฉิงจิงพระโอรสองค์ที่ 2 จึงได้เป็นองค์รัชทายาท และเมื่อองค์ชายเฉิงจิงเสียชีวิตอีก ทำให้พระโอรสของพระองค์มีสิทธิ์เป็นองค์รัชทายาท เหตุผลหนึ่งที่เตมูร์พระโอรสองค์ที่ 3 ได้ครองอำนาจ เนื่องจากมีฝีมือทางการรบสูง และได้ออกรบร่วมกับพระอัยกาหลายครั้งในการปราบกบฏและการก่อการจลาจล จนพระอัยกายกย่องว่า ยิ่งใหญ่กว่าเจ้านายทั้งหลาย แต่ไม่เคยได้ประกาศแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาทสืบทอดอำนาจ แม้แต่ตอนที่ส่งไปรบที่มองโกเลีย ไม่ได้ให้สวมชุดเกราะขององค์รัชทายาท ซ้ำยังประกาศว่า ผู้ที่จะได้ขึ้นครองอำนาจ ต้องเป็นผู้ชนะที่ผ่านการแข่งขัน การที่ไม่ได้กำหนดลำดับการสืบครองราชย์ต่อหรือกฎมณเฑียรบาลให้ชัดเจนเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราชวงศ์หยวนวุ่นวายสับสนและมีช่วงการครองอำนาจไม่นานเท่าที่ควร ที่จริงการที่เตมูร์ได้เป็นองค์รัชทายาทแทนพระบิดาและได้เป็นหยวนเฉินจงฮ่องเต้นั้น ไม่ใช่ว่าจะง่ายดายนัก หลังจากที่หยวนซื่อจู่ฮ่องเต้สวรรคต พระโอรสองค์ที่ 2 ขององค์ชายเฉิงจิง หรือองค์ชายดารมาบาลาพระเชษฐาของเตมูร์เสียชีวิตอีก เกิดปัญหาการสืบทอดอำนาจของทายาท ถึงขั้นที่พระสหายของหยวนซื่อจู่ฮ่องเต้ ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องขอให้ศาลพิจารณาเลือกระหว่างองค์ชายกัมมาลาพระโอรสองค์โตกับเตมูร์พระโอรสองค์ที่ 3 ขององค์ชายเฉิงจิง เมื่อต้องแข่งขันกันองค์ชายกัมมาลาพระโอรสองค์โตรู้ว่า ไม่มีทางเอาชนะพระโอรสของพระอนุชาได้ จึงประกาศยอมแพ้ทั้งที่ในใจอยากขึ้นครองบัลลังก์เช่นกัน เมื่อตอนเป็นเด็กนั้นเตมูร์เป็นคนที่ชอบเที่ยวเตร่เฮฮา ติดยา สำมะเลเทเมา ไม่ได้มีความเป็นสุภาพบุรุษ ส่วนองค์ชายกัมมาลาเป็นคนพูดติดอ่าง ตะกุกตะกักและไม่เก่งการรบเท่า แต่พระมารดารวมทั้งเจ้าขุนมูลนายทั้งหลายต่างนิยมชมชอบในบุคลิกของเตมูร์มากกว่า อย่าลืมว่าโดยเชื้อสายของราชวงศ์เป็นนักรบทะเลทราย ไม่ใช่ผู้ดีที่เติบโตมาในรั้วในวังที่อ่อนนุ่มนิ่มปวกเปียกไร้น้ำยาและเก่งแต่วิชาการ อย่างไรก็ตามเมื่อเตมูร์ได้เป็นข่าน และฮ่องเต้ได้ทำตนสมกับเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์หยวน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขยายดินแดนให้มากกว่ารัชกาลก่อนแต่ได้เริ่มต้นปฏิรูประบบเศรษฐกิจ และให้รอดพ้นจากเศรษฐกิจของเวียดนาม ในยุคนี้มีคนหลายเผ่าพันธุ์ที่เข้ามาทำมาค้าขาย เช่น พวกมองโกล จีนฮั่น มุสลิม คริสเตียน ไม่ว่าหยวนเฉินจงฮ่องเต้จะใช้ความพยายามมากเท่าไรในการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ แต่สถานการณ์ทางการคลังไม่ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการคล่องตัวของระบบเงินตราภายในประเทศกลับยิ่งแย่ลง ปัญหาที่แก้ไม่ได้คือการคอรรัปชันฉ้อราษฏร์บังหลวงของเจ้าหน้าที่ระดับต่าง ๆ หยวนเฉินจงฮ่องเต้ใช้หลักการคิดตามแบบลัทธิขงจื้อในการบริหารจัดการ เพื่อการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ รวมทั้งยกย่องลัทธิเต๋าให้เป็นหนึ่งในศาสนาที่ผู้คนจะนับถือได้ ในสมัยของพระอัยกาได้ต่อต้านลัทธิเต๋าอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้กลุ่มที่นับถือออร์โธดอกซ์ทำพิธีบูชาได้ แต่สั่งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในมองโกเลีย พ.ศ. 1841 ได้สั่งยกเลิกภาษี 1 ปี และจัดระบบเก็บภาษีใหม่ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำหรับทิเบต หยวนเฉินจงฮ่องเต้ได้ยกย่องให้เกียรติมาก รวมทั้งได้ยอมรับให้ลูกหลานของตระกูลขอนแห่งทิเบตมาเป็นส่วนหนึ่งของราชสำนัก โดยให้เป็นพระโอรสบุญธรรม พ.ศ. 1840 ได้สร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองด้วยการทำสัญญาสงบศึกกับเพื่อนบ้าน เช่น ไดเวียดกับจามปา #หยวนเสียนจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1794 1802 #พรรณีเกษกมล
#พรรณีเกษกมล #หยวนเสียนจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1794 – 1802 หยวนเสียนจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์หยวน หยวนเสียนจงฮ่องเต้พระนามเดิมมองเกอข่าน เป็นพระโอรสของฮ่องเต้องค์ที่ 4 หยวนติ้งจงฮ่องเต้ ภายหลังจากสิ้นบุญพระบิดา โอกูล ไคมิชฮองเฮาผู้ซึ่งครองมองโกลหลังจากสิ้นพระสวามีได้แต่งงานใหม่กับนายพลเอลจิไกได และขอเจริญสัมพันธไมตรีต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศสขอเป็นพันธมิตรเพื่อให้ช่วยปราบมุสลิม แต่ไม่เป็นไปตามที่นางต้องการ การณ์ครั้งนี้แสดงถึงความอ่อนแอของนางที่ไม่สามารถปกครองประเทศและทำให้มองโกลอ่อนแอตามไปด้วย จึงเกิดแรงต้านที่ไม่ต้องการให้นางมีอำนาจสูงสุด ฝ่ายบาตูผู้ซึ่งครั้งหนึ่งต้องการมีอำนาจในบัลลังก์เช่นกัน ได้เปลี่ยนแนวทางใหม่ โดยยกให้มองเกอได้เป็นข่านแทนตน จัดการให้มีการเลือกตั้ง ข่านองค์ใหม่ที่เมืองอลา คามาคในอูรัสของโจชิ มองเกอเป็นข่านสมความตั้งใจ แต่มีหรือที่โอกูล ไคมิชผู้ซึ่งกำลังมีอำนาจล้นฟ้าจะยอมง่าย ๆ นางไม่ยอมรับมติในครั้งนี้ โดยนางอ้างว่า ผู้แทนในการเลือกข่านไม่ครบถ้วน ยังขาดผู้แทนที่สำคัญหลายคน ไม่ว่าจะเป็นนาง ลูกชาย ชายมันและส่งบาลาเป็นทูตไปเจรจาให้ยกเลิกการเลือกข่านในครั้งนี้เสีย การแย่งชิงอำนาจระหว่างขั้วของอำนาจใหญ่ ๆ 2 ฝ่าย คงไม่มีใครยอมความกันง่าย ๆ ทางฝ่ายของโอกูล ไคมิช อดีตฮองเฮาต้องการอำนาจในตัวเองหรืออย่างน้อยให้พระโอรสของนางได้ครองราชย์ ส่วนบาตูได้เข้าแข่งขัน แต่ส่งตัวแทน เมื่อเกมการเมืองฝ่ายบาตูสามารถทำให้คณะกรรมการเลือกให้ฝ่ายบาตูชนะ เมื่อบาตูยืนยันความถูกต้องและครองอำนาจได้ จึงจัดการเก็บศัตรูทางการเมืองเสียให้สิ้นเสียงค้าน หลังจากที่มองเกอข่านได้รับเลือกให้เป็นข่านแล้ว ทั้งโอกูล ไคมิช ลูกชายของนาง และชายมันต่างยังคงต่อต้านไม่จบสิ้น การจัดการกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามจึงเกิดขึ้น โคจาพระโอรสของกูยุกข่านโดนเนรเทศไปยังเมืองจีนตอนใต้ และมีคำสั่งประหารชายมัน ส่วนโอกูล ไคมิชและแม่ของชายมัน ถูกส่งตัวไปศาล ฝากขังและโดนจับกุม สุดท้ายโดนสั่งประหารเช่นกัน และโดนจับถ่วงในแม่น้ำ แม้ว่านางจะพยายามหาพรรคพวกเดิม ๆ ให้ช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วยนางได้ ถ้าวันที่กูยุกข่านสวรรคตใหม่ ๆ และนางไม่บ้าอำนาจ ไม่อยากให้อำนาจมาอยู่กับนางนานจนเกินไป และนางไม่แต่งงานใหม่ เหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้ |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |