All Blog
เหลียงไท่จู่ฮ่องเต้ พ.ศ. 1450 – 1455
เหลียงไท่จู่ฮ่องเต้ พ.ศ. 1450 – 1455
            เหลียงไท่จู่ฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์แรกแห่งราชวงศ์โฮ่วเหลียง
            เหลียงไท่จู่ฮ่องเต้ประสูติ พ.ศ. 1395 พระนามเดิมจูเฉวียนจง เป็นขุนพลของกบฏกลุ่มหวงเฉา ต่อมาเปลี่ยนใจหันไปสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ถัง ได้ตำแหน่งปลอบใจเป็นรองหัวหน้าหน่วยปราบปรามกบฏ อีกหนึ่งปีต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพรักษาดินแดนหน่วยเซวียนอู่ พ.ศ. 1427 เหลียงไท่จูได้ร่วมมือกับหัวหน้าเผ่าซาถัวที่ชื่อหลี่เค่อเย่อและหลี่เม่าเจินปราบกบฏที่เหอตง ว่ากันว่ากองกำลังที่มีขุนพลทั้งสามนี้เป็นกองทัพที่เข้มแข็งที่สุด
เมื่อปราบกบฏสำเร็จได้รับความดีความชอบพร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นจูเฉวียนจง ซึ่งมีความหมายว่าผู้จงรักภักดี แต่ความหมายนี้ช่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่เป็นจริงเพราะสองครั้งสองคราใหญ่ ๆ ไม่ได้แสดงว่าเป็นผู้จงรักภักดีเลย ครั้งแรกได้หักหลังพวกเดียวกันแล้วไปเข้าข้างศัตรูหันมาทำร้ายพวกเดียวกัน ครั้งที่สองฆ่าผู้ที่ไปเข้าร่วมด้วยแล้วตั้งตนเป็นใหญ่แทนที่
ความสงบสุขบนแผ่นดินไม่ได้เกิดขึ้นแม้ว่ากบฏจะหมดสิ้นไปแล้วก็ตาม การแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่นภายในราชสำนักยังคงมีอยู่ จูเฉวียนจงสบโอกาสที่จะยึดอำนาจมาเป็นของตนเพื่อที่จะได้เป็นใหญ่ด้วยตัวของตัวเอง
จูเฉวียนจงสังหารถังเจาจงฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระบิดาของถังอัยตี้ฮ่องเต้แล้วแต่งตั้งให้ถังอัยตี้เป็นฮ่องเต้แต่เพียงในนามเท่านั้นภายใต้การบงการของจูเฉวียนจงและเสนาบดีชุยยิ่น
            เมื่อถังอัยตี้ฮ่องเต้ครองราชย์ได้ 3 ปี จูเฉวียนจงจึงปราบดาภิเษกตั้งตนเป็นฮ่องเต้แห่งราชวงศ์โฮ่ว
เหลียงครองอำนาจเป็นฮ่องเต้ซะเอง ราชวงศ์ถังจึงล่มสลายลงในรัชสมัยของถังอัยตี้ฮ่องเต้
            ราชวงศ์โฮ่วเหลียงเป็นราชวงศ์แรกแห่งยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักรซึ่งเป็นยุคที่แต่ละราชวงศ์มีอายุสั้น ๆ ไม่กี่องค์ก็สิ้นแต่ละราชวงศ์ ราชวงศ์โฮ่วเหลียงเองมีผู้มีอำนาจ 3 องค์ แต่ได้แต่งตั้งเป็นฮ่องเต้ 2 องค์เท่านั้น
ไม่รู้ว่าบาปกรรมมีจริงหรือไม่ เมื่อได้สิ่งมีค่ามาโดยไม่ชอบธรรมมักจะโดนแย่งไปเช่นเดียวกัน เหลียงไท่จู่ฮ่องเต้ครองอำนาจได้ไม่นาน เมื่อมีพระชนม์ 60 พรรษา พ.ศ. 1455 พระโอรสชื่อจูหยูกุ้ยได้แย่งชิงราชสมบัติด้วยการลอบปลงพระชนม์และคิดจะขึ้นครองราชย์สืบต่อมาเพื่อที่จะเป็นฮ่องเต้องค์ที่ 2 แต่โดนพระอนุชาแย่งชิงต่ออีกทอดหนึ่ง จูหยูกุ้ยจึงอดได้เป็นฮ่องเต้ การทำปิตุฆาตชาวพุทธถือกันว่าเป็นบาปมหันต์ แต่เมื่อหวังในอำนาจลาภยศทำให้เกิดสิ่งที่ไม่น่าเกิดได้
 



Create Date : 11 สิงหาคม 2562
Last Update : 11 สิงหาคม 2562 6:50:58 น.
Counter : 993 Pageviews.

0 comment
ยุคห้าราชวงศ์ สิบอาณาจักร พ.ศ. 1450 – 1503
ยุคห้าราชวงศ์ สิบอาณาจักร พ.ศ. 1450 – 1503
 
          ราชวงศ์ถังทำให้ประเทศจีนมั่งคั่งและมั่นคงสามารถรวมผืนแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวและครอบครองอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาล แต่เมื่อถึงช่วงปลายราชวงศ์ถัง บ้านเมืองระส่ำระสายมากมายมีทั้งกบฏภายในและภายนอกรวมทั้งเกิดอำนาจมืดภายในราชสำนักที่ควบคุมอำนาจของฮ่องเต้
ช่วงนี้เองที่เกิดกลุ่มก้อนอำนาจทางการเมืองได้แย่งกันตั้งราชวงศ์เพื่อแสดงความเป็นใหญ่ได้ถึง 5 ราชวงศ์ สิบอาณาจักร คือ ราชวงศ์เหลียง ถัง จิ้น ฮั่น และโจว มีแผ่นดินในปกครองแถบลุ่มแม่น้ำฮวงโห ประวัติศาสตร์จีนช่วงนี้ไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียว ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่ลำบากยากแค้น นับเป็นจุดตกต่ำอีกจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน
นักประวัติศาสตร์จะเรียกราชวงศ์ในยุคห้าราชวงศ์ว่า ราชวงศ์โฮ่วเหลียง โฮ่วถัง โฮ่วจิ้น โฮ่วฮั่น และโฮ่วโจว คำว่าโฮ่วมีความหมายว่ามาทีหลังหรือภายหลัง เพราะบางตระกูลหรือราชวงศ์ใช้แซ่เดียวกันแต่มีอำนาจในช่วงเวลาที่ต่างกัน เช่น เหลียง ถัง จิ้น ฮั่น โจว มีอำนาจในช่วงแรกแต่ราชวงศ์โฮ่วเหลียง โฮ่วถัง โฮ่วจิ้น โฮ่วฮั่น และโฮ่วโจวมีอำนาจในช่วงหลัง ส่วนคำว่าเป่ยหมายถึงทางตอนเหนือ ทิศเหนือ
ยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร พระนามฮ่องเต้หลายองค์อาจเป็นเพียงพระนามเรียกขานไม่ใช่พระนามแต่งตั้ง ถ้าเป็นพระนามแต่งตั้งในแต่ละราชวงศ์มักจะเรียกขานคล้าย ๆ กัน
ยุคนี้เริ่มต้นด้วยจูเฉวียนจงล้มล้างราชวงศ์ถังตั้งราชวงศ์โฮ่วเหลียง ปราบดาภิเษกเป็นจูไท่จู่ฮ่องเต้ครองอำนาจตั้งแต่ พ.ศ. 1450 ถึง พ.ศ. 1455 ราชวงศ์โฮ่วเหลียงสิ้นสุดเร็วเพราะเกิดการแย่งชิงอำนาจภายในราชสำนัก จูหยูกุ้ยขึ้นครองอำนาจและจูหยูเจินขึ้นครองอำนาจต่อมา สิ้นสุดราชวงศ์โฮ่วเหลียงที่ครองอำนาจในช่วง พ.ศ. 1450 ถึง พ.ศ. 1466
หลี่เค่อเย่อมีอำนาจต่อมา เดิมปักหลักอยู่ที่เมืองไท่หยวน มีบุตรชายที่ชื่อหลี่ฉุนซี่ว์ได้นำกองกำลังเข้ายึดดินแดนเหอเป่ย สถาปนาราชวงศ์โฮ่วถัง ครองอำนาจปกครองจีนระหว่าง พ.ศ. 1466 ถึง พ.ศ. 1469 หลี่ฉุนซี่ว์ได้เข้ายึดเมืองไคเฟิงหลังจากที่ราชวงศ์โฮ่วเหลียงล่มสลายแล้ว หลังจากนั้นได้ย้ายเมืองหลวงจากนครไคเฟิงไปที่นครลั่วหยาง สถาปนาเป็นถังจวงจงฮ่องเต้ เข้ายึดครองแคว้นเฉียนสู รัชกาลนี้เริ่มต้นด้วยดีแต่ไปไม่รอดด้วยมีขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงทำให้บ้านเมืองวุ่นวายสับสน ที่จริงการทุจริตคอร์รัปชันฉ้อราษฎร์บังหลวงมีอยู่ในทุกยุคทุกสมัยถ้ามีไม่มากจนเกินไปบ้านเมืองยังพอไปรอดอยู่แต่ถ้ามีมากจนฟันเฟืองในการทำงานหยุดชะงักก็มีเหตุทำให้บ้านเมืองล่มสลายได้เหมือนกัน หลี่ซื่อหยวนบุตรบุญธรรมของหลี่เค่อเย่อจึงขึ้นครองอำนาจต่อนามว่าถังหมิงจงฮ่องเต้ บ้านเมืองเริ่มสงบขึ้น แต่เมื่อสิ้นถังหมิงจงฮ่องเต้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง
สือจิ้งถังราชบุตรเขยในถังหมิงจงฮ่องเต้เป็นแม่ทัพเมืองเหอตงหันไปสวามิภักดิ์ต่อชนเผ่าคีตัน ยกย่องให้เยลี่ว์เต๋อกวงหัวหน้าชนเผ่าคีตันยิ่งใหญ่เปรียบประดุจพ่อของตนเอง แค่นี้ยังไม่พอยังได้เอ่ยปากจะยกดินแดนเหอเป่ย ซันซี และมองโกเลียในอีก 16 เมืองให้อีก พร้อมทั้งผ้าไหมแพรพรรณมากมาย ผ้าไหมแพรพรรณในสมัยนั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงยิ่งการให้ผ้าไหมแพรพรรณจึงนับว่าให้สิ่งที่ดีที่สุด และม้าศึกเป็นเครื่องบรรณาการ การให้ที่มากมายเช่นนี้สือจิ้งถังคงหวังจะได้ความช่วยเหลือจากเยลี่ว์เต๋อกวงหัวหน้าชนเผ่าคีตันเป็นแน่แท้ และเป็นเช่นดังคาดเพราะสือจิ้งถังได้ตั้งราชวงศ์โฮ่วจิ้นที่เมืองไท่หยวน ต่อจากนั้นบุกต่อไปยังนครลั่วหยางทำให้ราชวงศ์โฮ่วถังสิ้น คงคิดว่าเป็นบุตรเขยคงไม่มีโอกาสได้เป็นฮ่องเต้จึงคิดอยากมีอำนาจด้วยตนเอง ราชวงศ์โฮ่วจิ้นมีอำนาจในช่วง พ.ศ. 1479 ถึง พ.ศ. 1490
ราชวงศ์โฮ่วจิ้นย้ายเมืองหลวงกลับไปยังนครไคเฟิงอีกครั้ง ยุคนี้ราชวงศ์โฮ่วจิ้นและชาวบ้านไม่ได้สุขสบายเนื่องจากอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง และราชสำนักต้องส่งบรรณาการไปให้ชนเผ่าคีตัน ชาวบ้านยากจนมาก ๆ เมื่อสิ้นสือจิ้งถังแล้วสือฉงกุ้ยพระนัดดาได้ครองอำนาจต่อ ชนเผ่าคีตันหาเรื่องยกทัพบุกลงใต้เพื่อปราบสือฉงกุ้ย สู้รบกันไปสู้รบกันมากินเวลานานถึง 5 ปี พอถึงสิ้นปี พ.ศ. 1489 เป็นอันสิ้นสุดสงครามกองทัพของชนเผ่าคีตันบุกนครไคเฟิงทำให้ราชวงศ์โฮ่วจิ้นล่มสลาย
            เยลี่ว์เต๋อกวงหรือเยลี่ว์อาเป่าจีหัวหน้าชนเผ่าคีตันได้สถาปนาแคว้นเหลียวที่นครไคเฟิงและได้ครอบครองดินแดนที่เคยเป็นของคนอื่นแล้วใช้วิธีที่โหดเหี้ยมทารุณปล้นสะดมเข่นฆ่าชาวบ้านตาดำ ๆ
การที่ชาวบ้านโดนรังแกโดยไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่หรือมีผลประโยชน์ใดแอบแฝงไม่ได้มีผลประโยชน์อันใดเกี่ยวข้องด้วยเลยกับที่แคว้นเหลียวจะได้รับนั้นย่อมสร้างพลังเงียบให้เกิดกับชาวบ้านเหล่านั้นได้ ด้วยความคับแค้นใจเหลือจะทนทำให้ชาวบ้านมารวมตัวกันต่อสู้กับทัพเหลียว ชาวบ้านสู้กับทหาร มือเปล่าสู้กับอาวุธแต่ผลปรากฏว่าชาวบ้านทำให้ทหารเหลียวล่าถอยหนีทัพกลับขึ้นทางเหนือได้แสดงว่าแม้แต่มือเปล่าของชาวบ้านตาดำ ๆ ที่แฝงเร้นไปด้วยพลังแห่งความโกรธแค้นและเกลียดชังสามารถเอาชนะทหารที่มีอาวุธแต่ทำตามคำสั่งได้
            ภาคกลางขาดราชวงศ์หรือผู้มีอำนาจ หลิวจือหย่วนแม่ทัพคุมเมืองเหอตงจึงขอขึ้นมามีอำนาจแทน พ.ศ. 1490 ประกาศตนเป็นฮ่องเต้ราชวงศ์โฮ่วฮั่น ได้ครองอำนาจช่วง พ.ศ. 1494 ถึง พ.ศ. 1503
            ส่วนกัวเวยสถาปนาราชวงศ์โฮ่วโจว พ.ศ. 1494 เมืองหลวงของราชวงศ์โฮ่วโจวอยู่ที่นครไคเฟิง
กัวเวยทำให้บ้านเมืองสงบสุข ส่งเสริมคนดีทำลายคนชั่ว เมื่อสิ้นกัวเวย พ.ศ. 1497 ไฉหรงบุตรชายได้ขึ้นมามีอำนาจแทน ทรงพระนามโจวซื่อจงฮ่องเต้ ทรงเป็นฮ่องเต้ที่ดี เมื่อสวรรคตนั้นพระโอรสวัย 7 ชันษาขึ้นมามีอำนาจแทนทรงพระนามโจวกงตี้ฮ่องเต้
พ.ศ. 1503 เจ้ากวงอิ้นชิงอำนาจจากราชวงศ์โจวสถาปนาราชวงศ์ซ่งหรือซ้อง ตั้งตนเป็นเป็นซ่งไท่จู่ฮ่องเต้รวบรวมอาณาจักรทั้งหมดเข้าด้วยกัน ใช้เวลาทั้งหมด 20 ปี จึงรวมจีนให้เป็นหนึ่งเดียวได้
ความเจริญของประเทศจึงเปลี่ยนผ่านจากภาคเหนือลงมาสู่ภาคใต้ จากแม่น้ำแม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำเหลืองลงสู่เขตลุ่มแม่น้ำฉางเจียงหรือแยงซีทำให้การขยายตัวของเมืองและการคมนาคมทางน้ำเจริญเติบโตตามไปด้วย
 



Create Date : 11 สิงหาคม 2562
Last Update : 11 สิงหาคม 2562 5:48:32 น.
Counter : 1362 Pageviews.

0 comment
ชนเผ่าตี
ชนเผ่าตี
            ชนเผ่าที่สามารถตั้งตนเป็นอิสระชนเผ่าแรกได้แก่ชนเผ่าตี ผู้นำคือหลี่เท่อ เมื่อจิ้นอู่ตี้แห่งราชวงศ์จิ้นตะวันตกสวรรคต บรรดาเชื้อพระวงศ์ต่างแย่งชิงอำนาจกันวุ่นวาย พอดีเกิดภัยพิบัติแห้งแล้งหนักมาก ชาวบ้านทนแล้งไม่ไหวจึงพากันอพยพลงใต้จนถึงมณฑลเสฉวน ผู้นำชาวบ้านกลุ่มนี้คือตระกูลหลี่
            ขุนนางท้องถิ่นทางใต้เห็นชาวบ้านที่นำโดยตระกูลหลี่อพยพลงมากันมากได้พยายามให้พวกเขาขึ้นเหนือเหมือนเดิม แต่ทางเหนือเกิดจลาจลเจ้า 8 อ๋องอีก ชาวบ้านที่นำโดยตระกูลหลี่จึงไม่ยินยอมเพราะมองเห็นว่ามณฑลเสฉวนอุดมสมบูรณ์กว่าทางเหนือมาก ผู้นำตระกูลหลี่พาชาวบ้านกลุ่มนี้ยึดเมืองเฉิงตูซะเลยอยากเรื่องมากกันนัก ใคร ๆ ก็อยากอยู่ทำมาหากินในที่ที่มันอุดมสมบูรณ์ดีไม่มีผู้นำที่ทะเลาะเบาะแว้งกันเช่นเจ้า 8 อ๋อง พ.ศ. 846 ผู้นำตระกูลหลี่สถาปนาแคว้นเฉิงฮั่น นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสถาปนาแคว้นต่าง ๆ ตามมา
เมื่อผู้นำตระกูลหลี่สถาปนาแคว้นเฉิงฮั่น สือเล่อขุนพลหลิวหยวนสถาปนาแคว้นสือเจ้าแล้วหรั่นหมินสถาปนาแคว้นหรั่นวุ่ยแทนที่แคว้นสือเจ้า ชนเผ่าตีโดยผูหงได้สถาปนาแคว้นเฉียนฉินเดิมผูหงเป็นขุนศึกของหลิวเย่าแคว้นฮั่นเจ้า เมื่อแคว้นฮั่นเจ้าล่มสลายเพราะสือเล่อแล้ว ผูหงได้มาอยู่กับสือเล่อและควบคุมชนเผ่าตีซึ่งเป็นกลุ่มคนจำนวนมาก วันดีคืนดีเมื่อแคว้นสือเจ้าวุ่นวายเพราะลูกหลานตระกูลสือ หรั่นหมินได้แยกตัวออกไปแล้วคนหนึ่ง ผูหงได้แยกตัวออกมาเช่นกันเปลี่ยนชื่อแซ่เป็นฝูหง เมื่อสิ้นบุญฝูหงแล้วฝูเจียนผู้บุตรชายได้ครองอำนาจแทนนำชนเผ่าตีเข้าบุกนครฉางอานจากราชวงศ์จิ้นตะวันออกได้ สถาปนาเป็นแคว้นเฉียนฉินในปี พ.ศ. 894
 



Create Date : 10 สิงหาคม 2562
Last Update : 10 สิงหาคม 2562 10:02:23 น.
Counter : 1109 Pageviews.

0 comment
ยุคห้าชนเผ่า พ.ศ. 847 – 982
ยุคห้าชนเผ่า พ.ศ. 847 – 982
 
          ก่อนที่จะเกิดราชวงศ์จิ้นนั้นเป็นยุคที่ประเทศจีนแบ่งเป็นสามก๊ก และเมื่อราชวงศ์จิ้นตะวันตกล่มสลายทำให้แผ่นดินจีนแตกแยกเป็น 16 แคว้น 5 ชนเผ่า ซึ่งดูแล้วยิ่งแตกแยกมากกว่าเดิมเสียอีก ราชวงศ์จิ้นตะวันตกได้ย้ายเมืองหลวงลงไปทางใต้ตั้งราชวงศ์จิ้นตะวันออก พ.ศ. 860 – 963 ทางตอนเหนือยังคงวุ่นวายด้วยชนเผ่าต่าง ๆ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมานานพอสมควร
5 ชนเผ่า ได้แก่ ซงหนู เซียนเปย เจี๋ย ตี เชียง  
16 แคว้น ที่ชนเผ่าทั้งห้าปกครองได้แก่
ชนเผ่าซงหนูปกครอง แคว้นฮั่นเจ้า แคว้นเซี่ย แคว้นเป่ยเหลียง   
            ชนเผ่าเซียนเปยปกครอง แคว้นเฉียนเอี้ยน แคว้นโฮ่วเอี้ยน แคว้นซีเอี้ยน แคว้นซีฉิน 
แคว้นหนันเหลียง แคว้นหนันเอี้ยน แคว้นไต้
ชนเผ่าเจี๋ยปกครอง แคว้น สือเจ้า
ชนเผ่าตีปกครอง แคว้นเฉิงฮั่น แคว้นเฉียนฉิน   แคว้น.โฮ่วเหลียง      
ชนเผ่าเชียงปกครอง แคว้นโฮ่วฉิน   
ชาวฮั่นปกครองแคว้นเฉียนเหลียง แคว้นหรั่นวุ่ย แคว้นซีเหลียง แคว้นซีสู แคว้นเป่ย
แคว้นเอี้ยน   
            ในยุคนี้ถึงแม้จะเกิดสงครามระหว่างชนเผ่าต่าง ๆ ถึง 5 ชนเผ่าก็ตามดูเหมือนกับจะไม่ดีแต่ผลในทางดีมีเช่นกันเพราะทำให้เกิดการหลอมรวมทางวัฒนธรรมระหว่างชนเผ่าต่าง ๆ ไปในตัว โดยธรรมชาติจะไม่มีสิ่งดีงามทุกเรื่องหรือมีแต่สิ่งเลวร้ายทุกเรื่องราว เพราะสิ่งดีงามอาจเกิดขึ้นภายใต้สิ่งเลวร้าย ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเลวร้ายทุกเรื่อง และสิ่งเลวร้ายอาจเกิดขึ้นภายใต้สิ่งดีงาม ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะดีงามทุกเรื่อง
 



Create Date : 10 สิงหาคม 2562
Last Update : 10 สิงหาคม 2562 10:01:23 น.
Counter : 1301 Pageviews.

0 comment
ฮั่นเฉิงตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 510 - 536
ฮั่นเฉิงตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 510 - 536
            ฮั่นเฉิงตี้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ฮั่น
            ฮั่นเฉิงตี้เป็นพระโอรสในฮั่นหยวนตี้และหวังไทเฮา พระนามเดิมคือองค์ชายหลิวอาว
            ขณะที่ฮั่นเฉิงตี้ขึ้นครองบัลลังก์นั้นมีพระชนม์ 18 พรรษา กำลังหนุ่มแน่น และตื่นเต้นกับความสุขในเพศรส ทำให้ทรงหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวทางโลกีย์และอิสตรี ทรงหลงใหลในสนม 2 คนที่เป็นพี่น้องนางรำทั้งคู่ คนพี่ชื่อเจ้าเฟยเอี๋ยน และคนน้องชื่อเจ้าเหอเต๋อ
            การอบรมเลี้ยงดูที่ดีย่อมนำมาซึ่งบุคลิกแห่งความองอาจสมเป็นผู้นำ แต่นี่กลับปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุเช่นนี้ได้ ไม่รู้ว่าใครมีเจตนาให้ฮ่องเต้ไม่ใส่ใจในงานบ้านงานเมือง เอาแต่หมกมุ่นกับหญิงนางรำ หรือเป็นลิขิตสวรรค์บันดาลดลให้เป็นไปเช่นนี้หนอ
            ในรัชสมัยนี้ผู้ที่ครองอำนาจในราชสำนักคือหวังไทเฮา พลอยทำให้อำนาจทางการเมืองและการปกครองประเทศส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การบงการของตระกูลหวัง ซึ่งเป็นญาติทางพระมารดาของฮ่องเต้
            หวังหมั่งกลายเป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริง ครองตำแหน่งหัวหน้าทางการทหารและพลาธิการ และสามารถสืบทอดอำนาจของตระกูลหวังได้ตลอดมา จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์
            จุดเริ่มต้นแห่งอำนาจที่หวังหมั่งมีนั้นเทียบเท่าฮ่องเต้ ด้วยฮั่นเฉิงตี้ไม่ได้ใส่ใจในงานเมืองแม้สักนิด และอำนาจที่มีทำให้หวังหมั่งลำพองใจและใฝ่ปองของสูงตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
            ไม่รู้ว่าหวังไทเฮากับหวังหมั่ง ใครกันแน่คือตัวบงการที่แท้จริง ที่ทำให้ประวัติศาสตร์จีนพลิกผันไปได้ หวังไทเฮาเป็นหญิงที่ไม่ได้เรื่องจึงปล่อยให้อำนาจตกอยู่ในมือของหวังหมั่งดดยไม่สามารถปกป้องลูกของตนเอง หรือฉลาดมากที่ต้องการกุมอำนาจไว้ในกำมือตน ใครรู้ช่วยบอกที
            ตระกูลหวังจัดว่าเป็นตระกูลของเศรษฐีที่มีเงินทองสูงสุดในขณะนั้น และมีอำนาจล้นฟ้า ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ได้ครองอำนาจแล้วย่อมทะยานอยากให้ถึงที่สุดแห่งอำนาจ
            หวังหมั่งเลยได้เป็นฮ่องเต้ราชวงศ์ซิน ด้วยการฮุบเอาอำนาจทั้งหมดมาเป็นของตน จากญาติของหวังไทเฮาเป็นซินเกาจู่
            เมื่อมีอำนาจอย่าไว้ใจคนใกล้เคียงให้มากนัก เพราะอาจโดนแย่งอำนาจไปได้อย่างง่าย ๆ
            รัชสมัยของฮั่นเฉิงตี้ ราชวงศ์ฮั่นเริ่มอ่อนแอลง สบโอกาสให้หวังหมั่งยึดอำนาจมาเป็นของตน แต่ยังไม่สำเร็จ ด้วยฮั่นเฉิงตี้สวรรคต พอถึงรัชสมัยฮั่นอัยตี้ บ้านเมืองยิ่งย่ำแย่กว่าเดิม ส่วนหวังหมั่งมีอำนาจมากขึ้น
            มีขึ้นย่อมมีลง ขณะนี้ราชวงศ์ฮั่นเริ่มถดถอย อยู่ในขาลง และจะลงไปถึงจุดต่ำสุดเมื่อใดใครจะรู้ แล้วใครจะได้ขึ้นแทน
 



Create Date : 30 กรกฎาคม 2562
Last Update : 30 กรกฎาคม 2562 10:27:49 น.
Counter : 1493 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments