Group Blog All Blog
|
ราชวงศ์หยวน
ในปี พ.ศ.1777 เจงกีสข่านหัวหน้าชนเผ่าชาวมองโกลได้ฉายแววแห่งความเป็นผู้นำที่จะควบรวมอาณาจักรอันยิ่งใหญ่เข้าไว้ด้วยกันโดยการนำทัพชาวมองโกลพร้อมลูกหลานของพระองค์บุกยึดอาณาจักรจินทำให้อาณาจักรจินล่มสลายต่อมาได้บุกยึดอาณาจักรซีเซี่ยและอาณาจักรซ่งใต้ทำให้อาณาจักรซีเซี่ยและอาณาจักรซ่งใต้ล่มสลายเช่นกัน อาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาลจากเทือกเขาซิงอันทางตอนเหนือจรดแม่น้ำหวยเหอทางตอนใต้และจากแนวชายฝั่งทะเลตะวันออกไปจรดส่านซีทางภาคตะวันตกของอาณาจักรจินกลายเป็นอาณาจักรของชาวมองโกลผู้ได้รับชัยชนะ
ช่วงแรกเจงกีสข่านยังไม่ได้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนเป็นแต่เพียงผู้ปกครองอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาล ต่อมากุบไลข่านได้ปกครองจีนภายใต้อำนาจแห่งราชวงศ์หยวนและเป็นข่านปกครองมองโกลในคราวเดียวกัน ชาวจีนที่แทนตัวเองว่าชาวฮั่นและเป็นผู้ที่ถือตัวว่ามีอารยธรรมอันแสนจะเจริญรุ่งเรืองแล้วต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของชนต่างเผ่าพันธุ์ที่เป็นเพียงนักรบทะเลทรายร่อนเร่ไปรบตามสถานที่ต่าง ๆ และเอาชนะดินแดนทุกแห่งที่เหยียบย่างไปได้เท่านั้น จึงเป็นความขมขื่นในใจพอสมควร ช่วงแรกกุบไลข่านผู้ซึ่งเป็นหลานของเจงกีสข่านได้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนซึ่งเป็นราชวงศ์แรกที่เป็นชนต่างเผ่าที่ไม่ใช่คนจีนฮั่นและขานพระนามว่าข่านเพราะปกครองมองโกลพร้อมกัน อาจจะมองว่ามองโกลคือเมืองของพระองค์ส่วนจีนเป็นเพียงเมืองที่ตีมาเพิ่มเติมอาณาจักรเดิมเท่านั้น ต่อมาเริ่มขานพระนามเป็นฮ่องเต้เพราะประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาลกว่ามากและเริ่มจะคิดว่าได้ปกครองทั้งสองเมืองอย่างมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกันเพราะได้คงพระนามว่าข่านอยู่ตามความเป็นชาวมองโกลแต่ดั้งเดิม บางแห่งนับเจงกีสข่านเป็นต้นราชวงศ์หยวน แต่บางแห่งนับกุบไลข่านเป็นต้นราชวงศ์หยวน เพราะผู้ที่ก่อตั้งราชวงศ์หยวนจริง ๆ คือกุบไลข่าน แต่กุบไลข่านได้ยกย่องบรรพบุรุษของพระองค์ว่าเป็นฮ่องเต้เช่นกัน การขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้สำหรับราชวงศ์หยวนไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนแตกต่างจากราชวงศ์จีนอื่นที่มักกำหนดให้พระโอรสองค์โตเป็นฮ่องเต้องค์ต่อมา การให้ลูกหลานที่เก่งกว่าคนอื่นได้มีโอกาสทัดเทียมกันในการก้าวสู่อำนาจทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นระหว่างผู้ที่อยู่ในข่ายที่มีสิทธิ์ทั้งหลาย วิธีการนี้อาจดีต่อประชาชนที่จะได้ผู้ปกครองประเทศที่เก่งกาจ แต่ความมั่นคงในราชวงศ์อาจลดน้อยถอยลงไปได้ ซึ่งเป็นบทเตือนใจให้คิดว่าวิธีการแบบใดจะดีกว่ากันระหว่างกฎมณเฑียรบาลที่กำหนดชัดเจนให้พระโอรสองค์โตเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการครองราชย์ต่อมากับหลักการที่เปิดโอกาสให้พระโอรสที่มีความสามารถสูงกว่าพี่น้องใช้ความสามารถและเอาชนะใจกรรมการในการคัดเลือกให้ได้เป็นผู้นำสูงสุด เพราะฮ่องเต้ในราชวงศ์หยวนบางคนได้ขึ้นสู่อำนาจไม่นานก็โดนอีกคนแย่งชิงอำนาจไปต่อ จึงไม่มีความมั่นคงในอำนาจ บางองค์ครองราชย์ในช่วงสั้น ๆและสวรรคตลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์หยวนชื่อหยวนซุ่นตี้สามารถอยู่ในราชสมบัติได้นานกว่าใคร ๆแต่แล้วไม่สามารถรักษาอำนาจไว้ได้ต้องอพยพแล้วไปตั้งราชวงศ์หยวนเหนือแทน ราชวงศ์หยวนปกครองประเทศจีนได้ 90 ปีเศษก็ล่มสลายลง ทั้งนี้เป็นเพราะชาวมองโกลมีความสามารถด้านการรบ มีกำลังทหารและอาวุธที่ดีแต่ขาดความสามารถด้านการปกครองราชวงศ์หยวนปกครองในยุคที่บ้านเมืองวุ่นวายอันเนื่องมาจากเกิดกบฏมากมายทั้งนี้เป็นเพราะขุนนาง เชื้อพระวงศ์ชอบข่มเหงรังแกชาวบ้านด้วยพื้นเพเป็นนักรบอยู่กลางทะเลทรายเคยชินแต่การรบพุ่งแต่ไม่สันทัดในการปกครองประเทศที่มีอารยธรรมเก่าแก่เช่นจีน ถึงแม้จะมีฮ่องเต้บางองค์ที่พอจะมีฝีมือในการปกครองอยู่บ้างแต่จะไม่กล้าออกนอกกรอบกฎระเบียบที่ราชสำนักได้ตั้งไว้ ทำให้ชาวจีนคิดก่อการล้มล้างราชวงศ์ ในที่สุดจูหยวนจางได้ก่อการกบฏและทำได้สำเร็จสามารถปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิงราชวงศ์ต่อไปของจีนได้ จูหยวนจาง สร้างอนาคตใหม่เพื่อเป็นกำลังของชาติ
สร้างอนาคตใหม่เพื่อเป็นกำลังของชาติ
การสร้างฐานอำนาจใหม่ เพื่อคานกับอำนาจเก่า เกิดการถ่วงดุลระหว่างกัน หมิงไท่จู่ฮ่องเต้ทรงจัดตั้งสถาบันการศึกษา เพื่อฝึกอบรมคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีโอกาสเข้าสู่เส้นทางการเมือง เน้นให้ซื่อสัตย์ต่อการรับใช้ชาติและประชาชน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ความฝันย่อมเป็นความฝัน ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่มีกิเลสตัณหา ถ้าโอกาสมา และมีโอกาสจะทำผิดคิดมิชอบ จะเหลือเหรอ หลังน้ำท่วมใหญ่ บัณฑิตได้เริ่มงาน เพื่อสำรวจปัญหา ปรากฏว่า 141 คน ยอมรับการติดสินบน เข้าร่วมการจัดงานเลี้ยงเพื่อความบันเทิง รับเงินสินบนและของกำนัลพิเศษจากท้องถิ่น ความฝันพังทลายลง ด้วยสิ่งที่ปั้น ไม่เป็นไปตามที่คิด บัณฑิตจึงไปสวรรค์หรือลงนรกแทนก็ไม่รู้ได้ ไม่มีโอกาสก้าวหน้าในชีวิตบนโลกใบนี้ หนังสือชื่อต้าก้าว รวบรวมการทุจริตคิดมิชอบที่เกิดขึ้น เนื้อหาเน้นทัศนคติของหมิงไท่จู่ฮ่องเต้ วิธีการรับมือและกำจัดคอรัปชั่น ให้เผยแพร่ไปทั่วประเทศ ให้คนคัดลอกข้อความบางส่วนปิดประกาศตามท้องถนนที่เห็นได้ชัดหรือตามศาลาริมทาง เพื่อเตือนใจขุนนาง และบอกวิธีที่ชาวบ้านจะรับมือ หมิงไท่จู่ฮ่องเต้ ปราบทุจริต คอรัปชั่น
หมิงไท่จู่ฮ่องเต้ ปราบทุจริต คอรัปชั่น
เรื่องโกงบ้านโกงเมือง กอบโกยเข้าพกเข้าห่อนี่เป็นเรื่องมือใครยาวสาวได้สาวเอากันจริง ๆ ไม่มีเว้นแม้ต่างบ้านต่างเมือง ยุคโน้นยุคนี้ หมิงไท่จู่ฮ่องเต้ได้มีมาตรการปราบคนเลวและจัดการขั้นเด็ดขาด ปีที่สิบแปด รัชศกหงอู่ ในการสร้างพระราชวัง รองเสนาบดีกระทรวงก่อสร้าง ชื่อหานตั๋ว ปั้นตัวเลขแรงงานและค่าก่อสร้างอันเป็นเท็จ หวางจื้อ รองเสนาบดีกระทรวงทหาร ใช้การคัดเลือกทหารหาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง รับสินบนจากผู้หนีทหารตามการคัดเลือกจากสำมโนครัว จางเสียง รองเสนาบดีกระทรวงพิธีกรรม แอบยักยอกเงินที่ฮ่องเต้ให้เป็นของขวัญแก่องค์หญิงเนื่องในงานแต่งงาน ปีที่สิบเก้า โตวฉาหย้วนยวี้ซื่อ หลิวจื้อเหรินถูกส่งไปยังเมืองหวยอันเพื่อทำคดี แต่ทว่าเขากลับดองเรื่อง กินทั้งเงินโจทย์กินทั้งเงินจำเลย กรรโชกทรัพย์สินเงินทอง ผู้ที่ทำผิดคิดมิชอบทั้งหมด โดนโทษหนักถึงขั้นหัวหลุดจากบ่าทีเดียว ไม่ใช่แค่คืนเงินที่โกงกินไป ก็จบกัน ไม่ใช่มีแค่ตัวเป้ง ๆ ไม่กี่ตัวที่โดนตัดหัว ให้ผู้คนหวาดกลัว แต่พบว่ามีเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นที่หนักเบาแตกต่างกันถึง 61 คดีถูกดองไว้อยู่ที่กรมรับเรื่องร้องทุกข์ทั้งหกแห่ง เสียงชาวบ้านบ่นว่า ใช้ดาบตัดหัวแค่ครั้งเดียวมันง่ายเกินไปไม่สาสมต่อความผิด ทำไมไม่ใช้วิธีตัดเส้นเอ็น ตัดนิ้ว ตัดมือ ตัดหัวเข่า หรือวิธีการทรมานอื่น ๆ แค่ตายยังไม่สาแก่ใจอีกเหรอ หมิงไท่จู่ฮ่องเต้ทรงคิดค้นกฎหมายอาชญากรรม “ปอผีซวนเฉา” ถลกหนังสลักคำว่า “ผีฉ่างเมี่ยว” จากนั้นนำฟางและมะนาวมายัดลงไปในเนื้อชั้นใน หรือการลงทัณฑ์ “โช่วผีท่ง” ถลกหนังจนเหม็นเน่า เพื่อสร้างความตกใจและความหวาดกลัวให้แก่ขุนนางที่ทุจริต ทำให้ลดจำนวนน้อยลงไป 621213 อำนาจผลัดใบ จีนโบราณ
621213 อำนาจผลัดใบ จีนโบราณ
แผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ไพศาล มีฮ่องเต้ปกครองตั้งแต่ราชวงศ์ฉิน ชาวฮั่นได้ปกครองจีนมาตลอด หลังสิ้นราชวงศ์ฮั่น จีนแตกกระสานซ่านเซ็นเป็นยุคสามก๊ก มารวมตัวกันในยุคราชวงศ์จิ้น แล้วแบ่งแยกเป็นต่างแคว้น ไม่อาจรวบรวมเป็นหนึ่งเดียว เหมือนสมัยราชวงศ์ฉินและราชวงศ์ฮั่น ผ่านยุคราชวงศ์ห้าชนเผ่าสิบหกแคว้น และราชวงศ์เหนือ-ใต้ มาตั้งหลักได้ใหม่อีกครั้งในราชวงศ์สุย ถัง อู่โจว แล้วมาถึงยุคห้าราชวงศ์ มารวมตัวกันได้อีกในราชวงศ์เหลียว ซ่ง จิน ต่อจากนั้น ชาวฮั่นเสียการปกครองให้แก่ต่างชาติ หลังจากที่ชาวมองโกลยึดแผ่นดินจีน แล้วสถาปนาราชวงศ์หยวน ชาวฮั่นรู้สึกเสียชาติ จึงรวบรวมเพื่อฟื้นคืนแผ่นดินของตนขึ้นมา โดยสามารถสถาปนาราชวงศ์หมิงขึ้นมาได้ สุดท้ายราชวงศ์ชิง นำโดยชาวแมนจูมาปกครองประเทศ และสิ้นสุดการปกครองโดยฮ่องเต้นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาบางช่วงที่แผ่นดินแตกเป็นหลายส่วน อำนาจที่ยิ่งใหญ่เพียงใด ใช่ว่าจะได้อยู่ค้ำฟ้า มีขึ้นมีลง มีจุดเริ่มต้น มีจุดอวสาน เป็นธรรมดา ขึ้นอยู่กับอำนาจใหม่จะมีแรงผลักดันมากกว่าอำนาจเก่าหรือไม่ ถ้ามีมากกว่าจะล้มล้างอำนาจเก่าได้ไม่ยาก หากฝีมือไม่ถึงขั้น อำนาจใหม่นั่นแหละที่จะล้มพังครืนไม่เป็นท่า แผ่นดินจีนที่มีอายุยืนนานเสียเหลือเกิน มีการผลัดเปลี่ยนอำนาจมาตลอด บางช่วงอยู่ได้นานหน่อย บางช่วงอยู่ได้ไม่นาน บางช่วงแย่งกันเป็นใหญ่ ไม่อาจรวมเป็นหนึ่งได้ เมื่อเรียงลำดับราชวงศ์ที่ปกครองจีนนั้น จะพบว่า หลังจากที่ฉินจิ๋นซี รวบรวมอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลเข้าเป็นหนึ่งเดียวได้แล้วนั้น ชาวฮั่นซึ่งเป็นชนกลุ่มก้อนที่ใหญ่ที่สุด ได้ก้าวขึ้นมาผงาดเหนือแผ่นดินจีน ต่อจากนั้น ตัวใครตัวมันแล้ว ต่างแก่งแย่งกันเป็นใหญ่ และคิดว่า ทำไมต้องทนตกอยู่ภายใต้อำนาจของชนเผ่าอื่น ยุคที่ประเทศแบ่งส่วนไปตามแต่คนเก่งจะตั้งตนเป็นอิสระ เช่น ยุคสามก๊ก ยุคนี้คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยมีภาพยนตร์ หนังสือ ถ่ายทอดให้รับรู้จำนวนมาก แผ่นดินที่กว้างใหญ่แบ่งเป็นสามส่วน ไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายต่างเก่ง ไม่ว่าจะเป็น โจโฉ สามก๊ก ได้แก่ จ๊กก๊กหรือก๊กสู กลุ่มของเล่าปี่ที่ขงเบ้งเป็นกุนซือ ง่อก๊กหรือก๊กหวูที่มีซุนกวนเป็นผู้นำ และวุ่ยก๊กหรือก๊กเว่ยกลุ่มของโจโฉ ต่างก๊กต่างไม่ยอมกัน ต่างคิดว่าตนคือผู้มีสิทธิ์อันชอบธรรม ช่วงระยะเวลาที่เกิดก๊กต่าง ๆ มากมายไม่มีใครยอมกันนี้กินเวลานานถึง 60 ปี ชาวบ้านในยุคนี้คงเกิดมาแบบมีคนมีเวรมีกรรมมีแต่การสู้รบหาความสงบสุขไม่ได้ สุดท้ายประเทศจีนได้รวมผืนแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว ราชวงศ์จิ้นนำโดยสุมาเอี้ยนนำความสงบมาสู่ประเทศจีนได้อีกครั้ง แต่หาใช่ว่า ราชวงศ์จิ้นจะสามารถปกครองบ้านเมืองให้สงบสุขได้ คลื่นใต้น้ำที่คอยก่อกวนมีอยู่ประปราย และหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ควบคู่และขนานกันไป ราชวงศ์จิ้น ราชวงศ์ยุคห้าชนเผ่าสิบหกแคว้น และราชวงศ์เหนือ-ใต้ มีช่วงรอยต่อที่คาบเกี่ยวกัน จนเริ่มเป็นกลุ่มก้อนใหญ่อีกครั้งในราชวงศ์สุย และยิ่งใหญ่เกรียงไกรในราชวงศ์ถัง แต่ใช่ว่าจะราบเรียบ ด้วยมีราชวงศ์อู่โจวคั่นกลาง สิ้นสุดราชวงศ์ถัง เกิดอีกสองราชวงศ์ ควบคู่ขนานกัน คือห้าราชวงศ์ และราชวงศ์เหลียว แล้วตามมาด้วยอีกสองราชวงศ์ ควบคู่ขนานกันอีกครั้ง คือราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์จิน เพิ่มไปด้วยราชวงศ์หยวนตามมาติด ๆ ความเป็นอิสระ การมีอิสรภาพ เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา หรือความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย มีผู้ปกป้อง สิ่งไหนจะดีกว่า จูหยวนจางใฝ่หาความรู้และคิดสร้างสรรค์
#จูหยวนจาง
#พรรณีเกษกมล จูหยวนจางใฝ่หาความรู้และคิดสร้างสรรค์ ปมด้อยของคนอาจกลายเป็นปมเด่นได้ ถ้าคิดจะพลิกฝ่ามือ เมื่อจูหยวนจางเริ่มชัดเจนในตนแล้วว่า มีความสามารถเป็นผู้นำ อย่ากระนั้นเลย เมื่อทำแล้วต้องมุ่งมั่นก้าวไปให้สุด ๆ เชื่อแน่ว่า ข้างกายของเขาต้องมีกุนซือชั้นเยี่ยม ที่คอยบอกกล่าวและฝึกให้เขาเก่งมากยิ่งขึ้น เรื่องแรกเลยคือการรับรู้ว่า ผู้ที่จะก้าวมาเป็นฮ่องเต้เป็นคนเช่นไร เพื่อที่ตนจะได้ทำตัวได้ถูกต้อง สร้างเป้าหมายและหาวิธีการ เรียนทางลัดถึงอดีตที่สร้างความยิ่งใหญ่ โดยถังจ่งสือหรือถังกุ้ยฟาง นักปราชญ์ลัทธิขงจื้อ มาอธิบายชีวประวัติของอดีตฮ่องเต้ โดยเฉพาะฮ่องเต้ที่เก่งกาจ ได้ลงลึกในรายละเอียด ตั้งแต่ราชวงศ์ฉิน ราชวงศ์ฮั่น ฮั่นเกาจู่ ฮั่นกวงอู่ ราชวงศ์ถัง ถังไท่จง ราชวงศ์ซ่ง ซ่งไท่จู่ ราชวงศ์หยวน หยวนซื่อจู่ กุบไลข่าน เรื่องต่อมาคือการเอาชนะใจประชาชน โดยเฉพาะชนชั้นผู้ยากไร้ แต่ไม่ลืมจะใส่ใจชนชั้นนายทุน กลุ่มเจ้าของที่ดินขนาดใหญ่ กลุ่มปัญญาชน ช่วงที่จูหยวนจางตั้งหลักแหล่งที่อิ้งเทียน ได้ลงทุนสร้างหอรับรองหลี่เสียงกว่าน เพื่อนัดพบปะสังสรรค์กับกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งส่งผลดีต่อเขาในภายหลังที่ก้าวขึ้นมาเป็นฮ่องเต้ จูหยวนจางได้คนเก่งมือดีหลายคนมาประดับบารมี อาทิเช่นหลี่ซ้านจ่าง จูเซิน ที่บอกกล่าวถึงชัยภูมิที่ดี คือเมืองอิ้งเทียน ว่าสมควรจะเป็นศูนย์บัญชาการรบ |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |