Group Blog All Blog
|
ตั๋งโต๊ะ ใช้อำนาจมิชอบอย่างอำมหิต
ตั๋งโต๊ะ ใช้อำนาจมิชอบอย่างอำมหิต
![]() ปราบคนคิดต่าง กร่างให้สุดฤทธิ์ อย่าคิดต่อต้าน ห้ามค้านทุกเรื่อง โชคชะตาวาสนาหล่นทับโดยไม่รู้ตัว อยู่ดี ๆ ได้รับคำสั่งให้ยกทัพเข้าเมือง เพื่อปราบขันทีที่โกงกิน เป็นจังหวะเดียวกับที่โฮจิ๋นโดนขันทีตัดหัว ไม่มีใครมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้แต่ฮ่องเต้ยังเด็กนัก ไม่มีอำนาจบารมีที่จะสั่งการ ฮองเฮาเองไร้ซึ่งสติปัญญา อาศัยโฮจิ๋นผู้พี่ แต่โดนขันทีตัดหัวโยนทิ้งซะแล้ว สุดท้ายโดนฆ่าทิ้งทั้งแม่ลูก ฮองเฮาและฮ่องเต้ ฮ่องเต้ใหม่ที่ได้รับแต่งตั้งจากตั๋งโต๊ะ ได้แต่ทำตาปริบ ๆ แม้รู้ว่ามันบังอาจแอบอ้างคำสั่งมิชอบสั่งการ ยังมิกล้าทำสิ่งใด ตั๋งโต๊ะกร่างสุดฤทธิ์จึงหากล้าทัดทานใด ๆ ไม่ มันเป็นจังหวะอันดีเยี่ยม ที่จะคว้าตำแหน่งยิ่งใหญ่โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงให้เหนื่อยยาก แต่อนิจจา มีบุญแต่กรรมบัง ไม่อาจรักษาอำนาจไว้กับตัวได้ นานเท่าที่ควร บุญหล่นทับ คว้าทัน มันไม่ให้ เก็บไว้ ด้วยไร้ซึ่ง คุณธรรม ทำชีวิต พังได้ ด้วยความเป็นคนถ่อยเถื่อน บ้าอำนาจ ไร้มารยาท มีแต่กร่างและเข่นฆ่าอำนาจเก่า จนผู้คนหวาดกลัวและต่อต้าน อำนาจที่ใช้ ได้หยิบยืมมาอย่างคดโกง อ้างพระบรมราชโองการ กำราบศัตรู จัดการริปู ถ่อยเถื่อนไปทั่ว มั่วกร่างไม่เว้น คนที่อ้างอิงเบื้องสูงเข่นฆ่าทำลายล้าง โจมตีฝ่ายตรงข้าม จะมีอนาคตเช่นไร ไม่มีใครตอบได้ นอกจากบอก ขอให้รอฟ้าดินลงโทษ ความวุ่นวายระส่ำระสายยิ่งใหญ่และลุกลาม กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตั๋งโต๊ะ แม่ทัพเมืองปิงโจว เข้ามาปราบจลาจลภายในเมืองลั่วหยาง โดยอ้างคำสั่งของโฮจิ๋น ผู้ซึ่งตอนนี้ดับชีพไปแล้วเพราะขันที ยังสงสัยอยู่ว่า ถ้าโฮจิ๋นไม่ตาย ตั๋งโต๊ะจะปราบขันทีเยี่ยงไร และโฮจิ๋นสามารถควบคุมไม่ให้ตั๋งโต๊ะใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่งได้หรือไม่ หรือโฮจิ๋นอาจตายด้วยน้ำมือของตั๋งโต๊ะ เช่นเดียวกับฮ่องเต้และฮองเฮา ตั๋งโต๊ะนำกองกำลังทหารบุกนครลั่วหยางกำจัดบรรดาขันทีกว่า 2,000 คน และจัดการฆ่าขันทีตัวบงการที่สั่งฆ่าโฮจิ๋น 10 คน ให้สิ้นซาก แล้วจับฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้และโฮฮองเฮาขังไว้ในตำหนัก ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองตามคำสั่งของโฮจิ๋นพี่ชายฮองเฮา แต่ทำไมไม่ยกย่องฮองเฮาและลูกของฮองเฮา กลับไปเลือกลูกของสนมแทน พ.ศ. 733 ตั๋งโต๊ะคิดแผนการฆ่าฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้ด้วยการให้ดื่มยาพิษที่ผสมในสุรา มอบให้ลิยู กุนซือนำสุราผสมยาพิษไปถวายฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้ ส่วนโฮฮองเฮานั้นให้ลิยูฆ่าเสียให้ตายตกไปตามกัน หลังจากที่ตั๋งโต๊ะสังหารฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้แล้วแต่งตั้งให้ฮั่นเสี้ยนตี้หรือฮั่นเหี้ยนเต้ฮ่องเต้ เป็นฮ่องเต้แทน สิ่งที่เกิดตามมากลับยิ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายมากยิ่งขึ้นถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง คนไทยจะคุ้นเคยกับคำว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ ซึ่งพอเป็นคำไทยดูแปลก ๆ พิกล เหมือนจะแปลว่า หมดไปเลย เกลี้ยงหมด อะไรทำนองนี้ เลยสิ้นราชวงศ์ฮั่นจริง ๆ เสียด้วย ขณะนั้นฮั่นเสี้ยนตี้ฮ่องเต้มีพระชนม์เพียง 11 พรรษา เป็นฮ่องเต้แต่เพียงในนาม ตั๋งโต๊ะอ้างคำสั่งเพื่อบงการทำร้ายผู้คนอย่างโหดเหี้ยม เมื่อตั๋งโต๊ะพ่ายแพ้ ฮั่นเสี้ยนตี้ฮ่องเต้ต้องอพยพออกนอกเมืองพร้อมตั๋งโต๊ะ แล้วลี้ภัยไปยังนครฉางอาน แต่ลิโป้วางแผนสังหารตั๋งโต๊ะได้ในเวลาต่อมา ฮ่องเต้แต่ในนาม รู้ว่า บ้านเมืองตกต่ำถึงขีดสุดในยุคที่ตนเป็นฮ่องเต้ แต่ไร้ซึ่งอำนาจ จึงแอบสั่งการไปยังหัวเมืองให้ระดมพล หวังปราบตั๋งโต๊ะ หนึ่งในแผน คือ มอบอำนาจให้เล่าปี่ที่อาจเป็นเพียงญาติห่าง ๆ ให้ตำแหน่งเป็นพระปิตุลา มีอำนาจมากพอจะคานอำนาจกับตั๋งโต๊ะ และแอบส่งสารไปยังเจ้าเมืองต่าง ๆ ให้ร่วมมือกับเล่าปี่ แผนนี้จะสำเร็จไหม หรือกลายเป็นส่วนหนึ่งที่เกิดสามก๊กขึ้นมา ทหารกล้าแพ้ภัยอิสตรี ช่วงที่ตั๋งโต๊ะครองอำนาจเหนือฮ่องเต้นั้น มีผู้กล้ามากมายอาจหาญคิดจะปราบ แต่ไม่สำเร็จ แล้วจบลงที่ตรงไหน ง่าย ๆ ด้วยเล่ห์กลมารยาของสาวสวยนาม เตียวเสี้ยนหรือเตียวฉาน สาวงามที่เป็นบุตรีบุญธรรมของอ้องอุ้น อุปราชขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักที่ยังคงดำรงอยู่ แม้บางส่วนโดนเก็บไปแล้ว นางมีความงามเป็นเลิศและชาญฉลาด คิดจะกู้ชาติ ล้มอำนาจของตั๋งโต๊ะ เตียวเสี้ยนยอมเป็นเมียของลิโป้ และตั๋งโต๊ะในเวลาเดียวกัน อันนารี แม้นไม่มีอาวุธเข่นฆ่าศัตรู แต่มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนสามารถสังหารผู้ที่หลงอำนาจและไร้ซึ่งคุณธรรมได้ก็แล้วกัน ความหึงหวงทำให้ชายสองคน ที่หลงรักนางหัวปักหัวปำ ได้ห้ำหั่นคิดร้ายต่อกัน ตั๋งโต๊ะจะให้เตียวเสี้ยนเป็นเมียน้อย ลิโป้มีหรือจะยอมเสียนางไปง่าย ๆ แต่คงจำใจข่ม เตียวเสี้ยนยุยงให้ทั้งตั๋งโต๊ะและลิโป้แตกคอกันเอง ที่สุดลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะ จบชีวิตคนที่ได้อำนาจมา แต่ไม่ได้ใช้อำนาจนั้นให้เกิดประโยชน์ต่อตนและชาติบ้านเมือง สุดท้ายแม้แต่ชีวิตยังรักษาไม่ได้ ต้องตายด้วยน้ำมือคนที่ตนรักและดูแลเยี่ยงบุตรบุญธรรม ไม่รู้คุณค่า สิ่งที่ได้มา หลงบ้าอำนาจ ท้ายสุดไม่เหลือ โฮจิ๋น ผู้เริ่มจุดชนวนระเบิด ก่อเกิดสามก๊ก
โฮจิ๋น ผู้เริ่มจุดชนวนระเบิด ก่อเกิดสามก๊ก
#พรรณีเกษกมล กำจัดคู่แข่ง แก่งแย่งชิงดี อย่ามีซากเหลือ เพื่อผงาดลำพัง ปลายราชวงศ์ฮั่น บารมีฮ่องเต้อ่อนแสงลง ราชสำนักอ่อนแอถึงขีดสุด ฮ่องเต้ไร้อำนาจด้วยเหตุใด เบื้องหลังฮ่องเต้ ผู้มีอำนาจตัวจริงคงไม่พ้นไทเฮา ตระกูลของฮองเฮา ฮองไทเฮา ล้วนเข้ามาเพื่อฉกฉวยแย่งชิงผลประโยชน์ร่วมมือกับบรรดาขันที โดยไม่ใส่ใจว่า บัลลังก์จะสั่นคลอนหรือไม่ ผู้แสดงอำนาจบาตรใหญ่ที่เห็นชัดเจน คงเป็นหัวหน้าขันที ผ่านการสั่งการจากฮองเฮา ฮองไทเฮา หารู้ไม่ ขันทีเรียนรู้วิธีการใช้อำนาจด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องฟังจากวังหลังอีกต่อไป อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อวังหลังรวมทั้งญาติของฮองเฮาไม่อาจสั่งการได้ เมื่อเปลี่ยนรัชกาลบ่อยเท่าใด ฮ่องเต้ยังเล็กเกินกว่าจะสร้างบารมีให้แข็งแกร่ง จำต้องพึ่งพาอำนาจแฝง ขันทีรุกคืบต่ออำนาจ โกงกินบ้านเมือง ฉ้อราษฎร์บังหลวง อย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใด ๆ กระทำการอุกอาจมากเกิน ในวัง มีสองกลุ่มก้อนใหญ่ที่เรืองอำนาจและสามารถกอบโกยลาภยศเงินทองเข้าพกเข้าห่อ อย่างละโมบโลบมาก คือ ตระกูลของฮองเฮา ฮองไทเฮา กับหัวหน้าขันที เพราะฮ่องเต้ไร้อำนาจ จึงปล่อยให้ราชสำนักเละตุ้มเป๊ะ ไม่คิดจะแก้ไข อายุของฮ่องเต้ยังน้อยนิด มิอาจแม้แต่จะช่วยเหลือตน นับประสาจะดูแลปกครองไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์ เอาตัวเองยังมิรอดเลย ระบอบอำนาจนิยมที่ส่งผ่านทางสายเลือด จากพ่อสู่ลูกชายคนโตที่เกิดจากเมียเอกเท่านั้น อาจเกิดผิดพลาด ถ้ารอยต่อของผู้รับอำนาจไม่โตพอ ไม่มีบารมีมากพอ แม้แต่ขาดฝีมือ สติปัญญาที่จะรับช่วงต่อ รัชกาลใหม่ เปลี่ยนขั้วอำนาจ อำนาจใหม่หวังฮุบอำนาจทั้งหมดมาเป็นของตนฝ่ายเดียว ไม่คิดจะยอมความอำนาจเดิม โฮจิ๋น จากตระกูลพ่อค้าที่มั่งคั่ง ไม่ได้เชี่ยวชาญการศึกและยุทธวิธีการปกครอง เมื่อน้องสาวเป็นฮองเฮา จึงได้อำนาจและตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่ มีโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเป็นลูกน้อง เมื่อโฮจิ๋นรู้ว่าตนมิได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่มีขันทีคอยขวางลำ จึงคิดปราบขันทีที่เรืองอำนาจมากล้นฟ้า ได้ปรึกษานายทหารคู่ใจ เรียกว่า อยากเป็นใหญ่คนเดียว ไม่ยอมรับ สิ่งที่เป็นไปและเป็นมาแต่เก่าก่อน รู้แต่เพียงต้องปฏิรูป ของใหม่ต้องดีกว่าของเก่า ทำไมต้องยอมรับ ความไม่ดีที่สั่งสมกันมา แล้วปล่อยให้เรื้อรังต่อไป อ้วนเสี้ยวเสนอให้เอากำลังทหารเข้ามาปราบ โจโฉไม่เห็นด้วย บอกว่า จะมิยุ่งไปกันใหญ่รึ ขันทีกินมาแต่ไหนแต่ไร ปล่อยไปเถอะ คงไม่เสียหายมากมายกระไรนัก โฮจิ๋นเชื่ออ้วนเสี้ยว จึงสั่งการให้ตั๋งโต๊ะ แม่ทัพชายแดนยกทัพเข้ามาปราบ นับเป็นการสั่งการที่ผิดพลาดมาก การตัดสินใจพลาดแม้เพียงครั้งเดียว ทำให้สิ้นราชวงศ์ได้เชียวนะ เมื่อคิดจะเป็นใหญ่ ต้องฉลาดรอบรู้ คิดการณ์ไกล มองซ้ายมองขวา มองหน้าหลังให้ดีก่อน ระหว่างการแย่งชิงอำนาจของสองขั้วใหญ่ โฮจิ๋นพี่ชายฮองเฮา กับขันทีที่กุมอำนาจในราชสำนัก ใครจะแน่กว่ากัน ถ้าเพียงแต่โฮจิ๋นเชื่อโจโฉ คิดรอมชอมกับขันที กินตามน้ำไปในช่วงแรก แล้วค่อยหาทางจัดการทีหลัง อาจประคับประคองอำนาจของตนได้ แต่มันไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้าและไม่ยอมกัน เหม็นขี้หน้ากันถึงที่สุด ยากที่จะเอาหูไปนาตาไปไร่ได้ ระหว่างอำนาจของขันทีกับแม่ทัพชายแดน โฮจิ๋นเลือกที่จะให้อำนาจใหม่ จัดการอำนาจเก่าให้สิ้นซาก ทำไมบางคนยอมทนกับอำนาจเก่าที่เลวร้าย โดยไม่กล้าลุกมาต่อต้านเพราะไม่แน่ใจว่าอำนาจใหม่จะเลวร้ายกว่าเดิมหรือไม่ ดังเช่นนิทานกบเลือกนาย เมื่อขันทีรู้คำสั่งนี้ มีหรือจะนิ่งเฉย รีบสังหารโฮจิ๋นทันที ด้วยกลอุบายหลอกล่อว่า ต้องการขอโทษและปรับความเข้าใจ ให้โฮจิ๋นเข้ามาพบนาง อย่างไม่ระวังตัว และไม่มีทหารคุ้มกัน โฮฮองเฮาแสนจะเชื่อคนง่ายเสียเหลือเกิน ไม่คิดไตร่ตรองสักนิด และวางแผนป้องกันสักนิดเชียวหรือ อุแม่เจ้า เป็นใหญ่เป็นโตได้ยังไงกันนี่ สมแล้ว ที่จะเกิดเหตุเภทภัยร้ายแรงขึ้นตามมา การไว้ใจคนที่เป็นศัตรู ภัยจะมาถึงโดยไม่ทันตั้งตัว นี่แหละหนา ที่บอกว่า คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาดกว่าเสมอ พวกสิบขันทีฆ่าโฮจิ๋นตาย แล้วตัดศีรษะโยนออกมานอกวัง ฝ่ายองครักษ์ของโฮจิ๋นอันมีโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเห็นดังนั้น จึงสั่งให้ทหารของตนบุกเข้าไปข้างใน ไล่ฆ่าฟันขันทีทุกคน แผนหลอกล่อให้วางใจ เป็นอุบายที่แยบคายมาก ใช้ได้มาจนถึงปัจจุบัน อย่าไว้เนื้อเชื่อใจใครง่าย ๆ โดยเฉพาะคนที่เคยมีทีท่าร้ายกาจมาก่อน หลังจากฆ่าโฮจิ๋น ใช่ว่าขันทีจะได้กุมอำนาจ อะไรจะขนาดนั้น มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาพอดี เตียวเหยียงหัวหน้าสิบขันทีจับตัวฮ่องเต้และหองจูเหียบองค์น้องไว้เป็นตัวประกัน แล้วหลบหนีออกนอกวัง แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว บรรดาขันทีถูกฆ่าตาย ไม่รู้หมดวังหรือเปล่า ตั๋งโต๊ะเข้ามาช่วยเหลือฮ่องเต้และหองจูเหียบได้ทันท่วงที ทำให้ตั๋งโต๊ะกลายเป็นผู้กุมอำนาจในราชสำนัก ตอนนี้อำนาจเปลี่ยนมือไปแล้วนะ ในชั่วพริบตาเดียว ทำไม จึงกล่าวว่า โฮจิ๋นเป็นผู้จุดชนวนระเบิด ด้วยราชสำนักอ่อนแอ ขันทีเรืองอำนาจ แม่ทัพชายแดนเข้าเมืองมากุมอำนาจแทน อำนาจเก่าหมดสิ้นลงในทันใด ตั๋งโต๊ะนี่ทั้งเลวและบ้าอำนาจ ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ยึดอำนาจในราชสำนักทั้งหมดมาเป็นของตน ตอนนี้หมดสิ้นอำนาจเก่า ไม่ว่าตระกูลฮองเฮาหรือขันที เหลือแต่ตั๋งโต๊ะเพียงผู้เดียว มิมีใครแม้แต่ผู้เดียวที่จะมาคานอำนาจได้ ทำผิดคิดพลาด สุดแสนอนาถ พินาศย่อยยับ อับปางทันใด กำเนิดยุคสามก๊ก
การพ่ายแพ้ของขุนนางกับเหล่านักปราชญ์ยั่วยุให้ชาวบ้านเกลียดชังบรรดาขันทีมากขึ้น ศึกภายในประเทศระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ที่หวังช่วงชิงอำนาจคงก่อน้ำให้ขุ่นเล็กน้อย ไม่ถึงกับกระฉอกแต่ไม่สงบราบเรียบมีความสุขเท่าที่ควร
ฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้องค์ที่ 12 เป็นโอรสบุญธรรมของฮั่นฮวนตี้ฮ่องเต้ เป็นโอรสของเล่าจั้งเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เป็นเชื้อสายของเจ้าเมืองตูตัง ได้ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ 12 ชันษา ยุคนี้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่คอหนังจีนรู้จักดี คือ กำเนิดยุคสามก๊ก ฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้ไม่ได้เป็นฮ่องเต้ที่ดี เพราะมัวแต่หลงใหลในนารีและอยู่ใต้อำนาจของบรรดาขันที ไม่ได้ออกว่าราชการแผ่นดิน ปล่อยให้ขันทีทำงานแทน บางเรื่องราว ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เบื้องหลังที่แท้จริง ทำไมขันทีมีอำนาจล้นฟ้า แล้วฮ่องเต้ที่เอาตัวให้รอด คงจำต้องทำตัวเสเพล หรือเป็นนิสัยเช่นนั้นจริง ๆ ที่ไม่ได้ใส่ใจในอำนาจและหน้าที่ของตน ฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้ครองราชย์ได้ 10 ปี เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเนื่องจากบรรดาขันทีรีดนาทาเร้นชาวบ้าน มันคงจะละโมบโลภมากจนเกินเหตุ สุดที่ชาวบ้านจะทานทนแล้ว พ.ศ. 726 ชาวนาก่อกบฏเรียกกบฏชุดนี้ว่า กบฏโพกผ้าเหลืองเป็นกบฏที่สามารถรวบรวมพลพรรค และแผ่ขยายอำนาจไปหลายแว่นแคว้น คนที่อ่านประวัติศาสตร์จีน คงรู้ว่า ชาวนาเมืองจีนไม่ธรรมดา ชาวนาบางคนสามารถสถาปนาราชวงศ์ใหม่ได้จริง ๆ แต่บ้านเราคงยากมากนะ กบฏโพกผ้าเหลือง เป็นการลุกฮือของพวกชาวนาเพื่อต่อต้านราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ในรัชสมัยฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้หรือพระเจ้าเลนเต้ แม้ว่ากลุ่มกบฏหลักจะถูกปราบปรามอย่างราบคาบ แต่กลุ่มเล็ก ๆ ยังคงอยู่และใช้เวลา 21 ปี ที่จะปราบปรามจนหมดสิ้น เมื่อเกิดกบฏโพกผ้าเหลือง ทางการได้ระดมชายหนุ่มมาช่วยกันปราบกบฏ ใช่ว่า ทางการจะอยู่นิ่งเฉย ใคร ๆ อยากสงวนอำนาจไว้กับตนกันทั้งนั้นแหละ เพราะเหตุนี้ทำให้เล่าปี่ กวนอู เตียวหุยได้มาพบกัน เป็นทหารในสังกัดของตั๋งโต๊ะ แค่ฮ่องเต้ที่ไม่เอาไหน ดื่มสุราเคล้านารี ยังก่อปัญหาไม่มากพอ จังหวะที่ผู้มีโอกาสครองอำนาจต่อถึง 2 คนจากฮองเฮาและสนม จึงกลายเป็นชนวนระเบิด วังหลวงเกิดการแตกแยกเพราะฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้มีโอรส 2 องค์ คือ หองจูเปียนโอรสที่เกิดแต่โฮฮองเฮา และหองจูเหียบโอรสที่เกิดแต่สนมอองบีหยิน บ้านเมืองในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกเริ่มระส่ำระสายตั้งแต่รัชกาลที่ 5 แล้วเป็นเพราะความมั่นคงภายในราชสำนัก การสืบสันตติวงศ์ตามกฎมณเฑียรบาล การสืบทอดอำนาจของพระโอรสที่ยังทรงพระเยาว์ไม่สามารถสืบทอดอำนาจด้วยพระองค์ต้องอาศัยขุนนาง ขันทีประคับประคอง เมื่อต้องมาเผชิญกับฮ่องเต้ที่ขาดคุณสมบัติเช่นฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้ ยิ่งเร่งความล่มจมให้เกิดแก่บ้านเมืองด้วยอัตราที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้องค์ที่ 13 เป็นพระโอรสของฮ่องเต้องค์ที่ 12 ฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้และโฮฮองเฮา ได้ครองราชย์ขณะที่มีพระชนม์14 ชันษา โฮจิ๋นพี่ชายของโฮฮองเฮาเป็นแม่ทัพใหญ่ที่มีอำนาจล้นฟ้า ความวุ่นวายภายในราชสำนักรวมกับความไม่สงบของบ้านเมือง กลุ่มอำนาจต่างกลุ่มที่ช่วงชิงความเป็นใหญ่ไม่เว้นแม้แต่ชาวบ้านได้รวมตัวกันก่อกบฏหลายกลุ่ม กลุ่มใหญ่คือกลุ่มกบฏโพกผ้าเหลือง ภายในราชสำนัก โฮจิ๋นลดทอนอำนาจขันที ทำให้ขันทีรวมตัวกันสั่งฆ่าโฮจิ๋น ขันทีฆ่าแม่ทัพใหญ่ได้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาซะแล้ว ต่างฝ่ายต่างแย่งความเป็นใหญ่ ระหว่างพี่ชายฮองเฮากับขันที ใครจะชนะกันแน่ เมื่อต่างเดินหมากคนละเกม โฮจิ๋น จุดชนวนระเบิด โฮจิ๋น เดิมทีเป็นเพียงพ่อค้าขายเนื้อ เมื่อน้องสาวเป็นฮองเฮา จึงได้อำนาจและตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่ มีโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเป็นลูกน้อง เมื่อโฮจิ๋นคิดปราบขันทีที่เรืองอำนาจมาก จึงสั่งการให้ตั๋งโต๊ะ แม่ทัพชายแดนยกทัพเข้ามาปราบ นับเป็นการสั่งการที่ผิดพลาดมาก ระหว่างการแย่งชิงอำนาจของสองขั้วใหญ่ พี่ชายฮองเฮาที่ไม่เจนจัดในการศึก เป็นเพียงอดีตพ่อค้า กับขันทีที่กุมอำนาจในราชสำนักมานาน ใครจะแน่กว่ากัน ถ้าเพียงแต่โฮจิ๋นคิดรอมชอมกับขันที กินตามน้ำไปในช่วงแรก แล้วค่อยหาทางจัดการอย่างละมุนละม่อม อาจประคับประคองอำนาจของตนได้บ้าง แต่เชื่อว่า มันไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากันและไม่ยอมกัน ระหว่างอำนาจของขันทีกับแม่ทัพชายแดน โฮจิ๋นเลือกอำนาจใหม่ โดยไม่รู้ว่าเลวร้ายกว่าอำนาจเก่า ทำไมบางคนยอมทนกับอำนาจเก่าที่คิดว่าเลวร้าย เพราะไม่แน่ใจว่าอำนาจใหม่จะเลวร้ายกว่าเดิมหรือไม่ ดังเช่นนิทานกบเลือกนาย เมื่อขันทีรู้คำสั่งนี้ จึงรีบสังหารโฮจิ๋นทันที ด้วยกลอุบายหลอกล่อกับโฮฮองเฮาว่า ต้องการขอโทษและปรับความเข้าใจ ให้โฮจิ๋นเข้ามาพบนาง อย่างไม่ระวังตัว และไม่มีทหารคุ้มกัน พวกสิบขันทีฆ่าโฮจิ๋นตาย แล้วตัดศีรษะโยนออกมานอกวัง ฝ่ายองครักษ์ของโฮจิ๋นอันมีโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเห็นดังนั้น จึงสั่งให้ทหารของตนบุกเข้าไปข้างใน ไล่ฆ่าฟันทุกคนที่เป็นขันที แผนหลอกล่อให้วางใจ เป็นอุบายที่แยบคายมาก ใช้ได้มาจนถึงปัจจุบัน อย่าไว้เนื้อเชื่อใจใครง่าย ๆ โดยเฉพาะคนที่เคยมีทีท่าร้ายกาจมาก่อน หลังจากฆ่าโฮจิ๋นได้ ใช่ว่าขันทีจะกุมอำนาจต่อได้ เพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาพอดี เตียวเหยียงหัวหน้าสิบขันทีจับตัวฮ่องเต้และหองจูเหียบองค์น้องไว้เป็นตัวประกัน แล้วหลบหนีออกนอกวัง แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว บรรดาขันทีถูกฆ่าตาย ไม่รู้หมดวังหรือเปล่า ตั๋งโต๊ะจึงช่วยเหลือฮ่องเต้และหองจูเหียบได้ ทำให้ตั๋งโต๊ะกลายเป็นผู้กุมอำนาจในราชสำนัก ทำไม จึงกล่าวว่า โฮจิ๋นเป็นผู้จุดชนวนระเบิด เพราะเป็นคนสั่งการให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมือง และทำให้บ้านเมืองยุ่งยากลำบากมากยิ่งขึ้น เร่งให้เกิดสามก๊ก เพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองต่อไป ตอนนั้นโจโฉยังเป็นทหารชั้นผู้น้อย ไม่มีอำนาจ เมื่อรู้ว่าโฮจิ๋นสั่งให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองเพื่อปราบขันที ได้เอ่ยปากว่า โฮจิ๋นไม่เห็นการณ์ไกล ภัยจะมาถึงตัว ไม่รู้จักตัดไฟ ภัยก็จะน่ากลัว หยวนเส้าหรืออ้วนเสี้ยวได้กวาดล้างขุนนางที่เป็นปฏิปักษ์ ต่อตั๋งโต๊ะ หรืออำนาจใหม่ ช่วงนี้อ้วนเสี้ยวมีอำนาจมากพอตัว อาจจะใหญ่กว่าโจโฉเสียด้วยซ้ำ ความวุ่นวายระส่ำระสายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ยิ่งใหญ่และลุกลาม กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตั๋งโต๊ะที่เป็นขุนนางเมืองปิงโจว เข้ามาปราบจลาจลภายในเมืองลั่วหยาง โดยอ้างคำสั่งของโฮจิ๋น ผู้ซึ่งตอนนี้ดับชีพไปแล้วเพราะขันที ตั๋งโต๊ะนำกองกำลังทหารบุกนครลั่วหยางกำจัดบรรดาขันทีกว่า 2,000 คน และจัดการฆ่าขันทีตัวบงการที่สั่งฆ่าโฮจิ๋น 10 คน ให้สิ้นซากแล้วจับฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้และโฮฮองเฮาขังไว้ในตำหนัก งงไหมล่ะ ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองตามคำสั่งของโฮจิ๋นพี่ชายฮองเฮา แต่เมื่อเข้าเมืองมาได้และปราบขันทีได้แล้ว ทำไมไม่ยกย่องฮองเฮาและลูกของฮองเฮา กลับไปเลือกลูกของสนมแทน ตรงนี้ ไม่แน่ว่า ใครปราบแกนนำขันทีกันแน่ ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเป็นฝีมือของพวกตน เพราะเหตุจราจลวุ่นวายไปทั่วเมืองและภายในพระราชวัง แต่ละแหล่งต่างอ้างว่าเป็นผลงานของพวกตน เมื่อโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเป็นทหารชั้นผู้น้อยในสังกัดของโฮจิ๋น รู้ว่า ขันทีฆ่าเจ้านายตัวเอง ภัยจะมาถึงตัวเองเช่นกัน คงได้จังหวะ เลยฆ่าขันทีแกนนำได้ส่วนหนึ่ง เป็นจังหวะที่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาพอดี ทหารเล็ก ๆ 2 นาย กับแม่ทัพจากชายแดนที่เข้าเมืองมาโดยคำสั่งของโฮจิ๋น ใครจะใหญ่กว่ากันล่ะ ตั๋งโต๊ะเลยได้หน้าไปเต็ม ๆ และได้อำนาจมาแบบง่าย ๆ เสียอีก สองทหารหนุ่มคงได้แต่อ้าปากหวอและทำตาปริบ ๆ ดูเขาแย่งชิงผลงานไปต่อหน้าต่อตา ธรรมดานะที่ผู้น้อยไม่มีปากเสียงมากพอจะกล่าวอ้างว่า ตนต่างหากที่ฆ่าขันที สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร กับราตรีนี้อีกยาวนานนัก ใครจะไปรู้ว่า โจโฉในวันนั้น กลับกลายเป็นผู้นำก๊กใหญ่และใช้แผนเดียวกับตั๋งโต๊ะคือให้ฮ่องเต้เป็นเพียงหุ่นเชิด แต่อ้วนเสี้ยวที่เป็นทหารร่วมรุ่นกับโจโฉล่ะ ได้เป็นหัวหน้าก๊กด้วยหรือไม่ พ.ศ. 733 ตั๋งโต๊ะคิดแผนการฆ่าฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้ด้วยการให้ดื่มยาพิษที่ผสมในสุรา มอบให้ลิยู กุนซือนำสุราผสมยาพิษไปถวายฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้ ส่วนโฮฮองเฮานั้นให้ลิยูฆ่าเสียให้ตายตกไปตามกัน หลังจากที่ตั๋งโต๊ะสังหารฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้แล้วแต่งตั้งให้ฮั่นเสี้ยนตี้หรือฮั่นเหี้ยนเต้ฮ่องเต้ เป็นฮ่องเต้แทน สิ่งที่เกิดตามมากลับยิ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายมากยิ่งขึ้นถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง คนไทยจะคุ้นเคยกับคำว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ ซึ่งพอเป็นคำไทยดูแปลก ๆ พิกล เหมือนจะแปลว่า หมดไปเลย เกลี้ยงหมด อะไรทำนองนี้ เลยสิ้นราชวงศ์ฮั่นจริง ๆ เสียด้วย ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก พ.ศ. 568 763
ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก พ.ศ. 568– 763
เชื้อสายราชวงศ์ฮั่นตะวันตกได้กอบกู้บัลลังก์กลับคืนมาได้ แล้วสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชาติบ้านเมือง สถาปนาราชวงศ์ฮั่นใหม่อีกครั้ง แต่นักประวัตศาสตร์เรียกชื่อว่า ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก สุดท้ายล่มสลายด้วยปัญหาต่าง ๆที่รุมเร้าทั้งการฉ้อราษฎร์บังหลวงทุจริตคอรัปชัน จนเกิดเป็นตำนานสามก๊ก แผ่นดินแตกแยกเป็นสามส่วน สิ้นสุดราชวงศ์ฮั่นอีกครั้ง ทำไมช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันตกและตะวันออก ภายในราชสำนักจึงไม่คัดเลือกเชื้อสายฮ่องเต้ที่มีฝีมือและคุณสมบัติที่เหมาะสมจะเป็นฮ่องเต้ขึ้นมามีอำนาจ ปล่อยให้ราชวงศ์ฮั่นล่มสลายไปก่อนจึงค่อยกลับมากู้คืนบัลลังก์ แล้วราชวงศ์ฮั่นตะวันออกกลับมาซ้ำรอยเดิมอีก เพราะการสืบทอดอำนาจจะสืบต่อจากสายเลืดเท่านั้น จากพ่อสู่ลูกชายคนโตจากเมียเอกเท่านั้น คงต้องเข้าใจว่าใครคือผู้มีอำนาจตัวจริงและเขามีเจตนาที่แท้จริงเป็นเช่นไร จึงปล่อยให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง รัชสมัยที่ 1 ถึง 3 ราชวงศ์ฮั่นตะวันออกรุ่งโรจน์มาก และเริ่มเข้าสู่ยุคเสื่อมถอยอีก เมื่อรัชกาลที่ 4 ได้ขึ้นครองราชย์ เมื่ออายุ 9 ชันษาเท่านั้น เป็นเพียงหุ่นเชิดของตู้ฮองเฮากับตู้เซียน พี่ชายของฮองเฮา เพราะกฎการสืบทอดอำนาจ ให้เฉพาะลูกเท่านั้น และต้องเป็นลูกจากฮองเฮาด้วย แต่ทำไมลูกสนมจึงได้ขึ้นครองอำนาจล่ะ รัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นเพียงลูกสนมได้ขึ้นสู่บัลลังก์ แต่ไม่มีอำนาจแท้จริงเป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น เพราะผู้หนุนหลังอยู่ฝ่ายนี้ไงล่ะ ฮ่องเต้องค์ที่ 5 ฮั่นชางตี้ฮ่องเต้ ได้ขึ้นครองราชย์เมื่อยังไม่ครบหนึ่งขวบดี อะไรจะขนาดนั้นยกย่องเด็กที่ยังไม่รู้เดียงสาให้เป็นฮ่องเต้ ไม่เหลือใครอีกแล้วหรือที่พอจะมีฝีมือแล้วอยู่ในโอวาท กลุ่มอิทธิพล คือตระกูลเหลียงของเหลียงฮองเฮา คอรัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวง ผู้ที่ขึ้นมาเป็นฮ่องเต้เริ่มมีปัญหาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นโอรสที่เกิดแต่สนม แต่ได้รับการยกย่องให้เป็นฮ่องเต้เมื่อพระชนม์ 1 ชันษา ฮั่นอันตี้ฮ่องเต้ ฮ่องเต้องค์ที่ 6 ปกติการสืบสายโลหิตจะนับจากลูกของฮ่องเต้องค์ก่อนเท่านั้น ไม่ใช่หลานหรือลูกพี่ลูกน้องของฮ่องเต้องค์ก่อน แต่สายตรงคงไม่เหลือทำให้ราชสำนักเลือกหลิวหูขึ้นครองบัลลังก์แทน เป็นฮ่องเต้เมื่อพระชนม์ 6 ชันษา ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ถึง 6 ฮ่องเต้ไม่มีอำนาจที่แท้จริง อยู่ภายใต้อิทธิพลของฮองเฮา ไทเฮา ส่วนขันทีที่ไม่พอใจ เข้ามามีบทบาทในรัชกาลที่ 7 ฮั่นจ้าวตี้ฮ่องเต้ ไม่รู้ว่า ถ้าฮ่องเต้เข้มแข็ง ได้ขึ้นครองราชย์เมื่อถึงวัยอันเหมาะสม มีฐานอำนาจมากพอค้ำจุนบัลลังก์ จะสืบทอดราชวงศ์ได้เนิ่นนานจริงหรือไม่ แต่เหตุที่ฮองเฮามาจากตระกูลใหญ่ที่หวังอำนาจทางการเมืองเหนือฮ่องเต้ เข้ามามีอำนาจเหนือราชสำนัก ไม่ใส่ใจว่า บัลลังก์จะสั่นคลอนหรือไม่ แล้วปัญหาที่ตามมา เมื่อขันทีรู้และเข้าใจว่า สามารถมีอำนาจเหนือฮ่องเต้ได้เช่นกัน จึงเข้ามาแก่งแย่งชิงดีกับอำนาจของฮองเฮา ราชวงศ์ฮั่นตะวันออกล่มสลายลงอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งเกิดจากบรรดาขันทีมีอำนาจล้นฟ้า มากกว่าใคร ๆ ในแผ่นดิน คิดสิ่งใดต้องได้ในสิ่งนั้น ขันทีเข้าไปแทรกแซงในทุกกิจการที่มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นการปกครอง การค้าและมีผลประโยชน์แอบแฝงในทุกเรื่องราว ที่จะเก็บเกี่ยวเงินทองเข้าพกเข้าห่อ เมื่อถึงรัชกาลที่ 7 ขันทีมีอำนาจเหนือราชสำนัก บรรดาขันทีที่ไม่ชอบรัชกาลที่ 7 จึงสั่งปลด และแต่งตั้งฮั่นซุ่นตี้ฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 8 รัชกาลที่ 6 เป็นพระนัดดาในรัชกาลที่ 4 หรือเป็นพระปนัดดาในรัชกาลที่ 3 เป็นการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างขันทีที่มาจากตระกูลใหญ่คนละตระกูลแล้วสลับกลับมาทางสายพระนัดดาของฮ่องเต้องค์ที่ 3 ฮั่นจางตี้ฮ่องเต้ แล้วสลับกลับไปยังตระกูลของรัชกาลที่ 6 โดยได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ในรัชกาลที่ 8 กับ 9 ต่อจากนั้นเส้นสายที่ได้ขึ้นมากลับมาทางสายพระปนัดดาของฮ่องเต้องค์ที่ 3 ฮั่นจางตี้ฮ่องเต้จนสิ้นสุดราชวงศ์ หรือพูดง่าย ๆ ตั้งแต่รัชกาล 5 เป็นต้นมาล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นพระนัดดา พระปนัดดาของรัชกาลที่ 3 ที่มาจากพระอัยกีที่ต่างกัน หรือคนละตระกูลทางฝั่งพระมารดา ฮั่นฉงตี้ฮ่องเต้ องค์ที่ 9 เป็นพระโอรสของฮั่นซุ่นตี้ฮ่องเต้ รัชกาลที่ 8 ที่เกิดแต่สนมหยูและเป็นองค์ชายรัชทายาท ขณะที่พระบิดาสวรรคตนั้น ฮั่นฉงตี้ฮ่องเต้มีพระชนม์เพียง 1 ชันษา ช่วงขณะนี้ตระกูลเหลียงของเหลียงฮองเฮามีอิทธิพลมาก พี่ชายของเหลียงฮองเฮาชื่อเหลียงจี๋คุมอำนาจในราชสำนักไม่พอใจการแต่งตั้งครั้งนี้ ทนอึดอัด 1 ปี จัดการกับฮั่นฉงตี้ฮ่องเต้วิธีใดไม่ปรากฏแต่ฮั่นฉงตี้ฮ่องเต้สวรรคตด้วยวัย 2 ขวบ การสืบทอดอำนาจทางสายโลหิตเพื่อครองบัลลังก์ ถ้าช่วงอายุของผู้เป็นโอรสไม่พอเหมาะ โอกาสได้สืบทอดอำนาจอาจเกิดปัญหาความยุ่งยากและอันตรายถึงแก่ชีวิต ฮั่นจื่อตี้ฮ่องเต้องค์ที่ 10 เป็นโอรสของหลิวฮอง ปนัดดาของฮ่องเต้องค์ที่ 3 ฮั่นจางตี้ฮ่องเต้ เมื่อสายตรงหมด คนในราชสำนักจำเป็นต้องควานหาผู้ที่สมควรมีสิทธิ์โดยสายโลหิตของรัชกาลก่อน ๆ ให้มาครองบัลลังก์ เหลียงจี๋ยังคงคุมอำนาจในราชสำนัก ได้ให้หลิวจวนอายุ 7 ปี เป็นฮั่นจื่อตี้ฮ่องเต้ ตระกูลเหลียงขออยู่เบื้องหลังไม่กล้าออกนอกหน้านอกตา ยอมให้เด็ก ๆ เป็นฮ่องเต้แต่อำนาจขอใช้เอง ฮั่นจื่อตี้ฮ่องเต้พระชนม์ 7 ชันษาได้ครองอำนาจอีกปีเดียว เหลี๋ยงจี๋จัดการเด็กคนนี้อีกแล้ว ฮั่นจื่อตี้ฮ่องเต้สวรรคตเมื่อพระชนม์ 8 ชันษาเท่านั้น ไม่รู้แต่งตั้งมาเพื่ออะไร ทรมานเด็กเปล่า ๆ แล้วมาฆ่าภายหลัง ไม่ต้องงง เพื่ออำนาจในมือของตน หยิบยืมอำนาจที่แท้จริงของฮ่องเต้ โอรสสวรรค์มาใช้นั่นเอง ฮั่นฮวนตี้ฮ่องเต้องค์ที่ 11 เป็นปนัดดาหรือเหลนอีกคนหนึ่งของฮ่องเต้องค์ที่ 3 ครองราชย์เมื่อพระชนม์ 14 ชันษา ด้วยการเลือกของเหลียงจี๋ หลังจากที่จัดการกับฮั่นจื่อตี้ฮ่องเต้พระชนม์ 8 ชันษาไปแล้ว ถ้าเป็นสมัยนี้ อายุ 14 คงไม่ประสีประสาหรอก ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนชีวิตย่อมสิ้นไปได้เช่นกัน ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้สักคน เมื่อสิ้นเหลียงจี๋ผู้ชักใยอำนาจเหนือบัลลังก์ เหลียงฮองเฮาพลอยหมดอำนาจตามไปด้วย ใครล่ะจะขึ้นมากุมอำนาจราชสำนักแทน ฮั่นฮวนตี้ฮ่องเต้ไม่มีอำนาจในการปกครองอย่างแท้จริง เหล่านักปราชญ์ที่นิยมลัทธิขงจื๊อไม่พอใจที่ขันทีมีอำนาจมากเกินจริง จึงร่วมมือกับขุนนางก่อกบฏ แต่ขันทีมีอำนาจเหนือกว่าจึงปราบกบฏได้ อำนาจที่แท้จริงควรอยู่ในกำมือของใครกันแน่ ฮ่องเต้ยิ่งใหญ่คับฟ้า ฮองเฮาและไทเฮายิ่งใหญ่กว่า ญาติของฮองเฮาและไทเฮายิ่งใหญ่ที่สุด แต่ขันทียิ่งใหญ่กว่าใครในราชสำนัก นี่คือจุดพลิกผันทางการเมือง ราชวงศ์ซิน พ.ศ. 552 566
ราชวงศ์ซิน พ.ศ. 552 – 566
หวังหมั่งวางแผนจะเป็นฮ่องเต้มานาน เมื่อสบโอกาสสถาปนาราชวงศ์ซิน แต่เชื้อสายราชวงศ์ฮั่นมาทวงคืนสิทธิอันชอบธรรม ทำให้สิ้นสุดราชวงศ์ซินในรัชกาลต่อมา ราชวงศ์ซินมีอายุเพียง 15 ปี คั่นกลางระหว่างราชวงศ์ฮั่นตะวันตกกับราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เพราะซินเกาจู่ฮ่องเต้หรือหวังหมั่งสามารถก่อการกบฏล้มล้างราชวงศ์ฮั่นตะวันตกได้สำเร็จแล้วปราบดาภิเษกตั้งตนเป็นฮ่องเต้ในราชวงศ์ซิน แต่อยู่ได้ไม่นานโดนฮั่นกวงตี้ฮ่องเต้เชื้อสายราชวงศ์ฮั่นตะวันตกกลับมาทวงบัลลังก์คืน ซินเกาจู่ฮ่องเต้จึงเป็นฮ่องเต้องค์เดียวของราชวงศ์ซิน |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |