ฮั่นหยวนตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 494 - 510
ฮั่นหยวนตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 494 - 510
ฮั่นหยวนตี้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ฮั่น
ฮั่นหยวนตี้พระนามเดิมคือองค์ชายหลิวซี เป็นพระโอรสในฮั่นเสวียนตี้และซูไทเฮา ได้ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ 26 พรรษา สวรรคตเมื่อพระชนม์ 42 พรรษา
ได้แต่งตั้งองค์ชายหลิวอาว พระโอรสในหวังฮองเฮาเป็นองค์รัชทายาท
การเลือกฮองเฮาเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการสืบทอดอำนาจและคงรักษาไว้ซึ่งราชวงศ์ เพราะลูกชายคนโตของนางย่อมเป็นผู้ที่ได้สืบทอดครองบัลลังก์
ไม่รู้ว่า ได้ทรงเลือกด้วยวิจารณญาณส่วนพระองค์ หรือเพราะราชสำนักบังคับให้จำต้องเลือก ด้วยตระกูลหวังในขณะนั้นใหญ่โตมิใช่เบา
ความยุ่งยากภายในราชสำนักเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากระบอบการปกครอง เพราะกลุ่มขุนนางที่ไม่มีเชื้อสายชนชั้นสูงมีอำนาจมากขึ้น ทำให้เกิดการขัดแย้งกันทางชนชั้น พร้อมกับกบฏชาวนาเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นด้วย
เชื่อแน่ว่า ฮั่นหยวนตี้ทรงรู้ในพระทัยว่า กลุ่มขุนนางส่วนใหญ่ล้วนสืบเชื้อสายมาจากตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ได้ดิบได้ดีตั้งแต่สมัยต้นราชวงศ์ และได้ชื่อว่าเป็นชนชั้นสูงไปเสียแล้ว โชคดีที่มีบรรพบุรุษที่มองเห็นการณ์ไกล ยอมเข้าร่วมกับกลุ่มกบฏที่กลายเป็นฮ่องเต้ จึงก้าวหน้าต่อกันมาอีกหลายรุ่น
การคานอำนาจระหว่างกลุ่มขุนนางที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลเก่าแก่กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีอำนาจ เป็นแผนอันล้ำลึกที่ฮั่นหยวนตี้ทรงคิดหวังไว้อยู่ในใจลึก ๆ
ฮั่นหยวนตี้นิยมลัทธิหรูเจีย และหวังจะให้เป็นลัทธิประจำชาติ ทั้งที่ส่วนใหญ่ฮ่องเต้องค์ก่อนฟื้นฟูลัทธิขงจื๊อ ได้ตั้งสาวกหรูเจียเป็นข้าราชการ แต่ข้าราชการเหล่านี้ฉ้อราษฎร์บังหลวง ทำให้กิจการบ้านเมืองยิ่งมีปัญหามากกว่าเดิม
กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มองเห็นอำนาจในบ้านเมืองตกอยู่ในกำมือของคนเพียงหยิบมือเดียว เริ่มหาหนทางก้าวเข้ามาเป็นขุนนางบ้าง และสบช่องทางบ้าง เมื่อฮั่นหยวนตี้คงเปิดโอกาสเหล่านี้ แต่ทว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่ต้องฟาดฟันและฝ่าฟันอุปสรรคที่จะก้าวย่างสู่อำนาจบ้าง
ผลงานสำคัญคือการปราบชนเผ่าซงหนู ที่ทำท่าสงบสุขในสมัยฮั่นเสวียนตี้ แต่พอเปลี่ยนรัชสมัยกลับมารุกรานอีกครั้ง เมื่อจำต้องรบ สามารถรบเอาชนะชนเผ่าซงหนูที่เป็นชนเผ่าร่อนเร่และชอบมารุกรานทางชายแดนจนหนีถอยร่นไป
ชนเผ่าซงหนูรู้ว่าสู้ไปมีหวังแพ้อีก จึงใช้วิธีการเดิมขอสงบศึก โดยมีข้อแม้ขอสาวงามไปแต่งงานกับหัวหน้าชนเผ่า
ฮั่นหยวนตี้ยอมตามข้อเสนอ ให้วังคัดเลือกสาวงาม ทว่าหามีสาวคนใดยินยอมไปไม่ ใครจะยอมลำบากไปอยู่ห่างไกลและกันดารเช่นนั้น แต่มีสาวนางหนึ่งขอสมัครใจไปเอง นางชื่อจาวจวิน
ฮั่นหยวนตี้จัดพิธีสมรสให้ที่เมืองซีอาน มีโอกาสได้เห็นหน้าจาวจวินเป็นครั้งแรก ให้รู้สึกเสียดาย เพราะนางสวยเสียเหลือเกิน จึงสั่งให้ช่างวาดรูปสาวที่ส่งเข้ามาในวังพร้อมรูปวาดเข้ามาด้วย
สิ่งที่แจ้งแก่ใจคือทำไมภาพวาดของจาวจวินจึงไม่สวยเลยสักนิด พอสืบความรับรู้ว่า ใครที่อยากให้ลูกหลานได้ถวายตัวจะเสียเงินพิเศษ ให้วาดรูปอย่างสวยงาม แต่จาวจวินไม่ยอมจ่ายเงิน รูปวาดจึงทำแบบเสียไม่ได้ ไม่เหมือนตัวจริงที่สวยเลอเลิศ
ความเสียดายที่ไม่ได้ครองสาวงามทำให้สั่งประหารเหมาหยานโซ่วช่างวาดรูปคนนี้ ที่เห็นแก่เงินเล็กน้อย จนทำให้พระองค์ชวดโอกาสได้เมียงาม
นอกจากจาวจวินจะเป็นสาวงามแล้ว ยังฉลาดเฉลียวอีก ตลอดระยะเวลา นางเกลี้ยกล่อมไม่ให้ชนเผ่าซงหนูยกทัพมารุกรานชายแดนอีก