All Blog
หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้ พ.ศ. 2008 – 2030

เคยเป็นรัชทายาท แต่หลุดจากตำแหน่งพร้อมพ่อ
ต่อมาโอกาสหวนคืนกลับ ครองราชย์ได้นาน
รักพี่เลี้ยงยิ่งกว่าใคร ๆ ในหล้า
จึงตกอยู่ใต้อำนาจบงการของนาง
กับขันทีโฉดชั่วที่คอยกำจัดรัชทายาท
เหมือนจะสิ้นชาติสิ้นเชื้อกันแล้ว
 
หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้หรือหมิงเฉิงฮวาฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 8 ในราชวงศ์หมิง รัชศกเฉิงฮวา
หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้พระนามเดิมจูเจี้ยนเซิน ความหมายพระนามฮ่องเต้หมายถึง เป็นผู้มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลง
ประสูติ วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 1991 เป็นพระโอรสหมิงอิงจงฮ่องเต้ รัชกาลที่ 6
ได้ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ 17 พรรษา พ.ศ. 2008 สวรรคตวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2030 พระชนม์ 40 พรรษา ครองราชย์ได้ 23 ปี ฝังพระศพที่สุสานเหมาหลิง
ช่วงที่พระบิดาโดนออยรัทกับพวกมองโกลจับกุมนั้น จูเจียนเฉินมีอายุ 2 ขวบ มีตำแหน่งเป็นรัชทายาท เมื่อพระปิตุลายึดอำนาจเป็นหมิงไต้จงฮ่องเต้ และแต่งตั้งให้พระโอรสของพระองค์เป็นรัชทายาทแทน ทำให้จูเจียนเฉินโดนปลดออกจากการเป็นรัชทายาทและได้ตำแหน่งนี้กลับคืนเมื่อพระบิดากลับมาครองราชย์อีกครั้ง
พ่อหลุดจากฮ่องเต้ ลูกหลุดจากเป็นรัชทายาทเช่นกัน
เมื่อพ่อได้เป็นฮ่องเต้อีกครั้ง ลูกได้เป็นรัชทายาทอีกครั้งเช่นกัน
ต่างจากลูกของหมิงไต้จงฮ่องเต้ที่ได้เป็นรัชทายาท แต่หมดสิ้นโอกาสจะกลับมาอีกครั้ง ด้วยสิ้นชีพไปเสียก่อน
รักษาชีวิตให้รอด ไม่แน่ว่า จะได้อำนาจกลับคืนมาเป็นของตนอีกครั้ง
 
เมื่อหลุดจากตำแหน่งรัชทายาท เมื่ออายุเพียง 2 ปี องค์ชายน้อยตกกระป๋องไปในทันที
ไม่ได้ยิ่งใหญ่คับฟ้า พ่อตกเป็นเชลยในต่างแดน เด็กเล็กคนนี้เลยไร้คนเหลียวแลเอาใจใส่ ยกเว้นนางกำนัลสาวใช้อายุ 19 ที่คอยประคบประหงมดูแล
อายุที่มากกว่า 17 ปี ได้ดูแลเด็กอย่างดี เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนม กลายเป็นความรักฉันท์หนุ่มสาว
ตรงนี้ไม่แน่ใจว่า ใครรักใคร และใครมีอิทธิพลเหนือใคร
มันคือความรัก หรือคือความใคร่กันแน่
ผู้หญิงคนแรกที่เป็นเหมือนแม่ คอยประคบประหงมดูแล และมีสัมพันธสวาทต่อกัน
มันเป็นเช่นนี้เอง ทั้งรักทั้งใคร่และใหลหลงยิ่งนัก
ที่แน่ ๆ พี่เลี้ยงเด็กที่ดูแลประคบประหงมแต่อ้อนแต่ออก ย่อมมีอำนาจอิทธิพลเหนือเด็กคนนั้น เป็นยิ่งกว่าแม่ ที่เด็กต้องเชื่อฟัง
พอเข้าสู่วัยหนุ่ม ใกล้ชิดกับหญิงสาว มีหรือจะเหลือ ถ้าหญิงนั้นให้ท่าหรือเปิดโอกาสให้
 
เมื่อจูเจี้ยนเซินกลับมาเป็นรัชทายาทอีกครั้ง ว่านเจินเอ๋อยังคงได้รับการยกย่องจากเด็กน้อยในอดีต ซึ่งกลายเป็นหนุ่มใหญ่ที่มีอำนาจวาสนา และได้เป็นถึงฮ่องเต้
จูเจี้ยนเซินปรารถนาให้ว่านเจินเอ๋อได้เป็นฮองเฮา ทว่าบรรดาขุนนางคัดค้านเต็มที่ กล่าวหาว่า เป็นหญิงไร้ศักดิ์ศรี ไม่มีชาติตระกูล เป็นเพียงหญิงรับใช้ในวังเท่านั้น
คนที่จะมาเป็นฮองเฮา จะมาจากตระกูลขุนนางใหญ่โต ที่มีอำนาจวาสนาบารมีพรรคพวก
ถึงจะไม่ได้เป็นฮองเฮา แต่ว่านเจินเอ๋อกลายเป็นหญิงที่หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้หลงรักที่สุด และรักมาตลอดตั้งแต่ไม่รู้เดียงสาจนมีอำนาจคับฟ้า
เมื่อความสัมพันธ์แนบแน่น รักใคร่ใหลหลงมากขนาดนี้ ว่านเจินเอ๋อจึงมีโอกาสให้กำเนิดทารกชาย เลือดเนื้อเชื้อไขมังกร จึงได้มีโอกาสเป็นว่านกุ้ยเฟย
ตำแหน่งเมียเล็กเมียน้อยของฮ่องเต้ มำแหน่งเรียงลงมา ได้แก่ กุ้ยเฟย ซูเฟย เต๋อเฟย เสียนเฟย เซิ่นเฟย คังเฟย ซุ่นเฟย ฉินเฟย กงเฟย
นับว่าว่านเจินเอ๋อใหญ่สุดในบรรดาสนมทั้งหลาย ทางพฤตินัยอาจใหญ่กว่าฮองเฮาด้วยซ้ำ ด้วยฮ้อเต้ทั้งรักทั้งหลง และเชื่อฟังแทบทุกถ้อยกระทงความ
จากว่านเจินเอ๋อจึงได้เป็นว่านกุ้ยเฟย
คนจีนจะใช้แซ่นำหน้าชื่อ เมื่อมีตำแหน่งเลยใช้แซ่นำหน้า
คนที่ได้ตำแหน่งกุ้ยเฟยจะมีตำหนักเฉพาะชื่อตำหนักอี้คุน แสดงว่า เป็นรองเพียงหนึ่งคือฮองเฮา ในทางนิตินัยเท่านั้นกระมัง
จากพี่เลี้ยงมาเป็นเมียรัก อายุที่มากกว่า เคยดุและอบรมสั่งสอนมาแต่เล็กแต่น้อย ทำให้ว่ากล่าวตักเตือนฮ่องเต้ได้ ขนาดฮ่องเต้ว่านกุ้ยเฟยยังไม่กลัว แล้วใครอื่นในราชสำนักจะเหลือเหรอ ว่านกุ้ยเฟยจึงกลายเป็นหญิงที่มีอำนาจและอิทธิพลสูงสุดในขณะนั้น

ว่านกุ้ยเฟย สนมเอกของหมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้
 
ขุนนางไม่กล้าหือ คัดค้านว่านกุ้ยเฟย ผู้มีอำนาจเหนือหมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้
บุญมีแต่กรรมมาบัง เพราะลูกที่เกิดจากนาง มีอายุได้ 10 เดือน ด่วนเสียชีวิตไปก่อน ไม่เช่นนั้น นางอาจได้เป็นฮองเฮาไปแล้ว
ไม่มีลูกชายเป็นเกราะกำบัง นางในสนมอื่น คงหาโอกาสจะมีลูกกับฮ่องเต้ได้ยาก นางหาทางกำจัดให้พ้นเส้นทาง ยกเว้นมีหนึ่งที่หลงรอด ได้เป็นรัชทายาท แต่ในที่สุดโดนกำจัดทิ้งเช่นเดิม
หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้เสียพระทัยมาก ที่ไร้ผู้สืบทอดอำนาจ วันหนึ่งมีโอกาสคุยกับขันทีจางหมิ่น ผู้ซึ่งรู้ทุกเรื่องที่ว่านกุ้ยเฟยกำจัดทารกตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง
นางจี้ซื่อได้ถวายตัวต่อฮ่องเต้เพียงครั้งเดียว บุญหล่นทับ นางมีโอกาสให้ทายาท
ว่านกุ้ยเฟยมีหรือจะยินยอมและปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปอย่างง่ายดาย นางมอบหมายขันทีจางหมิ่น ให้หาทางกำจัดเด็กด้วยการถ่วงน้ำ
ขันทีจางหมิ่นผู้นี้ ไม่รู้เคยทำตามคำสั่งนางหรือไม่ อาจจะเคย จึงได้รับมอบหมายงานสำคัญเช่นนี้ ให้บังเอิญบุญของเด็ก ที่จะมีชีวิตรอด และได้เป็นฮ่องเต้สืบต่อมา
ขันทีจางหมิ่นหาทางรักษาหน่อเนื้อเชื้อไขมังกร และยังคงมีชีวิตรอดพ้นจากเงื้อมมือของว่านกุ้ยเฟยมานานถึง 5 ปี
 
จูยู่เฉิง นามของเด็กชายที่รอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชที่มีนามว่า ว่านกุ้ยเฟย
เมื่อหมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้รู้เรื่องนี้ เหตุใดตนจึงไร้รัชทายาทสืบทอดอำนาจ เพราะเมียสุดที่รัก กำจัดทารกในครรภ์ และที่หลงเหลือรอด ให้หมดจด ยกเว้นแต่เด็กคนนี้คนเดียวเท่านั้น
หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้จัดการรับพระโอรสอย่างเปิดเผย ให้มีโอกาสเข้าวัง มอบตำแหน่งรัชทายาท ทำให้จูยู่เฉิงอยู่รอดปลอดภัย อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีกต่อไป
ส่วนขันทีจางหมิ่นผู้เปิดเผยความลับนี้สิ้นชีพ 1 วันให้หลังจากบอกเรื่องนี้แก่ฮ่องเต้
อย่างนี้เรียกว่าอะไร ปิดปากพยานผู้รู้เห็น ไม่ให้ปากโป้งเที่ยวพูดพล่ามไปทั่ว
 
รัชศกเฉิงฮวาปีที่ 13 หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้ก่อตั้งซีฉ่าง มอบหมายให้ขันทีวังจื๋อ คนสนิทของว่านกุ้ยเฟย เพื่อคุมตงฉ่างกับกององครักษ์เสื้อแพร
ขันทีวังจื๋อไม่ใช่คนดี เขาโหดเหี้ยม เมื่อมีอำนาจเหนือกององครักษ์เสื้อแพร ทุกสิ่งจึงอยู่ในกำมือของขันทีวังจื๋อและว่านกุ้ยเฟยมากยิ่งขึ้น
กององครักษ์เสื้อแพรมีอำนาจล้นฟ้าตั้งแต่ต้นราชวงศ์หมิงแล้ว เอาไว้กำจัดศัตรูทาการเมือง ด้วยการยัดข้อหา แล้วทารุณจนตาย จับขังคุกทรมาน ที่ร้าย ๆ อาจโดนข้อหากบฏ ฆ่าไปเลย 5 ชั่วโคตร 9 ชั่วโคตร
การตัดรากถอนโคนผู้ที่จะมาแข่งรัศมีกับอำนาจทั้งสอง จะโดนกำจัดอย่างโหดเหี้ยม ภายใต้กองกำลังจำนวนมากหลักแสน ทำให้อำนาจยิ่งเพิ่มพูนทวีคูณ
เมื่อกององครักษ์เสื้อแพรมีอำนาจล้นฟ้า มีหรือที่ว่านกุ้ยเฟยจะไม่มีอำนาจล้นฟ้าเช่นกัน ในเมื่อนางเป็นคนหนุนหลังขันทีวังจื๋อ
 
เรื่องรักแท้ของชายหนุ่มต่อหญิงพี่เลี้ยงนี้ เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ปีที่ว่านกุ้ยเฟยเสียชีวิตด้วยโรคตับวายเฉียบพลัน ฮ่องเต้มีแต่ความเศร้าโศก
หลังจากที่ว่านกุ้ยเฟยเสียชีวิตไม่นาน หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้เสียชีวิตตามด้วยความตรอมใจ
 
หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้ครองราชย์นาน 23 ปี แรกเริ่มครองราชย์ได้ดำเนินนโยบายการบริหารแบบใหม่โดยลดภาษีเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้ราชวงศ์ เป็นใครใครก็ชอบกันทั้งนั้น ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์กันเต็ม ๆ
ช่วงท้าย ๆ ไม่รู้ชาวบ้านจะยังคงจงรักภักดีอยู่หรือไม่ แต่บรรดาขุนนางอำมาตย์ เชื่อแน่ว่า คงหมดแล้วซึ่งความจงรักภักดี มีแต่ความขยาดหวาดกลัวว่าภัยมืดจะมาถึงตัว ด้วยข้อหาอยุติธรรมจากกององครักษ์เสื้อแพร
ในยุคนี้กลุ่มขันทีวังจื๋อเข้ามามีอำนาจ ทำให้ขุนนางหัวหด กลัวอำนาจมืด เสริมอำนาจให้ว่านกุ้ยเฟยน่ากลัวยิ่งขึ้น
หมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้อยู่ใต้อำนาจของว่านกุ้ยเฟย ผู้ซึ่งเป็นพระสนมและอดีตพี่เลี้ยง เมื่อนางให้กำเนิดพระโอรสแต่ตายในเวลา 10 เดือน ทำให้นางฆ่าเด็กทุกคนที่ยังไม่มีโอกาสออกมาดูโลก เพื่อมาแย่งอำนาจของนาง นางอาจหวังที่จะมีลูกชายอีกครั้ง แต่หมดหวัง
ไม่เช่นนั้น ไม่รู้ว่า บ้านเมืองจะเปลี่ยนโฉมหน้าไปขนาดไหน นางอาจกุมอำนาจทั้งหมดแทนฮ่องเต้ก็เป็นได้
 



Create Date : 23 สิงหาคม 2563
Last Update : 23 สิงหาคม 2563 5:24:47 น.
Counter : 1707 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments