#หยวนฮุ่ยจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1875 - 1876 #พรรณีเกษกมล
#หยวนฮุ่ยจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1875 - 1876
#พรรณีเกษกมล
หยวนฮุ่ยจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 16 และองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์หยวน
หยวนฮุ่ยจงฮ่องเต้พระนามเดิม ต๊อกฮานเตมูร์ หรืออูคานตูข่าน ความหมายของชื่อแสดงถึง ความฉลาดเฉลียวเป็นพระโอรสองค์โตของของฮ่องเต้องค์ที่ 14 หยวนหมิงจงฮ่องเต้ ในตระกูลกูซารา พระมารดาเป็นบุตรสาวของหัวหน้าชนเผ่า เป็นพระเชษฐาของฮ่องเต้องค์ที่ 15 หยวนหนิงจงฮ่องเต้
ประสูติ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 1863
เมื่อพระอนุชาสวรรคตได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา ขณะที่มีพระชนม์ 13 พรรษา สวรรคตวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 1913 นับถือศาสนาพุทธและเป็นศิษย์ในสำนักของคาร์มาพาส
หลังการสวรรคตของเยซูนเตมูร์ข่านหรือหยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้อย่างกระทันหัน ได้เกิดศึกแย่งชิงบัลลังก์กลายเป็นสงครามกลางเมือง
หนึ่งในนั้น คือ ตระกูลของกูซารา
ต๊อกฮานเตมูร์ได้เข้าร่วมในสมรภูมิด้วย หลังจากที่กูซาราตายและน้องชายของเขาทิวช์เตมูร์ได้ขึ้นครองบัลลังก์
ต๊อกฮานเตมูร์ได้ออกจากแวดวงในราชสำนัก โดนเนรเทศไปยังเมืองกอร์ยีโอและต่อเลยไปยังกวางสี
ช่วงที่โดนเนรเทศพระมารดาเลี้ยงบาบูชาได้ดำเนินการแทน
เมื่อทิวช์เตมูร์ตาย บูดาชิรี คาร์ทูนพระมารดาเลี้ยงของพระองค์ได้ตัดสินใจที่จะให้บุตรชายของกูซารา ขึ้นครองบัลลังก์ แทนที่จะให้เอลเตกูสพระโอรสของพระนาง แต่คนนั้นกลับเป็นพระอนุชาที่ชื่อรินชิบาล
ทว่ารินชิบาลบุญน้อยครองราชย์ได้เพียง 2 เดือนก็สวรรคตเสียแล้ว
เกิดศึกแย่งชิงอำนาจกันอีกรอบ โดยเอลเตมูร์พยายามที่จะให้เอล เตกูสครองบัลลังก์ให้ได้
ทว่าบูดาชิรี คาร์ทูนได้ปฏิเสธซ้ำสอง เพราะนางยึดมั่นในคำสัญญาที่ได้ให้ไว้ต่อกูซารา
ขณะที่กำลังยุ่ง ๆ อยู่นี้ ต๊อกฮานเตมูร์ได้เดินทางจากกวางสีกลับเมืองหลวง
เอลเตมูร์เองกลัวว่า ต๊อกฮานเตมูร์จะได้ขึ้นครองบัลลังก์ จึงหาหนทางทุกวิถีทางที่จะกีดกัน
ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ตัวของเอลเตมูร์เคยมีเรื่องราวขัดใจกับกูซาราในอดีต จึงเกรงว่าผู้ลูกจะกลับมาแก้แค้น
ต่อเมื่อเอลเตมูร์ตายหลังจากเหตุการณ์ยุ่ง ๆ 6 เดือน
ต๊อกฮานเตมูร์จึงมีโอกาสได้เป็นฮ่องเต้ใน พ.ศ. 1876
เมื่อต๊อกฮานเตมูร์เป็นหยวนฮุ่ยจงฮ่องเต้ ได้แต่งตั้งให้เอลเตกูสเป็นองค์รัชทายาท เพื่อขอบคุณที่บูดาชิรี คาร์ทูนพระมารดาเลี้ยงยอมเปิดทางให้พระองค์ได้เป็นฮ่องเต้แทน
อำนาจของฮ่องเต้ยังคงอยู่ในกำมือของกลุ่มอำนาจเดิม คือ เอลเตมูร์
ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว แต่กลุ่มก้อนที่เคยครองอำนาจอยู่ ยังสามารถยึดโยงอำนาจนี้ไว้ได้ต่อมา
หยวนฮุ่ยจงฮ่องเต้พยายามจะคานอำนาจ โดยให้บายันเป็นเลขาคณะรัฐมนตรีและจัดระบบเพื่อตรวจสอบราชสำนัก